การนั่งสมาธิสร้างรอยหยักบนสมอง ผลดีอีกอย่างหนึ่งตามคำสอนในพระพุทธศาสนา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ชัยบวร, 28 มีนาคม 2012.

  1. ชัยบวร

    ชัยบวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2011
    โพสต์:
    928
    ค่าพลัง:
    +1,642
    ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 27 มีนาคม 2555

    การนั่งสมาธิสร้างรอยหยักบนสมอง ยิ่งมากรอยเท่าไหร่ยิ่งหัวไวเท่านั้น ผลดีอีกอย่างหนึ่งในหลาย ๆ เรื่องตามคำสอนเรื่องสมาธิในพระพุทธศาสนา


    มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียของอเมริกา ศึกษาครั้งล่าสุดยืนยันว่า การทำสมาธิทำให้สมองดี นอกจากคิดอ่านได้ไวขึ้นแล้ว ยังตัดสินใจได้เร็วขึ้นด้วย

    ผู้ช่วยศาสราจารย์ไอลีน ลูเดอร์ส ของห้องปฏิบัติการประสาทวิทยา เปิดเผยว่า สมองของผู้ที่ทำสมาธิมาเป็นเวลานาน ๆ จะมีรอยหยักบนสมอง ที่ช่วยให้สมองทำงานเร็วขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก และพบด้วยว่าปริมาณรอยหยักขึ้นอยู่กับจำนวนปีที่ทำสมาธิมานานด้วย เป็นการพิสูจน์ว่าสมองได้ปรับเปลี่ยนตามความเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมได้ อาจารย์ชี้แจงว่า ยิ่งสมองมีรอยหยักมากเท่าไร ก็ยิ่งคิดอ่าน ตัดสินใจ เกิดความจำและอื่น ๆ เร็วขึ้นเท่านั้น

    คณะนักวิจัยได้ศึกษา (ตามหลักวิทยาศาสตร์) โดยใช้เครื่องเอ็กซเรย์คลื่นแม่เหล็กตรวจสมองของกลุ่มผู้ทำสมาธิกับผู้ไม่ได้ทำสมาธิจำนวนเท่ากัน เปรียบเทียบดู
    <!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG]

    </FIELDSET>
     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    ผลวิจัยนี้ออกมานานพอสมควรแล้วนะครับ...

    ขอบคุณสำหรับข่าวดีๆที่นำมาแบ่งปันนะครับ....
     
  3. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    จากประสบการณ์ชีวิตของผม ผมก็เชื่อเช่นกันครับ ว่าการปฎิบัติธรรมภาวนานั้น

    ทำให้มนุษย์มีความคิด ความอ่านได้รวดเร็วครับ และ มีความจำที่ดีขึ้นมากมายครับ

    ทำให้เรียนรู้ได้รวดเร็ว เข้าใจได้ง่ายขึ้น มองเห็นความเป็นจริงชัดขึ้น

    สาธุครับ
     
  4. UncleGee

    UncleGee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +10,246
    ขอบคุณครับ เป็นงานวิจัยที่น่าสนใจมากครับ
     
  5. kodyhusky

    kodyhusky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +829
    ทำไมคนเราไม่ยอมเชื่อพุทธเจ้าตั้งแต่แรกนะไม่เข้าใจ ต้องให้ฝรั่งมายืนยัน

    แต่ก็ดี ถ้าเขายืนยันให้แล้วก็ทำซะ!!(ผมก็จะทำด้วย แห่ๆๆๆ)
     
  6. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ศาสนาพุทธ ศาสนาแห่งปัญญา ไม่ต้องไปพึ่งใคร พึ่งตัวเองดีที่สุด แล้วก็มีพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง แล้วปฎิบัติตาม แล้วก็จะฉลาดขึ้น แล้วตัดกิลเศไปนิพพานเลย

    ผมคิดว่าอีกไม่นาน ศาสนาพุทธต้องมีคนนับถือมากแน่ๆ ถ้าคนเหล่านั้นไม่ได้งมงายเรื่องพระเจ้าไรพวกนี้ เชื่อตามความเป็นจริง
     
  7. Piagk3

    Piagk3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +1,222
    แล้วถ้ามานั่งสมาธิตอนอายุเยอะหยักจะเพิ่มมั้ยล่ะเนี้ย
     
  8. choo2521

    choo2521 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2011
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +4
    เป็นเรื่องจริงที่พิสูจน์ได้ด้วยตนเอง...
     
