ช่วยแม่หนู่ด้วยนะค่ะ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย KunPorMoo, 18 พฤษภาคม 2012.

  1. KunPorMoo

    KunPorMoo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +14
    วอนผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยว่าควรทำอย่างไร
    ก่อนหน้านี้ไม่นาน แม่ของฉันสังเกตว่า "น้าบี" ลูกน้องแม่มีอาการแปลกๆ หน้าดำ หมองคล้ำ เวลาที่เขาเข้าไปใกล้แม่ แม่จะขนลุก เสี้ยวต้นคอ แม่มักจะได้กลิ่นเหมือนเนื้อเน่า แม่ฉันเข้าใกล้ไม่ได้เลย ส่วนหน้าบี บ่นให้แม่ฟังว่า ขนแขนลุก ขนหัวลุกตลอดเวลา แม่จึงแนะนำว่า งั้นลองงดเนื้อสัตว์ เขาบอกว่า "ไม่ได้ ไม่ได้"

    ลูกน้องแม่อีกคน "น้าตุ๋ม" จึงบอกว่า น้าบีโดนของรึเปล่า จึงได้เชิญพระไปที่บ้านน้าบี พระท่านก็เรียกมาลงหม้อ แต่ว่ายังเหลืออีก4-5ตัวเพราะว่าหม้อเต็มมีทั้งดวงไฟ ทั้งควันมาลงหม้อ
    *ถ้าพระสือเป็นดวงไฟมาลงหม้อ
    ถ้าเป็นผีปอบ ผีกะ จะเป็นควันมาลงหม้อ
    ต่อมาพระที่ช่วยน้าบี ท่านก็อาพาตล้มป่วย

    แม่โทรมาเล่าให้ฉันฟังเพราะว่าแม่ไม่ค่อยสบายใจ ฉันเลยแนะนำให้แม่สวดมนต์ สวมนะโมฯ พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ยอดพระกัณฑ์ พระไตรปิฏก สวดแผ่เมตตา และกำแพงแก้วเจ็ดชั้น ทุกวันอย่าให้ขาด

    คืนก่อนแม่ก็โทรมาเล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนแม่ฝันว่า มีผู้หญิงที่ไม่เคยเห็นหน้ามายืนออกันอยู่หน้าบ้าน แม่ฉันจึงเดินเข้าถามว่า มาทำไม เขาก็ไม่ตอบ แม่ฉันจึงถามอีกว่าต้องการอะไรจะให้ทำบุญไปให้ไหม เขาบอกว่าไม่เอา เขาไม่ชอบแม่
    แม่ก็ถามอีกว่า "ทำไมไม่ชอบ ฉันไปทำอะไรให้ ถ้าฉันได้ล่วงเกิน ทำอะไรไม่ดีก็จะได้ไปขอขมา ทำบุญไปให้" เขาบอกว่าเขาไม่เอา แม่จึงไล่ให้ไปพ้นจากหน้าบ้าน
    .........................................................................

    ฉันเป็นห่วงแม่มากค่ะ ตอนแรกที่แม่เล่าให้ฟังเรื่องลูกน้องของแม่ ฉันก็เป็นห่วงมากอยู่แล้ว ยิ่งแม่ฝันแบบนี้ยิ่งเป็นห่วง ไม่เข้าทำใจว่า ทั้งที่ฉันแนะนำให้แม่สวดมนต์แล้ว แผ่เมตตาให้เขาแล้วแต่ทำไมก็ยังมาฝันแบบนี้อีก
    วอนผู้รู้แนะนำได้ไหมค่ะควรทำอย่างไร ที่จะป้องกันไม่ให้เขามายุ่งหรือทำอันตรายแม่ของฉัน และครอบครัวของฉัน
    และเขายิ่งบอกว่า เขาไม่เอา เขาไม่รับ
    เราควรทำอย่างไร หรือแนะนำอะไรก็ได้...ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
     
  2. oam_kab

    oam_kab สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +11
    เป็นกำลังใจให้ครับ ไอ้ตัวผมก็ศึกษาธรรมะเพียงผิวเพินคงไม่อาจจะให้คำเเนะนำได้เเต่ก็ขอให้คุณได้รับความช่วยเหลือโดยเร็วนะครับ
     
  3. nongyao

    nongyao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    321
    ค่าพลัง:
    +346
    ฟังแล้วน่ากลัวมากอ่ะ ขอให้คนมีความรู้มาช่วยตอบด้วย ดิฉันไม่มีความรู้ แต่เอาใจช่วยให้แก้ไขให้ลุล่วง โล่งสบายได้
     
  4. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,960
    ผมช่วยแนะนคุณได้ ไม่รู้ว่าคุณจะรับฟังไหม

    ผู้ในฝันผมยาว ค้ำๆ ทำผมประมาณว่าจะผิดหน้าอธิบายไม่ถูกอ้ะครับคือมันมาบังหน้าตาไม่กี่เส้นๆ ลองถามคุณแม่คุณทีว่าใช่ไหมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2012
  5. KunPorMoo

    KunPorMoo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +14
    ยินดีรับฟังทุกคำแนะนำค่ะ เพราะตอนนี้เป็นห่วงแม่มาก...และขอขอบคุณล่วงหน้าด้วยค่ะ
     
  6. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,960
    วิธีแรก
    ใกล้บ้านมีศาลเจ้าจีนไหม ถ้ามีจะมีอยู่ศาลเจ้านึงที่ทำพิธีประทับทรง ให้เทพเจ้าศาลนั้นช่วย เดี๋ยวจะจัดการให้เอง เทพที่ลงตามศาลเจ้าที่เป็นของจริงๆะเพราะไม่งั้นจะมีคนไปบริจาคเงินพวกเสี่ยงและคนอื่นๆทำไมกันถ้าไม่ใช่ของจริง ลองไปหาดูซึ่งเค้าอาจจะลงประทับวันที่20นี้ครับ

    วิธีที่สอง
    -ไหว้เจ้าที่หาข้าวปลาอาหารคราวแล้วแต่อัตภาพ บอกว่าขอให้คุ้มครองอะไรก็ว่าไปแล้วอย่าใครมีฤทธิ์ในที่ๆเราอยู่อาศัยขอให้เจ้าที่จัดการให้ที

    -ไหว้พระภูมิถ้าไม่มีศาลพระภูมิก็ตั้งโต๊ะกางแจ้งแล้วก็ไหว้บอกเหมือนกับพูดกับเจ้าที่เป๊ะๆเลย

    วีธีทีีี่่สาม
    บูชาวัตถุมงคลติดตัว
    -พระอุปคุต ของวัดท่าขนุน
    -พระชัยวัฒน์ยันต์เกราะเพชร ของวัดท่าขนุน
    -ผ้ายันต์เกาะเพชร ของวัดท่าขนุน ผืนละ 50 บาทเองครับ

    จำพญามารที่จะมาทำร้ายพระพุทองค์ได้ไหมนั่นแล่ะพระอุปคุตเป็นคนจัดการ

    อานุภาพของยันต์เกราะเพชร : ป้องกันคุณไสยและยาสั่ง

    <hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1"> ถาม : ในกรณีที่เพื่อนโดนของและไม่สะดวกที่จะพาเพื่อนไปร่วมพิธียันต์เกราะเพชร รวมทั้งเพื่อนไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ จะใช้วิธีเอารูปพร้อมวัน เดือน ปี เกิดไปเข้าพิธีแทน เพื่อที่จะช่วยแก้และป้องกันคุณไสยจะได้หรือไม่คะ ?

    ตอบ : เท่าที่มีประสบการณ์มา ยันต์เกราะเพชรมีไว้กันคุณไสย ไม่ใช่แก้คุณไสย แต่ บุคคลที่ถูกคุณไสยมา ถ้าเข้าร่วมพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร คุณไสยจะเสื่อมลงทันที ถ้าเขาไม่เชื่อและไม่ไปร่วมพิธี ก็ไม่สามารถที่จะช่วยเขาได้

    ถาม : ยันต์เกราะเพชรป้องกันในเรื่องของยาสั่งได้ไหมครับ และคนที่ทำกับเราจะเป็นอย่างไรครับ ?

