ปิดประมูลดวงแก้วแห่งความรัก"ธนภัทรบรมจักร-ศุภลักษณ์นภาศรี"

..ผลบุญไม่ประพฤตินอกใจสามี..

ขออนุโมทนาบุญกับน้องธรรมวิวัฒน์เช่นกันค่ะ ก่อนจะนำเรื่องราวมาเล่าต่อไป พี่ขอนำอานิสงส์ของความมั่นคงในความรัก และการไม่ประพฤตินอกใจสามี มาเล่าสู่กันฟังนะคะ

*****************​

ผลบุญไม่ประพฤตินอกใจสามี
​

​

ในพระไตรปิฎกได้กล่าวถึงพระมหาโมคคัลลานะ พระอัครสาวกฝ่ายซ้ายแห่งองค์สมเด็จพระพุทธสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านมักท่องเที่ยวไปในสามภพ เช่น แดนสวรรค์ เป็นต้น บางครั้งท่านได้ไปเข้าฌานสมาบัติในสวรรค์ วันหนึ่งท่านได้พบเทพธิดาผู้มีความงดงาม และอานุภาพมาก จึงได้สอบถามผลบุญที่นางได้กระทำครั้งเป็นมนุษย์ พระมหาโมคคัลลานะถามว่า...

“ดูกรนางเทพธิดาผู้มีอานุภาพอันยิ่งใหญ่ท่านได้วิมานอันมีนกกระเรียน นกยูงทอง นกดุเหว่าดำ และนกดุเหว่าขาวซึ่งมีทิพยานุภาพเที่ยวส่งเสียง อย่างไพเราะอยู่รอบด้านในวิมานนั้นเต็มไปด้วยดอกไม้หอมชื่นใจ วิจิตร ไปด้วยนานาประการแวดล้อมไปด้วยเทพบุตรและเทพธิดา

อนึ่ง หมู่ นางเทพอัปสรเหล่านี้มีฤทธิ์นิรมิตรูปร่างขึ้นแปลกๆ กันเป็นอันมาก ฟ้อนรำขับร้องอยู่รอบข้างให้ท่านมีความร่าเริงอยู่ ดูกรนาง<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com</st1ersonName>เทพธิดาผู้มี อานุภาพอันยิ่งใหญ่ครั้งท่านยังเป็นมนุษย์ได้ทำบุญสิ่งใดไว้ จึงบรรลุ ความสำเร็จท่านมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และรัศมีกายของท่านสว่างไสวไปทั่วทิศเพราะบุญอะไร?”

นางเทพธิดานั้น อันพระมหาโมคคัลลานะซักถามแล้ว มีใจยินดี ได้พยากรณ์ปัญหาแห่งผลกรรมที่ถูกซักถามว่า..


“ครั้งดิฉันยังเป็นมนุษย์อยู่ในหมู่มนุษย์ได้เป็นผู้มีสัจจะมั่นในสามี ไม่ ประพฤตินอกใจ มีความจงรักต่อสามีเหมือนกับมารดารักบุตร แม้ดิฉัน จะโกรธเคืองก็ไม่กล่าวถ้อยคำอันหยาบคายละทิ้งการพูดเท็จเสีย ดำรง มั่นอยู่ในความสัตย์ ยินดีในการให้ทานตามปกติชอบสงเคราะห์ผู้อื่น เช่นกับสงเคราะห์ตน มีใจเลื่อมใสได้ให้ข้าวและน้ำอย่างดีเป็นทาน โดยความเคารพ

ด้วยความเป็นผู้ถือสัจจะมั่น เหตุนั้นดิฉันจึงมีผิวพรรณ ถึงเช่นนี้ อิฐผลจึงสำเร็จแก่ดิฉันในวิมานนี้และโภคทรัพย์ทั้งหลายอัน เป็นที่รักแห่งใจทุกสิ่งทุกอย่างบังเกิดแก่ดิฉันก็เพราะความเป็นผู้ถือ สัจจะมั่นในสามีเป็นเหตุนั้นข้าแต่ภิกษุผู้มีอานุภาพอันยิ่งใหญ่ ดิฉันขอ บอกแก่ท่าน ครั้งดิฉันยังเป็นมนุษย์ได้ทำบุญสิ่งใดไว้ เพราะบุญอันนั้น ดิฉันจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองถึงเช่นนี้และรัศมีกายของดิฉันจึงสว่างไสวไปทั่วทุกทิศ”

