หลวงปู่มหาเจิม ปัญญาพโล

​

​

หลวงปู่มหาเจิม ปัญญาพโล

อริยสงฆ์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์...นอกจากจะสืบสานปฏิบัติตามแนว ธรรมยุต กับ มหานิกาย แล้ว ยังได้ ยึดมั่นปฏิบัติตามแต่ละสายของครูบา อาจารย์...อาทิ

...ธรรมกายของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ สำนักเขาอ้อของปักษ์ใต้ ครูบาศรีวิชัยในเขตล้านนา หลวงปู่ชา วัดป่านานาชาติ หรือ หลวงปู่มั่น ผู้เป็นอาจารย์ใหญ่สายอีสาน...ฯลฯ​

O O O​

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต...มี แนวปฏิบัติในลักษณะ ของพระป่า ทำสมาธิจิตอย่างสุขสงบ ซึ่งได้รับแรง ศรัทธาอย่างกว้างขวาง มิใช่เพียงคนไทยที่ถือพระพุทธศาสนาเท่านั้น หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินทโร (เจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล เป็นศิษย์ผู้เคยปรนนิบัติหลวงปู่มั่น) ได้นำศาสตร์นี้ไปเผยแผ่ให้ชาวแคนาเดียนจนเป็นที่เลื่อมใส ยอมรับและถือปฏิบัติ

​

ผอบใส่เส้นเกศาหลวงปู่


แนวการปฏิบัติธรรมของหลวงปู่มั่น ได้วางฐานในการสร้างเมตตา บารมีบนเส้นทางของความสันโดษ ดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย ซึ่ง หลวงปู่ มหาเจิม ปัญญาพโล เจ้าอาวาสวัดสระมงคล กำแพงแสน นครปฐม ได้ถือปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่องกระทั่งถึงปัจฉิมวัยในปัจจุบัน

หลวงตามหาบัว วัดบ้านตาด ซึ่งเป็นพระปฏิบัติในสายเดียวกัน เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ได้พูดว่า...มหาเจิมท่านเป็นพระอรหันต์ที่ยังดำรงขันธ์อยู่ในยุคปัจจุบัน...!!!

O O O​

หลวงปู่มหาเจิม หรือ “พระครูภาวนาปัญญาดิลก” อายุ 97 ปี 77 พรรษา ในวัยเด็กเรียนหนังสืออยู่กับวัดใกล้ๆบ้าน พออ่านออกเขียนได้ เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ในปี 2470 ได้บรรพชาเป็นสามเณร ด้วยอายุเพียง 12 ปี

อยู่อีสานบ้านเกิดเพียงปีเดียว ก็เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ฝากตัวเป็นศิษย์ ญัตติเป็นธรรมยุต กับพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดบรมนิวาส และได้เรียนธรรมบาลี สามารถสอบ นักธรรมเอกกับเปรียญธรรม 5 ประโยค ได้ในปีเดียวกัน เมื่อปี 2477 ขณะยังเป็นสามเณร
หลวงปู่มหาเจิม...มี สหธรรมิก ที่เคยอยู่ร่วมกันหลายท่าน อาทิ หลวงปู่เทศน์ เทสก์รังษี วัดหินหมากเป้ง หนองคาย หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญญบรรพต หนองคาย หลวงปู่สิม พุทธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำ

ผาปล่อง เชียงใหม่ หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม ปทุมธานี หลวงปู่มหาเนียม สุวโจ วัดเจริญสมณกิจ หรือวัดหลังศาล ภูเก็ต รวมทั้ง หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ วัดระหาร หรือวัดเกาะแก้ว ธุดงคสถานบ้านระหาร บุรีรัมย์

O O O​

ด้วย...หลวงปู่มหาเจิม เป็นพระผู้ปฏิบัติดี และเคร่งครัดในธรรมวินัย รักสันโดษ ไม่ยินดีในลาภยศ สรรเสริญ ศิษย์คนหนึ่งเคยถาม “....ทำไมหลวงปู่ไม่ไปอยู่ภาคอีสาน จะได้โด่งดังเหมือนกับพระคณาจารย์อื่นๆ”

ก็ได้รับคำตอบว่า “เรามาอยู่ตรงนี้ก็ดีแล้ว จะได้ใช้กรรมให้หมดไป...”

ตลอดระยะเวลา มีทุกระดับชั้นชนมากราบไหว้ขอพรหลวงปู่ ตั้งแต่ชาวบ้านทั่วๆไปยากจนไปถึงเศรษฐี และหนึ่งในจำนวนนี้ได้มากราบขอพรเป็นประจำ คือ “นายเฉลียว อยู่วิทยา” เจ้าพ่อกระทิงแดง ได้แวะเวียนไปกราบไหว้ สนทนาและฝึกปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่เป็นประจำ ครั้งหนึ่ง หลวงปู่เทศน์สอน ว่า “การขายเหล้าเป็นกรรมสะสม”

นายเฉลียวจึงตัดสินใจขายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำเมาทั้ง หมด เหลือเพียงเครื่องดื่มชูกำลังเพียงอย่างเดียว.....ก็เป็น อภิมหาเศรษฐี ได้

O O O​

นายทวีวัฒน์ คชศิลา นายก อบต.สระสี่มุม อำเภอกำแพงแสน ผู้ที่เคยรับใช้ปรนนิบัติหลวงปู่มหาเจิม เมื่อหลายปีก่อนได้ เส้นเกศาหลวงปู่ เอาใส่ผอบ เก็บบูชาไว้ที่บ้าน

​

​

ภายในวัดสระมงคลที่ร่มรื่น

หลังจากนั้นไม่นาน...เส้นเกศาหลวงปู่แข็งกลายเป็นแก้วใสอย่างน่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก กระแสข่าว ที่โด่งดังนี้ ปัจจุบัน ทุกๆวันพระ เมื่อหลวงปู่ ปลงผม...ลูกศิษย์จะเก็บเส้นเกศา ไว้อย่างดี

ใครๆที่ไปกราบไหว้ขอพรหลวงปู่ ในช่วงนี้จึงมักเตรียมผอบ เพราะ จะได้รับมอบเส้นเกศาหลวงปู่ทุกคน แต่ต้องไปด้วยตัวเองเท่านั้น ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติการให้เส้นเกศาไม่ว่าจะเป็นของพระเกจิรูปใดจะไม่มีการขอแทน หรือขอไปฝากเด็ดขาด

ด้วย...ศรัทธาของสาธุชนที่เคารพเลื่อมใส เมื่อมากราบไหว้ก็อยากได้วัตถุมงคล ของท่านไปบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล อยากให้มีการจัดสร้าง...ท่านเพียงยิ้มรับและ ไม่เคยอนุญาต

O O O

ปาฏิหาริย์...พลังพระปฏิบัติแม้นลบหลู่..เร้นลับพบภัยเงียบ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์​

 

เมื่อปี 50 ไปกราบหลวงปู่ที่วัดได้เกศาหลวงปู่ตอนนี้เกศาหลวงปู่กลายเป็นพระธาตุแล้ว


เหรียญหลวงปู่ดังด้วยเด็กแถวโน้นเอามาลองยิงปรากฏว่าปืนแตกทันที

 

สาธุๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ
ขอนอบน้อมแด่หลวงปู่มาเจิม

 

ครับ วันนี้ต้องการไปนมัสการท่าน เลยมาหาข้อมูลก่อนครับ
ขออนุโมทนาสาธุด้วยครับ

 

ขอกราบหลวงปู่มหาเจิม ด้วย กาย วาจา และใจเจ้าค่ะ