การปฏิบัติสมาธิเพื่อสุขภาพกายและจิตให้เหนือธรรมดาตามในทางพุทธศาสนา

รีบมาเล่าก่อนไม่มีเวลาครับ จริงๆคิดอยู่ว่าจะเล่าในกระทู้เรื่องเล่าดีเปล่าคิดไปคิดมาญาติธรรมอยู่ในนี้เยอะเลยเล่าที่นี่ดีกว่า

เรื่องมีก็ตามที่ทราบความไม่บังเอิญที่ผมได้พระมาก็ต้องไปนำถวายแต่ในนิมิตรที่เห็นคือวัดที่อยู่ใกล้เขา

พอดีกิ๊กก็บอกให้เอาไปไว้ที่เขาคิชกูฏก้เลยว่าคงเป็นธรรมมะจัดสรรค์เลยจะนำไปไว้ พอกำหนดวันว่าจะเอาไป

คือแค่นั้นจริงๆก็มีคนมาบอกในจิตให้บอกบุญซะ บุญจะได้ใหญ่เพราะมีคนรอโมทนาอยู่ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร

ก็ทำตามที่ท่านนั้นแนะนำก็มีคนร่วมบุญมากมาย มากกว่าที่คิดเยอะเลยนำที่ได้มาน้อมส่งบุญให้แต่ใจก็คิดว่าจะส่งที่ไหนดี

ก็มีคนบอกว่าน้อมส่งที่ยอดเขาในใจคิดว่าตรงไหนล่ะ ก็มีคนบอกว่าจะรู้เอง ตามนั้นก็ตามนั้น

วันที่ไปก็ไปช้ามากไม่เข้าใจเหมือนกันในชีวิตผมเวลาจะไปทำอะไรสำคัญก็ตาม ผมจะอธิฐาน

ตามปรกติจะไม่เป็นไปตามที่คิดคือจะช้ากว่าที่เรากะประมาณไว้ขนาดเผื่อเวลาไว้ก็ตาม อย่างเช่นในครั้งนี้ผมนัดทุกคนไว้

22.00 น เพราะผมเลิกงาน 19.30 น ตอนแรกนึกว่าจะเลิกเร็วเพราะว่ารายการอ.วิเชียรที่ผมทำน่าจะเป็นเทป

ปรากฏเป็นรายการสดเลยต้องรอทำรายการ ก็ไม่ได้คิดอะไรแต่เราก็เผื่อเวลาไว้แล้วว่ายังไงก็ทัน

ปรากฏว่าวันนั้นเป็นอะไรไม่รู้รถติดมากทำไม ก้ดูปรากฏว่าเค้ากำหนดทางรถและเวลาออกให้ซึ่งตามที่ดูก็ตรงเวลาของสวรรค์

ในช่วงเวลามงคลปรกติกลางคืนหาฤกษ์ดียากมาก ยากจนไม่คิดอยากหา ปรากฏว่าดีรู้ว่าดียังไงก็ลงมองพระจันทร์จะสวยผิดปรกติไงครับ

ก่อนวันจะไป2วันมีธรรมมิตรโทรมาถาม คืออยู่ๆก็โทรมาว่าจะไปเราก็ตอบไปว่าคับจะไป เค้าก็บอกว่าบนนั้นไม่ใช่รอยพระบาตรนะ

เราไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้วเพราะรอยพระบาตรนั้นแค่น้อมใจไปไหว้ที่ไหนก็เหมือนกัน เราก็ยืนยันว่าจะไปเพราะคงจะมีคนให้ไป

ก็เลยวันั้นนั่งดูว่าที่นั้นเป็นอย่างไรแวบแรกที่เห็นเห็นท้าสักกะและเห็นพระธาตุ ก็ไม่ได้อะไรคือในตอนนั้นก็เห็นแค่นั้น

จนเมื่อไปถึงเขาก็ประมาณตี 2หรือ3 ผมไม่ได้แน่ในเพราะไปถึงก็ได้ยินเสียงสวดมนต์ตลอดเวลา

เป็นเสียงสำเนียงที่เราไม่คุ้นหู ไม่รู้อะไร เราก็รู้ตัวแล้วว่าที่นี่ไม่ธรรมดา พอไปถึงคือคนเยอะมากปรกติต้องรอรถขึ้นเขากันนานมาก

วันนั้นไปถึงก็ได้ขึ้นเลย พอไปถึงก็เดินขึ้นไป ผมก็ขึ้นไประหว่างทางก็มีนั้นมีนี้ คือมีเทวดาอารักษ์ ตลอดทาง

ยังคิดอยู่เลยท่าอาจารย์อาชวินมาต้องทักทายและต้องให้เรามาคุยกับเทวดาเป็นแน่เพราะทุกองค์ก็มาให้พร

และคุ้มครองตลอดการเดินทางแม้ว่าในบางทีจะอันตรายก็ตาม ผมรีบขึ้นข้างบนดีกว่าเพราะยิ่งขึ้นบทสวดยิ่งดังยิ่งมายิ่งอึง..

