ท่านที่สวดพระคาถามหาจักรพรรดิ์ เป็นวัตร เชิงแบ่งบันความรู้ประสบการณ์ครับ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย prom20, 3 กรกฎาคม 2012.

  1. prom20

    prom20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    3,086
    ค่าพลัง:
    +8,975
    อันนี้อาจจะเป็นความบังเอิญ นะครับ บังเอิญอย่างเหลือเชื่อครับ
    ประสบการณ์เห็นแสงที่ผมเคยเล่ามา (จากข้อความที่ผมยกมาอ้างอิง) เเละเมื่อคืนผมค้นหาประวัติ ข้อธรรมต่างๆที่เกี่ยวกับหลวงปู่ดู่ ผมต้องตกใจ ครับ เรียกแฟนมาดู มีรูปหลวงปู่ที่เขาถ่ายติดเเสงผ้าห่ม(ผมขออนุญาติเรียกว่าเเสงผ้าห่มครับเพราะลักษณะครับ)เหมือนกับ ที่ครั้งแรกในชีวิตที่ผมได้บทจักรพรรดิ์และบทสัพเพมา แต่ยังไม่ได้พระผง จึงกำพระหลวงพ่อฤาษีลิงดำ สวดมนต์บทอื่นๆฯลฯ แล้วสัพเพ พอลงมาจากห้องพระ มานอนที่ด้านล่าง(ตอนนั้นเที่ยงคืนกว่าๆ )เห็นแสงเเบบนี้ ด้วยตาเนื้อออกมาจากผนัง มาคลุมตัวผม เหมือนผ้าห่มประมาณ4-5ครั้ง(ผมว่าน่าจะ5ครั้ง) ผมไปเจอรูปมาเมื่อคืนเลยเซฟรูปมาลงให้ดูครับ นี่แสดงว่าผมไม่ได้บ้าใช่ไหมครับ แสงอย่างนี้มีจริงๆ เเต่แสงที่ในรูปหลวงปู่ลักษณะเป็นเหมือนคลื่น เเต่ที่ผมเห็นตรงเด๊ง เลยครับแฟนผมก็อึ้ง!! ครับเมื่อคืนเพราะผมได้เล่าสิ่งที่เห็นไว้นานแล้วไม่นึกว่าจะมีที่รูปหลวงปู่ด้วย
    ผมกล้าสาบานเลยครับ ว่าก่อนที่ผมจะเห็นแสงแบบนี้ และก่อนที่จะมาเเชร์ประสบการณ์ที่ผมเห็นแสงนี้ ขอสาบานว่าไม่ได้ เอามาจากรูปนี้ แล้วมาโมเมเอาเอง และไม่เคยเห็นรูปนี้มาก่อน หลวงปู่ ท่านรู้ ว่าลูกพูดความจริง...สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • -20.jpg
      -20.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.9 KB
      เปิดดู:
      84
    • -21.jpg
      -21.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70 KB
      เปิดดู:
      93
    • 75_resize.jpg
      75_resize.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42.7 KB
      เปิดดู:
      96
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 กรกฎาคม 2012
  2. prom20

    prom20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    3,086
    ค่าพลัง:
    +8,975
    ขอรบกวนคุณพี่เปิ้ล19 หน่อยนะครับ หากไปวัดถ้ำเมืองนะเมื่อไหร่ช่วย ถามหลวงตาให้หน่อยนะครับ...(ที่จริงผมไม่ได้ใส่ใจแล้วครับเรื่องนี้ เมื่อคืนมาเจอ ในรูปหลวงปู่ที่เขาถ่ายไว้ตั้งนานเเล้ว ก็ทำให้เกิดอยากรู้อีกครับ เเหะๆ
     
  3. prom20

    prom20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    3,086
    ค่าพลัง:
    +8,975
    ส่วนของพี่ เบญจมาศ ผมจะส่งพระ หนังสือ ลูก เเก้วให้พรุ่งนี้นะครับ พอดีติดเสาร์-อาทิตย์อ่ะครับ ไม่ได้ส่ง พอวันจันทร์ผมก็ยังไม่ได้ส่งครับ แต่พรุ้งนี้(วันอังคาร ผมเข้าเวรเที่ยง เดี๋ยวเอาไปส่งให้ แล้วผมค่อยเเจ้งนะครับ)
     
  4. แก้วเปล่า

    แก้วเปล่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +158
    ส่วนของพี่ เบญจมาศ ผม จะส่งพระ หนังสือ ลูก เเก้วให้พรุ่งนี้นะครับ พอดีติดเสาร์-อาทิตย์อ่ะครับ ไม่ได้ส่ง พอวันจันทร์ผมก็ยังไม่ได้ส่งครับ แต่พรุ้งนี้(วันอังคาร ผมเข้าเวรเที่ยง เดี๋ยวเอาไปส่งให้ แล้วผมค่อยเเจ้งนะครับ)
    ...........................................
    รบกวนขอเพิ่มอีก 3 ชุดได้ไหมคะ
    มีพี่ๆที่เป็นญาติธรรม สนใจอยากได้อีก 3 ท่านค่ะ
    ขอบคุณมากนะคะ ขอโมทนาบุญด้วยค่ะ __/\__

