ท่านที่สวดพระคาถามหาจักรพรรดิ์ เป็นวัตร เชิงแบ่งบันความรู้ประสบการณ์ครับ

พี่ๆ..ท่าใดมีประสบการณ์อย่างไรขอเชิญเล่า หรือเเสดงความคิดเห็นกันได้นะครับ
หรือท่านใดมีปัญหาหรือข้อสงสัย เกียวกับการปฏิบัติ ประการใด ขอเชิญโพสสอบถามไว้ได้นะครับ เผื่อมีสหายธรรมท่านใด ที่พอทราบเรื่องนี้ก็จะได้แสดงความคิดเห็นกันต่อไปนะครับ หากไม่ทราบจริงๆก็สามารถไปหาข้อมูลจากครูบาอาจารย์ หรือผู้รู้ เเล้วมาเเชร์กัน ก็ได้นะครับ
ส่วนตัวผม การปฏิบัติยังไม่ถึงไหนเหมือนกันครับ สร้างกระทู้ ก็เพื่อหวังจะศึกษาข้อมูลดีๆ และความรู้จากพี่ๆ สหายธรรม ทั้งหลาย ได้รู้ประสบการที่หลากหลาย ครับ ..เพราะต่างคนต่างกรรม ต่างวาระครับ
พี่ๆท่านใดมีข่าวบุญ อะไร มาแจ้งมาโพส มาประชาสัมพันธ์กันได้นะครับ ขอให้เป็นเรื่องบุญเรื่องกุศลถือว่าได้หมดครับ
จริงๆการช่วยประชาสัมพันธ์งานบุญนี่ ได้บุญเยอะครับ...1.บุญจากการเผยแพร่(อันนี้แค่คิดจะทำ ยังไม่ทันทำ จิตเป็นกุศล บุญก็ก่อกำเหนิดแล้วครับ)
2.หากมีคนทราบข่าวบุญ จากการประชาสัมพันธ์ของเรา...เขาสาธุ โมทนาด้วย (นี่เขายังไม่ทำนะครับ เพียงเขาโมทนาอย่างเดียวนี่ จิตเขาเป็นกุศล เขาก็ได้บุญจากการอนุโมทนาบุญ(เรามีส่วนทำให้เขาได้บุญ...เรารับเต็มๆอีกรอบครับ
3.เขาโมทนาแล้ว เขายังไปร่วมบุญนั้นอีก (เรารับอีรอบครับ)...........จริงๆมีเยอะกว่านั้นครับเขาเรียกว่าสายใย สิ่งที่มีความเกี่ยวข้องเกี่ยวพันธ์กับบุญนั้นๆทั้งหมดทั้งมวล เพียงแต่เราอธิฐานให้ครอบคลุมก็แล้วกันนะครับ.....อนุโมทนา สาธุครับ ( กำไรจริงๆ)อิอิ(kiss)

 

จริงๆแล้วประการณ์แปลกๆของผมยังมีอีกครับ เพียงแต่อยากให้ พี่สหายธรรมทั้งหลายลงกันเยอะๆครับ ผมลงเยอะเกิน เดี่ยวโดนว่า...เกรงใจครับ
ตั้งใจว่าผมจะค่อยๆทยอยครับ..(deejai)

 

อนุโมทนาครับ

ตั้งใจทำเพื่อแจกฟรีเป็นธรรมทานครับ

1.ส่วนหนึ่งนำไปให้ครูบาอาจารย์ตามวัดต่างๆ เพื่อประโยชน์พระพุทธศาสนา
2.ตั้งใจนำไปให้วัดที่จะนำพระลงกรุสืบทอดพระพุทธศาสนาครับ
3.ตั้งใจนำไปให้เจ้าหน้าที่ที่ทำงานเสี่ยงภัยตามที่ต่างๆ ทั้งชายแดนและทั่วไปครับ
4.แจกจ่ายญาติธรรมนำไปกำสวดมนต์นั่งสมาธิครับ
ขณะนี้ก็ได้เริ่มรวบรวมมวลสารแล้วครับ ได้น้ำมนต์มาหลายวัดแล้วครับ

 

วันนี้ก่อนนอนขออนุญาตเล่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้งกับตนเอง

เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ผมและภรรยาเดินทางไปเกาหลี ไปเที่ยวกันกับคณะทัวร์ของคนไทยเรานี่แหละเรียกว่าซื้อทัวร์ไป

กำหนดการก็คือได้นอนนอกโซล 2 คืน และใน โซล 1 คืน
วันแรกหลังจากลงเครื่องเช้าเราก็ได้ท่องเที่ยวตามโปรแกรมทัวร์ปกติดีครับ
ของผมได้นอนชั้น 5 ชั้นสูงสุดของโรงแรม
คืนแรกนอนนอกโซล ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทุกอย่างปกติและเราค่อนข้างเหนื่อยกับการเดินทางและท่องเที่ยวก็เลยนอนพักผ่อนหลับไปโดยเร็วครับ
ลืมบอกครับปกติในช่วงนั้นของประเทศเกาหลีค่อนข้างหนาวมากเรียกว่าติดลบนิดๆเลยทีเดียว จะไม่ค่อยได้เปิดแอร์ครับ เพียงแค่แง้มหน้าต่างออกหน่อยพออากาศเย็นๆ เข้ามานิดหน่อย เขาไม่มีมุ้งลวดครับ ผมก็แง้มหน้าต่างนอน อากาศสบายมาก ชอบชอบ ^^
วันที่ 2 เราก็ได้เที่ยวตามโปรแกรมทัวร์ปกติของเราครับ
ค่ำก็กลับมาที่พักที่เดิมซึ่งเรานอนที่นี่ 2 คืน
คินที่ 2 นี่แหละครับที่เกิดปัญหาขึ้นครับ ก่อนนอนผมจะแง้มหน้าต่างปกติครับเพื่อให้อากาศจากภายนอกเข้ามาครับ ลมหนาวที่นั่นเย็นสบายมาก
ภรรยาผมนอนหลับไปก่อนครับเค้านอนง่าย ผมรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวนอนไม่ค่อยหลับครับ แปลกๆยังไงไม่รู้ครับ ก็ข่มตานอนไปอยากนอนมากเพราะเพลียครับ แต่นอนไม่หลับสักที ตาข่มหลับไว้แต่มันก็ยังไม่หลับ สักพักครับ ได้ยินเสียงอะไรแปลกๆมาจากทางหน้าต่าง ผม ผมก็เงี่ยหูฟัง แกร้กๆ ๆ !!!!!

เสียงเหมือนใครล่ามโซ่เดินยังไงยังงั้นน่ะครับ ผมก็เอ๊ะแปลกใจ ตอนนั้นมันดึกแล้วใครจะมาทำงานอะไรในช่วงนี้ แต่ที่มันแปลกมากกว่านั้นคือ ผมนอนชั้น 5 ครับ เสียงมันอยู่แถวหน้าต่างได้ยังไง ??????????? !!!!!!!!!!
แกร้ก !!!! ดังๆ หยุดๆ ลากยาวหลายนาทีจนมั่นใจว่า มันช่ายจุดเกิดเหตุที่ตรงหน้าต่างห้องผมแน่นอนแบบฟันธง
เสียงนั้นเริมดังขึ้นๆ มั่นใจเลยว่ากรูโดนผีแดนกิมจิลองของแล้วไง เพราะก่อนนอนไม่ได้สวดมนต์อะไรเลยครับ เอาละไงทีนี้ ผีเกาหลี กรูจะสวดบทอะไรไปให้เขาล่ะนั่น นับถือพุทธหรือคริสต์ก็ไม่รู้

เอาวะเราก็ระลึกได้ว่าเรามีของดีที่เราเคยสวดอยู่เป็นประจำ ก็บทมหาจักรพรรดิ์นี่แหละ เชื่อในหลวงปู่ว่าจะช่วยเราได้ ก็ใจนิ่งๆ ดับความกลัวลง ตั้งนะโม 3 จบ
อาราธนาไตรสรณคมณ์ และระลึกถึงหลวงปู่ดู่ช่วยคุ้มครอง แล้วเริ่มสวดบทมหาจักรพรรดิ์ครับ เป็นเวลาไม่รู้เท่าไหร่และไม่รู้ว่าสวดไปกี่จบ แต่ไม่นานมากครับกลับมาเงี่ยฟังใหม่เสียงนั้นหายไปอย่างน่าอัศจรรย์ครับ
บารมีหลวงปู่แท้ๆ สุดยอดครับ คืนนั้นก็นอนหลับสบายผ่านมาได้ด้วยดี