พอขึ้นถึงข้างบนเลยรู้เลยว่าที่เราเห็นท้าวสักกะ และพระธาตุคืออะไร ภาพที่เห็นคือ

ท้าวสักกะอัญเชิญพระธาตุมาก่อนจะนำขึ้นสู่จุฬามนี ได้วางไว้ที่เทือกเขานี้แล้วก้มลงกราบบนพื้นดินตรงนี้

ก่อนที่จะนำขึ้นสู่สวรรค์และจุฬามนีน่าจะอยู่บนเขาคิชกูฏพอดี วันนั้นเลยได้รู้ที่มาที่ไป

อานิสงค์ของที่คนไปไหว้เขาคิชกูฏนี้ที่คนไปไหว้แล้วได้รับพรคืออนิสงค์ของผู้กะทำเยี่งเท้าสักกะคือพุทธบูชาตามที่ท่านเคยทำ

และในจุดที่ทำเคยทำ และผู้ที่ให้พรก็คือท่านเอง วันนั้นเลยกำหนดจิตไปเลยได้ไหว้พระธาตุทีจุฬามณีด้วยขนลุกตลอดเวลาเลย

จบการไหว้พระที่เขาคิชกูฏครับเดี๋ยวนำพระไปถวายมีต่อครับ นี่เล่าแบบย่อสุดๆแล้วครับจริงมีเยอะมาก

ทั้งที่ผมได้เจอแมง4หู5ตา ที่เป็อวตาลของท้าวสักกะมาให้ลาภคนจน เดี๋ยวมาเล่าต่อคับ

 

จะรออ่านนะครับผม ^^ อ่านแล้วฮึด ไปอาบน้ำนั่งสมาธิล่ะคร้าบ

 

มาเล่าต่อครับเรื่องถวายพระ

เรื่องมีอยู่ว่าตั่งแต่เอาพระไปแล้วก็นั่งคิดตลอดมาว่าจะเอาไถวายที่ไหนที่จะตรงกะนิมิตร ก็เลยขึ้นจิตอธิฐานเอาว่าได้อยู่ที่ไหนก็ขอให้นำไปที่นั้น

ระหว่างทางขึ้นก็เจอแต่ชื่อวัดกระทิงกับหลวงพ่อเขียนก็เลยนึกว่าต่องเอาไปไว้ที่นั่นแต่พอลงมาแล้ว

ก็คุยกับชาวคณะว่าจะไว้ที่ไหนดีแล้ววัดกระทิงอยู่ตรงไหนพอพูดว่าวัดกระทิงก็ได้ยินเสียงมาก้องในหูเลยว่าไม่ใช่

อยู่ดีๆก็มีคนมาบอกว่าเขาสุกิม เราก็เลยถามว่าวัดเขาสุกิมอยู่ไกลไหมลองไปดูแล้วกัน

ก็เลยเดินทางไปที่วัดเขาสุกิม พอลงรถปรกติจะยกเองอยู่ๆก็ไม่ให้เรายกอยากให้คนอีนมายกเลยถามว่าใครอยากได้บุญ

มาแบ่งบุญอุ้มกันไปบ้างก็ได้ผลัดกันอุ้มทุกคน เรื่องที่แปลกคือกระเช้าขึ้นเขาสุกิมคนเยอะมาก

แต่พ่อคนคุมกระเช้าเห็นพระก็บอกว่าเอาพระไปนั่งหน้าเลยครับ สรุปก็ได้ไปก่อนชาวบ้าน

พอนำพระขึ้นไปปรากฏได้รับการต้อนรับอย่างดีและผมก็พึ่งรู้ว่าที่นี่เค้ามีการถวายพระองค์ใหญ่ๆกันอยู่เพื่อบรรจุเจดีย์



ถวายพระก็ขนลุกกันไป ทริปนี้ก็อิ่มบุญกันไปครับ

 

มาเล่าต่อครับเรื่องถวายพระ

เรื่องมีอยู่ว่าตั่งแต่เอาพระไปแล้วก็นั่งคิดตลอดมาว่าจะเอาไถวายที่ไหนที่จะตรงกะนิมิตร ก็เลยขึ้นจิตอธิฐานเอาว่าได้อยู่ที่ไหนก็ขอให้นำไปที่นั้น

ระหว่างทางขึ้นก็เจอแต่ชื่อวัดกระทิงกับหลวงพ่อเขียนก็เลยนึกว่าต่องเอาไปไว้ที่นั่นแต่พอลงมาแล้ว

ก็คุยกับชาวคณะว่าจะไว้ที่ไหนดีแล้ววัดกระทิงอยู่ตรงไหนพอพูดว่าวัดกระทิงก็ได้ยินเสียงมาก้องในหูเลยว่าไม่ใช่

อยู่ดีๆก็มีคนมาบอกว่าเขาสุกิม เราก็เลยถามว่าวัดเขาสุกิมอยู่ไกลไหมลองไปดูแล้วกัน

ก็เลยเดินทางไปที่วัดเขาสุกิม พอลงรถปรกติจะยกเองอยู่ๆก็ไม่ให้เรายกอยากให้คนอีนมายกเลยถามว่าใครอยากได้บุญ

มาแบ่งบุญอุ้มกันไปบ้างก็ได้ผลัดกันอุ้มทุกคน เรื่องที่แปลกคือกระเช้าขึ้นเขาสุกิมคนเยอะมาก

แต่พ่อคนคุมกระเช้าเห็นพระก็บอกว่าเอาพระไปนั่งหน้าเลยครับ สรุปก็ได้ไปก่อนชาวบ้าน

พอนำพระขึ้นไปปรากฏได้รับการต้อนรับอย่างดีและผมก็พึ่งรู้ว่าที่นี่เค้ามีการถวายพระองค์ใหญ่ๆกันอยู่เพื่อบรรจุเจดีย์



ถวายพระก็ขนลุกกันไป ทริปนี้ก็อิ่มบุญกันไปครับ

 

รูปเจดีย์นี้คือที่จะบรรจุพระที่นำไปถวายครับเป็นเจดีย์ที่หลวงพ่อสมสายมีความประสงค์ที่จะก่อสร้างครับ

 

มหาโมทนาคุณบาสที่นำบุญใหญ่มาบอกค่ะ

คนอ่านก็ขนลุกค่ะ เจดีย์งามมากเลย

คราวที่แล้วทีไป ได้กราบแต่พระพุทธบาท ไม่ได้ไปวัดเขาสุกิมเลย เห็นแล้วเสียดายหงิดๆ

 

มารอฟังเรื่องแมง 4 หู 5 ตา ค่ะ

ตอนแรกเข้าใจว่าน่าจะเหมือนแมลงหน้าคน
แต่ไปเสิร์ชกูเกิ้ลมา เป็นหน้าตาแบบนี้

 

ส่งการบ้านคับ

วันนี้นั่งไปตอนแรกก็สวดมนต์ สวดเสร็จก็ปล่อยจิตไป

นั่งไปก็เริ่มหมุน ก็ เห็นเหมือนอวกาศ บ้าง เหมือน มีอะไรกลมๆ

ลอยออกไปข้างบน เราตามไปดูได้ แต่ลอยไปไหนไม่รู้

บางทีภาพทีเห็นเข้ามาจากทางใจ บางทีก็เห็นที่บนหน้าผาก

แผ่เมตตาเสร็จก็ออกจากสมาธิคับ

รวมเวลาไม่เกิน 10 นาที

 

ที่ทำอย่างนั้นเกิดจากกายกะจิตแยกออกจากกันเรียบร้อยแล้ว ลองสังเกตุในขนะที่ลอยใปใจจะเกิดสุข

สุขที่เกิดจากอำนาจจิต อำนาจฤทธิ์ จะไม่เล่าหน่อยหรือที่ก้าวหน้าทางสมาธิขนาดนี้เกิดจากอะไร

 

​

​

​

​

​

​

​

​

​

อนุโมทนาในบุญกับทุกท่านครับ

กรุณาสังเกตุรูปชายใส่เสื้อสีน้ำเงินดูสิ

อมยิ้มแล้วก็ยิ้มอีก ยินดีในบุญกุศลครับ
​

 

น้าก็ชมเกินไป ก็ทำตามคำสอนพระพุทธองค์

หมั่น ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องใส

ส่วนรายละเอียด ต้องให้ อ.บาส แนะนำนะครับ ตามจริต

ถ้าไม่ได้ อ.บาส ผมคงหลงไปไกลแล้ว :z6

 

ไม่ได้พบตั้งนาน ยังหล่อเหมือนเดิมนะครับ อ.บาส ^^

 

แหม่ใครจะหล่อเหมือนคุณละคุณจุ๊ย...555

 

แหม่..พี่บาส
เรียกซะห่างเหินเลยยยยนะคราบบบ

 

ยินดีในบุญกับอาจารย์ บาส และทุกๆท่านครับ
สาธุ สาธุ สาธุ

 

