พื้นที่ปลอดภัยยามเกิดอภิมหันตภัย ในจังหวัดต่าง ๆ ของประเทศไทย

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย truethailove, 27 พฤศจิกายน 2011.

  1. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    [FONT=&quot]14. [FONT=&quot]วัดเจดีย์เจ็ดยอด อ.เมือง จ. เชียงใหม่[/FONT][/FONT]

    วัดโพธารามมหาวิหาร เป็นวัดพระอารามหลวง
    ชั้นตรี ชนิดสามัญ (เดิมชื่อวัดเจดีย์เจ็ดยอด หรือ
    วัดเจ็ดยอด) ตั้งอยู่ที่
    ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง
    เชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. 1998 พระเจ้าติโลกราช
    กษัตริย์องค์ที่
    11 แห่งราชวงศ์เม็งราย ทรงสร้าง
    วัดโพธารามมหาวิหาร สร้างด้วย
    ศิลาแลงประดับ
    ลวด
    ลายปูนปั้น เป็นเจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย
    เป็นวัดที่พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์มังรายทรง
    สถาปนาขึ้น และยังใช้เป็นสถานที่ในการทำ
    สังคายนาพระไตรปิฎก ฉบับภาษาล้านนาขึ้น

    วัดเจ็ดยอด (พระอารามหลวง) ตั้งอยู่ที่ ตำบล
    ช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

    การเดินทางมายังวัดเจ็ดยอด มุ่งตรงจากถนนสายหลัก
    จากลำปางมุ่งหน้าเข้าเชียงใหม่ด้วยถนนซูเปอร์ ไฮเวย์
    (เชียงใหม่-ลำปาง) ขับตรงมาเรื่อยๆ จะเห็นสี่แยก
    ไฟแดงเจ็ดยอด ก่อนถึงสี่แยกรินคำ จะเห็นวัดเจ็ดยอด
    อยู่ขวามือ เมื่อเข้ามาในวัดแล้วจะมีป้ายบอกทางไปลานจอดรถ


    http://www.dooasia.com/trips/detail_recommend_admin.php?id=338
    http://th.wikipedia.org/wiki/
    http://www.oknation.net/blog/print.php?id=337266
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • wat-7yod.jpg
      ขนาดไฟล์:
      0 bytes
      เปิดดู:
      171
  2. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    [FONT=&quot]15. วัดร่ำเปิง ต.สุเทพ อ.เมือง ( พระเขี้ยวแก้ว )[/FONT]

    วัดร่ำเปิง หรือวัดตโปทาราม
    ตั้งอยู่เลขที่ ๑
    บ้านร่ำเปิง หมู่ที่ ๕ ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง
    โดยตั้งอยู่ทางทิศใต้วัดอุโมงค์เถรจันทร์
    (สวนพุทธธรรม) มีถนนแยกจากถนนสายเชียงใหม่-
    ดอยสุเทพ ไปทางทิศใต้เข้าไปประมาณ ๒ กิโลเมตร
    ถนนที่ผ่านวัดร่ำเปิงนี้เลยไปถึงวัดพระธาตุดอยคำ
    วัดร่ำเปิงอยู่ทางทิศตะวันออกของถนน หันหน้าไป
    ทางทิศตะวันออก หรือมาทางด้านหลังมหาวิทยาลัย
    เชียงใหม่ ระหว่างถนนคันคลองชลประทานและ
    ถนนอุโมงค์-โป่งน้อย




    http://www.dannipparn.com/thread-[FONT=&quot]205-1-1.html[/FONT]
    http://www.oknation.net/blog/print.php?id=337266
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    [FONT=&quot]16. [FONT=&quot]พระธาตุวัดโลกโมฬี อ.เมือง[/FONT][/FONT]

    [FONT=&quot]วัดโลกโมฬี อยู่ติดถนนมณีนพรัตน์ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง
    [FONT=&quot]บริเวณด้านนอกคูเมืองเชียงใหม่ ช่วงระหว่างแจ่งหัวริน
    และประตูช้างเผือก ด้านหน้าจะเป็นถนนติดคูเมือง[/FONT]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]การบูรณะครั้งใหญ่ในปี พ.ศ.2545 [FONT=&quot]ได้มีการเททอง
    หล่อรูปเหมือนพระนางจิรประภามหาเทวี[/FONT] [FONT=&quot]และได้
    บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่เศียรพระประธาน[/FONT]
    [/FONT]

    http://www.lannatalkkhongdee.com/templeDetail.php?id=Temp[FONT=&quot]0800010[/FONT]
     
  4. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    อำเภอสันทราย

    การคมนาคม
    ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 10 อำเภอสันทรายมีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอใกล้เคียงดังนี้

    อำเภอสันทรายแบ่งเขตการปกครองออกเป็น [FONT=&quot]12 ตำบล 117 หมู่บ้าน [/FONT]
     
  5. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    [FONT=&quot]วัดดอยแท่นพระผาหลวง
    [FONT=&quot]สร้างมาเมื่อสมัยพระเจ้ากือนา นับได้หลายร้อยปี[/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]และยังมีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าด้วย
    [FONT=&quot]
    เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนในตำบล [/FONT]
    [/FONT]

    [FONT=&quot]การเดินทางไปวัดดอยแท่นพระผาหลวง[FONT=&quot]
    วัดนี้ตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้านโปง ต.ป่าไผ่ อ.สันทราย
    [/FONT]
    [FONT=&quot]จากถนนเชียงใหม่-พร้าว ทางเข้าหน้าตลาดแม่โจ้
    [/FONT]
    [FONT=&quot]หรือประมงน้ำจืดและห่างจากหมู่บ้านโปงประมาณ
    ๕ กิโลเมตร[/FONT]
    [FONT=&quot]ตั้งอยู่บนเขาไม่สูงนัก และเป็นวัดที่มี
    ป่าไม้อุดมสมบูรณ์[/FONT]
    [FONT=&quot]มีความวิเวกสันโดษเหมาะแก่การปฏิบัติธรรม[/FONT]
    [/FONT]

