เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย พี เสาวภา, 7 เมษายน 2008.

  1. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,037
    [​IMG] [​IMG][​IMG]
    ในระยะแรกที่หลวงปู่สีมาอยู่ที่วัดเขาถ้ำบุญนาคนั้น ท่านจำพรรษาอยู่ที่กุฏิไม้ หลังเล็กๆหน้าปากทางขึ้นถ้ำ (ปัจจุบันรื้อไปแล้ว) ในขณะนั้นคนในตลาดตาคลียังไม่ค่อยมีใครรู้จักหลวงปู่สี และท่านก็ไม่ได้แสดงอิทธิฤทธิ์อันใดให้ใครรู้ วันหนึ่งๆท่านจะนั่งตะบันหมากฉัน การฉันหมากของท่านก็ไม่เหมือนใคร เพราะท่านไม่ได้ฉันเปลือกไม้ที่มีขายตามท้องตลาดเหมือนที่คนกินหมากทั่วไปซื้อมากิน หลวงปู่สี ท่านจะฉันแก่นไม้คูนแดงซึ่งจะมีคนตัดมาถวายตลอด ท่านจะนำมาฟันเป็นชิ้นๆ แล้วนำลงตำให้ละเอียดแล้วจึงฉันกับหมากแทนเปลือกไม้
     
  2. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,037
    [​IMG] [​IMG]
    ในราวปลายปี พ.ศ.๒๕๑๓ ข้าพเจ้าได้ทราบจากเพื่อนว่า มีพระเป็นหลวงปู่แก่ๆ มาอยู่ที่วัดเขาถ้ำบุญนาค ข้าพเจ้าจึงชวนเพื่อนๆมาหา จุดประสงค์ที่มาหามิใช่ที่จะต้องการเครื่องรางของขลังแต่ประการใด แต่เพราะต้องการจะมาหาเลขเด็ด เพราะเพื่อนบอกว่าท่านบอกหวยได้แม่นยำมาก ในวันแรกที่มาหาท่านก็ไม่ได้แจกอะไรให้ แต่บอกใบ้หวยให้ ซึ่งหวยก็ออกตามที่ท่านบอก นับตั้งแต่นั้นมาข้าพเจ้าก็จะไปหาหลวงปู่สีเป็นประจำ อยู่มาวันหนึ่งข้าพเจ้าเห็นหลวงปู่สีมีอารมณ์ดี ข้าพเจ้าจึงถามหลวงปู่สีว่ามีของดีอะไรบ้าง ผมอยากจะได้เอาไว้ป้องกันตัว หลวงปู่สี ท่านขณะนั้นกำลังกินหมากอยู่ ก็คายชานหมากออกมาใส่ผ้าเหลืองที่ท่านใช้ทำเป็นผ้าขี้ริ้ว แล้วผูกส่งให้ข้าพเจ้าพร้อมทั้งบอกว่า”ห้ามแก้ออกนะ” หลวงปู่สี ท่านยังบอกอีกว่าหากใครเขาอยากยิงมึง มึงก็ถ่างก้นให้มันยิงเลย สามวันสามคืนก็ไม่ถูกมึง (คำพูดอันนี้มีนัยยะ คือคนที่เขามีของขลัง หรือสักยันต์กินว่าน ที่ว่าหนังเหนียวตีไม่แตกนั้น ถ้าจะฆ่าเอาชีวิตกันก็จะต้อง ใช้ไม้รวกทะลวงก้น เหมือนในเรื่องขุนช้าง-ขุนแผน ที่แสนตรีเพชรกล้า แม่ทัพเชียงใหม่ ฆ่าฟันเท่าไรก็ไม่ตายจนขุนแผนต้องเอาหลาวทะลวงก้นจึงถึงแก่ความตาย... หลวงปู่สี ท่านมีความมั่นใจมากในการอธิษฐานจิตของท่าน ถึงแม้คนที่ใช้ของๆท่านจะโดนยิงที่จุดตายจุดสำคัญก็ตาม ท่านรับรองว่าปลอดภัย) ข้าพเจ้ารับมาแบบไม่ค่อยเชื่อถือเมื่อกลับถึงบ้านแล้วก็นั่งคุยกับเพื่อนๆถึงเรื่องนี้ ขณะนั้นมีพ่อค้าวัว-ควาย เป็นชาวปาทานอยู่ในตาคลีนั่งฟังอยู่ด้วย ซึ่งเขาบอกว่าเขาอยากลองยิงดู ข้าพเจ้ามอบชานหมากของหลวงปู่สีให้เขาไป เขานำไปคล้องคอไก่แล้วยิงปืนรีวอลเวอร์ ขนาด .๓๘ ระยะห่างประมาณ ๑ วาเศษเท่านั้น เขายิงหมดไป ๖ นัดไม่เคยถูกไก่เลย สักนัดเดียว ทั้งๆที่เขาเป็นคนที่ยิงปืนได้แม่นยำมากคนหนึ่ง นับแต่นั้นมาข้าพเจ้าจึงเชื่อถือใน ชานหมากหลวงปู่สี
     
