.oO เรื่องสั้น ปั้นแต่ง Oo.

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย สร้อยฟ้ามาลา, 22 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,949
    ค่าพลัง:
    +43,556
    ....มีภาพมาโม้.....


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2013
  2. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,949
    ค่าพลัง:
    +43,556
    ....มีภาพมาโม้.....



    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2013
  3. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,949
    ค่าพลัง:
    +43,556
    ....มีภาพมาโม้.....



    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2013
  4. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,949
    ค่าพลัง:
    +43,556
    ....มีภาพมาโม้.....


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2013
  5. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,949
    ค่าพลัง:
    +43,556
    ....มีภาพมาโม้.....


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2013
  6. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,949
    ค่าพลัง:
    +43,556
    ....มีภาพมาโม้.....



    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2013
  7. ddandhappy

    ddandhappy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +25
    งามจังค่ะ ดอกบัว 3 แบบ
    เคยพับแต่แบบด้านบนสุด แต่เห็นภาพนี้แล้ว ครวหน้าจะลองพับแบบที่ 3 (ล่างสุด) ดูบ้าง
     
  8. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,949
    ค่าพลัง:
    +43,556

    http://palungjit.org/threads/วิธีการพับดอกบัว-15-แบบ.203470/

    ลองดูวิธีพับจากกระทู้นี้่นะ........
     
  9. ddandhappy

    ddandhappy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +25
    ค่าาาาา

    ดีใจจัง ตอนแรกกะว่าจะลอง search หาดูวิธีพับ แต่พออกไปกินข้าวกลับมาลืมเลย @@ ปลาทองเหลือเกิน

    ดีนะเนี่ยยที่คุณสร้อยฟ้า มาเขียนบอกไว้ให้ _/\_
     
  10. ddandhappy

    ddandhappy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +25
    โห !!!!!!! มีตั้ง 15 แบบ ยังดูไม่หมดหรอกค่ะ แต่กำลังจะไปดูให้ครบ แต่อยากรีบมาขอบคุณอีกซักทีก่อน _/\_ ขอบคุณนะค้าาาา
     
  11. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,949
    ค่าพลัง:
    +43,556

    ไม่เป็นไรจ่ะ..... ^^ ค่อยๆ หัดนะ....
     
  12. ddandhappy

    ddandhappy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +25


    ค่ะ จะลองหัดและจะพยายามทำให้ได้ครบทั้ง 15 แบบ แล้วหนูจะเอาไปถวายพระ ^^
     
  13. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,949
    ค่าพลัง:
    +43,556
    เรื่องที่ ๔๘

    สุดเขตที่หนองคาย


    [​IMG]


    เมื่อปีที่แล้ว ได้แต่ตะลอนๆ อยู่ที่ภาคเหนือ ปีนี้ดวงคงสมพงศ์ที่จะได้ตะลอนๆ มาภาคตะวันออกเฉียงเหนือบ้าง เมื่อคราวที่แล้วก็ไปลาวโดยผ่านทางจังหวัดอุบลราชธานี(จนเป็นที่มาของกระทู้ โอ้ดวงจำปา มาลางามยิ่ง มิ่งเมืองลาวเอย) จะว่าไปก็ไม่เชิงที่จะตะลอนๆ ภาคอิสานเนอะ เพราะไม่ได้เที่ยวในจังหวัดของประเทศแต่เลยทะลุไปลาว เอาหน่ะ ยังไงๆ ก็อยู่ภาคอิสานของประเทศก็แล้วกัน มาคราวนี้ ได้ไปหนองคายและสุดเขตแผนที่ประเทศไทยแล้วทะลุไปลาวอีก ทีแรกตั้งเข็มไว้ว่าจะไปถึงเวียงจันทน์ ไปวัดพระธาตุหลวง ไปประตูชัย แต่ดันมีอุปสรรค์เลยไปได้แค่ดิวตี้ฟรี เสียดายมากทั้งๆ ที่อีกแค่ยี่สิบกว่ากิโลเมตรก็ไปถึงเวียงจันทน์โอกาสยังไม่เป็นของเรา ช่างเถอะไม่เป็นไร มาเปิดหูเปิดตาที่หนองคายดีกว่ายังไม่เคยมา แต่ขอบอก ช่วงเดือนมีนาคม เมษายน ตอนนี้อากาศร้อนมาก แสบหน้าไปหมด แล้วก่อนมาหนองคายก็ไม่สบายเป็นไข้หวัด มาถึงหนองคายก็ยังไม่หาย หอบสังขารเดินตากแดดร้อนเปรี้ยง


