การเตรียมตัว เตรียมใจ ไปสู่ยุคภัยพิบัติ

อืมผมเห็นด้วยนะครับ

 

มดกับตั๊กแตน?

ถ้าเกิดเหตุการณ์จริง
ใครเตรียม ก็ได้กิน ได้ใช้
ใครไม่เตรียม ก็ไม่ได้กิน ไม่ได้ใช้

ถ้าไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น
ใครเตรียม ก็ยังได้กิน ได้ใช้อยู่ดี แล้วยังสามารถนำไปทำบุญหรือ ทำทานได้อีก
ใครไม่เตรียม ก็ต้องหากิน หาใช้อยู่ดี

 

ที่มันเลื่อน เพราะว่ามั่ว แต่งเรื่อง สร้างตัวละคร ขึ้นมา !!



ปล.ยอดโอนไม่วิ่งเดี๋ยวเค้าก็ออกมาแจกลูกแก้วเองแหละ !!

 

ข้ออ้างที่ว่าคลาดเคลื่อนเพราะเวลาสวรรค์ต่างกับมนุษย์นั้นฟังไม่ขึ้น
เราอุตสาห์ยกมาให้ดูว่าคลาดเคลื่อนอย่างที่ว่าเป็นไปได้หรือ

สมมุติว่าคลาดเคลื่อนเวลาสวรรค์ ชั้นปรนิม 1 วัน เท่ากับคลาดเคลื่อนเวลามนุษย์ 1600 ปี
จะเอากันอย่างนั้นหรือ

เราไม่เคยตำหนิคุณอัญญาสิทธ์เลย ไปดูที่โพสเก่าๆของเรา
แม้เอ่ยคำพูดเสียดสี ก็ไม่เคย

เราบอกว่า คนเราทำนายผิดกันได้ ขอเพียงเขามีเจตนาดี ก็พอแล้ว
แต่ถ้าเขาโกหกหลอกลวงเพื่อเจตนาอย่างอื่นนี่สิควรตำหนิ

เราบอกว่า ถ้าไม่เจโตปริญาณ รู้จริงๆว่าเขาคิดชั่วอย่าเพิ่งไปตำหนิ


ที่ท่านศรัทธาคุณอัญญาสิทธิ เราไม่เคยตำหนิ
เหมือนคนนับถือศาสนาต่างกัน

แต่เราแย้งบางท่านที่ชอบออกมาแก้ตัวแทนคุณอัญญาสิทธิ์
เพราะ
เหตุผลที่ท่านยกมาแก้ตัวมันหน่อมแน้มนะครับ

ถ้าท่านอ้างว่าเลื่อนยังจะฟังดูดีเสียกว่า

หรือไม่ก็รอคุณอัญญาสิทธิ์ออกมาชี้แจงไม่ดีกว่าหรือ
ท่านออกมาแก้ตัวให้กันแบบนี้ มันเสียถึงคุณอัญญาสิทธิ์ไปเปล่าวๆ

สังคมที่มีปัญญา ย่อมถกกันด้วยเหตุผลนะครับ

 

เห็นด้วยนะครับ ผมว่าทุกท่านควรใจกว้างและรับฟังเหตุผล ส่วนตัวก็ไม่เห็นด้วยหากมีคนมาโพสต์เยาะเย้ย ถากถาง แบบนี้อาจไม่เหมาะ ก็ว่ากันไปตามเหตุผล อย่างปลาบู่ก็ดูเหมือนเจตนาดี เรื่องฟังดูดี แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ของคุณ Aunyasit ไม่เกิด ผมก็ไม่แน่ใจเพราะเหตุใด ต้องขอรอคุณ Aunyasit ชี้แจง

แต่ผมว่าอย่างไรเราเป็นชาวพุทธต้องมีเหตุมีผล อย่าเชื่อเพียงเพราะน่าเชื่อถือ หรือเพราะเขาเล่าเรื่องต่างๆ น่าเชื่อถือ ต้องพิจรณาด้วยเหตุด้วยผล หากผมมีข้อมูลน่าเชื่อถือพอว่าภัยต้องเกิดวันนู้นวันนี้ ผมเองก็หนีเหมือนกันแหละครับ แต่บางทีเราก็ต้องไตร่ตรองถึงความน่าเชื่อถือ ความน่าจะเป็นของสิ่งที่เขาว่าจะเกิด เพราะหากตัดสินใจผิดแล้ว อาจจะเสียหายมากนะครับ