     
  5. prom20

    prom20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    3,086
    ค่าพลัง:
    +8,975
    รับทราบขอรับ อนุโมทนาเช่นกันครับ พรุ่งนี้ผมจัดส่งให้ครับ:cool:
     
  6. prom20

    prom20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    3,086
    ค่าพลัง:
    +8,975
    สาระธรรมมงคลหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง

    สัมภเวสี

    โดย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
    สัมภเวสี คือคนที่ตายก่อนอายุขัย เรียกว่ามีกรรม ที่เรียกกันว่า อุปฆาตกรรมมาริดรอน ตัดรอนเสียตั้งแต่ยังไม่หมดอายุขัย ท่านพวกนี้เวลาตาย ทางนรกไม่ต้องการ ทางสวรรค์ไม่ต้องการ บุญที่ทำไว้ยังไม่ให้ผล หรือว่าบาปที่เขาทำยังไม่ให้ผล ยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะเรียกไปสอบสวนและจัดการลงโทษ

    มีสภาพเหมือนกับคนออกจากบ้านนี้ แล้วไปเข้าบ้านโน้นไม่ได้ จะกลับมาเข้าบ้านนี้ก็ไม่ได้ เดินไปเดินมาอยู่ด้วยความลำบาก อยากจะกินอะไรก็หากินไม่ได้ ผีประเภทนี้เรียกว่า สัมภเวสี แปลว่าพวกแสวงหาที่เกิด



    วิธีช่วยคนตายก่อนอายุขัย(สัมภเวสี)

    ถ้าญาติของเราตาย ตายด้วยอำนาจของสัมภเวสี คือไม่สิ้นอายุ ฟ้าผ่าตาย สุนัขกัดตาย มดกัดตาย ยุงกัดตาย คลอดบุตรตาย ถูกฆ่าตาย ถูกยิงตาย รถชนตาย แต่ก็ไม่แน่นักนะบรรดาพวกนี้ถึงอายุขัยก็มี แต่เผื่อเหนี่ยวไว้ก่อน

    สมมุติว่าเขาเป็นสัมภเวสี พอตายไปแล้วไม่ต้องทำบุญมาก ทำบุญให้ได้บุญชัดๆ หาอาหารชนิดที่ไม่มีบาป เอาผ้าไตรมา ๑ ไตร เอาพระพุทธรูปมา ๑ องค์ นิมนต์พระมารับสังฆทานที่บ้าน ทำเงียบๆ อย่าให้มีเหล้ายาปลาปิ้ง อย่าทุบแม้แต่ไข่สักหนึ่งฟอง เมื่อทำบุญเสร็จ อุทิศส่วนกุศลให้เฉพาะคนที่ตาย ไม่ให้ใครทั้งหมด ถ้าทำอย่างนี้ละ ท่านพวกนี้จะมีความสุข ได้รับผลบุญทันที มีความผ่องใส มีความอิ่มเอิบ เมื่อเข้าถึงอายุขัยเมื่อใด ก็เป็นอันว่าพวกนี้จะไปถึงด้านของสวรรค์ก่อน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • FB-04.jpg
      FB-04.jpg
      ขนาดไฟล์:
      110.5 KB
      เปิดดู:
      67
    • sumpawaysee1.jpg
      sumpawaysee1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      63.1 KB
      เปิดดู:
      66
  7. prom20

    prom20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    3,086
    ค่าพลัง:
    +8,975

    ปกิณกะธรรม

    โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง)


    ๑. หนี้กรรมการฆ่าสัตว์

    ให้จำไว้ด้วยว่า สัตว์ทุกประเภทเนื้อแท้จริงๆ เขาเป็นคน
    อาศัยคนที่ทำความชั่ว ทำตัวให้ตกให้บาปอกุศล
    เมื่อตกอบายภูมิ คือ นรกมาแล้ว
    ผ่านนรก ผ่านเปรต ผ่านอสุรกายมาแล้ว
    ก็มาเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน
    เป็นการชำระกรรมหนักขั้นสุดท้าย แต่ว่าไม่ใช่ชีวิตเดียวนะ