    [​IMG]


    อ่ะเข้าเรื่อง เข้าเรื่อง ก็การเดินทางครั้งนี้ออกจากกรุงเทพมหานครโดยรถบัส ๒ ชั้น ตอนหนึ่งทุ่ม มีเพื่อนร่วมเดินทางหลายคนไม่เหงา นั่งรถไป หลับไปเหมือนเดิม มาถึงนครราชสีมาประมาณเกือบ ๕ ทุ่ม แวะกินข้าวต้มที่ตัวเมืองเสร็จแล้วขึ้นรถหลับต่อ แต่รถวิ่งเร็วไปหน่อยกำหนดจะถึงโรงแรมหกโมงเช้า รถมาถึงโรงแรมประมาณตีห้า แต่ก็ดีได้เข้าห้องพักก่อน แปรงฟันล้างหน้า ตอนนี้คอเจ็บมากบ้วนปากมีเลือดปนด้วย amoxicillin กับ paracetamol เป็นที่พึ่ง ตามมาด้วย Kamillosan แก้ไอ แต่ก็ไอจนเหนื่อย.......

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    ..................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2013
  14. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,949
    ค่าพลัง:
    +43,556
    หกโมงกว่าๆ กินข้าวเสร็จก็เดินดูแม่น้ำโขง พอแปดโมงเช้ารวมตัวกันขึ้นรถไปวัดกันก่อน มาหนองคาย ก็ต้องไปไหว้หลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย



    [​IMG]


    จากประวัติของวัดโพธิ์ชัย เขาเล่าว่า เมื่อก่อนชื่อว่า วัดผีผิว เพราะว่าบริเวณวัดใช้เป็นที่เผาศพ และผีดุต่อมาทางราชการจึงได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น " วัดโพธิ์ชัย " ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์แล้วยกฐานะขึ้นเป็น พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ เมื่อวันที่ ๒๔สิงหาคมพ.ศ.๒๕๒๔ และเป็นสถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระใสซึ่งเป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิราบปางมารวิชัยสมัยเชียงแสน ชั้นหลัง หล่อด้วยทองสุก(ทองคำ ที่มีเนื้อทองคำบริสุทธิ์ ประมาณ ๙๒ เปอร์เซ็นต์ สีทองคำจะมีสีเหลืองเข้ม เรียกว่า สีทองสุก) มีพระพุทธลักษณะงดงามมาก ขนาดหน้าตักกว้าง ๒ คืบ ๘นิ้ว สูงจากเบื้องล่างพระชงฆ์ ถึงยอดพระเกศ ๔คืบ ๑นิ้ว มีห่วงกลมขนาดหัวแม่มือจำนวน ๓ ห่วง ติดกับพระแท่นซึ่งหล่อติดกับองค์พระใสสำหรับผูกเชือกติดกับยานเวลาที่อัญเชิญลงมา แห่รอบเมืองให้ประชาชนได้สรงน้ำในวันสงกรานต์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2013
  15. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,949
    ค่าพลัง:
    +43,556
    [​IMG]

    จากประวัติเล่าไว้ว่า หลวงพ่อพระใส สร้างในอาณาจักรล้านช้าง โดยมีพระราชธิดา ๓ พระองค์แห่งอาณาจักรล้านช้างมีพระนามว่า สุก เสริม ใส เข้าใจว่าเป็นพระราชธิดาพระไชยเชฏฐาธิราช มีพระทัยจะหล่อพระพุทธรูปก็ขอพรพระบิดาก็ประทานให้จึงให้ช่างหล่อพระพุทธรูปขึ้นมา ๓ องค์ และได้ขนานนามพระพุทธรูปตามนามพระราชธิดาว่า สุก เสริม ใส โดยเรียงลำดับตามผู้พี่ผู้น้อง


    เหตุอัศจรรย์ในระหว่างสร้างพระพุทธรูป
    ในช่วงพิธีหล่อพระ มีทั้งชาวบ้านและพระสงฆ์ช่วยกันสูบเตาหลอมทองอยู่เป็นเวลาถึง ๗ วัน แต่ทองก็ไม่ยอมหลอมละลาย จนกระทั่งวันที่ ๘ เหลือพระสงฆ์กับสมาเณรเพียงสองรูปที่ช่วยกันสูบเตาอยู่จนถึงเวลาใกล้เพล ปรากฏชีปะขาวหนึ่งตนมาขอช่วยอาสาสูบเตาแทน พระสงฆ์กับสามเณรก็ไม่ขัดข้อง จึงได้พลัดขึ้นไปฉันเพลบนศาลา เมื่อชาวบ้านมาส่งเพล ก็เห็นชีปะขาวจำนวนมากช่วยกันสูบเตา ด้วยความสงสัยจึงได้ถามพระภิกษุ แต่ฝ่ายพระภิกษุเห็นอยู่แค่คนเดียว เมื่อฉันเพลเสร็จจึงได้พากันลงมาดู ก็ไม่ปรากฏเห็นชีปะขาวแล้ว แต่เห็นทองทั้งหมดถูกเทลงเบ้าหลอมทั้ง ๓ เป็นที่เรียบร้อย


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2013
  16. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,949
    ค่าพลัง:
    +43,556
    [​IMG]

    พระสุก พระเสริม พระใส ประดิษฐานอยู่ ณ เมืองเวียงจันทน์ ครั้น พ.ศ. ๒๓๒๑ สมัยแผ่นดินพระเจ้ากรุงธนบุรี เกิดสงครามขึ้นระหว่างกรุงธนบุรีกับกรุงศรีสัตนาคนหุต(เวียงจันทน์) ครั้งนั้นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชขณะดำรงพระยศเป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ยกทัพมาตีเมืองเวียงจันทน์ พระเจ้าธรรมเทวงศ์จึงได้อันเชิญไปไว้ที่เมืองเชียงคำ ครั้นต่อมา พระใสจึงถูกอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่วัดโพนชัย เมืองเวียงจันทน์อีกครั้ง

    ต่อมาในสมัยรัชการที่ ๓ ได้เกิดเหตุกบฏเจ้าอนุวงศ์ เวียงจันทน์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงโปรดเกล้าให้พระบวรราชเจ้ามหาศักดิ์พลเสพย์ กรมพระราชวังบวรสถานมงคล ยกพลมาปราบเมื่อเมืองเวียงจันทน์ จนสงบดีแล้ว จึงได้อัญเชิญพระสุก พระเสริม พระใส มาประดิษฐาน ณ ที่วัดโพธิ์ชัยเมืองหนองคาย


    ในระหว่างที่อัญเชิญพระใสจากเวียงจันทน์มาประดิษฐานที่วัดโพธิ์ชัยเมืองหนองคายนี้คราวนั้นไม่ได้อัญเชิญมาจากเมืองเวียงจันทน์โดยตรง แต่ได้อัญเชิญมาทางภูเขาควายซึ่งชาวเมืองได้อัญเชิญไปซ่อนไว้แต่ครั้งเวียงจันทน์เกิดสงคราม



    [​IMG]

    การอัญเชิญพระพุทธรูปทั้ง ๓ องค์ ได้อัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนแพไม้ไผ่ ล่องมาตามลำน้ำโขงเมื่อถึงตรงบ้านเวินแท่น ได้เกิดอัศจรรย์คือได้เกิดพายุแรงจัดพัดแพจนเอียงแพไม่สามารถรับน้ำหนักของพระแท่นของพระสุกได้ แท่นพระสุกจึงจมลง ณ นั้นเหตุนี้ตรงบริเวณนั้นจึงได้ชื่อว่า “เวินแท่น” มาจนถึงปัจจุบัน

    เมื่อเสียแท่นพระสุกแล้วก็ยังอัญเชิญล่องมาตามลำน้ำโขง (น้ำงึ่ม)เฉียงกับบ้านหนองกุ้งอำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย เล็กน้อยพอถึงที่นั้นได้เกิดพายุใหญ่เสียงฟ้าคะนองร้องลั่นขึ้นอีกในที่สุดพระสุกได้แหกแพจมลงในน้ำ พอพระสุกจมลงในน้ำแล้วอาการวิปริตต่างๆก็สงบเงียบ สถานที่ตรงนั้นจึงได้นามว่า “เวินสุก” เมื่อเป็นเช่นนี้ยังคงเหลืออยู่แต่พระเสริมกับพระใส ที่ได้อัญเชิญมาถึงเมืองหนองคายพระเสริมได้อัญเชิญประดิษฐานไว้ ณ วัดโพธิ์ชัย ส่วนพระใสได้ประดิษฐานไว้ ณวัดประดิษฐ์ธรรมคุณ (วัดหอก่อง)

    ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๔ พระบาทสมเด็จพระจอมกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ขุนวรธานีและข้าหลวงอัญเชิญ พระเสริมจากวัดโพธิ์ชัยลงมายังกรุงเทพฯ ขุนวรธานีเมื่อมาถึงหนองคายได้ทราบว่าพระใสเป็นคู่กับพระเสริมจึงได้อัญเชิญจากวัดหอก่องขึ้นสู่เกวียน นัยว่าจะอัญเชิญไปกรุงเทพฯ พร้อมกับพระเสริม แต่พอมาถึง ณวัดโพธิ์ชัยพระใสได้แสดงปาฏิหาริย์ไม่สามารถขับเกวียนซึ่งประดิษฐานหลวงพ่อพระใสให้เคลื่อนที่ไปได้แม้ใช้เครื่องฉุดก็ไม่สามารถทำได้ จึงได้ทำการอ้อนวอนด้วยประการต่างๆก็ไม่เป็นผล จนในที่สุดเกวียนไดหักลง คราวนี้ได้หาเกวียนใหม่มาเป็นที่ประดิษฐานแต่ก็อัศจรรย์อีกเพราะเกวียนใหม่ก็ไม่สามารถจะเคลื่อนที่ได้เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนั้นจึงปรึกษากันว่าจะอัญเชิญหลวงพ่อพระใสประดิษฐานไว้ที่วัดโพธิ์ชัย แล้วก็ทำการอธิษฐานเป็นผลดังใจนึกพอเข้าหามไม่กี่คนเท่านั้นองค์หลวงพ่อพระใสก็ถูกยกขึ้นประดิษฐานไว้ในอุโบสถวัดโพธ์ชัยได้โดยง่ายส่วนพระเสริมนั้นได้อัญเชิญลงไปกรุงเทพฯประดิษฐานอยู่วัดปทุมวนารามจนถึงทุกวันนี้



    [​IMG]

    ส่วนพระสุกซึ่งจมน้ำอยู่ที่เวินสุกนั้นได้เมื่อหลายสิบปีก่อนทางฝ่ายบ้านเมืองที่จังหวัดหนองคายจะอันเชิญขึ้นจากน้ำ เพื่อจะได้นำมาประดิษฐานไว้คู่เคียงกับพระใสแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จเพราะมีเหตุขัดข้องบางประการ คือ พระสุกได้จมอยู่ในน้ำเป็นเวลาช้านานทำให้ดินทับทมไม่สะดวกในการที่จะอันเชิญโดยง่ายอีกอย่างหนึ่งเป็นเพราะชาวบ้านแถวนั้นไม่ยินยอมให้นำขึ้นเพราะเกรงกลัวต่อภยันตรายอันจะพึงมีมาทั้งนี้ เนื่องด้วยประชาชนในถิ่นนั้น (รวมทั้งถิ่นอีสานส่วนมากด้วย) ถือว่าการกระทำเช่นนี้ย่อมให้เจ้าภูมิท้องถิ่นเกิดความไม่พอใจแล้วอาจบันดาลให้มีเหตุเภทภัย เหมือนดั่งที่ได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขณะที่อัญเชิญมา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2013
  17. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,949
    ค่าพลัง:
    +43,556
    ตอนนี้เวลาไล่ๆ จะสิบโมงเช้า เหงื่อโชกหลังเหมือนเพิ่งอาบน้ำใหม่ๆ โดนแดดเผาแขนเปลี่ยนสีแล้ว ก็ป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ ลานวัดนั้นแหล่ะ คนยังมาไม่พร้อมที่จะขึ้นรถ ถ้าจะเดินขึ้นไปนั่งบนรถก่อนก็จะร้อนอบอยู่บนรถ อยู่ข้างล่างดีกว่า หาร่มแม่ค้าแถวๆ ลานวัดหลบแดดนี่แหล่ะ พร้อมกับมองหาของช้อปปิ้งไปด้วย.....



    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2013
  18. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,949
    ค่าพลัง:
    +43,556
    [​IMG]

    สิบโมงนิดๆ รวมตัวกันได้ขึ้นรถและสถานที่ที่จะไปกันต่อก็คือ ศาลาแก้วกู่ เป็นวัดแขก ศาลาแก้วกู่นี้ถูกสร้างขึ้นโดย "ปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์"หรือ "ปู่เหลือ" เพื่อให้ที่แห่งนี้เป็น เมืองอมตะแก้วกู่มหานิพพานหรือดินแดนแห่งการหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง เชื่อว่า ทุกศาสนาผสมผสานกันได้ จากประวัติกล่าวไว้ว่า


    "เมื่อนางคำปลิว สุรีรัตน์ (พี่สาวคนโต)ชาวหนองคาย แต่งงานได้ระยะหนึ่งก็ฝันว่ามีชีปะขาวนำนาคมรกตมามอบให้ แต่บอกว่าอีก ๗เดือน ค่อยไปรับมาเป็นของตนต่อมาแม่ตั้งท้องลูกคนที่เจ็ดในวัยสูงอายุและหมดประจำเดือนแล้ว และคลอดเมื่ออายุครรภ์ได้ ๗เดือนทุกคนจึงเชื่อว่าเป็นไปตามนิมิตในฝันนางคำปลิวและสามีจึง รับน้องชายมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรมตั้งแต่แรกเกิด


    [​IMG]

    ด.ช.บุญเหลือ ชอบเข้าวัดมาแต่เด็กพออายุได้ ๖ปี นางคำปลิวเสียชีวิตลง สามีนางคำปลิวมีภรรยาใหม่ ด.ช.บุญเหลือจึงกลับไปอยู่กับพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด แต่มักขัดขวางห้ามปรามผู้ใหญ่ในทางบาปต่างๆจึงไม่เป็นที่รักใคร่ของญาติพี่น้อง ครั้นอายุ ๑๒ปี ทนความกดดันรอบข้างไม่ไหวจึงหนีออกจากบ้านรอนแรมไปจนพบสำนักอาศรมแก้วกู่ในเขตแดนลาวและได้ฝากตัวศึกษาเล่าเรียนปฏิบัติธรรมอยู่กับพระมุนีที่นั่น จนอายุครบ ๒๐ปีพระมุนีจึงให้ออกจากสำนักไปจาริกแสวงบุญโปรดญาติโยมทั้งใกล้และไกล

    เมื่ออายุ ๓๐ ปี จึงได้กลับมาปรนนิบัติตอบแทนคุณในวาระสุดท้ายของชีวิตพ่อแม่ ก่อนแม่สิ้นบุญในปี ๒๕๐๗ได้มอบที่ดิน ๘ไร่ ณ บ้านเชียงควาน เมืองท่าเดื่อเวียงจันทน์ไว้เป็นมรดก

    ปี พ.ศ. ๒๕๑๓ปู่เหลือได้พัฒนาที่ดินดังกล่าวสร้างเป็น "ปูชนียสถานเทวาลัยอย่างมหึมา"พุทธศาสนิกชนทั้งในภาคพื้นยุโรป และเอเชียเลื่อมใสมากแต่เมื่อเกิดเหตุวิกฤตในราชอาณาจักรลาวเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๘ หลวงปู่จึงพาลูกศิษย์ข้ามโขงมา และรวมกันจัดตั้งเป็น "พุทธมามกสมาคมจังหวัดหนองคาย"โดยกรมการศาสนารับรองให้ในปี พ.ศ. ๒๕๑๙ปี พ.ศ. ๒๕๒๑สานุศิษย์ได้จัดซื้อที่ดินราว ๔๑ไร่ ในเขตบ้านสามัคคี ตำบลหาดคำถวายให้เป็นที่ตั้งสำนักจวบจนปัจจุบัน ต้นปี พ.ศ. ๒๕๒๗ปู่เหลือถูกใส่ความและมีผู้ไปแจ้งตำรวจตั้งข้อหาฉกรรจ์ (ซึ่งทางสำนักขอสงวนไว้)ต้องอยู่ในเรือนจำจนถึงปลายปี ๒๕๒๙เมื่อออกมาแล้วก็สร้างเทวรูปอีกมากมายทั้งเล็กและใหญ่และทั้งขนาดที่สูงถึง ๓๓เมตรเมื่อสร้างทั้งพุทธรูปและเทวรูปถึง ๒๐๙ปางแล้ว ก็สร้างศาลาแก้วกู่หลังใหม่ โดยรื้อหลังเก่า (พ.ศ. ๒๕๒๓ - ๒๕๓๘) ที่ทรุดโทรมลง



    [​IMG]

    ขณะก่อสร้างศาลาหลังใหม่ปู่เหลือก็ล้มป่วยและต่อมาได้เสียชีวิตลงในเดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๙สานุศิษย์ได้นำผอบแก้วใส่ร่างของท่านไว้ตามความประสงค์ก่อนสิ้นชีวิต"

    ปู่เหลือ เป็นนักพรต ผู้ทรงศีล ถือศีล เคร่งวิปัสสนาสั่งสานุศิษย์ว่าเมื่อสิ้นชีวิตแล้ว อย่าฉีดยา อย่าเผา อย่าฝัง ให้ใส่ผอบแก้วไว้ ด้วยอัศจรรย์ร่างไม่ได้เปื่อยเน่า และสานุศิษย์บอกว่า เส้นผมของปู่เหลือ จะเป็นสีดำและเป็นสีขาว สลับสับเปลี่ยนแบบนี้อยู่เรื่อยๆ (ดำก็ดำล้วน ขาวก็ขาวล้วน)

    ด้วยพื้นที่อาณาบริเวณของวัดแขก หรือศาลาแก้วกู่นี้กว้างขวางและมีเทวรูปมากมายอยู่กลางแจ้ง ตอนนี้ทั้งสวมหมวกทั้งใส่แว่นกันแดดก็เหมือนไม่ช่วยอะไรได้มากนัก ด้วยเวลาตอนนี้สิบโมงกว่าเดินชมเกือบหนึ่งชั่วโมงเต็มเดินแทบไม่ทั่ว ต้องใช้วิธีเดินจ้ำเร็วๆ กลางแดด เป็นหวัดอยู่แล้ว แล้วจะเป็นหวัดแดดต่ออีกหรือเปล่าเนี่ยะ......
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2013
  19. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,949
    ค่าพลัง:
    +43,556
    [​IMG]

    ที่นี่เดินไป แล้วรู้สึกแปลกๆ ชอบกล.....

    มาเที่ยวครั้งนี้ หลายภาพก็มีอะไรแปลกๆ อยู่ในภาพ ใครตาดีก็เห็นเอง
    อาจจะเป็นความบังเอิญของแสง ที่เรียกว่า แฟร์ หรือเปล่า ไม่รู้....
    หรือจะเป็นฝุ่นก็ไม่ใช่.... เพราะเค้าถ่ายรูปไม่นิยมเปิดแฟลช....

    หาดูได้ตอนเก็บตกรูปท้ายกระทู้นะ....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2013
  20. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,949
    ค่าพลัง:
    +43,556
    ขึ้นรถได้เหมือนน้ำจะแห้งหมดตัว กลางวันนี้พวกเราไปทานอาหารในร้านอาหารตัวเมืองหนองคาย แต่ชื่อร้านอะไร จำไม่ได้ แล้วก็ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูกันเพราะหมดแรงแบกกล้อง......



    ระหว่างทานอาหารกลางวัน ก็มีการวางแผนว่าช่วงบ่ายจะไปไหนมีแบ่งออกเป็นสามเสียง เสียงหนึ่งไปตลาดท่าเสด็จ เสียงที่สองไปเวียงจันทน์ เสียงที่สามไปดิวตี้ฟรีฝั่งลาว



    ตลาดท่าเสด็จ สร้อยฟ้าฯตัดออกไป เหลือเวียงจันทน์เป็นอันดับแรก กับดิวตี้ฟรีเป็นอันดับท้าย แต่เนื่องจากมีนโยบายไม่ให้ข้าราชการข้ามไปต่างประเทศคือเมืองเวียงจันทน์และดิวตี้ฟรีแต่ถ้าเป็นข้าราชการครูไปได้(กฎนี้ออกตอนไหนไม่เคยได้ยินแฮะ) อ้าวก็ทีแรกกำหนดการตั้งไว้อย่างนั้นทำไมพึ่งมาบอก ความตั้งใจที่จะไปเวียงจันทน์เลยอดไป


    [​IMG]


    แต่พวกเราเป็นพวกเด็กดื้อไม่สนใจหรอก ไหนๆ มาถึงแล้วจึงกระซิบกันไปกันเองก็ได้แต่ไปแค่ดิวตี้ฟรีด้วยเสียงในกลุ่มพวกเด็กดื้อส่วนมากจะไปช้อปปิ้งกระเป๋า... ก็ให้ไกด์ประจำรถทำบอเดอร์พาร์ทให้พร้อมติดต่อรถตู้มารับที่หน้าร้านอาหารเลย หุ หุ ท้าทายน่าดู [​IMG] ก็ใช้สะพานมิตรภาพ ๑ (หนองคาย – เวียงจันทน์) ทีแรกนึกว่าไกล พอลงสะพานแล้วเลี้ยวซ้ายก็ถึงเลย รถตู้บอกว่าจะมารับตอนประมาณเกือบๆ บ่ายสี่โมง ตอนนี้เพิ่งจะเที่ยงนิดๆ มีเวลาตั้ง ๔ ชั่วโมงในการเดิน แต่ยังดีที่นี่มีโซนร้านค้าติดแอร์ ก็เลยเข้ากันแต่โซนนี้ เดินกันจนทะลุปรุโปร่ง สินค้าส่วนมาจะเป็นกระเป๋านานาชนิดก็อปเกรดเอบ้างไม่เอบ้าง แล้วก็พวกเสื้อผ้า โทรศัพท์ จีพีเอส น้ำหอม เครื่องประดับ จิปาถะ ในกลุ่มก็ได้ทั้งกระเป๋า โทรศัพท์ น้ำหอม ฯลฯ


    [​IMG]


    พอถึงเวลาใกล้บ่ายสี่โมงเย็นรถตู้มาคอยอยู่แล้วต่างคนก็ต่างหอบของขึ้นรถตู้ ทีแรกคิดว่าเมื่อเข้า ตม. เขาจะตรวจของ แต่ปรากฏว่าผ่านตลอด รถตู้มาส่งถึงโรงแรม ตอนนี้ก็เป็นเวลาพักผ่อน ก่อนออกไปดินเนอร์แหนมเนืองที่ข้างแม่น้ำโขงตอนหกโมงเย็น.....


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...