เรื่องเด่น น้ำมันพืช... อันตรายระดับชาติ !!!

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย หนุกจังเลย, 14 มิถุนายน 2012.

  1. หนุกจังเลย

    หนุกจังเลย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2008
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +958
    [​IMG]

    น้ำมันพืช... อันตรายระดับชาติ !!!

    คนไทยตาสว่างเสียที…เลิกเสียเงินซื้อยาฝรั่ง ต้นเหตุเพียงแค่น้ำมันพืชเคลือบระบบดูดซึมอดีตเมื่อก่อน 30 ปีที่แล้ว คนไทยใช้น้ำมันมะพร้าว และ น้ำมันหมูทำกับข้าว จู่ๆโฆษณา(แหกตา)ฝรั่ง มากล่าวโทษวิถีไทยเดิมๆ มาขี้ตู่ เหวงว่าน้ำมันมะพร้าว และ น้ำมันหมู ทำให้คลอเลสเตอรอลสูง เพราะจับตัวเป็นไข แล้วขี้ตู่เ ว่าวิธีแก้คือ การใช้น้ำมันพืชปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่เปลี่ยนมาใช้น้ำมันพืช เพราะความเชื่อผิดๆที่ถูกฝรั่งฝังหัวมา แต่ปรากฏว่า อัตราการเป็นโรคต่างๆมากขึ้น … ไขมันในเลือดสูง, โรค หัวใจ, โรคไต, ภูมิแพ้…เป็นต้น
    วงการสุขภาพของตะวันตก เพิ่งจะมาตาสว่างเมื่อค้นพบโทษของน้ำมันพืชสหรัฐฯได้ออกมาตรการลด ละ เลิก ใช้ น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี(transfat oil)ใน หลาย ๆ รัฐท่านสามารถอ่านข่าวเหล่านี้ได้ เช่นอาร์โนลด์ ชวาชเนกเกอร์ ผู่ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย กับการแบนการใช้น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี โดยกล่าวว่า “การใช้น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี ทำให้เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ…”

    http://gov.ca.gov/press-release/10291/
    รัฐ เท็กซัส…พระราชบัญญัติขจัดน้ำมันพืชแปรรูปให้หมดจากร้านอาหารภายใน สิงหาคม 2553 KFC เริ่มเห็นโทษของน้ำ มันพืชผ่านกรรมวิธี ออกเมนูไร้น้ำมันพืช Transfat McDonald ประกาศเริ่มใช้ น้ำมันชนิดอื่น แทนน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีเมื่อปี 2007 เริ่ม ต้นที่ 1,200 สาขา Dunkin Donut ประกาศ เลิกใช้น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีตั้งแต่ปี 2550 เว๊บไซท์ ต่อต้าน transfat Ban Trans Fats: The Campaign to Ban Partially Hydrogenated Oils โรคที่มากับน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี…ระบบเผาผลาญอาหาร เสื่อม, เบาหวาน , ธัยรอยด์, เสื่อสมรรถภาพทางเพศ, โรคหัวใจ, โรคอ้วน, โรคไต
    transfatdisease.com