    ชำระกรรมหนักขั้นสุดท้ายนี้ไม่ใช่ครั้งเดียว
    เคยฆ่าปลามากี่ตัว ต้องเกิดเป็นปลาให้เขาฆ่าเท่านั้นครั้ง
    หนักใจตรงเกิดเป็นยุงละซี่
    จำไม่ได้ถือว่า ต้องใช้ชีวิตตามที่ฆ่าเขา
    พวกทำได้กำไรที่สุด คือ พวกเรือตังเก
    โอ้โฮ วันหนึ่งแกล่อเป็นลำๆ เลย ไปเห็นใจหายวาบ
    ไอ้สัตว์ทุกประเภท ก็คือ คน
    ก็รวมความว่า เกิด แก่ เจ็บ ตาย เหมือนกันใช่ไหม
    ร่างกายเต็มไปด้วยความสกปรกโสโครก
    แล้วก็รักสุข เกลียดทุกข์เหมือนกัน
     
  8. prom20

    prom20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    3,086
    ค่าพลัง:
    +8,975
    ๒. อายุขัยและวิธีต่ออายุ

    การต่ออายุ ก็ต้องทำให้มันถูก
    ถ้าทำไม่ถูกแล้ว ก็เสียเงินเปล่า
    ถ้าบังเอิญเป็นอายุขัยต่อเท่าไร ก็ไม่สำเร็จผล
    เพราะเชื้อไฟเดิมดับ หมดบุญบารมีที่ทำมา
    การหมดบุญบารมีนั้น แม้อายุขัยก็ไม่แน่
    บางคนเป็นเด็กก็หมดอายุขัย
    บางคนเป็นหนุ่มเป็นสาว บางคนวัยกลางคน
    บางคนก็ถึงวัยแก่ อายุขัยนี่ไม่แน่นอนนัก
    คำว่าอายุขัย นี่หมายความว่า
    ก่อนที่จะเกิดกฎของกรรมดีหรือกรรมชั่ว
    กำหนดชีวิตให้มาเท่าไร
    ถ้ากำหนดชีวิตมา ๒๐ ปี ก็ต้องแค่ ๒๐ ปี
    ๑๐ ปี ก็ต้อง ๑๐ ปี
    ๓ วันก็ต้อง ๓ วัน
    นี่เป็นอายุขัย ต่อไม่ได้
    ถ้าตายก่อนนั้น เขาเรียก อุปฆาตกรรมหรือว่าอกาลมรณะ
    อย่างนี้ต่อไปได้ และถ้าบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย
    จะต่ออายุแบบนี้ ก็ต่อมันทุกวัน ก็หมดเรื่องกัน
    วิธีต่อทุกวัน ก็หมายความว่า
    ให้ทุกท่านมีความเคารพในพระรัตนตรัย
    คือ พระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์อย่างจริงจัง
    และต้องเว้นจากกรรมที่เป็นปาณาติบาต
    ถ้ามีเวลาเดินผ่านไป มีใครเขาหาปลาหาเต่า ที่เขาจะฆ่ามันให้ตาย
    ก็ซื้อพอกำลังที่เราจะซื้อ แล้วก็นำไปปล่อยในที่ปลอดภัย
    ไม่ใช่ปล่อยในหม้อข้าวหม้อแกงของเรานะ
    ไปปล่อยในสถานที่ที่เขาจะมีความสุข
    ในแม่น้ำก็ได้ในหนองคลองบึงก็ได้ ปล่อยให้เขารอดชีวิต
     
  9. prom20

    prom20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    3,086
    ค่าพลัง:
    +8,975
    ๓. วิธีต่ออายุป้องกันอุปฆาตกรรม

    ตามวิธีโบราณจารย์ ท่านสอนไว้อย่างนี้นะว่า วิธีต่ออายุใหญ่
    คือ ถึงปีหนึ่ง ถ้าเป็นวันเกิดหรือเป็นวันสำคัญของเรา
    วันไหนก็ได้ ทำกับข้าวทำอาหารพิเศษ ตามที่เราพอใจ
    เท่าที่ทุนจะพึงมี จัดการใส่บาตรแก่พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา
    แล้วก็ถ้าหากว่ามีเงิน ก็สร้างพระพุทธรูปสักองค์

    พระพุทธรูปนี้จะเป็นพระดินเหนียวก็ได้
    พระปูนซีเมนต์ก็ได้ เป็นปูนพลาสเตอร์ก็ได้
    หรือพระโลหะก็ได้ไม่จำกัด
    เพราะเป็นรูปพระแล้ว มีอานิสงส์เสมอกัน
    แต่ต้องมีหน้าตักไม่น้อยกว่า ๔ นิ้ว
    ถวายไว้เป็นสมบัติของสงฆ์

    หลังจากนั้นก็เอาสัตว์ที่จะพึงถูกฆ่าตาย
    อย่างที่เขานำเอามาขาย เพื่อแกงหรือที่เขาทอดแหสุ่มปลาได้
    ถ้ามีสตางค์ก็ไปซื้อเขาสักตัวสองตัวตามกำลัง แล้วปล่อยไป
    และก็อุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวร
    และเทวดาที่ปกปักรักษาชีวิตเรา

