ผมเป็นเกย์ครับ ทำอย่างไรถึงจะหลุดพ้นบ่วงกรรมแห่งกาม หรือเกี่ยวกับศีลข้อสาม

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย Xiaobao, 1 ธันวาคม 2011.

  1. gastonoy

    gastonoy สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +0
    ผมนึกถึงคำพูดของอาจารย์ริวเลยครับ

    ที่ว่า "เราเกิดมาเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเอง"
     
  2. naron

    naron เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2009
    โพสต์:
    2,515
    ค่าพลัง:
    +3,573
    ก็อย่าไปคิดเลยครับ ปล่อยๆๆตัวตามสบาย ทำงานให้มากคิดถึงงานให้มากๆ จะได้เหนื่อยๆๆๆ นอนไป อิอิอิอ
     
  3. Xiaobao

    Xiaobao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    111
    ค่าพลัง:
    +472
    ขอขอบพระคุณทุกความเห็น ทุกกำลังใจครับ
    เป็นข้อคิดในการทำใจ ตั้งใจ กำลังใจ ที่ดีมากเลย
    ใครมีข้อคิดแนวทางอื่นๆ ก็เสนอได้เลยครับ
    ขอบคุณล่วงหน้าอีกทีครับ
     
  4. atikom2537

    atikom2537 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +10
    ฮะๆๆคุณอย่าไปเครียดเลยครับ ผมก็เป็นแบบคุณละครับ แต่ผมก็ไม่เครียดนะ เป็นก็เป็นไปดิ แล้วจะทำไมอ่ะ วิธีที่ผมใช้ดับกามมี2วิธี วิธีแรก เข้าญาณสี่ก่อนอกมาติดอุเบกขานิดๆมันจะวางเฉยต่อทุกอย่างให้เอาหนังโป๊มาดูมันก็ไม่มีอารมณ์ มีน้อยนิด พูดตรงๆเวลาเข้า ชตอ เดือนละครั้งเองนะ วิธีที่สอง พิจารณาสังขาร อสุภะเนี่ยละ มองๆไป เอามาเปรียบเทียบดูภาพคนหล่อ มากับคนตายเนี่ย สุดท้ายเวลาอยู่ในกองไฟเนี่ยมันสภาพเดียวกันไหม หนังหัวถลอก เบ้าตาถลน น้ำมูก น้ำลายไหล เลือดเต็มตัว ถ้าเอามานอนกับเราเนี่ยยังจะกล้าทำนู่น นี่ นันอยู่ไหม พิจารณาไปเถอะบ่อยๆเข้ามันจะเกิดการปลงทีนี้ละมาต่อยอดการภาวนาต่อไป แนะนำอีกวิธีหนึ่งผมว่าจะลองเหมือนกัน อดอาหารเย็นกินน้อยๆพอเพราะผมอายุ17เองยังเรียนอยู่ ถ้าจะอดอาหารเย็นคงไม่ได้ หรือคุณจะลองกินมังสวิรัตก็ได้นะช่วยได้พอสมควร^^
     
  5. นฤพานนท์

    นฤพานนท์ นฤพานนท์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +193
    อันที่จริงผมก้อเปนเกย์นะครับ ...ผมว่าคนเราก้อจะเจอสภาวะทุกข์ที่ดูแตกต่างต่างแต่ไปในทางเดียวกันนะครับ ทุกข์แบบโน้น แบบนั้น แบบนี้ สรุปได้ว่ามันก้อคือความทุกข์ ถ้าจะให้มองแบบกลางๆ ทำใจสบายๆ เรียนรู้และยอมรับ อันที่จริง มันก้อแล้วแต่มุมมองว่าจะมองเรื่องแบบนี้ยังไงนะ แต่ต้องยอมรับเลยว่า เรื่องกามนี่ มันร้อน แรง จริงๆ มันร้อนแรงในแง่ที่ว่า ดึงดูด ยั่วยุ ปลุกเร้า อะไรประมาณนี้ ซึ่งในหลายๆครั้งเราก้อพ่ายแพ้ต่อกาม แต่ถ้าจะให้มองในแง่ดี ก้อคือ เราจะไม่ยอมให้กามมันมีอำนาจเหนือจิตใจในทุกๆครั้ง จะว่าไปก้อเอาสติฟาดกามให้กระเจิงไปบ้างอะไรบ้าง เพราะบางครั้ง เราก้อรู้สึกรำคาญกาย รำคาญใจกับ สิ่งเร้าต่างๆนาๆ ไม่ว่าจะเป็น รูปร่างสมส่วน ผิวพรรณผุดผ่อง ...อาหารรสอร่อย กลิ่นหอมๆของน้ำหองราคาแพงๆ เสียงไพเราะเสนาะโสต สัมผัสที่นุ่ม เบาละเอียด ให้เป็นใครๆ ก้อปรารถนาจะได้มา แสวงมา เพื่อสิ่งเหล่านี้...ก้อพิจารณาคุณค่าแท้ คุณค่าเทียมกันไปเนอะ มีสติเนอะ พยายาม ไม่ยึดติด...กับอะไรๆ ทั้งนั้น
     
