ผีมีจริง...ตอนสร้างเมรุเผาศพเสร็จเพราะมีเว็บพลังจิตใช้งบเกือบล้าน(ป่าช้าโบราณ)

อนุโมทนาสาธุ โยมเอื้อยจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ได้โทรศัพท์ข้ามทวีปมาร่วมบุญซื้อที่ดินถวายวัด
(จำนวนเงินจะเเจ้งให้ทราบอีกครั้ง) กำลังบอกบุญเพื่อนๆญาติพี่น้องลาว-ไทย
ร่วมบุญในครั้งนี้ ขอเชิญร่วมบุญซื้อที่ดินเพื่อถวายวัดยังขาดเจ้าภาพอีก20ไร่
ไร่ละ25,000บาท ทางวัดออกใบอนุโมทนาบัตรให้ด้วย
พระจรวัฒน์ ญาณวโร
โทร0860152130<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

...อนุโมทนาสาธุครับ ท่านพระอาจารย์
...เห็นด้วยกับไม้มงคล ๙ ชนิดควรมีอยู่ในบริเวณ วัดป่าคัมภีโร แห่งนี้
...ส่วนต้นพระศรีมหาโพธิ์ถ้าได้ ๙๙ หรือ ๑๐๘ ต้นก็สุดยอดแล้วครับ
...ล้อมรอบบริเวณวัดไปเลยครับ ๑ คน หรือ ๑ ครอบครัวช่วยกันปลูกไว้อย่างน้อย ๑ ต้น
...ได้ความรู้สึกดีกว่าโบสถ์วิหารที่ราคาเป็น ๑๐๐ ล้านเสียอีก
...แล้วก็คอยหมั่นดูแลความเจริญเติบโตควบคู่กับวัดป่าคัมภีโรไปตลอดกาลเวลาเลยครับ
(ต้นศรีมหาโพธิ์ไม่มีใครกล้าตัดอยู่แล้วเท่ากับรักษาป่าให้ยั่งยืนเป็น ๑๐๐๐ ปีไปเลยครับ)
****เสี่ยสงวนเคยทำไม้ น่าจะหาง่ายจากประเทศลาวมั๊งครับ

 

พูดถึงเรื่องพลังจิตนะคะ...ขอถามหน่อยค่ะ
คือปกติจะต้องอาศัยรถตู้ไปทำงานตอนเช้าน่ะค่ะ
บางวันถ้าต้องการรถที่นั่งสบายหน่อย...
จะใช้ิวิธีนึกภาพถึงรถคันที่เรานั่งแล้วสบาย..
แล้วรถคันนั้นก็มาตามที่เรานึกไว้จริงๆ...
(จะใช้วิธีนี้ได้เฉพาะเวลาที่เราจิตนิ่ง และเชื่อในแว๊บแรกที่รู้สึก)

สงสัยคือ..รถคันนั้นจะมาอยู่แ้ล้ว..ก็เลยทำให้เรานึกถึง
หรือว่า...เป็นเพราะเรานึกถึงรถคันนั้น...รถคันนั้นจึงมา

ขอบพระคุณค่ะ

 

...ถ้าเป็นผมอย่าไปไม่สงสัยดีกว่าครับ คุณ 678wish แต่เชื่อว่า จิต ก็เป็นของเขาเช่นนี้เอง
...หรือบางครั้งไม่เป็นอย่างที่นึก ก็สักแต่ว่า...มันก็เป็นเช่นนั้นเองอีกเช่นกัน
...เพราะจริงๆ ไม่เคยมีอะไรเที่ยงแท้แน่นอนถูกต้องชัดเจนทุกครั้งเสมอไป
...แต่เพียงให้รู้ว่า ความอัศจรรย์ของพลังจิตมีอยู่ในตัวเราทุกๆคนครับ
...พระพุทธเจ้าถึงตรัสไว้ทุกสิ่ง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปไม่เที่ยงแท้แน่นอนอยู่แล้ว
...แต่ความตายนี่เที่ยงแท้แน่นอน ทุกคนต้องตายแน่ๆ
...นำจิตไปพิจารณาตรงนี้บ่อยๆ เพราะหลังความตาย จิตต้องพร้อมไว้เสมอครับ

 