ยินดีในบุญ กับอ.บาสและคณะค่ะ

 

ยินดีในบุญทุกท่านค่ะ มารออ่านต่อค่ะ

ตอนเช้าตรู่นอนไม่หลับ ดื้อไม่ลุกมานั่งสมาธิซะอีก นอนดึกเลยเสียดายเวลานอน เหอๆ
เปลี่ยนท่านอนก็แล้ว นอนห้อยหัวก็แล้วก็ยังไม่หลับ เลยนอนสมาธิเลยนี่แหละ
จริงๆก็มีเรื่องผ่านเข้ามาในสมอง ทำไม่ได้เหมือนนั่งเลย เลยบอกว่าทำใจให้สบายๆ
แป๊บเดียว อาการแข็งจากหัวมาไหล่ แล้วก็วูบ รู้สึกโดนกระชากอย่างแรง เร็วอย่างกะยานอวกาศ(ไม่เคยไปหรอก อิอิ)
ไปอยู่เวิ้งฟ้าไหนก็ไม่รู้ อ้างว้าง เป็นแต่จุดๆรูปกลมๆ ไม่รู้จะทำอะไร เลยทำเฉยๆ สุดท้ายก็ได้หลับสมใจ
แหะๆ นอนสมาธิก็ไม่ดีงี้แหละ หลับไปเลย

 

ขณะนี้บูทใกล้จะครบกำหนดเวลาสัญญาแล้วคะ
อาจจะต้องปิดตัวลง เนื่องจากภาระหน้าที่การงานหลายอย่าง
ถ้ามีการทำบุญหรืออยากเจอกัน
ก็นัดเจอกันได้จ้า

 

อันนี้ก็คงสมควรแก่เวลาจริงๆ แต่ก็นั่นแหละครับจริงๆระยะหลังผมก็ใช้วิธีนัดมาทำบุญแล้วก็ถือเป็นการสังสรรค์กันไป

 

พอดีมีโอกาสได้ไป จ.กระบี่ มีเรื่องมาเล่าให้ฟังจ๊ะ

ไม่เคยไป จ. นี้มาก่อน กลัวที่พักไม่ดีมั่ง กลัวคนใต้ว่าจะดุ กลัวได้ที่พักไม่ดี
ก่อนไปก็อธิษฐานไว้ว่าขอให้เป็นทริปที่ดี
พอไปถึงก็ไปเที่ยวถ้ำพระนาง เห็นแต่ในรูป พอไปที่จริง รู้สึกอึดอัด แน่น จุ๊กอก ไอเหมือนมีลมดัน
เป็นเหมือนกันกับพี่หนุ่ม ต่างมองหน้ากันแล้วบอกไปเหอะ
พออีกวันจะไปเกาะพีพี ก็ไม่ได้ไปซะงั้นเลยเปลี่ยนไปวัดถ้ำเสือของหลวงพ่อจำเนียร
พี่หนุ่มบอกว่า จะให้ทำบุญก่อนแน่เลย พอถึงวัด เสือใครก็ว่าน่ากลัว
แต่เสือที่นี่หน้ายิ้ม ต้อนรับ และทำบุญสร้างระฆังของทางวัดไป

คืนนั้น ก็จำได้แค่ว่าฝัน จับใจความได้ว่า มีพระองค์นึงให้กระดาษและพระเล็กๆองค์นึง
ในกระดาษเป็นคาถาป้องกันภัย 10ทิศ ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก
ตื่นมาก็ออกเดินทางไปเกาะพีพี ไกด์เลยไปเกาะพีพีเลก่อน ระหว่างการเดินทาง
ก็รู้สึกแน่นๆขึ้นมาเลยคิดถึงคาถาที่ฝัน ท่องไปก็โล่งขึ้นมาหน่อยนึง
อาการตอนนั้น ทั้งสองคนรู้สึกเพลีย ทั้งๆที่ยังไม่ได้ทำไรมาก
พี่หนุ่มก็เกิดหายใจไม่ออก กิ๊กก็แน่น พอถึงเกาะพีพีดอนซึ่งเป็นเกาะใหญ่
นักท่องเที่ยวเยอะ แทนที่จะสนุก น้ำก็ใส กลับกลายเป็นรู้สึกไม่ชอบเกาะนี้เลย

ปกติถ้าเที่ยวแบบนี้จะมีแรง คราวนี้เพลียกันทั้งสองคน หมดแรงไปเลย
แต่พอกลับขึ้นฝั่ง ได้อาบน้ำ ผิดกันคนละเรื่อง ไม่เพลีย หายใจโล่ง
ต่างคนมองหน้ากันเกมือนรู้กันว่าเกิดอะไรขึ้น

จบการรายงานเพียงเท่านี้จ๊ะ