<O</O
จากปติพพตาวิมานที่ ๑ ว่าด้วยผลบุญที่ทำให้ไปเกิดในปติพพตาวิมาน

ขอขอบคุณ :http://www.polyboon.com/dhumma/26_001.php
<O</O

​

พี่เองก็ได้เคยตั้งจิตอธิษฐานไว้ว่า..
<O</O

"หากข้าพเจ้าเกิดมาเสร้างบารมีภพชาติใดตาม เว้นแต่คู่บารมีที่แท้จริงแล้ว อย่าให้ตนมีจิตปฏิพัทธิ์ต่อชายใดเลย ขอให้มีความมั่นคงในรักเฉพาะคู่บารมีอันดับ ๑ เท่านั้น

หากแม้ชาติใด คู่บารมีอันดับหนึ่งของข้าพเจ้าลงมา เพื่อบำเพ็ญเนกขัมมบารมี ขอให้มีจิตรู้ แต่อย่าให้มีจิตปฏิพัทธิ์ ฉันท์ชู้สาว ขอเพียงได้เป็นผู้อุปฐากท่านจนกว่าท่านจะสำเร็จตามความปรารถนาสูงสุด....”

เหตุที่คนเราเกิดมาหลายภพหลายชาติ เราอาจจะหลงรักผู้อื่นตามบุญจัดสรรในแต่ละชาติ ทำให้บางท่านมีคู่ครองหลายคน

บางชาติ คู่บารมีอาจจะเกิดมาพร้อมกันหลายคน เกิดการแย่งชิงคนรัก ก่อให้เกิดการสร้างกรรมใหม่ไม่รู้จักสิ้น

ฉะนั้น หากเรายังต้องเกิดอีก การอธิษฐานล้อมกรอบเอาไว้เป็นดีที่สุดค่ะ จะได้ไม่ต้องไปติดบ่วงรักใครอื่น นอกจากคู่บารมีที่แท้จริงค่ะ

<Oขออนุโมทนาบุญกับน้องธรรมวิวัฒน์ และทุก ๆ ท่านค่ะ
Numsai

 

[MUSIC][/MUSIC]​

โอ้..อ่านแล้วประหนึ่งไปตีตั๋วชมเรื่องมัทนพาธา...ข้างเวที อ่านแล้วซึ้งจัง โดยเฉพาะบทสุดท้าย.

การบำเพ็ญบารมีของพระโพธิสัตว์กับคู่บารมี หรือนางแก้วนั้น แรกเริ่มก็ไม่ต่างจากความรักของปุถุชนทั่วไป มีรัก มีเสน่หา มีอาลัย..

แต่เมื่อบารมีเข้มข้น ความรักจะเปลี่ยนเป็นความเมตตาที่มีต่อกัน ช่วยเหลือกันโดยอีกฝ่ายยอมสละเลือดเนื้อ หรือแม้แต่สละชีวิตก็ยอมได้ เพื่อให้อีกฝ่ายสมความปรารถนา


ขออนุโมทนาบุญกับน้องน้ำตาลด้วยค่ะ

Numsai

 

ผมขอแสดงความคิดเห็นนะครับ
สำหรับเรื่อง นางแก้ว ตามที่ผมเข้าใจ นะครับ

นอกจาก ความรักจะเปลี่ยนเป็นความเมตตาที่มีต่อกัน ช่วยเหลือกัน ตามที่พี่น้ำใส พูดแล้วนะครับ

แต่สิ่งหนึ่งที่มีในใจของนางแก้ว ผมว่าน่าจะเป็น
ความมีน้ำใจสงสารและอยากช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้ข้ามพ้นกองทุกข์
และมีกำลังใจเข้มแข็งเท่าเทียมกับพระโพธิสัตว์องค์หนึ่งเช่นกัน

ดังเช่นที่พระนางพิมพาได้ช่วยเหลือพระพุทธองค์ ยาวนานตลอด ๔ อสงไขยกับเศษแสนกัป

มันเป็นความศรัทธาอย่างแรงกล้าต่อพระโพธิสัตว์องค์นั้น

มันอาจจะเป็นความรู้สึกที่ว่า
"เราเห็นพระโพธิสัตว์องค์นั้นมีความสุข เราเองมีความสุขใจเป็น 2 เท่าเลยนะครับ..."

เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ถ้าเขียนผิดก็ต้องขอโทษ พี่น้ำใส ด้วยนะครับ

 

ลึกซึ้งมาก สุดยอดครับ

 

พี่น้ำใสครับจะอธิฐานจิตอย่างไร ให้สำเร็จตามที่เราปรารถณาบ้างครับ

 

พี่น้ำใสคะ...ถามเพิ่มค่ะ
ในเมื่อเราเลือกที่จะบำเพ็ญบารมีร่วมกับคู่อันดับหนึ่งแล้ว อธิษฐานก็แล้ว
แต่คู่อันดับสองไม่ยอม...เท่าที่ทราบ คู่อันดับสองยังหวังว่าจะมีชาติที่เราจำไม่ได้
แล้วจัดการรวบหัวรวบหาง อย่างงี้มีอะไรพอจะแก้ได้ไหมคะ?


กลัวว่าเราอธิษฐานไป เสร็จแล้วท่านอันดับสองไปอธิษฐานทับอีกชั้น
เหมือนชาติที่พระนางพิมพาเกิดเป็นพี่สะใภ้ แล้วพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นน้องเขยน่ะค่ะ

 

ก็อธิษฐานว่า ไม่ว่าคำอธิษฐานใดของผู้อื่นอันมีต่อตัวข้าพเจ้าและคู่บารมีอันดับหนึ่งไม่ว่าภพภูมิใด ชาติภพใดก็ตามก่อนหน้าหรือหลังจากคำอธิษฐานของข้าพเจ้า ขอให้เป็นโมฆะไปทั้งสิ้น ขอให้ข้าพเจ้าระลึกได้ถึงความปรารถนา และคำมั่นอันมีต่อคู่บารมีอันดับหนึ่งได้ทุกภพทุกชาติไป พอไหวไหมคะพี่สาว

แต่เพชรซี่เป็นคนจู้จี้จุกจิก เลยอธิษฐานยาวกว่านี้และแรงกว่านี้หน่อย

เอ่อ กลอนที่ฝากเพชรซี่ สะเทือนใจอย่างไรพิกลนะ รู้สึกเหมือนโดนเต็มๆน่ะตาลซี่

 

โอ๊ยยย... ซึ้งงง
รู้สึกว่าเลยวาเลนไทน์มาแล้วนะครับ

 

ง่ะ ต้องมาช่วยกันคิดนะคะ มีคนแอบมาซึ้งด้วย จริงๆจะว่าซึ้งก็ซึ้ง แต่ยังไม่เข้าขั้นมาก เพราะว่า ยังไม่จบค่ะ มาร่วมลุ้นเจ้าของกันค่ะ

 

ขออนุโมทนาบุญกับน้องธรรมวิวัฒน์ด้วยค่ะ จริงตามคำกล่าวทุกประการค่ะ

การปรารถนานางแก้วหรือคู่บารมีพระโพธิสัตว์นั้น เริ่มจากความศรัทธาในความดีของพระโพธิสัตว์ก่อนอันดับแรก ปรารถนาที่จะช่วยเหลือ และอยู่เคียงข้าง ความศรัทธานั้น กลั่นเป็นบุญส่งผลให้กลายมาเป็นคู่บารมีกันในชาติต่อ ๆ มา

พี่เคยพบพระพิมพาเถรี ท่านมาในภาคพระภิกษุณีชรา แต่ยังคงความงดงาม ท่านลอยอยู่กลางอากาศ เดิมทีเข้าใจว่า ท่านคือพระนางปชาบดีโคตมีเถรี แต่เมื่อฟังพระสุรเสียงที่ไพเราะมาก ท่านกล่าวว่า..

"เราคือพิมพายโสธรา เราจะมาบอกเธอในเรื่องการวางกำลังใจของผู้ปรารถนานางแก้ว..

...จงรักพระโพธิสัตว์ดุจมารดาที่รักบุตร คอยเฝ้ามองบุตรเติบโต

ให้กำลังใจยามที่ท่านท้อแท้เหนื่อยหน่าย อย่าทอดทิ้งให้ท่านโดดเดี่ยว คอยอยู่เคียงข้างท่านอยู่เสมอ

จงดำรงตนดุจเทน้ำลงทะเลทราย แม้น้ำจะแห้งเหือดหายไป ก็ยังคงเทน้ำลงทะเลทรายอยู่เสมอ อย่าได้หวังว่าจะได้รับสิ่งใดตอบแทน วันหนึ่งเธอจะสามารถช่วยพระโพธิสัตว์เติมบารมีให้เต็มได้

เราขอเป็นกำลังใจให้เธอ..ให้สมความปรารถนานั้น.."

ขณะที่ท่านกล่าวนั้น เหมือนมีน้ำเย็นไหลผ่านกายเรา เย็นฉ่ำชุ่มชื่น มีความสุข คล้าย ๆ กับกระแส"ดวงแก้วธนภัทรบรมจักร -ศุภลักษณ์นภาศรี" ขณะนี้ แต่เย็นชุ่มฉ่ำกว่าค่ะ รอยยิ้มของท่านยังจำได้

ผลบุญใดที่ได้จากการให้ธรรมทานในครั้งนี้ ขอน้อมถวายพระนางพิมพาเถรี และน้อมถวายพระแม่คู่บารมีพระโพธิสัตว์ทุก ๆ พระองค์ซึ่งดับขันธ์เข้าสู่พระนิพพานนานแล้ว เพื่อน้อมถวายเป็นสังฆบูชา สาธุ..

ขออนุโมทนาบุญกับน้องธรรมวิวัฒน์ที่ช่วยให้ธรรมทานครั้งนี้ และโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่ติดตามอ่านด้วยค่ะ

Numsai

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณ mooom ด้วยค่ะ การอธิษฐานจิตของแต่ละท่านนั้นก็มีเทคนิคแตกต่างกันออกไป ไม่มีบทตายตัว

สำหรับพี่นั้น เมื่อสร้างบุญครั้งใด ไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก พี่จะกลั่นใจให้ใส ๆ นึกถึงบุญที่ทำมาในอดีตจนใจชุ่มฉ่ำ


หากยังไม่ได้ก็แผ่เมตตาแบบอัปปมัญญาโดยรอบ จากนั้นจะอาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ตลอดทั้งครูบาจารย์


จากนั้นรวมบุญบารมีทั้งหมดนับอสงไขยไม่ถ้วน แล้วอธิษฐานจิตตามที่เราปรารถนาทั้งทางโลก และทางธรรมค่ะ


ฝึกอธิษฐานบ่อย ๆ เรื่อย ๆ จนเป็นตบะ หากเราต้องการอะไร แค่เพียงคิดก็มีผู้บันดาลความสำเร็จให้เราแล้วค่ะ พระท่านว่า ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน สำเร็จที่ใจ นี้เป็นเรื่องจริงค่ะ

ขออนุโมทนาบุญอีกครั้งค่ะ

Numsai

 

ความจริงแล้วเรื่องคู่บารมีนี้ เป็นเรื่องบุญจัดสรรค่ะ ผู้ใดจะเป็นคู่กันได้นั้น ต้องเปี่ยมด้วยศรัทธา ศีล ปัญญา และจาคะเสมอกัน ถึงแม้อีกฝ่ายไม่ยอมก็ทำอะไรไม่ได้

การสร้างพระใหญ่ หรือประธานเร็วสุด ดูในเว็บใครสร้างพระใหญ่ หรือพระประธาน วัดท่าขนุนงัย ร่วมสร้างเลยนะคะ เราร่วมบุญแล้ว อธิษฐานทุกครั้ง ขอครองคู่กับท่านนั้นเพียงผู้เดียว

การที่เราเป็นมนุษย์นั้นได้เปรียบ อธิษฐานด้วยกายหยาบ ผลบุญที่ได้ส่งผลเร็วกว่าค่ะ ไม่ต้องกลัว ขอเพียงมั่นคงต่อท่านเดียว อย่างไรก็สำเร็จ

อีกท่านหนึ่งก็ทำอะไร ก็เรื่องของท่าน บางครั้งวิสัยพุทธภูมิ มักไม่ค่อยยอม เราเฉย ๆ หนักเข้าก็ไม่คุยด้วยเลย อิอิ..ดูซิ เราไม่พูดจะคุยกะใคร


การที่เป็นมนุษย์ได้เปรียบเทวดาตรงนี้แหละค่ะ เราจะมีขันธ์ ๕ ถึงแม้ว่าเป็นทุกข์ มีเจ็บมีไข้ และเหน็ดเหนื่อย แต่เมื่อสร้างบุญก็ได้มาก ได้เร็ว ผู้ปรารถนาโพธิญาณ หรือปรารถนาอื่น ๆ จึงต้องมาเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อเร่งสร้างบารมีค่ะ

การทำบุญในวันสำคัญทางศาสนา เป็นบุญใหญ่ โดยเฉพาะปีนี้ พุทธชยันตี ครบ ๒,๖๐๐ ปี เราสร้างบุญก็เร่งบารมีได้ค่ะ ย่นระยะชาติได้ด้วย ตายจากชาตินี้ก็ไปนอนตีพุงข้างบน รอเกิดในยุคพระศรีอารียเมตไตรย อิอิ..

สำหรับกรณีอดีตชาติของพระนางพิมพานั้น ท่านเป็นมนุษย์ทั้งคู่ เมื่ออธิษฐานจึงมีผลต่อเนื่องค่ะ คงสบายใจขึ้นแล้วนะคะ

ขออนุโมทนาบุญทุก ๆ บุญของน้องน้ำตาลด้วยค่ะ

P'Numsai

 

สาธุ ขอโมทนากับธรรมทานของพี่ค่ะ...สบายใจขึ้นมาก ขอบคุณนะคะ
ปวดหัวและเหนื่อยใจมานาน ในที่สุดก็ได้ทางออกเสียที...
เป็นผู้หญิงว่ายากแล้ว...เป็นนางแก้วนี่ยากกว่าอีกค่ะ
ในใจนั้น...หากไม่ได้เป็นนางแก้วของท่านอันดับหนึ่งแล้ว ก็ไม่ขอปรารถนาเกิดเป็นหญิงอีกเลย


ขอโมทนาสาธุการอีกครั้งนะคะ
และขอโมทนากับคำตอบคำถามของคุณธรรมวิวัฒน์และคุณ mooom ด้วยค่ะ


ปล. เพชรซี่เลิกซุ่มและเตรียมตัวประมูลดวงแก้วได้แล้วนะจ้ะ

 

เพชรซี่ไม่ได้ซุ่มนะ แค่แอบดู และลุ้นน่ะซี

 

ขอโมทนาบุญกับธรรมทานของพี่น้ำใส คุณธรรมวิวัฒน์ คุณน้ำตาล ด้วยครับ

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณนำใสและทุกๆท่านครับ

รอลุ้นผู้ที่เป็นเจ้าของดวงแก้วครับ

 

ขออนุโมทนาบุญกับน้องน้ำตาลด้วยค่ะ เมื่อหลายปีก่อน มีท่านผู้หนึ่งได้แต่งกลอนได้ไพเราะเพราะพริ้ง ประหนึ่งท่านเสมาหลงยุคมาเกิด

