การปฏิบัติสมาธิเพื่อสุขภาพกายและจิตให้เหนือธรรมดาตามในทางพุทธศาสนา

ขอบคุณในคำตอบ
สิ่งที่เล่าให้ฟัง เพราะเป็นแนวที่สำนักนี้เขาสอน
เขาทำสมถะ สามวันแรก เริ่มวันที่สี่ เขาจึงเริ่ม วิปัสสนา คือความรู้สึก

ผมไม่ชอบอยู่แล้ว กับการเพ่งที่ ริมฝีปาก เพราะผมก็คิดว่าเป็นกสิน
และไม่ใช่จริตของผม
แต่สิ่งที่ผมทำ ก็คือจับความรู้สึกที่ขอบกายทั้งต้ว
ลมหายใจก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ
คือทำทั้งสองแบบ
หายใจเข้า จับความรู้สึกที่ขอบกายทั้งตัว
หายใจออก จับความรู้สึกที่ขอบกายทั้งตัว
หรือ จับความรู้สึกที่ขอบกายอย่างเดียว
ลมหายใจก็รับรู้ แต่ไม่ตามลม

ซึ่งไม่ผิดหลักคำสอนที่สำนักนี้ที่เน้น ให้ทำให้ได้
ก็คือ ความรู้ตั้วทั่วพร้อม หรือ สรรพกายะ
ทำความรู้สึกให้ได้ทั้งตัว
ขอบคุณมากสำหรับคำชี้แนะ
เพื่อความก้าวหน้าในธรรม และแนวทางที่ถูกต้อง
ขอบคุณมากๆ

 

จริงๆไม่ค่อยอยากก้าวล่วงวิธีการของใคร เพราะไม่ใช่กิจของเราแต่เห็นแล้วอดไม่ได้ 555
แปลเนอะคนเหล่านี้อ้างตัวเป็นพุทธะ แต่ไมไม่เคยศึกษาในสิ่งที่ โคตมะได้สอนได้สั่งเอาไว้เลย
กลับกัน กลับเชิดชูคนที่เอาคำสอนมาดัดแปลง เนื้อแท้อันประเสริฐ ความรู้แจ้งที่ต้องใช้การบำเพ็ญ
นับอสงไขย กลับถูกศิทษ์รุ่นถัดมามองไม่เห็นเข้าไม่ถึง พวกท่านเกิดมาทันใพพุทธภูมิ มีแต่เหล่าเทพเทวดาอิจฉา ยังไม่รู้ซึ้งของสิ่งที่มี ชั่งหน้าเสียดาย

 

โอ...คึกคักดีจัง
นักเรียนซ้ำชั้นรายงานตัวจ้า
ไม่ได้ทำการบ้าน ตัดปลิโพธิยังไม่ได้ กังวลหลายเรื่อง เลยยังไม่ไปไหนเลยค่ะ...
ตัวเล็กเพิ่งสอบโอเน็ท คงได้เริ่มนั่งใหม่(ทัังคู่)
ดีใจนะคะมีคนมาช่วยตอบทั้งพี่พลังไฟ คุณNarasimha
-----------
ขำเหมือนกับเต่า3แหละ หุๆ
----------------------
ยินดีในบุญกับน้องnOOm&moondanceจ้า

 

เป็นคำตอบที่สะเทือนใจทีเดียว
พวกเราเอง บางทีก็เหมือน ฝูงโค ที่มองหาหัวหน้า โคเป็นผู้นำทาง
เราเองก็ไม่รู้หรอกว่า หัวหน้าโค จะนำพาเราไปทางใหน
พาไปสู่ ทุ่งหญ้า อันเขียวขจี อันสมบูรณ์ คือแดนพระนิพพาน ก็ดีไป
หรือพา ไปวน อยู่ในป่า จนหาทางออกไม่ได้
หรือ ซ้ำร้าย พาเราไป เจอดงเสือ ก็เป็นอาหารเป็นเหยืออันโอชะของเสือไป

บางทีภูมิธรรม บารมีไม่มากพอ เราเองก็เลือกสรรไม่ได้
โคทุกตัว ก็คิดว่าเลือกดีแล้ว ถึงได้เดินตาม

