หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม ลูกศิษย์หลวงปู่มั่นที่มีสัญลักษณ์ของความกล้าแกร่ง

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย aprin, 17 เมษายน 2012.

  1. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    [​IMG]



    ฟังธรรมบรรยายพระอาจารย์สุธรรมท่านเล่า ว่าตอนงานถวายพระเพลิงสรีระสังขารหลวงปู่มั่น พระหลายรูปอยากเห็นหลวงปู่ตื้อกันทั้งนั้น
    หลวงปู่ท่านบอก “เกิดมาไม่เคยกลัวอะไรเลย เข้าหาหลวงปู่มั่น กลัวนิดๆ”


    ภาษาเทศน์หลวงปู่แม้หยาบคาย แต่เต็มไปด้วยธรรมะแท้ๆ
    จิตของหลวงปู่บริสุทธิ์ ถึงทางธรรมขั้นสูงสุด ตรงกันข้ามกับวาจา กิริยาของท่าน

    [​IMG]


    หลวงปู่มั่น พูดกับพระองค์อื่นๆว่า
    “ใครอย่าไปดูถูกท่านตื้อนะ ท่านตื้อเป็นพระเถระ”


    เคยมีคนโพสต่อว่าหลวงตามหาบัวเทศน์หยาบ ฟังไม่ได้
    มีผู้โพสตอบว่า ถ้าผู้ต่อว่าได้ฟังหลวงปู่ตื้อ กับหลวงปู่เจี๊ยะเทศน์ไหมสลบเลยรึ
    ตอนนั้นเจ้าของกระทู้เดาว่าหลวงปู่ทั้งสองคงเทศน์แรงจริง


    [​IMG]

    หลวงปู่ตื้อท่านจะธุดงค์คู่กับหลวงปู่แหวน
    พระอริยสงฆ์ทั้งสองรูปนี้ปฏิปทาแตกต่างกันมาก
    หลวงปู่แหวนไม่พูด เสียงค่อย ไม่ค่อยสนทนากับญาติโยม นุ่มนวล เรียบร้อย

    หลวงปู่ตื้อพูดตลอด ท่านเทศน์ได้ถึง ๒-๓ ชั่วโมงโดยไม่หยุด เสียงดัง โผงผาง ใช้คำหยาบ ท่าทางเป็นนักเลง
    หลวงปู่ตื้อไม่ชอบฉันกล้วย หลวงปู่แหวนชอบฉันกล้วย
    หลวงปู่ตื้อท่านเล่าว่าหลวงปู่แหวนตอนหนุ่ม ผิวขาวผุดผ่อง งามมาก จนมีผีสาวมาชอบ

    หลวงปู่จึงต้องปราบและเทศน์สอนธรรมะผีตนนั้นอยู่นาน


    [​IMG]


    ภาพหลวงปู่มักคล้องสร้อยลูกประคำเป็นเอกลักษณะ
    พระลูกศิษย์ท่านเล่าว่า หลวงปู่ปฏิปทาแปลกคือจะคล้องลูกประคำถ่ายรูปประจำ แต่เวลาปกติท่านกลับเก็บลูกประคำไว้ ไม่นำมาคล้องคอแต่อย่างใด


    [​IMG]

    ท่านเป็นพระป่ารุ่นอาจารย์สำคัญองค์หนึ่งที่มีพระลูกศิษย์หลายรูป
    ที่มีประวัติน่าสนใจ โลดโผน คือ พระอาจารย์ประยุทธ ธัมมยุตโต เล่ากันว่าปฏิปทาท่านเหมือนหลวงปู่ตื้อมาก

    ประวัติพระอาจารย์คล้ายพระองคุลีมาลเถระ
    ท่านคืออดีตขุนโจรอิสไมล์แอ หัวหน้าโจรสลัดที่ปล้นเรือต่างๆแล่นผ่านเกาะตารุเตา จังหวัดสตูล

    ชีวิตท่านฆ่าคนตั้งแต่อายุเพียง ๑๑ ขวบ โดยขว้างมีดเล่นตามประสาเด็ก บังเอิญไปถูกจุดสำคัญผู้ชายคนหนึ่งถึงแก่ความตาย
    จุดเปลี่ยนชีวิตท่านคือรับจ้างขนฝิ่นไปส่งมาเลเซีย ได้ค่าขนเที่ยวละสองพัน
    เมื่อไปถึงจุดหมายมีตำรวจมาเลเซียมาบังคับให้ท่านขายฝิ่นให้ในราคาถูก
    ท่านไม่กล้าขายเพราะคนจ้างให้ท่านขนฝิ่น ก็มีอิทธิพล คงไม่ปล่อยท่านแน่
    ตำรวจทั้งสองคนเลยขู่ว่าจะจับท่านเข้าคุก ท่านไม่มีทางเลือกตัดสินใจฆ่าตำรวจทั้งสองคนเพื่อหนี ควักเครื่องในท้องศพทิ้งน้ำเพื่อหวังไม่ให้ศพลอย แต่ศพก็ลอยขึ้นมาท่านจึงถูกจับขังคุกหลายเดือน


