ประสบการ ที่ยังสงสัย

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย nongkaikuk, 8 กรกฎาคม 2012.

  1. nongkaikuk

    nongkaikuk Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +97
    เหตุการณ์ เกิดเมื่อเริ่ม หายใจเข้าออก ยาวๆ ขณะที่นั่งทำงาน (พยายามฝึกตัว) วันต่อมาเหมือนกับจิต จดจ่ออยู่กับ ลมเข้า ลมออกที่ปลายจมูก ขณะนั่งทำงาน และตลอดทั้งวัน ของวันนั้น ขณะที่จิต จดจ่อเมื่อมี เสียง หรือเหตุการณ์อะไรมากระทบ มีความรู้สึกว่าเฉย ไม่สนใจ กลับมาจดจ่ออยู่กับลมหายใจ เช่นเดิม เป็นอยู่อย่างนี้ทั้งวัน

    พอตกเย็น นอนหลับไปสักพัก เหมือนเราสะดุ้งตื่น แต่ตาเรายังหลับ มีความรู้สึกตัวเริ่มจากปลายเท้าของเรา เริ่มลอยขึ้นไปข้างบน เริ่มลอยสูงขึ้นเรื่อยๆๆ มีการตกใจ แต่ไม่ตื่น พยามบังคับตัวเองว่า ไม่ลอย ฉันไม่ ลอย เหมือนกับดึงตัวเองไม่ให้ลอย แล้วก็หลับต่อไปอีก

    มันเป็นเหตุการที่น่ากลัวในขณะนั้น อยากถามผู้รู้ว่า มันเกิดจากอะไรค่ะ
     
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    การภาวนา นั้นมี สองงาน งานแรกคือ วิปัสสนา งานที่สองคือ สมถะ

    จิตคุณที่ ระลึกรู้กายรู้ใจ ตั้งมั่นเป็นกลาง อยู่ท่ามกลางโลก แล เห็นความแปร
    เปลี่ยนของชิวิตติดกรรม ซึ่งก็คือ คำโพสวรรคแรกของคุณทั้งหมด ถือว่า
    เป็นงานวิปัสสนา อันจัดว่า เป็น ยากิน ( ทำให้หายโรคได้แน่แท้ )

    ส่วน วรรคที่สองที่เริ่มมีการหลุด มีการลอย ตรงนี้จะเป็น พฤติจิต อาการของจิต
    ที่ทำงานทางสมถะ ซึ่งจะต้องมี การใส่ใจ(ฉันทะ ไม่ใช่ไปนั่งกลัว) มีการ
    พิจารณามุมของอารมณ์(จิตตะ -- พิจารณาปัจจัยการของการเกิด การดับ) และ
    ต้องมีวิริยะ(คือ ความเพียรพิจารณาสม่ำเสมอ ) และ สุดท้ายนี่ สำคัญมาก คือ
    มีวิมังสา(ไม่ตาม ห่วง หวงแหน อาลัย อาวรณ์ เช่น มันคืออะไรค่ะ ) หากมัน
    จบไปแล้ว ก็ค่อยว่ากันใหม่

    ก็....จัดเป็นงาน สมถะ ถือว่า เป็น ยาทา แก้เฉพาะโรคยามหน้าซิ่วหน้าขวาน

    เช่น บางคนออกมาแล้ว ก็ กลับมาย้อนดูร่างกายตนให้เน่าสลาย ผุพัง มีน้ำเลือด
    น้ำหนอง หนอนชอนไช ..... ตรงนี้จะเอาว่า ป๊อปอัพจิต เวลา เกิดราคะ ตัณหา
    ทยานอยาก กำหราบจิตช๊อปปิ้ง รักสวย รักงาม ที่เว่อร์เกินชีวิตา