เหตุเกิดจากการกล่าวถึงเรื่อง การชิงดีชิงเด่นของเหล่านางแก้วทั้งหลาย ก่อนจะได้เป็นคู่บารมีอันดับหนึ่ง ทำให้ไม่อยากทำหน้าที่ และไม่อยากเกิดเป็นหญิงอีก ท่านผู้นี้ได้กล่าวความสำคัญของนางแก้ว ในการปรารถนาพระโพธิญาณของหน่อเนื้อพุทธางกูรทั้งหลายว่า ...

~~~~~~~~~~~~~​

นางแก้ว​

หลายวาระ ... เวลา ... ข้ายังหวน
จิตยังครวญ ...บทเพลง ... นางสวรรค์
คือนางแก้ว ... ผู้สละ ... เพื่อพระอัน
อภิเษกสรรค์ ...เป็นดวงเนตร ... แห่งจอมไตร

ความอ่อนโยน ... เมตตา ...มั่นในองค์
ยอมทรงตน ... มั่นคง ... อสงไขย
แม้เหนื่อยล้า ... หากโพธิฯ ...ยังก้าวไป
ขอเพียรตาม ... รับใช้เบื้อง ...พุทธางกูล

... สาธุ ...

โพธิญาณ ... การเกื้อ ... เพื่อหมู่สัตว์
จิตวิรัตน์ ... มโน ...ดั่งมหา
แลพระนาง ... อุทิศ ... เพื่อพุทธา
หวังเพียรสม ... โมทนา ..ข้าพระพุทธองค์ ...

โมทนากับบารมีแห่งสหชาติบารมี
พระนาง<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com</st1ersonName>แก้ว ทุกองค์ ในทุกกาล
ด้วยไตรทวาร ...สาธุ....

จาก.. เจ้าพระยา (กรุงเก่า)


ขออนุโมทนาบุญกับท่านเจ้าของวลีอันไพเราะนี้ด้วยเถิด สาธุ..

Numsai

 

..ประวัติดวงแก้วธนภัทรบรมจักร-ดวงแก้วศุภลักษณ์นภาศรี ตอนที่ ๒ ..

ประวัติดวงแก้วธนภัทรบรมจักร-ดวงแก้วศุภลักษณ์นภาศรี
ตอนที่ ๒






<O</O
​

หลังจากอภิเษกสมรสแล้ว พระนางศุภลักขณาเทวีได้กล่าวแก่พระสวามีถึงเรื่อง การเสด็จไปเยี่ยมเยียนพระดาบสตามสัญญา ก่อนจะเข้าพิธีเสี่ยงทาย พระธนบวรฯ ได้ทรงรับปากและได้เรียกเสนาอำมาตย์มาประชุม และมอบหมายงานต่างๆ ให้แก่ผู้รับผิดชอบในส่วนงานนั้น ๆ

และได้สั่งการให้จัดขบวนช้างม้าข้าทาสบริพารเสด็จไปยังอาศรมของพระภักษดาบส ซึ่งอยู่ในป่า ระหว่างทางที่เสด็จผ่านไปนั้น มีประชาชนต่างคอยเข้าเฝ้าพระราชา และพระมเหสีของตนด้วยความจงรักภักดี

ใกล้ค่ำพระธนบวรฯ ทรงให้จัดที่พักก่อนจะเสด็จไปถึงพระอาศรมของพระดาบส เพื่อไม่เป็นการรบกวนการบำเพ็ญสมณธรรม และโปรดให้นางสนองพระโอษฐ์ จัดเตรียมผลไม้เลิศรสของเมือง เพื่อถวายแก่พระดาบส

ครั้นรุ่งเช้าได้พระธนบวรธรรมราชา และพระมเหสีได้เสด็จไปยังอาศรม พระภักษดาบสได้ออกจากสมาบัติพอดี และได้เนรมิตดวงแก้วขึ้นมา ๑ ดวง ถวายแด่พระธนบวรฯ เพื่อเป็นของขวัญในการอภิเษกสมรสกับพระนางศุภลักขณา และกล่าวให้พรว่า..

“ขอให้เจ้าทั้งสองพบแต่สิ่งที่บริสุทธิ์ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ขอให้มีความมั่นคงในรักในทุกภพทุกชาติที่เกิดมาสร้างบุญร่วมกัน ดวงแก้วนี้ข้าฯได้อธิษฐานจิตเพื่อเป็นพยานในความรักที่มั่นคงของเจ้าทั้งสอง และเป็นของควรค่าในงานมงคลอภิเษกสมรส เพื่อใช้ในการเลี้ยงดูราษฎรให้มีความอุดมสมบูรณ์

ส่วนดวงแก้วที่มีมาพร้อมกับเจ้าศุภลักขณานั้น จะช่วยให้บริวาร คนรอบกาย และหัวเมืองน้อยใหญ่ต่างมีความจงรักภักดี

อีกไม่นานนัก แคว้นน้อยใหญ่ต่างมาเป็นมิตรและยอมสวามิภักดิ์ต่อเจ้า และในอนาคตกาลเจ้าทั้งสองจะได้พบพระพุทธเจ้า เพื่อรับการพยากรณ์ แต่ข้าฯ คงไม่ได้อยู่ถึงวันนั้น ขอให้เจ้าทั้งสองตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรม ครองรักกันโดยธรรม ชีวิตก็จะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ทั้งในภพนี้ และภพหน้า”