    ตอบ : ป้องกันได้ แต่ต้องมีการเตรียมการล่วงหน้า คือ ตอนเช้ามืดภาวนา อิติปิโสฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ จนอารมณ์ตั้งมั่น แล้วกลืนน้ำลาย ๓ ครั้ง จะป้องกันอันตรายได้ทุกอย่าง ไม่ใช่ว่าไม่มีการเตรียมพร้อมเลยแล้วไปโดนเข้า ถ้าแบบนั้นก็แย่หน่อย สำหรับคนที่ทำเราแบบนั้น ถึงเราไม่ทำอันตรายอะไร นานไปเขาก็จะแพ้ภัยตัวเอง

    ถาม : ผมไม่ได้ไปเป่ายันต์ เช่าผ้ายันต์เกราะเพชรมาจากบ้านอนุสาวรีย์ มีวิธีบูชาอย่างไรบ้างครับ ? ปฏิบัติตัวอย่างไร ? ห้ามอะไรบ้าง ? และเวลาอุทิศส่วนกุศลให้กับคนอยู่และตาย เขาจะรับรู้หรือไม่ ?

    ตอบ : ภาวนา อิติปิโสฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ ทุกเช้า แล้วกลืนน้ำลายสามครั้ง ขอบารมีพระคุ้มครอง จะปลอดภัยทั้งวัน ถ้ารักษาศีล ๕ ได้ครบถ้วนจะยิ่งดีมาก ถ้ารักษาไม่ครบ อย่างน้อยต้องไม่ลักขโมยและไม่กินเหล้า ยันต์ถึงจะคุ้มครองได้


    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนตุลาคม ๒๕๔๕
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ



    ถ้าสนใจวันถุมงคลก็ติดต่อเอาเองครับ ผมทำได้แค่เพียงแนะนำwww.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=806
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2012
  7. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,960
    อานุภาพยันต์เกราะเพชรของหลวงพ่อปาน​

    [​IMG]

    ยันต์เกราะเพชร
    สุดยอดแห่งพุทธานุภาพ จากตำราของพระร่วง​

    [​IMG][​IMG]

    หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา องค์บูรพาจารย์ของหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง เป็นต้นตำรับการเป่ายันต์เกราะเพชร
    หลวงพ่อฤาษีฯ ท่านเมตตาเล่าว่า งานเป่ายันต์แต่ละครั้ง เรือแพแน่นขนัดไปทั้งแม่น้ำ เดินข้ามไปอีกฝั่งได้สบาย ๆ ผู้คนหลั่งไหลกันมามืดฟ้ามัวดิน หุงข้าวพร้อมกันทีละแปดกระทะ ตั้งแต่เช้ายันเย็นยังไม่พอเลี้ยงคนเลย…!


    อานุภาพยันต์เกราะเพชรของหลวงพ่อปาน
    โดย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    [​IMG]

    ธงมหาพิชัยสงคราม​

    ยันต์เกราะเพชรนี้ หลวงพ่อปานศึกษาจากตำราพระร่วง โดยตัดมาจากส่วนหนึ่งของธงมหาพิชัยสงคราม เป็นการนำเอาพุทธคุณบทต้นมาเขียนเป็น ตัวขอม อ่านตามขวางว่า
    อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา
    ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง
    ปิ สัม ระ โล ปุ สัต พุท
    โส มา ณะ กะ ริ ถา โธ
    ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ
    คะ พุท ปัน ทู ทัม วะ คะ
    วา โธ โน อะ มะ มะ วา
    อะ วิ สุ นุต สา นุส ติ​


    สำหรับ ยันต์เกราะเพชร คือ เป็นคาถา อิติปิโส ภควา อรหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจรณสัมปันโน สุคโต โลกวิทู อนุตตโร ปุริสทัมมสารถิ สัตถา เทวมนุสสานัง พุทโธ ภควาติ เรียกกันว่า ห้องพระพุทธคุณ
    แต่เขียนลงมาอย่างหนังสือเจ๊ก เขียนลง ไม่เขียนตามบรรทัด เขียนลงมา ๗ คำ แล้วก็ไปขึ้นต้นใหม่เรียงกันไป ก็ว่า อิระชาคะตะระสา ติหังจโตโรถินัง นี่เรียกว่า อิติโส ๘ ทิศ อย่างนี้แหละ แล้วก็ชักเป็นยันต์ เรียกสูตรตามเส้นที่เขาชักไป
    สำหรับยันต์เกราะเพชรนี่หลวงพ่อปานปลุกได้ดีมาก เพราะว่าเวลาท่านจะเป่าให้ใครนั้น ท่านเขียนยันต์ใส่กระดานดำไว้
    [​IMG]


    แล้วท่านก็ยืนอยู่ข้างหลังให้ทุกคนจุดธูปเทียน แล้วภาวนาว่า พุทโธ ถ้าคนไหนมีครรภ์ ผู้หญิงมีครรภ์ก็ให้จุดธูป ๑ ดอกแทนลูกในครรภ์ แล้วท่านก็เป่า เวลาเป่ายันต์เข้าตัวจะมีความรู้สึกหนักที่ศีรษะหรือว่าคันที่หน้า ยังงี้เรียกว่ายันต์เข้าจับตัวแล้ว ถ้ายันต์เข้าจับตัวทุกคนก็เป็นอันว่าเลิกกัน

    ท่านเป่าเฉพาะวันเสาร์ห้า คือว่าเป็นเดือนอะไรก็ตาม เป็นขึ้น ๕ ค่ำวันเสาร์ หรือวันเสาร์ตรงกับ ๕ ค่ำ อันนี้ใช้ได้ เรียกว่าท่านทำเป็นปกติ แล้วก็วันเสาร์ ๕ นี่แหละเป็นวันยกครูของท่าน ท่านจะยกครูหมอ ครูอะไรก็ตาม ก็ทำกันวันเสาร์ห้า

    คนเยอะยิ่งกว่ามีงานวัดอีก ศาลาของท่านใหญ่จุคนเป็นพัน แต่เวลาเป่ายันต์เกราะเพชรจริง ๆ ต้องผลัดกัน ๔-๕ รุ่น เรียกว่านั่งเต็มศาลาเป่า ๑ คราว ใครเป่าแล้วก็ลงมา คนที่ยังก็ขึ้นไป ยังงี้เปลี่ยนกันถึง ๔-๕ รุ่น

    คุณสมบัติของยันต์เกราะเพชรก็เป็นการกันการกระทำการกลั่นแกล้งจากคนอื่นด้วย วิชานี้ดีมาก หากว่าใครขืนทำเข้าคนนั้นก็เคราะห์ร้าย เคราะห์ร้ายเพราะอะไร ของเหล่านั้นจะกลับสะท้อนย้อนเข้าไปหาตัว

    คราวหนึ่ง พระผลบวชพรรษาเดียวกับฉัน แกอยู่อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี แกไปรับยันต์เกราะเพชร พอรับแล้วแกก็ออกไปหลังวัด ปรากฏว่าถูกงูเห่ากัดเห็นตัวชัดเพราะเป็นกลางคืนเดือนหงาย เห็นว่าเป็นงูเห่าแน่ เอาไฟส่องดูก็แผ่แม่เบี้ยหราเป็นงูเห่า แกก็วิ่งเข้ามาหาหลวงพ่อปาน หลวงพ่อปานก็ถามว่า แกรับยันต์เกราะเพชรหรือเปล่า พระผลก็บอกว่ารับขอรับ ท่านบอกว่าถ้ารับไม่รักษา ฉันอยากจะดูคนที่รับยันต์เกราะเพชรมันตายเพราะถูกงูกัดสักคน ถ้าหากว่าแกตายฉันจะดีใจมาก ท่านผลหน้าซีด

    ปรากฏว่าในขณะที่ท่านพูด พิษมันวิ่งขึ้นมาถึงเข่า แล้วก็ถอยไปปวดอยู่ปากแผล เดี๋ยวมันก็ปวดขึ้นมาถึงเข่า แล้วก็ปวดที่ปากแผล ๓ ครั้ง พอวาระที่สามปรากฏว่า อาการปวดหายไปหมดเลย พิษหมดเลย พระผลดีใจมาก บอกว่าหายปวดแล้วครับ

    หลวงพ่อปานก็บอกว่านั่นนะซิ ฉันแน่ใจว่ายันต์เกราะเพชรของฉันดี แต่ถ้าแกรับแล้วแกตายเพราะงูกัด ฉันก็จะเห็นว่าแกเป็นคนเลวมาก ไม่มีความเคารพในพระพุทธเจ้า เพราะว่ายันต์เกราะเพชรนี่ฉันอาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าคุ้มครองนะไม่ใช่อื่น ถ้าแกตายแล้วก็เป็นพระด้วย แกรับยันต์เกราะเพชรไปแล้วด้วย ถ้าถูกงูกัดแล้วตายเพราะงูพิษ ก็น่าจะตายหรอก เพราะว่าคนที่บวชแล้วไม่เคารพในพระพุทธเจ้า ไม่เลื่อมใสในพระพุทธเจ้าบวชเข้ามาในพระพุทธศาสนา เป็นคนเลวก็ควรจะตาย แต่ว่าแกไม่ตาย นี่ก็แสดงว่าแกเป็นคนดีแล้ว ความมั่นคงในพระพุทธเจ้าใช้ได้ นี่ว่ากันถึงยันต์เกราะเพชร

    [​IMG]

    หลวงพ่อฤาษี เป่ายันต์เกราะเพชรที่วัดท่าซุง

    หลวงพ่อฤาษีฯ เริ่มเป่ายันต์อย่างเป็นทางการครั้งแรก เมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๒๕ ที่ศาลาพระพินิจอักษร คนมารับยันต์หลายพันคน ต้องทำพิธีเป่าอยู่หลายรอบ ครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๒๖ ที่ ศาลา ๒ ไร่ ผู้คนแห่กันมาหลายหมื่นคน ต่อมาหลวงพ่อได้สร้างศาลา ๓ ไร่, ๔ ไร่ และศาลา ๑๒ ไร่ เพื่อรองรับศรัทธา เพราะมีผู้มาร่วมพิธีเป่ายันต์กันมากขึ้นทุกปี ขนาดศาลา ๑๒ ไร่ คนก็เต็มและต้องเป่าหลายรอบ

    การเป่ายันต์ไม่ได้เป่าทีละคน หากแต่เป่าทีละเต็มศาลา กี่หมื่นกี่แสนคนก็เป่าพร้อมกันทีเดียว “พระ”ท่านบอกว่า เป่าทีเดียวทั่วจักรวาล จะอยู่มุมไหนของโลกก็ตาม ถ้าตั้งใจรับด้วยความเคารพ ก็มีผลเช่นเดียวกับคนที่มาเข้าพิธีด้วยตัวเอง…

    หลวงพ่อจะให้ผู้รับยันต์ สมาทานศีล สมาทานพระกรรมฐาน แล้วดูภาพยันต์ที่ตั้งไว้ในพิธี ตั้งใจจำภาพยันต์ไว้ในใจ แล้วหลับตาภาวนาว่า พุทโธ ไปเรื่อย ๆ จนกว่าหลวงพ่อจะบอกว่าเสร็จพิธี…

    ยันต์เกราะเพชร คือ พุทธานุภาพ ขณะที่เราหลับตาภาวนา พระพุทธเจ้าจะเปล่งฉัพพรรณรังสีลงมา ครอบคลุมท่านที่ตั้งใจรับยันต์ หลวงพ่อท่านจะคอยดูอยู่ พอพระท่านบอกว่าเต็มแล้ว หลวงพ่อก็จะบอกให้เลิกภาวนา…

    เมื่อยันต์เกราะเพชรเริ่มจับตัว ผู้รับจะมีอาการต่าง ๆ กัน เช่นร้อนหู ร้อนหน้า ขนลุกขนชัน หนักศีรษะ หรือ คันยุบยิบเหมือนมีตัวไรไต่ บางคนจับไข้ไปเลย อาการเหล่านี้จะทรงอยู่ไม่เกิน ๒-๓ วัน พอยันต์เข้าตัวหมดก็หายไปเอง…

    ผู้ที่ถูกไสยศาสตร์มา ไม่ว่าจะเป็นคุณผี-คุณคน หรืออะไรก็ตาม เมื่อเริ่มทำการเป่ายันต์ ท้าวจตุมหาราชและ บริวารจะช่วยขับของเหล่านั้นออกให้ คนที่โดนของมาจะทั้งดิ้นทั้งร้อง ต้องปล่อยให้สงบไปเอง เลิกดิ้นเลิกร้องเมื่อไร แปลว่า ของอาถรรพ์สลายตัวหมดแล้ว…!

    การเป่ายันต์เกราะเพชร เป็นการปลุกเสกวัตถุมงคลไปในตัวด้วย ใครมีวัตถุมงคล ไม่ว่าจะเป็นพระเครื่อง ผ้ายันต์ ตะกรุด หรือ เครื่องรางใด ๆ ก็ตาม เวลาเข้าพิธีให้วางไว้บนตักตัวเอง เสร็จพิธีเป่ายันต์ ก็นำไปใช้ได้เลย…

    การรักษายันต์เกราะเพชรให้อยู่กับตัว ผู้รับยันต์ไปต้องมีศีล ๕ บริสุทธิ์ หรืออย่างน้อย ต้องมีศีล ๒ ข้อ คือ ห้ามกินเหล้า และ ห้ามลักขโมย ตอนเช้าต้องสวดมนต์ไว้พระ นึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อาราธนาบารมีของท่าน ลงมาเป็นเกราะเพชรคลุมกายเรา ภาวนา “พุทโธ”ให้ใจสบาย แล้วกลืนน้ำลาย ๓ ครั้ง ถ้าทำแบบนี้ได้ทุกวัน อานุภาพของยันต์เกราะเพชรจะคุ้มครองรักษา ให้ท่านมีความปลอดภัยทุกประการ…

    ผู้ที่รับยันต์ไปแล้ว ถ้ารักษาไว้ได้จะมีอานุภาพดังนี้

    ๑.จะไม่ตายโหงอย่างเด็ดขาด
    ๒.จะไม่ตายด้วยพิษสัตว์ทุกชนิด
    ๓.ปลอดภัยจากไสยศาสตร์ทุกชนิด
    ๔.ไสยศาสตร์ทุกประเภท จะสะท้อนกลับไปเอง

    ผู้รับยันต์ไปเป็นผู้ใหญ่ ถ้ารักษาไว้ด้วยดี เมื่อตายแล้วเผา จะมียันต์ติดอยู่ที่กระดูก สำหรับเด็กในท้อง ถ้าเป็นลูกชายคนหัวปี เมื่อคลอดออกมา จะมียันต์ติดอยู่ตามตัว เป็นลวดลายต่าง ๆ กันไป…

    ลูกศิษย์หลวงพ่อหลายคน เมื่อตายแล้วเผามียันต์ติดที่กระดูก บางคนกระดูกลายเป็นพระธาตุไปเลย เด็กที่เกิดมามียันต์เกราะเพชรติดตัวเป็นจำนวนมาก บางคนลายเป็นแตงไทย บางคนหูดำทั้งสองข้าง บางคนเป็นยันต์เกราะเพชรอย่างชัดเจน…

    รายหนึ่งอยู่ลพบุรี ผู้เป็นแม่รับยันต์ไปแล้ว ตั้งใจรักษาศีล ๘ อย่างเคร่งครัด ลูกเกิดมามียันต์เป็นสีแดง และปรากฏขึ้นทุกวันพระ อีกรายมียันต์ติดกระหม่อมเป็นรูปกงจักร ซึ่งลวดลายยันต์เหล่านี้จะค่อย ๆ ซึมเข้าเนื้อ ไปอยู่ที่กระดูกจนหมด.

    หมายเหตุ :
    การเป่ายันต์เกราะเพชร เป็นวิชาที่หลวงพ่อปานท่านศึกษาจากตำราพระร่วง พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง) ได้เล่าไว้ในหนังสือประวัติหลวงพ่อปานว่า :

    หลังจากหลวงพ่อปานตายแล้วปีหนึ่ง ฉันนอนนึกถึงสมุดตำราของหลวงพ่อปาน ที่อาจารย์แจงขอยืมไป ฉันนึกขึ้นมาได้ว่า ท่านขอยืมเอาไปปีหนึ่งแล้วท่านจะมาส่ง นี่ไม่เห็นท่านมาส่ง แล้วหลวงพ่อปานก็ตายแล้ว จะลองๆ ไปถามท่านว่าจะให้ไหม จะได้เอามาใช้บ้างเผื่อจะฮิตขึ้นมา

    เมื่อไปถึงอำเภอสวรรคโลก พอไปถึงที่นั่น ได้ยินข่าวว่าอาจารย์แจงตายตายไล่ๆ กับหลวงพ่อปาน เลยแจ้งภรรยาของท่านว่า ฉันนี่เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อปาน จะมาขอตำราคืนไป จะได้นำไปใช้ให้เป็นประโยชน์

    ภรรยาของท่านก็หยิบหนังสือขึ้นมา อาจารย์แจงเขียนเป็นตัวหนังสือคล้ายๆ โบราณ บอกว่า ตำราเล่มนี้เป็นตำราของอาจารย์พระร่วง ข้าพเจ้าได้รับมอบหมายมาจากต้นตระกูล เพราะตระกูลของข้าพเจ้าเป็นตระกูลของพระร่วง ถ้าหากว่า บุคคลใดจะนำตำรานี้ไปใช้เป็นประโยชน์ ให้นำดาบ ๒ เล่มนี้ ไปรำที่กลางนอกชาน รำกลางแจ้ง ถ้ารำดาบแล้วมีฟ้าผ่ามาใกล้ๆ ฟังเสียงชัด ก็มอบตำรานี้ให้ได้

    ภรรยาอาจารย์แจงบอกว่า พออาจารย์แจงตาย ก็มีคนมารำกันเยอะ ฟ้าไม่ผ่า แกก็ส่งดาบให้ ฉันก็หยิบดาบ เอาตำราไปวางไว้ที่หน้าพระพุทธรูป แล้วฉันก็จุดธูปเทียนบูชา อธิษฐานว่า ถ้าวาสนาบารมีของฉันนี้เคยเกี่ยวข้อง กับท่านเจ้าของตำราเล่มนี้มาบ้าง และควรได้รับตำรานี้ไว้เป็นสมบัติของตน และคาถาในตำรานี้ จะเป็นประโยชน์แก่ฉัน ขอให้ฟ้าผ่าลงมาขณะที่ฉันถือดาบ ออกไปกลางแจ้ง

    ในที่สุด พอเดินออกไปกลางนอกชาน ไม่ทันถึง ๒ นาที ฟ้าผ่าเปรี้ยง หูอื้อไปตามๆ กัน เป็นอันว่าฉันมีสิทธิ์ในการใช้ตำรา แล้วฉันก็รับตำรามา.