  3. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,037
    [​IMG] [​IMG]
    หลังจากที่ชาวป่าทานยิงไก่ได้ประมาณสัก ๑ อาทิตย์ ได้มีนายทหารอากาศกองบิน ๔ ชื่อ เรืออากาศโทครรชิต บัวอำไพ (ปัจจุบันยศนาวาอากาศเอก ข้าพเจ้าขอกราบประทานอภัยที่ต้องเอ่ยนามของท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วย) ได้มาคุยกับข้าพเจ้าเรื่องชานหมากของหลวงปู่สี ในลักษณะที่ท่านไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ที่จะยิงไม่ถูก ข้าพเจ้าจึงมอบชานหมากที่มีอยู่ให้ไป ๑ ก้อนเพื่อให้ไปทดลอง เที่ยงวันรุ่งขึ้น เรืออากาศโทครรชิตฯ ได้มาหาข้าพเจ้าที่บ้านพร้อมกับเพื่อนนายทหารอากาศอีก ๕-๖ คนโดยขอให้ข้าพเจ้าช่วยพาไปวัดหน่อย ต้องการจะได้ชานหมากอีก พร้อมทั้งเล่าให้ฟังว่า เมื่อได้รับชานหมากไปจากข้าพเจ้าแล้วจึงได้นำไปทดลอง โดยนำไปคล้องคอเป็ดแล้วยิง แต่ยิงเท่าไรก็ไม่ถูก ใช้ปืนถึง ๔ กระบอก และคนยิงก็เป็นมือปืนของกองบินทั้งนั้น ครั้นนำเป็ดออกเอาก้อนหินไปวางแทน ยิงก้อนหินกระเด็นเลย แต่ยิงเป็ดยิงเท่าไรก็ไม่ถูกเป็นที่มหัศจรรย์ใจมาก จึงพาเพื่อนทหารที่อยู่ในเหตุการณ์มาหาข้าพเจ้า เพื่อให้ช่วยพาไปพบหลวงปู่สี ซึ่งข้าพเจ้าก็พาไปพบ และก็ได้ชานหมากกันมาทุกคน ส่วนก้อนที่นำไปทดลองยิงเป็ดนั้น เรืออากาศโทครรชิตได้นำไปเลี่ยมทองคล้องอยู่จนทุกวันนี้
     
  4. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    กราบ ๆ ๆ หลวงปู่ สี

    หลวงปู่สีเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อเจริญ วัด ตาลานใต้ พระดีอีกองค์น่ะครับ
     
  5. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,037
    คำว่า "รัก" คำเดียว:หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    [​IMG] ลพ.ฤาษีลิงดำ

    คำว่า “รัก” คำเดียวไปนิพพานได้หรือไม่ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ มีคำตอบ

    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (ฤาษีลิงดำ) ได้เคยสอนเอาไว้ว่า ความรักตัวเดียว ความรักเพียงคำเดียว ศีล ๕ ครบถ้วน
    ๑.รักเขา เราไม่คิด ปองร้าย ไม่ทำอันตรายต่อคนและสรรพสัตว์ ศีลข้อ ๑
    ๒.รักเขา เราไม่คิด จะเอาของอันเป็นที่รัก หากเขาไม่อนุญาต ศีลข้อ ๒
    ๓.รักเขา เราไม่คิด ที่จะผิดศีลธรรมลูกหรือเมียของผู้อื่น ศีลข้อ ๓
    ๔.รักเขา เราไม่คิด ที่จะใส่ร้าย ป้ายสี ผู้อื่น ไม่คิดโกหกหลอกหลวง
    หวังซึ่ง ทรัพย์สินของผู้อื่น หรือรู้ว่าของปลอมก็หลอกลวงว่าเป็นของจริง ของไม่ใช่ก็หลอกหลวงว่า เป็นของใช่ของแท้ ศีลข้อ ๔
    ๕.รักเขา เราไม่คิด ที่จะชักชวนให้ผู้อื่น ให้ติดของมึนเมา คำว่า”สุรา เมรัย” มิได้หมายถึง เหล้า อย่างเดียว แต่หมายถึง สิ่งของที่เสพ แล้วติด รวมเรียกว่ายาเสพติด เอาไปขายให้เขา เอาไปให้เขาเสพ ศีลข้อ ๕