  9. LungKO

    LungKO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    590
    ค่าพลัง:
    +925
    เยี่ยมจริง ๆ ฯ

    นั่นแหละครับศรัทธา ศรัทธาแปลว่าเชื่อมั่นตามที่ได้พิสูจน์แล้ว
    เขาเกิดศรัทธาแล้ว
    จากน้อยคน ไปหามาก ก็จะเป็นผลดีต่อชาวโลกทั้งสามภพ ฯ
     
  10. gentboy

    gentboy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2011
    โพสต์:
    225
    ค่าพลัง:
    +240
    ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ นะครับ
     
  11. a5g1aeka

    a5g1aeka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    728
    ค่าพลัง:
    +1,579
    :cool:ถึงหยักจะไม่เพิ่มแต่นั่งสมาธิสม่ำเสมอหยักก็ไม่ลดลง และทำให้คนที่มีอาการอัลไซเมอร์(ความจำเสื่อม)ดีขึ้น หรือไม่หนักขึ้นเป็นอย่างน้อยๆๆ ปล.ต้องไม่ฟุ้งซ่านนะครับๆๆ:cool::cool::cool:
     
  12. Namushakamunibutsu

    Namushakamunibutsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,347
    ค่าพลัง:
    +2,618
    มันเกี่ยวกับเส้นใยสมองมากกว่ารอยหยักนะครับ รอยหยักมันเกิดจากการบีบตัวของสมองให้พอดีกับขนาดของกระโหลกมากกว่าครับ
     
  13. ชัยบวร

    ชัยบวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2011
    โพสต์:
    928
    ค่าพลัง:
    +1,642
    ครับผม...ลองดูข้อมูลนี้นะครับ

    ลักษณะของเซลล์สมองแต่ละเซลล์จะมีส่วนที่ยื่นออกไปเป็นเส้นใยสมองแตกแขนงออกมามากมายเป็นพัน ๆ เส้นใยและเชื่อมโยงต่อกับเซลล์สมองอื่น ๆ เส้นใยสมองเหล่านี้เรียกว่า แอกซอน (Axon)และเดนไดรท์ (Dendrite)จุดเชื่อมต่อระหว่างแอกซอนและเดนไดรท์ เรียกว่า ซีนแนปส์ (Synapses)เส้นใยสมองแอกซอนทำหน้าที่ส่งสัญญาณกระแสประสาทไปยังเซลล์สมองที่อยู่ถัดไป ซึ่งเซลล์สมองบางตัวอาจมีเส้นใยสมองแอกซอนสั้นเพื่อติดต่อกับเซลล์สมองตัวถัดไปที่อยู่ชิดกัน แต่บางตัวก็มีเส้นใยสมองแอกซอนยาวเพื่อเชื่อมต่อกับเซลล์สมองตัวถัดไปที่อยู่ห่างออกไป ส่วนเส้นใยสมองเดนไดรท์เป็นเส้นใยสมองที่ยื่นออกไป อีกทางหนึ่งทำหน้าที่รับสัญญาณกระแสประสาทจากเซลล์สมองข้างเคียงเป็นส่วนที่เชื่อมติดต่อกับเซลล์สมองตัวอื่น เซลล์สมองและเส้นใยสมองเหล่านี้จะมีจุดเชื่อมต่อหรือซีนแนปส์ (Synapses) เชื่อมโยงติดต่อถึงกัน

    อย่างไรก็ตามคนที่มีเส้นใยสมองมากที่สุดไม่ได้เป็นคนที่ฉลาดที่สุด เพราะสมองมีเนื้อที่จำกัดในการเก็บเส้นใยสมองสมองจึงมีการ "รีดทิ้ง" เส้นใยสมองในส่วนที่ไม่จำเป็นต้องใช้ในเวลานั้น จึงไม่น่าแปลกใจว่าเด็กแรกเกิดมีเส้นใยสมองมากที่สุดเมื่อเทียบกับเด็กคนเดียวกันในอายุ 6 ขวบ และ 14 ปีและยิ่งโตขึ้นเส้นใยสมองยิ่งน้อยลง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะโง่กว่าเดิม นั่นเป็นเพราะว่าสมองมีการจัดเก็บและมีแบบแผนในการเก็บเส้นใยสมอง