    อาหารที่พบอยู่ทั่วไปมีน้ำมันพืชเสมอ… ก๋วยเตี๋ยว, ผัดไทย, หอยทอด, ราดหน้า, ผัดผักทุกชนิด, ไก่ทอด, ปาท่องโก๋, ข้าวผัด ขนมอบ เบอเกอรี่…สรุปรวมว่าอาหารทุกชนิดที่ใช้ กะทะ (ผัด ทอด) ใช้น้ำมันพืชทั้งนั้น
    น้ำมันพืชเกือบทุกชนิด ใช้น้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบ ซึ่งราคาถูก แต่ขวางระบบดูดซึม น้ำซึมผ่านไม่ได้ หากใช้วัสดุอื่นตามที่โฆษณาจริง เหตุใด\จึงยังขายได้ในราคาถูกเช่นนั้นอย่าให้คำว่า ‘ไม่เป็นไข’ มาหลอกท่านได้อีกน้ำมันพืชเมื่ออยู่ในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 25 องศา จะดูสวยงาม ไม่เป็นไข ผิดกับน้ำมันหมูที่เมื่อยู่ในอุณหภูมิต่ำจะเป็นไข…แต่เมื่อน้ำมันพืชเข้าไปอยู่ ในร่างกาย อุณหภูมิ 37 องศา จะกลายเป็นกาวเหนียว เกาะติด
    ลำไส้ตั้งแต่ลำคอลงมาถึงลำไส้ใหญ่ไม่สามารถล้างออกได้ด้วยพืชผักที่เราทานเข้าไป และ ไม่สามารถล้างออกได้ด้วยน้ำชาธรรมดา…แต่น้ำมันจากสัตว์ และ น้ำมันมะพร้าว เมื่ออยู่ในอุณหภูมิร่างกายจะไม่มีทางเป็นไข และ จะละลายกับน้ำได้ สารอาหารต่างๆยังซึมเข้าร่างกายได้หากท่านลองนำน้ำมันพืชใส่ภาชนะ แล้วไปตั้งทิ้งไว้กลางแดดสัก 10 นาที อุณภูมิจะประมาณ 30 กว่าองศาใกล้เคียงร่างกายมนุษย์…ท่าน เช็ดน้ำมันพืชออกได้ยากมาก เหมือนกับที่เขม่ากาวติดกะทะ เครื่องครัว เขม่ากาวเหนียวนั่นคือผลของน้ำมันพืชโดนความร้อนจำเป็นต้องใช้กรดมาล้างเท่า นั้นแต่หากท่านลองใช้น้ำมันหมู หรือ น้ำมันมะพร้าว ใส่ภาชนะแล้วตาก
    แดด…จะพบว่าล้างออกได้โดยง่ายเมื่อน้ำมันพืชเคลือบระบบดูดซึมท่านทั้งหมด น้ำก็จะไม่เข้าร่างกาย
    ท่าน เมื่อท่านทานน้ำ น้ำก็จะถูกไตพาไปที่กระเพาะปัสสาวะโดยเร็วเสมือนกับท่านทานน้ำ 100% น้ำเกือบทั้งหมดไม่ได้ถูกดูดซึมเข้าไปใช้ในอวัยวะต่างๆเลย กลับเป็นภาระให้ไตนำไปทิ้งเกือบ 100% นี่คือ เหตุผลว่า ทำไมท่านทานน้ำแล้วฉี่บ่อย เป็นโรคไต และ โรคกระเพาะปัสสาวะ ตามมา เมื่อน้ำซึมเข้าตัว ไม่ได้ วิตามินที่มากับน้ำ เช่น วิตามินบี และ ซี ก็จะไม่เข้าร่างกายท่าน ขาดวิตามินบี ทำให้สมองมีปัญหา เฉื่อยชา ความจำสั้น หากหญิงกำลังตั้งครรค์ มีโอกาสทำให้ลูกคลอดมาเป็นออทิสติค ขาดวิตามินซี ทำให้ภูมิคุ้มกันมีปัญหาเป็นภูมิแพ้ หวัด ไวรัสเมื่อภูมิคุ้มกันมีปัญหา ท่านก็จะติดโรคอื่นๆได้ง่ายมาก จบลงด้วยการเสียเงินซื้อยา ฝรั่ง เงินทองไหลออกนอกประเทศ เพราะเพียงแค่ท่านหลงเชื่อว่าน้ำมันพืชสมัยใหม่ไม่เป็นอันตราย น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี จำเป็นต้องผ่านกระบวนการ
    - ฟอก สี (bleached) เพื่อให้สีดูสวย สดใส
    - แต่งกลิ่น (deodorized) เพื่อให้ไม่มีกลิ่นหื มีกลิ่นตามที่ต้องการ
    - ใส่ ไฮโดรเจน (hydrogenated)
    -กระบวนการเหล่านี้ทำให้สารเคมีเปลี่ยน เมื่อทานเข้าไปแล้วเป็นพิษต่อร่างกายโดยตรง
    เมื่อใดที่เห็นข้างกล่องผลิตภัณฑ์ว่า มีน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี ขอให้รู้ว่านั่นคือยาพิษ โยน ทิ้งขยะทันที …
    …Trans fats do not exist in nature. They are laboratory-designed and have adverse health consequences. They interfere with the body’s production of beneficial fatty acids and promote heart disease. As trans fatty acids offer no benefits and only clear adverse metabolic consequences, when you see the words partially hydrogenated on the side of a box, consider it poisonous and throw it in the trash. (Ascherio, A., and W. C. Willett. 1997. Health effects of trans fatty acids. Am. J. Clin. Nutr. 66 (4 supp.): 1006S–10S.)
    Dunkin' Donuts Kills Trans Fat : Disease Proof
    ถึงเวลาล้างได้แล้ว ท่านจำเป็นต้องล้างน้ำมันพืชในร่างกาย ที่สะสมมาตั้งแต่เกิดเสียที ด้วยสูตรตาม
    ธรรมชาติที่ท่านสามารถพึ่งพาตัวเองได้ มี 2 สูตร