    ที่มา : เว็บพลังจิต


    ค่อยๆอ่านแล้วกันครับ เดือนมิถุนารู้ว่าจะมีการเป่ายันต์เกราะเพชรด้วยนะครับ
     
  8. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,960
    [​IMG]
    จากหนังสือบันทึกของชาโดว์เล่ม 1 หน้า 129

    เมื่อคืนวันที่ 3 มิถุนายน 2537 หลวงพ่อท่านฤาษีลิงดำสั่งลูกศิษย์ที่บ้านซอยสายลมให้ท่องคาถา"ภะสัมสัม วิสะเทภะ"ทุกวันเพื่อป้องกันคุณไสย หรือไสยศาสตร์ ซึ่งเวลานี้เล่นกันมากทั้งในและต่างประเทศ
    ถ้าประชาชนช่วยกันท่องมากๆ จะช่วยป้องกันประเทศด้วย เมื่อใครสงสัยว่าจะโดนของให้ว่าคาถาบทนี้ทำน้ำมนต์ดื่มทันที
    อ้อ...ก่อนว่าคาถาทุกบทต้องว่า นะโม 3 จบ ก่อนเสมอ
    บางคนอาจไม่เชื่อ แต่ข้าพเจ้าเชื่อ และเคยพบหมอเขมรต้นตอมาแล้วโดยบังเอิญ
    หลวงพ่อท่านเล่าให้พวกเราฟังเสมอ และย้ำว่า พวกลาว เขมร ทำเก่งมาก
    นึกกลัว เจ้าประคู๊น ... ขออย่าให้ เจอะเจอเลย เจอจนได้เรื่องมาเขียนให้ท่านอ่านนี่แหละ

    เมื่อปี พ.ศ.2525 หลวงพ่อท่านเตือนพวกเราว่า "ระวังภัยมืด"
    ฝ่ายตรงข้ามที่คิดจะทำลายประเทศชาติ ทำลายศาสนา และทำร้ายองค์หลวงพ่อท่าน
    โดยเฉพาะเมื่อเขาทำไม่สำเร็จเขาจะทำลายลูกศิษย์ แล้วท่านแจกเชือกยันต์แดงมีเหรียญรูปเหมือนของท่านคล้องอยู่ด้วย ท่านแจกพวกเราที่ตามท่านไปคลองวาฬ ประจวบฯ เมื่อข้าพเจ้าไปรับกับมือ
    ท่านว่า "เอ๊า .. ป้องกันอันตราย"
    เมื่อได้ยินแบบนี้เลยคิดว่าน่ากลัวเราจะโดนของ หรือท่านรู้ว่าเราเป็นคนตาขาวมั๊ง...
    พวกเราคอยเตือนกันในหมู่ใกล้ชิด ที่ทำงาน และติดตามหลวงพ่อท่านไปไหนๆเสมอ
    ปีนั้นพวกเราโดนกันหลายคนแต่ไม่เป็นไร เช่น
    เสกหนังควายเข้าท้อง มีอาการปวดท้องมาก ถ่ายเหลว เมื่อชักโครกหรือราดน้ำไปแล้ว เหลือแต่แผ่นสีดำนิ่มๆ กว้างยาวประมาณ 1-2 นิ้ว ลอยให้เห็น
    หลวงพ่อท่านว่า "แบบนี้คือหนังควายเสกเข้าท้อง ถ้ามีผลมันจะขยายใหญ่ขึ้นทุกทีๆจนคับพุงตาย"

    อีกแบบคือเป็นเบ็ดตกปลาติดอยู่กับเส้นผม หวีผมอยู่ดีๆมีเบ็ดติดออกมาบ้าง
    อีกแบบโดนยาสั่งมะเขือ ที่วัดรวมกันหลายคน แต่เปี๊ยกเป็นคนเดียว ปวดท้องมากกว่าถ่ายเหลวจนต้องให้น้ำเกลือกลางดึก
    อีก 2-3 เดือน ท่านแม่ศรีประทับทรงบอกว่า "โดนยามะเขือสั่ง" นึกอยู่ตั้งนานถึงได้นึกออกว่าที่วัดเรากินมะเขือจริงๆ

    เย็นวันหนึ่งข้าพเจ้าสำรวจกระถางบอนหน้าบ้าน เอ๊ะ... ใครเอาตะปูเป็นพวงมีสนิมตัวใหญ่ขนาดยาว 6 นิ้วมาวางทำไมนะ มันช่างทำเหมือนกันดีจริงๆ คือตัวเท่ากันและหักมุมเหมือนกันหมดทุกตัว
    จับขึ้นมา นึกในใจว่า ใครมันส่งมาก็ส่งกลับคืนไปก็แล้วกัน
    ท่องคาถา "เมสัมมุขขา สัพพาหะระติ เตสัมมุขขา" สองสามจบ
    นึกเล่นโก้ๆงั้นเอง เพราะในกลุ่มเรายังไม่มีใครเคยมรอะไรแปลกกันเลย อีกหลายเดือนเมื่อคนอื่นมี จึงฉุกคิดได้ว่า นั่นแหละของจริง

    ลูกสาวข้าพเจ้าไปช่วยงานทอดกฐินที่วัดท่าซุง นอนคืนแรกยังไม่หลับ เห็นผีเขมรผอมดำเป็นเด็กผู้ชาย นั่งเฝ้าข้างๆ ไม่นึกกลัวคิดว่าเด็กตัวแค่นี้สู้ได้ พอดึกๆง่วงมากมันอำเอาเลย สู้ไม่ได้ เรียกหลวงปู่ปานและหลวงพ่อท่านช่วยไล่ไป
    ผีไปแล้ว รุ่งขึ้นลูกมึนหัว ปวดท้อง ท้องเสียเหมือนกัน
    หลวงพ่อท่านว่า "ควรจะดีใจ ที่เขาทำมาแล้วไม่มีผล ที่ออกมาแบบนั้นเพื่อให้เรารู้ตัวว่าเขาปล่อยมาจริงๆ"
    พวกเราไม่กลัว แต่แอบตื่นเต้นเงียบๆ ดังไปจะเป็นที่แตกตื่นให้คนกลัวเปล่าๆ

    บันทึกของชาโดว์ เล่ม1 หน้า 132

    นั่งเฉยสบายอยู่บนพระนิพพาน ใจมันนึกขึ้นว่าไปบ้านหมอดู กราบท่านทั้งสามองค์ขอให้ท่านช่วย
    เห็นผีลำบากหลายคนน่าสงสาร ล่ามโซ่บ้าง ขังกรงบ้าง เลยแผ่เมตตาขอบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์
    พระปัจเจกพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทุกๆพระองค์ พระอาจารย์ พรหม เทวดา ท่านปู่ท่านย่าท่านตาท่านยาย
    ท่านพ่อท่านแม่ในอดีตชาติ ขอหมดไม่มีเหลือ แถมยังทวงบุญคุณท่านอีก คือความดีทั้งหมดที่ลูกเคยทำบุญกุศลรับใช้ท่านในอดีตจนถึงปัจจุบันนี้ และที่ได้ช่วยหลวงพ่อทำงานวัด
    ช่วยสอนคนไปพระนิพพานได้หลายคนแล้วนั้น บุญที่เกิดกับข้าพเจ้าเพียงใด ขอให้ผีลำบากเหล่านี้จงได้รับเพียงนั้น
    และจะทำสังฆทานให้อีกด้วย สว่างพรึบขึ้นคล้ายๆใครเอาไฟฉาย ฉายหน้า เห็นพระพุทธองค์ หลวงพ่อท่านชัดอยู่ข้างหน้าตลอด ผีหลุดสบายแล้ว ใจจังตื่นอยู่ ไม่อยากนอน สวดมนต์ท่องคาถาดีกว่า มีหลายบท
    บทไหนได้มาก่อน ว่าก่อนเรื่อยๆไป ทีละบทๆ

