เพื่อนสนิทยังคงติดต่อกับแฟนหนุ่มที่มีพันธะแล้ว

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย nalikasai, 15 มิถุนายน 2012.

  1. nalikasai

    nalikasai สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +3
    เพื่อนสนิทคบกับแฟนหนุ่มคบกันมาได้เกือบ 6 ปีแล้ว แต่เมื่อกลางปีที่แล้ว พ่อแม่ของเพื่อนเพิ่งจะทราบว่าแฟนหนุ่มของลูกสาวตนเอง มีภรรยาและลูกอายุ 11 ขวบแล้ว ตั้งแต่ก่อนคบกับเพื่อนของเรา เหตุเนื่องจากตัวภรรยาได้โทรศัพท์มาหาคุณพ่อของเพื่อนโดยตรง บอกว่าเพื่อนเราไปยุ่งกับสามีเขา พร้อมทั้งแฟกซ์ทะเบียนสมรสและใบสูติบัตรของลูกมาเป็นหลักฐาน
    เรื่องของเรื่องก็คือเพื่อนของเราทราบมาตัั้งแต่ต้นแล้วว่าแฟนเขามีพันธะ แต่เนื่องจากแฟนหนุ่มก็ได้บอกกับเพื่อนของเราว่า กำลังพยายามหย่าตั้งแต่ก่อนคบกับเพื่อนเรา แต่เนื่องจากอีกฝ่ายไม่ยอมง่ายๆ ทั้งที่ไม่ได้อยู่กินฉันท์สามีภรรยามานานมากแล้ว
    ทางคุณพ่อและคุณแม่ของเพื่อนขอร้องให้เพื่อนเราเลิกกับผู้ชายคนนี้ เพราะจริงๆ แล้วไม่อยากให้ลูกตนเป็นสาเหตุของการหย่าร้าง แต่เพื่อนสาวก็บอกว่าตอนนี้เขากับแฟนหนุ่มเป็นแค่เพื่อนกันแล้ว แต่ปัจจุบัน เพิ่งไปเปิดธุรกิจร่วมกัน และยังคงไปมาหาสู่กัน ซึ่งพ่อแม่ของเพื่อนก็ยังคงไม่สบายใจอยู่ที่เค้ายังอยู่ในสถานะอย่างนี้น่ะค่ะ เป็นห่วงท่านทั้งสองเหมือนกัน
    ดิฉันอยากขอคำปรึกษาหน่อยนะค่ะว่าควรจะบอกกับเพื่อนว่าอย่างไร เมื่อเพื่อนมาปรึกษา และจริงๆ ดิฉันก้อไม่ทราบว่าเพื่อนดิฉันได้ทำผิดศีลข้อใดหรือไม่คะ
     
  2. pim_jai

    pim_jai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +568
    เวลาเพื่อนมาปรึกษาก็รับฟัง เป็นผู้ฟังที่ดี แต่เพื่อนของคุณเค้าน่าจะรู้อยู่แล้วว่าเค้ากำลังผิดศีลข้อสามอยู่ ก็แล้วแต่เพื่อนคุณว่าจะจัดการกับชีวิตอย่างไรค่ะ ผู้ชายส่วนใหญ่ที่เป็นแบบนี้มักจะบอกกับผู้หญิงที่มาทีหลังว่ามีปัญหากับภรรยา กำลังจะหย่า แต่เอาเข้าจริงๆก็ไม่หย่าซักที ถ้าไม่อยากให้ผิดศีลข้อสาม ผู้ชายคนนั้นจะต้องไม่มีพันธะค่ะ

    http://www.peesirilaw.com/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%AA/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%9D%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%89%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B2.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2012
  3. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,960
    เอางี้แล้วกัน สิ่งใดที่ขึ้นชื่อว่าไม่ดี สิ่งนั้นย่อม บาป จะผิดศีลหรือไม่ ถ้าถามตามความจริงของผมคือผิด