    ท่านบอกว่าถ้าทำอย่างนี้เป็นนิจ
    คำว่าอุปฆาตกรรม คือ กรรมที่เข้ามาลิดรอนก่อนอายุขัยก็ดี
    และอกาลมรณะ การที่จะตายก่อนอายุขัยก็ดี
    จะไม่มีสำหรับผู้ที่ทำแบบนี้
    แต่ทว่าถ้ากรรมอย่างนี้เข้ามาถึง แค่ป่วยไม่มากก็เป็นของธรรมดา
     
  10. prom20

    prom20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    3,086
    ค่าพลัง:
    +8,975
    ๔. วิธีช่วยคนป่วยใกล้ตาย

    การช่วยคนป่วยหนักจริงๆ
    อย่าปล่อยให้หนัก จนกระทั่งไม่มีความรู้สึก
    ตอนที่สติยังดีอยู่ ให้นิมนต์พระไปสวดสักครั้งหนึ่ง
    ไม่ใช่สวดพระอภิธรรม แต่เป็นการสวดพระปริตร
    วงสายสิญจน์ล้อมรอบ
    ถ้าผู้ป่วยจะต้องตาย เพราะสิ้นอายุขัยก็ต้องตายแน่
    สายสิญจน์ป้องกันไม่ได้
    แต่ว่าถ้าท่านผู้นั้นจะตาย
    อย่าลืมว่าคนป่วย ก็เหมือนคนที่ตกน้ำ
    ว่ายน้ำไม่เป็น เราส่งอะไรให้เกาะ เขาก็จะเกาะ
    ส่งไม่ให้เกาะเธอก็เกาะ ส่งสุนัขเน่าให้เกาะเธอก็เกาะ
    เพราะต้องการมีชีวิตอยู่
    ก็เช่นกัน ถ้าคนป่วยเห็นพระสวดพระปริตร
    ก่อนสวดมีการสมาทานศีลจิตของคนป่วยในตอนนั้น
    ก็จะรับสมาทานศีลด้วยสติสัมปชัญญะที่สมบูรณ์
    ทำให้เป็นคนที่มีศีล
    เวลาที่มีการสวดพระปริตรจิต ก็จะฟังพระสวดด้วยความเคารพ
    จิตจะยึดอยู่กับพระ หลังจากพระกลับแล้ว
    จิตจะจับอารมณ์นั้นตลอด ในขณะป่วยไม่มีโอกาสทำลายศีล
    เพราะกำลังป่วย ไม่สามารถจะไปฆ่าใคร หรือไปลักขโมยใคร
    ถือว่าเป็นคนป่วยที่มีศีลบริสุทธิ์
    ถ้ามีการถวายทานด้วย ไม่ว่าทานนั้นจะเป็นธูปเทียน ดอกไม้
    ปัจจัยหรือโภชนาหารก็ตาม
    ถือว่าเป็นการถวายทานแก่พระสงฆ์
    กำลังของทานจะช่วยคนป่วยได้อีกแรงหนึ่ง

    อีกประการหนึ่ง ด้านอนุสสติ ถ้ามีพระพุทธรูปด้วย
    จิตของเธอจะจับพระพุทธรูปเป็นพุทธานุสสติ
    จำเสียงสวดมนต์เป็นธรรมานุสสติ
    การนึกถึงพระสงฆ์ที่สวดก็เป็นสังฆานุสสติ
    ถ้าเป็นอายุขัยที่จะพึงตาย
    บาปกรรมใดๆ ที่ทำมาแล้วในกาลก่อน
    จะไม่มีโอกาสให้ผลในเวลานั้น เหลือแต่บุญอย่างเดียว
    ที่จะประคับประคองคนนั้นให้ไปสวรรค์ ไปพรหมโลก หรือไปนิพพาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 กรกฎาคม 2012
  11. prom20

    prom20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    3,086
    ค่าพลัง:
    +8,975

    ๕. อานิสงส์การถวายสังฆทาน


    การถวายสังฆทาน ๑ ครั้งในชีวิต
    และถวายด้วยจิตที่บริสุทธิ์มีศรัทธาแท้
    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกล่าวว่า
    ผลของสังฆทานนี้ จะดลบันดาลให้แก่บุคคลผู้ถวาย
    เกิดไปทุกชาติ ขึ้นชื่อว่า ความยากจนเข็ญใจไม่มี
    ในแดนใดที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยากลำบากขัดสน
    คนที่ถวายสังฆทานแล้ว จะไม่ไปเกิดที่นั่น
    ผลที่ให้ไปไกลมาก กล่าวว่าแม้แต่พระพุทธญาณเอง
    ก็ยังไม่เห็นผลที่สุดของการถวายสังฆทาน

    คำว่าไม่เห็นที่สุดของการถวายสังฆทาน
    หมายความว่า แม้แต่บุคคลผู้เป็นเจ้าของสังฆทาน
    บำเพ็ญบารมีแล้วเกิดไปอีกกี่แสนชาติก็ตาม
    จนกระทั่งเข้าพระนิพพาน
    อานิสงส์นั้นก็ยังไม่หมด นี่เป็นอำนาจของการถวายสังฆทาน

    ทีนี้การถวายทานแก่พระ มีผลไม่เสมอกันอยู่อย่างหนึ่ง
    คือ หมายความว่า ถวายทานแก่พระที่มีจิตกำลังฟุ้งซ่าน
    ไปด้วยอำนาจของนิวรณ์ ๕ ประการอย่างนี้
    เราถวายกี่หมื่นกี่แสนอานิสงส์ก็ไม่มาก
    จะถวายสักเท่าไรอานิสงส์ได้แต่ว่าไม่มาก

    ถ้าหากว่าถวายแก่ท่านผู้ปฏิบัติกรรมฐาน
    ถ้าหากเข้าถึงจิตบริสุทธิ์ เรื่องบริสุทธิ์แค่ไหนก็ช่าง
    อย่างน้อยที่สุดก็มี ขณิกสมาธิ อุปจารสมาธิ
    บางท่านก็เข้าถึงฌานสมาบัติ
    บางท่านก็เป็นพระอริยเจ้าก็เข้าถึงผลสมาบัติเป็นต้น
    อย่างนี้มีผลมาก
     
  12. prom20

    prom20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    3,086
    ค่าพลัง:
    +8,975
    ๖. วิหารทาน (การก่อสร้างถาวรวัตถุ)

    พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า การถวายทานกับพระองค์เอง ๑๐๐ ครั้ง
    มีผลไม่เท่ากับถวายสังฆทาน ๑ ครั้ง
    ถวายสังฆทาน ๑๐๐ ครั้ง มีผลไม่เท่ากับถวายวิหารทาน ๑ ครั้ง
    นี่พระพุทธเจ้าท่านตรัสอย่างนี้

    แต่มีบางท่านบอกว่า พระนี่ไม่น่าจะทำการก่อสร้าง
    ควรจะสอนคนให้เป็นพระหรือสอนให้เป็นคน
    สอนคนให้เป็นคนน่ะไม่ต้องไปสอนเขา
    เขาเป็นคนกันอยู่แล้ว
    ทีนี้สอนคนให้เป็นมนุษย์น่ะสอนยาก
    สอนคนให้เป็นพระนี่สอนยาก
    ในเมื่อญาติโยมพุทธบริษัทมีใจเป็นพระขึ้นมา
    ทำไมจะต้องลิดรอนกำลังใจกัน
    เพราะการก่อสร้าง เป็นความดีของญาติโยม
    การทำบุญทุกอย่างเป็นเรื่องของพระ
    ถ้าคนจิตใจไม่ถึงพระนี่ทำบุญไม่ได้เลย
     
  13. prom20

    prom20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    3,086
    ค่าพลัง:
    +8,975

    ๗. วัตถุมงคล


    การแจกพระบางท่านอาจจะคิดว่า ไม่มีผลหรือทำให้คนติดวัตถุ
    ถ้าถือว่าเป็นวัตถุก็น่าติด แต่ถ้าถือว่าเป็นพระก็ต้องคิด
    ที่พ่อแจกพ่อไม่เคยโฆษณาว่า พระที่พ่อแจกไปมีอานุภาพอะไร
    มีความต้องการอยู่อย่างเดียวคือ ให้คนมีความรู้สึกว่ามีพระอยู่ที่ตัว
    อารมณ์ที่รู้สึกว่ามีพระอยู่กับตัว อารมณ์ย่อมเป็นกุศล
    กุศลนิดหน่อย ถ้ามีความรู้สึกบ่อย ๆ
    สามารถทำให้คนที่ตายไปแล้ว จิตนึกถึงพระอยู่เสมอ
    อย่างเบาก็เกิดเป็นเทวดา
    อย่างกลางก็เกิดเป็นพรหม อย่างสูงก็ไปนิพพาน

    แบบพ่อค้าที่หวังกำไรน้อย แต่ได้บ่อย ๆ ก็รวยได้ฉันนั้น
    แต่ทว่าความรู้สึกนึกคิดของคนอื่นเป็นอย่างไรนั้น พ่อไม่คำนึง
    คำนึงอย่างเดียว คือ สงเคราะห์คนบารมีอ่อน
    คนที่มีบารมีเป็นปรมัตถบารมี พ่อไม่ห่วง
    พวกนั้นท่านไม่ต้องเกาะราวหรือไม้เท้าก็เดินไหว
    สำหรับคนที่บารมีอ่อน ยังต้องเกาะราวและไม้เท้า
    จึงต้องอาศัยวัตถุ คือพระพุทธรูปสงเคราะห์
     