    ที่ได้รับการทดสอบจากประชาชนทั่วไปมากกว่าห้าหมื่นคน และ ได้ผลสูตรที่เร็วที่สุด คือ น้ำชามะละกอ (ล้างอย่างเดียว แต่เร็ว)

    วิธีทำ : มะละกอดิบที่ใช้ตำส้มตำ นำมาหั่นเป็นชิ้นเหมือนชิ้นฟัก ประมาณ 6-8 ชิ้นต่อน้ำ 2 ลิตร จะขาดจะเกิน ไม่ผิด(ถ้าใส่มากเกินไปจะทำให้บูดง่าย มะละกอดิบที่เหลือ ใส่ตู้เย็นเก็บไว้ใช้ได้ในครั้งต่อไป) และ ใบเตย หรือ เก๊กฮวย อย่างใดอย่างนึง กะเอง ต้มในน้ำ จนเดือด พอเดือดได้ ประมาณ 1 นาที ปิดไฟทันที อย่าต้มต่อ ให้เอามะละกอ กับ ใบเตยทิ้ง(อย่า ปล่อยให้มะละกอเดือดจนเละ) แล้ว ใส่ใบชา ลงไปแช่ประมาณ 4 นาที ห้ามแช่นานกว่า 4 นาทีเพราะสารแทนนินจะออกมา ทำให้ท้องผูก แล้วตักใบชาทิ้ง จะได้น้ำชามะละกอ ดื่มร้อน หรือ เย็นได้ น้ำชาที่เหลือให้แช่ตู้เย็น เก็บไว้ได้ประมาณ 2 วัน เกินกว่านั้น จะบูด (ยางมะละกอล้างไขมัน, ใบเตยให้ความสดชื่น, ชาดับกลิ่นมะละกอ)