    หรือ...เช่น บางคนออกมาแล้ว น้อมขอไปเห็น สังเวชนียสถาน สถานที่น่าสังเวช ต่างๆ
    อาธิ สถูปเจดีย สถานที่ประสูติ ปรินิพพาน ....อันนี้ก็มี หรือ จะไปดูสถานที่
    ที่น่าสังเวชสุดๆ เช่น ที่ นรก หรือ แม้แต่ สวรรคิ์ ชั้นพรหม ...ที่น่าสังเวช เพราะ
    มี คนหลงตัวเองว่าเป็นนั่นเป็นนี่ เป็นเทพ เป็นอนาคามี เป็นจักรพรรดิ๋ เป็นองค์ปถม
    เดินกันจนแทบจะชนกัน นั่นกันหน้าสลอน เหมือนคนบ้า นั่งยิ้ม เนี่ยะ ไปเห็น
    ความติดข้องของสัตว์ ไม่พ้น เป็นจำนวนมาก เพื่อให้เกิด ธรรมสังเวช เป็นต้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กรกฎาคม 2012
  3. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    คำถามแบบนี้ เคยถามครูเหมือนกัน

    ท่านว่า ไม่บอกหรอก เดี๋ยวจะยิ่งไปอุปาทาน
    บอกแต่เพียงว่า สอนให้ทำอย่างไร ก็ให้ทำอย่างนั้นไป

    สุดท้ายเราก็ ทราบด้วยตัวเอง
     
  4. nongkaikuk

    nongkaikuk Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +97
    อนุโมทนา สาธุ ค่ะ
    จะขอน้อมรับคำตอบ ที่เมตตาชี้ทางให้ค่ะ
    จะขอนำไปอบรมจิตต่อไปค่ะ
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    เป็นลักษณะอาการของคนที่มีแววว่าจะไปได้ไกลครับ..กิริยาแบบที่คุณกล่าวมักจะไม่เกิดตอนที่นั่งสมาธิครับ.แต่จะเกิดตอนที่คุณกำลังจะนอน(และส่วนมากจะเป็นกันแบบนี้).เพียงแต่คุณมีแต่กำลังสมาธิเท่านั้น..หากต่อไปฝึกควบคู่กับการเจริญสติให้ได้ต่อเนื่องไปด้วย..จะสามารถควบคุมลักษณะอาการที่เกิดขี้นแบบนี้ได้ครับ..แต่การที่ไม่สนใจกับกิริยาที่เกิดขึ้นระหว่างการปฎิบัติจะทำให้คุณไปได้เร็วกว่านี้ครับ..​
     
  6. nongkaikuk

    nongkaikuk Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +97


    เรื่องกำลังสมาธิน่าจะใช่ค่ะ เพราะไม่ได้นั่งสมาธิค่ะ เพราะนั่งสมาธิ ก็เหมือนไม่ได้นั่ง เพราะจิตคิดฟุ้งไป เรื่อยเปื่อย

    ก็เลยหันมากำหนดสติ และฝึกลม หายใจเข้าออก ขณะที่นั่งทำงาน หรือเมื่อมีโอกาสค่ะ

    ด้วยเหตุที่เป็นคนไกล ครู อาจารย์ บวกกับความขี้เกียจเข้ามาดึงรั้งไว้ ทำให้ ฝึกไม่ไปไหนมาไหน ก็เลยท้อค่ะ

    ส่วนใหญ่เก็บข้อมูลจาก ตำราบ้าง เว็ปบ้างค่ะ
     
  7. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ลองอ่านนี่ดู โดยหลวงปู่พุธ ฐานิโย

    แล้วลองไปตามดูครับ

    ส่วนเรื่องความ ขี้เกียจ ต้องเตือนตัวเองให้ได้
    เพราะหากเอาชนะตรงนี้ไม่ได้ แม้พระพุทธเจ้าก็ช่วยไม่ได้

    **************


    เรื่องของเรื่องที่เราว่า เรามีอารมณ์วุ่นวายอยู่
    จิตมันไม่สงบ บางท่านอาจจะกล่าวว่า
    จิตไม่สงบ ไปทำสมาธิไม่ได้ ต้องให้จิตมันสงบซะก่อน

    ทีนี้ ถ้าหากว่าจิตของท่านสงบเสียเองยัง ก่อนที่ท่านยังไม่ได้ปฏิบัติแล้ว
    ท่านจะมาปฏิบัติให้มันเหน็จเหนื่อยทำไม