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

Numsai

 

..ประวัติดวงแก้วธนภัทรบรมจักร-ดวงแก้วศุภลักษณ์นภาศรี ตอนที่ ๓..

ประวัติดวงแก้วธนภัทรบรมจักร-ดวงแก้วศุภลักษณ์นภาศรี ตอนที่ ๓




​

เมื่อกล่าวจบ พระภักษดาบสได้มอบดวงแก้วมณีแก่พระธนบวรดาบส จากนั้นได้หลั่งน้ำลงดินบอกกล่าวแก่พระแม่ธรณี เพื่อเป็นสิกขีพยาน

ด้วยความระลึกถึงคุณของครูบาอาจารย์ พระธนบวรธรรมราชาได้ให้เสนาอำมาตย์ และข้าบริพารกลับเมืองก่อน ส่วนพระองค์นั้นได้ฝากตัวเป็นศิษย์พระภ้กษดาบส และได้ถืออุโบสถศีล ๑๕ วัน เพื่อเป็นการบูชาครู

สำหรับพระนางศุภลักขณานั้น ได้ถืออุโบสถศีลตามพระสวามีเป็นเวลา ๑๕ วันเช่นกัน ในระหว่างที่พระองค์ทั้งสองได้ปฏิบัติธรรมในป่านั้น เสียงร่ำลือเรื่องการออกผนวชชั่วคราวของพระธนบวรธรรมราชา และพระมเหสีนั้น ได้ขจรขจายไปทั่วประชาชนต่างแคว้นต่างเมืองต่างแซ่ซ้องสรรเสริญพระธนบวรธรรมราชา และพระมเหสี

ทำให้กษัตริย์ต่างเมืองน้อยใหญ่ เกิดความสนใจในข้อวัตรปฏิบัติ และได้เสด็จมายอมสวามิภักดิ์ขณะที่พระองค์ และพระมเหสียังทรงถืออุโบสถศีลนั่นเองกษัตริย์บางเมืองก็ได้มาร่วมถืออุโบสถศีล ๗ วัน บ้าง ๑๕ วันบ้าง หรือ ๑ เดือนบ้างตามสมควร

ส่วนพระธนบวรฯ นั้นได้ประจักษ์คำพยากรณ์ของพระภักษดาบสแล้ว จึงเกิดความศรัทธาเลื่อมใส ได้ถืออุโบสถศีลต่อไปอีก ๓ เดือน เพื่อเป็นการระลึกถึงครูบาอาจารย์แต่อดีตกาลมา

ทำให้บ้านเมืองของพระองค์ และเมืองของกษัตริย์ผู้มาร่วมถืออุโบสถศีลนั้น ต่างมีความอุดมสมบูรณ์ปราศจากการสู้รบ ต่างคนต่างเกื้อกูลกันโดยธรรม ครบกำหนด ๓ เดือนต่อมา พระภักษดาบสได้ให้ทรงเสด็จกลับ เพื่อปกครองบ้านเมืองต่อไป

ครั้นกลับมาถึงพระนครไม่นาน มีบุรุษผู้หนึ่งนามว่า “ภัทธิยมานพ” ได้มาขอเฝ้า และกล่าวว่า ตนได้ทิพจักขญาณตั้งแต่ ๗ ขวบ สามารถเรียกทรัพย์ได้จากในน้ำ และใต้ดินได้

ราชบุรุษได้นำไปทดสอบ ปรากฏว่า ทำได้จริง พระธนบวรธรรมราชานั้น ทราบว่า นี้คือขุนคลังแก้วของพระองค์ ซึ่งปรากฏตามกำลังบุญหลังจากพระองค์ ถืออุโบสถศีล ๓ เดือน จึงตั้งภัทธิยมานพเป็น “ภัทธิยโภคบดี” เป็นตำแหน่งเสนาบดีการคลังแทนคนเดิมที่ชราแล้ว และปูนบำเหน็จให้แก่ขุนคลังคนเดิมเป็นอย่างดี

ต่อมาก็มีบุรุษหนึ่ง นามว่า โมฬียะ มีพละกำลังมหาศาล สามารถล้มช้าง ๗ เชือกได้พร้อมกัน เมื่อเสนาบดีกลาโหมทราบข่าวได้ให้ราชบุรุษนำตัวมาเข้าเฝ้าแด่พระธนบวร ฯ จึงตั้งให้บุรุษนี้ในตำแหน่ง ผู้ช่วยเสนาบดีกลาโหม จากนั้นได้ขึ้นเป็น “โมฬียมหาเสนาบดี” แทนเสนาบดีกลาโหม คนเดิมที่เกษียณไป

วันหนึ่งพระภักษดาบสได้มาที่พระราชวัง ปรากฏต่อหน้าพระที่นั่ง และได้กล่าวแก่พระธนบวรฯว่า..

“ถึงกาลแล้วที่มหาบพิตรจะต้องทำพิธีอัญเชิญช้างแก้ว และม้าแก้ว มหาบพิตรจะต้องถืออุโบสถศีล ๑๕ วัน เพื่ออัญเชิญช้างแก้ว และถืออุโบสถศีล ๗ วัน เพื่ออัญเชิญม้าแก้ว”