    “รัก” ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ศีล ๕ ครบ เมื่อมีศีลคือความดี ก็เกิดสมาธิ คือจิตแน่วแน่ในความดี เมื่อมีศีล สมาธิ ก็เกิดปัญญา ปัญญาในการพิจารณาธรรมะ ศีล สมาธิ ปัญญา นำพาไปสู่แดนนิพพานได้ นี่คำว่า “รัก” คำเดียว ไปนิพพานได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มิถุนายน 2012
  6. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    รายการที่ 1 พระคำข้าว ๑ ทำความดี ส่งพระวันนี้
    รายการที่ 2 พระหางหมาก ๑ MooDam ส่งเมื่อวาน
    รายการที่ 3 พระคำข้าว ๒ อาณัติ รอที่อยู่
    รายการที่ 4 พระหางหมาก ๒ putsudsoi มารับเอง
    รายการที่ 5 เหรียญพระนิพพาน nopsena ส่งวันนี้
    รายการที่ 6 รูปหล่อรุ่นแช่น้ำมนต์ พราหมณ์ ได้รับแล้วครับ
    รายการที่ 7 ปลัดไม้มะยมตายพราย Krishs มารับเอง
    รายการที่ 8 แม่พิม เนื้อไม้ตะเคียน Krishs มารับเอง
    รายการที่ 9 แหวนแม่พิม เนื้อเงิน รุ่นแรก แสงแข ส่งเมื่อวาน


    ยังเหลืออีกท่าน งั้นถ้าเย็นนี้ผมว่างจะเปิดรอบที่ ๔ ล่ะครับ<!-- google_ad_section_end -->

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->
     
  7. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,037
    [​IMG] [​IMG]
    หลังจากนั้นมาทหารอากาศกองบิน ๔ ตาคลี ต่างก็หลั่งไหลมาฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่สีอย่างมากมาย สถานีวิทยุกระจายเสียงทหารอากาศกองบิน ๔ ก็ออกอากาศเรื่องของหลวงปู่สีทุกวัน ทำให้หลวงปู่สีเป็นที่รู้จักกันทั่วไป และใครๆ ก็อยากได้ชานหมาก และวัตถุมงคลของหลวงปู่สี ทำให้หลวงปู่สีต้องเคี้ยวหมากแจกทั้งวัน ...... (ท่านสามารถอ่านเรื่องของหลวงปู่สี ฉันทสิริ วัดเขาถ้ำบุญนาค เพิ่มเติมได้ จากหนังสือ ”สู่แสงธรรม” ของท่าน พลอากาศตรี มนูญ ชมพูทีป (ยศเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๕) ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยงข้องกับหลวงพ่อฤาษีฯ ของเราด้วย ซึ่งที่ซอยสายลมยังมีวางจำหน่ายอยู่ครับ)
    กระผมขอกราบนมัสการ แทบเท้าหลวงปู่สี ฉันทสิริ ด้วยความเคารพอย่างสูง ธรรมใดที่ท่านบรรลุแล้ว ขอให้กระผมได้เข้าถึงธรรมนั้น โดยเร็วพลันด้วยเทอญ .....และกระผมขอกราบอาราธนาบารมี ของหลวงปู่สี ฉันทสิริ วัดเขาถ้ำบุญนาค หลวงพ่อฤาษีลิงดำ รวมทั้งครูบาอาจารย์ที่เคารพอย่างสูงทุกๆท่าน ได้โปรดคุ้มครอง ปกปักรักษาให้ทุกๆ ท่านโชคดี มีความสุข และได้บรรลุธรรมตามที่ท่านปรารถนาทุกประการ...ครับ
     
  8. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,037
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    ขออภัยครับ กระผมมีข้อมูลมาเพิ่มเติมอีกครับ เนื่องจากประวัติของหลวงปู่สี มีนักเขียนหลายท่านที่เขียนไว้ และแต่ละท่านก็อ้างว่าได้รับฟังมาจากหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค หรือศิษย์ที่รับใช้ใกล้ชิด มีทั้งส่วนที่คล้ายคลึงกัน และแตกต่างกันบ้าง เพื่อให้เรื่องของท่านมีความสมบูรณ์ กระผมก็ขอนำเรียนเสนอเท่าที่พบ หากข้อความใดไม่เป็นความจริง กระผมขอกราบแทบเท้าหลวงปู่สี ฉันทสิริ วัดเขาถ้ำบุญนาค กรุณาอดโทษให้แก่กระผมผู้รู้เท่าไม่ถึงการณ์ด้วยเถิดครับ...ท่านนักเขียนที่ใช้นามว่า เต๋อ บางตัน เล่าว่า
     