    [​IMG]

    ภาพยอดเขาเชียงดาว ที่มีบันทึกว่าหลวงปู่มั่นให้หลวงปู่ตื้อและพระอื่นๆขึ้นไปดูถ้ำ ที่เคยเป็นที่ประทับพระปัจเจกพุทธเจ้า


    แต่ภายหลังศาลตัดสินปล่อยตัวท่าน ท่านเล่าว่าระหว่างพิจารณาคดีพบชายชราผู้หนึ่งมอบคาถาให้ท่าน

    บอกให้ท่านท่องไว้แล้วเพ็งจ้องมองไปที่ผู้พิพากษาแล้วจะพ้นคดี แต่ห้ามบอกคาถานี้กับใคร

    ท่านแทบสิ้นหวังที่พ้นโทษคงต้องโดนประหารชีวิต แม้ไม่เชื่อเพราะอับจนหนทางจึงทำตามที่ชายชราบอก

    สุดท้ายศาลพิพากษาปล่อยตัวท่าน
    ตอนนั้นแม้ท่านจะเป็นโจร แต่ไม่ใช่โจรห้าร้อย ท่านเข้าร่วมขบวนการเสรีไทย คอยดักลักเสบียงทหารญี่ปุ่น เมื่อสงครามสงบท่านเปลี่ยนมาเป็นโจรสลัด ปล้นเรือขนส่งสินค้าของผู้มีอิทธิผลทางการเมืองและทางราชการ ที่ขนข้าวไปขายให้ มาเลเซีย ฮ่องกง สิงคโปร์ เนื่องจากท่านเห็นว่าเวลานั้นประชาชนทางภาคใต้ปกติทำนาก็แทบจะไม่พอกิน ยังขนข้าวไปขายให้กับต่างชาติ อีกแทนที่ช่วยเหลือประชาชน เมื่อปล้นท่านก็นำข้าวมาแจกจ่ายประชาชน
    ทางราชการไม่สามารถทำอะไรได้เพราะการเดินทางลำบากและไม่มีใครเห็นตัวท่าน ผู้ส่งออกขอร้องให้ท่านหยุด ท่านบอกต้องหยุดขายข้าวให้ต่างชาติก่อน ท่านใช้ชีวิตเป็นหัวหน้าโจรสลัด ๕ ปี ก่อนบวช

    แล้วมาฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ตื้อ ภายหลังท่านละสังขาร อัฐิธาตุของท่านเป็นพระธาตุ


    [​IMG]


    หลวงปู่ตื้อองค์กลาง ซ้ายมือผู้อ่านหลวงปู่สาม ขวาสุดคือหลวงปู่สิม


    คำสอน


    ธัมมะ ธัมโม นั้นมีดาษดื่น คนส่วนมากมองข้ามไปหมด

    ธรรมะมิใช่จะสอนให้คนโง่ ให้หลับฟุบคาพื้น ฟังแล้วอย่าให้ง่วง เราไม่ใช่พระอภัยมณีนี่นะ จึงเป่าปี่ให้หลับทั่วเมือง นี่ต้องอย่างนี้

    http://www.thaijustice.com/webboard.asp?sub=0&id=1794806
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 เมษายน 2012
  2. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    [​IMG]

    หลวงพ่อเปลี่ยน ปญฺญาปทีโป วัดอรัญญวิเวก ท่านเป็นพระลูกศิษย์หลวงปู่ตื้ออีกรูปหนึ่ง เล่าว่า

    หลวงปู่ตื้อท่านเป็นพระพูดจริง ทำจริง ปฏิบัติธรรมอย่างชนิดทุ่มเทกำลังทั้งหมด ยอมสละแม้กระทั่งชีวิต


    ตอนหลวงปู่ตื้ออาพาธเจ็บป่วย ท่านก็เฉยเสีย
    เดินจงกรมก็เป็นไปตามปกติ นั่งภาวนาก็เป็นไปตามปกติ
    หลวงพ่อเปลี่ยนเข้าไปกราบเรียนขอให้ท่านเพ่งรักษาโรคภัยในร่างกายของท่านบ้าง ท่านก็ตอบว่า : -

    “เราไม่เคยตามใจสังขาร มันเป็นได้ ก็ต้องปล่อยให้หายเอง

    ใครเอาอะไรมาให้ ก็กิน ใครไม่เอาอะไรมาให้ ก็ไม่กิน

    การเจ็บป่วย มันเป็นเรื่องของสังขาร ใจเราเฉยๆ ก็จะสบายไปเองแหละ”

    [​IMG]

    เมื่อหลวงพ่อเปลี่ยนกราบเรียนถามท่านว่า “หลวงปู่เจ็บมากไหม”

    หลวงปู่จะตอบว่า “มากหรือไม่มาก หนักหรือไม่หนักก็ดูเอาเอง”

    “ใครหน้าบาง ก็อย่าไปนิมนต์พระอาจารย์ตื้อ
    เพราะนอกจากท่านจะเทศน์ตรงแล้ว ยังพูดตรงอีกด้วย
    ถ้าใครหน้าบางเป็นนางอายละก็ ฟังไม่ได้”


    หลวงพ่อเปลี่ยนได้เล่าต่อไปว่า

    หลวงปู่ตื้อ ท่านมีปฏิปทาที่ไม่เหมือนใคร และใครก็เอาอย่างท่านไม่ได้
    เป็นลักษณะนิสัยเฉพาะองค์ท่าน หลวงปู่ไม่เคยสอนใครให้เอาอย่างท่าน
    แต่ท่านสอนให้ศิษย์ทุกรูปปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
    สอนให้ทุกคนมีความกล้าหาญ เพราะความกล้าหาญ เป็นมรดกในทางธรรมของพระพุทธเจ้า

    อันหมายถึงว่า ถ้าเราดีจริงๆ แล้วไม่ต้องหวั่นเกรงอันตราย ไม่มีใครจะมาทำร้ายเรา ขอให้ดีจริงๆ ก็แล้วกัน


    [​IMG]


    คำสอน

    ความดีมีศีลธรรม มีคำสัตย์ มีคำจริง ไม่มีนิสัยหลอกลวงโลก ชี้ทางพระนิพพานได้จริง
    นี่เป็นสมบัติของพระพุทธเจ้าที่ควรจะดำเนินจิตใจของเรา


    หลวงปู่ตื้อมักจะพูดว่า

    “เราเทศน์เรื่องจริง เราไม่ได้เทศน์เพื่อเอาใจใคร เอาใจผู้อื่นก็เท่ากับเลี้ยงกิเลสให้อ้วนพี
    เรามีความจริงใจ เราไม่ได้เทศน์เอาบุหรี่เกล็ดทองของใคร”

    หลวงปู่ตื้อท่านมีจิตใจหนักแน่นและเปิดเผย ท่านพูดตรง
    จนพระเถระผู้ใหญ่บางท่านได้ห้ามปราม แต่ท่านก็ยังคงยืนหยัดเชื่อมั่นในองค์ท่าน และเหตุผลของท่านก็เป็นจริงเช่นนั้นด้วย

    มีบันทึกตอนหนึ่งว่า มีคุณหญิงคุณนายที่ได้ฟังเทศน์จากหลวงปู่ตื้อ
    ในงานแห่งหนึ่งพากันไปทูลฟ้อง สมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฏฐายี) วัดมกุฎกษัตริยาราม
    ซึ่งสมเด็จฯ ท่านก็คุ้นเคยกับหลวงปู่ตื้อเป็นอย่างดี
    เมื่อหลวงปู่ตื้อเข้าเฝ้า สมเด็จฯ จึงถามท่านว่า
    “ท่านผู้หญิงมาฟ้องว่าท่านเทศน์หยาบคาย จริงไหม?”

    หลวงปู่ท่านตอบรับตรง ๆ ว่า จริง เพราะสิ่งที่ท่านเทศน์นั้นล้วนแต่เป็นธรรมะของจริง
    ไม่รู้จะยกไปซ่อนเร้นปิดบังไว้ที่ไหน แล้วท่านก็ย้อนทูลถาม สมเด็จ ฯ กลับไปว่า
    “สมเด็จฯ จะฟังไหม เกล้าฯ จะเทศน์ให้ฟัง”

    เหตุการณ์นี้นับว่าเป็นเรื่องฮือฮามากในครั้งนั้น
     
  3. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    [​IMG]

    จงเชื่อเรื่องกรรม

    หลวงปู่ตื้อพูดถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการเผชิญวิญญาณที่ผ่านมาว่า
    หากวิญญาณเหล่านั้น ได้รู้ความจริงแล้ว จะไม่หลงวนเวียนอย่างนั้น
    กิเลส ทิฏฐิ มานะ นี่ร้ายกาจมาก มันถึงเอาคนตกเป็นทาสของมัน ให้วนเวียนอยู่ในวัฏสงสารได้อย่างง่ายดายมาก

    ในโลกนี้ คนที่ตกเป็นทาสของมันมีมาก เพราะขาดการเข้าถึงพระรัตนตรัยอย่างแท้จริง

    การนับถือผีสางอันเป็นจำพวกวิญญาณที่หลงทางเดิน เมื่อตายแล้วนั้น
    เป็นการเชื่อแบบขอความอ้อนวอน จึงเป็นการเชื่อที่ไม่แน่นอน

    พระพุทธองค์จึงทรงแนะนำไม่ให้พุทธศาสนิกชนหลงเชื่อในเรื่องนี้
    พระองค์สอนให้เชื่อเรื่องกรรม คือ เชื่อการกระทำของตนเองดีกว่า


    [​IMG]

    ตายหรือเกิด ก็อันเดียวกันนั้นเอง

    มันก็น่าแปลก คนเราเวลาตาย เกิดอารมณ์ ร้องไห้ ทำให้เศร้าใจ
    แต่เวลาเกิด กลับหัวเราะ ชอบใจ ทำให้ดีใจ
    คนที่หัวเราะก็หลง คนที่ร้องไห้ก็หลง
    หลงในฐานะที่ไม่รู้อะไร เป็นเหตุเป็นผล
    ความจริงแล้ว ตายหรือเกิด ก็อันเดียวกันนั้นเอง
    เป็นแต่ว่าเขาเปลี่ยนกันทำหน้าที่เท่านั้นเอง


    [​IMG]


    หลวงปู่แนะนำวิธีตรวจว่าได้พุทโธหรือยัง

    หลวงปู่ชอบถามพระเณรที่ไปหาท่านเสมอว่า
    “ที่พวกคุณภาวนานั้น พวกคุณได้ พุทโธหรือยัง”
    ผู้ที่ยังไม่แน่ใจก็จะตอบว่า “ยังขอรับ”
    ผู้ที่ค่อนข้างแน่ใจก็ตอบท่านว่า “ได้แล้วขอรับ”
    แล้วหลวงปู่มักย้อนถามว่า “ได้แน่จริงหรือ”

    ถ้าหากว่าได้แล้วก็ให้ฟังและพิจารณาอย่างนี้ก่อน

    คือ ถ้าหากใครเขาด่าเราว่า “ไอ้หัวหงอก”

    ให้เราลองนั่งชั่งใจ ของเราว่า “เราโกรธเขาไหม”

    ถ้าเรายังโกรธอยู่ ก็หมายความว่า เรายังรับรู้การด่าของเขาอยู่

    นั้นหมายถึง เราเอาจิตออกมารับคำด่า เรายังอดทนไม่ได้

    เรายังโกรธ หมายถึง เรายังไม่ถึงหรือยังไม่ได้พุทโธอย่างแท้จริงนั้นเอง

    ให้ท่องพุทโธจนขึ้นใจ พุทโธยังไม่ซึ่งในใจของผู้นั้น

    เราจะต้องท่องให้พุทโธขึ้นในใจของเรา และมีความเชื่อมั่นจริงๆ
     
  4. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    [​IMG]

    ถ้าไม่รักษาศีล ไม่เจริญสมาธิไม่บำเพ็ญปัญญา จะไป นิพพานได้ไหม


    “ท่านตื้อ ถ้าไม่รักษาศีล ไม่เจริญสมาธิไม่บำเพ็ญปัญญา จะไป นิพพานได้ไหม ตอบหน่อย”

    พระดังอย่างหลวงปู่ตื้อ เรื่อง มงคลหมา ท่านก็เคยเทศน์มาแล้ว ตอบหลวงปู่อ่อนว่า : -

    “มี ก็จะเป็นอะไรไป ถ้าไม่รักษาศีล ก็ให้รักษาซิ่น (ผ้าถุงที่สตรีนุ่ง)
    ไม่เจริญสมาธิ ก็ให้รักษาช่องเข้า
    ไม่เจริญไม่บำเพ็ญปัญญา ก็ให้รักษาช่องขี้ เท่านั้นแหละ”

    หลวงปู่อ่อน ท่านก็ว่า “โอ...ท่านตื้อนี้พูดหยาบคาย”

    “ไม่หยาบหรอกหลวงพ่อ” ผมจะอธิบายให้ฟัง คืออย่างนี้

    ๑. ก็ธรรมดา ร่างกายสังขารของเรานี้ ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิง ก็ตาม
    เครื่องนุ่งเครื่องห่มก็ต้องรักษาให้สะอาด สังขารร่างกายก็เปรียบเหมือนผ้าเหมือนซิ่น ต้องรักษาให้สะอาดอย่าให้มัวหมอง

    ๒. ไม่บำเพ็ญสมาธิ ให้รักษาช่องเข้า ก็อะไรเล่า กิเลสมันเข้าทางไหน
    มันเข้า ช่องตา ช่องหู ช่องจมูก ช่องปาก ลิ้น กาย และใจ ใช่ไหม?
    ช่องเข้าเหล่านี้เราต้องรักษาไว้ อย่าให้กิเลสมันเข้า มันจึงจะเกิดความสะอาดบริสุทธิ์ได้ จริงไหม

    ๓. ไม่บำเพ็ญปัญญา ให้รักษาช่องขี้ ก็ขี้ทุกขี้ ขี้ยาก ขี้ลำบาก ยากจน
    ขี้คร้าน ขี้เกียจ ขี้คุก ขี้ตะราง ขี้อิจฉาริษยา ขี้โกรธ ขี้หึง ไล่มันออกไปให้หมด อย่าให้มันเข้ามารังควานซี เท่านี้ทำได้บ่...”
     
  5. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    [​IMG]

    หลวงปู่บุญเพ็ง กปฺปโก ได้พูดถึง หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม พระอาจารย์ของท่านต่อไปว่า

    หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม ท่านเป็นพระเปิดเผย พูดจริงแล้วได้ธรรมะจริงๆ ทำตัวท่านพ้นทุกข์ได้จริง

    ท่านไม่เทศน์ยกยอใคร กัณฑ์เทศน์ไม่เกี่ยว เทศน์ให้ได้สติรับรู้วาระจิตจริงๆ ก็เป็นอันว่าเอาตัวรอดได้


    คำสอน

    “พุทโธ ธัมโม สังโฆ นี่แหละเลิศประเสริฐแล้ว
    พระในประเทศ ทุกรูปจะต้องมี จะต้องถือ พุทโธ ธัมโม สังโฆ
    ถ้าพระรูปใดไม่มี พุทโธ ธัมโม สังโฆ แล้ว รู้ได้เลยว่าพระรูปนั้น เป็นพระปลอม ขนาดขึ้นบ้านใหม่ยังต้องว่า พุทธัง สรนัง คัจฉามิ ธัมมัง สรนัง คัจฉามิ สังฆัง สรนัง คัจฉามิ เลย”


    [​IMG]

    ศีลข้อเล็กๆ น้อยๆก็สำคัญ

    หลวงปู่ ท่านจะถามพระเณรในวัดทุกรูปว่า

    “ศีลทั้ง ๒๒๗ ข้อนั้น มีข้อใดเมื่อพากันปฏิบัติแล้ว ให้ถึงกับใจขาดตายบ้าง มีไหม?”


    พระเณรกราบเรียนไปว่า “ไม่มีครับ”

    หลวงปู่ก็ว่า “ถ้าเช่นนั้น ต้องพึงระมัดระวังอย่าล่วงในศีลนั้น ไม่ยกเว้นแม้แต่ศีลข้อเล็กๆ น้อยๆ


    หลวงปู่ตื้อท่านอบรมสั่งสอนศิษย์ของท่านว่า สิ่งเล็กๆ น้อยๆ นั่นแหละสำคัญยิ่งกว่าสิ่งใหญ่ๆ การเริ่มต้นในสรรพสิ่งทั้งปวง เริ่มแต่เล็กๆ มาก่อน

    แม้แต่จุดรอยรั่วรูเล็กๆ ให้น้ำหยดจากหลังคา ถ้าไม่รีบแก้ไข ในที่สุดก็เป็นรูขนาดใหญ่ได้

    อันนิสัยมนุษย์จะเริ่มประพฤติชั่วจากครั้งแรกขโมยสตางค์แม่แค่สลึงเดียวก่อน
    ต่อไปก็ขโมยวัวควาย ฉกชิงวิ่งราว สุดท้ายก็เข้าไปอยู่ในคุกเพราะเป็นโจรปล้น


    [​IMG]

    ศีลสิกขาของบรรดาพระเณร หลวงปู่ท่านจะกวดขันแม้ข้อเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่ละเว้น เพราะเป็นอาบัติซึ่งมักจะถูกมองข้ามไป พระเณรบางรูปคิดว่าไม่สำคัญ
    หลวงปู่ท่านกล่าวเปรียบเทียบว่า ให้พิจารณาเวลาที่เศษผงเข้าตานั้นมีแต่ฝุ่นเล็กๆ เท่านั้น ก้อนหินเท่ากำปั้นนั้น ไม่เคยปลิวเข้าตาพระเณรเลย

    หลวงปู่ท่านถามพระเณรว่า เวลาสะดุดตอไม้เคยเดินไปสะดุดตอขนาด ๔-๕ คนโอบไหม เห็นมีแต่ตอไม้ขนาดเท่านิ้วก้อย ที่พระเณรเดินสะดุดจนเป็นแผลอาบเลือด