    แล้วถ้าเพื่อนมาปรึกษา ก็ให้คำขาดกับเค้าไป เพราะการเป็นชู้ ไม่ดี จบ

    แล้วสุดท้ายเราจะห่วงเพื่อนมากขนาดไหนก็ตามก็พยามปล่อยวางไม่ต้องยุ่งเรื่องของเพื่อนซะบ้างครับ ช่วยแนะนำพอประมาณพอ
     
  4. birdskung

    birdskung Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +32
    อนุโมทนาค่ะกับความเป็นห่วง และหวังดีต่อเพื่อนของคุณ ดิฉันไม่ขอตอบคำถามของคุณว่าควรจะบอกเพื่อนอย่างไร และเพื่อนผิดศีลข้อใดหรือไม่ เพราะกัลยาณมิตรหลาย ๆ ท่านได้ตอบคุณไปแล้ว แต่ดิฉันจะขอตอบคุณด้วยเรื่องราวของดิฉันเองค่ะ เรื่องของดิฉันไม่ต่างจากเพื่อนของคุณเท่าไหร่ แต่ต่างกันตรงที่ตอนนี้ดิฉันกับผู้ชายคนนั้น เราจบกันไปแล้ว

    เรื่องเริ่มต้นเมื่อ 8 ปีที่แล้วค่ะ ดิฉันรู้จักกับแฟนและเราก็คบหากันจนเวลาผ่านไป 1 ปีเต็ม ดิฉันก็รู้โดยบังเอิญว่าแฟนดิฉันมีแฟนอยู่ก่อนแล้ว และเค้าเพิ่งกลับไปแต่งงานกันก่อนที่ดิฉันจะจับได้แค่อาทิตย์เดียว โดยที่ผู้หญิงคนนั้นท้องได้ 2 เดือน หลังจากรู้เรื่องดิฉันก็บอกเลิก และเปลี่ยนกุญแจห้องทั้งหมด ไม่ติดต่อกับเค้าอีก แต่เค้าก็ยังโทรมาหา พยายามมาหาที่ทำงาน และให้เพื่อนโทรมา บอกว่าไม่ต้องกลับมาคืนดีก็ได้ แต่เค้าขอโอกาสอธิบายกับเรื่องที่เกิดขึ้น ความผิดพลาดเริ่มต้นตั้งแต่ที่ดิฉันให้โอกาสเค้าอธิบายค่ะ

    เค้าบอกว่าที่ต้องแต่งงานเพราะผู้หญิงคนนั้นท้อง และงานแต่งงานทั้งหมดฝ่ายผู้หญิงเป็นคนจัดการทั้งหมด ทางบ้านเค้าไม่มีใครรับรู้ และไม่มีญาติพี่น้องไปร่วมงานเลย เค้าขอเวลาหากผู้หญิงคนนั้นคลอด เค้าจะรีบจัดการเรื่องให้จบทันที และระหว่างที่ผู้หญิงคนนั้นตั้งท้องอยู่ แฟนดิฉันก็อยู่กับดิฉันตลอด แต่เวลาผ่านไปเค้ากลับทำไม่ได้อย่างที่พูด กลายเป็นเรามีปัญหา มีปากเสียงกันตลอด เค้าเริ่มโกหกบ่อยขึ้น ทางบ้านดิฉันเองแม่ก็ไม่ยอมรับในตัวผู้ชายคนนี้ แต่แม่ดิฉันไม่ทราบเรื่องอะไรนะค่ะ เพราะตอนคบกันใหม่ ๆ ดิฉันเคยพาผู้ชายคนนี้เข้าบ้าน หลังจากเค้ากลับไป แม่ดิฉันได้มาเตือนและขอร้องว่าให้เลิกคบ เพราะผู้ชายคนนี้เป็นคนไม่ดี และจะนำความเดือดร้อนมาให้ ดิฉันเองที่ไม่ยอมฟัง และดึงดันที่จะคับกันต่อ โดยแอบคบกันเรื่อยมา