จบเรื่องเล่าก่อนนอนครับออกแนวเดอะช็อค นิดนึง
ฝันดีครับทุกท่าน สวดมนต์ ภาวนาไตรสรณคมณ์ก่อนนอนนะค้าบ

อันหลวงปู่ดู่เมตตาสั่งสอนลูกศิษย์ว่า
ข้าไม่มีอะไรให้แก (ธรรม) ที่สอนไปนั่นแหละรักษาเท่าชีวิต

 

อนุโมทนาครับ เจตตนาบริสุทธิ์อย่างนี้ ขออนุโมทนาด้วยนะครับ
แต่เอ้..ข้อที่3.นี่ ผมทำงานอยู่ดับเพลิง จ.ยะลา หน่วยตรวจตระเวนพื้นที่ความเสี่ยง(ระเบิด,ไฟไหม้) ไม่รู้ว่าเข้าข่ายหรือเปล่านะครับ ..อิอิ

 

*****เป็นคนยะลาหรือครับ...เรียนที่ไหนครับ******

 

หากจัดสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้วจะแจ้งให้ทราบต่อไปนะครับ

 

ขออนุญาติเเชร์ประสบการณ์เพิ่มครับ

ขออนุญาติ เล่าเรื่องเเปลกๆนะครับ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อน ว่าผมทำงาน เป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงครับ (ป้องกันเเละบรรเทาสาธารณภัย)จ.ยะลา
งานในข่ายของผมเช่นไฟไหม้ น้ำถ้วม ท่อตัน ฯลฯ ที่เกี่ยวกับภัยสาธารณะครับ
ช่วงประมาณปีที่แล้ว มีโรงเรียนในเทศบาล ณครยะลา พาเด็กนักเรียนมาเข้าค่ายลูกเสือที่ สวนขวัญเมือง(สวนจังหวัด) ก็จำเป็นต้องใช้น้ำ น้ำอาบ น้ำใช้ทั่วไป ก็ต้องเป็นหน้าของพวกผม เมื่ออาจารย์เขาทำเรื่องขอมา โดยเราจะเอาเรือท้องเเบน(เรือโลหะขนาดใหญ่)ไปไส่น้ำไว้ให้ ประมาณ5ลำ (ทุกปีที่มีการเข้าค่ายลูกเสือ)โดยจะไว้ฝั่งเด็กผู้หญิง3ลำ ผู้ชาย2ลำ ใส่น้ำเต็มลำ(ซึ่งน้ำนี่ เราจะมาใส่ให้ตลอดครับ)
ทีนี้เมื่อเสร็จจากการเข้าค่ายอาจารย์ก็พาเด็กนักเรียนกลับ พวกผมก็ต้องไปเก็บเรือ กลับสถานี
อีตอนไปเก็บนี่เเหละครับ ก็ต้องใช้กำลังคนเยอะ คือ10กว่านายครับเพราะต้องเทน้ำออกจากเรือโดยการยกตะเเคงทางด้านข้างครับ (เรือนี่ตั้งอยู่บนหญ้า ใต้ท้องเรือก็ชื้น กำล้งดี)ท้องเรือนี่จะเว้าหน่อยนึง ไอ้ตอนยกเรือตะเเคง นั่นเเหละครับ แม่จ้าว..งูเห่า!! ตัวเบ้อเร้อครับ เลื้อยออกมาช้าๆ แผ่พักพาน ตัวประมาณเท่าแขนเด็ก หน่ะครับ ไม่ยอมหลีกซะด้วย เพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง เอาไม้ไผ่ขนาดเกือบๆเท่าเเขนผู้ใหญ่ ที่ตัดปลายแหลมเหมือนปากเป็น ที่ปักดิน ขนาบเรือเอาไว้ เพื่อจะมาตีงู
