พื้นที่ปลอดภัยยามเกิดอภิมหันตภัย ในจังหวัดต่าง ๆ ของประเทศไทย

อำเภอสารภีตั้งอยู่ทางตอนกลางของจังหวัดเชียงใหม่
มีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอและจังหวัดใกล้เคียงดังนี้

• [FONT=&quot]ทิศเหนือ [FONT=&quot]ติดต่อกับ[/FONT][FONT=&quot]อำเภอเมืองเชียงใหม่[/FONT][/FONT]
• [FONT=&quot]ทิศตะวันออก [FONT=&quot]ติดต่อกับ[/FONT][FONT=&quot]อำเภอสันกำแพง[/FONT][/FONT]
• [FONT=&quot]ทิศใต้ [FONT=&quot]ติดต่อกับ[/FONT][FONT=&quot]อำเภอบ้านธิ[/FONT] [FONT=&quot]อำเภอเมืองลำพูน[/FONT][/FONT]
• ([FONT=&quot]จังหวัดลำพูน) [FONT=&quot]และ[/FONT][FONT=&quot]อำเภอหางดง[/FONT][/FONT]
• [FONT=&quot]ทิศตะวันตก [FONT=&quot]ติดต่อกับอำเภอหางดงและอำเภอเมืองเชียงใหม่[/FONT][/FONT]

[FONT=&quot]อำเภอสารภีแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 12 [FONT=&quot]ตำบล[/FONT] 105 [FONT=&quot]หมู่บ้าน[/FONT][/FONT]

 

วัดเจดีย์เหลี่ยม (กู่คำ) (พระเจดีย์บรรจุพระเกศาธาตุ, พระบรมธาตุคางเบื้องขวา)

​

ตั้งอยู่ในท้องที่หมู่ ๑ ตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี
จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่มาทาง
ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ระยะทางประมาณ ๕กิโลเมตร
การเดินทางเข้าถึงโดยเส้นทางถนนสายเกาะกลาง -
หนองหอย มีแนวเลียบบนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิง
ตั้งอยู่นอกเขตเมืองโบราณเวียงกุมกาม

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->[FONT=&quot]ตำนานพระพุทธเจ้าเลียบโลก[FONT=&quot]กล่าวว่า...
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จขึ้นไปทางทิศเหนือ
ไกลประมาณ [/FONT][FONT=&quot]๑๐[/FONT][FONT=&quot],[/FONT][FONT=&quot]๐๐๐ วา ทรงบรรลุถึงบ้านลัวะแห่งหนึ่ง
ทรงพบม่าน (พม่า) ผู้หนึ่ง[/FONT][FONT=&quot]นำหมากสดและพลูเหลืองซ้อนกัน
[/FONT][FONT=&quot]ถวายแก่พระพุทธเจ้าทรงรับแล้วก็เสวยหมากพลูนั้น
พระองค์โปรดคอมชีชา[/FONT][FONT=&quot] ([/FONT][FONT=&quot]บางฉบับว่าทีชา เข้าใจว่า
หมายถึงเสวย) เถิด[/FONT][FONT=&quot]” [/FONT][FONT=&quot]พระพุทธองค์ทรงรับแล้วก็เสวย
หมากพลูนั้น[/FONT][FONT=&quot]ม่านผู้นั้นก็นำข้าวน้ำมาถวายแก่พระพุทธเจ้า
[/FONT][FONT=&quot]ในเวลานั้นพระอาทิตย์กำลังจะเที่ยง[/FONT][FONT=&quot]

[/FONT][/FONT]

​

 

พระพุทธองค์ทรงประทับอยู่ที่นั้น ๑ วัน ตรัสแก่
พระอรหันต์และพระเจ้าอโศกราชว่า “เมื่อตถาคต
มาถึงที่นี้ มีม่านผู้หนึ่ง ได้นำเอาหมากสดกับพลู
ถวายตถาคต แล้วบอกว่า “ ท่านจงค้อมชีชาเถิด
ต่อไปภายภาคหน้า บ้านนี้จะได้ชื่อว่า “บ้านชีชาง”
ต่อไปจะแปรว่า “เวียงกุมกาม” พระอรหันต์และ
พระเจ้าอโศกราชจึงกราบทูลว่า “สถานที่นี้ควรตั้ง
ศาสนาไว้แล”แล้วกราบทูลขอพระเกศาธาตุจาก
พระพุทธองค์ พระพุทธองค์ก็ทรงใช้พระหัตถ์ขวา
ลูบพระเศียร ได้พระเกศาธาตุ ๑ องค์ทรงประทาน
แก่เขาทั้งหลาย คือแก่พระอรหันต์, พระเจ้าอโศกราช
และลัวะทั้งหลาย