    ระหว่างที่คบกัน เรารัก ๆ เลิก ๆ กันมาตลอด แต่ก็ลงเอยด้วยการกลับมาคบกันเสมอ เพราะดิฉันรักเค้ามาก ยอมและพร้อมให้อภัยเสมอ แต่ในที่สุดแฟนดิฉันกับผู้หญิงคนนั้นก็เลิกกันค่ะ ด้วยปัญหาของเค้าสองคนเอง หย่ากันโดยสมบูรณ์ตามกฎหมาย แต่ตอนที่เค้าเลิกกันนั้นดิฉันกับเค้าได้เลิกรากันไปก่อนหน้าแล้วนะค่ะ

    ก็อย่างที่บอกไม่ว่าจะเลิกกันอย่างไร เราก็กลับมาคบกันอีก และครั้งนั้นก็เหมือนกัน พอกลับมาคบกันเค้าได้บอกกับดิฉันว่า เค้ากับผู้หญิงคนนั้นได้จดทะเบียนหย่ากันเรียบร้อย ดิฉันก็คิดว่าการกลับมาคบกันครั้งนี้คงจะทำให้ความรักเรายืนยาว และไม่มีปัญหาอุปสรรคใด ๆ อีก อีกทั้งอายุเราทั้งคู่ก็ควรจะก่อร่างสร้างตัวกันแล้ว แต่ไม่ใช่อย่างที่คิดเลยค่ะ การกลับมาครั้งนั้นเราคบกันได้แค่ปีกว่า ๆ แต่ก็เป็นปีกว่าที่ลุ่ม ๆ ดอน ๆ นิสัยผู้ชายเจ้าชู้ และไม่เคยพอ ก็ยังอยู่ในตัวเค้า ในที่สุดเราก็ทะเลาะกันด้วยเรื่องผู้หญิงเหมือนเดิม ดิฉันก็คิดว่าขนาดเค้ามีแฟนมีลูก เค้ายังมาคบกับเรา แล้วจะแปลกอะไรที่ถ้าเค้ามีเราแล้วเค้าจะไปมีคนอื่นอีก ลงท้ายเราก็เลิกกันค่ะ แต่คราวนี้ต่างกันตรงที่ดิฉันเป็นคนเลิก ดิฉันเก็บข้าวของออกมาจนหมด แล้วก็เลิกติดต่อกับเค้าไปเลย

    ลืมบอกไปว่าตอนที่กลับมาคบกันครั้งหลังสุด ดิฉันกับเค้าได้ลงทุนทำธุรกิจร่วมกันเหมือนกับเพื่อนของคุณ พอเลิกกันดิฉันก็เซ้งกิจการไป โดยตั้งจิตอธิษฐานว่าถ้าเซ้งได้ตามที่คิด และราบรื่น ก็จะไปปฏิบัติธรรม หลังจากตั้งจิตอธิษฐานได้ 3 วันดิฉันก็เซ้งได้ และได้เงินทุนคืนกลับมา จึงทำตามสัจจะที่ให้ไว้คือไปปฏิบัติธรรม แต่ก่อนที่จะไปวัด 1 วัน ดิฉันได้โทรไปหาผู้หญิงคนนั้น และขออโหสิกรรมกับทุกเรื่องที่เกิดขึ้น ว่าดิฉันเองสำนึกผิด และรู้สึกผิดกับเค้ามาก ไม่น่าเชื่อว่าเราคุยกันดีมาก เธออโหสิกรรมให้ดิฉัน และขอให้ดิฉันเข้าวัดด้วยความสบายใจไม่ต้องห่วง ดิฉันไปปฏิบัติธรรมเป็นเวลา 9 วันค่ะ และทุกครั้งที่ภาวนา หรือนั่งกรรมฐาน ก็แผ่เมตตาไปให้ทั้งผู้หญิงคนนั้น และแฟนของดิฉันด้วย

