ถ้าเราแผ่เมตตาไปให้คนที่เค้าไม่ชอบเรา เค้าจะเปลี่ยนมามีความคิดดีกับเรามั้ย

คือพอดีช่วงนี้มีแต่คนน่ารำคาญเข้ามาในชีวิตน่ะครับพยายามจะปรับตัวแล้วแต่ก็ไม่ได้ผล ไม่รู้จะทำยังไงดีก็เลยคิดว่าแผ่เมตตาน่าจะช่วยได้(รึเปล่า)

อันนี้รบกวนผู้รู้หน่อยนะครับ และถ้าได้ต้องทำอย่างไรบ้างครับ
หรืออาจจะเป็นวิธีอื่นก็ได้(ลองดีกับเค้าแล้วแต่เค้าก็ไม่ได้ดีตอบ)

 

การแผ่เมตตาช่วยได้จริง ๆ เพราะจากประสบการณ์ตัวเองแล้ว เคยมีคนที่เขาไม่ชอบเรา ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี รู้สึกทุกข์ใจ แต่พอได้สวดมนต์ เจริญภาวนา แล้วแผ่เมตตาให้คนที่เขาไม่ชอบหน้าเรา พอแผ่ให้เขาบ่อย ๆ เข้า ก็ปรากฎว่าเขาก็มาดีกลับเรานะ รู้สึกว่าการแผ่เมตตาช่วยได้จริง ๆ

 

ทำอย่างไรบ้างหรอครับ ขอคำแนะนำหน่อยครับ

 

มันก็ได้ผลอยู่แล้ว อย่างแรก ก็คือ ตัวคุณเอง เพราะการแผ่เมตตา ทำให้จิตเราสงบ ไม่ต้องคิด ไม่ต้องกังวลกับคนที่ไม่ชอบขี้หน้าเรา เขาจะทำอะไร เราก็ไม่โกรธ ไม่หงุดหงิด เหมือนลมที่พัดผ่านหน้าเราไป แค่รู้ว่าผ่าน แต่ไม่ได้ทำให้หน้าเราเจ็บอะไร ซ้ำยังเย็นสบายเสียอีก แค่เราคิด แค่นี้ มันก็ได้ผลไปครึ่งหนึ่งแล้ว หากคนที่ไม่ชอบขี้หน้า เห็นพฤติกรรมของเรา ไม่ตอบโต้ ไม่สนใจ ไม่เดือดไม่ร้อน เป็นทำตัวเหมือนคนปกติทั่วๆไป ไม่ทำตัวน่าหมั่นไส้ เดี๋ยวมันก็เลิกไปเอง ก็ได้ผลอีกครึ่งหนึ่ง แค่นี้ก็เห็นด้วยตาเปล่าแล้ว ไม่ต้องพึ่งญาณทิพย์อะไรเลย

 

ผมขออนุญาตตอบแทนนะครับ
๑ มีจิตศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา(เจ้าของกระทู้คงมีแล้ว ถ้าไม่มีคงไม่เข้ามาที่นี่หรอก)
๒ เมื่อพบพวกเค้าเหล่านั้น พึงระลึกว่า "รู้หนอ" เพื่อให้ทันรู้อารมณ์ของตัวเอง ไม่ให้คิดไม่ดีต่อพวกเค้าเหล่านั้น
๓ ฝึกมองความเป็นจริง คนเรามีรัก โลภ โกรธ หลง ทั้งๆที่เจอกันแค่ครั้งแรก แล้วค่อยๆคิดตามว่า สิ่งเหล่านี้เกิดมาจากอะไร
๔ การปฏิบัติ สวดมนต์ แผ่เมตตา เพื่อให้จิตมีสมาธิ ระลึกรู้สิ่งต่างๆ การสวดมนต์แผ่เมตตา ถ้ามองทางด้านอารมณ์จะทำให้เรามีสติ คิด ไตร่ตรอง หรือเรียกง่ายๆว่า เกิดปัญญา ขณะสวดมนต์จิตจะคิดฟุ้งซ่าน ต่างๆมากมาย พยายามดึงจิตมาอยู่กับการสวดมนต์ทุกครั้ง เพื่อให้มีสมาธิ เมื่อสวดมนต์เสร็จ ต่อไปเป็นการแผ่เมตตา ก่อนการแผ่เมตตาจะต้องมีการขออโหสิกรรมก่อน เพื่อให้ผู้ที่เราได้เคยล่วงเกินไว้รับทราบ ว่าเรามีจิตสำนึกในสิ่งที่เราเคยทำผิดพลาดไว้แล้ว ทั้งที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจก็ตาม และเราจะไม่ทำสิ่งที่ผิดพลาดเหมือนที่เคยผ่านมาซ้ำอีก (เพราะในกาลเวลาที่ผ่านมาเราคงนึกไม่ออกหรอกว่า เราได้กระทำสิ่งนั้นๆแก่ผู้ใดไว้บ้าง) การปฏิบัติไม่ใช่ทำแค่เดือนหรือสองเดือนรู้ผล ทุกอย่างที่ทำเกี่ยวกับความดีต้องทำอย่างต่อเนื่อง
๕ อุทิศบุญกุศลอย่างต่อเนื่อง วิธีอุทิศบุญลองค้นหาดู
๖ มองโลกและผู้คนในทางที่ดี ไม่ว่าจะไปที่ใดๆก็ตาม เปรียบเสมือนตัวเราเองมีการแผ่เมตตาให้กับสรรพสิ่งตลอดเวลา ในทุกอิริยาบท


ถ้าทำได้เช่นนี้แล้ว ตัวเราก็จะรู้จักตัวเราเองดี โดยที่ไม่ต้องไปดูคนอื่น
"สวดมนต์เป็นยาทา วิปัสสนาเป็นยากิน" คำสอนของหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม


อนุโมทนาบุญแด่ผู้ที่ใฝ่ในธรรมมะทุกๆท่านด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ

 

ขอบคุณมากครับ