 

[FONT=&quot]แล้วลัวะและม่านผู้นั้นก็ขุดหลุมลึก ๑๐๐ ศอก
กว้าง ๑๐๑ ศอก[FONT=&quot]อัญเชิญพระเกศาธาตุบรรจุใน
กระบอกไม้รวก นำเข้าใส่ในผอบทองคำใหญ่
๗ กำมือ[/FONT][FONT=&quot]อัญเชิญลงไปบรรจุในก้นหลุมที่ขุดนั้น[/FONT][FONT=&quot]

[/FONT][FONT=&quot]ม่านผู้นั้นสร้างพระเจดีย์ครอบก่อสูง ๒ ศอก
(บางฉบับว่า ๑๐๑ ศอก) เป็นที่หมายพระบรมธาตุ แล้ว
พระพุทธองค์ ทรงสั่งว่า[/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]เมื่อตถาคตปรินิพพานไปแล้ว
จงนำเอาธาตุกระดูกคางข้างขวาของตถาคต
มาบรรจุไว้ ณ ที่นี้เถิด[/FONT][FONT=&quot]”[/FONT][FONT=&quot]พระอรหันต์ พระเจ้าอโศกราช
พระอินทร์และพระอานนท์ นอนพักแรมอยู่ในสถานที่นั้น
(คือพระเจดีย์เหลี่ยม อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ปัจจุบัน)[/FONT][/FONT]
[FONT=&quot]
[/FONT]

 

วัดธาตุขาวต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่
(พระพุทธรูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ที่สะดือของพระพุทธรูป)

ตั้งอยู่ทางทิศใต้วัดเจดีย์เหลี่ยม (กู่คำ) ในเส้นทาง
ผ่าทางเข้าวัดพญามังราย-พระเจ้าองค์ดำ มาทางใต้
ในเขตพื้นที่ทางด้านตะวันตกของเวียงกุมกามและ
วัดปู่เปี้ย (ร้าง)ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ สภาพ
ปัจจุบันเป็นวัดร้าง และขึ้นบัญชีเป็นวัดของกรมศาสนา
สภาพแวดล้อมทั่วไปแวดล้อมด้วยสวนลำไยของ
เอกชนมีถนนบุญรักษ์สายใหม่ตัดผ่านด้านหน้าวัด

นมัสการพระธาตุ วัดธาตุขาว ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ - ข้อมูลพระบรมธาตุ - แดนนิพพาน
​

 

วัดช้างค้ำ หรือวัดการโถม, กานโถม, กาดโถม

วัดกานโถม (ช้างค้ำ) ตั้งอยู่หมู่ที่ ๑๑ บ้านช้างค้ำตำบล
ท่าวังตาล อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ขอบชายเนิน
ที่สูง ของกลุ่มบ้านเรือนที่อยู่อาศัยตอนกลาง ค่อนมาทาง
ตะวันออกเวียงกุมกาม ตั้งอยู่บนเส้นทางกึ่งกลาง
ระหว่างจ.เชียงใหม่ กับ จ.ลำพูน ปัจจุบันเป็นเขตท้องที่
หมู่ 11 ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เป็นปูชนียสถาน
ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจ.เชียงใหม่เพราะเป็นวัดที่
ประดิษฐานพระเจดีย์ อันเป็นที่บรรจุพระบรสารีริกธาตุ
ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป
สัมฤทธิ์นั่ง ที่หล่อโดยพระเจ้ามังรายมหาราช
(ชำรุดส่วนล่างตั้งแต่พระนาภีหรือสะดือลงมาและได้
บูรณะให้สมบูรณ์โดยใช้ปูนปั้นแล้ว) และยังเป็นสถานที่
สถิตของต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่อัญเชิญเมล็ดมาจาก
เมืองลังกาในครั้งโบราณกาลอีกด้วย นอกจากพระเจดีย์
และต้นศรีมหาโพธิ์อันศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังมีพระวิหาร
การโถมและหอพระเจดีย์เจ้ามังราย ซึ่งเป็นวิหารและ
หอดั้งเดิมที่มีประวัติอันยาวนานเจ็ดร้อยกว่าปีมาแล้ว

 

วัดพระนอนป่าเก็ดถี่ (พระเกศาธาตุในพระเศียรพระนอน)​

[FONT=&quot]อยู่ ต.ยางเนิ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ตรงข้ามกับโรงเรียนวชิราลัย

[/FONT]​

พระนอนป่าเก็ดถี่ (พระนอนแสนสุข)เป็นปูชนียสถาน
ของล้านนาไทย ที่มีพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า
สถิตย์อยู่เป็นศิลปะที่สร้างขึ้นในยุคทองของพระแม่เจ้าจามเทวี[FONT=&quot]
[FONT=&quot]
[/FONT]ตำนานพระเจ้าเลียบโลกกล่าวว่า เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า[/FONT]
ประทับอยู่ในเขตวันมหาวิหารทรงดำริถึงการปลง
พระชนมายุสังขาร และใกล้ที่จะเสด็จปรินิพพานแล้ว
เพื่อจะเห็นเป็นประโยชน์แก่สัตว์โลกแม้พระองค์จะอยู่ใน
ปัจฉิมวัยอันชราแล้วก็ตามก็ยังเสด็จมาเทศนาโปรด
สัตว์โลกอีกคือ เสด็จมาถึงสุวรรณภูมิเป็นครั้งสุดท้าย
ซึ่งโดยมากจะมาประทับนอนสีหไสยาสน์ พักผ่อน
พระวรกายเป็นแห่งๆ ไปเป็นนิมิตหมายว่า ถึงเวลาที่จะ
ดับขันธ์แล้ว ภาคสุดท้ายนี้จึงตรัสสั่งให้สร้างพระพุทธรูปนอน
เสียมากกว่าที่จะประทับรอยพระบาทและพระธาตุเจดีย์
ดังปรากฏมีพระพุทธไสยาสน์หลายแห่งจนถึงปัจจุบัน

​

 

[FONT=&quot]ความสำคัญของพระพุทธปฏิมากร[/FONT][FONT=&quot]พระนอนป่าเก็ดถี่[/FONT][FONT=&quot]มีดังนี้[/FONT]

1.เป็นปูชนียสถานสำคัญของลานนาไทย ที่มี
พระเกษาธาตุของพระพุทธเจ้าสถิตย์อยู่
2.มีเขี้ยวยักษ์ฝังอยู่ที่หมอนพระ ถ้าคนใดไม่เป็น
คนบริสุทธิ์หมดจดคดโกง ลักลูกเมียคนอื่น เป็นผีปอบ
ผีกระสือเป็นต้น เข้าไปในวิหาร จะมีอากัปกิริยากระสับ
กระส่ายกว่าคนอื่น โบราณว่ายักษ์ที่รักษาทำให้เป็น
3.มีศิลปที่สร้างขึ้น ในยุคทองของพระนางจามเทวี
ปรากฎฝีมืออยู่ พระมีใบหน้ายิ้มงาม ปรากฎเหมือน
หญิงสาว ใครได้เห็นแล้วก็อิ่มอกอิ่มใจ เหมือนได้โชคลาภ
จนทำให้บางคนหลง(เมาพระ) ถึงกับขอโชคลาภก็เคยมี
4.เป็นพระนอนที่ใหญ่แห่งเดียว ที่นอนในท่าปรินิพพาน
จนครั้งหนึ่งพระราชชายาเจ้าดารารัศมีเสด็จมนมัสการแล้ว
ประทานชื่อว่า พระนอนแสนสุข

http://www.theyang.go.th/tour.php?id=69

 

อำเภอสันกำแพง

ลักษณะภูมิประเทศ สภาพพื้นที่เป็นที่ราบลุ่มกว้าง
มีลำน้ำที่สำคัญ ลำน้ำแม่ออน ลำน้ำแม่ปูคา ลำน้ำแม่กวง
เป็นแหล่งน้ำสำคัญ
อำเภอสันกำแพงอยู่ทางทิศตะวันออกของอำเภอ
เมืองเชียงใหม่ ประมาณ 13 กิโล มีอาณาเขตติดต่อ
กับอำเภอและจังหวัดใกล้เคียงดังนี้

• ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอดอยสะเก็ดและอำเภอสันทราย
• ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอแม่ออน
• ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอแม่ออน และอำเภอบ้านธิ (จังหวัดลำพูน)
• ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอสารภีและอำเภอเมืองเชียงใหม่

อำเภอสันกำแพงแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 10 ตำบล 100 หมู่บ้าน

 

วัดพระนอนแม่ปูคา ( พระเกศาธาตุอยู่ในเจดีย์ )

ตั้งอยู่เลขที่ ๖๔ หมู่ ๕ ตำบลต้นเปา อำเภอสันกำแพง
จากตำนานพระนอนปูคา ปรากฏในธรรมเทศนาอักษร
ล้านนา ชื่อ “ตำนานพระป้าน” กล่าวว่า...
“พระพุทธเจ้าก็เสด็จลีลาไปถึงสถานที่แห่งหนึ่ง
พระอาทิตย์จวนอัสดงคตแล้วพระองค์ทรงทอด
พระเนตรเห็นชาวบ้านผู้หนึ่งกำลังขึ้นคันนา
(คำเมืองเรียกป้านคันนา) อยู่ พระองค์ก็เข้าไปยืน
อยู่ใกล้ชาวนาผู้นั้น แล้วจึงตรัสถามว่า ดูกรอุบาสก
ท่านกำลังทำอะไรชาวนาผู้นั้นเงยหน้าขึ้นเห็น
พระพุทธเจ้าเช่นนั้น ก็เข้าใจว่าเป็นยักษ์ก็ตกใจกลัว
มือก็ถือด้ามพลั่วหวาดกลัวจนตัวสั่น พระองค์จึงตรัสว่า
อย่าอุบาสกอย่ากลัวเรา เราคือพระพุทธเจ้าชาวนาผู้นั้น
รู้ว่าเป็นพระพุทธเจ้าจริงแล้ว จึงกราบลงนอบน้อม
นมัสการด้วยความเคารพยิ่ง[FONT=&quot]

[/FONT]

 

พระพุทธเจ้าตรัสว่า ในคืนวันนี้เราตถาคตจักนอนอยู่ที่นี่
ชาวนาผู้นั้นประนมมือไว้พระพุทธเจ้าแล้วทูลว่า ข้าแด่
พระพุทธเจ้าข้า ขออาราธนาไปพักผ่อนไปพักนอนใน
กระท่อมของข้าพระพุทธเจ้านั้นเถิด พระพุทธเจ้าจึง
ตรัสว่า เราตถาคตจักพักนอนที่คันนานี้ไม่ไปที่อื่น
ชาวนาผู้นั้นได้ยินพระพุทธเจ้าตรัสเช่นนั้นจึงรีบไปดึง
เอาหญ้าคาที่มุงกระท่อมมาปูลาดคันนา สำหรับ
พระพุทธองค์ พระพุทธเจ้าก็ประทับแรมที่คันนาแห่งนั้น
ชาวนาผู้นั้นก็เข้าไปกราบแล้วกราบทูลพระพุทธเจ้าว่า
ข้าแด่พระพุทธเจ้าอย่าได้รีบไปเสด็จไปที่อื่น ขอทรง
รับข้าวบิณฑบาตของข้าพระพุทธเจ้าเสียก่อนเถิด
พอถึงเวลารุ่งแล้ว ชาวนาจัดแจงนำข้าวน้ำโภชนาหาร
มาใส่บาตรถวายแด่พระพุทธเจ้า แล้วพระองค์ได้
ประทานพระเกศาให้ ๑ เส้น”

 

อำเภอแม่ออน

เป็นอำเภอขนาดเล็กในจังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่มีทั้ง
ภูเขาและที่ราบสำหรับทำเกษตรกรรม นับเป็นพื้นที่
รอบนอกสุดของเมืองเชีอำเภอแม่ออนอยู่ทางตะวันออก
ของตัวเมืองเชียงใหม่ มีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอ
และจังหวัดใกล้เคียงดังนี้

• [FONT=&quot]ทิศเหนือ [FONT=&quot]ติดต่อกับ[/FONT][FONT=&quot]อำเภอดอยสะเก็ด[/FONT] [FONT=&quot]และ[/FONT][/FONT]
• [FONT=&quot][FONT=&quot]อำเภอเมืองปาน[/FONT] ([FONT=&quot]จังหวัดลำปาง[/FONT])[/FONT]
• [FONT=&quot]ทิศตะวันออก [FONT=&quot]ติดต่อกับอำเภอเมืองปาน (จังหวัดลำปาง)[/FONT][/FONT]
• [FONT=&quot]ทิศใต้ [FONT=&quot]ติดต่อกับอำเภอเมืองปาน[/FONT] [FONT=&quot]อำเภอเมือง[/FONT][/FONT]
• [FONT=&quot]ลำปาง ([FONT=&quot]จังหวัดลำปาง)[/FONT] [FONT=&quot]อำเภอแม่ทา[/FONT] [FONT=&quot]อำเภอ[/FONT][/FONT]
• [FONT=&quot]เมืองลำพูน [FONT=&quot]และ[/FONT][FONT=&quot]อำเภอบ้านธิ[/FONT] ([FONT=&quot]จังหวัดลำพูน[/FONT])[/FONT]
• [FONT=&quot]ทิศตะวันตก [FONT=&quot]ติดต่อกับ[/FONT][FONT=&quot]อำเภอสันกำแพง[/FONT][FONT=&quot]และอำเภอดอยสะเก็ด[/FONT][/FONT]

 

วัดพระธาตุดอยผาตั้ง(พระเกศาธาตุ)
​

ตั้งอยู่หมู่ที่ ๙ ตำบลออนกลาง ระยะทางห่างจาก
กิ่งอำเภอแม่ออน ประมาณ ๓ กิโลเมตร แม่ออนอยู่ห่าง
จากตัวเมืองเชียงใหม่ไปทางทิศตะวันออกตาม
เส้นทางหลวงหมายเลข ๑๐๐๖ (เชียงใหม่ –
สันกำแพง - ออนหลวย) และตามเส้นทางหลวง
หมายเลข ๑๓๑๗ เชียงใหม่ - บ้านสหกรณ์มีพื้นที่
ทั้งหมดประมาณ ๔๙๒.๘๙๖ ตารางกิโลเมตร หรือ
ประมาณ ๓๐๘,๐๖๐ ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา
อาณาเขตด้านทิศเหนือติดต่อกับอำเภอดอยสะเก็ด
จังหวัดเชียงใหม่ ทิศตะวันออกติดต่อกับอำเภอเมืองปาน
และอำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ทิศใต้ติดต่อกับ
อำเภอแม่ทาและอำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ส่วน
ทิศตะวันตกติดต่อกับอำเภอสันกำแพง จังหวัด
เชียงใหม่ กิ่งอำเภอแม่ออนค่ะ
​

 

วัดพระธาตุดอยผาตั้ง เป็นวัดเก่าแก่ถือว่าเป็นวัดคู่
บ้านคู่เมืองของแม่ออน (เดิมเรียกว่า วัดม่อนธาตุ)
ตั้งอยู่เลขที่ ๑๒๓ หมู่ ๙ บ้านออนกลางใต้ ตำบล
ออนกลาง กิ่งอำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่
เริ่มสร้างพ.ศ.ใดไม่ปรากฏหลักฐาน พระบรมธาตุเจดีย์
องค์เดิมนั้นเป็นองค์เก่าแก่ เป็นที่บรรจุพระเกศาธาตุ
ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภายหลังครูบา
เจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย ได้เดินทางมา
ตั้งหลักบูรณปฏิสังขรณ์เมื่อปีพ.ศ. ๒๔๗๒ โดย
ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้นำศรัทธาสานุศิษย์ทั้งบรรพชิต
และคฤหัสถ์ช่วยกันบูรณปฏิสังขรณ์

http://www.pramuangnue.com/main/board/reply.php?t=235

 

[FONT=&quot]ถ้ำเมืองออน[/FONT]

[FONT=&quot]การเดินทาง[FONT=&quot] จากทางหลวง เส้นสันกำแพง - น้ำพุร้อน
ห่างจากอำเภอ สันกำแพง[/FONT][FONT=&quot]ประมาณ [/FONT]17 [FONT=&quot]กิโลเมตร
มีทางแยกเข้า ถนนคอนกรีต ระยะทางประมาณ [/FONT]
1.5 [FONT=&quot]กิโลเมตร[/FONT][/FONT]ชื่อเดิมของถ้ำเมืองออนชื่อ “ถ้ำดอยศิลา”
ตั้งอยู่ที่ตำบลหมู่บ้านสหกรณ์ หมู่ที่ 2 อ. แม่ออน
จ. เชียงใหม่ เป็นถ้ำขนาดใหญ่บนเทือกเขาหินปูนโดด ๆ
โดยรอบเป็นเทือกเขาที่มีโครงสร้างหินหลายชนิด
ส่วนใหญ่เป็นหินชั้น และหินแปร ทางเข้าถ้ำเป็น
บันไดลึกลงสู่เบื้องล่าง มีโถงถ้ำขนาดใหญ่มีหินงอก
หินย้อยที่งดงาม ตรงกลางโถงถ้ำเป็นหินงอก
"พระธาตุนมผา " เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำถ้ำ ผนังถ้ำ
ประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิและพระนอน
ภายในถ้ำแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ปฎิบัติธรรมวิปัสสนา
กัมมัฏฐานของครูบาศรีวิชัย

 

ภายในถ้ำบรรจุพระเกศาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ซึ่งบรรจุอยู่ในพระธาตุ เรียกว่า “พระธาตุนมผา”
นับเป็นพระธาตุที่แปลกประหลาดและสวยงามมาก
ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและเป็นที่เดียวในโลก

ตามตำนานกล่าวว่า ครั้นเมื่ออกพรรษาแล้วพระพุทธเจ้า
จะนำเอาพระภิกษุออกเดินธุดงค์และเผยแพร่คำสั่งสอน
เมื่อผ่านมายังเมืองหริภุญชัย (จ.ลำพูน) แล้วขึ้น
ทางเหนือมายังถ้ำดอยศิลาแห่งนี้ เมื่อพระพุทธเจ้า
นำเอาพระภิษุขึ้นมายังดอยถ้ำ ก็สถิตนั่งอยู่เหนือถ้ำ
ดอยศิลานั้น ได้มีนาคราจาหรือพญานาคที่สิงสถิต
อยู่ถายในถ้ำได้ขึ้นไปสังเกตุดูดอยถ้ำศิลา ก็ได้เห็น
พระพุทธเจ้าพำนักอยู่บนดอย

 

พญานาคจึงได้แปลงกายเป็นมนุษย์แล้วได้นำเอา
ผลไม้ และน้ำผึ้งป่าถวายแด่พระพุทธเจ้า เมื่อท่าน
รับเอาแล้ว ก็ถวายพรแก่พญานาค พญานาคมีความปิติ
ยินดี จึงขอเอาเกศาธาตุพระพุทธเจ้ามาตั้งไว้ใน
พระธาตุนมผา เพื่อเป็นที่กราบไหว้ สักการะบูชา
ภายในถ้ำ

ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2473 ท่านพระครูบาศรีวิชัย ได้
ธุดงค์มาพบถ้ำดอยศิลาแห่งนี้ จึงได้ริเริ่มสร้างถนน
และบันไดขึ้นไปสู่ปากถ้ำ และได้สร้างพระพุทธรูป
“ทันใจ” ประดิษฐานอยู่บนดอยถ้ำศิลาเพื่อให้
พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้บูชา พร้อมกับเปลี่ยนชื่อ
จาก “ถ้ำดอยศิลา” เป็น “ถ้ำเมืองออน” ตราบจนทุกวันนี้

http://1081009.tourismthailand.org/trip/dcp?id=15690
[FONT=&quot]http://www.dooasia.com/trips/detail_recommend_admin[/FONT]

 

จุดที่ควรเฝ้าระวัง

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->[FONT=&quot]น้ำพุร้อนสันกำแพง [/FONT]
เป็นสวนดอกไม้ร่มรื่นมีบ่อน้ำแร่ห้องอาบน้ำและบ้านพัก
ได้รับการปรับปรุงโดยความร่วมมือระหว่างการท่องเที่ยว
แห่งประเทศไทยและโครงการหมู่บ้านสหกรณ์
สันกำแพงเพื่อให้เป็นสถานที่พักผ่อนแห่งใหม่ในเขต
อ.สันกำแพงการเดินทางจากตัวเมืองไปยังบ่อน้ำพุร้อน
ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 34 กม. สามารถไปได้
2 ทางด้วยกัน คือเส้นทางเชียงใหม่-สันกำแพง-
สถานีเพาะพันธุ์กล้าไม้สัก-น้ำพุร้อน (เส้นทางนี้จะ
ผ่านถ้ำเมืองคอนซึ่งอยู่ห่างจากน้ำพุร้อน 4 กม.) หรือ
เส้นทางเชียงใหม่-สันกำแพง-หมู่บ้านออนหลวย-
น้ำพุร้อน หากนักท่องเที่ยวประสงค์จะเดินทางไป
โดยรถประจำทางก็สามารถทำได้โดยขึ้นรถจากสถานี
ขนส่งช้างเผือก ไปยังสันกำแพงและเช่าเหมารถสองแถว
จากสันกำแพงไปน้ำพุร้อนราคาประมาณ 200 บาทต่อคัน
นอกจากนี้ยังมีบริการที่พักเต็นท์ แค้มป์ปิ้งห้องอาบน้ำแร่
ซึ่งสามารถติดต่อจองล่วงหน้าได้ที่
ธุรกิจน้ำพุร้อนสันกำแพง หมู่บ้านสหกรณ์
อ.สันกำแพงเชียงใหม ่50130 หรือ โทร 01-510041

น้ำพุร้อนสันกำแพง เชียงใหม่ | E-magazine Travel

[FONT=&quot]รุ่งอรุณน้ำพุร้อน [/FONT]
เป็นสวนดอกไม้นานาพรรณประดับด้วยก้อนหินขนาดใหญ่
รูปร่างเหมือนสัตว์ชนิดต่างๆมีบ่อน้ำแร่อุณหภูมิสูงถึง
105^o ซ มีห้องอาบน้ำแร่และบ้านพักการเดินทางใช้
เส้นทางเดียวกับน้ำพุร้อนสันกำแพง

 

อำเภอดอยสะเก็ด

เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ทางตอนกลาง
ของจังหวัดและเป็นอำเภอที่มีความเจริญทางเศรษฐกิจ
ในลำดับต้นๆ ของจังหวัดเชียงใหม่เนื่องจากเป็น
เส้นทางสำคัญที่ผ่านจากจังหวัดเชียงใหม่ไปยังจังหวัดเชียงราย

อำเภอดอยสะเก็ดตั้งอยู่ทางตะวันออกของจังหวัดเชียงใหม่
มีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอและจังหวัดใกล้เคียงดังนี้

• ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอแม่แตงและอำเภอพร้าว
• ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอเวียงป่าเป้า (จังหวัดเชียงราย)
• และอำเภอเมืองปาน (จังหวัดลำปาง)
• ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอแม่ออนและอำเภอสันกำแพง
• ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอสันทราย

อำเภอดอยสะเก็ดแบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 14 ตำบล 112 หมู่บ้าน

 

วัดพันหลัง
ต.สำราญราษฎร์ อ.ดอยสะเก็ด เป็นวัดที่มีความเกี่ยวข้อง
กับชีวประวัติของครูบาเจ้าศรีวิชัยนักบุญแห่งล้านนา
เป็นวัดที่ครูบาเจ้าศรีวิชัยดำริให้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์
ในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ให้สร้างวิหารใหม่ขึ้นมาแทน
วิหารไม้หลังเก่าหลังเก่าที่ชำรุทรุดโทรม