    สูตรนมสดโยเกิร์ตน้ำผึ้งมะนาว (ล้างและบำรุง ค่อยๆล้าง)
    นมสด โยเกร์ต น้ำผึ้ง มะนาว : ใช้โยเกิร์ตชนิดจืดครึ่งถ้วย ผสมนมสดชนิดจืด 1 กล่อง เติมน้ำผึ้ง 2 ช้อนชา และ บีบมะนาว 2 ลูก คนให้เข้ากัน ทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วค่อยดื่ม
    คุณสมบัติ : ใ ห้วิตามิน B บำรุงสมอง วิตามิน C เพิ่มภูมิต้านทาน, จุลินทรีย์ตัวดีช่วยย่อยน้ำ มันพืช, นมสด ให้แคลเซียม ขอให้ท่านมองดูคนป่วยรอบกายท่าน คนป่วยในสังคม แล้วถามตัวเองว่า
    - คนเหล่านั้น ทานน้ำมันพืชแล้วภูมิคุ้มกันมีปัญหา ป่วย แต่ไปรักษาปลายเหตุ ใช่หรือไม่ ?
    - คนป่วยเหล่านี้มากพอหรือยัง เงินที่คนป่วยเหล่านี้ต้องจ่ายซื้อ ยา เงินนั้นอยู่ในประเทศ หรือนอกประเทศ ?
    - เศรษฐกิจพอ เพียงจะเกิดขึ้นได้อย่างไร หากคนไทยยังไม่ดูแลสุขภาพตนเอง ต้อง
    พึ่งพายาฝรั่งไปเรื่อย ๆ ? ท่านอย่าเพิ่งเชื่อบทความใน e mail นี้ จนกว่า ท่านหาจะได้ข้อมูลเพิ่มเติมใน search engine (google) ต่างๆ ด้วยตนเอง โดย พิมพ์ key word ต่อไปนี้ (พิมพ์ครั้งละ 1 คำ)
    Transfat, transfat bill, vegetable oil bad health, hydrogenated oil, ชามะละกอ, อันตราย น้ำมันพืช…

    โดย หมอแดง ดิ อโรคยา
    www.the-arokaya.com

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 มิถุนายน 2012
  2. athikhom1965

    athikhom1965 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +77
    ขอบคุณมากครับ จะเป็นประโยชน์มากๆถ้ารัฐบาลไทยใส่ใจเหมือนเมืองนอก มีการห้ามขายสำหรับยี่้ห้อที่เป็นอันตรายทั้งหมด แล้วต่อไปจะใช้น้ำมันพืชยี่ห้อใดดีครับ
     
  3. คิดดีจัง

    คิดดีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,626
    ค่าพลัง:
    +5,354
    เห็นด้วยครับ

    หันมาใช้น้ำมันหมูกันดีกว่าครับ
     
  4. ปู นครนายก

    ปู นครนายก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2007
    โพสต์:
    357
    ค่าพลัง:
    +530
    ขอบคุณครับ
     
  5. pimphorn

    pimphorn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +47
    ขอบคุณอย่างสูงกับข้อมูลที่ให้มาค่ะ มีประโยชน์มากเลย ต่อไปจะหันมาซื้อมันหมูมาเคี่ยวเองแล้วค่ะ จริง ๆ ที่บ้านก็ทานสูตรโยเกิร์ต นมสด น้ำผึ้ง มะนาวมาประมาณ 5-6 เดือนแล้ว อาการแพ้อากาศตอนเช้า (จาม น้ำมูกไหล) หายไปเลยโดยที่ไม่รู้ตัว หวัดก็ไม่เป็นนานแล้ว สูตรนี้ทานง่ายและก็ทำได้ง่ายด้วยค่ะ ที่บ้านจะทำทานกันตอนประมาณ ตี 5-5.30 ทุกวันค่ะ
     
  6. tuta868248

    tuta868248 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    563
    ค่าพลัง:
    +1,116
    ในปัจจุบันมีการโฆษณา ไม่รู้อะไรจริงอะไรไม่จริง สมัยก่อน 30 - 40 ปี ไม่มีอาหารหมูเป็นกระสอบเป็นถุงขาย หมูกินต้นกล้วย กิน ผักโขม ต้ม ใส่แกลบ อ้วนพลีดีงาม คนกินเนื้อหมู น้ำมันหมูก้ไม่มีสารตกค้างไม่อันตราย แต่สมัยนี้หมูกินอาหารที่เป็นอาหารมีขายตามท้องตลาดท่านทั้งหลายคิดดูอะไรจะดีกว่ากัน แต่ถ้าศึกษาให้ดี ไม่มีอะไรดีเลย อันตรายทั้งนั้น คะ ดูอาหารแมว แมวกินทุกวัน กินไปกินมาแมวตาย หมาตาย แล้วคนละจะรอดหรือคะบุญรักษาคะ
     