    หลวงพ่อท่านเคยบอกว่าขณะที่เราท่องคาถาถูกแม่นยำ ขณะนั้นจิตเราอยู่ในฌานได้บุญแล้ว ข้าพเจ้าจึงท่องทุกวัน กันลืมด้วย ยิ่งท่องในใจยิ่งเร็วดี คาถาจะเรียงกันตามลำดับได้ก่อนหลัง โดยที่เราไม่ต้องนึก ความเคยชินเป็นเอง
    ยิ่งเราเอาจิตขึ้นไปสูงมากเท่าไร คาถายิ่งผ่านไป และหมดเร็วเท่านั้น ไม่ต้องกังวลว่ากี่จบนะ เราเคยตั้งใจท่องบทไหนกี่จบตั้งแต่สมัยที่ยังทำมโนมยิทธิไม่ได้ต้องนับไว้ ใช่ไหม...
    เมื่อทำมโนมยิทธิได้แล้ว จิตจะหยุดเอง เปลี่ยนบทเอง นอกจากจะมีเหตุการณ์อะไรเฉพาะเกิดขึ้นคาถาบทนั้นจะสะดุด
    คือไม่อยากเปลี่ยนบท เราพอจะเดาได้ว่าจะมีเหตุอะไรเกิดขึ้น เช้ามืดวันนั้นจิตมันเป็นหนึ่ง สว่างสบาย
    คาถาว่าในใจเรื่อยๆ จนถึงบทต่ออายุ เห็นหน้าหมอดูโผล่ขึ้นมาชัด กราบเรียนถามพระพุทธองค์ๆท่านบอกว่า
    ผีที่เราปล่อยเมื่อกี้จะฆ่าหมอดู (ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเราปล่อยผีหรอกนะ เห็นเขาลำบากอยากจะให้เขาสบายเท่านั้นเอง)
    ท่านสั่งให้ว่าคาถาต่อไป บทต่ออายุนี้ ถ้าเขียนยาวตั้งหน้ากระดาษ ปกติท่องวันละจบเดียวเท่านั้น
    เช้านั้นใจท่องไม่ยอมหยุด ขณะที่ท่องเห็นเหมือนตัวเองเอาด้ายสายสิญจน์วนรอบตัวหมอดูด้วย รู้สึกว่าคาถาได้ประมาณ 5 จบมั๊ง ใจเปลี่ยนท่องบทอื่นต่อไปอีก
    เมื่อถึงบทส่งคืน คือใครส่งมาดีไคืนกลับไป ใครส่งร้ายมา ร้ายนั้นกลับไป ที่ว่า
    "เมสัมมุขขา สัพพาหะระติ เตสัมมุขขา สัพพาหะระติ" เท่านั้น หนังตาที่หลับดีๆมันกระพริบอย่างแรงพั๊บๆชอบกล
    จะหลับก็ไม่หลับ จะลืมก็ไม่ลืม ไม่เคยเป็นอย่างนี้สักที ใครปล่อยอะไรมามั๊ง ...หรือ หมอดู
    เอาลูกประคำทำพิธีแล้วอย่างดีมานับส่งคืน 108 จบ แล้วต่อบทอื่นจนหมด
    แล้วอุทิศส่วนบุญแผ่เมตตาจนหมดอย่างเคย แล้วหลับต่อจนสาย

    เมื่อความเพลียความง่วงหมดไป ทีนี้ได้คิด ที่เรารู้เมื่อเช้ามืดนั้นจริงไหมหนอ...ชักกลัวหมอผีขึ้นมาแล้ว
    ไม่อยากให้มาบ้าน กลัวเอาผีมาทำอะไรเรา นึกกราบขออาราธนาบารมีพระพุทธเจ้า หลวงปู่ปานและหลวงพ่อท่าน
    ซึ่งเคยบอกกับลูกว่า (หมายถึงกายเนื้อบอกกายเนื้อนะ ไม่ใช่จิต ข้าพเจ้าถึงกล้าเอามาเขียนหรือเอ่ยถึงท่านทุกครั้งด้วย)
    ถ้าจะไม่ให้ผีอื่นเข้าบ้าน ให้บอกพ่อปู่ พระภูมิเจ้าที่บ้าน ท่านกันไว้ หรือเราไม่เชิญเจ้าของผีเข้าบ้าน ผีก็เข้าไม่ได้
    วันนี้ลูกเชิญเขาไว้แล้ว ถ้าเขามาขอให้ท่านจัดการ มาแต่ตัว ขอผีหรืออะไรไม่รู้ที่เขาเลี้ยง ขอพ่อปู่จงไล่ อย่าให้มามีฤทธิ์ในบ้านนี้ได้เป็นอันขาด อีกใจหนึ่ง ถ้าได้คุยกันก็ดีนะ เขาเก่งน่าศึกษา วันนี้เราต้องป้องกันตัวเต็มที่
    โดยทำจิตขึ้นบนพระนิพพาน ขอพระพุทธเจ้าทั้ง5พระองค์ในกัปนี้จงมาล้อมรอบตัวข้าพระพุทธเจ้าด้วยเถิด
    ซ้อมทำจนชัดเจนแจ่มใส วันนั้นพอนึกขึ้นได้ จับภาพพระพุทธเจ้า5พระองค์ลอยสูงรอบตัวได้เลย ดีจริงๆ
    กลัวอะไร บอกไม่ถูก ถามใจดู กลัวเขาหรือ ...ฮึ...กลัวทำไม เราก็มีวิชาเหมือนกัน หลวงพ่อท่านผู้มีพระคุณอันสูงสุด
    ได้มีเมตตาสอนจนเห็นพระพุทธองค์อยู่กับใจ ป้องกันภัยได้ทุกอย่าง วัตถุมงคลของท่าน ท่านให้กับมือมีอยู่กับตัวแล้ว
    อะไรจะทำได้ เรามั่นใจ ใจมั่นคง ไม่กลัว แต่เกรงจะเสียเหลี่ยม ซึ่งไม่มีอยู่แล้ว แต่ก็เป็นการทดสอบกำลังใจดีไม่ให้ประมาท

    ประมาณทุ่มกว่าๆ หมอดูมา พวกลูกศิษย์หลวงพ่อที่จังหวัดนั้นหลายคน ทหารก็มี เมื่อรู้ข่าวมาคอยกันด้วย
    หมอดูขึ้นบ้านมา รีบออกตัวก่อนว่า "ผมมีเวลาว่างชั่วโมงเดียว ไม่มาเกรงจะเสียคำพูด"
    ที่ไหนได้ เมื่อคุยกันแล้ว สนุก เรียกว่าถูกเส้นกัน อยู่ตั้งสองชั่วโมงกว่า
    เพื่อความไม่ประมาท ข้าพเจ้าจับภาพพระพุทธเจ้าทั้ง5พระองค์อยู่รอบกายตลอดเหมือนกัน
    ได้ความว่าชื่อ...บวชพระได้ 27 พรรษา สึกได้ 11 เดือน เป็นเขมรต่ำหรือสูงข้าพเจ้าลืมแล้ว
    สามารถทำเสน่ห์ได้เก่งมาก แกจะเล่าเองโดยที่เราไม่ต้องซัก
    "ถ้าผมเขียนคาถาลงที่กางเกงใน รับรองสามีไม่หนีตลอดชีวิต"
    เล่าว่ามีอยู่รายหนึ่ง สามีหายไป3เดือน ผมเห็นแล้วว่า สามีไปชอบผู้ชายด้วยกัน ผมทำให้ และบอกได้เลยว่า จะกลับบ้านเมื่อกี่โมง
    อีกวันผมซื้อไม้ขีดกลักเดียว แม่ค้าไม่หยิบให้สักที ผมรีบด้วยเพราะมีคนคอยดูหมอที่บ้านหลายคน เจ็บใจเลยทำให้ไปหาบ่ายวันนั้น แล้วมีเรื่องไปดูหมอดูได้ทุกวัน (เรียกจิตได้)
    พอมีจังหวะ ข้าพเจ้าทำไม่รู้ไม่ชี้ ถามว่า "ผีที่เลี้ยงไว้มากๆ เลี้ยงยังไง..."
    ตอบ "โอ๊ย ...ผมไม่เลี้ยงด้วยพระคุณอย่างคุณนายหรอก (เป็นงั้นไป...) ผมบังคับเลย ใช้ให้ไปทำที่ไหนต้องรีบกลับมารายงานผม ผมนั่งคอยเลย
    เมื่อสมัยเป็นพระ เวลาสวดหมู่ เขาสวดเมตตา ผมไม่เอา ผมเอาพระเดชเลย(เห็นผิดตั้งแต่ห่มผ้าเหลืองแล้ว)
    ผมเคยเป็นหลวงพ่อเณรที่สระบุรี(ไม่กล้าถามว่า พ.ศ.ไหน) ผมเคยธุดงค์อยู่ในป่าอยู่ตามถ้ำ เคยเรียนวิชาบังคับงูได้
    อาจารย์ผมมีหลายองค์ เป็นพระเขมร พระลาว พระไทย(ที่ข้าพเจ้าเคยได้ยินชื่อดังทางฤทธิ์ก็มี)
    เดี๋ยวนี้ผมกลัวงูมาก (แสดงว่าเสื่อมแล้ว) ผู้หญิงอีกอย่างผมกลัว ยุ่งด้วยวิชาเสื่อมหมด