    เรื่องนี้อาจจะไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรมาก แต่ดิฉันอยากจะบอกเพื่อนของคุณว่า ไม่ต้องรอให้ตกนรกหรอกค่ะ ขนาดเรายังมีชีวิตอยู่ยังอยู่โดยไม่มีความสุข จิตมีแต่ความทุกข์ หึง หวง เศร้าซึม ขนาดเค้าหย่ากันแทนที่เราจะมีความสุข แต่เปล่าเลย กรรมมันตามทันค่ะ แต่ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นไปแล้ว ตอนนี้ก็ทำได้แต่เพียงหมั่นทำความดี ไม่ปล่อยให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีก ขอให้เพื่อนคุณโชคดีนะค่ะ บุญรักษาคะ
     
  5. lunglang

    lunglang สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +20
    ก็ต้องดูความจริงใจจากฝ่ายชายว่า รักผู้หญิงจริงหรือไม่ หรือแค่แอบคบฉันชู้สาว เพราะต้องดูเรื่องกฏหมาย หากผู้ชายจริงใจ ก็น่าจะฟ้องหย่า ตั้งนานแล้ว แม้ฝ่ายหญิงไม่ยินยอมเซ็นให้ก็ตาม แต่ก็คบกันต่อไปได้ ไม่ได้เสียหายอะไร นอกเสียจาก ผู้ชายยังรักเมียกับลูก แล้วเพื่อนผู้หญิง ไปแย่งเขามาเท่านั้นเอง
     
  6. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,572
    ค่าพลัง:
    +4,560
    คุณนารีกะไส
    1.เพื่อนคุณรู้ตั้งแต่แรกว่าเขายังมีนิตินัยอยู่ แต่พฤตินัยอาจไม่มีแล้ว แต่ก็ถือว่าผิดกฏหมาย แย่งผัวชาวบ้าน
    2.ชายมีลูกกับหญิง ทะเบียนสมรสยังอยู่ ไปคบกับเขา ก็ผิดศีลข้อ3แล้ว จะอ้างว่าคบแบบเพื่อน...ปากก็บอกอย่างนั้น แต่ใจคิดเตลิดแล้ว...พอฝนตก แสงไฟสลัวๆ บรรยากาศเร้าอารมณ์ ก็เสพกามกัน...โธ่..มนุษย์...ไปเจอกันในนรกโน่นในไม่ช้า
    3.ไม่ต้องเตือน...เลิกคบกับเพื่อนที่มีนิสัยใฝ่หานรกนี้เสีย เดี๋ยวสักวันหนึ่งเขาอาจมาดึงเราไปลงนรกด้วย เชื่อไอ้เรืองเหอะ....
    ผู้ชายมีมากมายในแผ่นดิน แล้วยังไปหลงไอ้บ้าที่ทิ้งลูกทิ้งเมียอีก เฮ้อ...เวรกรรม
     
  7. pim_jai

    pim_jai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +568
    จากประสบการณ์ที่เคยเห็นมารอบๆตัว ถ้าผู้ชายเขารักเพื่อนคุณจริง ไม่ได้มีอะไรทางพฤตินัยกับภรรยาเก่าแล้ว ติดอยู่แค่ทะเบียนสมรสอย่างเดียวเขาก็จะพร้อมเคลียร์ตัวเองไม่ให้มีพันธะค่ะ ไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม เขาก็จะพยายามทำให้เห็น แต่ถ้าเขายังรักภรรยาเก่าอยู่ เขาก็จะไม่ยอมหย่าค่ะ
     
  8. jane_lunla

    jane_lunla สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +11
    เจนเองก็เคยเจอเรื่องแบบนี้ค่ะ คือเจนได้รู้จักผู้ชายคนนึงทางเว็บธรรมะ ก็คุยกันมาตลอดหลายเดือน ส่วนใหญ่คุยกันเรื่องธรรมะ ตอนนั้นเจนถามว่าโสดไหม เขาบอกว่าเขาโสดแฟนเพิ่งทิ้งไป คุยกันถูกคอจึงนัดมาเจอและได้ตกลงคบกันค่ะ