อนุโมทนาสาธุ ก่อนอื่นต้องขออนุโมทนาสาธุในบุญกุศลที่คุณโยม มีส่วนร่วมเข้ามาเขียนเเละเข้ามาอ่านถือว่ามี่ส่วนในพลังบุญด้วยกัน เรื่องพลังจิตนั้นอาตมาคงไม่สามารถตอบได้ ทันที่ว่าไช่หรือไม่..ในทันที่หากคุณโยมสนใจเรื่องพลังจิต
สมาธิ อานุภาพของพลังจิต อาตมาอยากขอเชิญมาร่วมศึกษาเเละเข้าเรียน ที่วัดธรรมมงคล จะได้คำตอบที่คุณโยมสงสัย...เรื่องจิตนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เเม้เเต่จิตก็มีทั้งหมดตั้งหลายดวง เรื่องจิต เจตะสิกนั้น จะมีอ่านเเละศึกษาในพระอภิธรรม วัดมหาธาตุมีสอนทุกวันอาทิตย์คุณโยม..

 

หลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)

​

ผู้ถาม:- จิตตั้ง ๑๒๗ ดวง ๘๒ ดวง”
หลวงพ่อ:- “ใช่…ฉันก็เคยเล่นมาก่อนเหมือนกัน”
ผู้ถาม:- “หลวงพ่อน่ะหรือครับ”
หลวงพ่อ:- “อ้าว…ถ้าไม่โง่เสียก่อนจะรู้เรื่องได้ยังไง”
ผู้ถาม:- “นึกว่าแจ่มแจ๋ว…ตั้งแต่เล็กจนโต”
หลวงพ่อ:- “แจ๋วมาก! ตอนนั้นแจ๋วมากจำได้ทุกดวง… (หัวเราะ) แต่ว่าพอไปเทศน์เข้าจริง ๆ เหลือ ดวงเดียว”
ผู้ถาม:- “ตอนนี้พระที่เทศน์ด้วยกัน ไม่ค้านหูดับตับไหม้เลยหรือครับ ?”
หลวงพ่อ:- “ใครจะค้านใคร เขาก็ค้านแค่ ๓ ธรรมาสน์นี่น่ะ ทีแรก ๒ องค์ก็ล่อจิตกี่ดวง ตอบ ๘๐ ดวงบ้าง ๑๒๐ ดวงบ้างน่ะ ล่อกันอีรุงตุงนัง ฉันก็ล่อกินหมาก บุหรี่ไม่สูบ เป่ายานัตถุ์บ้าง อะไรใช่ไหม.. นั่งหลับตาเสียบ้าง เดี๋ยวเขาหันมาว่า ไงธรรมาสน์โน้น ถามอะไร แกเทศน์อะไรกันนี่ ถามทำไม บอกข้ากินหมากบ้าง เป่ายานัตถุ์บ้าง…เพลินไป
เขาถามว่า จิตมีกี่ดวง บอก เอ๊ะ! ของข้ามันมีดวงเดียวนี่นะ พ่อให้มาดวงเดียว เขาบอกผิดตำรา ถามตำราของแกมีกี่ดวง เขาบอกอย่างย่อมัน ๘๐ อย่างพิสดารมี ๑๒๐ กว่าใช่ไหม…ถามมันติดตรงไหนบ้างล่ะ ติดตั้งแต่ฝ่าส้นตีนขึ้นไปถึงหัวแกใช่ไหม ยังไม่หมดเลย…” (หัวเราะ)
“พระพุทธเจ้าตรัสว่า “เอกะจะรัง จิตตัง…จิตดวงเดียวเที่ยวไป” ไอ้ที่บอกเป็นหลายดวง คืออารมณ์เข้ามาสิงจิตอยู่ใช่ไหม.. อย่างจิตมีความโกรธ จิตมีความโลภ จิตมีความหลง ใช่ไหม.. จิตมีความรัก อารมณ์ของจิตก็ต่างกันไป นั่นมันเป็นอารมณ์ไม่ใช่ดวงจิต ดวงจิตจริงมันดวงเดียว”
ผู้ถาม:- “ไอ้ที่มาเกิดก็มาดวงเดียว ตายแล้วก็ไปดวงเดียว”