  14. prom20

    prom20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    3,086
    ค่าพลัง:
    +8,975
    ๘. การฟังธรรมในสมัยพุทธกาล

    คนสมัยนั้นท่านฟังเทศน์ครั้งเดียวก็จบกิจ
    ท่านไม่ได้ฟังเฉย ๆ หมายความว่า ฟังด้วยความตั้งใจ
    การตั้งใจจำถ้อยคำที่พระพุทธเจ้าเทศน์ ตัวนี้เป็นสมาธิ
    และเมื่อจำแล้วก็พยายามคิดตามไปด้วย ตัวนี้เป็นปัญญา
    ฉะนั้น เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเทศน์
    คนทุกคนพร้อมไปด้วยศีล หมายความว่า
    เวลานั้นใจเราบริสุทธิ์ ปราศจากปัญจเวร ๕ ประการ
    และมีความตั้งใจฟังคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระทรงธรรม์บรมศาสดา
    และคิดตามกระแสพระสัทธรรมเทศนาขององค์สมเด็จ
    พระทรงสวัสดิ์โสภาคด้วยปัญญา
    เมื่อเทศน์จบ ใจท่านก็จบจากกิจของพระพุทธศาสนา
    นั่นคือ เป็นพระอรหันต์
    หากว่าบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน
    ทำได้อย่างนั้นก็เชื่อว่าจะมีผลเช่นเดียวกัน
     
  15. prom20

    prom20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    3,086
    ค่าพลัง:
    +8,975
    รักษาศีล 5 ให้ได้

    ความดีนั้นมีกฏเกณฑ์ที่เราจะต้องทำเป็นเบื้องต้น 5 ประการ คือ
    1. เราไม่อยากให้ใครมาฆ่า รังแก ข่มเหงเรา เราก็อย่าไปฆ่า ไปรังแก ไม่ข่มเหงเขา
    2. เราไม่อยากให้ใครมาลักของๆ เรา เราก็อย่าไปลักของๆ เขา
    3. เราไม่อยากให้ใครมาผิดลูกผิดเมียเรา เราก็อย่าไปผิดลูกผิดเมียเขา
    4. เราไม่อยากให้ใครมาโกหกเรา เราก็อย่าไปโกหกเขา
    5. เราไม่อยากเป็นคนบ้า ก็อย่าไปดื่มสุราเมรัย เพราะถ้าเราดื่มสุรามากๆ เราจะกลายเป็นคนบ้า
     
  16. prom20

    prom20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    3,086
    ค่าพลัง:
    +8,975
    เจริญพรหมวิหาร ๔ ไว้

    ความดีที่สูงขึ้นไปอีกที่เราควรประพฤติเป็นหลักในการดำรงชีวิต เพื่อความสุขความเจริญแก่ตนเองคือ พรหมวิหาร มี ๔ ประการคือ
    1. เมตตา ความรัก เราต้องรักตัว รักครอบครัว รักญาติพี่น้องหมู่คณะ ตลอดจนถึงรักประเทศชาติ
    2. กรุณา ความสงสาร ที่มีต่อบุคคลที่ตกทุกข์ได้ยาก อยากให้เขาพ้นจากความทุกข์ทรมานที่เขารับอยู่
    3. มุทิตา ยินดีด้วยเมื่อบุคคลอื่นได้ดีมีความสุข ไม่ริษยาเขา เขาได้ดีก็ชื่นชมอนุโมทนาด้วย
    4. อุเบกขา วางเฉย เช่น เมื่อลูกของเรา ญาติพี่น้อง หรือพรรคพวกของเราไม่ทำผิด เราต้องวางตัวเป็นกลาง เมื่อเขาจะได้รับโทษก็ถือเป็นกรรมของเขา ไม่ช่วยเหลือเขาในทางที่ผิด
     
  17. prom20

    prom20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    3,086
    ค่าพลัง:
    +8,975
    เว้นจากความลำเอียงทั้ง ๔ ประการ

    ผู้ที่จะมีคุณธรรมในข้อที่ ๔ นี้จำเป็นจะต้องมีคุณธรรมข้ออื่นสนับสนุน คือเราต้องเว้นจาก อคติ คือ
    ๑. ความลำเอียงเพราะความรัก
    ๒. ความลำเอียงเพราะความชัง
    ๓. ความลำเอียงเพราะความหลง
    ๔. ความลำเอียงเพราะความกลัว
     
  18. prom20

    prom20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    3,086
    ค่าพลัง:
    +8,975
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง

    อนาคตของชาติ

    อาตมาได้ถวายพระพรพระองค์ว่า
    “ประเทศชาติบ้านเมืองของเราจะไม่ตกเป็นทาสของใคร อาตมาขอถวายชีวิตเป็นประกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ นับตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๒๐ เป็นต้นไป ประเทศไทยจะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ความเยือกเย็นจะเริ่มปรากฏ ความมั่งคั่งสมบูรณ์จะมีขึ้นแก่ประเทศชาติและประชาชน แต่จะยังไม่ปรากฏชัดนัก แต่เราจะมองเห็นได้ชัดๆ ก็ต้องปี พ.ศ. ๒๕๒๔ เปรียบเหมือนอรุณได้ขึ้นดีแล้วและเริ่มฉายแสงให้เห็นความมืดหมดไป”

    ที่อาตมากล้ายืนยันต่อพระองค์เช่นนั้น ก็เพราะเหตุผลหลายประการ คือ

    คำทำนายของพระพุทธโฆษาจารย์

    ในประการแรก อาตมาได้พบและได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งเป็นสมุดข่อย ซึ่งพระอรหันต์ในอดีตนามว่า พระพุทธโฆษาจารย์ (ลำใย) เขียนไว้ ทำนายชะตาบ้านเมืองก่อนที่กรุงศรีอยุธยาจะแตกเสียอิสรภาพแก่พม่า ก่อนที่กรุงเทพฯ ยังไม่ปรากฏ

    โดยท่านได้เขียนทำนายไว้ว่า
    “กรุงศรีอยุธยาจะต้องถูกข้าศึกตีแตก แจ่จะเสียอิสรภาพไม่นานนัก จะมีคนดีของกรุงศรี
    อยุธยามากู้ชาติ แต่เมื่อกู้ชาติได้แล้วจะต้องไปตั้งเมืองหลวงอยู่ใหม่”

    และเหตุการณ์ต่างๆ ของกรุงศรีอยุธยาก็ได้เป็นจริงตามคำทำนายทุกอย่าง

    ทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าทั้ง ๑๐ รัชกาล

    ในสมุดข่อยเล่มเดียวกันนี้ พระพุทธโฆษาจารย์ได้กล่าวทำนายเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นแก่กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงใหม่ ในวันข้างหน้า ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นแต่ละรัชกาลดังนี้

    รัชกาลที่ ๑. ทำนายว่า มหากาฬผ่านมหายักษ์
    รัชกาลที่ ๒. ทำนายว่า รู้จักธรรม
    รัชกาลที่ ๓. ทำนายว่า จำต้องคิด
    รัชกาลที่ ๔. ทำนายว่า สนิทธรรม
    รัชกาลที่ ๕. ทำนายว่า จำแขนขาด
    รัชกาลที่ ๖. ทำนายว่า ราษฎร์ราชาโจร
    รัชกาลที่ ๗. ทำนายว่า นั่งทนทุกข์
    รัชกาลที่ ๘. ทำนายว่า ยุคทมิฬ
    รัชกาลที่ ๙. ทำนายว่า ถิ่นกาขาว
    รัชกาลที่ ๑๐. ทำนายว่า ชาววิไล
     
  19. prom20

    prom20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    3,086
    ค่าพลัง:
    +8,975
    ความแม่นยำของคำทำนาย

    เมื่อพิจารณาถึงคำทำนายและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ละรัชกาลก็จะเห็นได้ชัดว่า คำทำนายนั้นถูกต้องเพียงใด

    รัชกาลที่ ๑. ผ่าน พระเจ้าตากสิน ขึ้นครองราชย์สมบัติ

    รัชกาลที่ ๒. ท่านว่างจากศึกสงครามก็หันมาทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ให้พระสงฆ์ค้นคว้าพระธรรมวินัยรวบรวมกันเป็นการใหญ่

    รัชกาลที่ ๓. ท่านมีหัวคิดริเริ่มหาเงินมาสร้างสรรค์บ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองปรากฏมาจนถึงทุกวันนี้

    รัชกาลที่ ๔. ท่านสนิทธรรม ก็เพราะพระราชาองค์นี้ทรงผนวชถึง ๒๗ พรรษา มีความคล่องตัวในพระธรรมวินัย ทรงไว้ซึ่งพระไตรปิฎกอย่างแตกฉาน และยังมีความสนิทสนมกับ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) อย่างยิ่ง เป็นคู่บารมีกัน

    รัชกาลที่ ๕. จำแขนขาด เราเห็นได้ชัดมาก เพราะเราต้องเสียดินแดนไปหลายครั้งหลายหน โดยพระองค์ทรงยอมเสียแขนขาดีกว่าเสียตัวทั้งหมด คือยอมเสียผืนแผ่นดินบางส่วน เพื่อรักษาเอกราชของชาติไว้