    คบกันไปได้ไม่กี่วัน เขาก็มาบอกว่าเขามีภรรยาและลูกแล้วจดทะเบียนกันได้สองปี แต่ตอนนี้ทะเลาะกันภรรยาเขาหอบข้าวของและลูกหนีออกจากบ้านผู้ชายกลับไปอยู่บ้านเดิม ทิ้งผู้ชายไว้ เจนไม่เชื่อก็เลยค้นเบอร์โทรศัพท์ที่บ้านผู้ชายและโทรไปค่ะ แม่ผู้ชายก็รับสาย เจนก็สอบถามความจริง แม่ผู้ชายก็บอกว่าจริงตามที่เขาบอก เขาทะเลาะกันเรื่องเงิน ภรรยาเก่าเขาอยากได้บ้าน รถใหม่ อยากได้ATMผู้ชาย พอไม่ได้ดังใจเลยหอบข้าวของออกจากบ้านไป บอกว่าบ้านนี้จะไม่มาเหยียบอีก สินสอดที่ได้ไปจะคืนให้แม่ผู้ชาย ถ้าไม่มีบ้านกับรถใหม่จะไม่กลับมาคืนดี ถ้าไม่ได้ตามนั้นก็จะหย่ากับลูกชายของเธอ

    แต่เจนก็ฟังแบบฟังหูไว้หู คอยดูสถานการณ์ต่อไป พอแฟนเจนรู้เรื่องที่โทรไปบ้านเขา เขาก็บอกว่าจะไปจัดการเคลียร์ตัวเองให้เรียบร้อย เขาจะไปหย่ากับภรรยาเพราะมีบ้านและรถใหม่ให้เธอไม่ได้ อีกทั้งภรรยาเก่าก็ดูถูกแฟนและแม่ของแฟนไว้เยอะ

    เวลาผ่านไปนานพอสมควร ประมาณเกือบปีเรื่องก็ยังเคลียร์ไม่เสร็จ เจนเลยขอเลิกกับแฟน โดยให้เหตุผลว่าเขามีพันธะยังไม่เคลียร์ตัวเองให้เรียบร้อย แฟนเจนก็บอกว่าเขากับภรรยาเก่าไม่ได้เจอกันนานแล้วไม่ได้อยู่ด้วยกันและไม่ได้รักกันแล้ว แม่และญาติของแฟนก็ไม่ยอมให้ภรรยาเก่าเขาเข้าบ้านเพราะไปดูถูกผู้ชายและดูถูกครอบครัวเขาไว้เยอะ เจนก็บอกว่าเรื่องจะเป็นยังงัยก็ช่าง ฉันไม่อยากแย่งของรักของใคร ปล่อยเจนไปตามทางเถอะ อย่ามาจับปลาสองมือถ้าคุณรักภรรยาเก่าก็กลับไป ดูแลเขาและลูกให้ดีๆ อย่ามาหลอกลวงเจนอีกเลย เพราะเรื่องมันนานเกินไปคาราคาซังเป็นปีๆแล้ว

    จากนั้นเจนก็เลิกกับแฟนมาพักนึงค่ะ ยังไม่ทันข้ามเดือนเขาก็ไปจดทะเบียนหย่ากับภรรยาแล้วเอาหลักฐานมาให้ดู และมาขอคืนดี ขอคบด้วยเหมือนเดิม เจนก็เลยกลับไปคบแฟนเหมือนเดิมค่ะ เขาก็พาเจนเข้าบ้านไปรู้จักกับครอบครัวเขา และก็บอกว่าเขาเลือกเจนเพื่อมาแต่งงานด้วยค่ะ

    ก็สรุปว่า ถ้าผู้ชายเขารักเราจริง เขาก็จะเคลียร์ตัวเองให้เรียบร้อยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2012

แชร์หน้านี้

Loading...