    ข้าพเจ้าถามว่า "ที่รักษาโรคหายนั้น ถ้าคนมีเคราะห์มากถึงที่ตายห้ามยังไง..."
    ตอบ "ผมทดลองทำต้นไม้ก่อน ถ้าต้นไม้ตายคนจะรอด ถ้าต้นไม้ไม่ตายคนจะตาย ไม่รับรักษา"
    มิน่า ต้นกล้วยบ้านที่แกเช่าอยู่เห็นตายไปหลายต้น ที่รู้เพราะตอนที่หาใบไม้ให้แกดูให้ คิดจะเอาใบกล้วยเห็นมันใหญ่ดี แสดงว่าเปลี่ยนที่กันอยู่ ทำลายให้สูญเลยไม่ได้

    ถามอีก"แล้วคนป่วยที่มาหายังไม่ถึงเวลาหายทำไง..."
    ตอบ"ผมเอาผีประคองก่อน แค่2-3วัน ต่อจากนั้นเป็นไงช่าง ผมได้เงินแล้ว รักษาด้วยการทำน้ำมนต์รด"
    หมอรับอาสาแข็งขันจะมาทำน้ำมนต์รักษาคุณแม่ข้าพเจ้าซึ่งกำลังเป็นโรคคนแก่แบบปวดขา ขาเป็นเหน็บอะไรอย่างนี้
    ข้าพเจ้ารีบห้ามแบบขอบคุณว่า
    "ไม่ต้องหรอก หมอมีงานยุ่ง ถ้าจะรดน้ำมนต์จะพาไปหาเอง"
    ข้าพเจ้าถามอีก"ที่เห็นภาพในกระจกเห็นอย่างไร เหมือนเห็นในโทรทัศน์ไหม..."
    ตอบ"ไม่หรอกครับ ถ้าเห็นอย่างนั้นผมก็สบาย น่าเสียดายวันนี้เป็นวันพระ ผมสอนให้คุณนายไม่ได้ ม่ายงั้นผมสอนให้
    (รู้เหมื่อนกันว่าเราอยากได้) บ้านคุณนายที่กรุงเทพ อยู่ตรงไหน ผมไปกรุงเทพ จะไปหา"
    เลยกลบเกลื่อนว่า ไม่ค่อยอยู่บ้านหรอก มีธุระออกต่างจังหวัดเรื่อย นึกเกรงแกเรียกวิญญาณเราไปหา หรือปล่อยผีมาหลอกแย่เลย ดูท่าทางแกชอบข้าพเจ้าเหมือนกันนะ ถอดสร้อยคอให้ดู ควักหินขี้เหล็กไหลให้ดู นัยว่าไปเอากับอาจารย์ที่ถ้ำอะไรข้าพเจ้าจำไม่ได้ ส่งให้พวกเราจับ พอถึงข้าพเจ้าต้องจับบ้าง นึกว่า เจ้าประคู๊น...ถ้าเป็นโทษ ขอให้เสื่อมอย่าให้เข้าตัวได้ ถ้าดีขอรู้หน่อย กำหนดจิตอย่างเคย แล้วจับดู แรงดีเหมือนไฟฟ้าดูด น่าเสียดายที่ข้าพเจ้าจะต้องกลับกรุงเทพเพื่อสอนที่ซอยสายลม จึงถามหมอดูว่า
    "จะอยู่ที่จังหวัดนี้อีกนานไหม..."
    แกว่า "ไม่แน่ เพราะบางทีต้องหนี เขาจะมาฆ่าเหมือนกัน เมื่อทำเสน่ห์ให้เมียคนหนึ่งสามีรัก เมียอีกคนจะต้องโกรธ"
    แกดูนาฬิกาเรื่อย เมื่อลากลับบอก
    "ผมมีธุระ..."
    แต่ข้าพเจ้าคิดว่าแกจะไปเก็บดินที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งมีคนถูกยิงตาย เพื่อไปทำพิธีเรียกวิญญาณไปใช้มากกว่า ก่อนขึ้นรถแกบอกว่า
    "วันหลังผมจะให้คุณนายสอนผมไปเที่ยวสวรรค์นรกบ้าง"
    แกรู้ได้อย่างไรว่าข้าพเจ้าสอนได้ หรือว่าผีบอกมั๊ง..."

    เดือนนั้นข้าพเจ้ามีโอกาสกราบเรียนเล่าให้หลวงพ่อท่านฟังขณะที่ท่านฉันอาหารเพลที่บ้านซอยสายลม พอเล่าถึงว่า
    "ลูกกลัว ไม่ให้เอาผีเอาอะไรติดตัวมามีฤทธิ์ในบ้าน"
    ท่านหัวเราะและพูดว่า"เออด๊...จะให้แก้ผ้ามาเลยรึ..."
    ท่านว่า "เป็นไปได้"
    แล้วท่านเล่าต่อว่า"บางหมอทำเป็นไล่ผีออกให้ แต่แท้จริงปล่อยผีเข้าตัว ให้ผีคลุมเพื่อจะได้เงินมากๆบ้าง มารักษาโรคบ่อยๆบ้าง"
    ฟังดูแล้วน่ากลัว และใครที่สะเดาะเคราะห์ด้วยการต้องให้ถอดสร้อยมีพระของเราออกก่อน อย่ายอมเป็นอันขาดนะ เรื่องอะไร ถ้าดี พระของเราต้องช่วยส่งเสริม ถ้าร้าย พระของเราจะได้ช่วยคุ้มครองเรา จริงไหม อย่าลืมนะ เดี๋ยวนี้มีแบบนี้มาก

    จากนั้นไม่นาน มีงานที่วัดท่าซุง ข้าพเจ้าได้พบพวกเดียวกัน ถามาถึงหมอเขมร ได้ความว่าหลังจากที่ข้าพเจ้ากลับกรุงเทพแล้ว ดูหมอไม่แม่น ทำอะไรไม่มีผล อยู่บ้านนั้นอีก2-3วัน หนีไปเลย
    ค่าเช่าบ้านก็ไม่ให้เขา เพราะอะไรหนอ ชักใจไม่ดี สงสารแก ถ้าจะเป็นผลจากการที่เราปล่อยผีในสมาธิจริงๆ
    เป็นการบังเอิญแท้ๆ ไม่ได้ตั้งใจแกล้งเลย ทำไปตามที่รู้เห็นในสมาธิเท่านั้น เห็นใครลำบากอยากช่วยเท่านั้นเอง

    เมื่อเดือนมีนาคม 2537 ที่ปากเกร็ด มีคนชักตายกระทันหัน เมื่อเผาแล้วมีตะปูปนกับกระดูกประมาณครึ่งกิโล สาเหตุจากทะเลาะกับแม่ค้าอิสลาม แม่ค้าบอกว่า "คอยดูจะเอาให้ถึงตายจึงจะยอม"
    คนตายมัวแต่ระวังลูกปืน อยู่ๆชักตายกลางดึก แผ่นหลังเป็นรอยช้ำเหมือนมีของแหลมทิ่มแทง เขาพามาที่โพลีคลีนิคของข้าพเจ้าเหมือนกัน แต่ตายก่อนจะถึง

    ตอนอยู่ที่วัดไทย ที่เดนเวอร์ หลวงพ่อท่านพูดว่า
    "เวลานี้ที่รัสเซียเก่งมากเรื่องแบบนี้"
    ข้าพเจ้าฟังแล้วกลัวมันปล่อยมาประเทศไทยเรา เลยถามท่านว่า
    "แล้วพวกเราจะโดนไหม..."
    ท่านตอบว่า"ถ้าแกยังเห็นพระพุทธเจ้าอยู่ มันทำอะไรไม่ได้"
    จำไว้นะ ขณะใดยังเห็นพระพุทธองค์อยู่ ใครปองร้ายไม่ได้