    อารมณ์ที่เราว่ามันทำให้เราวุ่นวายเดือดร้อนอยู่
    หมายถึงสิ่งที่ผ่านเข้ามาทาง ตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ
    เมื่อเรายังไม่มีสมาธิ ยังไม่มีสติปัญญารู้เท่าทันเหตุการณ์

    อารมณ์เหล่านั้นจะมาก่อทุกข์ ก่อ ยาก ก่อความวุ่นวาย ให้เกิดขึ้นในจิต ในใจของเรา
    จนสามารถ มาปฏิวัติจิตใจของเราให้เกิดความโลภ ความโกรธ ความหลง
    หรือบางที ปฏิวัติ ให้สติ สัมปชัญญะ ของเราเนี๊ยะ แหลก ละเอียด
    ละลายไปหมด
    จนทำให้ไปก่อเรื่องก่อราวต่างๆให้เกิดความวุ่นวายขึ้น ในสังคม

    นี่เพราะเรายังไม่มีสมาธิ ยังไม่มีสติปัญญารู้เท่าเอาทัน
    เมื่อเราฝึกหัดจิตให้มี สมาธิบ่อยๆ บ่อยๆเข้า สติมันก็ค่อยดี ขึ้น อะอืมๆ
    ในเมื่อสติ อะอืมๆ

    นอกจากสติจะดีขึ้นแล้ว
    คุณธรรมที่จะพึงเกิดขึ้นใน เป็นผลเกี่ยวกับการปฏิบัตินั้น
    ในเบื่องต้นก็คือ ศรัทธา ความเชื่อมันในสมถรรถภาพของตัวเองเมื่อเราสามารถปฏิบัติได้

    ในเมื่อเกิดศรัทธา ความเชื่อมั่น วิริยะความพากความเพียรมันก็เกิดขึ้นเป็นเงาตามตัว

    เมื่อมี ศรัทธา มีวิริยะ ความตั้งใจคือสติก็ย่อมเกิดขึ้น

    เมื่อมี ศรัทธา วิริยะ สติ ความมั่นคงของจิตมันก็เกิดขึ้น
    แม้จะเป็นความมั่นคงโดยการข่ม หรือโดยความตั้งใจก็ตาม
    แล้วในที่สุด เพราะอาศัยการข่ม อาศัยความตั้งใจ
    จิตมันก็จะกลายเป็นสมาธิได้โดยอัตโนมัติ

    เมื่อมี สมาธิแล้ว ปัญญาก็ย่อมบังเกิดขึ้น
    อย่างน้อยก็เพียงแต่แค่ว่า มีปัญญารู้เท่าเอาทัน ในจิตของเราเอง

    เมื่อประสบกับอารมณ์ต่างๆ สามารถ ดำรงตัวอยู่ในสภาพปกติไม่หวั่นไหว
    แม้จะไม่รู้อะไร กว้างขวางที่เป็นโวหารที่จะพึงพูดได้ก็ตาม
    อันนี้คือผลที่จะพึงเกิดขึ้น
    ในเมื่อเรามี ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา เป็นพลัง คือเป็นกำลัง
    เมื่อพลังอันนี้มันเข้มแข็งขึ้น มันก็กลายเป็น อินทรีคือความเป็นใหญ่
    ในกิจการเกี่ยวกับการปฏิบัติของเรา

    ในเมื่อ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา กลายเป็นอินทรี แก่กล้า
    สติตัวนั้นมันก็กลายเป็น มหาสติ เรียกว่า มหาสติปัฏฐาน
    เมื่อจิตมีมหาสติปัฏฐาน เป็นเจตสิก ประกอบแน่นอยู่ในจิตในใจ

    สติตัวนี้แหล่ะจะเป็นผู้นำ

    ธรรมมะ ๘๔,๐๐๐ พระธรรมะขันธ์
    มีสติวินะโยตัวเดียวเป็นผู้นำ
    เมื่อมี สติเป็นผู้นำ จิตก็ย่อมดำเนินไปในทางที่ถูกต้อง

    การกล่าวธรรมะ ก็เป็นเครื่องประดับสติปัญญา ของท่านในวันนี้
    ก็เห็นว่าเป็นการสมควรแก่เวลาแล้ว