    ความรู้เกี่ยวกับสมอง (เสริม) เฉพาะฉะนั้น เรื่องสมองนี้ยังต้องมีการศึกษาวิจัยเพิ่มขึ้นอีก เพราtบางทีความรู้ในสิ่งที่เราคาดว่าน่าจะใช่ในปัจจุบัน อาจจะยังไม่พร้อม ถ้ามีการพิสูจน์เรื่องเส้นใยสมองเปรียบเทียบระหว่างผู้ที่ทำสมาธิกับผู้ที่ไม่ได้ทำสมาธิ ระหว่างผู้ที่มีรอยหยักเพิ่มกับผู้ที่รอยหยักเท่าเดิม เจาะลึกลงไปอีกก็จะทราบผลต่อไป ปัจจุบันแม้จะมีความรู้ทางด้านสมองมาก แต่นักวิทยาศาตร์ แพทยศาสตร์ ก็ยังเข้าใจสมองของมนุษย์ได้ยังไม่เต็ม 100 %
     
  14. TanIsrangkun

    TanIsrangkun Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +25
    การนั่งสมาธิมีแต่ประโยชน์... อยากนั่งบ้าง สงสัยต้องเริ่มทีละนิดแล้ว ขอบคุณสำหรับบทความดีดีค่ะ
     
  15. ชัยบวร

    ชัยบวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2011
    โพสต์:
    928
    ค่าพลัง:
    +1,642
    เสริมอีกนิดครับ

    รายการตีสิบ ได้เชิญนักจิตวิทยาท่านหนึ่งมาอธิบายเรื่องสมอง ท่านได้กล่าวว่า "ใจ" ที่แท้ก็คือสมองนั่นเอง ไม่ใช่ "หัวใจ" ที่เรา ๆ ทุกท่านเข้าใจกันมา ในปัจจุบัน เราเข้าใจว่า "ใจ" นี้ คือ "หัวใจ" แต่ทางนักจิตวิทยาจะกล่าวว่า "ใจ" ก็คือ "สมอง" ครับ บางที "ใจ" ในความเข้าใจปัจจุบันที่หมายถึง "หัวใจ" อาจจะเป็นความหมายเชิงเปรียบเทียบก็ได้ครับ

    ไม่ว่าจะมีผลอย่างไรก็ล้วนส่งเสริมและสนับสนุนคำสอนของพระพุทธศาสนาทั้งสิ้นครับ
     
  16. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ความรู้สึกเกิดที่สมองโดยตรง ไม่ได้เกิดขึ้นที่หัวใจ

    หน้าที่ของใจ คือ ความรู้สึก ที่มีผลต่อการกระทบทางกาย

    วิทยาศาสตร์ตามมาทีหลัง พระธรรมที่มีอยู่ในโลก มีมานานมากแล้ว

    สาธุครับ
     
  17. ฉันผู้ฝึกตน

    ฉันผู้ฝึกตน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +201
    ทำไมไม่ลองพิสูจน์ด้วยตัวเอง
     
  18. TenBalll

    TenBalll สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +3
    ผมยิ่งปฎิบัติยิ่งโง่นะ....ลืมง่ายด้วย....เมื่อก่อนปฎิบัติ ทำอะไรได้หลายๆอย่างพร้อมกัน แต่เดี๋ยวนี้ ปฎิบัติมากปี ทำได้ทีละอย่าง ถ้าทำอย่างนึงไม่เสร็จ แล้ววางไว้ ไปทำอย่างที่ 2 จะลืมอย่างที่หนึ่งเลย มันตัดหายไปเลยนึกอย่างไงก็นึกไม่ออก เช่นถ้าคิดอะไรอยู่ต้องรีบทำเดี๋ยวนั้น ถ้าปล่อยไปซักเดี๋ยว มันตัดความคิดหายไปเลย ถ้าจะทำอะไรต้องจดเอาไว้บนกระดาน เมื่อก่อนไม่เคยจด แต่เดี๋ยวนี้ต้องจดนะ ทำอย่างที่ 1 เสร็จแล้วก็มาร์คเอาไว้ว่าเสร็จแล้ว ....ถ้ายังไม่เสร็จไปทำอย่างที่ 2 สมาธิมันตัดอัน1หายไปเลยต้องมานึกกันอีก ....