หลวงพ่อ:- “ใช่…ไอ้พวกนั้นมันหลายดวง มันต้องเกิดหลายอย่าง เกิดเป็นคนบ้าง เกิดเป็นหมาบ้าง เกิดเป็นนกบ้าง อะไรบ้าง ความจริงพระฎีกาจารย์น่ะ ท่านอธิบายไว้เพื่อความเข้าใจง่าย ทีนี้ไอ้คนเบื้องหลังไม่เข้าใจตามท่าน
ความจริงจิตน่ะ มันดวงเดียว เหมือนน้ำใส ๆ ใส่แก้วใช่ไหม.. ถ้าสีแดงใส่เข้าไป ไอ้น้ำนั่นน่ะออกเป็นสีแดง ถ้าสีเขียวใส่ไปน้ำก็เป็นสีเขียว ไอ้นั่นน้ำเปลี่ยนสีไปเพราะใส่สีเข้าไป จริง ๆ แล้ว น้ำมันใส แก้วมันใส
และที่เราทำเวลานี้ เราทำเพื่อให้จิตใสตามเดิม ถ้าจิตใสตามเดิมก็ไปนิพพานได้ เมื่อก่อนนี้มันใสเหมือนกัน แต่มันใสไม่มีประกายพรึก จึงต้องเวียนว่ายตายเกิดใช่ไหม…กระทั่งใสด้วยเป็นประกายพรึกด้วย อย่างดวงจิตคนนี่นะ อะไร….เจโตปริยญาณ ญาณตัวนี้ดูง่าย คนกี่พันคนก็ตามดู แป๊บเดียวจะรู้ทันที”
ผู้ถาม:- “แค่เห็นแป๊บเดียวหรือครับ”
หลวงพ่อ:- “เป็นหมื่นนะ นึกอยากจะรู้ รู้ใครจิตสีอะไร จิตจริง ๆ เขานับเป็น ๖ สี แต่ย่อแล้วเป็น ๓ สี สีแดงเข้มหรือสีแดงอ่อน ได้ทั้งสองใช่ไหม…สีดำ ดำปี๋หรือดำอ่อน ๆ มัว ๆ…สีขาวจัด หรือขาวมัว ๆ มันไม่เหมือนกัน เอาแค่นี้แค่ ๓ สีพอ
ถ้าสีแดงเป็นจิตที่มีอารมณ์แจ่มใส ดีใจเพราะได้ของที่ชอบใจน่ะ ถ้าจิตสีดำมีทุกข์ จิตสีขาวจิตสบาย ถ้าจิตสีใสเป็นจิตของฌาน ๔ ถ้าจิตเป็นประกายพรึกเป็นจิตของพระอรหันต์”
ผู้ถาม:- “ทีนี้เลยถามต่อไปเลยว่า ถ้าเป็นพระโสดาบัน อทิสสมานกายแต่งตัวยังไง โสดา สกิทา อนาคา อรหันต์ แตกต่างกันไหมครับ”
หลวงพ่อ:- “แตกต่างกัน…ไม่ต้องพระโสดาหรอก แค่คนที่จะตายเป็นเทวดานี่ ข้างในมันเป็นเทวดาก่อน ไม่ต้องดูเฉพาะจิตนะ ดูเฉพาะตัวข้างในนี่ เรียก “อทิสสมานกาย” นะ มันจะบอกเลย รูปร่างลักษณะเป็นอย่างนั้น อย่างจะเป็นสัตว์นรก ก็เห็นเลยเป็นสัตว์นรก มีสภาพอะไรบ้างรู้เลย…เรื่องเล็ก ๆ”
ผู้ถาม:- “อ๋อ…นี่ไม่ใช่ใหญ่เลยหรือครับนี่”
หลวงพ่อ:- “เล็ก…มันเล็กมากหยิบไม่ค่อยถูก หยิบไม่ติดมือ…” (หัวเราะ)
ผู้ถาม:- “อย่างนี้ถ้าหากว่าได้เจโตปริยญาณนี่ มองคนปุ๊บ! จะรู้ทันทีเลยหรือครับ”
หลวงพ่อ:- “คือว่าความจริงไม่ต้องมองคนหรอก แค่รู้ชื่อต้องการจะรู้เท่านั้นใช้ได้”
ผู้ถาม:- “ไม่เคยเห็นหน้าเลยหรือครับ”