    ฟังเสียง ที่นี่ http://palungjit.org/threads/ความฟุ้งในการทำสมาธิ.230790/
     
  8. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ไปดูที่นี่เป็นสารพัด


    จงกรม


    สติไม่แข็งแรง
     
  9. ต้นปลาย

    ต้นปลาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    629
    ค่าพลัง:
    +69
    ลมหายใจ ไม่มีใครสอน พอเราไปรู้นั้นคือครู

    พอรู้แล้วเกิดอาการ ถ้าเกิดอาการเก่ง ก็จบ

    ให้รู้ไปเรื่อย อย่างนั้น

    พระพุทธองค์ สอนอย่างนี้
     
  10. jintanakarn

    jintanakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +236
    เมื่อมีการนอนหลับจะเป็นไรไปไม่ได้นอกจากกำลังฝัน
     
  11. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    ต้องไหว้พระ
    หาที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวก่อนนอนบ้างไหมครับ

    หากเอาอะไรไม่ได้ก็ตะโกนออกมาเลยก็ได้พ่อก็ได้แม่ก็ได้พระก็ได้
    เดี๋ยวก็จะตื่นขึ้นมาแล้วไปนอนใหม่อีกครับ

    ต้องตามดูตามรู้ตามท่านเพื่อนสมาชิกดีครับท่านเจตนาดีกันถึงออกมาสนทนากัน
    ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งครับ
     
  12. mild_seabreeze

    mild_seabreeze สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +23
    ดิฉันก็เหมือนกันอ่าค่ะเเต่ไม่ได้ลอย เหมือนจะออกทางศีรษะอ่าค่ะ รูสึกกายเเยกกับจิตเลย เเต่รู้สึกตกใจว่ามันเคลื่อนออกขณะหลับได้อย่างไรจึงดึงจิตกลับมาเเต่รู้สึกเลยค่ะว่ามันค่อยๆเคลื่อนที่กลับมาที่เดิมเเละตื่น มันเป็นเพราะอะไรค่ะ ช่วยตอบหนูที่
     
  13. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817

    ที่คุณเล่ามา เพียงวันเดียวที่ปฏิบัติ แล้วทำได้อย่างนั้น ก็นับว่า จิตใจของคุณมีสมาธิดีมาก แต่สิ่งที่คุณเล่าตอนนอนหลับนั้น อาการที่เกิดกับคุณ เป็นอาการที่เกิดจากจิตหรือความคิด ความฝัน ในส่วนที่ลึกที่สุดของจิตใจและสมองของคุณ เพราะถ้าคุณคิดว่าคุณตื่นและรู้สึกตัว คุณจะไม่หลับต่อไปอีกได้เลย ถึงแม้คุณจะมีสมาธิที่ปฏิบัติเพียงวันเดียว เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์อย่างนั้น ร่างกายจะหลั่งสารชนิดหนึ่งออกมา ทำให้สมองและจิตใจเริ่มทำงานแบบไม่หลับ แต่นอนขอรับ
     
  14. nongkaikuk

    nongkaikuk Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +97
    ไม่ใช่ปฏิบัติวันเดียวค่ะ แต่เตือนสติ และค่อยๆ ดูลมหายใจ เข้าออก เท่าที่มีโอกาส นานเท่าไหร่แล้ว ก็ไม่แน่ใจ

    แต่ก็พยายามให้มีสติมากที่สุดค่ะ
     
  15. nongkaikuk

    nongkaikuk Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +97
    สติที่จดจ่อกับลมหายใจ บางครั้งรู้สึกได้ว่าเป็นลมเย็น เมื่อมีความรู้สึกว่ามั่นคงแล้ว ลองดึงลมหายใจเข้าไปให้ลึกเท่าที่มีความสามารถ ทำซ้ำไปมา ปรากฎว่าวันถัดมา สิ่งที่ทดลองทำ ทำให้จิตตามลมหายใจตลอด แม้มีเรื่องกระทบ ก็กลับมาที่ลมหายใจเหมือนเดิม
     

แชร์หน้านี้

Loading...