ไอ้ผมนี่ถ้าจะห้าม คงไม่มีผล เขาคงไม่ฟัง ถ้าจะบอกว่าสงสารงู ขเาก็จะหาว่าเราบ้า!! ตอนนั้นผมทำอะไรไม่ถูก ระยะเวลาเร็วมาก ไม่มีเวลาให้คิด หรืออธิฐานอะไรทั้งนั้น ผมรีบจับภาพหลวงปู่ทวด ครอบตัวงูเอาไว้สรรพเพ อย่างเดียว ...ไม่ยั้งไม่ได้พนมมือหรือกำพระใดๆทั้งสิ้น ( เเต่เเขวนพระนะครับ ผมห้อยพระหลวงปู่ดู่ กับหลวงพ่อฤาษีลิงดำตลอดครับ) ขณะสัพเพเขาก็ตีงูอยู่ครับ ตีไม่ยั้งเหมือนกันครับ แต่ตียังไงงูก็ไม่เป็นอะไรครับ ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ทุกคนอึ้ง...เงียบกันหมดครับ คนที่ตี เห็นไม่ได้ผล ก็เลยเอาปากไม้ไฝ่ที่แหลมคม เหมือนปากเป็น...ด้านที่ไว้เพื่อปักดิน เสียบเเทงที่ตัวเเละหัวไม่ยั้ง (ผมก็ตั้งใจสัพเพไม่ยั้ง ยังไม่หยุด จนแน่ใจว่างูปลอดภัย หรือ!! ตายสนิท อย่างใดอย่างหนึ่ง) เห็นคนที่ตีงูนั้นแทง งู ไม่ทราบโดนลำตัวหรือหัว แต่บริเวณลำตัวที่คอถึงหัว ทิ่มฝังลงไปในดิน ส่วนลำตัวจากคอถึงหางที่อยู่บนดิน นั้นดิ้นพล่านอยู่ ผมเวทนานักแต่เเเชื่อมั่นในหลวงปู่ทวด พยายามทรงภาพท่านเท่าที่จะทำได้ครอบงูเอาไว้สัพเพไม่หยุด เพื่อนร่วมงานคนนั้น ดึงไม้ที่ทิ่มงูไว้ในดินออกมา ปรากฏว่างูขึ้นมา เเผ่จวักเฉย ไม่เป็นอะไรเลย เท่าที่เห็นด้วยสายตาผม งูไม่มีเเผลไม่มีเลือด ไม่หลังหัก แต่อย่างใด เท่าที่ผมเห็นนะครับ....ทุกคน งงงงงง ทีนี้เพื่อนร่วมงานอีกคนรีบฉวยหางงูแล้วเขวี้ยงลงน้ำโดยเร็วครับ ....ผมจึงหยุดสัพเพครับ....ตอนนั้นปิติ และทราบซึ้ง ในบารมีเเละพระคุณหลวงปู่ กำลังใจพุ่งปลี้ด เลยครับ
จริงเเล้ว นั่นคือการครอบวิมานเเก้วครับ แบบอัตโนมัติ เอาการสงเคราะห์เป็นอารมณ์ ที่ผมทำอย่างนั้น ไม่ได้หมายความว่า สัตว์หรือ......ต้องรอดชีวิตเสมอไป ไม่มีใครหนีพ้นคว่มตายได้ สรรพสัตว์ ล้วนเป็นไปตามกรรม ถ้ากรรมถึงที่ตายจริงๆ ก็ต้องตายครับ
แต่การที่ผมสัพเพต้องการสงเคราะห์ผมคิดอย่างนี้
1.หากสัตว์หรือ....นั้นไม่ถึงที่ตาย ขอให้ไม่ตาย ไม่บาดเจ็บ และขอให้ไม่เป็นอันตรายใดๆ
2.หากสัตว์หรือ....นั้นถึงวาละ..ช่วยไม่ได้..จำเป็นต้องตายจริงๆ ขอให้ดวงจิตให้ไปสู่สุขติ ขอให้ไปตามวิมานแก้ว ที่ผมอาราธนาพระเมตตาบารมีหลวงปู่ครอบให้ (คือใจผมนะ ปราถนาให้เขาเป็นเทวดา ขอให้หลวงปู่รับเขาเป็นศิษย์ แล้วสอนธรรมให้ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก อยากให้ปฏิบัติไปเรื่อยๆสูงขึ้นเรื่อย ให้เห็นโทษของการเกิด เเล้วอย่าอยากเกิดอีกเลย.......อันนี้เป็นความคิดของผมนะครับผมคิดอย่างนี้ ได้ไม่ได้ไม่รู้แต่ผมคิดอย่างนี้ (ผมหมายถึง การครอบวิมานเเก้วทั่วๆไปที่ผมอธิฐาน หรือปรารถนาอยู่ในใจนะครับ ....ตอนสัพเพให้งูนี่ไม่ได้คิดละเอียดเเบบนี้...กลัวไม่ทัน แต่ในใจลึกๆก็ปรารถนาแบบนี้แหละ......ยังมีอีกหลายเรื่องแปลกนะครับ แล้วผมจะค่อยๆทยอยเล่านะครับ(deejai)(deejai)(deejai)