หลวงพ่อ:- “ไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้จักกัน ไม่จำเป็น!”
ผู้ถาม:- “แล้วมีอีกอย่างหนึ่งครับ เกี่ยวกับการสอนเรื่องนรกสวรรค์นี่…”
หลวงพ่อ:- “ความจริงในพระไตรปิฎกท่านก็ยืนยัน เรื่องนรกสวรรค์นี่มีจริง เรื่องนรกยืนยันตั้งแต่เล่ม ๑”
ผู้ถาม:- “ที่เป็นมหาเปรียญได้ ก็ต้องผ่านแปลมาก่อน ก็ต้อง…”
หลวงพ่อ:- “ไอ้นั่นแปลผ่านมาแล้วทั้งนั้น กลับมาเป็นมิจฉาทิฏฐิร้ายกาจมาก ก็เป็นเรื่องแปลก เรียนผ่านแล้ว แล้วเวลาไปเทศน์โปรดเขา แต่ว่าตัวเองไม่ทำ ไอ้นั่นยังดีกว่าไปคัดค้านพระไตรปิฎก…นี่หนักมาก”
ผู้ถาม:- “และโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บอกว่าไม่ดี แล้วยังสอนคนไม่ให้เชื่อ ทำลายล้างพระพุทธศาสนา”
หลวงพ่อ:- “ไอ้ที่พูดแบบนั้นเห็นแก่แบ็งค์อย่างเดียว เห็นแค่ค่าจ้าง”
ผู้ถาม:- “ต้องมีอะไรอยู่นะครับ”
หลวงพ่อ:- “ใช่ ๆ ๆ”
ผู้ถาม:- “ผมนึกว่าพวกมิจฉาทิฏฐินี่ ท่านปู่พระยายมน่าจะส่งลูกน้อง เอากระบอกเล็ก ๆ มาอบรมสั่งสอนสัก…โป๊ก ๆ ๆ จะได้รู้เสียที”
หลวงพ่อ:- “ไม่เป็นไรหรอก ท่านมีเตาอุ่นให้แล้ว ไปอยู่นาน ๆ”
ผู้ถาม:- “ผมมานึกถึง เอ๊ะ! ทำไมเด็ก ๕-๙ ขวบไปกันคล่อง เที่ยวสนุกสนานเพลิดเพลิน ที่วัดอะไรที่ฝั่งธนบุรี เป็นมหา…ประโยคนี่ ไม่เชื่อและก็ปฏิเสธ พอสุดท้ายก็เจอเด็กดีวัดท่าซุง ลูกศิษย์วัดท่าซุง อายุประมาณ ๙ ขวบ เด็กได้มโนมยิทธิ ก็มีข้อแม้กันนะครับ ถ้าเด็กตอบได้ตอบถูกต้องตามความเป็นจริง พระตั้งแต่นี้เป็นต้นไปต้องเจริญกรรมฐานทุกวัน เขาต่อรองกันยังงั้นเลยนะครับ
พระก็ถามว่า ไอ้หนู! ไอ้ที่ว่านรก สวรรค์ พรหม มีจริงไหม มีจริงมีอะไรเป็นข้อพิสูจน์ เด็กก็บอกว่า เอายังงี้ซิครับ…หลวงอา ดื่มน้ำร้อนไม่ต้องเป่า ซดโป้งไปมันร้อนหรือเย็น มหานั่นบอกก็ร้อนซิ
เด็กก็บอกว่า นรกนั่นมันร้อนกว่านั่นหลายแสนเท่า ไม่เชื่อหลวงอาไปเปิดพระไตรปิฎก ก็ไปเลย เปิด เออ…จริงว่ะ! เอ็งพูดถูกว่ะ เอาได้ข้อละ พอถามสวรรค์ แหม…พอพูดสวรรค์ เด็กปรื้ดเลย…พูดคล่อง
ทีนี้มหาทำท่าจะกราบเด็ก เด็กก็บอกว่า มหากราบพระพุทธรูปแทนก็แล้วกัน เดี๋ยวนี้มันกลับตาลปัตรกันแล้ว ก็ยังโชคดีสำนึกได้แล้วก็กลับตัวใหม่”
หลวงพ่อ:- “ความจริงก็ต้องว่าเลวมาก เรียนตั้ง ๗ ประโยค แต่เสือกคัดค้านพระไตรปิฎก”
​

