พื้นที่ปลอดภัยยามเกิดอภิมหันตภัย ในจังหวัดต่าง ๆ ของประเทศไทย

[FONT=&quot]อำเภอเชียงดาวตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดเชียงใหม่ [FONT=&quot]
อาณาเขตติดต่อกับอำเภอและจังหวัดใกล้เคียงดังนี้[/FONT][/FONT]

1.1 สภาพภูมิศาสตร์ของอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
- ทิศเหนือ ติดต่อ อ.ไชยปราการ จว.เชียงใหม่ และสหภาพเมียร์มาร์
- ทิศใต้ ติดต่อ อ.แม่แตง จว.เชียงใหม่
- ทิศตะวันออก ติดต่อ อ.พร้าว จว.เชียงใหม่
- ทิศตะวันตก ติดต่อ อ.เวียงแหง จว.เชียงใหม่ และอ.ปาย จว. แม่ฮ่องสอน

1.2 แม่น้ำที่สำคัญ
- ลำน้ำปิง มีต้นกำเนิดจากบริเวณดอยถ้วย ชายแดน
ไทย-พม่าอยู่ในเขต ต.เมืองนะ อ.เชียงดาวฯ
- ลำน้ำแตง มีจุดกำเนิดในเขตพื้นที่ ต.เปียงหลวง
อ.เวียงแหงฯ ไหลผ่าน ต.เมืองคอง อ.เชียงดาว
สู่ อ.แม่แตง จว.เชียงใหม่

1.3 ภูเขา
- มีภูเขาที่สำคัญและสูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย
มีชื่อว่า“ ดอยหลวงเชียงดาว ”สูงจากระดับน้ำทะเล
ปานกลาง ประมาณ 2,170 เมตร

อำเภอเชียงดาวแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 7 ตำบล 91 หมู่บ้าน

 

[FONT=&quot]พระธาตุปู่ก่ำ

[FONT=&quot]ตั้งอยู่ที่หมู่ [/FONT][/FONT] 5 [FONT=&quot]บ้านสบงาย ต.เมืองงาย อ.เชียงดาว [/FONT]
[FONT=&quot]ปี พ.ศ. 2200 [FONT=&quot]เมื่อมีคนเมืองอพยพมาตั้งถิ่นฐานมากขึ้น
เพิ่มขึ้นจากเดิม[/FONT] [FONT=&quot]ได้มีพระภิกษุธุดงค์มาพัก ทางชาวเมืองงาย
ได้พร้อมใจกันสร้างเจดีย์ไว้บนเขา[/FONT] [FONT=&quot]เหนือหมู่บ้านเหนือ
แม่น้ำ และตั้งชื่อว่า "ธาตุปู่ก่ำ"[/FONT] [FONT=&quot]ซึ่งเป็นชื่อของ
ผู้ปกครองเมือง ซึ่งบริเวณเขาลูกนี้มีหินยา[/FONT] [FONT=&quot]อยู่เต็มเขา
ทั้งลูกภายนอกเป็นรูปหินเป็นก้อนประมาณไข่[/FONT],[FONT=&quot] แขน
[/FONT][FONT=&quot]เมื่อผ่าออกภายในจะเป็นยาผงแดง ชาวบ้านนิยมเอาไปแช่น้ำตามหม้อน้ำไว้ดื่มกิน[/FONT] [FONT=&quot]รักษากรดและ
ทำให้น้ำเย็นดีนักแล ทุกปีวันวิสาขบูชาทำบุญเป็นประจำ[/FONT][/FONT]

http://www.lannacorner.net/lanna2011/article/article.php?type=A&ID=85

 

[FONT=&quot]วัดพระธาตุศรีสามรักษ์ (ห้วยตีนตั่ง)
[FONT=&quot]ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่[/FONT][/FONT]

[FONT=&quot]วัดพระธาตุศรีสามรักษ์[FONT=&quot]สร้างถวายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
สมเด็จพระเอกาทศรถ สมเด็จพระสุพรรณกัลยา
นำการก่อสร้างโดย พระอธิการบัณฑิต จิณณปุญโญ
(เจ้าอาวาส)[/FONT][FONT=&quot] บัณฑิตฤชาปกรณ์ (เดิม บุญส่ง กอหา)
อดีตหัวหน้าคณะปฏิวัติ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ หัวหน้าคณะ
ปฏิวัติ [/FONT]2 [FONT=&quot]สมัย รอง [/FONT]2 [FONT=&quot]สมัย หัวหน้าปราบกบฏ [/FONT]3 [FONT=&quot]สมัย[/FONT]
[FONT=&quot]เริ่มดำเนินการก่อสร้าง ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๒๙[/FONT]

[FONT=&quot]ประวัติวัดพระธาตุศรีสามรักษ์[/FONT][FONT=&quot]ย่อฯ[/FONT]
[FONT=&quot]สมเด็จพระนเรศวรมหาราช[/FONT][FONT=&quot]ได้ยกทัพขึ้นไปตีหงษาวดี
ได้ชัยชนะครั้งที่ ๔[/FONT][FONT=&quot]ยกทัพกลับประเทศไทยและได้พักแรม
อยู่วัดนี้ พระองค์ได้มีพระราชบัญชา[/FONT][FONT=&quot]ให้มหาเถรคันฉ่อง
สร้างวัดนี้ [/FONT][FONT=&quot]เมื่อมหาเถรคันฉ่อง ได้ฟังแล้วรับด้วยเกล้า
จึงได้ดำเนินการก่อสร้างขึ้นและมีความเจริญรุ่งเรืองมาก
เดิมมีที่ดินประมาณ [/FONT]450 [FONT=&quot]ไร่[/FONT][FONT=&quot] และ[/FONT][FONT=&quot]วัดฯ ได้ทรุดโทรมไปมาก
เหลือซากวัสดุเป็นอิฐ ศิลาแลงได้สลักหักพังมากมาย
[/FONT][FONT=&quot]มีพระธาตุอยู่ [/FONT]2-3 [FONT=&quot]องค์เป็นอิฐศิลาจารึก ก้อนใหญ่สี่เหลี่ยม
กว้าง [/FONT]1 [FONT=&quot]ฟุต ยาว[/FONT] 1 [FONT=&quot]ฟุตครึ่ง พระธาตุได้รับบรรจุพระเกศา
ของสมเด็จพระสุพรรณกัลยาไว้ [/FONT][FONT=&quot]และอีกแห่งหนึ่งได้รับ
บรรจุไว้ที่เมืองปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน[/FONT][/FONT]

 

วัดพระธาตุดอยมอญจิ๋ง (ดอยธาตุ)
ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

การเดินทางไปพระธาตุดอยมอญจิ๋งไปตามเส้นทาง
เชียงใหม่-ฝาง จังหวัดเชียงใหม่ - อ.ฝาง (ทางหลวง 107)
อ.แม่ริม -อ.แม่แตง - อ.เชียงดาวถึงสามแยกไฟแดง
จะมีป้ายบอกทางไปเมืองงาย-อ.เวียงแหง - ดอยอ่างขาง
(ทางหลวง1178) ไปตามเส้นทางขึ้นดอยอ่างขาง
ระหว่างทางจะเจอป้ายชี้ทางเข้าพระธาตุดอยมอญจิ๋ง
อยู่ด้านซ้ายของถนน

นมัสการพระธาตุดอยมอญจิ๋ง ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ - ข้อมูลพระบรมธาตุ - แดนนิพพาน


วัดอรัญจอมเมฆ ( ปางมะโอ ) มีเงาพระธาตุ
บ.ปางมะโอ ต.แม่นะ อ.เชียงดาว (ยังไม่มีข้อมูล)

วัดดอนศรีสะอาด
บ.ดอนมูล อ.เชียงดาว (ยังไม่มีข้อมูล)

 

ขอแทรกเนื้อหานิดหนึ่งค่ะ

"ในหลวง" พระราชทานพรปีใหม่
มีสติรู้ ไม่ประมาท พร้อมเผชิญทุกข์ภัย

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัส
พระราชทานพรปีใหม่ พ.ศ.2555 ความว่า ประชาชน
ชาวไทยทั้งหลาย บัดนี้ถึงวาระจะขึ้นปีใหม่ ข้าพเจ้า
ขอส่งความปรารถนาดีมาอวยพรแก่ท่านทุกๆ คน และ
ขอขอบใจท่านเป็นอย่างมาก ที่ร่วมกันจัดงานฉลอง
อายุครบ ๗ รอบ ให้อย่างเหมาะสมงดงาม

ระหว่างปีที่แล้ว เหตุการณ์ต่างๆ ในบ้านเมืองนับว่า
เป็นปรกติดี แต่พอเข้าปลายปี ก็เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่
เป็นเหตุให้ประชาชนหลายจังหวัดต้องประสบอันตราย
และความเดือดร้อนลำบาก ความเสียหายครั้งนี้ ดูจะ
ร้ายแรงกว่าครั้งไหนๆ ที่ผ่านมา ข้อนี้น่าจะเป็น
เครื่องเตือนใจอย่างสำคัญ ดังที่ข้าพเจ้าได้กล่าวไว้
หลายครั้งแล้วว่า

วิถีชีวิตของคนเรานั้นจะต้องมีทุกข์ มีภัย มีอุปสรรค
ผ่านเข้ามาเนืองๆ ไม่มีผู้ใดจะอยู่เป็นปรกติสุข
อย่างเดียวได้ ทุกคนจึงต้องเตรียมกาย เตรียมใจ
และเตรียมการไว้ให้พร้อมเสมอ เพื่อเผชิญและ
ป้องกัน แก้ไขความไม่ปรกติเดือดร้อนต่างๆ
ด้วยความไม่ประมาท ด้วยเหตุผล ด้วยหลักวิชา
และด้วยสามัคคีธรรม

ในปีใหม่นี้ จึงขอให้ประชาชนชาวไทยได้ตั้งตนอยู่ใน
ความไม่ประมาท โดยมีสติรู้ตัวและปัญญารู้คิดกำกับ
อยู่ตลอดเวลา ผู้ใดมีภาระหน้าที่อันใด ก็เร่งกระทำ
กระทำให้สำเร็จลุล่วงไปให้ทันการณ์ทันเวลา ผลงาน
ทั้งนั้น จะได้ส่งเสริมให้แต่ละคนประสบแต่ความสุข
ความเจริญ และทำให้ชาติบ้านเมืองดำรงมั่นคงและ
ก้าวหน้าต่อไปด้วยความผาสุกสวัสดี

ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ทั้งหลาย จงคุ้มครองรักษาท่านทุกคน ให้มีความสุข
ไม่มีทุกข์ไม่มีภัย ตลอดศกหน้านี้โดยทั่วกัน

ที่มา Manager Online

 

สมิทธิ เตือน 5 จังหวัดภาคใต้ ระวัง "สึนาิมิ"
ที่มา ASTV ผู้จัดการรายวัน 31 ธ.ค. 2554 เวลา 6.40 น.

(เนื้อหาบางส่วน)

สำหรับการเกิดสึนามิในประเทศไทย มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
เนื่องจากสภาพแวดล้อมอำนวย ประเทศไทยมีโอกาสเกิดสึนามิขึ้นได้อีก
โดยจังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยง มีโอกาสที่จะเกิดสึนามิในระยะเวลาอันใกล้นี้
ได้แก่ ระนอง พังงา ภูเก็ต สตูล และนราธิวาส

ผมกล้าพูดได้ว่าต้องเกิดสึนามิขึ้นอีกในอนาคต เมื่อมันสะสมพลังงาน
มากพอที่จะยกเปลือกโลกบริเวณใต้มหาสมุทรอินเดีย ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับสั่งว่า
พระองค์เป็นห่วงมาก

สึนามิที่จะส่งผลกระทบถึงประเทศไทย มี 2 จุด คือ
จุดที่ 1 บริเวณภาคใต้่ฝั่งตะวันตกของประเทศไทย
คลื่นจะเข้ามาตั้งแต่ระนอง พังงา ภูเก็ต สตูล

จุดที่ 2 เกิดบริเวณฟิลิปินส์และเวียดนาม ซึ่งอยู่ใกล้
แถบภาคใต้ฝั่งตะวันออกจะเำกิดคลื่นที่ส่งผลกระทบ
ต่อนราธิวาสไล่ขึ้นมาถึงก้นอ่าวไทย

สำหรับการเกิด "สตอร์ม เซิร์จ" หรือคลื่นพายุหมุน
ยังคงมีแนวโน้มเกิดขึ้นอยู่เนือง ๆ

 

น้ำท่วมฉับพลัน 8 อำเภอ จ.สงขลา รับปีใหม่
หาดใหญ่เตือนพร้อมอพยพ 24 ชั่วโมง
โดย ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 1 ม.ค. 2555 เวลา 11.09 น.

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->สงขลา - เกิดน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ 8 อำเภอของ จ.สงขลา
หลายพื้นที่หนักน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมกะทันหัน หลังฝนตกหนัก
ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ขณะที่ หาดใหญ่ประกาศเตือน พร้อมอพยพ 24ชม.