 

ผมเป็นคนนครศรีธรรมราชครับ เรียนม.1-ม.6ที่นครศรีธรรมราช จบเเล้วไปเรียนรามฯที่กรุงเทพฯ จบเเล้วทำงานที่กรุงเทพครับ เเต่พ่อเเม่ผมมาซื้อสวนยางที่ยะลา ท่านอยากให้ผมมาอยู่ที่ยะลา ผมจึง ย้ายมาอยู่ยะลาครับ

 

อนุโมทนาสาธุครับ

 

วันนี้โชคดีครับ...ได้พระผงจักรพรรดิ์ ของหลวงปู่ดู่ พิมพ์เปิดโลกมาองค์หนึ่ง ผมรู้จักกับพี่หมวดคนหนึ่งแกเป็นคนอยุธยา เเกมาปฏิบัติหน้าที่ ที่จ.ยะลา ก่อนหน้านี้ แกเคยให้ขุนแผนกระเบื้องเคลือบหลวงปู่ดู่กับพระผงจักรพรรดิ์พิมพ์พระซ้อนกัน3องค์ มีพระพุทธเจ้า หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่นั่งซ้อนกันตามลำดับในพระองค์เดียว

 

ไหนๆก็เล่าไปแล้ว เห็นพี่ๆทั้งหลายเงียบกันหมด ขอเล่าต่อเลยเเล้วกัน..ไม่ว่ากันนะครับ