<CENTER>※ หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๙
พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)</CENTER>

 

ขอบคุณค่ะ...ก็เป็นอย่างน้าพีว่าค่ะ
ความตายก็นึกถึงบ้างค่ะ...แต่เค้ายังแก่ไม่เท่าน้าพีนี่...ยังอยากได้โน่นนี่อยู่
ถ้านึกเอาแล้วได้...อยากได้อะไรก็จะได้นึกไง(ฮ่าๆ)
แซวเล่นค่ะ...

ต้องขอบคุณกับคำที่ตอบจริงๆ ค่ะ

 

ขอบพระคุณค่ะ...คงมีโอกาสได้ไปในสักวันนะคะ
ตอนนี้คิดอยู่ว่าถ้าตัวเองมีเงินช่วยทำบุญซื้อที่ดินด้วยคงจะชื่นบาน

จะอย่างไรก็ต้องร่วมอนุโมทนาในบุญกุศลต่างๆ ค่ะ
แค่เห็นผ่านบอร์ดก็ชื่นใจด้วยแ้ล้ว

 

...แต่ก่อน น้าพี ก็คิดแบบ คุณ 678wish เช่นนี้แหละ
...เพียงแต่โชคดีที่ชีวิตดำเนินมาจนแก่ ถือว่ายังมีบุญอยู่
...แต่พอศึกษาธรรมะ คำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างที่เข้าใจและใช้ปัญญา
...ความตาย ไม่ได้ขึ้นกับ เด็ก หนุ่ม สาว แก่ หรือวัยชราเลย
...ทุกชีวิตตายได้ตลอดเวลาเป็นไปตามกรรม
...แต่ถ้าเรารู้ว่าความตายไม่ได้ตายจริงนะ จิตยังต้องไปเกิดตามบุญตามกรรมที่ทำมา
...อาจไปเป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นเปรต เป็นอสูรกาย เป็นสัมพะเวสีล่องลอยไม่มีญาติ ไปตกนรก
...หรืออย่างดีกลับมาเป็นมนุษย์อีก อาจจะจน จะรวย จะพิการ จะไม่สมประกอบ สารพัดที่เราเห็นๆในสังคม
...หรือดีหน่อยขึ้นไปเป็น เทวดา พรหม ตามชั้นภูมิต่างๆก็ถือว่าวิเศษ
...แต่ที่สุดก็ต้อง เวียน ว่าย ตาย เกิด อีกเช่นเดิมเสี่ยงมั๊ยล่ะ???ตายไปแล้วเราจะเกิดเป็นอะไร
...นั่นแหละจ้า สำคัญสุดๆเลย มันไม่เกี่ยวกับวัยหรอกจ้า คุณ 678wish
...ถึงจะอายุน้อย อายุมาก สิ่งที่เท่าเทียมกันคือความตายจ้า
...อุบัติเหตุ โรคภัยสารพัด ภัยพิบัติ สงครามฯลฯ สารพัดรูปแบบความตายที่เราไม่สามารถรู้ได้ไงว่าจะมาถึงตัวเราเมื่อไร
...พระพุทธองค์ถึงให้นึกถึงความตายกันไว้เพราะชีวิตหลังความตายน่ากลัวกว่าเยอะจ้า

 