    ผมว่ายิ่งนั่งสมาธิมาก เป็น 10 ปีขึ้นยิ่งโง่นะ ยิ่งนั่งยิ่งโง่ ไม่ฉลาดหรอก และเฉ่ยชาด้วย ขี้เกียดขึ้นมากกว่าเก่า ไม่อยากไปไหน ใครชวนไปอินเดีย ตื่นเต้นตอนคุย อยากไปๆๆๆๆๆๆๆๆๆพอวางสาย ซัก10-15 นาที สมาธิมันตัดว่างไปอีกแล้วใจเฉยไม่อยากไป แล้วตัวพิจารณามาต่ออีกว่าจะไปทำไมลำบาก อยู่บ้านเราก็ปฎิบัติได้ เดี๋ยวนี้ขี้เกียด ใครชวนไปไหนก็เฉยๆ ทะเลก็เฉย วัดสวยๆก็เฉย แม้แต่ทำบุญยังเฉยๆๆ...

    ยิ่งปฎิบัติยิ่งขี้เกียด ยิ่งไม่มีไฟ ยิ่งไม่อยากทำอะไร แค่นี้ก็พอกินแล้ว แค่นี้ก็นอนได้แล้ว หนังือพระเมื่อก่อนก็อยากซื้อมาอ่านเดี๋ยวนี้ เหมือนเดิม หนังสือธรรมมะ ก็เล่าเรื่องเดิมๆๆเพื่อนชวนไปไหว้พระอรหันต์ ขี้เกียดไป ไม่รู้จะไปไหว้ทำไม ไปก็ไม่ได้เข้าข้างใน ไปก็ไปนั่งดู ไม่ได้ธรรมมะอะไร ธรรมมะในเวปก็มีตั้งเยอะ คนเก่งๆๆก็มี เราก็หาข้อมูลในเวปเอา ไม่อยากไป..เฉยๆ
    พระธาตุ พระธาตุข้าวบิน ก็ให้เขาหมด เฉยๆๆ เพื่อชวนไปไหว้พระธาตุ มันก็แค่กระดูกเอาเป็นที่พึ่งเราไม่ได้เลย เวลาเราทุกข์ มันเป็นที่พึ่งเราไม่ได้ ตัวมันเองมันยังพึ่งตัวมันเองไม่ได้เลย มีแต่ธรรมมะของพระพุทธเจ้าที่เป็นที่พึ่งเราได้ สวดมนต์เป็นที่พึ่งของใจเราได้ นั่งสมาธิ ดูกาย ดูจิตมันเป้นที่พึ่งเราได้

    พระอรหันต์ พระธาตุ พระเครื่อง ของเหล่านี้มันเป้นที่พึ่งเราไม่ได้เลย พระธรรมต่างหาก ทุกข์ดับไปเดี๋ยวนั่นเลยต่อหน้าต่อตา...มันก็เลยคิดอย่างนี้ ไม่รู้ว่าบาปหรือเปล่านะ
     
  19. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    สวัสดีครับ คุณ บอล การปฎิบัติความทรงจำจะดีขึ้นนะครับ แต่ที่เหลือที่กล่าวควรแล้วครับ

    ไม่เห็นประโยชน์ก็ไม่ต้องการในสิ่งนั้นๆ ที่ความจำไม่ดีบ่งบอกว่าติดสุขครับ

    จะสนใจในการนั่งกรรมฐานมากๆ และ ไม่สนใจเรื่องราวในชีวิตประจำวัน

    สิ่งที่จะเกิดขึ้น คือ ความเบื่อหน่ายต่อสิ่งแวดล้อม แต่ไม่ได้เบื่อการมีชีวิตครับ

    นี่คือ การติดสุขครับ และ จะนำพาให้กลับมาเกิดอีกครับ

    สาธุครับ
     
  20. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ตอนนี้ก็เห็นว่าลืมบ่อย ทำให้เห็นว่าความจำมันก็ไม่เที่ยงเอาแน่นอนไม่ได้
    สติก็ไม่เที่ยงเมื่อกี้มี เมื่อกี้ไม่มี กลับมามี
    ยิ่งปฏิบัติ ยิ่งเห็นความจริง ว่ามันไม่อยู่คงทนสักอย่าง สิ่งที่ถูกรู้ สิ่งรู้ รู้
    ไม่ได้มีอะไรให้ยึดไว้ได้เลย มันมีแต่เห็นว่าทุกข์
     

แชร์หน้านี้

Loading...