  7. captainzire

    captainzire เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,551
    ค่าพลัง:
    +2,822
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
    ส่วนตัวเห็นว่าใช้น้ำมันหมูผัดกับข้าว
    หอมกว่่อร่อยกว่ามากครับ
     
  8. MonkeyAstro

    MonkeyAstro เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    225
    ค่าพลัง:
    +202
    ขอบคุณสำหรับขอมูลครับ
     
  9. tawatd

    tawatd เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    506
    ค่าพลัง:
    +2,020
    อาหารที่พบอยู่ทั่วไปมีน้ำมันพืชเสมอ… ก๋วยเตี๋ยว, ผัดไทย, หอยทอด, ราดหน้า, ผัดผักทุกชนิด, ไก่ทอด, ปาท่องโก๋, ข้าวผัด ขนมอบ เบอเกอรี่…สรุปรวมว่าอาหารทุกชนิดที่ใช้ กะทะ (ผัด ทอด) ใช้น้ำมันพืชทั้งนั้น
    น้ำมันพืชเกือบทุกชนิด ใช้น้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบ ซึ่งราคาถูก แต่ขวางระบบดูดซึม น้ำซึมผ่านไม่ได้ หากใช้วัสดุอื่นตามที่โฆษณาจริง เหตุใด\จึงยังขายได้ในราคาถูกเช่นนั้นอย่าให้คำว่า ‘ไม่เป็นไข’ มาหลอกท่านได้อีกน้ำมันพืชเมื่ออยู่ในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 25 องศา จะดูสวยงาม ไม่เป็นไข ผิดกับน้ำมันหมูที่เมื่อยู่ในอุณหภูมิต่ำจะเป็นไข…แต่เมื่อน้ำมันพืชเข้าไปอยู่ ในร่างกาย อุณหภูมิ 37 องศา จะกลายเป็นกาวเหนียว เกาะติด
    ลำไส้ตั้งแต่ลำคอลงมาถึงลำไส้ใหญ่ไม่สามารถล้างออกได้ด้วยพืชผักที่เราทานเข้าไป และ ไม่สามารถล้างออกได้ด้วยน้ำชาธรรมดา…แต่น้ำมันจากสัตว์ และ น้ำมันมะพร้าว เมื่ออยู่ในอุณหภูมิร่างกายจะไม่มีทางเป็นไข และ จะละลายกับน้ำได้ สารอาหารต่างๆยังซึมเข้าร่างกายได้หากท่านลองนำน้ำมันพืชใส่ภาชนะ แล้วไปตั้งทิ้งไว้กลางแดดสัก 10 นาที อุณภูมิจะประมาณ 30 กว่าองศาใกล้เคียงร่างกายมนุษย์…ท่าน เช็ดน้ำมันพืชออกได้ยากมาก เหมือนกับที่เขม่ากาวติดกะทะ เครื่องครัว เขม่ากาวเหนียวนั่นคือผลของน้ำมันพืชโดนความร้อนจำเป็นต้องใช้กรดมาล้างเท่า นั้นแต่หากท่านลองใช้น้ำมันหมู หรือ น้ำมันมะพร้าว ใส่ภาชนะแล้วตาก
    แดด…จะพบว่าล้างออกได้โดยง่ายเมื่อน้ำมันพืชเคลือบระบบดูดซึมท่านทั้งหมด น้ำก็จะไม่เข้าร่างกาย
    ท่าน เมื่อท่านทานน้ำ น้ำก็จะถูกไตพาไปที่กระเพาะปัสสาวะโดยเร็วเสมือนกับท่านทานน้ำ 100% น้ำเกือบทั้งหมดไม่ได้ถูกดูดซึมเข้าไปใช้ในอวัยวะต่างๆเลย กลับเป็นภาระให้ไตนำไปทิ้งเกือบ 100% นี่คือ เหตุผลว่า ทำไมท่านทานน้ำแล้วฉี่บ่อย เป็นโรคไต และ โรคกระเพาะปัสสาวะ ตามมา เมื่อน้ำซึมเข้าตัว ไม่ได้ วิตามินที่มากับน้ำ เช่น วิตามินบี และ ซี ก็จะไม่เข้าร่างกายท่าน ขาดวิตามินบี ทำให้สมองมีปัญหา เฉื่อยชา ความจำสั้น หากหญิงกำลังตั้งครรค์ มีโอกาสทำให้ลูกคลอดมาเป็นออทิสติค ขาดวิตามินซี ทำให้ภูมิคุ้มกันมีปัญหาเป็นภูมิแพ้ หวัด ไวรัสเมื่อภูมิคุ้มกันมีปัญหา ท่านก็จะติดโรคอื่นๆได้ง่ายมาก จบลงด้วยการเสียเงินซื้อยา ฝรั่ง เงินทองไหลออกนอกประเทศ เพราะเพียงแค่ท่านหลงเชื่อว่าน้ำมันพืชสมัยใหม่ไม่เป็นอันตราย น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี

    ข้อความข้างบนมาจากใหนครับ ขอแหล่งอ้างอิงทางวิชาการที่เชื่อถือได้ด้วยครับ หากมี ขอบคุณครับ
    ไม่เชื่อง่าย
     
  10. wanakonth

    wanakonth เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2009
    โพสต์:
    2,154
    ค่าพลัง:
    +5,776
    เอ่อ คำว่าน้ำมันพืช มันก็รวมน้ำมันมะพร้าวเข้าไปด้วยไม่ใช่หรอครับ
     
  11. teww

    teww เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    604
    ค่าพลัง:
    +1,534
    กินน้ำมันหมูมากๆ ก็สะสมในร่างกาย มากๆเข้าจะเป็นเม็ดไขมันแข็งๆผุดขึ้นตามคอ ใบหู หน้า แผ่นหลัง และหนังศร๊ษะ
    เป็นแล้วเลยบอกต่อ
     
  12. pechklang

    pechklang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    400
    ค่าพลัง:
    +829
    Thanks! ขอบคุณในสาระดีๆ ที่นำมาเผยแพร่..ครับ
     
  13. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    น้ำมันหมูนอกจากจะทำให้อาหารหอมแล้ว กากหมูยังอร่อยสุดๆๆๆ แต่ตอนนี้กินไม่ได้ลดน้ำหนักอย่างแรงอยู่
     
  14. wild win

    wild win เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2011
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +436
    นั่นสิ ตอนเด็กๆก็ทานแต่น้ำมันหมูเจียวเอง พอปัจจุบันทานแต่น้ำมันพืช

    สังเกตว่าเขม่าน้ำมันพืชที่เกาะตามผนังจะเช็ดออกยากกว่า เขม่าจากน้ำมันหมู คือจะหนืดมาก คิดว่าน่าจะจริงถ้าเข้าไปในร่างกายเราคงจะเกาะแน่นตามผนังกระเพาะลำไส้

    สงสัยต้องกลับมาเจียวน้ำมันหมูทาน น่าจะดี ยอมเสียเวลาหน่อย
     
  15. jamroll

    jamroll เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +295
    แล้วน้ำมันมะกอกล่ะคะ เป็นอีกทางเลือกได้มั๊ย ยอมแพงกว่าหน่อย
     
  16. omio

    omio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,214
    เป็นเรื่องจริงที่ว่าน้ำมันพืชที่เราทานประจำ มีอันตรายเพราะผ่านขบวนการผลิตต่าง ๆ ตามระบบอุตสาหกรรม

    นอกจากน้ำมันพืชแล้ว ยังมีน้ำมันที่มีอันตรายสูงอีกคือ

    -เนยขาว (shortening) ซึ่งนำมาทอดขนม เช่น โดนัทยี่ห้อดัง ๆ จะใช้เนยขาวทอดขนมจะกรอบ อร่อย