อนุโมทนากับทุกท่าน
ดิฉันห่างหายไปนาน ก็แวะเข้ามาอ่านแต่ไม่ได้โพสข้อความ
พอมาเห็นก็มีคนสนใจในกระทู้นี้มากเช่นกัน รวมทั้งข้อคิด
คติธรรม เรื่องราวต่างๆ ที่ได้อ่านขอบคุณมากนะค่ะ ที่นำมาลง
มันเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจเป็นอย่างมาก
ดิฉันมีความรู้สึกดีใจและอบอุ่นใจกับคอมเม้นที่ได้อ่านจริงๆ
ดิฉันมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับเด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ให้ฟังกัน
เด็กคนนี้ชื่อน้องกัปตัน เป็นเด็กที่น่ารักน่าชัง แต่เสียอย่างเดียว
ขี้งอแง และที่สำคัญขี้โรค เดี่ยววันนี้หายพรุ่งนี้เป็นใหม่ และ
ไม่ยอมหลับยอมนอนแม้จะเป็นกลางวันหรือกลางคืน จึงทำให้เขา
ดูตัวเล็กกว่าเด็กคนอื่นๆ ที่เกิดทีหลังด้วยซ้ำ แต่เขาก็น่ารักไม่หยอก
น้องกัปตัน อายุใกล้จะ 1 ขวบแล้ว แต่จะสังเกตได้ว่าเขามีความรู้สึก
เหมือนไม่ใช่เด็กแค่ 1 ขวบ เพราะเวลาเขา เห็นพระสงฆ์ เขาจะยกมือ
ทำความเคารพหรือไหว้นั่นเอง ซึ่งมองดูแล้วช่างน่ารักและปราบปลื้มใจไม่น้อย
และอีกอย่างเวลาเขาเห็นรูปพระเจ้าแผ่นดินเขาก็จะยกมื้อไหว้ รวมถึงข่าวใน
พระราชสำนัก เขาจะตั้งใจดูและยกมือไหว้ตลอด ซึ่งสังเกตได้ตั้งแต่น้องเขาได้
อายุ ประมาณ 10-11 เดือน และที่สำคัญที่สุด เวลาแม่พาเขาสวดมนต์ไหว้พระ
เขาจะนั่งด้วยแล้วมองหน้าแม่ ไม่นานเขาก็จะยกมือขึ้นแล้วไหว้เหมือนแม่ แต่ไม่ได้
กราบหมอนเพราะเขาจะล้ม เขานะยกใส่หน้าผาก และแม่สวดมนต์เขาก็จะนั่งฟัง
แต่ก็ยังได้ไม่ได้ แต่จากการสังเกตุแล้ว เขาเป้นเด็กที่มีความเชื่อมั่นในพระพุทธศาสนาอย่างแน่นอน รวมถึงองค์พระมหากษัตริด้วย ไม่ได้สอนเขาแต่เมื่อเขาเห็น
และเห็นแม่ทำเขาก็จะทำตาม อยากบอกว่าคนที่เป็นแม่เห็นแล้วน้ำตาจะไหล ภูมิใจ
ในตัวน้องมาก ซึ่งน้องคนนี้ก็คือลุกของดิฉันเอง ไม่รู้ว่าดิฉันคิดไปเองหรือไม่แต่
ที่เห็นๆคือ ทุกคนที่เห็นเขาจะพากันยิ้มและทึ่งในตัวของน้องกัน ตอนน้องอยู่ในท้อง
ดิฉันจะอ่านหนังสือธรรมะและกฏแห่งกรรมตลอดมาจนถึงทุกวันนี้ และสวดมนต์ไหว้พระเวลานอน ซึ่งอาจจะเป็นผลให้น้องเขารับรู้และมีความรู้สึกก็ได้ ซึ่งดิฉันเชื่ออย่างนั้น เรื่องนี้อาจจะฟังดูแล้วไม่สำคัญอะไร แต่ลึกๆ ลงไป ในใจของคนเป็นแม่หรือคน
รอบข้างก็อดปลื้มในตัวของน้องไม่ได้เลย
สาธุ

 

อนุโมทนาสาธุ อ่านไปรับรู้ด้วยวาระจิต ขนลุกตามไปด้วยคล้ายๆอาตมาตอนเป็นเด็ก ไปช่วยขนดินสร้างวัดธาตุอัมพวัน (วัดบ้าน)ส่วนพระเจ้าเเผ่นดิน หรือในหลวงของพวกเรานั้น อาตมาคิดว่าท่านเป็นพ่อของเเผ่นดิน เมื่อเห็นปกิทินรูปในหลวงตกอยู่ ก็จะรีบหยิบขึ้น ไว้นะที่อันควร จะเป็นเองโดยอัติโนมัติ รู้สึกหดหู่ใจ ที่กลุ่มคนไทยกลุ่มเล็กๆ ไม่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ใส่ร้าย ป้ายศรี ทั้งๆที่เเค่ได้ยินได้ฟังมาก็เชื่อๆ โดยขาดปัญญา ไม่คิดไตร่ตรองให้รอบครอบ ว่าพ่อเหนื่อยเเค่ไหน..ที่ทำเพื่อลูกทั้งเเผ่นดิน ขอให้ลูกของคุณโยม เติบโตขึ้นเป็นเด็กดี อย่าทะเลาะกันให้ลูกเห็น อย่าพูดคำหยาบให้ลูกได้ยิน สอนเขาให้มีความเมตตาขอสัตว์ เเละเพื่อนมนุษย์ ตัวอย่างที่ดี ย่อมมีค่ากว่าคำสอน...คุณโยม

 