ยกตัวอย่าง มีท่านนึงไม่นานมานี้โพสต์ว่าคิดอยากขายรถที่ใช้เลี่ยงชีพ เพื่อหาเงินใช้หลบภัย เพราะไม่มีเงิน แต่ต้องใช้เลี้ยงชีพ ถ้าขายไปก็ไม่เหลือ

อย่างนี้ถ้าเขาเชื่อว่า 20 พค 2012 จะเกิดภัยใหญ่แล้ว ต้องเตรียมทุกอย่างแล้ว ต้องขายรถเอาเงินมาเตรียมที่อยู่ใหม่อาหารต่างๆ เครื่องอยู่รอดปลอดภัยเพื่อตนและครอบครัว แล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น แบบนี้ครอบครัวเขาจะเป็นอย่างไรครับ และอย่างที่ทราบวันนี้ั 23 ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หากไม่มีคนที่คอยค้าน คอยยกเหตุผล ใช้สมองหาความจริงถึงความน่าจะเกิด คอยเตือนคนอื่น...มีแต่คนคอยยุว่าจะพังเละเทะ จะต้องตายกันมหาศาล วันนู้นวันนี้ คนที่หลงเชื่อตัดสินใจพลาดเขาจะอยู่ยังไงครับ ครอบครัวเขาจะทำอย่างไร เขาจะอยู่ต่อไปอย่างไร

ดังนั้นการที่จะใช้เหตุผลคำนวน ว่าใครน่าเชื่อถือ สิ่งใดควรเชื่อหรือไม่ควรเชื่อ ความน่าจะเป็น จึงเป็นสิ่งดีนะครับ ไม่ใช่ว่าเป็นมาร หรือบาปกรรม หรือเป็นคนจิตอกุศลต้องตกนรก

ฝากพิจรณาด้วยครับ

 

ขอร่วมกันตั้งจิตเป็นกุศลกันเถิด... บอกกล่าว สอบถาม หรือให้ข้อคิดเห็นกันอย่างสุภาพกันเถอะครับ... บางข้อความ ก็เสียดสี หรือจงใจเยาะเย้ย... ถ้าท่านใดต้องการจะเตือนสิ่งใดเพื่อนสมาชิก ก็ค่อยๆบอกกันแบบสุภาพ... คิดช้าๆ พิจารณาช้าๆ พิมพ์ช้าๆ ... จะได้ไม่ต้องก่อเวรกรรมต่อกันนะครับ.... (ด้วยความเคารพ)

 

ตามที่คุณ Prophecy ได้กล่าวไว้ข้างต้น ( ไม่อยาก QUOTE เพราะมันยาว ) โดยให้ช่วยพิจรณา นั้น

สำหรับดิฉัน (ขอยกตัวอย่างตัวดิฉันเอง ไม่อยากพาดพิงถึงใคร ) การที่คนเราตัดสินใจจะทำอะไรสักอย่าง โดยที่มีคนอื่นบอกให้ทำ ได้รับข้อมูลมาต่างๆ นานา บลา.บลา..บลา..

โดยการบอกกล่าวนั้นก็มีทั้งข้อดีและก็มีทั้งผลกระทบที่จะเกิดกับตัวของดิฉันเอง
ดิฉันคิดว่าสุดท้ายแล้ว คนที่บอกเราหรือข้อมูลที่เรารับมานั้น มันขึ้นอยู่ที่ตัวเราเองนะค่ะ เพราะคนที่ตัดสินใจสุดท้ายนั้นก็คือตัวเรา ถึงแม้ว่าบางครั้ง..หรือบางคน..ก็ต้องยอมรับนะค่ะว่า ข้อมูลต่างๆก็มีอิทธิพลกับการตัดสินใจ แต่..ใคร..คน..ไหน..ก็ไม่สามารถมาตัดสินใจแทนเราได้ค่ะ การตัดสินใจนั้น เราต้องใช้ สติ สมาธิ และ ปัญญา ช่วยนะค่ะ

เพราะที่จริงแล้ว ไม่ว่าจะเกิดภัยพิบัติหรือไม่ก็ตาม
เราทุกคน ย้ำ ทุกคน ก็ต้องตายอยู่ดีค่ะ แล้วเราจะทะเลาะกันเพื่อ..สร้างกรรมต่อ..สร้างภพชาติ.....??