ขอเล่า เรื่องพระขุนแผนกระเบื้องเคลือบ ที่ได้มาจากพี่ หมวดชอบต่อนะครับ
ตอนที่พี่หมวดชอบให้มา เเกเล่าให้ฟังว่า หลวงปู่เคยกล่าวถึงพระขุนเเผนที่ท่านสร้างว่า ...ขุนเเผนของที่อื่นรวยเมีย แต่!!! พระขุนแผนของข้ารวยเงิน
ทันทีที่ผมได้มาก็เอาไปเลี่ยมกรอบเลยในวันนั้น วันนั้นผมเข้าเวรดึก คือเที่ยงคืน ถึงแปดโมงเช้า วันนั้น สองทุ่มครึ่ง ก็ไหว้พระ สวดบทจักรพรรดิ์ ตามปกติ สี่ทุ่มก็ลาพระ เสร็จผมก็จะไปเข้าเวรเลยไม่อยากรอถึงเที่ยงคืน...เพราะไม่รู้จะไปไหน ไปถึงผมก็กางเต้น(ปิ๊กนิ๊กแบบของทหาร)ไว้ข้างๆรถดับเพลิง ปกติผมจะนอนตรงนั้น(ถ้าเวรดึกนะ)เเล้วก็เปิดโทรศัพท์ เปิดวิทยุไว้ ข้างๆ ไว้ฟังเหตุ หากมีเหตุ ก็สะดวก เพราะผมนอนข้างรถ (ยานดับเพลิงขนาดเล็ก เรียกอีกอย่างคือ ยานตรวจการ )สามารถเข้าพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว ซอกซอยเล็กใหญ่เข้าได้หมด ปกติเวรดึกนี่จะผลัดกันนั่งเวรยาม เพราะเวรหนึ่งก็มีกำลังหลายนาย ส่วนพนักงานขับรถนี่เขาให้เกียรติ ไม่ต้องนั่งเวรยามเพราะมีภาระรับผิดชอบมาก เขาให้พักผ่อน ผมเป็นพนักงานขับรถ แต่ปกติจะมีห้องพักเวรยามด้านบน ห้องรวม คล้ายๆ ของทหาร แต่ของเราติดเเอร์!!!อิอิ แต่ผมไม่ชอ บนอนครับ ผมไม่ค่อยชอบอยู่คนเยอะๆ ก็เลยนอนข้างล่าง ข้างๆรถดีกว่า
และเเล้ววันนั้น ที่ได้พระขุนเเผนกระเบื้องเคลือบ วันแรก พอผมมาถึงสถานี ก็กวาดที่เเละกางเต๊น ก่อน เเล้วก็ไปนั่งในห้องเวรยามเตรียมพร้อมกับเวรก่อนเวรผม...พอซักประมาณ เที่ยงคืนก็ไปที่เต๊นที่นอน ก็เข้าเต๊นตามปกติ ก็นอนเล่นๆ คืนนั้นใส่พระขุนแผนที่ได้มาไหม่ (เห่อหน่ะครับ) ก็เอาพระไว้บนหน้าอก(ปกติผมจะถอดวางไว้บนผ้าบนหัวนอน) วันนั้นใส่ ยังไม่ง่วง ก็เลยเอามือวางบนอกบนพระ แล้ว ภาวนาพุทโธเบาๆ ไม่กีนาที..ตัวเเข็ง..หูดับ..ได้ยินเสียงค่อนข้างละเอียด ดังวิ๊งๆๆๆ ประเดี๋ยวมีมือใหญ่มากสอดเข้าไปใต้เต๊นที่นอนผม ใหญ่กว่าเต๊นมาก แค่ไม่กี่วินาทีผมก็มารู้สึกตัว ผมอยู่อีกที่หนึ่ง มีคนเยอะมาก ประมาณเป็นพัน (อันนี้ไม่แน่ใจ)บ้างก็เดิน ยืน นั่ง มีเหมือนศาลาด้วย มีแม่น้ำใหญ่ด้วย ความรู้สึกบอกผม พวกนี้คือคนที่ตายแล้วทั้งหมด คล้ายๆ ว่า กำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ผมก็ได้เดินไปถามคนโน๊น คนนี้ ว่าตายมากี่วันกันบ้าง บางคนบอกตายมาเท่านั้นวันบ้าง เท่านี้วันบ้าง ตามเรื่องตามราว....ซักเดี๋ยวลุงเเก่ๆคนหนึ่ง นั่งอยู่ ไม่เหมือนคนอื่นนั่งยิ้ม ผมเข้าไปถามว่าลุงตายเมื่อไหร่ ถ้าจำไม่ผิดแกว่าเดือนนึง ผมถามว่าผมมาที่นี่ได้ยังไง เเกบอกไม่รู้ ผมถามต่อว่าผมจะมาที่นี่อีกได้อย่างไร ผมอยากมาอีก อยากมาดู อยากรู้ อยากเห็น ที่นี่เป็นกรณีศึกษา แกบอกไม่รู้ ขณะนั้นผมได้ยินเสียงร้องหันไปดูเห็นคนหลายคนจับ หามแขน-ขา ของอีกคนหนึ่งแบกไปในน้ำ..ไม่รู้ว่าไปไหน? คล้ายกับถึงเวลาอะไรสักอย่าง ผมก็หันมาคุยกับลุงต่อ( ลุงบอกอะไรบางอย่างกับผม แต่ผมขอเก็บไว้เป็นความลับ...เพราะมันเริ่มเลอะ) ซักเดี๋ยวลุง ก็หยิบโทรศัพท์ของผมขึ้นมา ซึ่งผมจำได้ว่าผมตั้งไว้ข้างๆหูผม เเกหยิบขึ้นมาแล้วถอด แมมโมรี่ ออกมาแล้วชี้ไปที่แมมฯแล้วบอกว่ามันอยู่ในนี้นะ..เพื่อให้ผมพิสูจน์อะไรบางอย่าง แล้วแกก็บอกว่าที่โน่นใกล้จะสว่างเเล้ว...ผมก็ไอเเค๊กๆๆ ก็รู้สึกตัว หยิบโทรศัพท์ดูเวลา เกือบจะตี5 แล้วไม่กี่นาทีเเล้ว อะไรกัน ที่เล่ามา จากที่ผมเข้าไปนอนในเต๊นไม่นานเท่าไหร่เอง
พอออกเวรตอนเช้า เคารพธงชาติเสร็จ ผมก็กลับบ้าน อาบน้ำเสร็จ ก็เอาแมมฯในโทรศัพท์ออกมาดู เพื่อต้องการพิสูจน์อะไรบางอย่าง ที่ลุงได้บอกใบ้เอาไว้...ลุงแกคงรู้ใจผมว่าไอ้นี่ มันไม่ค่อยจะเชื่อง่ายๆ เพราะทุกครั้งที่เจอเเบบนี้ผมจะต้องถามหรือขออะไรซักอย่างเพื่อเป็นการเช็ค หรือพิสูจน์ ดูที่แแมมฯนะ มีเลข 081Q เทียบ ได้เป็น0810 , 1G8 เป็น168 , และสุดท้าย 830 อันนี้ไม่ต้องแปล
ทีนี้ต้องบอกก่อนว่า ที่3จังหวัดชายแดนใต้จะมี หวยมาเลย์ อาทิตย์นึงมี4-5วัน หวยไทยนี่ไม่ค่อยเป็นที่นิยม หวยมาเลย์จะมี4ตัว แต่จะซื้อ3ตัวก็ได้ ส่วนตัวผมไม่ชอบเล่นหวย ไม่ซื้อ เพราะเคยซื้อเเล้วไม่เคยถูกเลยเลิกกัน แต่แม่ผมเป็นคนขายหวยนะ และเเฟนก็...บ้าหวย!!! ผมก็เลยทำเเบบนี้ประจำ เขียนให้ แม่บ้าง ให้แฟนบ้าง ถูกแล้วค่อยมาว่ากัน อิอิ วันนั้นได้มาคือ 0810-168-830 แต่ผมไม่อยากให้เเฟนซื้อเยอะ เลยให้เเค่สอง ตู คือ 0810 กับ830 พอตอนค่ำหวยมาเลย์ออก ไอ้168 นี่ถูกหน้าA ซึ่งถ้าซื้อจะได้ตังค์เยอะ (หวยมาเลย์จะมีหน้า A, b ,C) และ830 วันนั้นออกหน้าB ถูกหวยครับแฟนถูกเเต่ได้ไม่พันกว่าบาท ซื้อไม่เยอะ ส่วน ไอ้0810วันนั้ไม่ออกครับ...ถูกกินร้อยกว่าบาท เพราะซื้อไม่เยอะ วันต่อมาไม่ได้ซื้ออะไรเลย...ปรากฏว่า ไอ้เลข0810 ที่โดนกินไปเมื่อวาน มันออกหน้าA!! ตรง!!ไม่ได้ซื้อ อิอิอิ สรุปว่า เลขที่ได้มาทั้ง 3 ประตู ออกหมด.....(deejai)(eek)(deejai)(deejai)

 

ยินดีด้วยครับ..ที่ได้พระของครูบาอาจารย์มาไว้บูชาครับ และพระซ้อนกัน3องค์เป็นของหลวงตาม้าครับผมก็มีอยู่องค์หนึ่ง ได้ตอนไปกราบท่านที่เพชรเกษมครับ ตอนได้ใหม่ๆไม่มีพระธาตุอะไรเลย ใส่กระป๋องไว้2ปีกว่าไปดูอีกที ตอนนี้พระธาตุแก้วใสๆขึ้นเต็มองค์เลยครับ..

 

ประสบการณ์เยี่ยมเลยนะครับ

 

ยังไม่ปลอดภัย!กับอุปทาน และความบังเอิญ เลยครับพี่ อิอิ(deejai)

 

การจุดธูป เทียน เพื่อบูชาพระในพิธีกรรมต่าง ๆ มักจะไม่เหมือนกัน บางท่านต้องการไหว้พระแต่ยังตกล<WBR>งใจไม่ได้ว่า
จะใช้ธูปกี่ดอกจึงจะเหมาะสมหลวง<WBR>พ่อดู่เคยตอบปัญหาเรื่องนี้กั<WBR>บผู้ที่สงสัยว่า

หลวงพ่อ : "จุดกี่ดอกก็ได้ ส่วนใหญ่มักใช้ 3 ดอก
บูชา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ กี่ดอกก็มีความหมายทั้งนั้น"

ผู้ถาม : "อย่างนั้นถ้าจุดดอกเดียว ไม่ถือว่าไหว้ผี หรือไหว้ศพหรือครับ"

หลวงพ่อ : "จุด 1 ดอก หมายถึง จิตหนึ่ง
จุด 2 ดอก หมายถึง กายกับจิต โลกกับธรรม
จุด 3 ดอก หมายถึง พระรัตนตรัย หรือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
จุด 4 ดอก หมายถึง อริยสัจ 4
จุด 5 ดอก หมายถึง พระเจ้า 5 พระองค์ นะโมพุทธายะ
จุด 6 ดอก หมายถึง สิริ 6 ประการ ที่แกกราบพระ 6 ครั้ง
จุด 7 ดอก หมายถึง โพชฌงค์ 7
จุด 8 ดอก หมายถึง มรรคแปด
จุด 9 ดอก หมายถึง นวโลกุตรธรรม
จุด 10 ดอก หมายถึง บารมี 10 ประการ
อยู่ที่เราจะคิดให้ดี เอาอะไรก็ได้"

ผู้ถาม : "ถ้า 11 ดอก หมายถึง... "

หลวงพ่อ : "ก็บารมี 10 ประการกับจิตหนึ่ง ว่าไปได้เรื่อย ๆ แหมแกถามซะข้าเกือบไม่จน"

ผู้ถาม : "ถ้าไม่มีธูปเทียน"

หลวงพ่อ : "ก็ใช้ชีวิตจิตใจบูชา ไม่เห็นต้องมีอะไร พุทธัง ธัมมัง สังฆัง ชีวิตัง เม ปูเชมิ"

หลวงพ่อหัวเราะมองหน้าผู้ถามที่<WBR>รู้สึกทึ่งในปฏิภาณของหลวงพ่อ

 

สอบถามๆ พี่ๆครับ

ย่าผมท่านจะไปถวายเทียนพรรษา แล้วมาถามผมถึงบทถวายเทียน ผมลองหาดูแล้วมีหลายคำมาก

รบกวนพี่ๆ แนะนำบทถวาย และขั้นตอนหน่อยครับ ส่วนตัวผมนั้นไม่มีประสบการณ์ เคยแต่ตักบาตร กับถวายสังฆทาน

 

ผมเกิดวันพุธสวดรอบละ17จบตามกำลังวันเรียกว่าสวดซะกลายเป็นคนใจเย็นไปเลย

 

โมทนาครับ ขออนุญาติครับ...
สวดตามกำลังวันหมายความว่า
วันที่เราสวดเป็นวันอะไรสวดตามกำลังวันของวันนั้น !! ไม่ใช่ วันที่เราเกิดครับ

 

ลองพิจารณาแบบนี้ดูนะครับ

อิมานิ มะยัง ภันเต ทีปะวะรานิ ระตะนัตตะยัสเสวะ อะภิปูเชมะ อัมหากัง ระตะนัตตะยัสสะ ปูชา ทีฆะรัตตัง หิตะสุขาวะหา โหตุ อาสะวักขะยัปปัตติยาฯ ข้าแต่พระคุณเจ้าทั้งหลายผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลายขอบูชาเทียนแก่พระรัตนตรัย กิริยาที่บูชาแก่พระรัตนตรัยนี้ จงเป็นผลนำมาซึ่งประโยชน์และความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายสิ้นกาลนาน จงเป็นไปเพื่อให้ถึงซึ่งพระนิพพาน เป็นที่สิ้นไปแห่งอาสวะกิเลส เทอญ
ขออนุโมทนาในการถวายเทียนพรรษานี้ด้วยนะครับ....สาธุ