  9. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289

    ต้องขออนุญาต คุณ เต๋อ บางตัน ที่เอามาลงน่ะครับ
     
  10. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,037
    [​IMG] เปิดบัญชี [​IMG] [​IMG] สมเด็จองค์ปฐม

    วันนี้ ( ๖ มิ.ย.๒๕๕๕ ) เวลา ๑๕.๐๐ น. ปรับบัญชีล่าสุด ขอโมทนาสาธุ กับท่านสาธุชน ผู้มีใจบุญ ใจกุศล ร่วมประมูล บริจาคนำรายได้
    ๑.สร้างห้องปฏิบัติธรรม กรรมฐาน ถวายพระปลัดวิรัช โอภาโส(ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) ณ วัดธรรมยาน ต.นาเฉลียง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์
    ๒.สร้างพระนาคปรก ๑๔ ศอก ถวายหลวงปู่บุญศรี อินทวัณโณ
    ๓. และสร้างสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมชำระหนี้สงฆ์ หน้าตัก ๔ ศอก พร้อมวิหาร ณ วัดธรรมยาน ต.นาเฉลียง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์

    ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย มีสมเด็จองค์ปฐมเป็นประธาน พระศรีอาริยเมตไตรย พระปัจเจกพุทธเจ้า ทุกพระองค์ พระพรหมทุกชั้นฟ้า เทพเทวดาทุกชั้นฟ้า ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ท้าวมหาราชทั้งสี่ และพญายมราช ขอจงได้เสด็จมาร่วมรับรู้ ร่วมโมทนา ร่วมเป็นเจ้าภาพ ร่วมถวาย ร่วมรับ ร่วมเป็นสักขีพยาน ร่วมได้รับประโยชน์ ความสุข ในบุญกุศล ของท่านทั้งหลาย ครอบครัว และบุคคลอันเป็นที่รักของท่าน ด้วย เทอญ อิทธิ ฤทธิ พุทธนิมิตตัง ขอเดชะ เดชัง ขอเดช เดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่ มะ อะ อุ นี้ด้วยเถิด ขอโมทนา สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2012
  11. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,037
    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    ข้าพเจ้ารักและเคารพหลวงปู่สี ฉันทะสิริ วัดเขาถ้ำบุญนาค เป็นอย่างมาก ข้าพเจ้าเป็นศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ และหลวงปู่สีเป็นอาจารย์ ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ก็เหมือนกับว่าท่านเป็นอาจารย์ของข้าพเจ้าด้วย จึงได้พยายามรวบรวม เนื้อหา ประวัติ ที่ท่านผู้เขียนได้ เอาไว้หลายที่หลายแห่งในเวบพลังจิต มาเรียบ และมาเรียง เพื่อสาธุชนคนใจบุญ ใจกุศลที่มาทีหลังจะได้ทราบ การบำเพ็ฐบารมีธรรมของหลวงปู่สี บุญกุศลในครั้งนี้ขอทำเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมะบูชา สังฆะบูชา อุทิศเจาะจงให้กับผู้ที่เข้ามาอ่านและมีจิตโมทนา ทุกท่าน ตลอดจน ผู้ที่ได้เขียนประวัติของท่านไว้เอาไว้ทุกท่าน ขอจงร่วมรับรู้ร่วมโมทนา ในบุญกุศลในครั้งนี้ด้วยเทอญ อิทธิ ฤทธิ พุทธะ นิมิตตัง ขอเดชะ เดชัง ขอเดช เดชะ จงมาเป็นที่พึ่ง แก่มะ อะ อุ นี้ด้วยเถิด