เป็นพระคุณอย่างยิ่งเสียมากกว่า ถ้าท่านรู้ว่า
อะไรเป็นสิ่งที่ ท่านโคตมะ ท่านอบรม สั่งสอนจริงๆ
และลูกศิษย์รุ่นหลังนำมาดัดแปลงเป็นคำสอนของตัวเอง
และนำมาเปิดเผย ยิ่งเป็นประโยชน์
เป็นมหากุศล แก่ผู้ไฝ่หา ในทางธรรม

 

อยากจะขอคำแนะนำบ้าง...
ว่าย...วนไปวนมาในอ่าง...นานแล้วค่ะ

 

เข้ามาขอคำแนะนำด้วยเหมือนกันค่ะ ยินดีด้วยนะคะที่มีผู้รู้เข้ามาแนะนำ และตอบคำถามกับเพื่อนสมาชิกให้กระทู้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

 

ถ้ายึดอดีตก็ไม่ก้าวหน้าถ้าอยากก้าวหน้าก็ต้องลืมอดีต
ถ้ายังอ้างอดีตก็ไม่พ้นที่เดิมอย่างนี้จะก้าวหน้าได้อย่างไร
ดูปัจจุบันจะรู้ข้างหน้า ดูแต่อดีตก็จะเดินก้าวได้อย่างไร

 

เมื่อมีคนมาแนะนำ ก็อยากขอคำแนะนำเพิ่มค่ะ (ด้วยความขอบคุณจริงๆ)

พักนี้ มีความขี้เกียจหนัก นั่งไม่ได้ นั่งไม่เป็น ยิ่งฝืน ก็ยิ่งดิ้น เลยแก้ด้วยการนอน :d บางครั้งนั่งไปแบบ ไม่มีสติ ไม่รู้ตัว จนทำให้เบื่อหน่าย ไม่รู้จะแก้อย่างไร

คิดว่า ไม่ก้าวหน้า ไม่ถึงไหน ไม่ได้ไรเลย พาลเบื่อ เหมือนเจอทางตัน แต่ก็ทำๆ ไปงั้น ช่วยชี้แนะด้วยค่ะ ควรทำอย่างไรถึงจะแก้ได้

 

ชินกับความเบื่อหน่าย อดทนกับความลำบาก แค่ทำให้ชินและอดทนกับตัวเอง ถ้าทำกับตัวเองถ้าทนกับตัวเองไม่ได้ก็ไม่ต้องหวังจากคนอื่นแล้ว บ้านตัวไม่สะอาดอย่าไปหวังว่าจะสะอาดที่อื่น

 

ขอบคุณค่ะ
ไม้เรียวสักหน่อย คงพอช่วยได้ สักที สองที ให้หายขาดจากสิ่งไม่ดีทั้งหลาย

 

ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก ยิ่งข้ออ้างเยอะด้วย ก็ต้องทำใจ

 

ผมเองครับ

 

นั่งสมาธิขนาดไหน นั่งเก็บชั่วโมงภายในอาทิตย์นี้ให้ได้มากกว่า 50 ชม แล้วค่อยมาคุยกัน

 

เพิ่งทราบค่ะว่าตัวเองเป็นแบบนั้นจริง ๆ
(การที่นั่งสมาธิโดยกำหนดเอาจิตมาเพ่งที่เหนือริมฝีปาก
ก็ถือเป็นกสินไม่ใช่อานาปนสติแล้ว)
ปกติแล้วไม่ได้นั่งเป็นจริงเป็นจังเลยค่ะ
และเพิ่งเริ่มต้น (ที่จริงก็เริ่มมานานแล้วก็ยังไม่ได้พัฒนา)
นั่งไม่ถูกหลัก น่าจะเป็นที่ตัวเองไม่เข้าใจการนั่งสมาธิจริง ๆ
ยังไงรบกวนช่วยอธิบายอานาปานสติแบบละเอียดให้อีกหน่อยนะคะ