...อนุโมทนาสาธุครับท่านพระอาจารย์และคุณปริมนทร์29
...ในความทุกข์ของคุณก็มีความชุ่มชื่นหัวใจคอยหล่อเลี้ยงให้คุณมีกำลังใจขึ้น
...น้องกับตัน มีสภาวะความดีให้เห็นตั้งแต่เด็กแบบนี้ก็คงจะทำให้คุณแม่ปลาบปลื้มสบายใจได้
...อาจจะเป็นบุญสำหรับคุณแม่ที่จะได้เห็นชายผ้าเหลืองแบบ พระอาจารย์จิรวัฒน์ ก็เป็นได้ในอนาคต
...ยิ่งคุณแม่เชื่อเรื่อง บาป บุญ กฏแห่งกรรม สวดมนต์เป็นประจำตั้งแค่อายุยังน้อยๆแบบนี้ ย่อมเป็นสายสัมพันธ์ที่สื่อให้กันเป็นอย่างดีถึงความดีงามทางธรรม
...ผ้าขาวสะอาดแบบนี้ หากได้สัมผัสแต่สิ่งที่สะอาดอยู่ตลอดเวลาก็ไม่มีวันที่จะเปรอะเปื้อนคราบสิ่งสกปรกได้ง่ายๆ
...ก็ขอให้น้องกับตัน อยู่เคียงข้างหัวใจคุณแม่ปริมนทร์29ด้วยความดีคู่กันตลอดไปนะครับ

...มีคำสนทนาคุณแม่ชีน้อยมาให้ฟังกันต่อครับ

http://www.youtube.com/watch?v=GaznVKAREqo&feature=youtu.be

 

อนุโมทนาที่พระอาจารย์และคุณnahpee ที่แนะนำ และให้กำลังใจด้วยนะค่ะ
ดิฉันจะสอนน้องให้เป็นคนดีของครอบครัวและเป็นคนดีของสังคมต่อไป
อย่างที่พระอาจารย์ว่า ตัวอย่างที่ดีมีค่ากว่าคำสอน ถึงแม้น้องจะยังเด็กแต่น้อง
ก็รับรู้ได้ด้วยจิตใจของน้องเอง หวังว่าน้องคงจะเติมโตอย่างมีคุณภาพต่อไป
เพื่อดำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาและพระมหากษัติร์ของไทยเราต่อไป ดิฉัหวัง
ไว้เช่นนั้นจริง ในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ ดิฉันก็จะพาน้องและแฟนไปถวายสังฆทาน
เนื่องในวันเกิด พ่อเขาเกิด 16 ลูกเขาเกิด 17 เกือบเกิดพร้อมกัน ดิฉันว่าการ
ทำบุญดีกว่า การไปจักงานเลี้ยงฉลองวันเกิด เป็นไหนๆ ทำแล้วใจสบาย กายสอาด
เป็นบุญกุศล พร้อมได้แผ่ส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร และญาตมิตรสหาย หรือแม้
แต่เพื่อนร่วมโลกด้วย เช่นกัน อนุโมทนา

 

...อนุโมทนาสาธุครับ คุณปริมนทร์29
...สักวันความดีของคุณและลูกคุณจะชนะใจสามีและพ่อของลูกแน่นอน
...ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ วันเกิดผมไปกราบเท้าพ่อแม่ขอพร ขอให้ท่านอโหสิกรรมให้ในสิ่งที่เราอาจทำให้ท่านไม่สบายใจ
...ผมเลิกการเลี้ยงฉลองแบบโลกๆ เฮฮาเลี้ยงเหล้าเลี้ยงเบียร์เมาไร้สติมานานแล้ว
...เลี้ยงกันแล้วก็แล้วๆกันไม่มีอะไรเป็นแก่นสาร มาบูชาคุณบิดามารดาผู้ให้กำเนิดดีกว่า
...กว่าจะคลอดแล้วเลี้ยงเราจนโตได้นึกถึงความลำบากที่มอบความรักให้กับลูกๆทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
...ยามป่วย ยามไข้ ตี1ตี2 พ่อแม่ก็ต้องลำบากผมยังจำภาพนั้นได้เสมอ
...ฉนั้นวันเกิด คือวันตอบแทนบุญคุณพ่อแม่สำหรับผมในวันนี้ครับ

***ฟังสนทนากับแม่ชีน้อยกันต่อครับ

http://www.youtube.com/watch?v=_Gcilij9kXc&feature=youtu.be

 

ลูก ... ปวดหัวตัวร้อนนอนสะอื้น
แม่ ... ก็ตื่นขึ้นมารักษาให้
ปรนนิบัติพัดพามากกว่าใคร
ดังน้ำใสไหลลื่นชื่นชีวา

ในครอบครัวหากขาดแม่คล้ายแพแตก
ลูก เหลวแหลกเพราะขาดแม่แก้ปัญหา
สังคมดีเพราะแม่ดีมีปัญญา
แม่ ล้ำค่าเหนือกว่าใครในแผ่นดิน ..... ฯลฯ