" การกลัวความตาย คือการกลัวที่ไม่มีเหตุผลที่สุดในบรรดาความกลัวทั้งปวง "

........ไอน์สไตน์........

 

ผมว่ารอให้คุณ Aunyasit มาตอบ น่าจะดีกว่านะครับ

พอเถอะครับ ! กรุณางดเว้นคำพูดส่อเสียด ถากถาง

 

สำหรับผมแล้ว ต้องบอกว่า..ขอบคุณมากๆสำหรับทุกคำเตือน โดยเฉพาะจากสิ่งศักสิทธิ์ที่บอกผ่านทุกท่านมา เพราะผมได้นำคำเตือนเหล่านั้นมาเร่งทำความเพียรให้กับตนเอง สวดมนต์มากขึ้น(เรียกได้ว่าเป็นประจำทุกวันเลยก็ว่าได้) นั่งสมาธิได้นานขึ้นเมื่อพิจารณามรณานุสติ ยิ่งทำเป็นประจำ จนเดี๋ยวนี้เริ่มวางอุเบกขาแล้วว่าจะเกิด หรือไม่เกิด ถ้าเกิดขึ้นจริงก็ต้องปล่อยไปตามกรรมที่ได้กำหนดไว้แล้ว ไม่มีใครหนีความตายไปได้ แต่ถ้าไม่เกิดก็ดีไปจะได้มีเวลาทำความเพียรสั่งสมบารมีเพิ่มขึ้นอีกวัน
โมทนาบุญกับทุกคำเตือนด้วยครับ สาธุ

 

เห็นด้วยกับคุณ noway ครับ แต่ถ้าอ่านดูดี ๆ แล้ว
จะเห็นว่าคุณอัญญาสิทธิ์และคณะเริ่มใช้วันที่ 20 พ.ค.
เป็นวันครบกำหนด 5 เดือน ในขณะที่ปู่อชิตะตอน
แรกท่านถาม เกี่ยวกับวันเวลาบนโลกมนุษย์แล้วทาง
คณะตอบท่านว่าขณะนี้เดือน ธ.ค. แล้วปู่ขาวท่าน
จึงได้กำหนดไปว่า "นับจากนี้ไปไม่เกิน 5 เดือน"
ผมจึงคิดว่าในช่วงจนถึงเวลาปลายเดือนนี้ยังต้องเฝ้า
ระวังอยู่เหมือนเดิม...ส่วนจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดก็เป็น
อีกเรื่องหนึ่งนะครับ

ที่บอกว่าเห็นด้วยกับคุณ noway คือ เรื่องการที่สิ่ง
ศักดิ์สิทธิ์บอกวันเวลากับเราแล้วจะคลาดเคลื่อนกันเป็น
ระยะเวลานาน ๆ นั้นไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะธรรมชาติ
ของจิตรู้นั้น ย่อมเทียบวันเวลาระหว่างโลกมนุษย์กับภพภูมิ
ต่าง ๆ ได้ดีอยู่แล้ว อยู่ที่พวกเราเองจะตีความหมายกัน
ไปทางไหน เพราะภาษาที่ใช้เจรจานั้นเป็นภาษาแบบโบราณ
ผมก็เลยยืนยันเอาไว้สำหรับคนที่เชื่อว่า...อย่าเพิ่งผ่อนคลาย
ความระวังนะครับ...ไหน ๆ ก็รอมาแล้ว...รออีกหน่อยคงจะ
ไม่เป็นอะไรนัก

 

ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ศึกษาและติดตามการเปลี่ยนแปลงของโลกและธรรมชาติ ภายหลังที่เกิดเหตุการณ์สึนามิที่ภาคใต้ ได้เห็นภาพความสูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ สัตว์และสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของ ดิน ฟ้า อากาศ ฤดูกาล และจิตใจของมนุษย์ที่มีความแปรปรวน และแย่ลง กระทั่งถึงเหตุการณ์น้ำท่วมปีทีผ่านมา กระทบกิจการของดิฉันต้องปิดลง ทำให้ชีวิตต้องเปลี่ยนแปลงไปซึ่งดิฉันไม่อาจจะประมาทจากภัยธรรมชาติได้อีก

อีกด้านหนึ่งดิฉันศึกษาปฏิบัติธรรม นับถือพระพุทธเจ้า และศรัทธาพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในความคิดของดิฉันที่ได้ศึกษาการเปลี่ยนแปลงของภัยธรรมชาติทั่วโลกทางด้านวิทยาศาสตร์ + การปฏิบัติธรรม และที่สำคัญที่สุด ทฤษฏีเศรษฐกิจพอเพียง และการพึ่งพาตนเอง ของในหลวงที่ท่านทรงมอบให้กับประชาชนชาวไทยนั้น มีคุณค่ายิ่งใหญ่ มหาศาลมากกว่าทรัพย์สิน เงินทอง เครื่องใช้ที่คอยอำนวยความสะดวกในตอนนี้ (หากในภายภาคหน้าไม่มีไฟฟ้า และน้ำมัน ทุกอย่างที่เราเคยมีเครื่องอำนวยความสะดวกในตอนนี้มันจะเสื่อมค่่าลงทันที) ดิฉันมีความเห็นว่าภัยธรรมชาติใหญ่ ๆ จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน จึงต้องเตรียมการและดำเนินชีวิตอย่างไม่ประมาท ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป มีเจริญ ก็ย่อมมีเสื่อมถอย

ในส่วนของคุณอัญญาสิทธิ์ ท่านก็ได้ทำหน้าที่ในการเตือนของท่าน ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุดแล้ว ขอความกรุณาท่านที่ต้องการถามหาความจริงหรือความรับผิดชอบในการเตือนนั้น ใช้วาจาที่สุภาพ อย่าสร้างกรรมกันต่อไปเลย ความจริงที่ท่านถามหานั้น สักวันท่านจะได้รับคำตอบ แล้ววันนั้นท่านจะเข้าใจเอง

ดิฉันได้มีการเตรียมการรับภัยพิบัติไว้เรียบร้อย เหลือเพียงเตรียมดินปลูกพืชผัก สวนครัว ตอนนี้ก็ใช้ชีวิตตามปกติ โดยไม่ต้องนับวันรอ จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไร อย่างน้อยเราก็พร้อม

ปล. สำหรับท่านที่ทำงานประจำ หรือท่านที่ไม่มีงบประมาณในการเตรียมการณ์นั้น ให้ท่านศึกษาเส้นทางพื้นที่ที่ปลอดภัยไว้บ้าง หากเกิดอะไรขึ้นจุดที่จะต้องไปคือสถานที่ไหน เช่น วัด สถานปฏิบัติธรรมต่าง ๆ เชื่อว่าทุก ๆ ที่ ท่านสามารถไปพักได้โดยไม่ต้องเสียเงินค่ะ และสิ่งสำคัญคือ การไหว้พระ สวดมนต์ ทำความดี บางท่านอาจจะไม่มีเวลา ก็ขอเพียงแค่ เราไม่ไปเบียดเบียนผู้อื่น ไม่ทำกรรมไม่ดีเพิ่มก็เพียงพอ

สุดท้ายเอารูปมาฝากเพื่อน ๆ ค่ะ

 

ส่วนที่ออกมาชี้แจงแบบนี้ ผมแย้งให้ได้ครับ ผมก็ติดตามมาตลอดถึงพฤติกรรมคนๆนี้

ที่บอกว่าถ้าเกิน อาจจะเลื่อนไปหลายเดือนเลย เป็นไปไม่ได้ครับ เพราะอะไร...........

เพราะหัวตอ บอกว่าวันที่ 17 จะออกเดินทาง แสดงว่าบทเขียนให้ต้องจรลีแล้ว ถ้าเจ้าตัวรู้ว่ามันละเลื่อนไปเป็นเดือนๆ คงไม่ต้องบอกให้ชาวบ้านหนีไปก่อนวันที่ 20 หรอกครับ

เห็นเขียนย้ำตั้งกี่กระทู้ "เกรงจะไม่ทันการ" อะไรเทือกนี้

บทมันถึงตอนจบมันก็ต้องจบครับ ไม่ต้องรอหรอก ไม่มาแล้ว

หรืออาจจะหลบยาวไปเลยเพราะข้ออ้างที่ว่าเวลาสวรรค์คลาดเคลื่อนกับเวลาโลกมนุษย์เลยเลื่อนไปหลายเดือน

 

อย่ามองเขาในแง่ร้ายขนาดนั้นเลยค่ะ จริงอยู่ภัยพิบัติไม่ได้เกิดขึ้นตาม
คำเตือน เพราะอะไรก็ไม่มีใครรู้ ตัวคุณอัญญาสิทธิ์เองก็คงกำลังสงสัยอยู่
ท่านเองควรเป็นผู้วิเคราะห์เองว่าเสียงที่ได้ยินนั้นเป็นเสียงสิ่งศักดิ์สิทธิ์
หรืออุปาทานของตัวเองกันแน่ แต่เราติดตามท่านมาระยะหนึ่ง
รู้สึกว่าท่านเจตนาดี ไม่ได้ตั้งใจหลอกลวงหรือเพื่อเงินบริจาคแต่อย่างใด

 

ผมเป็นคนหนึ่งที่ติดตามกระทู้นี้มาเกือบ 2 เดือน อยากทราบข้อมูลบางอย่างเพิ่มเติมครับ

1) คนที่ติดต่อ สื่อสารกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หลวงปู่ขาว หลวงปู่อชิตะ ได้ มีเพียงคุณอัญญาสิทธิ์คนเดียว หรือมีคนอื่นด้วยครับ
2) การติดต่อ สื่อสารนั้น ใช้การเข้าร่างทรง หรือ วิธีไหนครับ

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

 

ผมเชื่อว่าหลายคน คงอยากจะฟังว่าสรุปแล้วเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ผมก้อติดตามมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ก็ฟังหูไว้หู ฟังเปงความรู้สึก แต่ก็ไม่ได้เชื่อเสียจนทำอะไรไม่ได้ โดยคิดไว้ว่าอะไรจะเกิดมันก้อต้องเกิด หากคุณเจ้าขอบกระทู้ เขามีพฤติกรรมในทางลบ ผมว่าก็คงต้องปล่อยเป็นเรื่องของเวรกรรมไป ส่วนตัวผมฟังๆมากกว่าครับ เป็นกลางดีที่สุดครับ ^^

 

คุณอัญญาสิทธิ์


พูดอะไรหน่อยซิครับ
จะชี้แจง จะเลื่อน จะขออภัย อะไรๆ ก้ได้ครับ
คนแถวนี้ว่ากันไปเรื่อยๆ ไม่ดีเท่าเจ้าตัวมาเอกนะครับ
เชิญครับ..... เชิญ

 

เขาถูกผีหลอกเอาน่ะครับ น่าเห็นใจเจ้าของกระทู้มาก

ผีพวกนี้มีฤทธิ์ตามสมควร มันจะติดต่อกับคนที่มีสัมผัสที่ไวหรือพิเศษ เพื่อหลอกให้คนบูชา และยกย่อง ผีพวกนี้จะแปลงเป็นพระอาจารย์ที่คนนับถือ อาทิ บุรพกษัตริย์ ฤาษี หรือบุคคลเด่นดัง ที่คนนิยมยกย่อง มันจะหลอกให้คนๆนั้นหลงเชื่อ โดยแสดงฤทธิ์ให้ฉงน เช่น ทำนายอะไรบางอย่างได้ มันจะพร่ำธรรมที่มันแต่งเอง รู้เอง มาพร่ำบอก
เมื่อมันหลอกขนาดนี้ ไม่แปลกที
เมื่อมันหลอกขนาดนี้ เจ้าของกระทู้จึงเชื่อและศรัทธาอย่างหมดใจ หายสงสัย คิดว่าตัวเองติดต่อกับเทพ กับสิ่งศักดิ์ศิทธิ์ได้จริง ที่แท้ก็แค่ผีเร่ร่อนหลอกกินศรัทธาและเครื่องเซ่นเพียงเท่านั้นเอง จงจำไว้ว่าระดับพลังงานของเทพชั้นสูงนั้น ไม่อาจติดต่อกับมนุษย์ได้ง่ายๆเลย ด้วยเหตุผลของระบบกรรมและระดับคลื่นที่แตกต่างกันมากเกินไป คล้ายๆเราพยายามจะคุยกับหมากับแมวนั่นแหละ ยากจะเข้าใจได้ง่ายๆ

ผีเร่ร่อน มีอะไรที่ใกล้เคียงกับมนุษย์ มันจึงสื่อสารกับมนุษย์บางจำพวกได้ ผีพวกนี้มีนิสัยคล้ายๆกับคน ยังวนเวียนอยู่ใน กิน กาม เกียรติ มันจึงหลอกคนเหล่านั้น เพื่อประโยชน์ของมันเอง

ในไตรปิฎก ก็มีเรื่องพญามาร(ผีชั้นสูง)แปลงเป็นพระพุทธเจ้า ให้พระสาวกตะลึงงัน และก้มหัวอภิวาสมาแล้ว สมัยต่อๆมา ก็มีการหลอกลักษณะนี้มาเรื่อยๆ

เตือนเจ้าของกระทู้และผู้ศรัทธาด้วยความหวังดี อย่าให้ผีมันหลอกเอาง่ายๆ เสียชื่อผู้อยู่ใต้ร่มเงาพุทธศาสนาหมด

 

แล้วคุณ ทะเลลึก จะรู้ได้ยังงัยครับว่าที่มาปรากฎให้เห็นหรือได้ยิน เป็น เทพ ที่ช่วยเหลือ หรือ มารที่มาหลอกลวง

แล้วถ้าเกิดว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นจริงๆ และทุกคนก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเพื่อจะอพยพหรือรับมือกับภัยพิบัติ ใครจะรับผิดชอบครับ (เข้าข่ายอยู่ในความประมาท)

ในส่วนตัวแล้ว ถ้าหากไม่มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้นจากนี้ไปจนถึงสัปดาห์แรกของเดือนมิถุนายน ผมก็คงจะไม่พยายามติดตามความเคลื่อนไหวของกระทู้นี้อีก และ ความน่าเชื่อถือก็คงลดลงไปเองโดยปริยาย

 

ขอพูดหน่อยนะครับ ... ในฐานะโพสกระทู้ #2 ของคุณ Aunyasit และไม่ได้โพสเพิ่มเติมในนี้มานานแล้ว เพราะอะไร....

ความตั้งใจเดิมที่ผมถามคุณ Aunyasit ใน #2 นั้นคือ แกติดค้างเรื่องที่ผมสงสัยในพื้นที่พระธาตุพนม เพราะผมเช็คจาก google แล้วพระธาตุพนมห่างจากแม่น้ำโขงไม่เกิน 1 กิโลเมตร แกเลยตอบว่า ปลอดภัย แถมบอกกล่าวว่า จังหวัดแถวๆบ้านผมนั้น ปลอดภัยไม่กี่แห่ง ผมนึกในใจ ... เออ น่าสนใจแฮะ รู้ได้ไงว่าบ้านผมอยู่ใกล้แถวนั้น ติดตามดูดีกว่า เผื่อมีประโยชน์ ... จากนั้นก็เริ่มมีคนถามคุณ Aunyasit มากขึ้นเรื่อยๆ ผมเองก็ขี้สงสัยตามวิสัยชาวโลกเนอะ ถามจนคุณ Aunyasit เริ่มรำคาญผมกระมังว่าเอาตัวให้รอดจากภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นก่อนเถอะ เพราะผมไม่ค่อยถามพื้นที่ปลอดภัยเหมือนชาวบ้านชาวเมืองเขา ถามเรื่องระบอบการปกครองหลังภัยพิบัติไปนู่น ผมก็เลยเพลาๆลง มาบ่นอีกที ตอนที่มีคนอื่นเริ่มโฆษณาแฝงในกระทู้ ผมก็เปรยๆไล่ให้เขาไปตั้งกระทู้ใหม่นั่นแหละ (ตูจะอ่านเรื่องภัยพิบัติ กำลังจินตนาการตามคุณ Aunyasit ทำไมต้องมาแย่งซีนแย่งพื้นที่เดิมของเจ้าของกระทู้เขาด้วย เท่าๆที่อ่านดูที่เขาเขียนเหมือนเขาไม่ถือสานะแถมอโหสิวางอุเบกขาด้วย แต่ลงท้ายเขียนแบบแอบเคือง อิๆ )

มาเริ่มรู้สึกแปลกว่า เริ่มมีคำว่า เลขที่บัญชี เข้ามาเกี่ยวข้องนี่ละ (ประมาณหน้า 24 ได้มั้ง) เลยเตือนว่า ชื่อบัญชีควรเปิดเผยนะ เพราะเป็นงานบุญ แต่ก็ยังคิดในแง่ดีอยู่ คงมีคนเขาอยากร่วมทำบุญ อย่าขวางเขาเลย

จากนั้นติดตามมาเรื่อยๆ ก็เริ่มมีปรากฏการณ์ ลูกแก้วรัตนตรัย เกิดขึ้น แต่ก็ไม่ขวางทางใครเด้อ ส่วนตัวผมเองก็ไม่อยากได้อยู่แล้ว เพราะอ่านพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนกแล้ว รู้สึกว่า ถ้ามันจะรอดก็ขอรอดด้วยความเพียรของตนเองดังในหลวงท่านทรงแนะไว้ดีกว่า

พอมาถึงกระทู้ที่คุณ Aunyasit ตอบคุณ poon-pan ใน #1094 หน้า 55 เรื่อง ในหลวงเสด็จทอดพระเนตร ภาพจิตรกรรมเรื่องรามเกียรติ์ ว่า

"คุณ poon-pan :- การเสด็จไปวัดพระแก้วนั้น พระองค์ท่านคงจะไปเยี่ยมเยียนทอดพระเนตรสถานที่ ที่ในอนาคตก็จะไม่มีวัดที่มีรูปวาดเรื่องราวรามเกียรติ์รอบวัดให้ดูอีกแล้ว ครับ"

นั่นเลยทำให้ผมเริ่มรู้สึกอะไรๆขึ้นมาในใจแล้ว แต่ก็ไม่ได้โต้แย้งอะไรนะ ติดตามดูเรื่อยๆ แต่ความสงสัยใคร่รู้ก็เริ่มเพิ่มพูนขึ้นตอนที่ การวางแผนจัดส่ง ลูกแก้วรัตนตรัย ในความคิดผมนะ นี่ยังส่งกันอีกเหรอ เหลือเวลาไม่นานจะ 20 แล้วนะ จะทันเหรอ หรือนี่คือการวัดใจไปเลยว่า จะรับลูกแก้วทันหรือไม่ทัน ทันก็แสดงว่า(อาจ)รอด ถ้าไม่ทันก็แสดงว่า(อาจ)ไม่รอด

จากนั้นคุณ Aunyasit ก็โพสในทำนองว่า ยังเหลือภารกิจก่อสร้างวางพื้น พุทธสถาน ผมก็นึกในใจอีกหนว่า อ้าวแล้วนี่จะทันมั้ย ทำไมไม่หันไปซื้อเสบียงอาหาร ยารักษาโรค แทนหนอ เผื่อคนที่รอดไปเขาจะพึ่งพาต่อไปได้

อันที่จริงกระทู้อำลาของคุณ Aunyasit บอกว่าวันที่ 17 คงไม่อยู่กรุงเทพแล้วนั้น ตัวผมเองก็อยากโพสบอกคุณ Aunyasit ปิดกระทู้ไปเลยดีกว่า ไหนๆหลังวันฟ้ามืด คงจะไม่มีไฟฟ้า อินเตอเนต ใช้

 

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=KS_d3HqdG8s"]รู้แล้วปล่อยวาง - YouTube[/ame]​