    รัชกาลที่ ๖. เป็นโจร เพราะทรงใช้จ่ายเงินในท้องพระคลังจนหมดสิ้น แต่อาตมาเห็นว่าพระองค์ทรงเป็นนักชาตินิยม มีพระปรีชาสามารถปลุกใจประชาชนให้รักชาติบ้านเมือง เช่นมีเพลงบทหนึ่งทรงพระนิพน์ไว้ว่า “ใครมาเป็นเจ้าเข้าครอง คงจะต้องบังคับขับไส เคี่ยวเข็ญเย็นค่ำร่ำไป ตามวิสัยเชิงเช่นผู้เป็นนาย” ทรงเป็นนักประชาธิปไตย จึงได้ทำทุกอย่างให้บุคคลอื่นเห็นว่า พระองค์ไม่ทรงถือพระองค์ เช่น แสดงมหรสพ เล่นโขนกับข้าราชบริพาร

    ยิ่งกว่านั้นพระองค์ยังสามารถทำให้ประเทศไทยเป็นที่ปรากฏแก่ชาวโลก โดยส่งทหารไปช่วยสงครามโลกครั้งที่ ๑. จึงจำเป็นต้องใช้เงินมาก แม้จะใช้เงินมาก แต่ประโยชน์ก็เกิดแก่ประเทศชาติอย่างหนัก

    รัชกาลที่ ๗. นั่งทนทุกข์ พระองค์เสวยราชสมบัติอยู่ในเกณฑ์ตกอับพอดี เงินในท้องพระคลังก็หมดมาแต่รัชกาลก่อน พระองค์จึงทรงประทับอยู่บนกองทุกข์ต้องดุลข้าราชการออกเป็นจำนวนมาก เท่านั้นยังไม่พอ ต่อมาพระองค์ต้องจำพระทัยสละราชสมบัติ ไปนั่งทนทุกข์อยู่ต่างแดน จนสิ้นพระชนม์

    รัชกาลที่ ๘. ยุคทมิฬ บ้านเมืองอยู่ในภาวะสงครามโลกครั้งที่ ๒. ประชาชนตกอยู่ในสภาพบ้านแตก อดอยากยากแค้นแสนสาหัส พระมหากษัตริย์ก็ถูกลอบปลงพระชนม์จนสวรรคต

    รัชกาลที่ ๙. ทำนายว่า ถิ่นกาขาว เราก็เห็นแล้วว่าฝรั่งมาอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง ล้วนแต่คนผิวขาวทั้งนั้น

    สำหรับรัชกาลต่อไป คือ รัชกาลที่ ๑๐. ทำนายว่า ชาววิไล หมายความว่า บ้านเมืองเราได้ผ่านยุคเข็ญมาแล้ว จะได้ประสบความเจริญรุ่งเรืองกันเสียที เราจะมั่งคั่งสมบูรณ์เหมือนนานาอารยะประเทศที่เจริญแล้วทั้งหลาย
     
  20. prom20

    prom20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    3,086
    ค่าพลัง:
    +8,975
    ราชวงศ์จักรีจะมีเพียง ๑๐ รัชกาลเท่านั้นรึ?


    ปัญหาที่น่าคิดต่อไปก็คือว่า ทำไมพระพุทธโฆษาจารย์จึงทำนายเหตุการณ์บ้านเมืองไว้เพียง ๑๐ รัชกาลเท่านั้น? กรุงเทพมหานครจะมีพระมหากษัตริย์เพียง ๑๐ พระองค์เท่านั้นหรือ?

    เป็นเรื่องที่อาตมาสนใจเป็นพิเศษ จึงได้สอบถามเรื่องนี้กับ หลวงพ่อปาน และพระอาจารย์ต่างๆ ซึ่งจิตของท่านเป็นสมาธิเข้าถึงขั้นอภิญญา สามารถที่จะรู้จริงในเรื่อง อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ซึ่งก็ยังมีอยู่หลายๆ องค์ในขณะนี้ ทุกๆ รูปที่อาตมาสอบถามจากท่าน ต่างก็ยืนยันตรงกันว่า

    พระมหากษัตริย์จะยังคงมีอยู่คู่กับชาติไทยตลอดไปอีกนาน มิใช่เพียงแค่ ๑๐ พระองค์เท่านั้น แต่ที่พยากรณ์ไว้เพียงแค่นั้นก็เพราะว่าเริ่มตั้งแต่รัชกาลที่ ๑๐. เป็นต้นไป บ้านเมืองจะมั่งคั่งสมบูรณ์ ร่มเย็นผาสุก ประชาชนในชาติจะร่ำรวย ประเทศไทยจะเป็นประเทศมหาอำนาจประเทศหนึ่ง ซึ่งจะมีแต่ความเจริญตลอดไป ไม่ล้มลุกคลุกคลานดังที่แล้วมา จึงไม่จำเป็นจะต้องพยากรณ์ต่อไปอีก”
     

แชร์หน้านี้

Loading...