    [FONT=&quot]ทางเข้า/ออก[FONT=&quot]วัดดอยแท่นพระผาหลวง อยู่ตรงข้าม
    กับตลาดห้วยโจ้ อ.แม่โจ้ จ.เชียงใหม่[/FONT][FONT=&quot]ทางไปทางเดียวกับ
    โครงการพระราชดำริ (บ้านโปง) ค่ายแทนคุณ
    ต.ป่าไผ่[/FONT][FONT=&quot]มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ให้ขับรถเลี้ยวซ้ายไปตาม
    ป้ายชี้ทางไปวัดดอยแท่นพระ[/FONT][FONT=&quot]จากจุดทางเข้า/ออก
    ไปถึงวัดดอยแท่นพระ ระยะทาง ๑๒ กิโลเมตร [/FONT]
    [/FONT]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> วัดพระธาตุจอมกิตติ


    วัดพระธาตุจอมกิตติ หมู่ที่ 9 ตำบลแม่แฝก อำเภอสันทราย

    เป็นพระเจดีย์รูปทองปราสาท ภายในบรรจุพระบรมธาตุ
    สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมล้านนา
    ก่อด้วยอิฐถือปูน ตั้งอยู่บนยอดเขาเล็กๆ

    แม่แฝก อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ นับเป็นพระเจดีย์
    ที่สำคัญและเก่าแก่ของตำบลแม่แฝก ไม่มีหลักฐานชัดเจน
    ว่าพระธาตุจอมกิตติสร้างในสมัยใด และใครเป็นผู้สร้าง
    จากการบอกเล่า และยืนยันของพระครูสุธรรมานุศาสก์
    ท่านบอกว่า พระธาตุจอมกิตติสร้างมาประมาณ 800 ปี

    ก็เท่ากับว่าสร้างในช่วงพุทธศตวรรษที่ 17 ก่อนเมืองเชียงใหม่
    บริเวณพระธาตุจอมกิตติ มีพระวิหาร พระอุโบสถ หอระฆัง
    พระพุทธไสยาสน์ ลานชมวิว บันไดขึ้นสู่บริเวณวัด และมี

    รูปปั้นครูบาแหว้น (พระครูวินิจคุณากร) และครูบาชุ่ม โพธิโก
    ผู้ดูแลและบูรณะพระธาตุจอมกิตติ วัดพระธาตุมีสำนักปฏิบัติธรรม เป็นสถานที่สงบเหมาะสำหรับผู้ปฏิบัติธรรม
    และนักท่องเที่ยวที่แสวงหาความสงบทางใจ



    http://www.maefag.go.th/2011/index.php?pages=travel_detail&id=13




     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • wat-jomkiti.png
      ขนาดไฟล์:
      0 bytes
      เปิดดู:
      169
  7. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    อำเภอแม่ริม เป็นอำเภอหนึ่งในเขตปริมณฑลของ
    นครเชียงใหม่
    ที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
    มีความพร้อมทุกๆด้าน
    จนเป็นอำเภอขนาดใหญ่ของ
    จังหวัดเชียงใหม่ เป็นอำเภอ
    ที่ตั้งของศูนย์ราชการ
    ที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ มี
    การขยายตัวของ
    ชุมชนเมือง ที่รองรับความเจริญเติบโตของ
    นครเชียงใหม่
    ทำให้อำเภอแม่ริม มีสถานะเทียบเท่าจังหวัด
    เชื่อมต่อ
    กับนครเชียงใหม่ ปัจจุบันมีการขยายตัวของการท่องเที่ยว
    ทั้งโรงแรม รีสอร์ท ที่ถือว่ามากที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่
    อีกทั้งอำเภอแม่ริม เป็นอำเภอที่รองรับความเจริญของ
    นครเชียงใหม่
    เพื่อขยายไปยังศูนย์กลางความเจริญ
    ทางตอนเหนือของ
    จังหวัดเชียงใหม่ และเป็นทางผ่าน
    เพื่อไปยังอำเภอปาย
    ทำให้อำเภอแม่ริมมีสภาพ
    เศรษฐกิจดี มีการคมนาคมที่คับคั่ง
    รองจากอำเภอ
    หางดง และเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ใกล้เมือง
    เชียงใหม่มากที่สุด
    ที่ตั้งและอาณาเขต อำเภอแม่ริมมีอาณาเขตติดต่อ
    กับอำเภอและจังหวัดใกล้เคียงดังนี้


    อำเภอแม่ริมแบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 11 ตำบล 92 หมู่บ้าน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • maerim1.gif
      ขนาดไฟล์:
      0 bytes
      เปิดดู:
      173
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 ธันวาคม 2011
  8. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    วัดพระพุทธบาทสี่รอย ต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

    เมื่อครั้งสมัยพุทธกาลองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ในศาสนาปัจจุบันนี้ ได้เสด็จจาริกประกาศธรรม
    และ
    โปรดเวไนยสัตว์มายังปัจจันตประเทศ ( ประเทศไทย
    ปัจจุบัน )
    จนกระทั่งมาถึงเทือกเขาทางตอนเหนือของ
    ประเทศชื่อ
    เขาเวภารบรรพต ซึ่งขณะนั้นได้เสด็จ
    พร้อมกับพุทธสาวก
    500 องค์และได้แวะฉันจังหันอยู่
    บนเขาเวภารบรรพตแห่งนี้
    เมื่อพระพุทธองค์ฉันจังหันเสร็จ
    ขณะประทับอยู่ที่นั้นก็ได้ทราบด้วยญาณ
    สมาบัติว่า
    บนเทือกเขาแห่งนี้ได้มีรอย
    พระพุทธบาทของ
    พระพุทธเจ้ามาประทับอยู่บนก้อนหินใหญ่ คือ

    พระพุทธเจ้าที่มาตรัสรู้ภัทรกัลป์นี้แล้วพระพุทธองค์
    ก็ทรงเล็งดูรอยพระ
    พุทธบาทแห่งพระพุทธเจ้าทั้ง 3
    พระองค์ คือ พระพุทธเจ้ากกุสันธะพระพุทธเจ้าโกนาคมนะ
    พระพุทธเจ้ากัสสปะ
    อันมีในที่นี้พุทธสาวกทั้งหลายมี
    พระสารีบุตรเป็นประธาน
    เมื่อเห็นเช่นนี้จึงทูลถามว่า
    พระพุทธองค์ทรงเล็งดูด้วยเหตุใด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • wat4roi1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      0 bytes
      เปิดดู:
      173
    • wat4roi2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      0 bytes
      เปิดดู:
      166
  9. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    พระพุทธองค์ตอบว่า ดูก่อนท่านทั้งหลายสถานที่แห่งนี้
    แม้นว่าพระพุทธเจ้าทั้ง
    3 พระองค์ที่ ล่วงมาแล้วใน
    อดีตกาล
    ก็มาประทับรอยพระบาทไว้ ณ ที่นี้
    ทุกๆพระองค์ และแม้นว่าพระศรีอาริยเมตไตร
    ก็จัก
    เสด็จมาประทับรอยพระบาทไว้ ณ ที่นี้ และ
    จักประทับ
    รอยพระบาทสี่รอยนี้ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียว
    ( คือ
    ประทับลบทั้งสี่รอยให้เหลือรอยเดียว )
    เมื่อพระพุทธองค์ตรัสแก่สาวกทั้งหลายเสร็จแล้ว
    พระ
    องค์ก็เสด็จไปประทับรอยพระบาทซ้อนรอย
    พระบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง
    3 พระองค์จึงมีรอย
    พระพุทธบาท ของพระพุทธเจ้า
    4 พระองค์ จึงกําเนิด
    เป็นพระ
    พุทธบาทสี่รอยเมื่อองค์สมเด็จพระสัมมา
    สัมพุทธเจ้าของเราประทับรอยพระบาทซ้อนรอย
    พระบาท
    ของพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์นั้นแล้ว
    ก็ทรงอธิฐานว่า
    ในเมื่อกูตถาคตนิพพานไปแล้ว
    เทวดาทั้งหลายก็จักนําเอาพระ
    ธาตุของกูตถาคม
    มาบรรจุไว้ที่รอยพระบาทที่นี่
     
  10. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    [FONT=&quot]รอยพระพุทธบาท 5 [FONT=&quot]แห่งที่ปรากฏในพระไตรปิฎกประกอบด้วย
    [/FONT]
    1.
    [FONT=&quot]สุวัณณมาลิก (ลังกา)[/FONT]
    2.
    [FONT=&quot]เขาสัจจพันธ์คีรี (สระบุรี ประเทศไทย)[/FONT]
    3.
    [FONT=&quot]เขาสุมนกูฏ (ลังกา)[/FONT]
    4.
    [FONT=&quot]แม่น้ำนัมมทานที (อินเดียหรือพม่า)[/FONT]
    5.
    [FONT=&quot]โยนกปุระ (ดินแดนทางภาคเหนือของไทย)
    [/FONT]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]พระคุณเจ้า[FONT=&quot]หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง
    จ.เชียงใหม่[/FONT][FONT=&quot]พระผู้ที่พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต[/FONT][FONT=&quot]
    พระบุพพาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐานแห่งยุค
    ก็ยังได้เคยพยากรณ์ไว้ [/FONT][FONT=&quot]เมื่อครั้งที่หลวงปู่สิมยังเป็น
    สามเณรอยู่ว่า [/FONT][FONT=&quot]เณรสิมนี้[/FONT][FONT=&quot]ยังเป็นดอกบัวที่ยังตูมอยู่
    ถ้าเบ่งบานเมื่อได้ จะหอมกว่าหมู่[/FONT][FONT=&quot]เมื่อได้เล็งญาณ
    พิจารณาการทั้งสิ้นแล้ว[/FONT]
    [/FONT][FONT=&quot]จึงได้กล่าวสรุปปิดท้ายไว้
    ก่อนละสังขารไม่นานว่า
    [/FONT]

     
  11. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    พระบาทสี่รอยนี้ เป็นที่พระพุทธเจ้าเสด็จมา
    เหยียบรอยพระบาทไว้เองจริงๆ....


    รอยพระบาทที่จังหวัดสระบุรีเป็นรอยพระบาทของ
    พระพุทธเจ้าโคดมเพียงพระองค์
    เดียว และที่สำคัญ
    อย่างยิ่งที่สุดก็คือ
    การที่ได้ไปกราบไปไหว้ไปทำบุญ
    นั่งสมาธิ สวดมนต์ภาวนาที่พระบาทสี่รอยนี้ จะทำให้
    ได้บุญเพิ่มมากขึ้นถึง
    4 เท่าเลยทีเดียวนะ..!!!!!

    พระพุทธบาทสี่รอยนั้นเป็นรอยพระบาทของ
    พระพุทธเจ้าถึง
    4 พระองค์ ไหว้พระบาทสี่รอย
    ครั้งหนึ่ง
    ก็เท่ากับได้ไหว้พระพุทธเจ้ารวดเดียวถึง
    4 พระองค์นั่นแหละ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • wat4roi3a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      0 bytes
      เปิดดู:
      164
  12. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    การเดินทาง พระพุทธบาทสี่รอย ตั้งอยู่ที่อำเภอแม่ริม
    สำหรับใครที่จะเดินทางไปยังวัดก็ให้ใช้เส้นทาง
    เชียงใหม่ แม่ริม
    จากนั้นให้สังเกตป้ายข้างทาง จะมี
    ป้ายบอกว่าวัดพระพุทธบาทสี่รอย ระยะทาง
    32 กิโลเมตร
    ขับตรงไปเรื่อย ๆ จนถึงตำบลสะลวง เลี้ยวซ้ายไป
    ตามถนนลาดยาง
    จนถึงวัดสันป่าตึง จะมีลูกศรชี้ทาง
    ไปให้เลี้ยวซ้าย ผ่านวัด ผ่านหมู่บ้าน
    จากนั้นก็จะเจอ
    เส้นทางบังคับไม่ต้องกลัวหลง
    พอพ้นเขตหมู่บ้าน
    ไปหน่อยเดียวก็เข้าเขตแม่ริมใหม่ ทีนี้จะเป็นถนนลูกรัง

    ระยะทางที่วิ่งมาตามถนนลาดยางอันขรุขระนั้น
    ประมาณ
    14 กิโลเมตรและหลังจากนั้นจะลุยขึ้นเขา
    ลูกเดียวอีกประมาณ
    18 กิโลเมตรขอบอกว่าต้องขับ
    ผ่านเขา คดเคี้ยวพอสมควร และที่สำคัญไม่มีไฟฟ้า
    ขาไปไม่เท่าไหร่ แต่ขากลับนี่สิ ถ้ากลับลงมาตอนมืด
    ต้องใช้ความระมัดระวัง

    [FONT=&quot]http://www.kammatan.com/board/index.php?topic=85.0[/FONT]
    [FONT=&quot]http://www.phuttawong.net/index.aspx?ContentID=ContentID-051227111901197[/FONT]
    นมัสการรอยพระพุทธบาทที่วัดพระพุทธบาทสี่รอย
     
  13. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    หมายเหตุ เส้นทางที่จะขึ้นเขาไปยังวัดพระพุทธสี่รอย
    เป็นเส้นทางสูงชัน และต้องระมัดระวังในการขับรถ เพราะ
    อีกด้านจะเป็นเหว ดังนั้นควรใช้รถที่มีกำลังสูง และขับด้วย
    ความระมัดระวัง บนเขามีหมู่บ้านของคนท้องถิ่น และมี
    แหล่งน้ำให้ใช้ได้ตลอดปี
     
  14. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ​
    [FONT=&quot]-วัดพระนอนขอนม่วง หมู่ 5 ตำบลดอนแก้ว
    อำเภอแม่ริม (พระเกศาธาตุในองค์พระนอน)

    [/FONT]<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]ตำนานพระนอนขอนม่วง เรียกพระพุทธรูปในวัดนี้ว่า
    "พระนอนพรั่ง"
    [FONT=&quot]ตามตำนานกล่าวถึง พระพุทธเจ้า
    เสด็จมาไสยยาสน์บนขอนไม้มะม่วง[/FONT] [FONT=&quot]เนื่องจากวัด
    ตั้งอยู่ใกล้ลำห้วยแม่ชะเยือง ชาวบ้านจึงเรียกว่า[/FONT] [FONT=&quot]
    วัดพระนอนแม่ชะเยือง[/FONT] [FONT=&quot]เป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งของ
    เมืองเชียงใหม่[/FONT]
    [/FONT]

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าโกนาคมนะปรินิพพานไปแล้ว
    และมาถึงศาสนาของพระกัสสปพุทธเจ้า ในคราว
    ครั้งนั้นเมืองเชียงใหม่เรานี้มีชื่อว่า กุมภมิตตนคร
    พระยาเจ้าเมืองชื่อว่ากุมภมิตตราชได้เป็นสหาย
    กับด้วยพระยาอังครัฐนคร และพระยาอังครัฐองค์นี้
    มีต้นมะม่วงต้นหนึ่งมีลูกอันหวานหอมมากนัก พระยา
    ก็ส่งมายังมะม่วงคำ
    8 ลูก ถวายแก่พระยากุมภมิตต์ฯ
    ก็เสวยพระม่วงคำอันนั้น รู้สึกหอมหวานเป็นกัปปียะยิ่งนัก

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • watpranon.jpg
      watpranon.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59 KB
      เปิดดู:
      69
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 ธันวาคม 2011
  15. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    จึงเอาแก่นในมะม่วงคำ 8 ลูกนั้นบง (เพาะ) ไว้ แต่
    ออกเพียงลูกเดียว พระยาก็ให้ปลูกไว้ในสวนอุทยานนั้น
    ดาสะเต็มไปด้วยของปลูกลูกไม้ส้มหวานดอกดวง
    มากนัก พระยาก็ตั้งจ่าสวนคนหนึ่งชื่อว่า เสตวกะ
    ให้อยู่เฝ้านั่นและเสตวกะจ่าสวนผัวเมียเป็นอันซื่อใส
    ต่อเจ้าแห่งตน ขายสวนครัวได้เงินเท่าใด ได้คำเท่าใด
    ก็เก็บรอมไว้รวม ได้เงิน 4 แสนกับคำ 1 หมื่น
    จ่าสวนก็บอกแก่พระยาฯ จึงมีอาชญาแก่ตนว่า
    ท่านจงรักษาไว้ให้ดีก่อนเต๊อะ (เทอะ) ว่าดังนี้แล้ว
    จ่าสวนก็เข้าใส่ไห 4 ไห ๆ ละแสน และเอาคำใส่
    ไหหนึ่งฝังไว้ในที่ใกล้ไม้มะม่วงคำ หว่างกลางไม้
    ประดับทองนั้นและถึงเมื่อพระยาจุติไปเข้าของอันนั้น
    ก็ปรากฏเมื่อลูน จ่าสวนตายก็ได้เกิดเป็นยักษ์ตนหนึ่ง
    ชื่อว่ากุมมาระยักษ์อยู่เฝ้าขุมเข้าของและไม้มะม่วงต้นนั้น
    อยู่อันตราย
     
  16. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    [​IMG]

    สัก 6 ปีก่อนหน้า (นับย้อนไปจาก พศ. 2554) ไม่รู้เป็นอะไร ฝันถึงภัยธรรมชาติหลายอย่าง ฝันถึงคนอพยพตามๆ กัน ฝันอย่างนี้ต่อเนื่องมาเรื่อย จนเอะใจ

    เลยเริ่มหาข้อมูล และติดตามข่าวความเคลื่อนไหวเรื่องภัยธรรมชาติ เรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษ

    และ 2 ปีก่อน ตกลงใจว่าจะหาที่อยู่แห่งที่ 2 ที่ จ. นครราชสีมา ก็ได้ติดต่อซื้อบ้านพร้อมที่ดิน ตรงแถวหมูสี ใกล้เขาใหญ่ แต่ซื้อไม่ได้ มีอุปสรรค

    ก็เลยเปลี่ยนไปซื้อตรงฝั่ง อ. ปากช่อง ด้านที่ข้ามทางรถไฟไป ปรากฏว่าซื้อได้ราบรื่นทุกอย่าง ก็เป็นบ้านหลังที่ 2 มาจนทุกวันนี้

    คิดว่าเป็นพระคุณของท่านย่าโม เพราะอธิษฐานจิตไว้

    และหลังจากซื้อที่อยู่ได้ไม่นาน ปีกลาย โคราชน้ำท่วม ฝั่งหมูสี แถวเขาใหญ่ ตรงที่เคยจะซื้อ ก็ท่วมหนัก แต่ฝั่งบ้านที่ไปซื้อไว้ ไม่ท่วม เพราะเป็นที่สูงกว่าบริเวณอื่น

    ทุกวันนี้ ตกผลึกทางความคิดว่า ภัยธรรมชาติรูปแบบต่างๆ มันเกิดขึ้นทุกวัน ที่โน่นบ้าง ที่นี่บ้าง ทั่วทุกมุมโลก

    อย่างไทยเรา ช่วงนี้ (ตั้งแต่กลางเดือน ธค. ถึงปลายเดือน ธค.) เจอภัยคลื่นลมแรง ทางภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย หนักกว่าปีก่อนๆ

    ส่วนแผ่นดินไหว ก็มีเขย่าจัดว่าถี่ แถวชายแดนพม่า ต่อมาทางเชียงราย แล้วก็ตาก

    แต่การที่จะเจอแจ็คพ็อต ไม่ว่าจะภัยธรรมชาติชนิดไหน แบบที่เกิดแล้วคนตายหลักล้าน กับมีผลทำให้ ภูมิศาสตร์กายภาพ เปลี่ยนแบบหน้ามือเป็นหลังมือ อย่างที่คนเชียงใหม่โบราณพุดว่า " น้ำปิงจะกลายเป็นสันดอย "

    โดยส่วนตัว เชื่อตามบันทึกเก่าแก่ทางศาสนา มีคัมภีร์ชาวคริสต์ แล้วก็คัมภีร์อิสลาม ซึ่งบอกไว้ตรงกันว่า

    ครั้งสุดท้าย พระเจ้าจะล้างโลกด้วยไฟ

    [​IMG]

    พระองค์จะมาในวันและเวลาที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ ก็คือ บอกกันจะๆ ไม่ได้ ว่าเป็นวันอะไร วันที่เท่าไหร่ เดือนอะไร ขึ้นกี่ค่ำ แรมกี่ค่ำ

    ซึ่งก่อนหน้าจะเกิดเหตุ ตามคัมภีร์คริสต์เขาว่า ทูตสวรรค์ จะทำสัญญญาณด้วยเสียงแตร 7 ครั้ง (ส่วนทางอิสลาม จะมีเสียงเป่าสังข์ เตือน 7 ครั้ง)

    คิดว่าคล้ายๆ กับพุทธทำนาย ลองเทียบเคียงกันดู แต่คิดว่า หลักใหญ่ใจความทุกศาสนาที่ว่ามา ก็คือ บอกให้คนพยายามเป็นคนดี แล้วความดีจะดูแลคุณเอง

    เรียกว่า ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ ต่อให้วันสิ้นโลกหรือสิ้นอะไร คนชั่ว จะทำยังไง ก็ร้อยไม่รอด พันไม่รอด แต่คนดี ยังไงก็รอด เพราะยุคใหม่ เขาจะคัดแต่เมล็ดพันธุ์ดีๆ ไปเป็นต้นกล้า

    ส่วนข้างล่างนี้ เป็นข้อเขียนชาวคริสต์ เรื่องสัญญาณวันสิ้นโลก

    www.greatworld.allblogthai.com/31

    "วันสิ้นโลก" หมายถึงยุคสุดท้ายที่พระเยซูจะเสด็จกลับมายังโลกครั้งที่ 2

    ครั้งแรกคือการที่พระองค์เสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์และพลีชีพบนไม้กางเขนเพื่อไถ่บาปมนุษย์เมื่อสองพันกว่าปีที่ผ่าน

    ซึ่งพระคัมภีร์ได้ทำนายและบอกไว้ว่า จะมีเหตุการณ์สำคัญๆ ที่บ่งบอกให้เราทราบถึงวันสิ้นโลก หรือวันที่พระเยซูคริสต์จะเสด็จกลับมาอีกครั้ง ดังนี้

    1. ชนชาติยิวหรืออิสราเอล จะกลับคืนมามีประเทศอีกครั้งหนึ่ง
    2. เหตุการณ์ทางการเมือง

    2.1 สงคราม

    ก่อนวันที่พระเยซูจะเสด็จกลับมา ประเทศต่างๆในโลกจะมีการแย่งชิงอำนาจ และความเป็นใหญ่ โดยการทำสงครามกัน จะมีการเกลียดชัง และเอาเปรียบกันซึ่งนำไปสู่การสู้รบที่รุนแรง


    2.2 การรวมตัวกันของประชาชาติต่างๆ

    เห็นได้จากการรวมตัวกันของสหภาพยุโรปหรืออียู. เป็นการรวมตัวกันของ 11 ประเทศในยุโรป การรวมตัวนี้จะเกิดขึ้นเป็น 2 ช่วงคือ


    - ช่วงที่ 1 เป็นการรวมตัวกันเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็คือการประกาศใช้เงินสกุลยูโร สกุลเดียวในช่วงปี 1999 ที่ผ่านมา

    - ช่วงที่ 2 จะมีการรวมตัวทางการเมืองคือ มียุโรปเดียว รัฐบาลเดียว

    3. เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ (จากพระธรรมมัทธิวบทที่ 24 ข้อ 7 )

    3.1 เกิดการกันดารอาหารทั่วโลก

    3.2 เกิดโรคระบาด (ในพระธรรมลูกาบทที่ 21 ข้อ 11และพระธรรมวิวรณ์บทที่ 6)


    4. เหตุการณ์ทางธรรมชาติ (จากพระธรรมมัทธิวบทที่ 24 ข้อ 7)

    คัมภีร์ทำนายไว้ว่า จะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ทั่วโลก ซึ่งจะคร่าชีวิตคนเป็นแสนๆ

    5. เหตุการณ์ทางสังคม (จากพระธรรมมัทธิว บทที่ 21 ข้อ 12)

    5.1 ความรักความผูกพันจะเยือกเย็นลง (พระธรรมมัทธิวบทที่ 24 ข้อ 12 และ 2ทิโมธีบทที่3ข้อ 1 - 4 )
    มนุษย์จะเห็นแก่ตัว ความเกลียดชังจะทวีขึ้น การให้อภัยกันแทบจะไม่มี ความโหดร้ายทารุณจะทวีความรุนแรงขึ้น

    5.2 ความรักทำให้ครอบครัวมั่นคงกำลังเสื่อสลาย

    6. เหตุการณ์ทางฟ้าอากาศ (จากพระธรรมมาระโก บทที่ 13 ข้อ 24 -25)
    ใกล้วันที่พระเยซูคริสต์จะกลับมา ท้องฟ้าจะแปรปรวน ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาวจะไม่ส่องแสง ลมฟ้าอากาศ จะทำให้ฤดูกาลเปลี่ยนไป


    7. ความรู้มนุษย์จะทวีคุณ (จากพระธรรมดาเนียลบที่ 12 ข้อ 4)

    7.1 ความรู้ทางวิชาการ

    7.2 การสื่อสาร

    7.3 การเดินทาง

    [​IMG]

    ทางอิสลาม เขาก็ว่าของเขาไว้อย่างนี้

    www.webboard.yenta4.com/topic/299628

    โลกจะยังไม่ถึงกาลอวกาส จนกว่า

    - ผู้หญิงมีจำนวนมากกว่าผู้ชาย ผู้ชายมีจำนวนลดน้อยลง

    - ยาจกในวันนี้ สามารถสร้างตึกสูงใหญ่ในวันหน้า

    - เวลาสั้นลงน้อยกว่าเดิม เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

    - บ่าว ให้กำเนิดบุตร ที่จะมาเป็นเจ้านายในอนาคต

    - จะมีการพบภูเขาทองคำ แล้วพากันแก่งแย่งมาเป็นของตน

    - เสื้อผ้าอาภรณ์ที่สวมใส่ ในเวลาเช้า จะถูกเปลี่ยนในเวลาสาย เสื้อผ้าอาภรที่สวมใส่ในเวลาสาย จะถูกเปลี่ยนในเวลาเย็น เสื้อผ้าที่ถูกใส่ในเวลาเย็น จะถูกเปลี่ยนในเวลาก่อนนอน

    - พวกผู้หญิงจะสวมใส่เสื้อกันหนาว ที่ดูเหมือนไม่สวมใส่อะไรเลย

    - พวกมนุษย์หลงเชื่อ สิ่งที่เห็นในชั้นฟ้าและอวกาศ ว่ามันเป็นความจริง

    - ความไว้วางใจจะไม่มีในหมู่มนุษย์

    -แผ่นดินไหวทางทิศ ตะวันตก แผ่นดินไหวทางทิศตะวันออก


    สัญญาณย่อย ได้แก่

    1. แผ่นดินไหวจะมีมาก

    2. ลมพายุจะรุนแรง

    3. ความตายจะดาษดื่น (จากโรคร้าย)

    4. มนุษย์จะแข่งขันประดับประดามัสยิด

    5. คนโกหกจะได้รับความเชื่อถือ คนพูดจริงกลับถูกมองว่าโกหก

    6. คนทุจริตจะปลอดภัย คนไว้วางใจได้กลับถูกบิดพริ้ว

    7. การผิดประเวณี (ซินา) จะดาษดื่น

    8. สุรา ดอกเบี้ย เป็นสิ่งอนุมัติ

    9. ในมัสยิดมีเสียงอึกทึก

    10. คนรุ่นหลังจะประณามคนรุ่นก่อน

    11. ความวุ่นวายจะเกิดขึ้นทุกหัวระแหง

    12. ผู้ใหญ่จะรับใช้เด็ก

    13. อุตริกรรม (บิดอะห์) จะปรากฎชัด

    14. ความอายจะน้อยลง

    15. สตรีจะประพฤติตัวเหมือนบุรุษ ส่วนบุรุษจะประพฤติตัวเหมือนสตรี

    16. สตรีจะนุ่งน้อยห่มน้อย

    17. ผู้ทุจริตได้รับการช่วยเหลือ ผู้ถูกละเมิดกลับถูกทอดทิ้ง

    18. ผู้คนจะอ่านอัลกุรอานกันเพียงลิ้น (ขาดการกฏิบัติตาม)

    19. การนินทาให้ร้ายจะมีมาก

    20. การสาบานด้วยสิ่งอื่นจากอัลเลาะห์จะมีมาก

    21. การหย่าร้างเกิดขึ้นมาก

    22. ความชั่วช้าเลวทราบจะปรากฎชัด

    23. มนุษย์จะปฏิบัติตามอารมณ์กิเลสและตัณหา

    24. บุรุษจะถูกทำลาย เพราะทรัพย์สินเป็นเหตุ

    25. มนุษย์จะตัดขาดญาติมิตร

    26. สมาธิของคนละหมาดจะหายไป

    27. ประชาชาติจะแตกออกเป็น 70 กว่าจำพวก

    28. วันและเวลาจะสั้นลง จนกระทั่งหนึ่งปีเสมือนหนึ่งเดือน และหนึ่งเดือนเสมือนหนึ่งสัปดาห์ และหนึ่งสัปดาห์เหมือนหนึ่งวัน

    29. การแต่งงานเกิดขึ้น เพราะสมบัติเป็นเหตุ

    30. เรื่องราวของมนุษย์ ล้วนเป็นความโลภโมโทสัน

    31. การตลาดจะฝืดเคือง

    32. การให้เกียรติจะน้อยลง แต่การเหยียดหยามจะมากขึ้น

    33. ความรับผิดชอบจะหายไป ความวุ่นวายสับสนจะแทนที่

    34. ศาสนาจะถูกซื้อขายด้วยวัตถุทางโลก (ดุนยา)

    35. หัวใจมนุษย์หมดสิ้นจากความดี

    36. ทานบังคับ (ซะกาต) ถูกนำมาจำหน่ายค่าแรงและถูกมอบให้แก่ผู้ไม่มีสิทธิรับ

    37. บุรุษจะฆ่ากันโดยไร้เหตุผล

    38. ความรู้จะถูกเก็บ คนโง่จะขึ้นแสดงธรรม (บนมิมบัร)

    39. เด็กที่เกิดจากการผิดประเวณีจะมีมาก

    40. คนที่มีลูกหลานต้องโศกเศร้า เพราะการเนรคุณ

    41. สตรีจะทำหน้าที่แทนบุรุษ

    42. เด็กจะไม่ให้เกียรติผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่จะไม่เมตตาเด็ก

    43. ความบริสุทธิ์จะหายไปจากการงาน

    44. คนชั่วจะภูมิใจ และโอ้อวดความชั่วของตน

    45. การพนันจะมีมาก

    46. ผู้บริสุทธิ์จะถูกฆ่าเป็นการล้างแค้น (ไม่ใช่การรับใช้ชาติ)

    47. มนุษย์จะถูกเรียกร้องสู่ขุมนรก และหันเหออกจากการภักดีต่ออัลเลาะห์ตาอาลา


    [​IMG]

    ส่วนสัญญาณใหญ่ ได้แก่

    1. อิหม่ามมะห์ดีปรากฎตัว

    2. ดัจญ้าลเผยโฉม ยักษ์ชั่วร้าย

    3. ท่านศาสดาอีซาจะถูกส่งลงมาสู่โลกอีกครั้งหนึ่ง

    4. ยะญูดและมะญูด พังกำแพงทะลุออกมาได้

    5. มีสัตว์ประหลาดออกมาจากแผ่นดิน

    6. ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก

    7. มีหมอกควันเกิดขึ้นเต็มแผ่นดิน

    8. เกิดไฟประลัยกัลป์ออกมาขับไล่ผู้คนไปรวม ณ ชุมนุมสถาน

    9. อัลกุรอาน และความรู้ถูกเก็บ (โดยการล้มตายของบรรดาผู้รู้)

    สัญญานใหญ่วันสิ้นโลก

    - จะบังเกิดควันสีดำแผ่ปกคลุมทั่วโลก

    - จะมี อสูรกาย ที่ชื่อว่า ยุ มะยุด ที่ถูกกักขังอยู่ใต้พื้นโลกด้วย ผนังหนาที่เป็นทองแดงและไฟ ครั้นสิ่งกักกันถูกแตกออก มันจะขึ้นมาล่อลวงไล่เข่นฆ่ามนุษย์

    - ดวงอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันตก

    - จะมีสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง สามารถพูดคุยกับมนุษย์ได้


    จะเห็นว่า ก่อนวันสิ้นโลกของ 2 ศาสนา จะมีปรากฏการณ์ภัยธรรมชาติ คือ พายุ แผ่นดินไหว แล้วก็ดาราศาสตร์อะไรทำนองนี้ ถ้ามองเรื่องสิ่งแวดล้อม ก็พอจะบอกได้ว่า ทุกวันนี้ก็มีอย่างนี้แล้ว

    ส่วนเรื่องทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง เทคโนโลยี และความประพฤติผู้คน ทุกวันนี้ก็มีอย่างนี้เหมือนกัน
     
  17. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    [FONT=&quot]พระธาตุจอมแตง ตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม[/FONT]

    [FONT=&quot]ตั้งอยู่เลขที่[FONT=&quot] ๕๐ [/FONT][FONT=&quot]หมู่ที่[/FONT][FONT=&quot] ๑๑[/FONT][FONT=&quot] ตำบลสันโป่ง [/FONT][FONT=&quot]อำเภอแม่ริม
    [/FONT]
    [FONT=&quot]วัดแห่งนี้มีเนื้อที่จำนวน [/FONT][FONT=&quot]๒๓[/FONT][FONT=&quot] ไร่ [/FONT][FONT=&quot]๓[/FONT][FONT=&quot]งาน [/FONT][FONT=&quot]๒๕[/FONT][FONT=&quot]ตารางวา
    [/FONT]
    [FONT=&quot]พื้นที่[/FONT][FONT=&quot]ของวัดเป็นลักษณะเขาเนินสูงประมาณ[/FONT][FONT=&quot] ๓๐๐[/FONT][FONT=&quot]เมตร[/FONT][FONT=&quot]
    พื้นที่ของวัดมีความลาดชันโดยรอบ[/FONT]
    [FONT=&quot] ปัจจุบันนี้พื้นที่
    โดยรอบจะมีต้นไม้หลากหลายขึ้นเต็มไปทั้งหมด[/FONT]
    [FONT=&quot]มี
    ความอุดมสมบูรณ์ในสภาพแวดล้อมของต้นไม้นานาชนิด
    ประมาณ[/FONT]
    [FONT=&quot] ๗๐[/FONT][FONT=&quot] เปอร์เซ็นต์[/FONT][FONT=&quot]ของพื้นที่ทั้งหมด[/FONT] ปัจจุบัน
    ได้มีการพัฒนาโดยการสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก
    จากถนนสายใหญ่ (โชตนาเชียงใหม่–ฝาง กิโลเมตรที่ ๒๕ )
    ถึงบริเวณเขตพุทธาวาส ประมาณ ๕๐๐ เมตร
    [/FONT]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    ปูชนียวัตถุมีพระเจดีย์ ๒ องค์ โดยมีลักษณะการตั้ง
    อยู่บนฐานเดียวกัน อีกหนึ่งองค์เป็นองค์ใหญ่ และ
    อีกหนึ่งองค์เป็นองค์เล็กมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่
    ด้านใน หันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันตก มีฐานกว้าง
    ๘ เมตร ยาว ๘ เมตร สูง ๑๕ เมตร ลักษณะเป็นศิลปะ
    แบบเหลี่ยมมีจำนวนจากฐานองค์พระเจดีย์ขึ้นไปถึง
    ฐานยอดพระ เจดีย์มี ๙ ชั้น ด้านบนมีลักษณะเป็นรูป
    ระฆังคว่ำ ต่อจากนั้นมียอดพระเจดีย์ปลายแหลมเป็น
    ชั้นๆ ปล่องๆ ทรงกลมขึ้นไปด้านบนมียอดฉัตรทำด้วย
    โลหะ ๗ ชั้น เจดีย์นี้ได้มีการสร้างอันเก่าแก่ที่นับว่า
    เป็นปูชนียวัตถุและโบราณสถาน มีด้านทิศตะวันออก
    ติดกับพระอุโบสถ ที่ว่าเป็นปูชนียวัตถุนั้น ก็เพราะว่า

     
  19. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    [FONT=&quot]มีประวัติศาสตร์ได้กล่าวว่า[FONT=&quot] ชาวบ้านได้ถือเอาองค์
    พระเจดีย์นั้น [/FONT][FONT=&quot]อันมีพระเกศาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    อยู่ในลูกแตง ที่พระองค์เสด็จมาในสมัย[/FONT][FONT=&quot]พุทธกาล
    [/FONT][FONT=&quot]พระองค์ได้ทรงอธิษฐานพระเกศาไว้ในลูกแตง
    [/FONT][FONT=&quot]ชาวบ้านจึงได้สร้างเป็นสถูปครอบลูกแตงไว้[/FONT][FONT=&quot]เพื่อบูชา
    สักการะ[/FONT][FONT=&quot] อนึ่งหากปีใด[/FONT][FONT=&quot]ดินฟ้าอากาศวิปริตแปรปรวน
    [/FONT][FONT=&quot]เกิดฝนแล้งไม่ตกตามฤดูกาล [/FONT][FONT=&quot]ชาวบ้านก็จะพากันมา
    สมาทานศีล[/FONT][FONT=&quot] ๕[/FONT][FONT=&quot] ศีล [/FONT][FONT=&quot]๘[/FONT][FONT=&quot] รักษาอุโบสถศีล[/FONT][FONT=&quot] และได้นิมนต์
    พระสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์ [/FONT][FONT=&quot]ทำบุญตักบาตร[/FONT][FONT=&quot]ฝน
    ก็จะตกลงมาตามความต้องการ [/FONT][FONT=&quot]เป็นเหตุให้ข้าวกล้า
    ไร่นามีความอุดมสมบูรณ์[/FONT][FONT=&quot]นี้คือความอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับชาวบ้าน[/FONT]
    [/FONT]


    http://www.lannatalkkhongdee.com/templeDetail.php?id=Temp0800022

    [FONT=&quot]วัดพระธาตุเปิงฟ้าป่าอ้อย

    ตั้งอยู่หมู่ที่ ๔
    [/FONT] [FONT=&quot]ตำบล[FONT=&quot]ขี้เหล็ก[/FONT] [FONT=&quot]อำเภอแม่ริม[/FONT] [FONT=&quot]จังหวัดเชียงใหม่[/FONT] ...[/FONT]
    [FONT=&quot]สามารถเดินทางไปตามถนนสายแม่ริม - ฝาง
    ผ่านทางเข้าวัดพระธาตุจอมแตง
    [FONT=&quot]ไปประมาณ
    [/FONT][FONT=&quot]๕๐๐ เมตร จะเห็นป้ายทางเข้าวัดพระธาตุเปิงฟ้าป่าอ้อยอยู่[/FONT]
    [/FONT]

    http://www.danpranipparn.com/web/pratttas/pratta3mini23.html
     
  20. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    สวนบูรณะรักษ์ธรรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

    พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> (พระครูอนุสนธิ์ประชาทร)
    เป็นเจ้าอาวาสวัดดอยเกิ้งอ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน
    ซึ่งได้รับเลือกเป็น "ศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติ"
    ประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน
    เนื่องจากวัดดอยเกิ้งตั้งอยู่ที่
    อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน การเดินทางไปมาค่อนข้าง
    ลำบาก
    พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณจึงใช้วิธีเดินทาง
    ออกไปเผยแพร่คำสอนนอกสถานที่ด้วยตนเอง
    ซึ่ง
    ได้เริ่มจัดขึ้นที่อาคารสัมมนา มหาวิทยาลัยสุโขทัย
    ธรรมาธิราช
    เป็นประจำทุกเดือน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2540-
    2545
    และในปี พ.ศ.2542 ได้สร้างศูนย์ฝึกอบรม
    "สวนบูรณะรักษ์ธรรม
    " ขึ้นที่อ.แม่ริมจ.เชียงใหม่
    และมีการจัดฝึกอบรมให้เป็นธรรมทาน ทุกๆ สัปดาห์
    ที่
    1 หรือ 2 ของแต่ละเดือน โดยให้ผู้สนใจหรือผู้ป่วย
    เข้าพักค้างคืน ครั้งละ
    3 วัน 2 คืนรับได้ครั้งละไม่เกิน
    50 คน สำหรับการฝึกอบรมในกรุงเทพฯ หลังจาก
    พ.ศ.
    2545 เป็นต้นมาก็ได้ย้ายไปจัดที่อาคารเคยูโฮม
    มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
    ทุกเดือนเว้นเดือน จนกระทั่ง
    ถึงสิ้นปี
    2553 ได้ย้ายมาจัดที่มหาวิทยาลัยราชภัฎ
    สวนดุสิตเป็นประจำทุกเดือนจนกระทั่งถึง
    ปัจจุบัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • pha-ratt.JPG
      pha-ratt.JPG
      ขนาดไฟล์:
      209.2 KB
      เปิดดู:
      102

แชร์หน้านี้

Loading...