    เมื่อวันที่ 6-8 เมษายน 2538 หลวงพ่อท่านสอนที่บ้านซอยสายลม และมีพิธีรับพระเคราะห์หรือสะเดาะเคราะห์
    เมื่อท่านแนะนำให้พวกเราทำพิธี(มีหนังสือจำหน่ายแล้ว) ท่านให้นั่งสมาธิ ท่องคาถา"ภะสัมสัม วิสะเทภะ"5นาทีด้วย
    ระหว่างทำสมาธิในพิธี และว่าคาถาบทนี้ ข้าพเจ้าเห็นศัตรูของประเทศไทยโดยเฉพาะญวนแถวชายแดนอย่างชัดเจน
    เลยนึกไล่มันใหญ่เลย
    เมื่อประมาณ5-6 ปี หลังจากหลวงพ่อได้ทำพิธีบวงสรวงที่บ้านซอยสายลมเสร็จแล้ว ท่านบอกข้าพเจ้าว่า
    "ถ้าอยากไล่คอมมิวนิสต์ออกจากประเทศไทย ให้ท่องคาถา ภะสัมสัม วิสะเทภะ"
    ข้าพเจ้าว่ามาเรื่อยจนทุกวันนี้ ใหม่ๆเวลากวาดบ้านสมมติคอมมิวนิสต์เป็นขี้ผง แล้วเราท่องคาถาไล่มัน กวาดหมดเกลี้ยงไม่เหลือติดพื้นเลย มีอยู่ครั้งหนึ่งกวาดเพลินๆเห็นภาพว่าพวกหลงผิดสมัยนั้นอยู่กันในป่าลำบาก มาก
    นึกสงสาร ชักใจอ่อน...ลูกเอ๊ย...ขอให้อยู่กันสบายๆ ชอบลัทธินี้พากันไปอยู่ที่ประเทศที่ปกครองระบอบคอมมิวนิสต์โดยตรงก็แล้วกัน นะ เลยไม่ค่อยได้กวาดบ้านอีก

    คำหลวงพ่อท่านที่ว่า "ขณะใดที่ยังเห็นพระพุทธองค์อยู่ ใครปองร้ายไม่ได้"
    ใครที่ยังเห็น(ด้วยใจ)ไม่เป็น ข้าพเจ้าว่า ท่องคาถา ภะสัมสัม วิสะเทภะ ทุกวัน หรือเมื่อนึกได้ เอาแน่ๆทั้งเห็นทั้งท่องนั่นแหละดี หรือแถมด้วยบทส่งคืน "เมสัมมุขขา สัพพาหะระติ เตสัมมุขขา" อีกบทหนึ่ง รับรองสมาธิดีแน่ๆ

    ขอบคุณ
    http://www.praruttanatri.com/xmb/vie...d.php?tid=1853

    สรุป

    คาถากันคุณไสย คือ ภะสัมสัม วิสะเทภะ

    คาถามหาสะท้อน คือ เมสัมมุขขา สัพพาหะระติ เตสัมมุขขา เป็นการสะท้อนการกระทำคืนแก่ผู้คิดร้ายต่อเรา
     
  9. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,960
    มหาสะท้อน...ทำเองก็ได้


    พระอาจารย์ กล่าวว่า "อาตมาตั้งราคา ตะกรุดมหาสะท้อน ไว้แพง เพราะว่า เป็นของอันตราย ไม่อยากให้เอาไปใช้ เห็นผลมาเยอะต่อเยอะจนอาตมาสยดสยองเองแล้ว

    พวกเราส่วนใหญ่สร้างบารมีมามาก บุคคลที่สั่งสมบารมีใน ศีล สมาธิ ปัญญา ไปถึงระดับหนึ่ง จะเกิดเป็น บุญฤทธิ์ ขึ้น ในเมื่อเป็นบุญฤทธิ์ขึ้นมา คนคิดร้ายก็แย่แล้ว แถมเรายังไปเล่นตะกรุดมหาสะท้อนด้วย คนนั้นก็เดี้ยงสถานเดียว..!

    ฉะนั้น..จริงๆ แล้วไม่ต้องมีตะกรุดหรอก ภาวนาคาถา เมสัมมุกขา สัพพาหะระติ เตสัมมุกขา ไว้ทุกวัน กำลังใจทรงตัวก็คุ้มได้เหมือนกับมีตะกรุดนั่นแหละ ถ้าเรารู้สึกว่าราคาแพงก็ไม่ต้องห่วง..ของฟรีมี ภาวนาเอาเองก็ได้ แต่พวกเราส่วนใหญ่พอบอกให้ไปภาวนาก็ไม่มั่นใจ ท้ายสุดก็มาเอาตะกรุดไปจนได้

    มีหลายท่านสงสัยว่า พระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้านรุ่น ๑ ที่อาตมาเผลอใส่ตะกรุดมหาสะท้อนไป มีเนื้อไหนบ้างที่ใส่ ก็มี เนื้อทองคำ เนื้อเงินและเนื้อนวโลหะ เพราะฉะนั้น..ถ้าใครใช้พระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้าน ๓ เนื้อนี้ คนหรือสัตว์กำลังคลอดอยู่ อย่าเข้าไปใกล้นะ โปรดเมตตาเขาหน่อย ถ้าเขาคลอดไม่ได้แล้วจะยุ่ง"


    สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนมกราคม ๒๕๕๕


    ที่มา : www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=3131&page=7

    ขอโพสอีกอันแล้วกันครับ:cool:
     
  10. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,572
    ค่าพลัง:
    +4,560
    ยายปอมู
    ....สั้นไป
    ...มันมี 2 วิธี...
    วิธีแรก...เข้าใจว่าลูกน้องผู้ใต้บังคับบัญชาคนนั้น...มันเจ็บป่วยด้วยโรคอะไรสักอย่างในปัจจุบันนี่แหละ....ถีบมันให้ไปให้หมอรักษาเสีย...เดี๋ยวมะเร็งกินเรียบ(ฮา)
    วิธีที่2
    ...อาจเป็นโรคกรรม...กฏแห่งกรรม... อย่างนี้ เขาเรียกว่าถูกกรรมชั่วในอดีตส่งผล....
    ..ซึ่งทางปฏิบัติคือบอกแม่คุณให้"ปล่อยสัตว์โลก ให้เป็นไปตามกรรม"...
    ..กรรม ไม่มีทางลบล้างได้ ไม่ว่าจะด้วยอำนาจใดๆในสามโลก.. อย่าดันไปช่วยแล้วไปรักษาทางไสยาศาสตร์...เดี๋ยวไปกันใหญ่ คือ ถ้าไม่ถูกหลอกลวง...เดี๋ยวผีหรือคุณไสยที่เขาโดนก็จะพาลมาเล่นงานให้เหมือน"เสือกไม่เข้าเรื่อง"....
    ...การที่ผี มันจะเข้าใครหรืออย่างไรนั้น มันก็ต้องมีเวรมีกรรมมาต่อกัน...การที่เขาปล่อยของลอยตามลม ลมเพลมพัดมานั้น ผู้ที่ถูกของ แสดงว่ามีกรรมในอดีต...ต้องโดน...ห้ามไม่ได้.....อย่าไปยุ่งกับผี โอปาติกะ สัมภเวสี...เพราะจะถูกคนด้วยกันหลอก เพราะผู้ที่เก่งจริงๆหายาก...พระเก่งๆก็ละสังขารไปเกือบหมดแล้ว...พวกไม่เก่งไม่รู้อาจถูกผีหักคอตายห่ะ.....(ฮา) อย่าไปยุ่งกับผีหรือไสยาศาสตร์ เดี๋ยวซวย....ปล่อยเขาไปตามกรรม วางอุเบกขาเสีย...ญาติพี่น้องเขามี เขาหาทางแก้กันเอง...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2012
  11. รมิดา ช้างประสิทธิ์