จากนั้นพระดาบสได้บอกวิธีการเตรียมโรงช้างแก้ว และโรงม้าแก้ว เพื่ออัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองอย่างให้ปรากฏขึ้นตามบุญบารมี

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ
Numsai

 

..ประวัติดวงแก้วธนภัทรบรมจักร-ดวงแก้วศุภลักษณ์นภาศรี ตอนที่ ๔..

ประวัติดวงแก้วธนภัทรบรมจักร-ดวงแก้วศุภลักษณ์นภาศรี ตอนที่ ๔​

<O ​

ครั้นพระภักษดาบสกลับไปแล้ว พระธนบวรธรรมราชาได้ให้ราชบุรุษเตรียมโรงช้างแก้ว และโรงม้าแก้ว โดยนำไม้มงคล ๙ อย่าง มาทำเป็นโรงช้าง ประดับด้วยพันธุ์ไม้ และดอกไม้หอมนานาพันธุ์ และเตรียมผลไม้มงคลหายาก ๙ อย่าง

ส่วนพระธนบวรธรรมราชา หลังจากมอบหมายงานราชการให้แก่เสนาอำมาตย์ที่รับผิดชอบแล้ว ทรงนุ่งขาวห่มขาวเข้าพิธีถืออุโบสถศีลเป็นเวลา ๑๕ วัน เพื่ออัญเชิญช้างแก้ว และถืออุโบสถศีล ๗ วัน เพื่ออัญเชิญม้าแก้ว

หลังจากที่พระธนบวรฯได้ถืออุโบสถศีลครบตามกำหนด ๑๕ วันก็ปรากฏช้างแก้วเหาะมากลางอากาศตรงมายังโรงช้าง เมื่อพระธนบวรฯ เสด็จมาช้างแก้วก็ได้หมอบลง เพื่อให้พระธนบวรฯนั่ง และเหาะไปทั่วชมพูทวีป เพียงชั่วเสี้ยววินาที

กาลต่อมา เมื่อพระธนบวรฯ ได้ถืออุโบสถศีลครบ ๗ วัน ก็ปรากฏม้าแก้วขึ้นที่โรงม้าที่เตรียมการตามวิธีการอัญเชิญช้างแก้ว ม้าแก้วเหาะมากลางอากาศ ส่งเสียงร้องดังไปทั่ว สร้างความปลื้มปิติใจแก่ประชาชนชาวเมืองเป็นอย่างยิ่ง

กล่าวถึงพระนางศุภลักขณาเทวี ได้ทรงนุ่งขาวห่มขาวและถืออุโบสถศีลเป็นเวลา ๑๕ และ ๗ วัน ตามพระสวามีทุกประการ การถืออุโบสถศีลนั้น ทำให้พระนางยิ่งมีสิริโฉมงดงามยิ่ง ๆ อีกทั้งพระวรกายยังส่งกลิ่นหอมฟุ้งเป็นบริเวณกว้างกว่าเดิมในทุกสถานที่พระนางเสด็จไป ทำให้พระธนบวรฯได้หลงไหลพระนางมาก ไม่เคยเหลียวแลหญิงใดเลย

ต่อมาพระธนบวรฯ ทรงยกเลิกกฎมณเฑียรบาลที่นางสนมจะต้องเข้าถวายตัวแก่พระราชานั้น จะต้องมีความยินยอม และนางสนมในวังมีสิทธิจะเลือกคู่ครองด้วยตนเองจะไม่มีการบังคับใจดังเช่นกาลก่อนและหากนางใดประสงค์จะประพฤติพรหมจรรย์จะแยกไปถวายตัวรับใช้พระนางศุภลักขณาโดยมิให้มาปะปนแก่ราชบุรุษในวัง

หรือแม้แต่เสนาอำมาตย์ รวมทั้งทหารในวังมีความรักชอบพอนางในวัง ให้มาสู่ขอจากพระองค์ตามประเพณี สร้างความพอใจให้แก่ข้าทาสบริพารเป็นอย่างมาก ต่างแซ่ซ้องสรรเสริญในพระมหาเมตตากรุณาของพระองค์ทำให้บ้านเมืองอยู่ด้วยความร่มเย็นเป็นสุขตลอดมา

ในคืนหนึ่งพระนางศุภลักขณาได้มีพระสุบินถึงพระภักษดาบสให้พระธนบวร ฯ และทุกคนในเมืองถืออุโบสถศีล เป็นเวลา ๑๕ วัน จากนั้นให้เดินทางไปยังอาศรมของพระดาบส เมื่อพระนางตื่นจากพระบรรทม จึงได้ตรัสแก่พระธนบวรฯ พระองค์ได้ให้โหรหลวงทำนายว่า เป็นนิมิตดี ควรแก่การปฏิบัติตาม คือทุกคนในเมืองนั้น ถืออุโบสถศีล เป็นเวลา ๑๕ วัน

ทั้งนี้ทรงไม่ได้บังคับ แต่ประชาชนทั้งเมืองต่างพร้อมใจกันถืออุโบสถศีลด้วยความเต็มใจ ไม่เว้นแม้เด็กทารกแรกเกิด หลังเที่ยงให้นำน้ำผึ้งให้ป้ายปากแทนการดื่มนมแม่

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่เยี่ยมชม ช่วยเชียร์และร่วมประมูลด้วยค่ะ
Numsai