  6. washiravit

    washiravit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    284
    ค่าพลัง:
    +290
    เรื่องเพศเป็นเรื่องธรรมชาติครับ
    เราฝืนสิ่งที่ธรรมชาติสร้างมาให้ไม่ได้อยู่แล้ว
    ยกเว้นเเต่เราจะเป็นพระอรหันต์ผู้ไม่ปรารถนาจะมาเกิดอีกต่อไป

    ขอให้เรียนรู้เรื่องธรรมชาติครับ
    อยู่กับมันอย่างเป็นมิตรครับ
     
  7. Mon Treal

    Mon Treal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +536
    เป็นเกย์ต้องมีสัมพันธ์ทางเพศเท่านั้นจึงจะพบสุขหรือ สุขที่เลิศกว่ายังมี พระพุทธเจ้าตรัสว่า
    “ดูกรภิกษุทั้งหลาย! ทางสองสาย คือ กามสุขัลลิกานุโยค การหมกมุ่นอยู่ในกามสุขสายหนึ่งและอัตตกิลมถานุโยค การทรมานกายให้ลำบากเปล่าสายหนึ่ง อันผู้หวังความเจริญในธรรมพึงละเว้นเสีย ควรเดินตามทางสายกลาง คือ เดินตามอริยมรรคมีองค์แปด คือ ความเห็นชอบ ความดำริชอบ การพูดชอบ การทำชอบ การประกอบอาชีพในทางสุจริต ความพยายามในทางที่ชอบ การตั้งสติชอบ และการทำสมาธิชอบ”
    “ดูกรภิกษุทั้งหลาย! อริยมรรค ประกอบด้วย องค์แปดเป็นทางอันประเสริฐ สามารถทำให้บุคคลที่เดินไปตามทางนี้ถึงซึ่งความสุข สงบ เย็นเต็มที่ เป็นทางเดินไปสู่อมตะ”

    “ดูกรภิกษุทั้งหลาย! ถ้าภิกษุหรือใคร ๆ ก็ตามพึงอยู่โดยชอบ ปฏิบัติดำเนินตามมรรคอันประเสริฐประกอบด้วยองค์แปดนี้อยู่ โลกก็จะไม่พึงว่างจากพระอรหันต์”

    ขอให้มีดวงตาเห็นธรรม บรรลุธรรม เป็นกำลังใจให้ สาธุ
     
  8. bokobaka

    bokobaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +405
    ผมขอเสนอความเห็นนะครับ

    ถ้าคุณจะเลิกทำอะไรซักอย่างนึง หรือคุณไม่ชอบ ก็เพราะว่า
    เห็นโทษของมัน
    พยายามพิจารณาโทษของมันบ่อยๆ เมื่อเราพิจารณาบ่อยๆ ร่วมกับการฝึกปฎิบัติอื่นๆ
    คือ ฝึกสติ เพื่อกำหนดรู้ว่า กาม เกิด ลองหาใน หนังสือธรรมะหรือ internet ก็ได้ครับ
    โทษของกาม มีมากมายที่พระพุทธเจ้าเคยกล่าวเอาไว้ เช่น

    อุปมาโทษของกามตามที่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสไว้มีอยู่ 10 ประการ

    1. กามเปรียบเหมือนสุนัขหิวแทะท่อนกระดูกเปื้อนเลือด คือ ยิ่งแทะ ยิ่งเหนื่อย อร่อยแต่ไม่เต็มอิ่ม เหมือนความสุขทางเนื้อหนัง ไม่เคยอิ่มจริงๆสักที สุขแค่ประเดี๋ยวประด๋าว แล้วก็หิวกามอีก

    2. กามเปรียบเหมือนชิ้นเนื้อที่แร้งหรือเหยี่ยวคาบบินมา คือ ต้องถูกแย่งชิงโดยนกกาตัวอื่น ต้องต่อสู้ปกป้องตลอดเวลา มีทรัพย์มากก็กลัวโจรแย่งชิง มีคนรักก็ต้องคอยหึงหวง ยิ่งสวย ยิ่งหล่อก็ยิ่งมีคนอยากแย่งชิง

    3. กามเปรียบเหมือนคนถือคบเพลิงที่ทำด้วยหญ้าลุกโพลงเดินทวนลมไป คือ ถือได้ไม่นานก็ต้องทิ้งไป มิฉะนั้นจะไหม้มือ แถมถูกควันไฟรมเอาตลอดเวลาที่ถือ เหมือนยศถาบรรดาศักดิ์ มีไว้ก็เหนื่อยในการรักษา กลัวคนเลื่อยจากเก้าอี้ ต้องเอาใจเจ้านาย เอาใจประชาชน แต่สุดท้ายก็ต้องสละทิ้งหมด

    4. กามเปรียบเหมือนหลุมถ่านเพลิงอันร้อนแรง คือ ที่ใดมีรัก ที่นั้นก็มีทุกข์ ใจเหมือนไฟเผาผลาญตลอดเวลา รักมากก็ทุกข์มาก

    5. กามเปรียบเหมือนความฝัน คือ เห็นแต่ความสุข แต่ไม่เคยพบจริงๆ เหมือนชีวิตคู่ที่วาดหวังจะมีความสุขข้างเดียว แต่พอพบความจริง กลับเป็นเรื่องที่เหน็ดเหนื่อยลำบากในการครองเรือน

    6. กามเปรียบเหมือนสมบัติที่ยืมเขามา คือ กามไม่อยู่กับเราตลอด มันแปรปรวนไปเป็นธรรมดา หมดบุญก็ครอบครองไม่ได้

    7. กามเปรียบเหมือนต้นไม้ที่มีผลดกอยู่ในป่า คือ ใครผ่านไปมาก็เข้ามาเด็ดผลหักกิ่งตามใจชอบ ใครเป็นเจ้าของก็ต้องลำบากในการระวังรักษา

    8. กามเปรียบเหมือนเขียงสับเนื้อ คือ ชีวิตคฤหัสถ์ต้องถูกโขกสับตลอดเวลา ลำบากในการหาทรัพย์ กลางคืนเป็นควัน กลางวันเป็นไฟ

    9. กามเปรียบเหมือนหอกและหลาว คือ ไปเกี่ยวข้องต้องประสบทุกข์สาหัส ใจเหมือนโดนทิ่มแทง ทุกข์เพราะรัก ทุกข์เพราะพลัดพรากจากสิ่งที่รัก ล้วนเจ็บปวดสาหัส

    10. กามเปรียบเหมือนหัวงูพิษ คือ กามมีภัยมาก ไม่ระวังอาจถูกฉกกัดถึงตายได้ กามนำภัยมาสู่ตน เช่น ติดเอดส์ นำไปสู่อบาย เป็นต้น

    กาม ตรงข้ามกับ การประพฤติพรหมจรรย์ ซึ่งมีอานิสงค์ดังนี้

    1. ทำให้ปลอดโปร่งใจ ไม่ต้องกังวล หรือระแวง
    2. ทำให้เป็นอิสระเหมือนนกในอากาศ
    3. ทำให้มีเวลามากในการทำความดี
    4. ทำให้เป็นที่สรรเสริญของบัณฑิตทั้งหลาย
    5. ทำให้ศีล สมาธิ ปัญญา เจริญรุดหน้าไม่ถอยกลับ
    6. ทำให้บรรลุมรรคผลนิพพานได้โดยง่าย

    (นำมาจากpantip)

    ถ้าคิดง่ายๆ ก็คือ กามไม่มีประโยชน์ ถ้าเราเสพแล้วก็ต้องการเสพอีก ซึ่งท่านเปรียบว่า
    มีโทษน้อย แต่ติดนาน
    ผมเปรียบเหมือนเด็กกินขนมหวาน กินของมันทอด มันจะรู้สึกอร่อยแล้วก็อยากกินอีกไปเรื่อยๆ ไม่ยอมหยุด พยายามหยุดแล้วก็ขอกินอีก

    ถ้ายังคิดอยู่ก็พิจารณาถึง ความไม่สวยงามของร่างกาย ท่านเปรียบร่างกายเหมือน
    ถุงผ้าที่ห่อด้วยขี้
    ผ้าถุงก็คือ ผิวหนัง
    ส่วนข้างในก็คือ ขี้ เพราะในร่างกายเรามีแต่ของสกปรก ไหลออกจากทวารทั้ง 9
    ขี้หู ขี้ตา ขี้จมูก อุจจาระ ปัสสาวะ
    ไม่มีอะไรสวยงาม
    ที่เราเห็นว่าสวยงาม ก็เฉพาะส่วนที่เป็นหนังเปลื่อกนอกหุ้มเท่านั้น
    เลยจากหนังไปแล้วไม่มีอะไรสวยงาม
    ลองคิดภาพสิครับว่า ถ้าคนเราเอาผิวหนังออกเห็นกล้ามเนื้อ จะยังหล่อสวยอยู่มั้ย

    ลองพิจารณาดูนะครับ
    ถ้าได้ลองอ่านหนังสือ ของอ.วศิน เรื่องทางแห่งความดีครับ จะดีมาก อธิบายธรรมะได้ง่ายมาก
     
  9. โยมแถวหลัง

    โยมแถวหลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +854
    จิต ย่อมยึดติดกับสิ่งที่คิด ที่ตรึก ที่หมกหมุ่นเป็นประจำ เหมือนผ้าขาวที่เปอระเปื้อนเป็นประจำ ก็จะเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีนั้น แต่ถ้าหมั่นซักผ้านั้นถึงจะไม่ทำให้ขาวสะอาดแต่ก็ไม่ดำจนมืด
    จิตของคนย่อมใฝ่ในกามราคะแล้วแต่จริตของคน บางคนชอบเพศตรงข้าม บางคนชอบเพศเดียวกัน แต่สรุปรวมทุกคนหลงอยู่ในกองขันธ์ 5 กองอสุภะ กองขี้กองเยี่ยว เพราะมนุษย์ทุกคนมีความเสมอกันไม่ว่าหญิงหรือชายมีแต่กองขี้กองเยี่ยว ที่เราบอกว่าหญิงหรือชายก็เป็นแต่เครื่องแสดงเพศเท่านั้น เมื่อเอาหนังบางๆ ออก ทุกคนเหมือนกันหมด แล้วเราจะมาหลงอะไร
    ความหลงในกามนี้ จะลดลาวาศอกได้(ไม่ต้องถึงขั้นตัดขาด) ทำได้โดยการเจริญกายานุปัสนาให้มาก พิจารณาให้เห็นถึงความจริงของร่างกายให้ชัด ให้จริง ทั้งร่างกายของเราและของคนที่เรารัก เมื่อเห็นจริงความเบื่อหน่ายก็จะคลายตัวลงเมื่อคลายตัวลงต้องทำให้สม่ำเสมอ จะทำให้จิตเราเสวยแต่ความคิดที่เป็นกุศล ไม่หมกหมุ่น และไม่สนใจในเรื่องกามมาก และทำใหมีสติไตร่ตรองเหตุตามความเป็นจริง ไม่เอาชีวิตทั้งชีวิตไปจมปลักกับสิ่งที่ไร้สาระ

    ผมมีข้อแนะนำเท่านี้นะครับ
     
  10. ไห่เฉากุหลาบไฟ

    ไห่เฉากุหลาบไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    895
    ค่าพลัง:
    +2,177
    เป็นตัวของตัวเองดีที่สุด ไม่ละเมิดศีลข้อ 3 เป็นอันใช้ได้
     
  11. oopas

    oopas Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +70
    พยายาม นะครับ เอาใจด้วยครับ
     
  12. ดาราจักร

    ดาราจักร ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,707
    ค่าพลัง:
    +10,094
    กามราคะ เป็นเรื่องธรรมดาของฆราวาส ผู้ที่มีฐานนะ ในศีลห้า ซึ่งไม่ได้ถือพรหมจรรย์

    ถ้าไม่อยากเป็นเกย์ ต้องถือพรหมจรรรย์ เพราะคุณไม่ได้มีอารมณ์กับผู้หญิง

    และต้องถือพรหมจรรย์กับเพศเดียวกันด้วยครับ อันนี้เป็นการห้ามทางกาย

    ที่เหลือต้องตัดด้วยปัญญา ซึ่งขึ้นตัวของคุณเองว่าจะปฏิบัติ ทาน ศีล ภาวนา

    ให้ได้ผลไหมครับ
     
  13. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    เป็นผู้หญิงแท้ๆ แต่ต้องมาบริหารจัดการลูกน้องที่เป็นเกย์ เมื่อ 2 ปีที่แล้วบริหารจัดการอยู่ที่ประมาณ 41 คน ตอนนี้ย้ายโรงแรมซึ่งก็เป็นโรงแรมสำหรับ GAY ONLY ก็ดูุแลเด็กอีก 30 คน ทุกคนเป็นเกย์หมดยกเว้นหัวหน้าเป็นผุ้หญิง ก็เลยมีความเข้าใจชีวิตชาวเกย์มากๆกว่าคนอื่นเพราะต้องคลุกคลีอยู่ด้วยทุกวันไม่มีเว้นวันหยุดราชการ

    ก็อยากจะบอกว่าคนทุกคนที่ล้วนแต่เกิดมา มีกรรมเป็นตัวกำหนด คนส่วนใหญ่ที่มักจะผิดเพศเหตุเพราะเกิดจากการผิดศีลข้อที่ 3 ลูกเขาเมียใครไม่เคยละเว้น พอมาเกิดเป็นมนุษย์อีกก็ทำให้เป็นลักษณะ รักเพศเดียวกัน หรือไม่ก็ไม่เคยสมหวังกับความรัก หรือมีครอบครัวก็ต้องแตกแยก อันนี้พระอาจารย์บอกกล่าวมาให้ทราบ ถามให้ลูกน้องเพราะสงสารลูกน้องหลายๆคน บางคนเขาก็ไม่ได้อยากจะเป็น บางคนมีลูก มีภรรยาตอนยังวัยละอ่อน แต่พอเริ่มมีอายุนิดนึง ถึงได้ค้นพบตัวเองว่าตัวเองเป็นชายที่ชอบชาย ภัทรเคยถามพวกเขาว่าทำไมหนูถึงมาเป็นเกย์ละ มีลูกมาแล้ว เขาก็จะบอกว่า ก็ตอนนั้นหนูยังไม่รู้เลยนี่ค่ะว่าหนูต้องการจะเป็นอะไร ฟังแล้วก็ขำ เป็นคำตอบที่ง่ายๆเหมือนสิ้นคิด แต่มันก็จริง คือคนเรามันต้องรู้จักตัวเองให้ถ่องแท้ ดูว่าตัวเองชอบอะไร ไม่ชอบอะไร แต่ท้ายสุดไม่ว่าเราอยากจะเป็นอะไรเกย์ ชาย กระเทย แต๋ว ตู๋ด มันก็เป็นสิทธิของเรา ทุกคนมีสิทธิเลือกที่จะเป็นของเพียงแต่เราเป็นอะไรแล้วไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน นั่นคือประเด็นหลักๆเลยค่ะ

    อย่าคิดมาก ถามใจตัวเองดู ถ้าไม่อยากเป็นเกย์และเบื่อหน่ายวงจรชีวิตเกย์จริงๆ ก็ตัดกาม ราคะให้ได้ เพราะการเป็นเกย์ไม่รู้สินะ พวกลูกน้องตัณหาเยอะมากๆๆ มากจนน่ากลัว ถ้าตัดไม่ได้ก็จะเป็นเรื่อยๆแบบนี้แหละ

    ยังไงก็อย่าคิดมาก เป็นอะไรก็ได้ ขอให้เราเป็นคนที่คิดดี ทำดี พูดดี จะว่าไปแล้วเราเป็นผู้หญิงเห็นชีวิตลูกน้องที่เป็นเกย์มากๆเรายังเบื่อหน่ายวงเวียนชีวิตเกย์เลย นึกในใจทำไมเราต้องมาทำงานจัดการบริิหารเกย์ด้วยก็ไม่รู้ ก็สนุกดีนะ เหมือนเราก็ได้ช่วยเขาด้วยแหละ ให้กำลังใจ ให้แนวคิด และก็ให้อิสระทางเลือกกับพวกเขา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2011
  14. nayne_a

    nayne_a สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +4
    ทุกข์มีไว้ให้เห็น ไม่ได้มีไว้ให้เป็น มีอะไรบ้างบนโลกที่เป็นของเรา ร่างกายวันนึงก็จะเสื่อมสลายไปตามเหตูและปัจจัย จิตใจนั้นก็ไม่สามารถควบคุมได้ ไม่มีปุถชนใดสั่งจิตไปซ้ายไปขวาได้ แล้วจะมีอะไรหล่ะที่เป็นของเราจริงๆ ไม่มีน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด ทุกอย่างล้วนแต่เป็นสิ่งสมมุติสิ่งที่สัมผัสได้ล้วนเป็นปรากฎกการณ์แห่งจิต มีการดำเนินไปตามปฏิจจสมุปบาต มีสิ่งที่มากระทบ มีตัวรับสัมผัส เมื่อกระทบกันก็เกิดการรับรู้ เมื่อรับรู้ก็รู้สึก เมื่อรู้สึกก็เกิดการแบ่งแยกว่าดีไม่ดี ชอบไม่ชอบ แล้วก็เกิดวงจรนี้ต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด ในกรณีนี้การที่คุณบอกว่าไม่อยากเป็นเกย์นั่นก็มาจากวงจรนี้ ลองคิดดูว่าเมื่อตอนคุณยังเด็ก ทุกคนก็เรียกคุณว่าเด็กชาย ทารกชาย แล้วคุณเป็นเกย์ได้ยังไงล่ะ ไม่ใช่ตัวคุณเองหรอกหรือที่คิดให้มันเป็น นี่เป็นผลผลิตจากวงจรดังกล่าว ทำให้ทุกข์ต่อเนื่องไปและใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกันการที่คุณไม่พอใจในจิตที่มีกามารมณ์ ก็เพราะคุณไม่พอใจปรากฎการณ์แห่งจิตที่เกิดขึ้นเท่านั้น ความจริงแล้วปรากฎการณ์พวกนี้เกิดกี่พันกี่หมื่นครั้งใน 1 วัน ลองคิดดูนะเมื่อคุณไปเดินห้างคุณเห็นเสือ้ผ้าที่อยากได้ใจก็ชอบ หรืออีกตัวอย่างถ้าวันเดียวกันคุณเข้าห้องน้ำที่คนไม่ได้กดชักโครก คุณก็ไม่ชอบรู้สึกเป็นทุกข์ นี่ก็เช่นกันมีตัวกรธตุ้นและตัวรับสัมผัสแต่ครั้งนี้ตัวกระตุ้นคือธรรม และตัวรับสัมผัสคือใจ เมื่อธรรมกระทบใจก็จะเกิดวงจรที่กล่าวมา การแก้ไขนั้นวิธีง่ายแต่ทำยากต้องฝึกฝน ทำได้โดยต้องถอยจิตออกมาพิจารณาว่านั่นไม่ใช่ของเรา เกย์คือคำสมมุติไม่มีตัวตน ความรู้สึกต้องการไม่ใช่ของเรามันเกิดจากจิตที่ฟุ้งซ่านเราไม่ได้อยากให้เกิด ให้เข้าใจแบบนี้ก่อน แล้วติดตามดูจิตให้เห็นวงจรดังกล่าว เหมือนยามที่เฝ้าหน้าประตูไม่เข้าไปในห้อง ไม่ออกไปข้างนอก เห็นคนผ่านเข้าออกห้องนั้นเป็นพอ คุณก็ทำแบบนั้นแค่รู้ไม่ต้านไม่เสริม ไม่เข้าไปเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับปรากฎการณ์นั้น และก็ไม่ฟุงซ่านไปเรื่องอื่นจนไปบังคับจิตให้เลิกคิด แค่รับรู้ก็พอไม่ต้องยินดียินร้าย อะไรจะเกิดก็ช่างมัน เพราะทุกอย่างไม่ใช่ของเรา เราเรียกวิธีนี้ว่าการเจริณสติ จะทำให้เห็นวงจรที่ว่าแล้วจะเข้าใจเองโดยไม่ต้องอธิบาย แต่ขอให้ลองปฏิบัติดูจริงๆเพราะมีคนที่ปฏิบัติธรรมเท่านั้นที่จะรู้ธรรม สุดท้ายขออนุโมธานากับความตั้งใจดีของคุณ และเป็นกำลังใจให้นะครับ
     
  15. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    เพื่อนสมาชิกหลายท่านได้ให้คำแนะนำดีๆ ไว้แล้ว
    พี่ขอลองรวบรวมความคิดตัวเองแล้วแชร์ให้น้องฟังบ้าง เผื่อจะเป็นประโยชน์ด้วยคนนะคะ

    น้องอายุ 21 ปี อายุยังน้อย ยังอยู่ในช่วงต้นๆของวัยเจริญพันธ์
    โดยปกติแล้วชาย-หญิงทั่วไปในวัยนี้ ก็จะให้ความสนใจในเรื่องทางเพศ กามารมณ์ ความรักกันอยู่แล้ว ถ้าหมกมุ่นกับมันมากไปก็จะเกิดอาการฟุ้งซ่านอย่างที่น้องว่า

    ในวงจรชีวิตของหญิง-ชายปกติ เรื่องความทุกข์จากปัญหาความรักและกามารมณ์ การผิดศีลข้อ 3 ก็ไม่ต่างไปจากวงจรชีวิตเกย์หรอกนะ

    แต่เคยอ่านเจอว่า ในผู้ชายที่เป็นเกย์ส่วนใหญ่จะมีความหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเซ็กส์มากกว่าชายหญิงปกติ
    พฤติกรรมส่วนหนึ่งในวงจรชีวิตสังคมเกย์ จึงพบเห็นการเปลี่ยนคู่ควงไม่ซ้ำหน้า และมีคู่นอนหลายคน และที่สำคัญเขาว่ากันว่า ขาดแคลนเกย์คิง มันจึงเป็นปัญหารักต้องแย่งชิงทั้งจากเกย์ควีนกันเอง และจากผู้หญิงปกติ.....ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้พี่ก็เห็นด้วยเลยว่า มันเป็นวงจรที่น่าเบื่อมาก แต่ทำไงไ้ด้ ชีวิตก็ยังต้องดำเนินต่่อไป ลองมาหาหลักยึดให้ความคิดของตัวเองกันดีกว่า

    เนื่องจากน้องอายุยังน้อย ทางแก้ที่อยากแนะนำคือ

    - ทำความเข้าใจกับธรรมชา่ติของตัวเอง ทำความรู้จักตัวเองให้มากๆ เช่น เราเป็นใคร เราต้องการอะไร ชีวิตแบบไหนที่จะทำให้เรามีความสุขโดยข้อแม้ที่ว่าไม่ไปเบียดเบียนทำร้ายผู้อื่น ไม่สร้างปัญหากับสังคมส่วนรวม

    - ลองเริ่มต้นศึกษาธรรมะแบบที่ฟังง่ายๆ อ่าน คิด แล้วนำมาทบทวนโดยใช้สติพิจารณากับชีวิตของตนเองไปทีละเล็กละน้อย..ทำไปเรื่อยๆ / และอย่างที่เพื่อนสมาชิกท่านหนึ่งกล่าวไว้ ให้หมั่นพิจารณาคุณและโทษของทุกเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเรา โดยเฉพาะโทษของการกระทำนั้นๆ จะช่วยทำให้เราคลายกำหนัดลงได้เรื่อยๆ เข้าใจชีวิตมากขึ้น และเย็นลง

    - อายุยังน้อย พลังชีวิตยังเยอะ ลองเบี่ยงเบนความสนใจไปในเรื่องอื่นบ้าง เช่น มองหากิจกรรมที่เราสนใจอยากจะเรียนรู้ หรือชอบ หรือถนัด และวางเป้าหมายให้กับตัวเองในกิจกรรมนั้นๆ (ประมาณประโยคที่ว่า ฝันให้ไกล ไปให้ถึง หรือ เป้าหมายมีไว้พุ่งชน อะไรทำนองนี้แหละ)

    - อย่าเข้าไปจมจ่อมแต่ในสังคมพวกเดียวกันมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้กลับไปหมกมุ่นอย่างเก่าได้ ให้พยายามเข้าสังคมกับคนทุกเพศทุกวัยไว้

    จำไว้ว่า คุณยังเป็นตัวของตัวเองได้ และยังเป็นส่วนหนึ่งของสังคมอันหลากหลายนี้ได้ด้วยเช่นกัน
     
  16. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    ที่บอกว่าอย่าเข้าไปจมจ่อมแต่ในสังคมพวกเดียวกันมากเกินไป
    อยากขยายความเพิ่มหน่อยว่า...

    ไม่ได้หมายความว่าให้เลิกคบกับเพื่อนเกย์นะคะ
    คุณอาจมีกลุ่มเพื่อนเกย์ที่พูดคุยกันรู้เรื่องหรือสนิทกันได้ตามปกติแหละ
    แต่การเลือกคบเพื่อนก็ใช้หลักทั่วไป คือให้เลือกคบกับคนที่จะไม่พาคุณไปหมกมุ่นกับเรื่องที่คุณเองก็เห็นว่าไม่ดี ก็เท่านั้น
    คนทั่วไป เรายังต้องเลือกและจัดกลุ่มเพื่อนเลย
    เพื่อนที่ทำงาน เพื่อนสนิท เพื่อนซี้ เพื่อนในสังคมฯ ...
    แต่เพื่อนที่เราคบและมีผลกับตัวเรา, ความคิดของเรามากที่สุด ก็คือกลุ่มเพื่อนสนิท ดังนั้นเลือกให้ดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2011
  17. Rutchasak La-ong

    Rutchasak La-ong Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +69
    เมื่อคิดก็หัด สมาธิ ฟังเพลง เล่นเกม สวดมนต์ จนจิตนิ่งให้ลืมให้ได้คัฟ
     
  18. wechza

    wechza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +246
    ผมก็เกย์ครับผมก็เป็นแนะนำนะคับอย่าไปฝืนมันมากไปและอย่าตามมันมากไปค่อยพยายามนะคับไม่งั้นเราจะท้อถ้าหากเราฝืนมันไม่ได้กามมีทุกคนในโลกนี้ถ้าไม่มีคงไม่มีใครเกิดครับ สู้ๆนะคับ
     
  19. จิตป่วน

    จิตป่วน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2011
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +3
    พรหมวิหาร4 น่าจะใช้ได้นะ

    เมตตา...สงสารตัวเองว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้ มีความทุกข์แบบนี้ หากไปเสพเมถุนกับบุคคลที่พึงปราถนา มันก็สุขแค่ตอนเสพ หลังจากนั้นจิตใจก็จะเป็นทุกข์อีก เป็นความสุขที่ไม่มั่นคง สุขแค่แป๊บเดียว
    กรุณา....เมื่อไหร่ถึงจะหลุดพ้น แล้วจะมีคนอื่นที่เป็นทุกข์เพราะเหตุนี้อีกไหม ถ้ามีก็ขอให้บุคคลเหล่านั้นหลุดจากความทุกข์จากกามราคะนี้
    มุฑิตา...มีบุคคลใดที่สามารถหลุดพ้นเรื่องเหล่านี้ได้บ้าง ขอให้บุคคลเหล่านั้นจงไร้ซึ่งความทุกข์นั้นชั่วนิรันดร์ อย่าได้มีความทุกข์จากกามราคะเหมือนตัวคุณเองเลย
    อุเบกขา...ให้พิจารณาว่าแต่ผลสุดท้าย จะทุกข์หรือสุขในเรื่องกามราคะนั้นก็อยู่ที่กรรมเป็นเครื่องกำหนด ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรดาของผู้ที่ยังไม่หลุดพ้น เป็นไปตามธรรมชาติ ...

    ประมาณนี้แหละครับ จิตใจก็จะเย็นลง ไม่ร้อนในกามราคะ ผมเองก็เพิ่งเริ่มศึกษาผิดถูกยังไงขอให้ผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยนะครับ
     
  20. agga

    agga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2010
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +148
    เป็นกำลังให้ในการรักษาศีลให้บริสุทธิ์นะครับ โดยเฉพาะศีลข้อ ๓...เข้าใจว่าการห้ามเรื่องการคิดเป็นสิ่งที่ยากมากๆๆๆ เริ่มต้นจากการห้ามการกระทำจะง่ายกว่า ห้ามผิดศีลข้อ ๓
    อย่างเด็ดขาด...
     

แชร์หน้านี้

Loading...