    ได้แสดงเจตนา มาแต่ต้น หน้าแรก ๆ ที่ได้เริ่มรวบรวมไว้แล้ว ดังข้อความที่ปรากฏ
     
  12. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,037
    [​IMG] [​IMG][​IMG]
    หลวงปู่สี ท่านเกิดเมื่อ พ.ศ.๒๓๙๒ ในปลายสมัยรัชกาลที่๔ ที่ อ.รัตนะ จังหวัดสุรินทร์ ท่านใช้ชีวิตในวัยหนุ่มอย่างโชกโชน จนอายุ ๒๙ ปีจึงเข้ารับราชการเป็นทหารเรือ อยู่ในกรุงเทพฯหลายปี แล้วออกจากราชการ ไปมีอาชีพค้าวัวค้าควายอยู่ระยะหนึ่ง จวบจนอายุได้ ๓๙ ปี ก็เกิดความเบื่อหน่ายในโลกีย์วิสัย เห็นว่าชีวิตที่ผ่านมาไม่มีอะไรเป็นแก่นสาร ท่านจึงตัดสินใจทำการอุปสมบทที่วัดบ้านเส้า ซึ่งอยู่ใน อ.บ้านหมี่ในปัจจุบัน โดยมีพระครูธรรมขันธ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อบวชได้ประมาณ ๕ วันได้เดินธุดงค์มาจำพรรษาที่ถ้ำเขาไม้เสียบ ต.ช่องแค จ.นครสวรรค์ เป็นเวลา ๓ ปี
    ขณะที่อยู่ถ้ำเขาไม้เสียบนั้น ท่านพยายามฝึกฝนสมาธิจิต จนมีความกล้าแข็งพอสมควรแล้ว(แสดงว่าท่านพอมีพื้นฐานทางด้าน คาถาอาคม และการฝึกจิตมาตั้งแต่สมัยเป็นฆราวาส) ท่านก็ได้เริ่มออกเดินธุดงค์สู่สถานที่ต่างๆ พร้อมทั้งเสาะหาอาจารย์ที่เก่งกล้าในเวทย์วิทยาคมเพื่อขอศึกษาเล่าเรียน โดยเดินขึ้นเหนือบ้าง อีสานบ้าง บางครั้งก็เข้าประเทศลาว ท่านเคยเดินธุดงค์จากพม่าเข้าไปประเทศอินเดีย ถึง ๒ ครั้ง ท่านเคยหลงอยู่ในป่าดงดิบแถบประเทศพม่าหลายวัน โดยไม่ได้ฉันอาหารเลย จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่ด้วยสมาธิจิตที่กล้าแข็ง วันหนึ่งหลวงปู่สีก็เดินไปพบกับชาวบ้าน ๒ คนผัวเมียกลางป่า...
    สองผัวเมียนั้นบอกท่านว่า แถบนี้ไม่มีบ้านผู้คนอยู่เลยสักหลังเดียว อีกทั้งเสือ สาง ช้างป่า ก็ชุกชุม มีคนหลงป่าตายในป่าแถบนี้หลายรายแล้ว พร้อมทั้งมอบยาให้ท่าน ๑ เม็ด บอกว่าเป็นยาสมุนไพร ปรุงจากรากไม้หลายชนิด เมื่อฉันแล้วจะทำให้อายุยืน ร่างกายแข็งแรง และทำให้ไม่หิวข้าว หิวน้ำ เมื่อท่านลองฉันดูก็เป็นจริงดังที่ชาวบ้าน สองผัวเมียบอก จึงคิดจะขอบใจแต่ปรากฏว่าหายไปแล้ว จึงรู้ว่าที่แท้แล้วเป็นเทวดามามอบยาทิพย์ให้ท่านนั่นเอง เพราะแถบนั้นไม่มีบ้านคน ซึ่งจากยาที่ท่านฉันนี่เองกระมัง ท่านจึงมีอายุยืนยาวถึง ๑๒๘ ปี เมื่อพบกับเทวดาแล้ว ท่านก็เดินหาทางออกจากป่าลึก ไม่นานก็พบกับช้างป่าโขลงใหญ่ ท่าทางดุร้าย แต่แปลกที่ช้างทั้งหมด คุกเข่าลงชูงวงแสดงความเคารพหลวงปู่สี เป็นที่อัศจรรย์ ท่านจึงขึ้นขี่คอช้างจ่าฝูง ให้มันพาออกจากป่าไปส่งที่ชายแดนพม่า ชาวบ้านป่าเห็นเข้าก็ตกอกตกใจกันใหญ่ ถามว่าเพราะเหตุใดช้างป่าจึงไม่ทำร้าย เพราะช้างป่าโขลงนี้ ปกติหากพบคน ไม่ว่าชาวบ้านหรือพระธุดงค์ มักจะเหยียบจนตาย แต่มันไม่ทำอะไรหลวงปู่สีทั้งยังพากันมาส่งถึงชายป่า ท่านก็ไม่ว่ากระไร หัวเราะหึๆ แล้วเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรเลย
     
  13. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,037
    วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ (วัดหลวงปู่สด ) บวชพระ เณร ๒๘๖ รูป

    [​IMG]
    พิธีบรรพชาอุปสมบทหมู่ชาวเขา จำนวน ๒๘๖ รูปวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
    เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล
    แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    เนื่้องในโอกาส
    วันเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๕
    เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
    ในโอกาสที่จะทรงเจริญพระชนมายุ ๘๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๕
    และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร
    ในโอกาสที่จะทรงเจริญพระชนมายุ ๖๐ พรรษา ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๕

    วันอาทิตย์ ที่ ๑๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
    ณ พระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพมหานคร


    บริจาคเป็นเจ้าภาพบวชหมู่ชาวเขา
    รูปละ ๒,๕๐๐ บาท
    หรือบริจาคตามกำลังศรัทธา

    ติดต่อบริจาคร่วมกุศลได้ที่
    สำนักบริหารการสวัสดิการสังคม กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ สะพานขาว กทม.
    โทร. ๐-๒๖๕๙-๖๑๓๙,
    ๐-๒๒๘๒-๓๘๙๖ โทรสาร ๐-๒๒๘๑-๔๑๙๐
    สำนักงานประธานคณะพระธรรมจาริก
    วัดปากน้ำ (ข้างพระอุโบสถ)

    โทร. ๐-๒๔๕๗-๙๐๔๒, ๐๙๐ ๕๖๒ ๙๐๕๖ โทรสาร ๐-๒๘๖๙-๐๔๘๒
    สำนักงานพระธรรมจาริกส่วนกลาง วัดเบญจมบพิตรฯ
    โทร. ๐-๒๒๘๐-๒๒๗๓, ๐-๒๖๒๘๗-๙๔๗ โทรสาร ๐-๒๖๒๘๗-๙๔๗
    พระเทพโกศล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารงานโครงการพระธรรมจาริกส่วนภูมิภาค
    วัดศรีโสดา จังหวัดเชียงใหม่
    โทร. ๐๕๓-๒๒๑๓๐๑
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2012
  14. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,037
    วัดเบญจมบพิตร บวชพระ เณร ๒๘๔ รูป

    [​IMG]
    มูลนิธิฯ กำหนดประกอบพิธีบรรพชาอุปสมบทหมู่ชาวเขา จำนวน ๒๘๔ รูป เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ ในวันอาทิตย์ที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๔ เวลา ๑๓.๓๐ น. ณ พระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพมหานคร
    บริจาคผ่านธนาคาร
    - บริจาคบรรพชาอุปสมบทชาวเขา นำฝากเช้าบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสะพานขาว บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ เลขที่ ๐๒๑-๑-๒๒๕๔๐-๑ ชื่อบัญชี มูลนิธิเผยแพร่พระพุทธศาสนาแก่ชนถิ่นกันดาร
    - บริจาคตั้งทุน / เพิ่มทุนในมูลนิธิฯ นำฝากเจ้าบัญชีธนาคารนครหลวงไทย จำกัด สาขาท่าพระจันทร์ บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ เลขที่ ๐๑๕-๒-๑๐๐๒๑-๕ ชื่อบัญชีมูลนิธิเผยแพร่พระพุทธศาสนาแก่ชนถิ่นกันดาร
    ( เมื่อโอนเงินผ่านธนาคารแล้ว กรุณาส่งโทรสารใบโอนเงิน ชื่อและที่อยู่ พร้อมรายละเอียดการบริจาค หรือจัดส่งทางไปรษณีย์เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้จัดส่งใบเสร็จรับเงินให้ท่านต่อไป )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2012
  15. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,037
    [​IMG]
    คนที่บวชไม่ได้เป็นลูก แต่เราเป็นเจ้าภาพบวชให้ ได้อานิสงส์อย่างไร หลวงพ่อฤาษีลิงดำ มีคำตอบ

    แต่ถ้าหากเป็นคนฉลาด อย่างเช่นเขาบวชพระกัน ๔๒ องค์ เราก็ช่วยกันบำเพ็ญกุศลช่วยในการ บวชพระ ไม่เจาะจงท่านผู้ใดผู้หนึ่ง เรียกว่าช่วยหมดทั้ง ๔๒ องค์ ก็ต้องเอา ๔๒ ตั้งเอา ๘ คูณ นี่เป็นอันว่า...อานิสงส์ที่ที่จะพึงได้ในการอุปสมบทบรรพาชากุลบุตรกุลธิดาในพระพุทธศาสนาสำหรับผู้ช่วยงาน แต่สำหรับท่านผู้เป็น เจ้าภาพ ในฐานะคนที่บวชไม่ได้เป็นบุตรของเรา แต่ว่าเป็นผู้จัดการขวยขวายในการอุปสมบทบรรพชาให้ อันนี้องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดากล่าวว่า ท่านผู้จัดการบวชจะ ได้อานิสงส์ ๑๒ กัป จะมีผลหลั่นซึ่งกันและกัน

    บวชวัดเบญจม ฯ ๒๘๔ รูป บวชวัดปากน้ำ ๒๘๖ รูป รวมเป็น ๕๗๐ รูป เราเป็นเจ้าภาพทั้งหมด ไม่เจาะจงทำบุญองค์ละ ๑ บาท ได้อานิสงส์องค์ละ ๘ กัป ก็เท่ากับ ๘ คูณ ๕๗๐ เท่ากับได้อานิสงส์ ๔,๕๖๐ กัุป โมทนา สาธุ บวชลูกตัวเองคนเดียวหมดไปเป็นหมื่น ลองพิจารณาดู หลวงพ่อฤาษีลิงดำ สอนเอาไว้ว่า"ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยจิต จิตปรารถนาเช่นใด ได้อย่างนั้น"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2012
  16. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,037
    [​IMG]
    ๑ กัป เท่ากับเวลาเท่าใดในโลกมนุษย์ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ มีคำตอบ
    การนับกัปหนึ่ง... คำว่ากัปหนึ่งนั้น มีปริมาณนับปีไม่ได้ องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาทรงเปรียบเทียบไว้อย่างนี้ว่า มีภูเขาลูกหนึ่ง เป็นหินล้วนไม่มีดินเจือปน ถึงเวลา ๑๐๐ ปี เทวดาเอาผ้ามีเนื้ออ่อนเหมือนสำลีมาปัดยอดเขานั้นครั้งหนึ่ง ทำอย่างนี้ ๑๐๐ ปีปัด ๑ ครั้ง ๑๐๐ ปีปัด ๑ ครั้ง จนกระทั่งหินนั้นหมดไป หาหินไม่ได้ เหลือแต่ดินล้วน นั่นจึงจะมีอายุได้ครบ ๑ กัป และอีกประการหนึ่ง ท่านพรรณนาไว้ในพระวิสุทธิมรรคว่า มีอุปมาเหมือนกับว่ามีถังใหญ่ลูกหนึ่งมีความสูง ๑ โยชน์ กว้าง ๑ โยชน์ ยาว ๑ โยชน์เหมือนกัน มีคนเอาเมล็ดพันธุ์ผัดกาดมาใส่ในถังนั้นจนเต็ม ถึงเวลา 100 ปีก็เอาเมล็ดพันธุ์ผักกาดนั้นออก ๑ เมล็ด ทำอย่างนี้จนกว่าเมล็ดพันธุ์ผัดกาดนั้นจะหมดไป เป็นการเปรียบเทียบกันได้กับระยะเวลา ๑ กัป นี่เป็นอันว่า กัปหนึ่งเราจะนับเวลาประมาณไม่ได้ เช่นกัปหนึ่งเราจะนับเวลาประมาณไม่ได้ เช่นกัปในปัจจุบันนี้สามารถจะทรงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ถึง ๑๐ พระองค์ เป็นระยะยาวนานมาก
     
  17. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,037
    [​IMG]

    ประการสำคัญ ทำบุญ ทำกุศลแล้วอย่าลืมให้ บุตร ธิดา ภรรยา และบุคคลอันเป็นที่รักของเราได้กล่าวโมทนาในบุญ ในกุศลนั้น จะได้ไปพร้อม ๆ กัน ไปอยู่ในที่เดียวกัน
     
  18. upavana

    upavana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    403
    ค่าพลัง:
    +1,075
    Hi, long time didn't come to visit here.
    Hope you all be well and happy
    I am happy and anumodana with the merits that you all have done.
     
  19. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,037
    หลักการ: ศาสนาคริสต์ และศาสนาพุทธ

    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    หลักการของศาสนาคริสต์ พระเยซูท่านมีความรักเมตตา ลูกหลานและบริวารของพระองค์เป็นอย่างมาก ยอมเสียสละทุกอย่าง ขอเพียงอย่างเดียวลูกหลานบริวารของพระองค์ เป็นสุข พ้นจากทุกข์ แม้แต่ยอมไถ่บาปให้กับลูกหลานบริวารของพระองค์และทรงแบกรับบาปนั้นไว้แต่เพียงผู้เดียว นี่คือพระเมตตาอันสูงส่ง สมกับที่พระองค์ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ในมุมมองของชาวพุทธ พระองค์ทรงเห็นว่าลูกหลานบริวารของพระองค์ ไม่สามารถเอาตัวรอดได้รำพังตนเอง ด้วยความรักพระองค์ จึงทรงพระเมตตาให้ เพียงแค่ยอมรับ และยอมเอ่ยปากขอพร จากพระผู้เป็นเจ้า ก็จะพ้นจากทุกข์ และอยู่ในอ้อมพระหัตถ์ของพระผู้เป็นเจ้า อันมีพระบิดา พระจิต และพระบุตร ผ่านมายังผู้สื่อสาร พระเยซู ข้าพเจ้ากราบคารวะในบุญกุศลของพระบิดา พระจิต พระบุตร และพระเยซู ผู้ไถ่บาป

    แต่ในหลักการของพระพุทธศาสนา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระองค์ท่านทรงสอนลูกหลาน บริวารของท่านในขั้นที่สูงกว่า โดยลูกหลาน บริวารของพระองค์ท่าน จะต้องช่วยเหลือตัวเอง ต้องใช้ปัญญาของตนเองในการพิจารณา และใช้จิตของตนเองเป็นตัวเลือก ผิด ชอบ ชั่ว ดี

    กล่าวโดยสรุปบุญกุศล ในพระพุทธศาสนาต้องกระทำด้วยตนเอง แล้วอธิษฐานเอาว่าว่าปรารถนาเช่นใด ทุกอย่างจะสำเร็จได้ด้วยจิตของผู้นั้น บุญกุศลในพระพุทธศาสนาใครทำ ใครได้ ใครไม่ทำก็ไม่ได้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงเน้นทรงสั่งสอนให้พิจารณาตนเอง กล่าวโทษตนเองอยู่เสมอ ใครเขาทำอย่างไร ปฏิบัติเช่นใด เรื่องของเขา เราพิจารณาตัวของเราให้ดีที่สุดเป็นพอ ใครทำ ใครก็ได้ ไม่ทำ ไม่ได้ อย่ามาร้องขอความเมตตา สาธุ
     
  20. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,037
    [​IMG]
    ครูคนแรกของเรา เป็นใคร หลวงพ่อฤาษีลิงดำ มีคำตอบ

    พุทธดำรัส “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การที่จะตอบแทนคุณแก่บุคคลทั้ง ๒ คือ มารดา ๑ บิดา ๑ เรากล่าวว่ากระทำไม่ได้ง่ายเลย
    “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุตรพึงแบกมารดาด้วยบ่าข้างหนึ่ง แบกบิดาด้วยบ่าข้างหนึ่ง เขามีอายุมีชีวิตอยู่ตลอดร้อยปี และพึงปฏิบัติบำรุงทั้ง ๒ ด้วยการอบกลิ่น การนวด การให้อาบน้ำ และการบีบนวดอวัยวะต่าง ๆ แก่ท่านทั้งสอง แม้ท่านทั้ง ๒ ก็พึงถ่ายอุจจาระบนบ่านั่นเอง ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่ชื่อว่าตอบแทนบุญคุณแก่มารดาบิดา

    “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง บุตรพึงตั้งมารดาไว้ในราชสมบัติ มีอำนาจยิ่งใหญ่ในแผ่นดินใหญ่ อันมีรัตนะ ๗ ประการมากหลายนี้ แม้กระนั้นก็ยังไม่ชื่อว่าตอบแทนคุณมารดาบิดา ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะมารดาบิดามีอุปการะมาก เป็นผู้บำรุงเลี้ยง เป็นผู้สอนให้ลูกรู้จักโลก

    “ส่วนบุตรคนใด ทำให้มารดาบิดาผู้ไม่มีศรัทธาให้สมาทานตั้งมั่นในสัทธาสัมปทา ให้มารดาบิดาผู้มีทุศีลสมาทานตั้งมั่นในสีลสัมปทา ให้บิดามารดาผู้มีความตระหนี่สมาทานตั้งมั่นในจาคสัมปทา ให้มารดาบิดาผู้ทรามปัญญา สมาทานตั้งมั่นในปัญญาสัมปทา ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ด้วยเหตุมีประมาณเท่านั้น และบุตรย่อมชื่อว่าเป็นผู้อันกระทำตอบแทนบุญคุณแก่มารดาบิดาแล้ว”
     

แชร์หน้านี้

Loading...