คือตั้งแต่เริ่ม ถือศีล ทำบุญมา ทำไมจิตใจของผมมันมีอะไรบางอย่างผิดปกติ

คือปรึกษาสักหน่อยนะครับ คือช่วงนี้ผมแทบจะบ้า
1.เวลาจะไปทำบุญมันชอบมีความคิดแปลก เช่น มึงตอบกูหน่อยได้ไหมมึงทำอย่างนี้แล้วจะได้อะไร หรือ มึงคิดว่าทำแล้วจะได้ดี
2.เวลาที่่พ่อแม่พูดคุยตักเตือน เช่น วุ่นวายกับเราเสียจริง
3.เวลาคนอื่นขอความช่วยเหลือ เช่น มายุ่งวุ่นวายกับเราอีกแล้ว มีมือมีตีนก็ไม่ทำเอง

อยู่ดีๆมันก็ชอบคิดขึ้นมาเองอ่ครับ พอมีทางแก้ไหมครับ จะประสาทเข้าไปทุกวันแล้ว:'(

 

ถ้าเป็นเราจะปล่อยมันไปอะ

 

อย่าลืมเจริญพรหมวิหาร ๔ กำกับด้วย ^ ^

 

มารไม่มี บารมีไม่เกิด

การเข้าสู่ทางธรรม ย่อมต้องเจอบททดสอบ

เป็นเรื่องของอำนาจของเจ้ากรรมนายเวรที่ส่งผลมาทางความคิด
และเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ การเสวยผลของกรรมด้วย (กรรมเก่ากำลังส่งผลให้ได้รับวิบากกรรม)
แนะนำว่า ให้กล่าวขอขมากรรม ขออโหสิกรรม บ่อย ๆ เพื่อคลี่คลายวิบากกรรม ปลดล็อคกรรม

ถ้าท่านสนใจ เข้าไปดูที่กระทู้ด้านล่างนี้ค่ะ


http://palungjit.org/threads/@ห้องขอขมากรรม@.318596/

 

ส่วนล่าสุด กว่าจะไปทำบุญได้ ปวดทั้งตัวเลย แต่พองานเสร็จแล้ว มันก็ค่อยๆหายโดยแับพลัน
เออ มันแปลกดีแฮะ

 

ท่านครับ นั่นแหละมาร เมื่อมีอกุศลจิตเกิดแล้ว ต้องทำบุญให้มาก เจริญพรหมวิหารให้มาก และสร้างบารมีอื่นๆ ให้มาก ก็จะปราบมาร คือราคะ โทสะ โมหะได้ อย่าอ่อนแอ อย่ายอมเป็นทาสของมารอีกต่อไป มารคือผู้ฆ่าเราให้ตายจากการทำดี มารคือผู้ทำลายความดี หรือว่าจะยอมเป็นทาสของมารต่อไปครับ คงไม่น่า.....

 

เหมือนผมเลยแต่ผมไปคิดปรามาส บางครั้งก็คิดแบบท่านนั้นแหละ แต่ก็ขอขมา พยายาม ถ้าท่านผ่านจุดหนี้ได้ คําว่านิพพาน ก็อยู่หน้าท่าน! (ถ้าท่าน ไม่สนใจยัยดี ต่อการเกิดเป็นพรหม เทวดา คน ไปเอานิพพานดีกว่า นิพพานอย่างเดียว)

 

ถ้าคุณ รู้ ตัวว่ามันแยกออกจาก ความเป็น ตัวเรา(มีสติ) นั้นแสดงว่าคุณแยก ส่วนมันออกมาได้แล้วว่า มันไม่ใช่คุณ(สังเกตุ สิ ถ้าเราทำอะไร โดยไม่มีสติ เราจะคิดว่าเราเป็นคนทำอยู่ เช่น ตอนที่เกิดโทสะ อยากจะตบยุงที่มันมากัดเรา)........ถ้าแยกได้อย่างนี้ มีสติเท่าทันอย่างนี้นั้นผมว่าดีครับ พระท่านว่า มีสติเร็วเท่าม้าอาชาไน...เราก็เจริญสติในชีวิตประจำวันให้ ระลึกรู้เท่าทัน กาย-ใจ นี้ ต่อไป(ราคะ โทสะ โมหะ โลภะ กายคตาสติ กิน ยืน เดิน นั่ง นอน) นั่น คือ ก้าว เข้าสู่การปฎิบัติแล้ว สติ นี่แหละครับ

 

เป็นมารชนิดหนึ่งครับ คือ กิเลสมาร ลองอ่านต่อที่นี่ครับ

 

สาธุ เป็นกระทู้ ทีดีมาก ผมมักเป็นบ่อยๆ
หลายครั้งเราไม่ได้คิดแต่จิตไปก่อนทุกที
ทำให้เป็นทุกข์ใจบ่อยๆ ขอให้ผู้มีประสบการ
เข้ามาแสดงความเห็นมากๆ ขออนุโมธนากับเจ้าของ
กระทู้ด้วย ทำให้หลายๆคนทีเป็น สามารถ
หาอุบายแก้ปัณหา เพื่อการเจริญในธรรมทีดีต่อไป สาธุ

 

เมื่อรู้ว่าจิตคิดอกุสลอยู่ ก็ให้หยุดคิดทันที อย่าปรุงแต่งมันต่อไป วางเฉยซะ นั่นคือการปฏิบัติธรรม

 

ผมก็เป็นครับบ่อยมากๆแต่ได้ความรู้จากพี่ทั่นนึงในเว๊ปพลังจิต
ทำให้ตอนนี้ควบคุมมันได้แล้ว

 

แผ่เมตตาให้ตัวเองและผู้อื่นเนืองๆ ค่ะ การแผ่เมตตาทำได้ทุกที่ ทุกเวลา จะช่วยให้สิ่งที่เป็นอยู่ค่อยๆ จางหายไป มารในใจมันกลัวเมตตาค่ะ

 

ลองตามแนวหลองพ่อปราโมทย์มั้ย ตามรู้ ตามดู ไปเรื่อยๆ
หยุดคิดไม่ได้ แต่ตามรู้ได้

 

โมทนาบุญ สาธุกับท่านเจ้าของกระทู้ (เพราะมีประสบการณ์ที่คล้ายกันบ้างในบางเรื่อง) และทุกท่านที่แนะนำแนวทางแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยปัญญาค่ะ ขอขอบคุณด้วยใจจริง ใจเราเองก็คิดอยู่เหมือนกันว่า มารในใจคงมาทดสอบซะแล้ว แต่ก็มีทำแบบที่บางท่านได้แนะนำไปเช่นกันค่ะ และพยายามเพียรทำไปเรื่อยๆ เพื่อพัฒนาตนเองต่อไปค่ะ

 

ตอบง่ายๆนะครับ ถ้าคุณมีความเชื่อเรื่องตายแล้วไปเกิดเป็น เทวดา ได้ คุณก็จะทำโดยไม่มีความคิดนี้ เริ่มจากคิดเล็กๆ ว่าทำแล้วไม่อยากตกนรก แล้วพอจิตมั่นคงค่อยเพิ่มขึ้นไปเรื่องๆครับ ที่สำคัญคือ ความเชื่อ ความศรัทธา อย่างแท้ จริงในพระธรรมคำสอนขององค์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครับ

 

ผมก็เป็นครับเห็นรูปพระสงฆ์หรือผู้มีบารมีทั้งหลายจิตคิดแต่ลบหลู่ ก่อนนี้ไม่ทราบว่ามีวิธีเอาชนะมารได้อย่างไร บังเอิญว่าคิดเองคือกฏไตรลักษณ์ เวลาผมคิดอกุศลจะคิดตั้งจิตท่องว่า เกิด ตั้งอยู่ ดับไป ทุกครั้งและหลังๆมานี้ก็ช่วยได้จริงๆครับ จิตจะไม่ว็อกแว็กแม้ว่าจะมีอารมณ์ของกิเลสนั้นแวะเวียนมาอีก ผมก็จะนึกถึงกฏไตรลักษณ์ก่อนและจะหยุดคิดได้เร็วขึ้นก่อนที่จะเกิดการปรุงแต่งกิเลสคิดลบหลู่ต่อไปให้มีบาปกรรม

พอเจอกระทู้นี้และผู้ชี้แนะได้ให้ข้อมูลเรื่องมารก็ขออนุโมทนาอย่างมากจริงๆ ได้ความรู้เรื่องมารและการเอาชนะมาร ปีหน้านี้อีกไม่กี่เดือนผมจะบวช ตั้งใจจะรักษาศีล 5 ให้ได้เพื่อจะได้นำกุศลนี้และการบวชส่งต่อให้พ่อแม่ที่ให้กำเนิด

ขออนุโมทนาครับ

 

ขอขอบคุณทุกท่านครับ ตอนนี้ถึงจะโดนอัดทางความคิดสารพัด ยังไงผมต้องผ่านให่้ได้ครับ อ้อมีอีกเรื่องครับ คือตอนนั่งสมาธิ มีใครก็ไม่รู้ชอบจุดประทัดกับเคาะตะเกียบ พอลืมตาก็ไม่เห็นมีอะไรกับไอ้อาการปวดเมื่อยตามตัวมันเป็นได้ทุกวัน

 

ใช้เมตตานำทางนะคะ เมตตาช่วยลดความหยาบกระด้างในใจ ของผู้้เริ่มที่จะทำความดี ค่อยๆ ปฏิบัติไปพร้อมเจริญเมตตา มารต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับคุณ จะค่อยๆ จางหายไปเองค่ะ เพราะจิตคุณจะเข้าสู่ความละเอียดอ่อนด้วยเมตตา

"เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก"