พื้นที่ปลอดภัยยามเกิดอภิมหันตภัย ในจังหวัดต่าง ๆ ของประเทศไทย

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย truethailove, 27 พฤศจิกายน 2011.

  1. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    วัดมหาธาตุดอยจัน (พระเกศาธาตุ, สถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรงบรรทม)
    บ้านดอยจัน ตำบลโยนก อำเภอเชียงแสน

    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]-->
    พระธาตุหัวกว๊าน (เวียนแกว้น)
    ตำบลบ้านแซว อำเภอเชียงแสน


    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->พระธาตุวัดสันทรายกองงาม
    ตำบลบ้านแซว อำเภอเชียงแสน


    ที่มา พาเที่ยวชม วัดสันทรายกองงาม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • watsansai.jpg
      watsansai.jpg
      ขนาดไฟล์:
      112.3 KB
      เปิดดู:
      72
  2. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if !mso]><object classid="clsid:38481807-CA0E-42D2-BF39-B33AF135CC4D" id=ieooui></object> <style> st1\:*{behavior:url(#ieooui) } </style> <![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> พระธาตุนางคอย บ้านเวียงแก้ว อำเภอเชียงแสน

    ประวัติวัดพระธาตุนางคอย
    วัดพระธาตุนางคอย ตั้งอยู่ หมู่ที่ 15 ต.แม่ฟ้าหลวง
    อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย มีเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่
    25 ตารางวา ทิศเหนือยาว 50 เมตร ทิศใต้ยาว 82 เมตร
    ทิศตะวันออก 133 เมตร ทิศตะวันตก 280 เมตร
    อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เดิมทีเป็นวัดร้าง
    ได้สร้างใน พ.ศ .ใดไม่ปรากฎหลักฐาน (ตามความบอกเล่า)
    สร้างโดยพระสงฆ์คณะศรัทธาชนชาติไทยใหญ่
    สมัยการแต่งตัวชุดทรงกระแบน ผ้าแดงโพกหัว
    โดยสร้างพระธาตุไว้บนดอย

    ที่มา
    แอ่ววัดพระธาตุนางคอย ดอยผาม้า - ใต้แผ่นฟ้าล้านนา อารยะธรรม - สนทนา ปู่ย่าเจ้านาย.คอม
     
  3. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806

    อยู่ตรงส่วนไหนของนครพนม ขอแผนที่รวมทั้งข้อมูลของสถานที่ด้วยซิค่ะ
    และหลวงพ่อท่านมีแผนการในการเตรียมพื้นที่ไว้อย่างไรบ้าง
    จะได้มีหลาย ๆ ท่านที่พอมีกำลังมาช่วย ๆ กันได้อย่างไรละค่ะ
     
  4. forbetterlife

    forbetterlife เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,136
    ค่าพลัง:
    +180
  5. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
  6. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    ตามตำนานได้กล่าวไว้ว่า พระธาตุจอมแว่ได้สร้างขึ้น
    โดยพญางำเมือง เจ้าเมืองภูกามยาว (พะเยา) ในราว
    จ.ศ. ๖๕๖ (พ.ศ. ๑๘๓๗) โดยที่พระองค์ได้เสด็จขึ้น
    ดอยซางคำ (ชื่อเดิมของดอยจอมแว่) เพื่อตรวจดู
    อาณาเขตบ้านเมืองของพระองค์ว่ามีไพร่ฟ้าประชาราษฎร์
    ว่าอยู่ตรงไหนบ้าง จากนั้นจึงเสด็จไปยังดอยอีกลูกหนึ่ง
    ซึ่งอยู่ตอนเหนือของลำน้ำแม่คาวด้วน และเสด็จเลียบ
    ต้นดอยด้วน (ดอยงาม) แล้วเสด็จไปยังเมืองภูกามยาว
    เมื่อพระองค์เสด็จถึงเมืองภูกามยาวใน เดือน ๔
    ปีเดียวกัน จึงโปรดให้ขันฑเสนามาตย์ นำผู้ที่มีความรู้
    ในการก่อสร้างเจดีย์ พร้อมกับไพร่ฟ้าปลายแดน
    มาลงแรงช่วยกันสร้างพระธาตุจอมแว่ขึ้นที่ดอยซางคำ
    โดยได้ก่อทับรอยฟานเอาไว้ บรรจุพระเกศาธาตุ และ
    แก้วแหวนเงินทองเอาไว้ สร้างเสร็จสมบูรณ์ในเดือน ๘
    จึงได้มีพิธีการเฉลิมฉลองสมโภชพระเจดีย์เป็นเวลา ๓ วัน ๓ คืน

    ในสมัยเจ้าเมืององค์ต่อมา บ้านเมืองอยู่ในสภาวะ
    ไม่สงบสุขประชาชนจึงได้อพยพไปอยู่ที่อื่น ทำให้
    พระธาตุจอมแว่ทรุดโทรมปรักหักพังจากภัยธรรมชาติ
    จนในปี จ.ศ. ๑๑๙๙ (พ.ศ. ๒๓๘o ) พระยาหาญ
    เจ้าเมืองพานคนแรกจึงได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์
    ขึ้นมาใหม่จากซากเดิม จนในสมัยพญาไชยชนะสงคราม
    เจ้าเมืองพานคนที่ ๓ ได้ร่วมศรัทธา ๓ หมู่ ร่วมกัน
    บูรณาพระธาตุขึ้นมาใหม่ให้ใหญ่กว่าเดิม แล้วบรรจุ
    พระมหาชินธาตุเอาไว้ มีประเพณีสรงน้ำพระธาตุใน
    วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ เหนือ

    ที่มา Wikimapia - Let's describe the whole world!
     
  7. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    พระธาตุปูแกง ตำบลแม่เย็น อำเภอพาน


    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->
    วัดพระธาตุจอมรุ่ง (ท่าไร่ก๋อง) (พระเกศาธาตุ)

    ตำบลแม่เย็น อำเภอพาน


    [FONT=&quot]ตามตำนานได้เล่าขานกันต่อๆ มา ในราว พ.ศ. 1837 [/FONT]
    [FONT=&quot] เจ้าเมืองภูกามยาวจังหวัดพะเยาได้มาสร้างพระธาตุ[/FONT]
    [FONT=&quot]จอมรุ่ง ซึ่งบรรจุเส้นพระเกศา ขององค์สมเด็จ[/FONT]
    [FONT=&quot]พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต่อมาพระธาตุได้เริ่มชำรุดในราว [/FONT]
    [FONT=&quot]พ.ศ. 2474 ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ได้นำ[/FONT]
    [FONT=&quot]คณะศรัทธามาทำการบูรณะ และในราวปี พ.ศ. 2530 [/FONT]
    [FONT=&quot]ทางเจ้าคณะตำบลแม่เอิน และคณะศรัทธาได้ร่วมมือกัน[/FONT]
    [FONT=&quot]บูรณะพระธาตุอีกครั้งหนึ่งจนถึงปี พ.ศ. 2545 [/FONT]
    [FONT=&quot]คณะลูกศิษย์ วัดท่าซุง ลกศิษย์หลวงพ่อพระราช[/FONT]
    [FONT=&quot]พรมยานได้นำคณะศรัทธามาบูรณะพร้อมกับเจ้าอาวาส[/FONT]
    [FONT=&quot]องค์ปัจจุบัน พระอาจารย์มานะ มานิโตและ ครูบา[/FONT]
    [FONT=&quot]เจ้าเทือง ตำบลแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ได้มา[/FONT]
    [FONT=&quot]ร่วมบูรณะกับคณะศรัทธาตำบลแม่เย็น อำเภอพาน[/FONT]
    [FONT=&quot] จังหวัดเชียงรายจนสำเร็จในปี พ.ศ. 2550 [/FONT][FONT=&quot]พระอาจารย์[/FONT]
    [FONT=&quot]มานะ มานิโต" มานะ มานิโตได้ มาจำพรรษาอยู่ที่[/FONT]
    [FONT=&quot]สำนักสงฆ์ พระธาตุจอมรุ่งในปี พ.ศ. 2538 ได้สร้าง[/FONT]
    [FONT=&quot]ศาลาปฏิบัติธรรมอาคารสำหรับผู้พักปฏิบัติกรรม [/FONT]
    [FONT=&quot]ปี พ.ศ. 2547 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ [/FONT]
    [FONT=&quot]พระธาตุจอมรุ่ง[/FONT]

    [FONT=&quot]ใน ปี พ.ศ. 2549 ได้เริ่มก่อสร้างมณฑปแก้ว ซึ่งเป็น[/FONT]

    [FONT=&quot]ที่ประดิษฐานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า [/FONT]
    [FONT=&quot]สมเด็จองค์ปฐมปรางพระนิพพาน มณฑปแก้วมี[/FONT]
    [FONT=&quot]ความกว้าง 15 เมตร ความยาว 15 เมตร มีจัตตุรมุขทั้ง 4 ทิศ[/FONT]


    ที่มา เวปแดนนิพพาน
    http://palungjit.org/forums/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • watpukang.jpg
      watpukang.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59.3 KB
      เปิดดู:
      71
  8. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    วัดพระธาตุจอมรุ่ง (บ้านใหม่พัฒนา) ตำบลเวียง อำเภอพาน

    พระธาตุจอมแจ้ง (พาน) ตำบลเวียง อำเภอพาน
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->
    พระธาตุดอยงู
    ตำบลเจริญเมือง อำเภอพาน

    อยู่ภายในบริเวณ วัดแม่ขาว ซึ่งเป็นสำนักปฏิบัติธรรม
    ตำบลเจริญเมือง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ใน
    วันเพ็ญ เดือน 8 จะมีการพิธีนมัสการและสรงน้ำ
    พระธาตุของชาวล้านนา ต้องเตรียมเครื่องสักการะ
    ดอกไม้ธูปเทียน ฝักส้มป่อย หม้อไห ข้าวสุก ข้าวสาร
    อาหารแห้ง จากนั้น จะพากันเข้าพักในศาลาบาตร
    ที่รายล้อมองค์เจดีย์ หรือรายล้อมตามแนวกำแพงวัด
    ด้านใน แล้วจึงไปปัดกวาดลานพระธาตุ ลานต้นโพธิ์
    เรียกว่า อุปัฏฐากพระธาตุ ถึงเวลากลางคืนมีการจุด
    ธูปเทียนถวายข้าวตอกดอกไม้ ทำวัตรสวดมนต์


     
  9. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    พระธาตุเนินธาตุ ดอยงาม
    ตำบลทานตะวัน อำเภอพาน


    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->วัดพระธาตุดอยกู่แก้ว (พระเกศาธาตุ, พระบรมธาตุตาตุ่มขวา)
    บ้านป่าสักหลวง ตำบลจันจว้าใต้ อำเภอแม่จัน


    พระธาตุดอยกู่แก้ว ตั้งอยู่ในวัดพระธาตุดอยกู่แก้ว หมู่ 2 ต.จันจว้าใต้
    อ.แม่จัน จ.เชียงราย เป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์อันเก่าแก่ มีอายุนับพันปี
    ดังปรากฏในตำนานสิงหนวัติกุมาร สมัยของพระเจ้าอุชุตราชกษัตริย์
    แห่งโยนกนครได้นำพระบรมสารีริกธาตุส่วนกระดูกตาตุ่มของพระพุทธเจ้า
    มาประดิษฐานยังดอยแห่งนี้ และได้มีการสร้างพระธาตุครอบพระบรม
    สารีริกธาตุไว้ และจากหลักฐานโบราณวัตถุที่ให้เห็น เช่น พระเจดีย์
    วิหาร ซากกำแพงอิฐโบราณ และอุโบสถที่มีหินสลักสีมาอันเก่าแก่
    ซึ่งทรุดโทรมปรักหักพังตามอายุกาล ถึงกระนั้นก็ดีปูชนียสถาน ปูชนียสถานนี้
    เป็นที่ประชาชนในท้องถิ่นให้ความเลื่อมใสสักการะบูชา ด้วยจิตศรัทธา
    มิเสื่อมคลาย วันสำคัญเช่น วันพระ 8 ค่ำ 15 ค่ำ หรือวันสำคัญทางศาสนา
    พระธาตุเจดีย์แห่งนี้ ได้แสดงปฏิหาริย์แปล่งรัศมีฉายแสงเป็นประกายรุ้ง
    โชติช่วง ให้ชาวประชาทั่วไปได้เห็นอยู่เสมอ และในกาลที่จะถึง
    กลางเดือน 5 ของทุกปี จะมีประชาชนผู้มีจิตศรัทธาพากันขึ้นไปแผ้วถาง
    ให้สอาดชุ่มชื่น พอวันสงกรานต์ผ่านไปประมาณ 7 วัน ของทุกปี
    พระสงฆ์เถรานุเถระ และศรัทธาประชาชนในตำบลจันจว้า และตำบล
    ใกล้เคียงพากันไปสักการะบูชาทักษิณโสรจทรงสมโภช เป็นประจำทุกปี

    ที่มา Untitled Document
    <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="750"><tbody> <tr><td colspan="3" valign="top">
    </td></tr> <tr> <td>
    </td> <td colspan="4" valign="top">
    </td></tr></tbody></table>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • watkukaew.jpg
      watkukaew.jpg
      ขนาดไฟล์:
      31.4 KB
      เปิดดู:
      987
  10. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    พระธาตุป่าหมากหน่อ วัดพระพุทธทศพลญาณ (พระเกศาธาตุ)
    ตำบลจันจว้า อำเภอแม่จัน
    <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="750"><tbody> <tr> <td valign="top">
    </td> <td valign="top">
    </td><td valign="top">
    </td><td valign="top">
    </td></tr><tr><td>
    </td> <td valign="top">
    </td> <td colspan="3" valign="top">พระธาตุโยนกนครแสงคำ ตั้งอยู่ ณ วัดปากหมากหน่อ
    หรือวัดพระทศพล ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านห้วยน้ำราก หมู่ที่ 4 ตำบลจันจว้า
    อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ชาวบ้านเชื่อวาเป็น ที่ตั้งของ
    เกาะแม่ม่าย ตามพงศาวดาลโยนกได้ล่มสลายกลายเป็นหนองน้ำ
    มีการพบโบราณสถาน และโบราณวัตถุจำนวนมาก พื้นที่ตั้งเป็น
    สันดอนริมเวียงหนองหล่ม ลักษณะเป็นเกาะมีน้ำล้อมรอบ ทุกปี
    ในวันเพ็ญเดือน 8 เหนือ จะมีการสรงน้ำพระธาตุ ซึ่งถือเป็น
    ประเพณีที่สำคัญของชาวล้านนา
    </td></tr></tbody></table>
    ที่มา http://www.chiangraiphotoclub.com/index53.php?topic=1046.0
    http://province.m-culture.go.th/chiangrai/vdn/map/show.php?c_id=839



     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 มีนาคม 2012
  11. leia17

    leia17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    331
    ค่าพลัง:
    +1,368
    ขอนแก่นอีกไกลไหมคะ อิอิ
     
  12. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    วัดพระธาตุสันขวาง (พระเกศาธาตุ)

    บ้านแม่ข้าวต้มท่าสุด ตำบลจันจว้า อำเภอแม่จัน

    จาก ตำนานพระเจ้าเลียบโลก
    พระ ธาตุสันขวาง พระบรมธาตุซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐาน พระบรม

    สารีริกธาตุ ส่วน พระเกศาธาตุ ของ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    สมณโคดม (พระพุทธเจ้าองค์ที่ 4 ในภัทรกัลป์นี้ หรือพระพุทธเจ้า
    องค์ปัจจุบันนั่นเอง)

    เล่ากันมาแต่อดีตกาลว่าเมื่อนานมาแล้วสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้า
    ได้เสด็จเลยมาจาก เวียงโยนกนคร ล่องมาแล้ว (ปัจจุบันคือ อ.เชียงแสน
    จ.เชียงราย) และได้ ฉันข้าวต้มหุงแกงเผือกมัน (ข้าวต้ม) ที่บ้านแม่
    ข้าวต้มท่าสุด โดยแก่บ้าน(ผู้ใหญ่บ้าน) และชาวบ้านจัดตั้งประรำพิธีถวาย
    พระพุทธเจ้าหลังจากได้ เทศนาภัตตะอนุโมทนาทานแล้ว พระพุทธเจ้า
    ก็ลูบอุตตะมะมังคละหัวแห่งตน ปลงพระเกศา ให้แก่ชาวบ้านและได้ให้มา
    ประดิษฐาน ณ เขาลูกนี้ (เขาแก้ว) และพระพุทธองค์ได้กล่าวว่า
    ในอนาคตสถานที่แห่งนี้จะได้ชื่อว่า พระธาตุยางแล เพราะมีต้นยาง
    อยู่มาก จนถึงเมื่อพระพุทธองค์เสด็จดับขันธ์ปรินิพพานแล้ว
    จึงได้มีพระอรหันต์รูปหนึ่ง มาก่อสร้างสถูปเจดีย์ครอบไว้ และนำ
    พระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุเพิ่มอีก (สถานที่ตรงนี้จึงมีทั้ง พระบรม
    สารีริกธาตุแบบดั้งเดิมสมัยพระพุทธองค์) และ พระบรมสารีริกธาตุ
    ที่ได้มาหลังพระพุทธองค์ปรินิพพานแล้ว)

    ที่มา วัดพระธาตุสันขวาง ต.ท่าสุด จ.เชียงราย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • watsankwan.jpg
      watsankwan.jpg
      ขนาดไฟล์:
      155.2 KB
      เปิดดู:
      52
  13. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    พระธาตุสันขี้เหล็ก บ้านสันขี้เหล็ก ตำบลสันทราย อำเภอแม่จัน


    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->พระธาตุอินทร์ยอง บ้านแม่คำ ตำบลศรีถ้ำ อำเภอแม่จัน


    พระธาตุจอมจันทร์

    ที่ตั้ง วัดจอมจันทร์ ตำบลสันทราย อำเภอแม่จัน

    ประวัติพระธาตุ พระครูบาทิพย์ เจ้าอาวาสวัดบ้านแหลว เป็นผู้สร้างขึ้น
    เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๓ โดยเห็นนิมิตในคืนหนึ่ง เป็นแสงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า
    สว่างไสวระยิบระยับสีเขียวบนดอยที่ตั้งขององค์พระ ธาตุ สักครู่ก็หายไป
    เช้าวันรุ่งขึ้นพระครูบาทิพย์จึงชวนสามเณรขึ้นไปสำรวจตรวจตราดูบน
    ยอดดอยแห่ง นี้ เห็นว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสมแก่การสร้างพระธาตุ
    เจดีย์เป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าดอยแห่งนี้มีคูล้อมรอบ โดยการขุดของ
    คนโบราณ ซึ่งไม่ติดกับดอยลูกใดเลยในบริเวณใกล้เคียงกัน จึงชักชวน
    ญาติโยมสาธุชนทั้งหลายร่วมกันก่อสร้างเจดีย์ ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๖๘
    จึงได้ก่อสร้างกุฏิ วิหาร และศาลาตามลำดับ ตั้งเป็นวัดชื่อว่า วัดพระธาตุ
    จอมจันทร์ มีภิกษุจำพรรษาติดต่อกันมาจนถึง พ.ศ. ๒๔๘o ได้เกิด
    ไฟป่าลุกลามไหม้ศาลาและกุฏิจนหมด คงเหลือไว้แต่พระเจดีย์และ
    วิหาร ศรัทธาชาวบ้านจึงได้ย้ายมาสร้างวัดอยู่ข้างล่าง อยู่ห่างจาก
    วัดเดิม ๓oo เมตร วัดพระธาตุจอมจันทร์จึงได้กลายเป็นวัดร้างตั้งแต่นั้นมา
    จนถึงปี ๒๕๔๒ จึงได้มีการบุรณะขึ้นมาใหม่ โดยพระมหายงยุทธ
    เทวธัมโม พร้อมคณะศรัทธา

    ที่มา tourismchiangrai.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • watjomjun.jpg
      watjomjun.jpg
      ขนาดไฟล์:
      16.1 KB
      เปิดดู:
      52
  14. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    วัดพระธาตุจอมสวรรค์ บ้านจอมสวรรค์
    ตั้งอยู่ในหมู่บ้านสันขี้เหล็ก หมู่ที่ 4 ตำบลจอมสวรรค์ อำเภอแม่จัน

    พระธาตุจอมสวรรค์แต่เดิมชื่อว่า
    “พระธาตุดอยขวยต่อ” ตามตำนาน
    คำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ที่มีอายุ
    ได้เล่าสืบกันมาว่า ได้มีต่อยักษ์
    ตัวหนึ่ง อาศัยอยู่ในคู ศัพท์ว่าเป็นต่อตัว
    ที่ใหญ่ที่สุดและดุร้ายมาก
    สามารถกินเป็ด ไก่ ได้ตลอดถึงกินเด็ก ๆที่นอน
    อยู่ในเบาะ ในเปล
    นับได้ว่าเป็นตัวต่อที่ใหญ่พอดู ตัวต่อดังกล่าวนี้อาศัย
    อยู่ในรู
    ขุดเอาขี้ขวยออกมาจากดิน จนเกิดเป็นดอยลูกหนึ่ง มีลักษณะเป็น

    เนินสูงชันขึ้นไปด้วยอาศัยขี้ขวยของต่อตัวดังกล่าวนี้ นับล่วง
    ตั้งแต่สมัย
    สิบสองปันนามาแล้ว ตามคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่
    ที่มีอายุ 80 กว่าปี
    ได้เล่าว่าตั้งแต่เกิดมาก็เห็นมีดอยลูกนี้อยู่อย่างนี้
    ที่เกิดเป็นดอยขึ้นมา
    ก็เพราะขี้ขวยของต่อตัวดังกล่าว ฉะนั้นจึงได้
    ตั้งนามว่า “พระธาตุดอยขวยต่อ”
    ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา และ
    ในสมัยนั้นหมู่บ้านดอยต่อ หมู่ที่ 3 มีชื่อว่า “บ้านงิ้วกุด” แล้วต่อมา
    จึงได้เอานามของดอยขวยต่อมาเปลี่ยนเป็น
    ชื่อนามของหมู่บ้าน
    จาก “บ้านงิ้วกุด” มาเป็น “บ้านดอยต่อ” จึงได้
    เรียกมาจนถึงปัจจุบันนี้

    ที่มา วัดพระธาตุจอมสวรรค์ แต่เดิมชื่อว่า “พระธาตุดอยขวยต่อ”

    http://tamroiphrabuddhabat.com/xmb/viewthread.php?fid=23&tid=74&action=printable
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    พระธาตุวัดศรีโคมคำ (พระธาตุกลางในเมือง)
    บ้านสันธาตุ ตำบลแม่คำ อำเภอแม่จัน

    พระธาตุดอยเวา วัดพระธาตุดอยเวา (พระเกศาธาตุ)
    บ้านแม่สาย ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย

    ตั้งอยู่บนดอยเวาริมฝั่งแม่น้ำแม่สาย ตามประวัติกล่าวว่าพระองค์เวา
    หรือเว้า ผู้ครองนครนาคพันธ์โยนก เป็นผู้สร้างเพื่อบรรจุพระเกศาธาตุ
    องค์หนึ่ง เมื่อ พ.ศ. 364 นับเป็นพระบรมธาตุที่เก่าแก่องค์หนึ่งรองมาจาก
    พระบรมธาตุดอยตุง นอกจากนี้บนยอดดอยเวายังเป็นจุดที่สามารถ
    ชมทิวทัศน์ของอำเภอแม่สาย และท่าขี้เหล็กทางฝั่งพม่าได้อย่างชัดเจน
    สามารถนำรถขึ้นไปจนถึงพระธาตุได้

    พระธาตุดอยเวาเป็นที่บรรจุพระเกษาธาตุของพระพุทธเจ้าเป็นที่ตั้ง
    ของสำคัญ 5 ประการ 1)พระธาตุดอยเวา 2)ศาลาสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
    3)ปราสาทององค์อินทร์ 4)แมลงป่องยักษ์ 5)หอชมวิว






     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • watdoiwao.jpg
      watdoiwao.jpg
      ขนาดไฟล์:
      122.7 KB
      เปิดดู:
      49
  16. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    พระธาตุวัดป่าเหมือด ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย


    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]-->พระธาตุวัดเจติยารามสันธาตุ ตำบลศรีเมืองชุม อำเภอแม่สาย

    แต่เดิมบ้านสันธาตุยังไม่มีชื่อหมู่บ้าน เป็นที่มีป่าหนาทึบ เมื่อประมาณ
    ปี พ.ศ. 2492 มีครอบครัวอพยพมาอยู่โดยคนที่มาตั้งรกราก
    ตอนนั้นก็มีทั้งหมด 5 คน คือ พ่ออุดม ยาวิชัย นายเมือง ยาวิชัย
    นายเมืองติ๊บ ยาวิชัย แม่แก้ว ยาวิชัย และนายหน่อ จันทราพูน
    เชื้อชาติคนสันธาตุตอนนั้นส่วนใหญ่เป็นคนไทยยอง ไทยญวน
    ต่อมาประมาณปี พ.ศ. 2502 ชาวบ้านเริ่มอพยพมาอยู่มากขึ้น
    จึงได้เลือกเอา พ่อหลวงแก้ว ยาวิชัย เป็นผู้ใหญ่บ้านและได้ก่อตั้ง
    บ้านสันธาตุขึ้น เป็นหมู่ที่ 8 ของตาบลเกาะช้าง และความเป็นมา
    ของชื่อหมู่บ้านคือ บริเวณหมู่บ้านชาวบ้านได้ถางป่าเพื่อทำนา
    และพบพระธาตุเจดีย์เก่าแก่ มีต้นโพธิ์ดูร่มรื่น ชาวบ้านก็เลยตกลงกัน
    ให้เป็นวัดและตั้งชื่อหมู่บ้านคือ บ้านสันธาตุในช่วงปี พ.ศ. 2504

    ที่มา http://www.srimueangchum.com/images/1135925858/Jatiyaram.pdf
     
  17. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    พระธาตุถ้ำปุ่ม (ถ้ำเปลวปล่องฟ้า) (พระเกศาธาตุ)
    ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย

    ถ้ำปุ่ม ถ้ำนี้อยู่ในเขตบ้านดง หมู่ที่ 2 ตำบลโป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย
    เป็นถ้ำที่มีประเพณีประจำปีในการทำบุญในวันแรม9 ค่ำเดือน 6 ของทุกปี
    ชาวบ้านเรียกประเพณี ถ้ำปุ่ม - ถ้ำปลา ถ้ำปุ่ม มีลักษณะเป็นถ้ำที่อยู่บนหน้าผา
    สูงจากพื้นดิน ประมาณ 30 เมตร ทางขึ้นเป็นบันได 73 ขั้น ลึกประมาณ 132 เมตร
    ถ้ำนี้มีลักษณะเด่น คือ บริเวณเหนือทางเดินก่อนเข้าถ้ำ จะปรากฎรูปปั้นสิงห์
    อายุประมาณ 200 ปี ตั้งเด่นตรงหน้าหันหน้าไปทางทิศเหนือสูงขึ้นไป ประมาณ
    16 เมตร นอกจากนี้ภายในถ้ำยังมีหินงอกเป็นปุ่ม (ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์) เด่นชัด
    ชาวบ้านจึงเรียกถ้ำนี้ว่า ถ้ำปุ่ม ภายใน มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ให้นักท่องเที่ยว
    มาสักการะบูชาด้วยภายในถ้ำ เมื่อเดินเข้าไประยะประมาณ 60 เมตรจะมีทางเดิน
    ด้านขวามือจะพบหน้าผาสูงประมาณ 3.80 เมตรกว้างประมาณ 1.50 เมตร
    มีลักษณะเป็นหินย้อยติดหน้าผาติดต่อกันคล้ายน้ำตกสวยงามมาก เมื่อเดินเข้าไป
    ระยะทางประมาณ 88 เมตรจะมีทางเดินแยกทางขวามือสามารถทะลุออกทางเดิน
    เดิมอีกด้านหนึ่งได้ในลักษณะครึ่งวงกลม ระหว่างทางนี้จะมีบ่อน้ำซึ่งชาวบ้าน
    เรียกว่า "บ่อน้ำทิพย์" มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 10 เมตร ต่อจากนั้นที่ระยะทาง
    ประมาณ 110 เมตร จะพบแนวหินย้อยเป็นริ้วติดต่อกับเกาะติดผนังถ้ำเป็นทางยาว
    ติดต่อกันเป็นสีขาวคล้ายน้ำตกสวยงามมากและบริเวณปลายสุดของถ้ำมี
    พระพุทธรูปปางสมาธิหน้าตัดกว้าง 32 นิ้ว สูง 46 นิ้ว ตั้งเด่นเป็นสง่าให้
    พุทธศาสนิกชนได้สักการะบูชา

    ถ้ำเปลวปล่องฟ้า เป็นถ้ำที่อยู่ถัดจากถ้ำปลาไปทางทิศใต้ ถ้ำนี้ตั้งอยู่บนยอดเขา
    มีลักษณะเป็นถ้ำทะลุสู่ท้องฟ้า แสงอาทิตย์สามารถส่องผ่านพื้นถ้ำได้

    ที่มา ถ้ำปุ่ม-ถ้ำปลา by : เชียงรายโฟกัสดอทคอม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • tampa1.jpg
      tampa1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      5.2 KB
      เปิดดู:
      464
    • tampa2.jpg
      tampa2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      17.2 KB
      เปิดดู:
      469
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 เมษายน 2012
  18. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    พระธาตุถ้ำปลา (พระเกศาธาตุ)
    ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย

    ถ้ำปลา ตำนานปลา ตามตำนานโยนกกล่าวว่า เมื่อครั้งพระพุทธเจ้า
    เสด็จมาโปรดสัตว์และออกบิณฑบาตที่เมืองโยนกนาคะนครไชยบุรี
    ศรีช้างแสน ได้ดำเนินเลียบเชิงเขามายังถ้ำลอดเปลวปล่องฟ้า
    ปรากฏว่ามีชาวบ้านนำปลาหนีบไม้ปิ้งมาใส่บาตร ได้ทรงอธิฐานให้
    ปลากลับมีชีวิต แล้วปล่อยลงรูเหวในถ้ำเปลวปล่องฟ้า พระอานนท์
    ก็เทน้ำออกจากบาตร เกิดเป็นธารน้ำไหลออกมาทางหน้าผาด้านตะวันออก
    เกิดเป็นถ้ำปลา จากนั้นพระพุทธเจ้าทรงนำก้อนหินปิดรูเหวที่เทน้ำลงไป
    และนำเส้นพระเกศาไว้ในหินให้เป็นที่สักการะบูชาของคนต่อไป
    จนกระทั้งราวพุทธศตวรรษที่ 15 เจ้าอุชุตราช ผู้ครองโยนกนคร
    ได้สถาปนาพระเจดีย์และบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ในถ้ำ
     