    รมิดา ช้างประสิทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +208

    คุณจะพูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะคะบางทีมันอาจจะไม่ใช่เวรกรรมก็ได้กรรมก็ส่วนกรรมแล้วคุณรู้ได้อย่างไรบางทีคนที่ทำใส่อาจเป็นผู้เริ่มก่อกรรมก็ได้รู้ว่าเรื่องแบบนี้ไม่ควรยุ่งแต่สัญชาตญาณความเป็นมนุษย์ เมื่อเห็นเพื่อนร่วมโลกร่วมในวงจรชีวิตประจำวันเดือดร้อนก็ต้องหาทางช่วยถ้ามัวแต่รอให้คนนู้นคนนี้มาช่วยสุดท้ายก็จบอาจสายเกินไปแล้วถ้าวันนึงคุณโดนทำอะไรบ้างเข้าสักอย่างไม่ว่าจะเป็นทางที่มองเห็นหรือมองไม่เห็นแล้วถ้ามีคนคิดแบบคุณล่ะคะคุณจะรอให้แต่คนรู้จักมาช่วยเหรอ ถ้าสมมุติว่าวันนึงคุณป่วยหนักอยู่ได้อีกไม่นานแล้วแล้วมีคนรู้จักคุณพูดว่าปล่อยไปตามกรรมเหอะญาติพี่น้องเขาคงมาช่วยเองทั้งๆที่เขาพออาจจะช่วยยื้อได้บ้าง บางครั้งมันไม่จำเป็นต้องช่วยด้วยการแก้แบบนั้นสวดมนต์ไงคะคนยิ่งเยอะยิ่งมีพลังมาก ถ้าคนๆนั้นที่โดนอยู่เขามาเห็นข้อความคุณเขาคงหมดกำลังใจแล้วล่ะค่ะคงยิ่งจะตายเร็วขึ้น

    ดิฉันไม่ใช่นักเลงคีย์บอร์ดและที่ตอบกลับมาเช่นนี้เพียงให้เห็นแต่ความเป็นจริงเท่านั้นไม่ได้มาชวนทะเลาะแต่อย่างใดเพียงแต่เห็นว่าคำพูดการปล่อยให้คนๆนึงต้องทรมานแบบนั้นรอให้แต่คนนั้นคนนี้มาช่วยมันทรมานนะคะ
     
  12. รมิดา ช้างประสิทธิ์

    รมิดา ช้างประสิทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +208

    เจ้าของกระทู้ไปที่วัดสร้อยทองนะคะ พระที่นั่นเคยแก้ของให้ญาติคนที่รู้จักค่ะท่านมาสวดกันทั้งวัดขนาดอยู่ให้ห้องแอร์กันออกมาจีวรเปียกไปหมดลองดูนะคะ ถ้าไม่ดีขึ้นก็ลองให้คนรู้จักทุกคนช่วยกันสวดมนต์ทุกวันชินบัญชร ทำบุญทำสังฆทานบ่อยๆค่ะยังไงก็ขอให้ทำสำเร็จและแก้ได้นะคะเป็นกำลังใจให้ค่ะ^^
     
  13. yaka

    yaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    647
    ค่าพลัง:
    +1,384
    ไม่รู้จะแนะนำยังไงขอเอาใจช่วยนะค่ะ รู้สึกเป็นห่วงเช่นกันค่ะ สาธุบุญกับทุกคำแนะนำด้วยนะค่ะ
     
  14. รมิดา ช้างประสิทธิ์

    รมิดา ช้างประสิทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +208

    เจ้าของกระทู้คะจำวัดผิดค่ะเป็นวัดอ้อมน้อยแทนนะคะเดี๋ยวไปผิดวัด^^
     
  15. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    มาดูการวิเคราะห์ แบบ พุทธศาสตร์กันหน่อย

    น้าบี แกเป็นโรคเครียด อาจจะพบเจอเรื่องที่ไม่สมหวังในชีวิต พอเครียดบ่อยๆ ลมหายใจจะมีกลิ่นเหม็นเน่า ปากเหม็น ตัวเหม็น
    ทีนี้ พอแม่คุณเข้าใกล้ แกรู้สึกไม่ดี แกก็ขนลุกนะสิ


    พระที่รักษา ก็ปรุงแต่งเหมือนกัน จึงให้คำแนะนำไปในทำนอง ผีสาง และเป็นเรื่องปกติ ที่จะอาพาต

    มันก็แค่ ฝันแหละหนูเอ้ย

    ทางแก้ คือ เดินออกมาจาก การที่เราสมมติ ทึกทักไปตาม สมมติฐาน เรายังไม่ได้พิสูจน์ความจริงอะไรสักอย่าง
    หากเราพิสูจน์ไม่ได้ เราก็เชื่อได้อย่างหนึ่งว่า เรา สูดหายใจ บนโลกนี้ เราเดิน นั่ง นอน บนโลกนี้ ขอเพียงเรา ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย เราจะไม่ถูกผลักดันจากความคิดของเรา ไปสู่หนทางของผีสาง แน่นอน
     
  16. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,572
    ค่าพลัง:
    +4,560
    ยายตันตารา
    ..จิตเธอดี มีเมตตา....
    ..อย่าลืมว่า เมตตาต้องมีประมาณ มีขอบเขต...
    ไม่ใช่เห็นหมาจรจัด สงสาร เก็บมาเลี้ยง500 ตัว เงินไม่พอ เลยผูกคอตายเพราะเมตตาสูง...อย่างนี้ เรียกว่า ปัญญาเป็นบัวใต้น้ำ
    ...คนถูกของที่เขาใส่ เขาวาง นั้น คนๆนั้นต้องทำความไม่ดีเอาไว้ คือ ทำกรรมเอาไว้...
    ..บางทีกรรมนั้นก็เกิดจากอดีตชาติ เช่น รวยอยู่ดีๆ ถูกเมีย ถูกลูก ถูกญาติหวังฮุบสมบัติ ไปจ้างหมอผีมาทำ ก็มี....เพราะเป็นกรรมของเขา คือดันมีเมียมีลูกมีญาติชั่ว....
    ..นี่กฏแห่งกรรมมันเป็นอย่างนี้...
    อีกอย่างผมจะบอกคุณให้เป็นบุญ.....พระที่ไม่มีฤทธิ์อภิญญาญาน ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ตาม วัดเมือง...คามวาสีนั้น....99.99เปอร์เซ็นต์ ไม่มีฤทธิ์ ไปให้ไล่ผี เสียเงินเปล่าๆ..
    ..ส่วนฆาราวาสที่ไล่ผี ก็ทำนองเดียวกัน...ส่วนใหญ่หลอกลวงทั้งสิ้น...หาของจริงยาก...
    ...ไสยาศาสตร์พวกนี้ ถ้าไม่เข้าใจเรื่องสมาธิมีกี่ระดับ ไต่ขึ้นไปถึงขั้นไหน.. ถึงขั้นนั้นๆแล้วสมารถทำอะไรได้บ้าง ดังนี้ ก็คือ โง่ ไปโดนเขาหลอกกินเงินเสียผู้เสียคนไป...
    ..สรุปคือ คนที่โดนของ(จริงหรือไม่ก็ตาม) หรือ คนที่เข้าไปช่วยนั้น ก็คือ กลุ่มคนที่สร้างเวรสร้างกรรม ผูกภพผูกชาติกันมาเก่าก่อน ชาตินี้จึงเสวยกรรมหมู่ร่วมกัน...แค่กรรมที่ทำให้โง่..ก็หนักแล้ว...โง่ที่ไปเชื่อไสยาศาตร์.. ไม่ฉลาดที่จะเชื่อไตรสรณคมณ์ ...ก็สมควรโดนหลอกไปตลอดชาตินั่นแหละ....เฮ้อ...
     
  17. aries

    aries เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,211
  18. aries

    aries เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,211
    พระผงจักรพรรดิมีแจกฟรีหลายแห่งครับ แนะนำที่เว็บวัดถ้ำเมืองนะ ไปสมัครสมาชิกก่อนแล้วก็ไปขอได้ครับ

    วัดถ้ำเมืองนะ แจกพระผงจักรพรรดิ และบทสวดจักรพรรดิ จัดส่งให้ทั่วโลก โดยหลวงตาม้า
     
  19. cobol90

    cobol90 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +305
    หาวัตถมงคลของหลวงพ่อฤาษีลิงดำมาไห้แม่คุณไช้ด้วย ก็ ดี หน่ะครับ ผ้ายันต์มหาพิชัยสงครามก็ ดีครับ ราไม่แพง ด้วย ปกป้องได้แน่นอนครับ
     
  20. Jt Odyssey

    Jt Odyssey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +12,591
    ผมเห็นด้วยนะ ศรัทธาและเมตตา ต้องประกอบด้วยปัญญา ไม่อย่างนั้นจะเ็ป็นงมงายไป เพราะมีกรรมต่อกันมา ถึงถูกผีเข้า คนเป็นสิบล้านทำไมผีนี่ไม่เข้าไปเข้ายัยนี่ละ Random หรอ ไม่มีทางหรอก

    ถ้าเรายอมรับกฏแห่งกรรม เราจะไม่โวยวายอะไรมากหรอก ไม่ต้องไปแก้ที่ไหน ไม่ต้องไปพึ่งใคร ให้แก้ที่ตัวเอง

    :cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...