{{หลวงพ่อคูณ257}}ศึกษาพระสมเด็จ/เบญจภาคีองค์ครู26ขุนแผนพรายกุมาร4ลพ.พรหม68พ่อท่านคลิ้ง105

เมื่อเอารอยตัดทั้งสองเหรียญ
มาเปรียบเทียบกันจะพบว่า
เป็นรอยตัดตัวเดียวกัน

 

ขอบพระคุณพี่ Amuletism ครับที่นำข้อมูลสำคัญที่มีประโยชน์ต่อการศึกษาสะสมเป็นอย่างมากมาให้ศึกษากัน

 

และเมื่อไล่รอยตัดของทั้งสองเหรียญ
โดยเปรียบเทียบกัน หลายๆแนว
จะเห็นได้ว่าบริเวณหูเหรียญ
จะมีรอยตัดเดียวกันตลอดแนว






แต่บริเวณขอบเหรียญที่ไม่ใช่ตรงหูเหรียญ
มีการผิดเพี้ยนไปจากเดิม
สันนิษฐานว่า มีการตัดเหรียญไปเรื่อยๆ แล้ว
รอยตัดที่เป็นฟันค่อยๆหายไปจากการโดนเสียดสี
เวลาตัด จึงทำให้เค้าโครงเปลี่ยนไป
แต่ที่บริเวณหูเหรียญยังคงรอยตัดเดิมเอาไว้
สันนิษฐานว่าช่องว่างตรงหูเหรียญเป็นพื้นที่เล็ก
จะโดนพื้นที่รอบๆหูเหรียญบังคับให้มีการสูญเสีย
จากการเสียดสีน้อยที่สุด หรือไม่ก็อาจมีการลับคม
ตัวตัดให้คมขึ้นจึงทำให้รอยตัดเพี้ยนไป

 

ด้วยความยินดีครับ พี่โอกระบี่
แต่ที่นำบทความทั้งหมดมาลง
มิได้หมายความว่า
ผมแนะนำให้สะสมเหรียญโค๊ตล่างนะครับ

เดี๋ยวจะลงสรุปความเห็นส่วนตัวอีกทีครับ
ตรงจุดนี้เป็นการให้ข้อมูลก่อน
ผมจะไม่ขอชี้นำใคร แต่อยากแบ่งปันข้อมูล
และอาจมีความเห็นส่วนตัวประกอบ
จากนั้นเป็นเรื่องที่เพื่อนๆ จะใช้ดุลยพินิจ
ในการตัดสินใจเช่าบูชาเองครับ

 

กำลังติดตามชมอย่างใจจดใจจ่อเลยครับเรื่องนี้

 

ของเก๊ vs. ของเสริม

ของเก๊ vs. ของเสริม ต่างกันอย่างไร

ผมว่าเราต้องแยกกันให้ออกระหว่าง

1. ของเก๊ คือ ของที่ถอดพิมพ์จากของแท้
แกะบล็อคขึ้นใหม่ หรือใช้บล็อคคอมพิวเตอร์
อันนี้ คือ จบครับ
ไม่น่ากลัวเท่าไหร่ครับ
ให้สายตรงที่มีความชำนาญดูจะแยกออกได้ทันที

2. ของเสริม คือ ของแท้ ที่ไม่ได้ผ่านพิธีการปลุกเสก
หรือ ของแท้ที่จัดสร้างโดยผู้เกี่ยวข้อง แต่ไม่ได้รับอนุญาต
อย่างถูกต้องจากพระเกจิอาจารย์ (เจ้าของเหรียญ)

ที่จริงแล้ว "ของเสริม" ก็คือ "ของเก๊"
แต่เป็นของเก๊ ที่แม้แต่สายตรงยังไม่สามารถแยกออกได้
เพราะสร้างจากบล็อคตัวเดียวกัน และอาจเป็นตัวตัดตัวเดียวกัน
หรือกรณีรูปหล่อ อาจจะหล่อพร้อมกัน มาจากโรงงานเดียวกัน
โดยการลักลอบทำเพิ่ม หรือ สร้างเกินเผื่อไว้
(แต่ไม่ได้เข้าพิธี)

พอวัตถุมงคลนั้น เริ่มมีราคาก็นำออกมาจำหน่าย
เรื่องแบบนี้ เกิดขึ้นกับวัตถุมงคลของเกจิอาจารย์บางท่าน
(ขออนุญาตไม่เอ่ยนาม) ทำให้ของที่ท่านสร้าง
ไม่มีราคาจนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าท่านจะเก่งเพียงใด
เพราะไม่มีใครสามารถแยกได้จริงๆ

แต่ "ของเสริม" บางกรณี แม้สร้างมาพร้อมกัน
ก็อาจแยกได้ เพราะ ตอกโค๊ตไม่เหมือนกัน
ตอกโค๊ตคนละตำแหน่ง หรือแผ่นอุดใต้ฐานไม่เหมือนกัน