    อันภิกษุที่กล้าล่วงในศีลเล็กน้อย ก็เหมือนกับขโมยเงินสลึงเดียว ของแม่เป็นการเริ่มต้น แน่นอนที่สุด ในเมื่ออาบัติปาจิตตีย์ยังกล้าล่วงเกินได้แล้ว
    ศีลในข้อสังฆาทิเสสก็ย่อมเป็นเรื่องเล็กน้อย แล้วนับประสาอะไรกับศีลในข้อปาราชิก


    [​IMG]

    อย่าได้มองเห็นไปว่า ศีลทั้ง ๒๒๗ ข้อนั้น ในโลกนี้จะไม่มีผู้ที่ประพฤติตามได้

    ผู้ที่กล่าวเช่นนั้นคือ ผู้ที่มีจิตไม่เอื้อเฟื้อต่อธรรมวินัย
    เป็นการตีความเข้าข้างตัวเอง ที่ตกอยู่ภายใต้จิตใจฝ่ายต่ำที่ครอบงำ
    จึงตีความเอาว่า ไม่มีภิกษุรูปใดจะทำตามพุทธบัญญัตินั้นได้
    เห็นไปว่า การปฏิบัติตามศีล ๒๒๗ ข้อทั้งหมดนั้นตึงเกินไป
    ถึงกับสมณบางรูป บางสำนัก สอนกันว่า ศีลทั้งหมดรักษาไว้แต่ปาราชิก ๔ ข้อก็พอ

    โถ ! น่าสงสาร ก็เลยไม่ต้องเป็นพระกันเลย

    หลวงปู่ย้ำว่า การเป็นพระไม่เว้นในศีลข้อใดข้อหนึ่ง
    แม้แต่ มุสาวาท เพราะมุสาวาทนี้ยังเป็นศีลของคฤหัสถ์ด้วย
    เป็นแค่เบญจศีล ที่ทำให้มีความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์
    ถือเพียงแค่ศีลห้าของคฤหัสถ์เท่านั้น ก็ยังไม่ได้ จะเป็นศีล ๑๐ ของสามเณรก็ยังมิได้เสียแล้ว

    ถ้าภิกษุกล่าวมุสาวาท โกหกตอแหล แค่เป็นมนุษย์สมบูรณ์ยังเป็นไม่ได้ ประสาอะไรที่จะเป็นพระ !
     
  6. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    [​IMG]

    คำสอน

    คนเราหากไม่มีดี ก็สู้สัตว์ไม่ได้ และจะถูกตราหน้าว่า เป็นคนประพฤติถอยหลัง ไม่สมกับที่เกิดมาเป็นมนุษย์

    หมาบางตัวที่เขาเลี้ยงไว้ มียศถึงนายพันเอกมีเงินเดือนหลายพันบาท ใครจะว่าหมาไม่ดีก็ว่าไม่ได้ ลูกสาวคุณนายเลี้ยงมาแต่เล็กๆ หมดเงินเป็นแสน เวลาโตขึ้นมาทำให้พ่อแม่ต้องเสียใจ ต้องลำบาก เดือดร้อนเนรคุณก็มี เรื่องเช่นนี้ไม่มีในหมา


    คำสอน

    มนุษย์เราเกิดมาก็ต้องทำบาปแล้ว เมื่อทำแล้วก็ต้องได้รับผลกรรมที่เราทำไว้
    พ่อแม่เรานั้นทำกรรมมา เราเกิดมาก็ทำกรรมไป อะไรที่สุดของกรรม ไม่มีใครรู้ได้ ทำบาปแล้วมีตัวอย่างให้เห็นมากมาย


    [​IMG]

    คำสอน

    พวกเราทั้งหมดก็เกิดมาด้วยบุญวาสนา จึงได้เกิดมาเป็นมนุษย์ เป็นเวไนยชนอันหาได้ยาก เป็นที่รู้ๆ กันอยู่แล้ว

    พระพุทธเจ้าจึงสอนให้ไม่ประมาท ไม่ให้ลืมตัว ไม่ให้ลืมบุญ วาสนาของตน
    คือไม่ให้ลืมตัวในการสร้างคุณงามความดี เพราะถ้าเราไม่สร้างคุณงามความดี
    ใจเราก็ไม่มีพุทโธ ธัมโม สังโฆ อันจะเป็นเหตุให้ต่อภพต่อชาติเป็นมนุษย์ต่อไป เมื่อบารมีไม่แก่กล้า หากเราไม่เชื่อมั่นในพระรัตนตรัย เราก็จะพากันไปสู่ภพที่ต่ำทรามก็ได้