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.สงขลาว่า วันขึ้นปีใหม่ปีนี้ (1 ม.ค.55)
เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลันขึ้นในพื้นที่ 8 อำเภอ จากทั้งหมด 16 อำเภอ
ของ จ.สงขลาแล้ว หลังจากที่ฝนได้ตกหนักติดต่อกันมา 2 วัน
โดยเฉพาะตลอดคืนที่ผ่านมา (31 ธ.ค.54) ได้เกิดตกหนักติดต่อกัน
ต่อเนื่องจนถึงเช้าวันนี้ การเฉลิมฉลองเคาท์ดาวน์ช่วงส่งท้ายปีเก่า-
ต้อนรับปีใหม่จึงนองไปด้วยสายฝน กระหน่ำหนัก

สำหรับอำเภอที่ถูกน้ำท่วมประกอบด้วย อ.เมืองสงขลา อ.สะเดา
อ.จะนะ อ.หาดใหญ่ อ.นาทวี อ.นาหม่อม อ.สะบ้าย้อย และ อ.คลองหอยโข่ง

แต่ยังไม่มีรายงานของผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ โดยปริมาณฝนที่
หนักมากที่สุดคือพื้นที่ อ.สะเดา วัดได้ 301 มิลลิเมตรตลอด 24 ชั่วโมง
ตั้งแต่ 7 โมงเช้าของเมื่อวานจนถึง 7 โมงเช้าของวันนี้ ซึ่งเป็นหนึ่ง
ในพื้นที่ต้นน้ำที่จะไหลลงคลองอู่ตะเภากลางเมืองหาดใหญ่

 

[FONT=&quot]ที่ผู้เขียนยกเนื้อหาดังกล่าวข้างต้นนั้น เนื่องจาก
ก่อนที่จะลงมาภาคใต้[FONT=&quot] ผู้เขียนได้รับคำเตือนมาแล้วว่า
จะเ้กิดเหตุตอนปลายปีในเืรื่องของภัยพิบัติ[/FONT][FONT=&quot] ซึ่งทุกคน
ที่ผู้่เขียนรู้จัก ได้ให้ผู้เขียนกลับมา เพราะว่าเป็นที่ที่
อันตรายที่สุด[/FONT][FONT=&quot] แต่ด้วยเหตุและผล ถึงแม้จะทราบดีว่า
เมื่ออยู่ที่่นี่จะต้องโดนภัยพิบัติ[/FONT][FONT=&quot]แน่นอน โดยเฉพาะ
สึนามิทางภาคใต้ แต่ขอให้อยู่อย่างคนที่มีประโยชน์
[/FONT][FONT=&quot]ผู้เขียนอยู่ที่จังหวัดตรัง ก็มาสำรวจพื้นที่ั้ทั้งหมด
ว่าที่ใดในจังหวัดที่ปลอดภัย[/FONT][FONT=&quot]มากที่สุด อย่างที่ีเ่ขียน
บอกไว้ในกระทู้นี้แล้ว[/FONT][FONT=&quot]แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด ณ วันนี้
[/FONT][FONT=&quot]คือข่าวแจ้งให้เฝ้าระวังภัย เนื่องจากช่วงนี้ภาคใต้
ตอนล่างฝนตกหนักมา[/FONT][FONT=&quot] 2-3 [/FONT][FONT=&quot]วันแล้ว ผู้เขียนได้รับแจ้ง
จากผู้มีญาณทัศนะ ให้เฝ้าระวังเหตุตอนปลายปี[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]ซึ่งก็พยายามเฝ้าดูและติดตามอยู่ตลอดเวลา [/FONT][/FONT]

 

[FONT=&quot]เมื่อเช้าได้นำข่าวการเตือนภัยเรื่องสึนามิ[FONT=&quot]ไปปรึกษากับ
อาจารย์[/FONT][/FONT] [FONT=&quot]และก็ได้เช็คข่าวเรื่องฝนตกในจังหวัดภาคใต้[/FONT]
[FONT=&quot]ซึ่งท่านอาจารย์เตือนมาในเรื่องของน้ำท่วมหนักทางใต้
ตามความเป็นจริง ๆ แล้ว[/FONT][FONT=&quot] ช่วงนี้เป็นหน้าหนาว ภาคใต้
จะแล้งฝนตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนด้วยซ้ำ[/FONT]
[FONT=&quot]แต่มาถึงวันนี้ ฝนก็ยังคงมีต่อเนื่องมาตลอด
ด้วยสภาวะอากาศดินฟ้าแปรปรวน[/FONT][FONT=&quot] ท่านให้เฝ้าระวัง
เพราะฝนตกหนักมา 2-3 วันแล้ว จะเกิดน้ำป่าและ
แผ่นดินสไลด์[/FONT][FONT=&quot] ดังนั้น ควรเตรียมการไว้แต่เนิ่นๆ ใน
เรื่องของการกู้ภัย ชาวบ้านและชุมชนต่าง ๆ [/FONT][FONT=&quot]ควร
รวมตัวกันเฝ้าระวังและเตรียมการ ในเรื่องของ
เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้[/FONT][FONT=&quot] โดยเฉพาะเรือ,
อาหาร, และอุปกรณ์ยังชีพต่าง ๆ เตรียมพร้อมที่จะ
อพยพได้ทุกเมื่อ[/FONT][FONT=&quot] อย่ารอความหวังทางราชการ
เพียงอย่างเดียว เพราะจะสายเกินการณ์ [/FONT]

 

[FONT=&quot]เมื่อเช้านี้ได้รับแจ้งข่าวมาแล้วว่า จังหวัดที่ฝนตกหนักมาก
คือ กระบี่, นครศรีธรรมราช และพัทลุง[/FONT][FONT=&quot] รองลงมาจะเป็น
ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สุราษฎร์ธานี ส่วนจังหวัด
ตรัง โดนปลาย ๆ [/FONT][FONT=&quot]เพราะฉะนั้น เฝ้าระวังจังหวัดเหล่านี้
ไว้หน่อยนะค่ะ เตรียมตัวได้ แต่อย่าตื่นตระหนก[/FONT]
[FONT=&quot]เดี๋ยวจะเป็นเหมือนเหตุการณ์ของน้องปลาบู่อีก ซึ่งผู้เขียน
ก็เคยเขียนติงไว้แล้ว[/FONT][FONT=&quot]ว่าการแจ้งข่าวชนิดแบบฟันธง
ซึ่งอาศัยญาณทัศนะของคนอื่น โดยปราศจาก[/FONT]
[FONT=&quot]ข้อเท็จจริงไปประกอบ จะกลายเป็นการสร้างความ
ตื่นตกใจ และหวาดกลัว[/FONT][FONT=&quot]ให้กับผู้คน คราวนี้คงจะเป็น
บทเรียนให้หลาย ๆ คน ตระหนักดีแล้วว่า[/FONT][FONT=&quot] การให้ข่าว
การสร้างข่าว ทาง internet [FONT=&quot]มีผลกระทบกับผู้คนอย่างใด[/FONT][/FONT]
[FONT=&quot]เพราะฉะนั้น การให้ข่าว ต้องให้แบบสร้างสรรค์
ไม่เช่นนั้น จะเป็นการทำลาย[/FONT][FONT=&quot]ผู้อื่นด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์[/FONT]

 

[FONT=&quot]สำหรับผู้ที่อยู่ชายฝั่งทะเล ให้เฝ้าระวังเรื่องสตอร์เซิร์จ
ไว้นะค่ะ เพราะมีคำเตือนมาว่า[/FONT][FONT=&quot]จะเกิดลมพายุพัดคลื่น
เข้ามา ซึ่งจริงก็เกิดขึ้นแล้ว ที่ชุมพร กับสุราษฎร์ธานี
หลังจากเหตุการณ์[/FONT][FONT=&quot]น้ำท่วมภาคใต้ จะเป็นภัยทางสึนามิต่อไป
ดังนั้นให้เฝ้าระวังเรื่องข่าวคราวของแผ่นดินไหว
ไว้ด้วยนะค่ะ[/FONT][FONT=&quot] ซักซ้อม เหตุการณ์เตือนภัยในชุมชน
ทางหนีทีไล่ และการอพยพไว้บ้าง ผู้นำชุมชนควร
ตื่นตัว[/FONT][FONT=&quot]และเตรียมพร้อมในเรื่องของอุปกรณ์และ
การระดมคน ระดมความคิดต่าง ๆ ไว้[/FONT][FONT=&quot] ไม่จำเป็นต้อง
รอภัยสึนามิหรอกค่ะ ลำพังฝนตกหนัก น้ำท่วมก็จัดเป็น
ภัยพิบัติชนิดหนึ่งแล้ว[/FONT][FONT=&quot] อย่างไรก็ตาม คนใต้ช่วงนี้ดูแล
ตนเองด้วยนะค่ะ "สามัคคีคือพลัง" [/FONT]

 

[FONT=&quot]วัดพุทธพรหมปัญโญ (วัดถ้ำเมืองนะ)[/FONT]
[FONT=&quot]ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ [/FONT]
เป็นวัดที่มีการเตรียมการเรื่องภัยพิบัติรองรับอีกวัดหนึ่งเช่นกัน

[FONT=&quot]การเดินทางไปวัดถ้ำเมืองนะ[/FONT][FONT=&quot]

[/FONT][FONT=&quot]วัดพุทธพรหมปัญโญ ตั้งอยู่ที่ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]การเดินทางไปสำหรับผู้ที่อยู่ในเชียงใหม่ในกรณี
นั่งรถบัสมาเอง[/FONT][FONT=&quot]ระยะเวลาจากตัวเมืองเชียงใหม่ไป
วัดนั้นใช้เวลาประมาณ [/FONT][FONT=&quot]2 [/FONT][FONT=&quot]ชั่วโมง การเดินทาง[/FONT][FONT=&quot]ไปวัด
หากมาจากตัวเมืองเชียงใหม่ให้มาขึ้นรถบัสสีแดงที่
[/FONT][FONT=&quot]ไปเชียงดาว ที่ขนส่งช้างเผือกแล้วไปลงแถวๆคิวรถเหลือง
สาย [/FONT][FONT=&quot]2 [/FONT][FONT=&quot]ที่ อ. เชียงดาว[/FONT][FONT=&quot]([/FONT][FONT=&quot]บอกกระเป๋ารถเขาจะรู้)
จากนั้นบอกรถสองแถวสาย[/FONT][FONT=&quot] 2[/FONT][FONT=&quot] ที่เชียงดาวว่า[/FONT][FONT=&quot]ไป
วัดหลวงตาม้าเขาจะทราบ[/FONT][FONT=&quot]



[/FONT]

 

[FONT=&quot]หากนั่งรถทัวร์มา[FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]พอรถทัวร์ลงที่ขนส่งอาเขตให้จ้างรถสามล้อเครื่อง
[/FONT][FONT=&quot]หรือมอไซค์รับจ้าง(ประมาณ [/FONT][FONT=&quot]50-60 [/FONT][FONT=&quot]บาท) บอกให้
มาขนส่ง[/FONT][FONT=&quot]ช้างเผือกพอมาถึงแล้วก็ให้มาขึ้นรถบัสสีแดง
ที่[/FONT][FONT=&quot]ไปเชียงดาวที่ขนส่งช้างเผือก แล้วไปลงแถวๆ คิว
รถเหลืองสาย[/FONT][FONT=&quot]2 [/FONT][FONT=&quot]ที่[/FONT][FONT=&quot]อ. เชียงดาว (บอกกระเป๋ารถเขา
จะรู้)[/FONT][FONT=&quot] จากนั้นบอกรถสองแถวสาย[/FONT][FONT=&quot] 2[/FONT][FONT=&quot] ที่เชียงดาวว่าไป
วัดหลวงตาม้าเขาจะทราบ[/FONT][FONT=&quot]

[/FONT][FONT=&quot]เรื่องที่พักสำหรับฆราวาสนั้นสะดวกสบาย ท่านหลวงตา
ท่านสร้าง[/FONT][FONT=&quot]ตึก[/FONT][FONT=&quot]4[/FONT][FONT=&quot]ชั้นไว้ สำหรับให้ญาติโยมมาภาวนา
ปฎิบัติธรรมได้สะดวก[/FONT][FONT=&quot] โดยมีแบ่งเป็นห้องๆ ไว้ในตึก
และมีห้องน้ำในตัวตึกทุกชั้นๆละหลายห้อง[/FONT][FONT=&quot] นอกจากนั้น
ยังมีกุฎิที่สร้างไว้เป็นหลังๆ ให้อยู่ด้วย หากชอบยังนั้น[/FONT][/FONT][FONT=&quot]

[/FONT]

 

[FONT=&quot]หรือหากใครอยากนอนในถ้ำใหญ่ที่วัด(ที่เป็นอุโบสถในถ้ำ)
ก็ได้เช่นกัน[FONT=&quot] นอกจากถ้ำใหญ่แล้วยังมีถ้ำอื่นๆอีกมาก
ประปรายไปทั่วทั้งเขา[/FONT][FONT=&quot] หากใครสะดวกและอยากมา
ฝึกกรรมฐาน หรือภาวนาปฎิบัติธรรมนั้น มาได้ทุกเวล[/FONT][FONT=&quot]า
และไม่จำกัดระยะเวลา โดยกิจวัตรประจำวัน นอกจาก
การภาวน[/FONT][FONT=&quot]าแล้ว ยังมีสวดมนต์ใหญ่ประจำวันทุกคืนด้วย
ที่พระอุโบสถในถ้ำใหญ่[/FONT][FONT=&quot] โดยท่านหลวงตาม้าท่านจะ
เป็นประธานในการสวด[/FONT][/FONT][FONT=&quot]

วัดแห่งนี้มีหลวงตาม้าเป็นเจ้าอาวาส ท่านมีความเมตตามาก
โดยเฉพาะการเตรียมการรองรับผู้คนในเรื่องของภัยพิบัติ
ภายในถ้ำที่ท่านนำสวดมนต์ มีความศักดิ์สิทธิ์มาก
ผู้เขียนเคยไปปฏิบัติธรรมที่นั่นคืนหนึ่ง ตอนดึก ๆ
ตั้งใจจะนั่งสมาธิแต่ผลอยหลับไปเสียก่อน กลางดึก
คืนนั้น ได้ยินเสียงขู่ฟ่อ ๆ ดังมากภายในถ้ำ แต่คนอื่น
กลับไม่ได้ยิน นั้นเป็นเพราะท่านมาเตือนให้ผู้เขียน
นั่งสมาธิตามที่บอกไว้เมื่อตอนค่ำ ๆ นั่นเอง

[/FONT]

 

ประวัติความเป็นมา :

ตำบลเมืองนะ จากคำบอกเล่าของคนเก่าแก่ซึ่งเล่าเป็น
นิทานว่า เมืองนี้เคยมีพระสมณโคดมมาโปรดมนุษย์
สัตว์เดรัจฉานทั้งหลาย เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมายัง
เทือกเขาแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รวมของแม่น้ำหลายสาย
ปัจจุบันเรียกว่า "สันดอยถ้วย" พระพุทธองค์ทรงประทับ
ใต้ต้นไม้ใหญ่ เมื่อประชาชนทั้งหลายทราบก็พากันไป
สักการะบูชา ไม่เพียงแต่มนุษย์เท่านั้นแม้แต่สัตว์เดรัจฉาน
ก็ไปร่วมกันสักการะบูชาด้วย ในบรรดาสัตว์เหล่านั้นมี
พญาช้างเผือกเชือกหนึ่งเกิดความศรัทธา ฏ็เก็บเอา
ผลไม้ถวายคือ ผลนะ (ลูกสมอ) พอพระพุทธเจ้ารับ
ผลนะก็กลายเป็นทองคำทันที พญาช้างเผือกจึง
ถวายตัวรับใช้เป็นทาส ต่อมาวันหนึ่งพญาช้างเผือก
ลงไปเล่นน้ำในลำธารใกล้ ๆ มีพรานป่าใจอำมหิต
มาพบเข้า จึงรุมทำร้ายพญาช้างเผือกจนขาดใจตาย
ร่างของพญาช้างเผือกค่อย ๆ จมลง ๆ และหายไป
ก็พอดีไปพบเข้ากับพระพุทธเจ้าเข้า พระองค์ท่าน
ทรงเทศนาสั่งสอน จนพวกพรานป่าเลิกทำความชั่ว
และตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนตั้งชื่อบริเวณนี้ "เมืองนะ" มาจนถึงปัจจุบัน

 

สภาพทั่วไปของตำบล :

พื้นที่โดยทั่วไปเป็นที่เทือกเขาสลับกับที่ราบ ซึ่งรวมแล้ว
มีเนื้อที่ประมาณ 486 ตร.กม.หรือประมาณ 303,800 ไร่

อาณาเขตตำบล : ทิศเหนือ ติดกับ สาธารณรัฐสังคมนิยมแห่งสหภาพเมียนมาร์
ทิศใต้ ติดกับ ต.ทุ่งข้าวพวง และ ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
ทิศตะวันออก ติดกับ ต.ศรีดงเย็น อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่
ทิศตะวันตก ติดกับ ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่

 

ถ้ำเชียงดาวและวัดถ้ำเชียงดาว

[FONT=&quot]ถ้ำเชียงดาว[FONT=&quot]ถ้ำหลวงเชียงดาว[/FONT] [FONT=&quot]มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า[/FONT] [FONT=&quot]
ดอยอ่างสลุงเชียงดาว[/FONT][FONT=&quot] อยู่ในเขตอำเภอเชียงดาว
การเดินทาง จากเชียงใหม่ไปยังอำเภอเชียงดาว
[/FONT][FONT=&quot]ระยะทาง [/FONT]72 [FONT=&quot]กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายตรงทางแยก
เข้าไปจนถึงถ้ำอีก [/FONT]5 [FONT=&quot]กิโลเมตร เป็นถนนลาดยางจนถึง
บริเวณถ้ำ มีบริเวณจอดรถกว้างขวาง[/FONT][FONT=&quot] หน้าถ้ำมีธารน้ำ
ไหลผ่านเต็มไปด้วยปลาหลายชนิด[/FONT][FONT=&quot] นักท่องเที่ยว
สามารถให้อาหารปลาได้[/FONT][/FONT]

ลักษณะของถ้ำเชียงดาวเป็นถ้ำยาวมาก ยาวจนสำรวจ
ไม่สุดว่ายาวเท่าไร ช่วงแรกเป็นถ้ำแห้งมีหินงอกหินย้อย
ที่เคยสวยงาม ภายในมีพระพุทธรูปตั้งไว้เพื่อให้
นักท่องเที่ยวได้กราบไหว้ การเดินเข้าไปเที่ยวชม
ภายในถ้ำ ช่วงแรกจะมีไฟฟ้าติดให้แสงสว่างไว้
ตลอดทาง แต่ในบางห้องโถงที่อยู่ลึกเข้าไปและ
ยังคงสวยงาม จะต้องใช้คนนำทางท้องถิ่นนำทาง
พร้อมด้วยตะเกียงเข้าไป โดยเสียค่าตอบแทนเล็กน้อย
คณะละ 200 บาท สำหรับถ้ำที่อยู่ลึกเข้าไปมากๆ

 

สำหรับถ้ำเชียงดาวนั้น มีเอกลักษณ์โดดเด่น มีสถิติ
ความยาวที่สุดในประเทศไทยอยู่ที่อันดับเจ็ดค่ะ คือ
มีความยาว 5.19 กิโลเมตร(ถ้ำที่ยาวที่สุดในประเทศไทย
อยู่ที่จังหวัดพิษณุโลก คือ ถ้ำพระวังแดง ยาว 13.11 กิโลเมตร
ข้อมูลจากหนังสือ ถ้ำถิ่นเหนือค่ะ)

ถ้ำเชียงดาวเป็นถ้ำที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในภาคเหนือ
ตั้งอยู่ที่เชิงดอยเชียงดาว ซึ่งเป็นภูเขาหินปูนที่สูงที่สุด
ในประเทศไทย มีความสูง 2,220 เมตร เป็นภูเขาสูง
เป็นอันดับสามของประเทศค่ะ ประวัติของถ้ำเชียงดาว
มีบันทึกไว้ย้อนกลับไปประมาณ 300 ปี แต่การพบซาก
กำแพงเมืองโบราณอายุนับพันปี ใกล้ปากถ้ำ ทำให้
เชื่อว่าคนน่าจะรู้จักถ้ำแห่งนี้มานานกว่านั้นมาก และ
ฉันอ่านจากหนังสือค่ะเขียนบอกว่าคนในพื้นที่เชื่อกันว่า
ถ้ำนี้มีความยาวหลายร้อยกิโลเมตรไปจนถึงประเทศพม่า
และมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับถ้ำมากมาย แต่ผลจากการสำรวจ
ที่ผ่านมาพบว่ามีความยาว 5,190 เมตรค่ะ

 

ถ้ำเชียงดาว เป็นถ้ำน้ำที่ไม่รู้จุดสิ้นสุด น้ำภายในถ้ำ
เกิดจากน้ำฝนที่ตกลงบนเทือกดอยเชียงดาวแล้ว
ไหลรวมลงสู่อ่างสลุง แต่เทือกดอยเชียงดาวเป็น
ภูเขาหินปูนจึงไม่สามารถเก็บกักน้ำได้ น้ำเหล่านั้น
จึงไหลลงสู่โพรงถ้ำเบื้องล่าง แล้วไหลออกจากปากถ้ำ
ลงสู่ลำห้วย จากลำห้วยไหลลงสู่แม่น้ำสายเล็กๆ
กลายเป็นแม่น้ำปิง เทือกดอยเชียงดาว จึงเป็นต้นกำเนิด
สายน้ำเล็กๆ อีกสายหนึ่งของแม่น้ำปิง คือว่า
ต้นกำเนิดแม่น้ำสายใหญ่ จะเกิดจากลำห้วยเล็กๆ
หลายสายไหลมารวมกัน อาจจะมาจากดอยโน้นบ้าง
ดอยนั้นบ้าง ทุกๆ สายในพื้นที่ต้นน้ำจึงล้วนเป็นต้น
กำเนิดแม่น้ำทั้งนั้น

 

ตำนานความศักดิ์สิทธิ์ของถ้ำเชียงดาว


ถ้ำหลวงเชียงดาว เป็นโบราณสถานที่ผู้คนมากมาย
เลื่อมใส ศรัทธา ซึ่งอาจเป็นเพราะได้รู้เรื่องราวอัศจรรย์
แต่หนไหน หลังที่เล่าสืบต่อกันมา นั่นก็คือ เจ้าหลวง
คำแดง เป็นบุตรชายของเจ้าผู้ครองเมืองพะเยา
ได้ทิ้งบ้านเมืองเพื่อออกตามหาหญิงสาวที่แปลงร่าง
เป็นกวางทอง เพราะหลงรูปโฉมที่สวยงาม ซึ่งหายลับ
เข้าไปในถ้ำหลวงเชียงดาว เจ้าหลวงคำแดงจึงได้ตาม
เข้าไปในถ้ำเช่นเดียวกัน โดยไม่ได้กลับออกมาอีกเลย