 

ไปกราบสังขารของ
หลวงพ่อพรหม
วัดช่องแค นครสรรค์
<!-- google_ad_section_end -->

 

ไปกราบสังขารของ
หลวงพ่อพรหม
วัดช่องแค นครสรรค์ 2

บรรยากาศบนศาลาที่เก็บ
สังขารของหลวงพ่อครับ

 

ไปกราบสังขารของ
หลวงพ่อพรหม
วัดช่องแค นครสรรค์ 3

บรรยากาศเขาช่องแค
และถ้ำซึ่งหลวงพ่อมานั่งปฏิบัติธรรม
ก่อนที่ชาวบ้านจะขึ้นมาเชิญท่าน
ลงไปเป็นเจ้าอาวาส วัดช่องแค

 

กระทู้ดีมีประโยชน์ ครับพี่เค

 

ข้อมูลที่พี่ Amuletism นำมาให้ศึกษาโดนใจผมมากครับ แม้บางครั้งของเสริมบางรุ่นจะเสริมอย่างถูกต้อง คือ เสริมโดยได้รับอนุญาตุก็มีให้เห็นบ้าง แต่ของเสริมนั้นก็จะไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าของที่สร้างครั้งแรก เป็นผมก็ต้องชอบแบบแรกก่อนเพราะมั่นใจว่าเป็นพระแท้มาตราฐานสากลแน่นอนไร้ข้อกังขา

สำหรับข้อมูลที่พี่ Amuletism นำมาให้ศึกษานี้ถ้าใครได้มาอ่านถือว่าโชคดีครับเพราะเวลาไปเที่ยวตามสนามอาจจะได้ตัดสินใจเลือกซื้อได้ถูกต้องได้ของแท้มาตราฐานสากลมาบูชา เพราะบ่อยครั้งที่ผมไปเที่ยวตามสนามพระเวลาเจอเหรียญรุ่นนี้จะเจอแต่เหรียญที่ตอกโค๊ตสังฆาฏิเป็นส่วนใหญ่แต่ก็ยังมีคนซื้อกันบ้าง แต่บางคนพอเห็นเหรียญที่ตอกโค๊ตที่สังฆาฏิปั๊บส่ายหน้าหนีเลย

 

ขอบคุณครับ กับการแนะนำที่ชี้ชัดดูง่ายขนาดนี้

 

ขอบคุณมากครับ พี่โอกระบี่
อันที่จริง ผมเองก็ไม่กล้าบอกหรอกนะครับ
ว่าเหรียญทูลเกล้าที่ตอกโค๊ตสังฆาฏิ
เป็นของเสริมแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์
แต่จากที่เคยพูดคุยกับเซียนสายตรงหลายคน
ก็ได้พูดค่อนข้างจะเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นของเสริม
ไม่เคยมีใครพูดว่าเป็นของเก๊นะครับ

ดังนั้น ท่านที่กำลังจะเช่าบูชา
ผมก็แนะนำให้เช่าเหรียญที่ตอกโค๊ตบน
จะได้สบายใจ ไร้เสียงสวด
แต่ถ้าใครมีเหรียญโค๊ตสังฆาฏิอยู่
หากรอยตัดถูกต้อง อย่างน้อยก็มั่นใจ
ได้ระดับหนึ่งว่าไม่เก๊แน่นอนครับ

 

เหรียญสวยเดิมๆ แบบนี้
ผมชอบนะ มีเสน่ห์ไปอีกแบบครับ
หมดปัญหาเรื่องล้างหรือเช็ด

 

(good)(good);41;41(good)(good)

ข้อมูลเหรียญทูลเกล้า พ่อท่านคลิ้ง
และคำแนะนำของคุณ Amuletism
ต้องยอมรับว่าชั้นเซียน และมีประโยชน์อย่างยิ่งครับ

 

เหรียญทูลเกล้า พ่อท่านคลิ้ง เนื้อเงิน





ขอบคุณ คุณ chanapai. เจ้าของพระครับ

 

รอยตัดข้าง เหรียญทูลเกล้า

รอยตัดข้าง เหรียญทูลเกล้า
พ.ศ. 2520 พ่อท่านคลิ้ง

 

เรื่องเหรียญทูลเกล้า ข้อมูลแน่นปึ้กเลยครับพี่ เดี๋ยวผมต้องไปหยิบของผมมาส่องซะหน่อยแล้วครับ
มาช่วยพี่ Amuletism แนะนำต่ออีกสัก 2 รุ่นนะครับ
พระพุทธดอนศาลาปาละ สวยงามทั้งพุทธศิลป์ และเด่นทั้งพุทธคุณครับ




พระผงพระพุทธปาละ วัดดอนศาลา
พระผงนี้ สร้างโดยจิตกุศลของพระองค์เจ้าภานุพันธ์ ยุคล หรือเสด็จฯ องค์ชายใหญ่ โดยต้องการบรูณะปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุในวัดดอนศาลาในปี ๒๕๒๙- ๒๕๓๐ ขณะนั้นสภาพทรุดโทรม โดยท่านได้นำมวลสาระสำคัญต่างๆ ทั่วประเทศ มาสร้างเป็นพระรุ่นนี้ออกมา น ขอเอ่ยถึง ศิลปะปาละเสนะ (ประมาณพุทธศตวรรษที่ 14-18) ในสมัยนี้ราชวงศ์ปาละมีอำนาจมาก ในแถบเบงกอล และแคว้นพิหารของอินเดียในยุคนี้เป็นช่วงเวลาที่มหายานเจริญมาก จึงนิยมสร้างพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร นางปัญญาปารมิตา และนางตารา งานชิ้นเยี่ยมของปาละ ได้แก่ รูปสำริด Sanchi torso ซึ่งเป็นรูปพระโพธิสัตว์สะพายหัวมฤคพาดบนพระอุระเบื้องซ้าย พระโพธิสัตว์องค์นี้เข้าใจกันว่าเป็นพระอวโลกิเตศวร โพธิสัตว์ ยืนอยู่ในท่าตริภังค์อย่างอ่อนช้อย งานประติมากรรมสมัยนี้นิยมใช้หินชนวนสีดำ มีการสร้างสถูปเจดีย์จำลองด้วยศิลา เช่น ที่พุทธคยา ศิลปะปาละได้แพร่อิทธิพลไปทางเหนือสู่เนปาล ธิเบต จีน เอเซียกลาง พุกาม ศรีวิชัย ทวาราวดี ขอม และชวา

พุทธลักษณ์ ;ด้านหน้าเป็นพุทธศิลป์ปาละ ด้านหลังได้ขอพระบรมราชนุญาตนำพระปรมาภิไธยย่อ ภปร ไว้ด้านหลังเหรียญ ขนาดพระ สูง 3.1 ซม * กว้าง 2.7 ซม โดยประมาณ สำหรับเนื้อผงกายสิทธิ์มีปั๊มยันต์หมึกที่ด้านใต้องค์พระ

พุทธภิเษก ที่วัดดอนศาลา โดยครูบาอาจารย์สายเขาอ้อ ร่วมพิธีอย่างหนาแน่น โดยมีพระครูกาชาดและพระอาจารย์ศรีเงิน เป็นแม่งานฝ่ายสงฆ์ ส่วนฆราวาส มีเสด็จฯ องค์ชายใหญ่ เป็นแม่งานฝ่ายฆราวาส พิธียิ่งใหญ่มากๆ

สรุป แม้จะเป็นวัตถุมงคลที่มีอายุการสร้างไม่มาก แต่ถือเป็นวัตถุมงคลดีนอก ดีใน คือดีนอก หมายถึงเชิงศิลป์จัดเป็นเชิงศิลป์ชั้นสูง ส่วนดีใน ๑. พระอวโลกิเตศวร โพธิสัตว์ เป็นที่ทราบกันดีว่าท่านยังคอยช่วยเหลือพวกเราอยู่ในคราวมีทุกข์โศก ๒.รวมทั้ง สัญลักษณ์ปรมาภิไธยย่อ ภปร เป็นมิ่งขวัญเพื่อเป็นอนุสติในเรื่องการครองตัวโดยธรรม ๓. ได้รับการพุทธภิเษกโดยสำนักที่เชื่อว่า เป็นตักศิลาเรื่องพุทธกฤติยคม เบอร์ ๑ เมืองไทย

อีกรุ่นนึงนะครับ พระผงรูปเหมือนพิมพ์สามเหลี่ยม ครับ



ปล.ผมขออนุญาติใช้รูปถ่ายเจ้าของเดิมทั้งหมดนะครับ เพราะถ่ายไว้สวยมากแล้วครับ

 

ขอแถมอีกรูปครับ ให้เห็นถึงเสน่ห์ และความงามของผิวโลหะผสมสมัยบ้านเชียง มีมากมายหลายโทนสี
ซึ่งผมว่าเป็นเสน่ห์อย่างนึง ที่ทำให้เก็บสะสมได้สนุกครับ


ผมไม่แน่ใจว่าเรื่องผิวที่ออกเหลือบสีรุ้ง พวกนี้สามารถทำใหม่ได้รึเปล่าครับ
พี่ท่านใดมีข้อมูลช่วยชี้แนะด้วยนะครับ

 

สุดยอดครับ พี่กรุพระ:cool: