ป่วยเข้าโรงพยาบาลติดเชื้อ HIV กับการทดสอบมโนมยิทธิของผม

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย thepsak, 11 ธันวาคม 2011.

  1. มะบอม

    มะบอม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,255
    ค่าพลัง:
    +5,352
    ท่านมีกำลังใจดีมากครับ ขอบพระคุณอย่างมากสำหรับคำชี้แนะจากประสบการณ์ตรงของท่านเอง ขออนุโมทนาในความเตตา กรุณาที่มีต่อผู่อื่น ขอขอบคุณอีกครั้งหนึ่งครับ
     
  2. spellohock

    spellohock Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2007
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +92
    ขออนุโมนาบุญ บารมีจงมีแก่ท่านทั้งหลาย สู้ต่อไปนะครับ
     
  3. สุรีย์บุตร

    สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +2,122
    ทุกขอริยะสัจ
    ทุกขสัจคือ ทุกข์เป็นความจริง อริยะ คือความประเสริฐ

    กำลังใจดี จิตใจแข้มแข็งมั่นคงดี พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ จะบอกว่าฟลุ๊คหรือส้มหล่นก็ได้ แต่คนที่ไม่ได้สั่งสมทำมาดี ก็พลิกไม่ได้หรอก

    อนุโมทนาด้วยครับ ถ้่าไปช่วยผู้ป่วยที่วัดพระพุทธบาทน้ำพุคงจะดีนะครับ
     
  4. ป็อด

    ป็อด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +307
    อนุโมทนาด้วยคนครับเป็นกำลังใจให้ครับเป็นธรรมทานขอบคุณครับ
     
  5. yaka

    yaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    647
    ค่าพลัง:
    +1,384
    เข้ามาเป็นกำลังใจให้อีกวันค่ะ ว่าแต่เจ้าของกระทู้หายไปไหนค่ะ มารอติดตามประจำเลยค่ะ ไม่สบายหรือเปล่าค่ะเป็นห่วงนะค่ะ
     
  6. คณะปิดทอง

    คณะปิดทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +363
    ผมต้องออกตัวก่อนว่าขอให้คุณ จขกท. สุขภาพแข็งแรงโดยไวนะครับ

    ด้วยความเป็นห่วง จากใจจริง และขอแบ่งปันจากประสบการณ์คนใกล้ตัวกับอารมณ์จิตก่อน

    ตาย เผื่อให้หลายๆคนได้รับรู้กัน และไม่ประมาทกับการใช้ชีวิต


    มีชายคนหนึ่งที่ผมรู้จักเขาเพราะอยู่บ้านใกล้ๆกัน (เขาฝึกได้มโนมยิทธิครึ่งกำลัง - ฌานโลกีย์) เขาเป็นคนเจ้าชู้แต่รักครอบครัวมากเช่นกัน


    ความซุกซนของเขาจึงเป็นที่มาของการติดโรคเอดส์ และได้เข้าทำการรักษาตัว แต่ตอนที่

    เขาเข้ารักษาตัวมันเป็นอาการที่หนักมากแล้ว เพราะเขาเพิ่งมารู้ตัวเมื่ออาการเริ่มแสดงจาก

    ตาเริ่มมองไม่เห็น มีตุ่มน้ำเหลืองขึ้นตามตัว ปวดแสบปวดร้อน และผอมลงเป็นลำดับ


    เขาไปหาหมอ หมอบอกว่าเขาติดเชื้อ HIV หลังจากนั้นเขามาเล่าให้ผมฟังและให้ผมช่วย

    พาไปหาพระท่านหนึ่งที่ใช้ยาสมุนไพรรักษาโรค ควบคู่กับการรักษาทางโรงพยาบาล

    จนเกล็ดเลือดเขาเพิ่มขึ้น จนเขาบอกกับผมว่าเขาหายดีแล้ว คนติดกันเยอะ แต่ก็ใช้ชีวิต

    เหมือนคนปกติ ปัจจุบันนี้เขายอมรับกันมากขึ้น ผมก็บอกเขาว่าดีแล้วให้ไปทำบุญบ่อยๆและ

    เลิกทำพฤติกรรมที่ไม่ดี


    ก่อนหน้านี้ผมได้เคยพาเขาไปกราบหลวงตาอ๋อยที่สมุทรสงคราม หลายๆท่านคงรู้จักถึง

    อภิญญาของท่านมาบ้าง หลวงตาให้เขาบวช 3 พรรษา แต่เขาไม่รับปาก (ตอนนั้นยังไม่มี

    อาการ) และภรรยาของเขาไม่ยอมให้บวช


    พอเขาได้รับยาทั้งสมุนไพร และ ทางโรงพยาบาล อาการเขาดีขึ้นเป็นลำดับ ทำงานได้ตาม

    ปกติ เขาก็ชะล่าใจและกลับไปทำพฤติกรรมดังกล่าวอีก จนพระท่านทักมากับผมว่า การที่

    เขาไปทำแบบนั้นคือการฆ่าชีวิตคน คือทำให้ผู้หญิงติดเชื้อไปด้วย และเพิ่มเชื้อให้กับตน

    เอง และผิดสัจจะกับพระที่รักษาให้ คือ ห้ามดื่มเหล้า พูดโกหก และมั่วเพศ 3 ข้อนี้

    เขารักษาได้แค่ไม่ดื่มเหล้า เพราะเขากลัวภูมิต้านทานในร่างกายไปสู้เชื้อ HIV ไม่ได้


    จนเวลาผ่านไปร่างกายเขาทรุดลงเรื่อยๆ จนตามองไม่เห็น 1 ข้าง และผอมลงจนเหลือแต่

    กระดูก เขาบอกว่าหมอบอกว่าเชื้อมันกลา่ยพันธ์และดื้อยา ผมได้ปรึกษาอดีตครูฝึกมโน

    มยิทธิ ท่านหนึ่ง และได้นำคำไปแนะนำเขา ให้เปิดเทป มรณานุสติ อสุภกรรมฐาน พุทธานุ

    สติ ของหลวงพ่อฟังทุกวัน ครอบครัวของเขาก็มาต่อว่าผมว่าไปแช่งให้เขาตาย แต่เขาเข้า

    ใจดีในความหวังดีของผม และเขาก็ฝากซื้อเทปหลวงพ่อและเปิดฟังทุกวัน


    ตอนช่วงสุดท้ายของชีวิตเขา เขามีสติตลอด บอกกับผมว่าเขาไม่กลัวตายแล้ว ฟังเทป

    หลวงพ่อเข้าใจแล้วว่า คนเราเกิดมาต้องตาย ห่วงแต่ลูก กลัวลูกลำบาก ถ้าตายก็ขอไป

    นิพพาน ไปหาหลวงพ่อ แต่กรรมที่เขาทำมันเยอะ เขาจะไปได้ไหม ผมก็ได้แต่ปลอบเขาว่า

    อารมณ์จิตก่อนตายนี้สำคัญ ครูบอกว่าให้จับภาพพระ จับองค์ภาวนาไว้ตลอด เขานำหูฟัง

    ไปเปิดธรรมมะหลวงพ่อฟังที่โรงพยาบาล และนำพระพุทธรูปไว้ที่หัวเตียง



    จนเขาติดเชื้อในกระแสเลือด ถ่ายเป็นเลือด ดวงตาเหลืองไปหมด พูดไม่ได้แล้ว สื่อสาร

    โดยการพยักหน้า จับมือ กระพริบตา วันสุดท้ายผมไปที่เตียงเขา ตัวเขากระตุกตลอดเวลา

    และตะโกนออกมาว่า เฮ้ย ๆ ๆ กำมือแน่น และชกลม สลับทำท่าป้องกันคนทำร้าย

    ผมไปจับมือเขาและเอาหูฟังเทปหลวงพ่อไปใส่ที่หูเขา และบอกเขาว่านึกถึงหลวงพ่อ

    นึกถึงพระ ๆ ๆ เขานิ่งมองหน้าผมตาไม่กระพริบ สักพักเขาขยับมือไปจะหยิบหนังสือหลวง

    พ่อ แต่หยิบไม่ได้ ผมจึงหยิบไปใส่ไว้ที่มือเขา เขาเอามือสองข้างพนมประกบหนังสือหลวง

    พ่อไว้ และวางตั้งไว้ที่หน้าอก มองภาพหลวงพ่อตลอด นานมาก จนเขาหลับตาลง


    เวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง ตัวเขากระตุกแรงขึ้นๆ ลืมตาค้าง กัดฟัน ผมโทรไปปรึกษาครู ครู

    บอกว่าเขาหาลมหายใจตัวเองไม่เจอ ให้เขาฟังเสียงหลวงพ่อไว้ และเรียกเขาให้เขาจับ

    ภาพพระ ตอนนี้เขาอยู่กับทุกขเวทนา กรรมจะตัดเขา ให้เขาไปนิพพานไม่ได้ เพราะเจ้า

    กรรมนายเวรเขาไม่ยอม ผู้หญิงที่ติดโรคจากเขา และตายไปก่อนเขา เขาก็ไม่ยอมอโหสิให้

    และเขาไม่ได้ฝึกอารมณ์จิตมาโดยตลอด การวางของเขาไม่ได้วางจริง จิตยังห่วงลูกอยู่

    ให้บอกเขาว่าให้ไปดาวดึงส์ นะ บุญเขาสะสมมาแค่นั้น


    ภรรยาและลูกเขามาอยู่ที่ข้างเตียง ร้องไห้ฟูมฟาย แต่ภรรยาเขายังมีสติหยิบ

    หนังสือหลวงพ่อมา ถือไว้ตรงหน้า ตรงระดับสายตาเขา เขาจ้องมองค้างอีกครั้ง และค้าง

    แบบนั้น จนหมดลมหายใจ

    ------------

    หลังจากวันนั้น ผมได้ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น และนึกถึงความดีที่พุทธเจ้าได้สอนให้เรารักษา

    ศีล ให้ยิ่งกว่าชีวิต มันเป็นแบบนี้ นี่เอง ผมถามครู ว่าเขาได้ไปนิพพานไหม ครูบอกว่าท่านปู่

    ท่านย่า บอกมาว่า เขามาอยู่ดาวดึงค์ เพราะจิตเขานึกถึงพระ และบุญที่เขาเคยทำ ยังโชคดี

    ถ้าจิตไม่เกาะพระ เกาะบุญ ตอนนี้ดิ่งลงอย่างเดียว ท่านลุงจดไว้แล้ว ทั้งทำให้คู่ครองมี

    ความทุกข์ ลูกมีความทุกข์ พ่อ แม่ มีความทุกข์ ทำกรรมที่ฆ่าชีวิตผู้อื่น แต่เขายังมีสติกลับ

    ตัวภายหลังแม้เสี้ยววินาทีสุดท้าย หลังจากนี้ เขาต้องไปต่อบุญข้างบน หากเขาติดสุขของ

    ความเป็นทิพย์ของการเป็นเทวดา เมื่อบุญหมด เหงื่อออกที่รักแร้จะไม่ได้มาเกิดต้องลงนรก

    ก่อนสถานเดียว....


    ในงานศพเขาวันแรก มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ครอบครัวเขาได้นิมนต์พระอาจารย์ที่

    รักษาเขาด้วยสมุนไพรและได้ให้สัจจะรักษาศีลเพื่อรักษาโรค และเขาบอกกับครอบครัวไว้

    ก่อนตายว่า งานศพเขาขอนิมนต์พระท่านมาช่วยสวดให้ด้วย ในวันนั้น แม่เขาก็มา หลังจาก

    เสร็จงาน ทุกคนมานั่งหน้าศพเขากำลังพูดคุยกัน อยู่ๆเขามาผ่านร่างญาติเขาคนหนึ่งเป็น

    ผู้หญิงและ คลานเข้ามาหาพระ และบอกว่า (เขาเอ่ยชื่อเขา) เขาขอโทษหลวงพี่ ผมขอ

    โทษครับ ที่รักษาสัจจะที่ให้ไว้กับหลวงพี่ไม่ได้ หลวงพี่ผมขอขมาครับ พระท่านก็อโหสิและ

    ให้พร ต่อจากนั้น เขาก็คลานไปหาแม่เขา แม่เขายัง งง อยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้น ร่างของญาติเขา

    ที่เป็นผู้หญิงได้เข้าไปกราบที่เท้าแม่ และเอ่ยชื่อตนเอง บอกว่า เขาขอโทษนะแม่ เขาทำ

    ผิด เขาเสียใจ ขอโทษครับแม่ แม่เขาน้ำตาไหล และเขาก็บอกว่า ตอนนี้เขาอยู่ดาวดึงส์

    กระดูกเขาขอให้เอาไปไว้ที่วัดนะ และขอสังฆทาน ชุดใหญ่ 1 ชุด ครอบครัวเขาก็รับปาก

    และเขาก็ออกไปจากร่างญาติของเขา ทุกคน งง มาก มีแต่พระ ที่นิ่งสงบ

    ------------------------------
    หลังจากนั้นผมได้คุยกับครู ครูบอกว่า คำสอนหลวงพ่อให้เราปฏิบัติ เพื่อให้เราไม่ประมาท กับความตาย ให้เรารู้จักทุกขเวทนา รู้จัก วางอารมณ์จิต ก่อนตาย ตอนตายหากเรามีสติจิตเกาะพระ บุญกุศล ไม่มีทางลงสู่อบายภูมิ แต่ก็ต้องมีบุญรองรับด้วย ไม่ใช่คนทำชั่วทั้งชีวิตจนวันตายจะได้ไปดี แบบนั้นไม่ใช่...จบครับ

    ขอท่าน จขกท. แข็งแรงและอย่าประมาทกับชีวิตในอนาคตที่กำลังเดินต่อไป

    รักษากำลังใจที่แข็งแรงของคุณต่อสู้กับมัน สร้างบุญกุศลรองรับ ช่วยงาน

    สาธารณะเพิ่มบารมีตนเอง เพื่อนิพพานในชาตินี้ เพื่อสิ่งที่ดีดังหวัง ขอเป็น

    กำลังใจให้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2011
  7. Pdon60

    Pdon60 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +795
    เป็นกำลังใจให้ท่านเจ้าของกะทู้หายไวๆ สุขภาพแข็งแรงครับ
     
  8. one-zee

    one-zee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    5,947
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,822
    ขอเป็นกำลังใจให้ท่านเจ้าของกระทู้่ครับ:cool:

    ขอให้เจริญในธรรม...

    บุญรักษาครับ..
     
  9. thepsak

    thepsak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +1,306
    ขอบคุณมากๆครับ สบายดีครับ

    ตอนนี้กินยาต้าน เป็นสูตร Zilarvir + Efavirenz ที่ทำให้มีอาการข้างเคียงคือทำให้เมา มึน ฝันร้าย บางคนขับรถออกจากบ้านโดยไม่รู้ตัวเลย

    หมอบอก ต้องใช้เวลาซักสามสี่อาทิตย์ในการปรับตัว
    แต่ผมรับยามาหลายเดือนแล้วยังเมาอยู่เลย เห็นบางคนรับสูตรนี้มาสามปียังเมาอยู่บ้างเหมือนกัน

    ตอนนี้ร่างการเริ่มปรับตัวแล้วไม่เมามาก มีปัญหาในการทำสมาธิบ้างเพราะ เมาครับ ยังแต่ไม่เคยฝันร้าย

    พอเขียนเล่าเรื่องต่างๆไปแล้วไม่ได้มาเขียนอีกเพราะกลัวตัวเองจะฟุ้งไป เผลอๆกลายเป็นมานะไปอีกครับ

    แต่มี pm มาถามหลายเรื่อง เดี๋ยวจะเอาบันทึกตอนผมฝึกใหม่ๆ มาให้อ่านกันครับ เผื่อจะได้เทียบเคียงกับการปฏิบัติของผู้อ่านด้วยครับ
     
  10. thepsak

    thepsak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +1,306
    ขอขอบคุณทุกๆท่านด้วยครับที่เข้ามาให้กำลังใจครับ

    ดีใจที่เรื่องราวของผมมีส่วนให้กำลังใจผู้อ่านในการปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ
    ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ


    ขอขอบคุณ คุณคณะปิดทอง ที่ได้นำประสบการณ์มาร่วมเล่าครับ มีประโยชน์มาก และขอให้สิ่งที่ท่านทำอยู่สำเร็จลุล่วงด้วยดีครับ ขออนุโมทนาด้วยครับ เมื่อไหร่ต้องการกำลัง โปรดบอกให้ทราบด้วยครับ พร้อมช่วยเต็มที่ครับ
     
  11. thepsak

    thepsak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +1,306
    บันทึกการฝึกมโนมยิทธิของผม
    ตัวผมเองก็เป็นผู้เริ่มฝึก และจัดอยู่ในกลุ่มผู้ฝึกได้ยาก ถือเสียว่า มาร่วมเล่าสู่กันฟังและเป็นกำลังใจอีกทาง เผื่อท่านผู้อ่านจะได้นำไปเปรียบเทียบ ขอท่านผู้รู้และท่านผู้อ่านพิจารณากันตามอัธยาศัย<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    การใส่บาตร สวดมนต์ นั่งสมาธิ ถือเป็นเรื่องที่ทำอยู่เสมอแม้ไม่ต่อเนื่องเท่าไรนัก กิเลส รัก โลภ โกรธ หลง ก็มีอยู่ครบ บางครั้งก็คิดขัดเกลา บางช่วงก็ลืมประคองอารมณ์โดยสนิท<O:p</O:p
    จากเมื่อตอนเด็กที่บ้านก็ไม่ได้ปลูกฝังเรื่องการเข้าวัด เพียงแต่สอนให้เป็นคนดี ตอนเด็กเคยฝึกปฏิบัติด้วยตัวเอง โดยอ่านเอาจากหนังสือ ไม่ประสบผลสำเร็จอะไร ด้วยความเป็นเด็กกิเลสยังน้อย เวลาฝึก วูบหนึงเห็นสภาพห้องและตัวเอง จิตเกิดความกลัวจึงขยาดในการปฏิบัติ อีกทั้งขาดครูผู้รู้ให้แนะนำ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    คำว่าพระโสดาบัน คำว่ามรรคผล ยิ่งคำว่านิพพาน นี่เป็นเรื่องไกลตัว เกิดมาอีกไม่รู้กี่ชาติก็คงไม่ได้สัมผัส<O:p</O:p
    พอเข้าสู่วัยรุ่น เรียนช่างกล การดื่มเทียว เป็นเรื่องน่าลองอยากรู้อยากเห็น ความเห็นผิดจึงทำให้ยิงผิดศีลอีกหลายข้อเป็นประจำ พอนึกจะกลับมาฝึก ดันมีอาการแปลกๆ เวลานั่งสมาธิจะมีอาการหน่วงที่โพรงจมูกและเพดานปาก ทำให้การปฏิบัติทำบ้างไม่ทำบ้าง<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:pมีโอกาสได้ทำบุญมากขึ้นด้วยกำลังทรัพย์ที่หาได้มากขึ้น ผมเริ่มอ่านหนังสือต่างๆหลากหลาย แล้วเห็นคำอธิษฐานบทกรวดน้ำที่ถูกใจ พักหลังเลยทำตาม โดยมีบทที่ขอให้บุญบารมีนี้ถึงแก่พระพุทธเจ้าทั้งห้า พระองค์ ขอให้บุญที่ลูกได้ทำนี้เป็นพละปัจจัยให้ ถึงพระนิพพาน <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    อธิษฐาน อย่างนี้สักพัก ซักประมาณ 1-2 อาทิตย์ ก็มีความอยาก จะปฏิบัติโดยมีอาจารย์ผู้ชี้แนะเป็นเรื่องเป็นราว จึงค้นหาในอินเตอร์เน็ท และเป็นครั้งแรกที่ได้ยินคำว่ามโนมยิทธิ จึงรู้จักวัดท่าซุง จากนั้นผลการค้าหาก็ทำให้รู้จักเว็บพลังจิตด้วย <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    หลังจากได้ฟังเทปการฝึกและการสอนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ปิติมันเกิด ร้องห่มร้องไห้อยู่คนเดียว เลยตัดสินใจจัดกระเป๋าเดี๋ยวนั้น ไปฝึก มโนมยิทธิที่วัดท่าซุง แบบครึ่งกำลัง ในวันรุ่งขึ้นเลย<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 ธันวาคม 2011
  12. thepsak

    thepsak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +1,306
    วันอาทิตย์ 26 กรกฎาคม 2552<O:p</O:p
    วันแรกของผมที่วัดท่าซุง<O:p</O:p
    เดินทางคนเดียวโดยรถตู้ถึงตลาดอุทัยธานี 10:00 <O:p</O:p
    เป็นครั้งแรกที่ผมมาจังหวัดนี้ เลยแวะเดินเล่นรอบตลาด อาหารการกินอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะปลานานาชนิด ข้าวแกงอร่อยและแสนจะถูกจานละ 15 บาท ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นอร่อยมาก 20 บาท และกาแฟเย็น 10 บาท<O:p</O:p
    เหมารถจากตลาดไปวัดท่าซุง 70 บาท

    <O:p</O:pถึงวัดท่าซุง 11:40 เพราะมัวแต่เถลไถลในตลาด เลยไม่ทันเวลาฝึก 11:30<O:p</O:p
    ผมมัวยืนเก้เก้กังกัง ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนดี พอดีเห็นคุณป้าท่านหนึ่งนั่งทานอาหารอยู่ในศาลากาแฟ จึงเข้าไปสวัสดีบอกท่านว่า ผมมาเป็นครั้งแรกไม่รู้ต้องเริ่มทำอย่างไร ลงทะเบียนยังไงที่ไหน ช่วยแนะนำผมด้วยครับ ท่านใจดีบอกให้รีบวิ่งไปที่วิหาร อาจจะยังไม่ปิด เผื่อจะได้ฝึกเลย ไม่เสียเวลา เสร็จแล้วค่อยไปติดต่อที่พักก็ได้
    <O:p</O:p
    ผมจึงรีบไปถึงประตูวิหาร พอจะมีเจ้าหน้าที่ไขกุญแจเข้าออกบ้างแต่เกรงจะเป็นการถือวิสาสะไป เลยได้แต่ยืนเก้ๆกังๆ แล้วเดินกลับมาที่คุณป้าท่านเดิม

    <O:p</O:pคุณป้าใจดีแนะนำเรื่องการลงทะเบียนเข้าที่พัก และตารางการฝึก ทำวัตร ส่วนเวลาที่เหลือก็ให้หาอะไรทำเพื่อเป็นประโยชน์แก่วัด พอดีท่านนึกได้ว่ายังไม่มีคนล้างห้องส้วมที่นี่ สองวันแล้ว ถ้าไม่รังเกียจ จะมาช่วยก็ได้ ผมก็รับปากจะกลับมาล้างส้วมหลังจากเข้าห้องพัก

    <O:p</O:pลงทะเบียนเข้าห้องพักเรียบร้อย นั่งรถสามล้อกลับมาที่ศาลากาแฟ <O:p</O:p
    คุณป้าก็มาช่วยเตีรยมน้ำยาทำความสะอาดและแนะนำวิธีใช้ จากนั้นผมก็เริ่มทำงาน ล้างทุกห้อง และกวาดเก็บขี้หมา หน้าห้องน้ำ ทำความสะอาดอ่างล้างหน้า ทั้งหมดแล้ว ถูพื้นหน้าห้องน้ำทั้งหมด
    <O:p</O:p
    ระหว่างที่ทำความสะอาด ได้อฐิษฐานบอกหลวงพ่อว่าลูกไม่ได้มาร่วมสร้างวัด แต่จะขอมาร่วมดูแลรักษา ขอให้การทำความสะอาดห้องส้วมนี้ ให้เป็นผลบุญให้ชำระสิ่งอัปมงคลจากตัวลูก และชำระกิเลสให้หายมืดบอด ธรรมะใดที่ลูกรู้ก็ขอให้รู้แจ้ง ตั้งแต่ธรรมะเบื้องต้นจนสูงขึ้นไป และขอฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงพ่อด้วย<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ระหว่างนั้นมีผู้ที่มาปฏิบัติธรรม และบรรดาญาติโยม เข้ามาไหว้และอนุโมทนาบุญกับผมอยู่ไม่ขาดสาย บางท่านนำเงินมาฝากผมทำบุญด้วย อิ่มบุญจริงๆ

    <O:p</O:pเสร็จจากภาระกิจล้างส้วม คุณป้ามาบอกให้เตรียมตัวเข้าทำวัตรเย็น จึงเข้าไปพักดื่มกาแฟ เลยได้ทราบภายหลังว่าคุณป้าท่านนี้ ชื่อป้าอร เป็นเจ้าของร้านกาแฟ ท่านยังใจดีฝากฝังผมไว้กับท่านแม่ชีแต๋ว ให้ช่วยดูแลผมด้วย ขอขอบพระคุณคุณป้าอรอย่างยิ่ง

    <O:p</O:pเข้าทำวัตรเย็นที่วิหารแก้ว และเจริญพระกรรมฐาน<O:p</O:p
    กลับที่พักอาบน้ำเสร็จ พอดีมีเสียงตามสายเป็นเสียงหลวงพ่อ เลยขึ้นพระกรรมฐานไปด้วย ก่อนจะนอนระหว่างครึ่งหลับครึ่งตื่น เห็นมีเทพบุตร สามองค์มีรัศมีสีเหลือง ลักษณะคล้ายกันทั้ง สามองค์ มายิ้มให้ นึกในใจท่านคงมาอนุโมทนาบุญที่เราได้ทำวันนี้ผมพยายามจะเพ่งมอง แต่ท่านก็ลอยออกจากห้องไป<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 ธันวาคม 2011
  13. thepsak

    thepsak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +1,306
    วันจันทร์ 27 กรกฏาคม 2552<O:p</O:p
    เสียงหลวงพ่อดังขึ้นแต่เช้า เลยเข้าพระกรรมฐาน จิตใจสงบดีมาก ยังรู้สึกอิ่มบุญไม่หาย<O:p</O:p
    ออกจากห้องทำภารกิจส่วนตัว บรรดาญาติธรรมต่างออกมาช่วยกันกวาด ทำความสะอาดลานวัด เสร็จแล้วเตรียมตัวใส่บาตรตอน 6:00<O:p</O:p
    จากนั้นผมก็หาข้าวเช้ากิน อาบน้ำสระผมอีกครั้งเพื่อรอทำวัตรเช้า<O:p</O:p

    หลังจากทำวัตรเช้าแล้ว ถือโอกาสเดินสำรวจวัดเพราะวันนี้ก็ต้องกลับกรุงเทพเสียดายที่มีโอกาสมาเพียงเวลาอันสั้น แต่ถ้าไม่ตัดสินใจมาก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้เริ่ม<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    11:30 นั่งรถรางร่วมกับญาติธรรม ไปยังวิหารแก้ว เพื่อฝึกมโนมยิทธิครั้งแรกในชีวิต<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ในกลุ่มของข้าพเจ้ามีทั้งหมด 5 คน มีผู้ชายที่เคยฝึกมาแล้วอยู่หนึ่งคน อีกคนมาฝึกก่อนบาช และก็ผู้หญิงหนึ่ง แม่ชีอีกท่านหนึ่ง <O:p</O:p
    อาจารย์ผู้ฝึกสำหรับกลุ่มผมปรากฎเป็นแม่ชีแต๋ว <O:p</O:p
    ถวายตัวเป็นศิษย์พระพุทธเจ้า ฟังเทปบรรยายจากหลวงพ่อ แล้วสมาทานพระกรรมฐาน<O:p</O:p
    แม่ชีเริ่มนำโดยให้เราใช้จิตเริ่มจากห้องนอน แล้วเดินรอบบ้าน กราบพระที่บ้านแล้วใช้จิตกลับมาที่วิหารแก้ว ซึ่งตอนนี้ผมก็ตามทัน<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    จากนั้นขอบารมีพระพุทธเจ้าขอเห็นพระพุทธเจ้าและขึ้นพระจุฬามณี<O:p</O:p
    ผมมืดสนิท จิตไม่เห็นอะไรเลย แม่ชีเริ่มไล่ถามทุกคน ทุกคนเห็นชัดหมด พอมาถึงผมคนสุดท้าย ผมตอบไม่เห็น แม่แต๋วก็เริ่มนำใหม่ อีกสองครั้ง มืดสนิทอีกเช่นกัน<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    แม่แต๋วยังใจเย็น ท่านใจดีเริ่มให้ผมใหม่ โดยเริ่มจากนึกถึงหน้าแม่ ท่านอธิบายว่าเวลาเรานึกเห็นหน้าแม่ เราจะนึกออกชัดเจน มันไม่ได้เห็นที่ตาแต่มันเห็นที่ใจ ผมเริ่มนึกถึงแม่
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    พอเห็นนึกเห็นหน้าแม่ชัดเจนปั๊บ ก็เปลี่ยนเป็นเห็นยอดพระจุฬามณีส่วางไสวทันทีเลย<O:p</O:p
    ขออนุญาติท่านเทวดาที่เฝ้าอยู่เพื่อเข้าพระจุฬามณี แต่ผมมองเห็นแต่ส่วนล่างจากเท้าถึงเข่าของเทวดา ส่วนบนมองเห็นลำบากเหลือเกิน<O:p</O:p
    เข้าพระจุฬามณี กราบสมเด็จองค์ปฐม เห็นท่านไม่ชัดเจนไม่ทั่วทั้งองค์นัก <O:p</O:p

    อาจจะเพราะกิเลสผมเอง เพราะนึกหมั่นไส้ผู้ฝึกผู้ชายท่านหนึ่งที่เคยฝึกมาแล้ว ร้องอยู่ได้ อุ๊ย...สวย สวยมากอุ๊ย.... ผมรีบรวบรวมสมาธิใหม่ไม่ต้องสนใจมัน<O:p</O:p

    ลาท่านและขอบารมีท่านไปยังวิมาณท่าน ก็ไปถึงหน้าวิมาณท่านได้ในทันที เป็นวิมาณใหญ่โตสวยงามมาก เทวดานางฟ้าเต็มไปหมด แม้ผมจะเห็นได้ไม่ชัดเหมือนเพื่อนคนอื่นแต่ตอนนี้ก็เริ่มตามทันทุกขั้นตอน แม่แต๋วนำเข้าวิมาณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและกราบท่าน ทุกพระองค์ พอผมกราบเสร็จ เห็นหลวงพ่อยืนยิ้มอยู่ข้างๆพระพุทธเจ้า น้ำตาแห่งความปิติก็เริ่มไหลออกมาไม่รู้ตัว ไม่รู้ว่าจะเล่าได้ยังไงว่าตื้นตันแค่ไหนที่ ผมแม้มีกิเลสเยอะยังตั้งใจทำและมาได้ถึงเพียงนี้ แม้จะมืดๆ บอดๆ อยู่ก็ตาม<O:p</O:p


    แม่แต๋วถามว่าเห็นหลวงพ่อมั๊ย ทุกคนตอบว่าเห็นส่วนผมไม่ได้ตอบมัวตื้นตันใจอยู่ จนแม่แต๋วเรียกชื่อผมแล้วถามจึงตอบว่าเห็น แม่แต๋วไล่ถามทุกคนว่าลักษณะหลวงพ่อเป็นอย่างไร ทุกคนตอบเหมือนกันหมดคือเห็นหลวงพ่อในชุดนิพพาน แต่ผมยังเห็นหลวงพ่อเป็นพระสงฆ์ หัวโล้นยังยิ้มให้อยู่อย่างเมตตา แม่ชีตอบว่าถูกต้องบางคนหลวงพ่อให้เห็นเป็นร่างเดิมเพราะกลัวลูกจำไม่ได้<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    แม่แต๋วไล่ถามทุกคนว่า เห็นเพื่อนๆ ที่มาด้วยกันมั๊ยอยู่ในชุดนิพพานหรือเปล่า ทุกคนตอบใช่ แต่ผมเองเห็นแม่ชีในกลุ่ม ยังอยู่ในชุดแม่ชีอยู่เลย ผิดตรงที่สาวและสวยกว่าตัวจริง ชุดแม่ชีก็สว่างไสว<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    จากนั้นแม่แต๋วพาไปไหว้ท่านปู่พระอินทร์ และท่านย่า ทุกคนเห็นท่านชัดเจนหมดส่วนผมเห็นท่านชัดเฉพาะเท้า ส่วนท่านย่า ผมเห็นชัดมาก ท่ายสวยมากอย่างเหลือเชื่อ อายุท่านจากที่เห็นไม่น่าจะเกิน 20-22 ท่านยิ้มน้อยๆอย่างเมตตา
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    แม่แต๋วให้อธิษฐานขอบารมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เห็นพ่อแม่ของเราที่เราได้เคยเป็นลูกท่านทุกภพทุกชาติ ผมก็เห็นเทวดา 8-9 องค์ และนางฟ้า 6-7องค์กราบท่านทุกองค์แล้วขอให้เห็นว่าท่านผู้ใดที่เรามาเกิดกับท่านบ่อยที่สุด เห็นท่านผู้หนึ่งในจิตบอกว่าท่านเป็นพรหม และแม่เป็นนางฟ้า แม่แต๋วไล่ถามว่าพ่อแม่ใครเป็นเทวดาชั้นไหนบ้าง ผู้หญิงคนแรกบอกพ่อแม่หล่อนก็คือท่านปู่และท่านย่า นอกนั้นบอกพ่อแม่เป็นพรหมทั้งคู่ อยู่บนชั้นนิพานทั้งคู่บ้าง ผมคงมัวแต่นึกหมั่นไส้ผู้ฝึกท่านนั้มีพ่อแม่อยู่ชั้นนิพพานทั้งคู่ และก็ยัง ...อุ๊ย...สวยมาก..อุ๊ย...สวย อยู่ไม่หยุด พอจิตมันมัวเลยมองไม่เห็นท่านพ่อเลยเห็นแต่เท้า ส่วนท่านแม่ยังยิ้มอยู่ตลอด ดีใจที่เห็นพ่อแม่ เห็นท่านยังอายุซักแค่ 20 เห็นจะได้ บาปกรรมแท้เลยเราอุส่าห์ตะกายขึ้นมากับเค้าได้ก็ยังมามีกิเลสอีก<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    จากนั้นแม่แต๋วบอกให้อธิษฐานขอบารมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อเห็นวิมาณของเราเอง<O:p</O:p
    ผมก็เห็นหลังคาจตุรมุขสีขาวเล็กๆ อย่างศาลพระภูมิ แต่สวยมากแม่แต๋วบอกอธิษฐานพาท่านพ่อท่านแม่เข้าไปข้างใน ผมก็เข้าไป มีเสาแก้วต้นเล็กไม่กี่ต้น ไม่สมกับหลังคาที่แสนจะพิสดารเท่าไรนัก เห็นเป็นลักษณะโล่งโจ้ง ไม่มีฝา นึกได้ว่าคงทำบุญไว้น้อยมาก ต่อไปจะเร่งสร้างบุญบารมีให้มาก แม่แต๋วบอกกราบลาพ่อแม่ แล้วอธิษฐานไปที่วิมาณขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอีกครั้งเพื่อกราบลา<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เข้ามาถึงวิมาณขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตอนนี้เห็นทุกพระองค์ไม่ชัดเลย ลำบากเต็มที แต่ยังเห็นหลวงพ่อชัดและยังยิ้มให้อยู่เสมอ ทำให้มีกำลังดีอยู่ เลยได้กราบลาทุกๆพระองค์

    <O:p</O:p
    เสร็จสิ้นการฝึกแม่แต๋วก็ได้แนะนำการฝึกด้วยตัวเองแม่แต๋วบอกว่าปกติไม่ได้สอนผู้ฝึกครั้งแรกบ่อยนัก แต่วันนี้หลวงพ่อท่านได้ไปบอกให้เข้าสอน จะมีคนที่หลวงพ่ออยากให้แม่ชีช่วยฝึกให้มาฝึก แม่แต๋วทิ้งเบอร์โทรไว้ให้เพราะรู้ว่าผมต้องกลับแล้ว ถ้าติดขัดอะไรก็ให้โทรถามได้ แม่แต๋วเล่าว่าเมื่อก่อนเป็นครูเกษียณแล้ว ไม่มีครอบครัว ดูแลพ่อแม่จนท่านจากไปหมดเลยมาปฏิบัติธรรมและสอนด้วย ผมจึงถึงบางอ้อเลยว่า
    ว่าทำไมแม่แต๋วจึงมีทักษะการสอนและใจเย็นเข้าใจผู้ฝึกที่ฝึกได้ยากๆอย่างผม<O:p</O:p
    เดินทางกลับบ้านด้วยรถตู้ ภาวะนา นะมะ พะทะ มาตลอดทาง
    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 ธันวาคม 2011
  14. thepsak

    thepsak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +1,306
    วันอังคาร 28 กรกฎาคม 2552<O:p</O:p
    ตอนเช้าใส่บาตรเสร็จทำวัตรเช้า กรวดน้ำ แล้วรีบไปทำงาน<O:p</O:p
    กลับจากทำงาน อาบน้ำ ไหว้พระสวดมนต์ เริ่มจาก 12 ตำนาน ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏก บทบูชาพระอริยสงฆ์ต่างๆ บูชาเทพเทวา แล้วสมาทานพระกรรมฐาน เจริญกรรมฐานจนรู้สึกว่าจิตสงบอาการเพี้ยน รู้สึกหน่วงที่โพรงจมูกเริ่มขึ้น <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    คงเป็นญาติกับ ตุ๊กกี้ วงคำเหลา .....สงสัยจะมีปัญหาที่โพรงจมูก!!!!<O:p</O:p
    จึงเปลี่ยน มาลืมตาแล้วมองพระพุทธรูปแล้วเริ่มใหม่จนจิตสงบอีกครั้ง<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ลองทบทวนมโนมยิทธิ แต่ทำไม่ได้ จิตไม่เห็นอะไรเลย เลยเจริญกรรมฐานต่อซักพัก แล้วกรวดน้ำ ส่งท่านเทวดา กราบลาพระ เข้านอน<O:p</O:p

    วันพุธ 29 กรกฎาคม 2552<O:p</O:p
    มีเทวดามาสอนธรรมะ<O:p</O:p
    กลับจากทำงานวันนี้เหนื่อยมากรีบหาข้าวกิน แล้วอาบน้ำสวดมนต์ สมาทานพระกรรมฐานภาวะนา นะมะพะทะ พอรู้ว่าจิตสงบ เลยลองทำใจเบาเบา อธิษฐานขึ้นพระจุฬามุณี แต่มืดสนิทจิตไม่เห็นอะไรเลย เลยทำใจเบาๆ เอาจิตเดินจนรอบบ้าน กราดน้ำอุทิศผลบุญ ส่งท่านเทวดา กราบลาพระพุทธแล้วเข้านอน<O:p</O:p
    ตอนเข้านอนระหว่างที่กำลังจะหลับเห็นเป็นเทวดาสามองค์ มีเทวดาผู้ใหญ่ เทวดาหนุ่มและเทวดาเด็กผู้หญิง<O:p</O:p
    เทวดาผู้ใหญ่มีดาบเล่มใหญ่มากหมุนอยู่รอบตัว เทวดาหนุ่มมีมีดเล่มเล็กหมุนอยู่รอบตัว<O:p</O:p
    ส่วนเทวดาผู้หญิงมีเพียงรัศมีวงกลมรอบตัว ท่านพุ่งขึ้นลอยออกไปพร้อมกัน ผมวิ่งตามร้องโวยวายว่าระวัง จะชนกัน ด้วยกลัวว่าท่านจะเป็นอันตราย<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พอท่านได้ยินก็หยุดเป็นจังหวะที่ท่านชนกันพอดี ดาบกับมีดก็ชนกันเสียงก้อง จากนั้น กลายเป็นเพียงรัศมี ล้อมท่านไว้ทั้งสามองค์เหมือนกัน
    <O:p</O:p
    เทวดาผู้ใหญ่ท่านบอกว่าไม่ต้องกลัวไป ที่เห็นเป็นมีด นั้นก็คือศีลไม่ได้เอาไว้ทำลายกัน แต่เป็นเครื่องป้องกันตัว<O:p</O:p
    เมื่อเรารักษาศีล ศีลก็จะรักษาเรา เป็นเครื่องมือป้องกันไม่ให้คนเบียดเบียนกัน<O:p</O:p
    ผมถามว่าทำไม เห็นเป็นมีดไม่เหมือนกัน บางองค์ก็มีแค่รัศมีล้อมเฉยๆ<O:p</O:p
    ท่านบอกว่า คนเราเกิดมาไม่มีใครเท่ากัน ทำยังไงก็ไม่เท่ากัน<O:p</O:p
    แต่คนเราสามารถมีศีลเสมอกันได้ ใครรักษาศีลอะไรกี่ข้อก็ให้พยายามบริสุทธิ์ <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ท่านบอกให้ทำสี่อย่าง ท่านเนรมิตรถ้วยแก้วให้ดู สี่ใบ บอกให้เติมให้เต็มทั้งสี่ใบ<O:p</O:p
    ผมตอบท่านว่า สามใบแรก นี่คือ 1.ทาน 2.ศีล 3.ภาวะนา ใช่มั๊ยครับ ท่านตอบใช่<O:p</O:p
    อีกอย่างผมไม่รู้ ท่านบอกว่า ที่เหลือคือการ 4.โมทนา <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ท่านบอกการโมทนาจะช่วยทำให้ผู้นั้นได้ปิติกับบุญที่ได้ทำไป จึงสามารถระลึกถึงบุญนั้นๆได้ และต้องร่วมยินดีกับบุญกุศลของผู้อื่น ที่เราไม่เคยรู้จัก หรือแม้กระทั่งกับคนที่เราไม่ชอบ ก็ให้ยินดีกับความดีของเขาด้วย.....คงต้องขัดเกลาอีกเยอะเลยผม<O:p</O:p

    ผมจึงนึกได้ว่าตั้งแต่เกิดมาเคยได้โมทนาบุญกับคนอื่นน้อยครั้งมาก ตอนไปที่วัดท่าซุ่งแล้วเราตั้งใจทำบุญพอมีคนมาโมทนาบุญด้วย เราปราบปลื้มเช่นไร เราระลึกได้ถึงบุญที่เราทำ <O:p</O:p
    ยังไม่ทันได้ขอบคุณท่านเทวดาหรือกราบลาใดๆ เทวดาก็หายไปแล้ว<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ตื่นขึ้นมาจำความฝันได้เหมือนจริงนึกกับตัวเองว่าเราชักจะเพี้ยนเหมือนที่แม่ห่วง แต่สิ่งที่รู้ในใจ คือคนหยาบอย่างผมคิดเรื่องนี้ไม่ได้เองแน่ๆ<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 ธันวาคม 2011
  15. thepsak

    thepsak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +1,306
    วันพฤหัสบดี 30 กรกฎาคม 2552<O:p</O:p
    ตื่นขึ้นใส่บาตร กรวดน้ำ ไม่ได้ทำวัตรเช้า แต่อาศัยสวดมนต์ในใจบนรถระหว่างไปทำงาน เห็นว่าที่กระจกผูกผ้าแพรคงจะถวายแก่แม่ย่านางแน่ พอจิตสงบขอบารมีพระพุทธเจ้าขอเห็นเทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิบนรถคันนี้

    <O:p</O:pเห็นเป็นนางฟ้าแต่งตัวสวย แต่แปลกที่ทรงผมท่านตีฟาร่า.... <O:p</O:p
    ท่านนั่งยิ้มเอามือประคองฟาร่า นิดส์นึงแล้วกลับมายิ้มทำหน้าสวยต่อ<O:p</O:p
    กำหนดจิตอุทิศบุญให้ท่าน ขอบคุณท่านที่มาสนับสนุนการฝึกท่านก็ยิ้ม<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    กลับบ้าน สวดมนต์ปรกติ สมาทานพระกรรมฐานอาการหน่วงที่โพรงจมูกก็เริ่มอีก เลยลืมตาเปลี่ยนมาเพ่งพระพุทธรูป พอหายจึงเริ่มใหม่ แล้วทบทวนมโนมยิทธิ ทำจิตเบาเบาเดินรอบบ้าน อธิษฐานบารมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขอให้เห็นท่านเจ้าที่ที่บ้าน อธิษฐานอยู่สักพัก เห็นเป็นผู้ชายแก่นุ่งขาวห่มขาวอย่างคนถือศีล มีผ้าขาวม้าลายหมากรุกพาดบ่า ท่านยิ้มให้อย่างเอ็นดูคงรู้ว่าเรากำลังฝึกอยู่<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เห็นลูกกุมารปิ่นเงินปิ่นทองเล่นกัน อยู่หน้าโต๊ะทำงานแต่เห็นไม่ชัดนัก เห็นว่าแต่งตัวผิดจากเมื่อหลายปีก่อนที่เคยฝันเห็นนุ่งผ้าขาวทั้งสอง ตอนนี้แต่งตัวอย่างเทพบุตร คงเพราะสังขารที่เราหามาเปลี่ยนใหม่ ส่วนน้องทองสุกนี่ได้มาจากหลวงปู่แย้ม น้องทองสุข ผิวคล้ำกว่าเพื่อน ยืนมองผมอายๆ <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    อยากจะคุยด้วยจังแต่กำหนดจิตไปถาม ลูกๆก็ได้แต่ยืนเรียงแถวหน้ากระดานมองเรา ไม่ตอบอะไร คงเพราะผมเองที่ยังฝึกไม่พอ ที่เห็นว่ายืนเรียงแถวนี่ไม่ใช่เห็นชัดด้วย เป็นเบลอๆ มัวๆ ชัดเพียงบางส่วนเฉพาะส่วนหน้าอก<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    แม้จะอุทิศบุญให้กับท่านเจ้าที่และลูกกุมารทุกวัน แต่ผมก็รวบรวมจิตแล้วขอบารมีคุณพระรัตนตรัย ขอบุญที่ลูกเคยได้ทำมาตั้งแต่อดีตชาติถึงชาติปัจจุบัน อุทิศให้แก่ท่านเจ้าที่ และน้องปิ่นเงิน ปิ่นทอง น้องทองสุก ขอให้มีความเจริญและมีบารมียิ่งๆขึ้นไป ท่านยิ้มพอใจ ลูกๆก็ยิ้ม มีเจ้าทองสุกยังอายม้วนอยู่<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    รวบรวมจิตใหม่กลับมาที่ห้องพระขอบารมีองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าขอขึ้นไปกราบพระจุฬามณี ปรากฎเห็นยอดพระจุฬามณีเพียงมัวๆ เลยกราบตรงนั้นเลย ไม่เข้าไป และก็จบการเจริญพระกรรมฐาน คิดว่าฝึกไม่มากพอ ให้กำลังใจตัวเอง กรวดน้ำ อุทิศบุญ ส่งท่านเทวดา กราบลาพระ แล้วเข้านอน<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 ธันวาคม 2011
  16. thepsak

    thepsak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +1,306
    วันศุกร์ 31 กรกฎาคม 2552<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    วันนี้วันพระ ผมลงเรือเสร็จแวะซื้อพวงมาลัยที่โลตัสบางกะปิ แม่ค้าพวงมาลัยเยอะมากแต่ผมเดินเลี่ยงมาที่แม่ค้าเจ้าประจำ เห็นเค้าน่าสงสารกว่าเพื่อน<O:p</O:p

    แม่ค้าพยายามจะแถมนุ่นนี่ให้ทุกครั้ง ต้องปฏิเสธว่าให้เก็บไว้ขาย รู้สึกว่าร่างกายแม่ค้าก็ไม่ค่อยสบายนัก ยังมีลูกอ่อนอีกต่างหาก <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    รีบกลับบ้านมาสวดมนต์ เพราะทุกวันพระ ผมจะสวดมนต์พร้อมแปลด้วยทุกบท ผมจะได้เข้าใจความหมายและแต่ละบทก็ยังมีธรรมะสอดแทรกอยู่ด้วย
    <O:p</O:p
    เริ่มจากบททำวัตรเย็น สมาทานศีล ชุมนุมเทวดา บท12 ตำนาน ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏก ชินบัญชร ไหว้เหล่าพระอริยะสงฆ์ เทพเทวา แล้วสมาทานพระกรรมฐาน ทบทวนมโนมยิทธิ ขึ้นไปพระจุฬามุณี วันนี้ก็ยังทำได้ไม่ดี เห็นอะไรไม่ชัดเลย แต่อย่างน้อยก้เห็นเท้าของท่านเทวดาที่เฝ้าทางเข้าพระจุฬามณีชัด มองเห็นสมเด็จท่านแค่เป็นแสงซะส่วนมากแต่ก็ยังเห็นเท้าท่านชัด

    <O:p</O:pที่วิมาณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พยายามมอง แต่ไม่ชัดเลยกราบท่านทุกๆพระองค์<O:p</O:p
    เสร็จ ปรากฎเห็นหลวงพ่อชัดเจนท่านยิ้มน้อยๆอย่างเมตตา เลยมีกำลังใจหน่อย รู้สึกว่าวันนี้เทวดามากันเยอะแต่เห็นอะไรไม่ชัดเลยเห็นเพียงแต่ยอดชฎา<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ไปไหว้ท่านปู่ท่านย่ายังเห็นท่านย่าชัดแต่ แทบจะไม่เห็นท่านปู่เลยเห็นแต่เท้า
    <O:p</O:p
    อธิษฐานถึงท่านพ่อกับท่านแม่ ท่านก็มารออยู่แล้ว เลยขอพรจากท่านปู่ท่านย่าขอให้ลูกมาได้ทุกวันและขอให้เห็นอะไรชัดเจนขึ้นทุกวัน ท่านย่ายิ้มแล้วพยักหน้า ไม่เห็นท่านปู่พระอินทร์ว่ากระไร ลาท่านทุกพระองค์ตรงนี้ จากนั้นไปกราบลาพระพุทธเจ้าและหลวงพ่อ เป็นอันเสร็จแค่นี้ในวันนี้ กรวดน้ำ แล้วส่งท่านเทวดากลับ<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 ธันวาคม 2011
  17. thepsak

    thepsak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +1,306
    <O:p</O:p
    วันเสาร์ 1 สิงหาคม 2552<O:p</O:p
    ตื่นมาไม่ทันใส่บาตร ได้แต่ทำวัตรเช้า <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    วันอาทิตย์ 2 สิงหาคม 2554
    ตื่นสายไม่ทันใส่บาตรอีกแล้ว<O:p</O:p
    ตอนเย็นสวดมนต์ สมาทานพระกรรมฐาน อาการตุ๊กกี้ วงคำเหลา ก็มารบกวนโพรงจมูกอีก ฝืนนั่งไปเรี่อยๆ ไม่รู้ว่านานเท่าไร เลยเลิกฝืกก่อน เพื่อจะได้ทบทวนมโนมยิทธิ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    วันนี้อธิษฐานเห็นสมเด็จองค์ปฐม ลางๆ แล้วเห็นเพียงแค่ยอดพระจุฬามณีมัวๆ เลย ทำแค่เจริญพระกรรมฐาน จากนั้นอุทิศบุญ แล้วส่งท่านเทวดา เป็นอันเสร็จวันนี้<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    แม่ชีแต๋ว บอกให้พยายามขึ้นมาที่พระนิพพานบ่อยๆ เพื่ออารมณ์จะได้จับอยู่พระนิพพานเป็นกำลังใจให้เราหมั่นทำบุญกุศล และหมั่นฝึกปฏิบัติ<O:p</O:p
    ผมก็พยายามทำตามแม้จะมืดๆ มัวๆ ก็ไม่ท้อ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    วันจันทร์ 3 สิงหาคม 2552<O:p</O:p
    วันนี้ต้องหงุดหงิดกับงานทั้งวัน งานต่างๆ ก็เสร็จไม่ทันท่วงที <O:p</O:p
    คิดขึ้นมาว่าเราเป็นชาวพุทธ คือผู้รุ้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เลยรีบประคองอารมณ์
    <O:p</O:p
    ตอนบ่ายแวะซื้อข้าวสาร น้ำตาล เนสวีต้า มีโกน ปากกา ยาแก้ไอ เบตาดีน ถวายพระที่วัดใกล้บ้าน<O:p</O:p
    ตอนเย็น สวดมนต์ปกติ สมาทานพระกรรมฐาน ขึ้นพระจุฬามณีแบบมัวๆ เลยกราบลาท่านตรงนั้นเลย ไม่ไปต่อ <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    จากนั้นเริ่มใหม่เพ่งพระพุทธรูป แล้วเจริญพระกรรมฐานต่อ ไม่ได้กรวดน้ำ อุทิศบุญ แล้วส่งเทวดากลับ กราบพระแล้วเข้านอนเลย<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 ธันวาคม 2011
  18. thepsak

    thepsak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +1,306
    วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2552<O:p</O:p
    เรื่องงานยังคงค้างปัญหาอยู่อีก ขอกลับบ้านไวหน่อยแล้วกัน<O:p</O:p
    นั่งเรือกลับบ้าน ภาวะนาพระคาถาเงินล้านไประหว่างทาง<O:p</O:p
    พอรู้สึกว่าจิตสงบ จึงอธิษฐานขอบารมีพระพุทธเจ้าขอให้ลูกได้เห็นเทวดาที่รักษาบนเรือลำนี้ มองเห็นนางฟ้าสวมชฎา แต่งชุดเหมือนนางรำสวยมาก นั่งพับเพียบอยู่หัวเรือ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    กำหนดจิตไปถามว่า แม่ย่านางสวยอย่างนี้เลยเหรอ ท่านยิ้มแล้วเปลี่ยนเป็น คุณยายใจดีใส่เสื้อแขนกระบอกสีชมพูผ้านุ่งสีบานเย็น ผมยาวแค่บ่าสี ดอกเลา ที่หูทัดดอกยี่โถ สีเข้ากับชุด แล้วมาให้เห็นใกล้ๆด้วย ใจดีจริงๆ ผมบอกท่านว่ากำลังฝึกถ้ามีอะไรขอให้ท่านแนะนำด้วย ท่านพยักหน้า<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ถามท่านว่าทำยังไงถึงได้มาเป็นแม่ย่านางได้ ท่านให้เห็นภาพเมื่อท่านยังมีชีวิต อาศัยอยู่บ้านริมคลองนี่แหละ ได้ทำบุญบ้างกับพระสงฆ์ พายเรือมาบิณฑบาตรที่ท่าน้ำ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เรือจอดที่ท่าอิตัลไทยพอดี ท่านก็ก้าวเดินบนแคมเรือ ออกไปที่ท่าน้ำ อย่างทะมัดทะแมง<O:p</O:p
    คอยระวังไม่ให้ผู้คนเกิดอุบัติเหตุ ตอนทำงานนี้ท่านเปลี่ยนเป็นเครื่องแบบอย่างนางรำมีชฎาแหลม ส่งจิตไปบอกท่านว่า บริการทุกระดับประทับใจ ท่านยิ้มตอบ <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ผมเลยส่งจิตไปอนุโมทนาบุญตามที่ท่านเทวดาสอนมา ท่านยิ้มแล้วชี้ไปทางเสาที่ท่าเรือ เห็นเป็นพญานาคสีเขียวขดอยู่ที่เสา กราบท่าน กำลังจะถามท่านหน่อย ก็ไม่ทัน เรือออกแล้ว คุณยายแม่ย่านางก้าว ขึ้นมาบนเรือ แล้วไม่เปลี่ยนเครื่องแบบแล้ว<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    แม่ย่านางชี้ไปทางขวา ผมมองตาม เห็นเทพบุตร งามมาก ยืนเอามือไพล่หลังมองมาทางเรือ ผมลืมตาเอาตาเนื้อมองเลยเห็นศาลพระพรหมสีขาวสวยมาก รีบหลับตาแล้วเอาจิตไปกราบท่าน<O:p</O:p
    ทุกครังที่เรือจอดก็จะเห็นแม่ย่านางกุลีกุจอดูแลคนขึ้นลงอย่างเมตตา ผมก็โมทนาบุญด้วยทุกครั้ง<O:p</O:p
    ผมตั้งจิตอุทิศบุญให้แม่ย่านาง ท่านไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนเลย ท่านคงทำบุญไว้มากโข นึกได้ว่าบุญที่เราทำมาเปรียบกับท่านคงน้อยนิด ท่านยิ้มน้อยๆ อายๆ ผมกล่าวขอบคุณท่านที่ได้มาช่วยสอน ขึ้นเรือคราวหน้าถ้าเป็นเรือของท่านขอเห็นท่านอีกนะครับ ท่านพยักหน้า

    <O:p</O:pถึงเดอะมอลล์บางกะปิแล้ว ลงจากเรือมองไปที่หัวเรือพยายามมองหาแม่ย่านางด้วยตาเนื้อ เห็นที่หัวเรือมีผ้าแพรสีชมพูผูกอยู่ และแจกันใบเล็กปักด้วยดอกยี่โถ ทำเอาผมขนลุกซุ่<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 ธันวาคม 2011
  19. thepsak

    thepsak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +1,306
    วันพุธ 5 สิงหาคม 2552<O:p</O:p
    อีกวันที่การปฎิบัติไม่ก้าวหน้า มองไปทางไหนมืดสนิท<O:p</O:p
    พยายามต่อไปครับ ไม่ท้อ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    วันพฤหัสบดี 6 สิงหาคม 2552<O:p</O:p<O:p</O:p<O:p</O:p
    ตื่นมาด้วยความปวดเมื่อย มาใส่บาตร วันนี้วันพระต้องใส่ให้ได้<O:p</O:p
    กรวดน้ำอุทิศบุญ นึกขึ้นได้ว่าไม่ได้กรวดน้ำหลายวัน กายทิพย์บางพวกที่ได้รับบุญยากๆเดี๋ยวจะไม่ได้ เสร็จแล้วทำวัตรเช้า นึกอยู่ว่าวันนี้ต้องกินข้าวเย็นหรือเปล่า เลยสมาทานศีลแปด<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ทำงานกลับบ้านเร็วหน่อยเพราะวันพระ นั่งเรือกลับ ทำสมาธิ ลองกำหนดจิตดูแต่มืดบอดอีกตามเคย<O:p</O:p
    แวะซื้อพวงมาลัยวันนี้เห็นแต่แม่ของแม่ค้าเจ้าประจำ ถามหาลูกแกบอกว่าให้อยู่เลี้ยงหลาน ผมคิดว่าปัญหาเรื่องสุขภาพด้วย แต่ไม่ควรถาม

    <O:p</O:pวันนี้สวดมนต์แปรทุกบท แล้วขึ้นพระกรรมฐาน ไม่อยากเห็นอะไรเป็นพิเศษ เพียงตั้งใจไว้ว่าถ้าจิตสงบจะขึ้นไปยังพระจุฬามณี พอจิตสงบดีแล้ว ปัญหาเรื่องโพรงจมูกก็มารบกวนอีก ลืมตาขึ้นเพ่งพระพุทธรูป แล้วเริ่มหลับตาอีกครั้ง กำหนดให้เห็นพระพุทธรูป<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พอจิตกำหนดเห็นพระพุทธรูปชัดป๊บ ผมก็ปรากฎมาอยู่ต่อหน้าสมเด็จองค์ปฐมในพระจุฬามณีแล้ว วัดนี้เห็นท่านชัดเจนเหลือเกิน ทุกอย่างสว่างสไวไปหมด นึกขึ้นได้จึงรีบประคองอารมณ์ไม่ให้ดีใจเกินเหตุ จึงกราบท่าน ท่านลูบที่หัวผม ขอพรท่านว่าขอขึ้นมาแล้วให้เห็นชัดแบบนี้ทุกวัน ท่านไม่ว่ากระไร ผมตัดใจไม่ติดใจคำตอบท่าน เดี๋ยวจิตหมองแล้วจะกลับมามืดขมุกขมัว แล้วขออณุญาติไปวิมานท่าน <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    วันนี้ผมค่อยๆเดินออกจากพระจุฬามณีหน่อยขอเห็นทุกอย่างให้ชัดซักวัน เดินออกมาเห็นบันไดพญานาดงดงามมากพญานาคตัวใหญ่มากทั้งสีเขียวและสีทอง ท่านเทวดาที่เฝ้าทางเข้าก็งาม ไม่ได้เห็นแค่เท้าท่านแล้วคราวนี้ ท่านยิ้มให้ประหนึ่งจะบอกว่าว่าเห็นซักทีเนาะ จึง ไหว้ท่านทั้งสอง ท่านพยักหน้า<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    วันนี้ดูผู้คนขวักไขว่เป็นพิเศษ นึกขึ้นได้ว่าวันพระนี่นา พริบตาเดียวมาอยู่หน้าวิมาณขององค์สมเด็จแล้ว เข้าจะไปกราบท่านคิดในใจว่าเดียววันนี้จะเที่ยวให้ทั่ว ให้เห็นมากที่สุดเท่าทีจะทำได้ สิ้นความคิดก็เห็นพระพุทธเจ้าทั้งห้า พระองค์เป็นแค่แสงจ้า มองไม่เห็นท่านเลย เอาซะแล้วเราเพราะแค่คิดอยากเพียงนิดเดียว กลับมาขมุกขมัวเหมือนเดิมเลย<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ตั้งสติใหม่กำหนดพระพุทธรูปที่เราขอบารมีตอนขึ้นมา เห็นทุกอย่างชัดเจนอีกครั้ง แต่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ยังไม่ชัดอยู่ดี ใหม่เป็นไร ตราบที่ยังมีชีวิต ลูกจะพยายามอยู่ตลอดเวลา ให้ได้ชื่อว่ามอบกายถวายชีวิตให้ท่านแล้ว<O:p</O:p
    เห็นคนมาเฝ้าพระพุทธเจ้าเต็มวิมาณทางซ้ายเป็นเทวดาแถวหน้าเป็นพระอริยะสงฆ์ ฝั่งซ้ายเป็นนางฟ้า <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ระหว่างที่เรากำลังกำหนดจิตกราบองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ปรากฎท่านเณรน้อย อายุไม่น่าเกิน 11 ขวบก็กราบพระพุทธเจ้าอยู่ปล๊กๆ คิดถึงว่าตอนเราอายุเท่านี้ยังวิ่งไล่แย้ ยิงนก จับปลา งมหอยอยู่เลย รีบยุติความคิดเดี๋ยวเสียเรื่อง<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    กำหนดจิตมายังวิมาณท่านปู่พระอินทร์ เห็นท่านย่าชัดเจนกว่าเดิม แต่ที่อัศจรรย์ใจ ผมเห็นปู่พระอินทร์ชัดเจนทุกส่วน พระพักตร์ท่านงามมากทั้งสองพระองค์ทรงชุดสีทองแต่แปลกที่ใสเหมือนแก้วมีแสงสว่างไสว ก้มกราบท่านทั้งสอง วันนี้ท่านปู่ลูบหัวด้วย <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ท่านปู่ไม่ค่อยยิ้ม แต่ท่านย่ายิ้มตลอด วันนี้กำลังใจดีมาก เลยขอพรท่านทั้งสอง ขอให้ญาณทัศนะแจ่มใสขึ้นเรื่อยๆ ท่านทั้งสองพยักหน้า ผมกำหนดจิตทูลบอกท่านว่า ยังไม่ได้ยินบรรดาชาวโลกทิพย์คุบกัน คอยแต่ให้ท่านทั้งหลายพยักหน้าให้ ผมเลยขอพรต่อว่าขอให้ได้เรียนรู้ยิ่งยิ่งขึ้นไป ท่านพยักหน้า แล้วลูบหัวเราอีกครั้ง กราบลาท่าน<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ปรากฎท่านพ่อและท่านแม่มารออยู่ กราบท่าน วันนี้ท่านพ่อทรงชุดสีทองชมพูส่วางไสว ท่านแม่ก็ชุดทอง แต่สไบทองขลิบแดง ได้ยินในจิตว่าท่านพ่อชมว่าวันนี้ทำดี ตกใจนิดนึงถามท่านว่า ลูกจะได้ยินแบบนี้อีกไม่ กลับไม่ได้ยินท่านตอบ ท่านกลับพยักหน้า<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    นี่แหละความอยาก พออยากแค่นิดเดียวไม่ได้อะไรเลย ผมเองก็ยังขัดเกลาไม่หายซะที<O:p</O:p
    แต่ก็ยังพยายามต่อไปครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ไปกับท่านพ่อท่านแม่ ยังที่วิมาณของผู้ใดไม่ทราบ อยู่ใกล้กับวิมาณขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีนางฟ้ามารำถวาย เหล่าเทวดานางฟ้าต่างมาดูการรำด้วยใบหน้าเบิกบาน เห็นนางฟ้าสององค์ องค์หนึ่งทรงชุดสไบมีสีน้ำเงินตัดกับแดง อีกองค์ สีเขียวดัดกับแดง ถ้าเป็นสีแบบนี้อยู่บนโลกมนุษย์คงไม่ต่างจากแท็กซี่ แต่ข้างบนนี้ช่างสวยอย่างอรรศจรรย์<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เทพบุตร ทั้งหลายใบหน้างดงาม บางองค์ทรงชุดสีชมพู แต่ดูเข้มแข็ง ดั่งนักรบ ลบภาพความปวกเปียกของมนุษย์ไฟฟ้าสีชมพูในหนังโดยสิ้นเชิง <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เหล่าบรรดายักษ์ มากันเป็นกลุ่มก็ไม่ได้ดูน่ากลัวเกเร เพียงแต่ดูน่าเกรงขามดูเป็นสุภาพบุรุษสะโอดสะองค์ดูมีชาติตระกูลซะมากกว่า ผิดกับเมื่อก่อนที่ผมเคยจินตนาการไว้<O:p</O:p
    มัวแต่เดินชมเหล่าเทวดา นางฟ้าและท่านยักษ์ คิดได้ว่าจะเที่ยวให้ทั่วอยากเที่ยวเหลือเกิน พอความอยากเข้ามา ก็เริ่มขมุกขมัวในทันใด ความอยากเห็นเลยทำให้อดเห็นเลยนี่ เห็นท่านพ่อท่านแม่ได้ลำบากเหลือเกิน เลยกราบลาท่านทั้งสองตอนนี้เลย วันนี้คงพอแค่นี้<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เข้าไปกราบลาองค์พระพุทธเจ้า เห็นหลวงพ่อยิ้มให้ ได้ยินในจิตว่า วันนี้ทำดีนะ ขอให้เจริญๆ หมั่นขึ้นมาให้บ่อยๆ ตกใจที่ได้ยิน ถามท่านว่าผมได้ยินท่านใช่มั๊ย ท่านกลับพยักหน้าแทน และยังเห็นท่านเณรน้อยองค์นั้นนั่งสมาธิหลับตาปี๋ ด้วย<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    วันนี้เลยคลายจากสมาธิ กราบพระพุทธ กราบเทพเทวดา อุทิศบุญกุศล กรวดน้ำ กราบลาพระพุทธอีกครั้ง คืนนี้รู้สึกใจเป็นปิติเหลือเกิน<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 ธันวาคม 2011
  20. thepsak

    thepsak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +1,306
    วันศุกร์ 7 สิงหาคม 2552<O:p</O:p
    ลูกค้าที่เคยเอางานที่ออกแบบให้ ไปให้เจ้านายเก่าทำก็อปปี้ มาที่ร้าน<O:p</O:p
    แต่ผมไม่อยู่ และไม่อยากเจอด้วยจะทำให้จิตหมองไปอีก แม้จะอโหสิกรรมให้แล้ว<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ตัวเราเองก็ทำกรรมมาก่อน ทั้งยังเป็นคนสอนลูกเล่นต่างๆประเภทนี้ให้เจ้านายเก่าอีกต่างห่าง พอมาโดนเข้ากับตัวเองเลยหยุดทำกรรมใหม่ซะหมด เงินทองคงไม่ใช่ทุกย่างของชีวิต แม้จะสำคัญมากๆเลย อิอิอิ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ตอนเย็นเตรียมส่งงาน เลยต้องกลับบ้านดึก สวดมนต์เสร็จ รู้ตัวว่าวันนี้คงจะทำสมาธิไม่ไหว<O:p</O:p
    เลยรวบรัดอุทิศบุญแล้ว กรวดน้ำ ส่งท่านเทวดาแล้วเข้านอน อาศัยภาวนา นะมะพะทะตอนนอน แต่หลับไปตอนไหนไม่รู้ตัว<O:p</O:p

    วันเสาร์ 8 สิงหาคม 2552<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ถึงบ้านตอนเย็น อาบน้ำ สวดมนต์ขึ้นพระกรรมฐาน หวังในใจว่าวันนี้จะขึ้นไปพระนิพพาน อยากจะเห็นให้ชัดเจนเหมือนครั้งนั้น<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    แต่กลับได้เห็นอย่างลำบากมาก เลยกราบลาองค์สมเด็จที่หน้าพระจุฬามุณี
    <O:p</O:p
    ซึ่งตอนนี้ผมไม่เห็นว่าเป็นรูปร่างอย่างไรเสียด้วย <O:p</O:p
    จึงกลับมาทำเพียงภาวะนา นะมะพะทะ จากนั้น ก็อุทิศบุญ ส่งท่านเทวดา เป็นอันเสร็จแค่นี้<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 ธันวาคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...