    คำสอน

    “ธรรมะคือคำสอนของพระพุทธเจ้า พวกเรามองข้ามไปเสียหมด อยู่ที่ตัวของเรานี้เอง

    มิใช่อื่น พุทธะ คือ ผู้รู้ ก็ตัวของเรานี้เองมิใช่ใครอื่น

    เช่นเดียวกันกับไข่ ไข่อยู่ข้างในของเปลือกของไข่
    ทำให้เปลือกไข่แตก เราก็ได้ไข่
    พิจารณาร่างกายของเราให้แตก แล้วเราก็จะได้ธรรมะ”


    [​IMG]

    คำสอน

    นักธรรม นักกรรมฐาน ต้องมีนิสัยอย่างเสือโคร่ง คือ
    ๑. น้ำจิต น้ำใจต้องแข็งแกร่ง กล้าหาญ ไม่กลัวต่ออันตรายใดๆ
    ๒. ต้องเที่ยวไปในเวลากลางคืนได้
    ๓. ชอบอยู่ในที่สงัดจากคน
    ๔. ทำอะไรลงไปแล้วต้องมุ่งความสำเร็จเป็นจุดหมาย”


    คำสอน

    “สัตว์ดิรัจฉานมันดีกว่าคน ตรงที่มันไม่มีมายา ไม่หลอกลวงใคร
    มีครูอาจารย์ก็คือคน เป็นสัตว์นี้น่ารักน่าสงสาร
    คนเราซิโง่ เป็นพุทธะได้ แต่หลอกลวงตนเองว่าเป็นไปไม่ได้
    ร่างกายก็ไม่ให้พิจารณาว่าเป็นของเน่า เป็นของเหม็น
    แต่เราพิจารณาว่าเป็นของหอมน่ารัก โง่ไหมคนเรา?”
     
  7. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    [​IMG]

    คำสอน

    ท่านบอกว่า ผู้ที่สงสัยในกรรม หรือไม่เชื่อว่าจะต้องส่งผล
    คือ คนที่ลืมตนลืมตาย กลายเป็นคนมืดคนบอด
    คนประเภทที่ว่านี้ย่อมช่วยอะไรเขาไม่ได้เลย
    แม้จะมีกำเนิดสูงส่งสักปานใด ได้รับการทนุถนอมเลี้ยงดูมาอย่างวิเศษเพียงไรก็ตาม

    หากเขาไม่มองเห็นคุณข้าวคุณน้ำ คุณบิดามารดาแล้วนั้น
    เขาเรียกว่าคนรกโลก และก็ไม่รู้ด้วยว่าตนเองเป็นคนรกโลก และก็ไม่สนใจจะรู้ด้วย

    คิดเห็นแต่ว่า เพียงเขาเกิดมาและเจริญเติบโตมาจนกระทั่ง
    ถึงปัจจุบันด้วยการดื่ม การกินอาหารบำรุงเลี้ยงร่างกายจนเติบใหญ่
    เป็นเพราะมันจะต้องเป็นไปในทำนองนั้น

    มิได้คิดไปว่าตนเองนั้นได้เกิดขึ้นเป็นตัวเป็นตนเพราะคุณของบิดามารดาทั้งสอง
    ป้องกันรักษาให้ชีวิตและร่างกายแก่ตนมา



    คำสอน

    ใคร ต้องการอะไร ก็ให้เร่งรีบสร้างเอา คุณงามความดีทั้งหมดอยู่ที่ตัวของเราแล้ว

    ขันธ์ ๕ นี้เมื่อมันยังไม่แตกดับ ก็อาศัยมันประกอบความดีได้
    แต่ถ้ามันแตกดับแล้วก็อาศัยมันไม่ได้เลย ขันธ์ ๕ ของหลวงตาก็จะดับแล้วเหมือนกัน..”


    [​IMG]


    คำสอน

    เมื่อเข้าสู่ปัจฉิมวัย
    หลวงปู่ย้ำบ่อยครั้งที่สุดว่า “ธาตุลมของหลวงตาได้วิบัติแล้ว
    บางครั้งมันเข้าไปแล้วก็ไม่ออกมา นานที่สุดจึงออกมา
    และเมื่อมันออก มาแล้วก็ไม่อยากจะเข้าไป”


    “ขันธ์ ๕ จะให้หยุดการแสดงธรรมเหมือนกัน แต่จิตไม่หยุด มันก็หยุดไม่ได้
    การแสดงธรรมเป็นหน้าที่ของเรา เกิดมาเพื่อทำ ประโยชน์ทั้งนั้น
    ให้ความดี แล้วก็ทำความดี ต้องทำความดีเพื่อความดีอีก


    คำสอน

    คนเกิดมารู้จัก พุทโธ ธัมโม สังโฆ จึงจะเป็นคนไม่ใช่สัตว์
    เราต้องรู้จักพระธรรมให้ดีที่สุด จึงจะเรียกได้ว่าพระมหาเปรียญ พระนักธรรม พระกรรมฐาน”