    -มาการีนที่เอามาทาบนขนมปัง ก็ทำมาจากน้ำมันปาล์มผ่านกระบวนการ แล้วเติมสีเหลือง แต่งกลิ่นให้หอมเหมือนเนย

    น้ำมันที่ดีที่สุด คือน้ำมันที่ไม่ผ่านกระบวนการ คือ ใช้วิธีการสกัดเย็น
    (cold pressed) ซึ่งราคาสูง (ซึ่งจะคุ้มค่าในระยะยาวเมื่อเปรียบเทียบกับค่ารักษาโรคต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นจากการใช้น้ำมันข้างต้น) น้ำมันมะกอกที่ขายอยู่ตามร้าน จะมีหลายอย่าง ชนิดดีที่สุด จะเขียนว่า first cold pressed ซึ่งจะใช้ทำน้ำสลัด แต่ไม่เหมาะที่จะนำมาประกอบอาหารที่ต้องทอดหรือผัด และบางคนจะไม่ชอบกลิ่นของน้ำมันมะกอก

    ที่ใช้อยู่ต้อนนี้คือ จะใช้น้ำมันพืชหรือน้ำมันหมูให้น้อยที่สุดหรือผสมน้ำมันมะกอกลงไปเมื่ออาหารเกือบสุก

    น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นก็มีประโยชน์มากต่อร่างกาย ทำเองไม่ยากและจะถูกกว่าไปซื้อที่ขายเป็นขวด
     
  17. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    เท่าที่อ่านจากข้อมูล ประเด็นที่ทำให้น้ำมันพืชเป็นอันตราย คือ

    - การเติมไฮโดรเจนลงไป หรือที่เรียกว่า ไฮโดรจีเนท (Hydrogenate) ซึ่งเติมลงไปเพื่อกันหืนและยืดอายุสินค้า มักจะพบว่ามีการใช้น้ำมันกลุ่มนี้ในพวกอุตสาหกรรมอาหารสำเร็จรูป ขนมบรรจุห่อ และอาหารฟาสฟู็็ดส์ ส่วนน้ำมันบรรจุขวดในบ้านเรามีการเติมแบบนี้หรือเปล่า? ต้องดูข้างขวด

    - การประกอบอาหารด้วยน้ำมันที่อุณหภูมิสูง ใช้ความร้อนจัด มีผู้แนะนำว่าให้ใช้ไฟอ่อนๆ อย่าใช้ไฟแรงเกินไป อาหารทอดจึงควรเลี่ยง

    - การใช้น้ำมันทอดซ้ำ อันตรายชัวร์

    ส่วนน้ำมันหมู ถ้าทานมากเกินไป ต้องระวังเรื่องไตรกลีเซอไรด์สูง คอเรสเตอรอลสูง (ถ้าทานน้ำมันหมูบ้าง ก็ทานพวกกระเจี๊ยบแดง ดอกคำฝอย ช่วยแก้)
     
  18. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    น้ำมันพืชบรรจุขวดให้สังเกตดูฉลาก ว่ามี trans fat เท่าไหร่?

    มีลิงค์น่าสนใจมาแนะนำให้เพื่อนสมาชิก

    น้ำมันหมู สู่ Trans Fat หัวใจยังอันตราย
    Never-Age.com :: Anti-Aging น้ำมันหมู สู่ Trans Fat หัวใจยังอันตราย น้ำมันหมู ไขมัน saturated fat trans fat

    การติดฉลากไขมันชนิดทรานส์ : สหรัฐอเมริกา(Trans Fat Nutrition labeling : US)
    ---สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ---
     
  19. Pukku

    Pukku เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2012
    โพสต์:
    327
    ค่าพลัง:
    +899
    ขอคคุณข้อมูลดีๆนะคะ
     
  20. Yarkfun

    Yarkfun สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +2
    เห็นด้วยอย่างยิ่งครับเพราะสงสัยมานาน ขอเปลี่ยนมาเป็นน้ำมันหมูแทนนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...