พ่อแม่ก็แก่เฒ่า จำจากเจ้าไม่อยู่นาน
จะพบจะพ้องพาน เพียงเสี้ยววานของคืนวัน
ใจจริงไม่อยากจาก เพราะยังอยากเห็นลูกหลาน
แต่ชีพมิทนทาน ย่อมร้าวรานสลายไป
ขอเถิดถ้าสงสาร อย่ากล่าวขานให้ช้ำใจ
คนแก่ชะแรวัย คิดเผลอไผลเป็นแน่นอน
ไม่รักก็ไม่ว่า เพียงเมตตาช่วยอาทร
ให้กินและให้นอน คลายทุกข์ผ่อนพอสุขใจ
เมื่อยามเจ้าโกรธขึง ให้นึกถึงเมื่อเยาว์วัย
ร้องให้ยามป่วยไข้ ได้ใครเล่าเฝ้าปลอบโยน
เฝ้าเลี้ยงจนโตใหญ่ แม้เหนื่อยกายก็ยอมทน
หวังเพียงจะได้ผล เติบโตจนสง่างาม
ขอโทษถ้าทำผิด ขอให้คิดทุกทุกยาม
ใจแท้มีแต่ความ หวังติดตามช่วยอวยชัย
ต้นไม้ที่ใกล้ฝัง มี หรือหวังอยู่ทนได้
วันหนึ่งคงล้มไป ทิ้งฝั่งไว้ให้วังเวง...

 

คุณโยมผู้ใจบุญทั้งหลาย ภาพนี้ อาตมาทั้งใจจะขยายเพื่อเก็บไว้ ใส่กรอบไว้ที่วัดป่าบ้านหนองผักเเว่น ให้ลูกหลาน ในภายภาคหน้า จะได้เห็นเเละร่วม
อนุโมทนาสาธุ ในภาพคุณโยม nahpee กำลังถวายปัจจัยเเด่หลวงปู่ดี คัมภีโร เเละหลักฐานการซื้อที่ดิน ให้หลวงปู่ท่านเก็บรักษาไว้ วันนั้นทำพิธีมอบ10ไร่ก่อน ส่วนที่เหลืออีกจำนวน20กว่าไร่ จะทำพิธี ถวาย พร้อมหนังสือที่เขียนขึ้นต่อหน้าพยาน มีกำนันผู้ใหญ่บ้าน พร้อมชาวบ้าน ว่าที่ดินเเปลงดังกล่าว ได้ยกให้ มอบถวายเพื่อสร้างวัด ในวันที่26 ก.พ.2555 อาตมาจะนำภาพทั้งหมด มาลงให้ญาติโยมทั้งหลายร่วมอนุโมทนาบุญ
ไปพร้อมๆกัน ว่าพวกเรามี่ส่วนสำคัญในการสร้างวัดถวายไว้ในพระพุทธศาสนา เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เเละเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนา
ถือว่าเป็นบุญที่ยิ่งใหญ่ ที่สุดในชีวิต คือการได้สร้างวัดไว้ในพระบวรพุทธศาสนา...

 

อนุโมทนาสาธุ ขอขอบใจ ขอให้โยมเอื้อย TIEMSIRY PHONGSA
ขออานิสงส์ผลบุญ ขออำนวยอวยพร
คุณพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า จงปกปักฮักษา คุ้มครอง
อยู่ดี มีความสุขใจ ตลอดปี พ.ศ.2555 เเละตลอดไปสาธุ
ทางวัดจะสวดมนต์ อธิฐานจิต ให้ได้รับบุญกุศล ที่ท่านทั้งหลายมีจิตศรัทธา ฮ่วมบุญซื้อที่ดินศร้างถวายวัดป่าบ้านหนองผักเเว่น
ขอให้โยมเอื้อย TIEMSIRI PHONGSA
อยู่ดีมีเเฮง ควมเจ็บอย่าให้ได้ ควมไข่อย่าให้มี สุขกาย สะบายใจ ตลอดไปเทอญสาธุๆ

 

ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย
เเละบุญกุศลที่บำเพ็ญนี้
จงบันดาลให้ท่านเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ
ปฏิภาน ธนสารสมบัติ
เเละประสบสิ่งอันพึงปรารถนาทุกทิพาราตรีกาลเทอญ สาธุ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

อาตมารู้สึกชอบภาพนี้มาก เลยนำมาฝากคุณโยมผู้ใจบุญทั้งหลาย ดูเเล้วสะบายใจ ปิติใจ