    [​IMG]


    คำสอน

    “ยามีประโยชน์แก่ร่างกาย ก็ต่อเมื่อร่างกายต้องการเท่านั้น”
    “สังขารไม่เที่ยง หลวงตาเกิดมาก่อน ก็ต้องไปก่อนตามธรรมดา”

    ก่อนละสังขารนิพพานท่านให้พรเป็นภาษาบาลีว่า

    พุทโธ สุโข ธมโม สุโข สงฺโฆ สุโข
    จตฺตาโร ธมฺมา วฑฺฒนฺติ อายุ วณฺโณ สุขํ พลํ”

    http://www.thaijustice.com/webboard.asp?sub=0&id=1794806
     
  8. tobetruly

    tobetruly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2009
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +427
    อนุโมทนาท่านเจ้าของกระทู้ครับ และกราบหลวงตาหลวงปู่ทุกท่าน ซาบซี้งมาก -/\-
     
  9. ทางสวรรค์

    ทางสวรรค์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +347
    กราบนมัสการหลวงปู่ตื๊อ และขออนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ด้วยครับ
     
  10. จิตตานุปัสสนา

    จิตตานุปัสสนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,840
    ค่าพลัง:
    +16,082
    สาธุกราบๆๆๆๆ พระอรหันต์ทรงปฏิสัมภิทาญาณเจ้าพระองค์นั้น..
     
  11. Nattawut8899

    Nattawut8899 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,413
    ค่าพลัง:
    +7,058
    โมทนาครับ รูปถ่ายทั้งหมดผมเพิ่งเคยเห็นครั้งเเรก
    เป็นบุญตายิ่งนัก
     
  12. nerazzurriboyz1908

    nerazzurriboyz1908 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    713
    ค่าพลัง:
    +763
    ใครมีลิงค์หรือไฟล์ ที่ ลป.ตื้อ เทศน์สอนบางครับ ... เคยได้ยินว่าท่านเทศน์ดุดันเหมือนกัน แต่ไม่เคยฟังครับ

    ขอความอนุเคราะห์ด้วยครับ :)
     
  13. JoJoz

    JoJoz สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +20
    สิ่งเล็กๆ น้อยๆ นั่นแหละสำคัญยิ่งกว่าสิ่งใหญ่ๆ การเริ่มต้นในสรรพสิ่งทั้งปวง เริ่มแต่เล็กๆ มาก่อน

    แม้แต่จุดรอยรั่วรูเล็กๆ ให้น้ำหยดจากหลังคา ถ้าไม่รีบแก้ไข ในที่สุดก็เป็นรูขนาดใหญ่ได้


    โมทนาสาธุ ข้าพเจ้าจะระมัดระวังแม้แต่จุดมืดเล็กๆในใจของข้าพเจ้า
     
  14. poomdunn

    poomdunn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    270
    ค่าพลัง:
    +380
    ธรรมรส ที่เจาะตรงถึงใจจริงๆ อนุโมทนาธรรมทานอนุโมทนาท่านเจ้าของกระทู้น้อมกราบหลวงปู่ตื้อด้วยเศียรเกล้าค่ะ และกราบหลวงตาหลวงปู่ทุกท่าน ซาบซี้งมากค่ะ<!-- google_ad_section_end -->
     
  15. seahero

    seahero เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +602
    จะมีสักกี่ท่านที่จะมองเห็นดวงจิตดวงใจที่ใสสว่าง เปี่ยมไปด้วยเมตตาที่ิซ่อนอยู่ภายใต้ใบหน้าอันดุดันของหลวงปู่....โมทนากับความดีของหลวงปู่ทุกท่านครับ
     
  16. พนาวรรณ

    พนาวรรณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,096
    ค่าพลัง:
    +767
    กราบนมัสการหลวงปู่ตื๊อ และขออนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ด้วยครับ
     
  17. ติ้งลิงติง

    ติ้งลิงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,365
    ค่าพลัง:
    +3,977
    ขอก้มกราบหลวงปู่ทุกรูปทุกนาม...
     
  18. ป่ากุง

    ป่ากุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    416
    ค่าพลัง:
    +784
    สาธุๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ น้อมกราบพ่อแม่ครูจารย์ด้วยเศียรเกล้า
     
  19. กตเวท

    กตเวท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2009
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +185
    กราบหลวงปู่ด้วยครับ เมื่อสมัยเราเด็กๆได้ยินคุณย่าพูดถึงหลวงปู่บ่อยๆ
     
  20. เขามอ

    เขามอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    321
    ค่าพลัง:
    +539
     

แชร์หน้านี้

Loading...