  19. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    พระธาตุดอยตุง วัดพระมหาชินธาตุเจ้า (ดอยตุง)(พระรากขวัญเบื้องซ้าย)
    ตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่ฟ้าหลวง



    วัดพระมหาชินธาตุเจ้า (ดอยตุง)
    หรือเรียกโดยทั่วไปว่า วัดพระธาตุดอยตุง
    ตั้งอยู่บริเวณส่วนที่เรียกว่าหน้าอกของดอยนางนอน ตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย
    จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของชาวเขา ซึ่งดอยตุงมีระยะทางห่างจากอำเภอ
    เมืองเชียงรายประมาณ 46 กม. และมีพระธาตุดอยตุงประดิษฐานอยู่บนยอดดอย
    สามารถมองเห็นได้ในระยะไกลเนื่องจากพระธาตุดอยตุง ตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล
    ประมาณสองพันเมตร

    ตามตำนานเล่าว่า พระธาตุดอยตุงสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอชุตราช กษัตริย์ผู้ครองเมือง
    โยนกนาคพันธุ์(ปัจจุบันคืออำเภอแม่จัน) พระมหากัสสปะได้อัญเชิญพระบรม
    สารีริกธาตุlส่วนพระรากขวัญเบื้องซ้าย(กระดูกไหปลาร้า) แล้วมอบให้แก่
    พระเจ้าอชุตราช ได้สร้างเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุนั้นไว้บนดอยแห่งนี้
    ดังที่พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ไว้ แล้วจึงได้ให้ทำตุง (ธง) มีความยาว
    1,000 วา ปักบนยอดเขาหากตุงปลิวไปถึงที่ใดก็กำหนดให้เป็นฐานของพระเจดีย์
    ทั้งนี้พระองค์ได้พระราชทานทองคำให้พวกลาวจกเป็นค่าที่ดิน และให้พวกมิลักขุ
    500 ครอบครัวดูแลรักษาพระธาตุ ต่อมาในสมัยพญามังรายแห่งราชวงศ์มังราย
    พระมหาวชิรโพธิเถระได้นำพระบรมสารีริกธาตุมาถวาย 50 องค์ พญามังราย
    จึงให้สร้างพระเจดีย์อีกองค์ใกล้กับเจดีย์องค์เดิม นับจากนั้นเป็นต้นมาพระธาตุ
    ดอยตุงจึงได้มีเจดีย์สององค์มาจนถึงทุกวันนี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    พระธาตุดอยช้างมูบ ตำบลห้วยไคร้อำเภอแม่ฟ้าหลวง

    ตั้งอยู่บนดอยช้างมูบ ริมถนนสายพระธาตุดอยตุง บ้านผาหมี ห่างจาก
    ทางแยกวัดน้อยดอยตุงประมาร 4 กม. เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดของ
    ดอยตุง ตำนานสิงหนวัติ และตำนานโยนกนาคพันธ์กล่าวถึงดอยช้างมูบว่า
    ในรัชกาลที่ 10 พระเจ้าชาติราย ได้มีกัมระปติสะโลเทพบุตร นำไม้
    นิโครธมาปลูก ณ ดอยช้างมูบ ต้นไม้นั้นเมื่อโตได้สูง 7 ศอก ได้แตก
    สาขาเป็น 4 กิ่ง สามารถให้ร่มเงาให้แก่คนได้ 20 คน ประชาชนมี
    ความเชื่อว่าหากนำไม้มาค้ำกิ่งนิโครธน้ำจะทำให้บรรลุความปรารถนา
    เช่นเดียวกับต้นกัลปพฤกษ์ กล่าวคือ ทิศตะวันออก ได้บุตรสมประสงค์
    ทิศเหนือได้ทรัพย์ ทิศตะวันตกเจริญรุ่งเรือง และทิศใต้อายุยืนนาน
    ปัจจุบันคงเหลือเพียงพระสถูปช้างมูบเป็นเจดีย์ขนาดเล็กตั้งอยู่บน
    ก้อนหินใหญ่ ซึ่งมีลักษณะเหมือนช้างหมอบอยู่ สภาพโดยเป็นต้นโพธิ์ใหญ่
    และต้นสนซึ่งใช้ปลูกเพื่ออนุรักษ์ดินและน้ำ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...