ขอบคุณทุกความรู้ที่โพสถาม-ตอบกันด้วยนะคะ
(ดีใจจัง กระทู้คึกคักมาก ๆ)

 

ใครก็ได้ช่วยตามน้องเต่ามาอ่านทีครับ สมัยก่อนเห็นใช้ชื่อ เต่าติดเทอร์โบ พอเปลี่ยนชื่อหน่อย พฤติกรรมต่างๆ

เลยเปลี่ยนไป พี่อยากให้ทำใจ รักอาจารย์บาสในข้อที่1 ให้ได้ก็พอครับ รักมากๆหน่อย นอกนั้นอยากจะทำไรก็เชิญ

ไม่กล้ามีใครว่าครับ เชื่อพี่เถอะ น้อง


อิทธิบาทแปลว่า บาทฐานแห่งความสำเร็จ หมายถึง สิ่งซึ่งมีคุณธรรม เครื่องให้ลุถึงความสำเร็จตามที่ตนประสงค์
ผู้หวังความสำเร็จในสิ่งใด ต้องทำตนให้สมบูรณ์ ด้วยสิ่งที่เรียกว่า อิทธิบาท ซึ่งจำแนกไว้เป็น ๔ คือ

๑. ฉันทะ ความพอใจรักใคร่ในสิ่งนั้น
๒. วิริยะ ความพากเพียรในสิ่งนั้น
๓. จิตตะ ความเอาใจใส่ฝักใฝ่ในสิ่งนั้น
๔. วิมังสา ความหมั่นสอดส่องในเหตุผลของสิ่งนั้น

ธรรม ๔ อย่างนี้ ย่อมเนื่องกัน แต่ละอย่างๆ มีหน้าที่เฉพาะของตน

ฉันทะ คือความพอใจ ในฐานะเป็นสิ่งที่ ตนถือว่า ดีที่สุด ที่มนุษย์เรา ควรจะได้ ข้อนี้ เป็นกำลังใจ อันแรก
ที่ทำให้เกิด คุณธรรม ข้อต่อไป ทุกข้อ

วิริยะ คือความพากเพียร หมายถึง การการะทำที่ติดต่อ ไม่ขาดตอน เป็นระยะยาว จนประสบ ความสำเร็จ
คำนี้ มีความหมายของ ความกล้าหาญ เจืออยู่ด้วย ส่วนหนึ่ง

จิตตะ หมายถึงความไม่ทอดทิ้ง สิ่งนั้น ไปจากความรู้สึก ของตัว ทำสิ่งซึ่งเป็น วัตถุประสงค์ นั้นให้เด่นชัด
อยู่ในใจเสมอ คำนี้ รวมความหมาย ของคำว่า สมาธิ อยู่ด้วยอย่างเต็มที่

วิมังสา หมายถึงความสอดส่องใน เหตุและผล แห่งความสำเร็จ เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ ให้ลึกซึ้งยิ่งๆ ขึ้นไป
ตลอดเวลา คำนี้ รวมความหมาย ของคำว่า ปัญญา ไว้อย่างเต็มที่

 

ขอบคุณทุกคน ทั้ง ครูบาอาจารย์ ผู้ใหญ่/กำนัน ศิษย์พี่ ศิษย์น้อง ทั้งหลายจ้า

เมื่อคืน นั่งแล้วรู้สึก วูบวาบตรงบริเวณหน้าผากเหมือน โดน ยาสระผมสูตรเย็นซ่า ประมาณนั้น นอกนั้นไม่มีอะไร พยายามเอาชนะความขี้เกียจอยู่ค่ะ

 

เห็นด้วยครับ รอผู้มาชี้จุดเน้นๆให้อีกที
เพราะผมยังโง่มากนัก
แต่จะพยายามปีนออกมาจากโคลนต่ม
ให้ได้มากที่สุด

 

พุทธวจน : วัดนาป่าพง ลองกดเข้าไปดู

 

ไง... ยังพบว่า เป็น มนุษย์เอพ Ape สมบูรณ์แบบหรือเปล่า ? ...

Planet of the Ape

ยินดีต้อนรับ

 

ขอบคุณค่ะ........................