ผมเป็นเกย์ครับ ทำอย่างไรถึงจะหลุดพ้นบ่วงกรรมแห่งกาม หรือเกี่ยวกับศีลข้อสาม

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย Xiaobao, 1 ธันวาคม 2011.

  1. Xiaobao

    Xiaobao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    111
    ค่าพลัง:
    +472
    ผมอายุ21 ครับ
    ทุกวันนี้เบื่อเหลือเกินกับ วงจรชีวิตเกย์
    ควรจะทำใจยังไงดีคับให้ตัด ความคิด
    ความฟุ้งซ่านเกี่ยวกับเรื่องเพศ ได้
    ทุกวันนี้ ยอมรับว่าใจมันคิดฟุ้งซ่าน เรื่องผู้ชาย
    เรื่องเพศ อะไรแบบนี้อ่ะคับ

    อยากรู้แนวทางการหักห้ามใจ ไม่ให้คิดเรื่องพวกนี้อะครับ
    กลัวคิดแล้ว กลัวไปทำ แล้วกลัวว่าจะสร้างบาปกรรมให้เป็นเก์ยเป็นตุ๊ดไปอีกไม่ยอมจบ อ่ะ .. - -

    รบกวนชี้แนะแนวทางด้วยนะครับ กราบขอบพระคุณอย่างสูงล่วงหน้าครับ
     
  2. num_mon

    num_mon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    579
    ค่าพลัง:
    +912
    ดึกแล้วนู๋ ไปนอน มาฟุุ้งซ่าน อะไร

    ถ้ามันคิดก็ปล่อยให้คิดไปเด้อ แค่ตามดูความคิด แค่นี้พอละ
     
  3. อีกาวิดน้ำ

    อีกาวิดน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +627
    อีกา เห็นว่า จะเป็นเพศใด ๆ ก็ตกอยู่ในอำนาจของกามราคะทั้งนั้นครับ จนกว่าจะบรรลุพระอนาคามี จึงจะละเรื่องนี้ได้ ซึ่งอาจเ็ป็นเรื่องยากสำหรับเรา ดังนั้น เราก็หันมาทำเรื่องง่าย ๆ คือ การรักษาศีล ๕ ก็พอ ไม่ว่าจะฟุ้งซ่านเรื่องเพศอย่างไร ก็เป็นสิทธิ์ของทุกคน แต่ขอให้เราอยู่ในกรอบของศีล ๕ คือไม่ไปล่วงละเมิดคนในปกครองของผู้อื่น ก็ถือว่าดีมากแล้วครับ
     
  4. ดอกอุบล

    ดอกอุบล สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +3
    พี่ก็เป็นเหมือนกัน พยายามคิดว่ามันเป็นบาป แล้วก็นรก ให้มากๆ วันปกติให้รักษาศีล5 แต่ถ้าวันพระให้รักษาศีลอุโบสถ แล้วทำบุญทุกบุญ ทาน ศีล ภาวนา แล้วอธิษฐานให้พ้นจากวิบากกรรมนี้ ชาติต่อไปก็คงจะเบาบางลงแหละครับ
     
  5. มนต์ชัยIM

    มนต์ชัยIM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +473
    ไม่ต้องสนใจกรรมอดีตว่าเราทำอะไรมา เพราะแก้ไขอะไรไม่ได้
    แต่ให้มีสติกับปัจจุบัน กามราคะเป็นเรื่องปกติ จะมากน้อยก็อยู่ที่คน
    ถามตัวเองว่ามันใช่สุขจริงๆไหม ความสุขมันอยู่กับเราตลอดหรือเปล่า
    พยายามดูอารมณ์ตัวเองไว้ให้มากครับ อย่าให้อารมณ์มันครอบงำเรา
    ผมเข้าใจว่ามันเป็นยังไง เพราะผมก๋กำลังเผชิญเรื่องเดียวกันกับคุณ

    มีสติทุกเมื่อนะครับ สาธุฯ
     
  6. moshininja

    moshininja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +103
    บอกแล้วก็ทำด้วยนะครับ...

    หาวันพระดีๆ สักวันตื่นเช้าๆ มาอาบน้ำอาราธนาศีลห้าด้วยตัวเอง จากนั้นไปทำบุญตักบาตรถวายสังฆทานอะไรก็ได้ กลับมาก็สวดมนต์นั่งสมาธิ เอาดอกไม้ธูปเทียนไปถวายพระที่บ้าน พนมมือตั้งจิตกล่าว นะโมสามจบ และกล่าวต่อว่า สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต ขอพระพุทธเจ้าทรงเป็นประธาน พระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ทรงเป็นพยาน ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอธิฐาน(หลับตา) ในบัดนี้ข้าพเจ้านามว่า.....ได้ดำรงค์เกิดมาเป็นเพศชายผู้ครบพร้อมในพยัญชนะน้อยใหญ่ หากดวงจิตอันใดที่ยังตกค้างในลักษณะแห่งเพศหญิง ขอให้บุญกุศลจากการทำบุญและถวายดอกไม้ธูปเทียนเป็นพุทธบูชานี้จงทำให้ดวงจิตตื่นรู้และเข้าใจเป็นอันตรงไม่หลงชาติกำเนิด ข้าพเจ้าจะตั้งใจประพฤติปฏิบัติตนในทางที่ถูกที่ชอบที่ควร นับตั้งแต่นี้ไปขอให้ข้าพเจ้าผู้เป็นเพศชายอันถึงพร้อมจงมีความสว่างทั้งทางโลกทางธรรมตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ

    ปล. สำคัญอยู่ที่ว่าคุณจะมีจิตใจยอมรับกับสภาพตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน และกล้าจะบอกกล่าวออกมาเป็นเสียงต่อหน้าพระพุทธรูปหรือไม่ และยังต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ทำบ่อยๆ แล้วมันจะเป็นการย้ำเตือนตัวเอง บอกจิตตัวเอง เพราะที่สุดแล้วปัญหาเหล่านี้อยู่ที่จิตของเรายังสับสนอยู่ การยอมรับในเบื้องต้น ตั้งปณิธานจะแก้ไข และก่อความเพียรให้สำเร็จจึงเป็นหนทางออกจากความสับสน อีกอย่างนึงจะเตือนว่าการตั้งสภาพจิตให้เป็นชาย ไม่ใช่หนทางคลายกำหนัดหรือหลุดพ้นจากบ่วงทุกข์ ถึงแม้จะกลับมาเป็นชายได้ ก็ใช่ว่าจะหลุดพ้นจากการหลงในรูปกาย อย่าลืมภาวนาอสุภะประกอบด้วย เพื่อความไม่ละเมิดศีลทั้งทางกายและใจจะได้ไม่ลงนรกอย่างที่ปรารถนาไว้

    ฝากเว็ปนี้ไว้ให้เตือนใจละกัน ถ้าอยากเมื่อไหร่ก็เปิดดูมันสักนิด

    www.mahamodo.com
     
  7. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,962
    อยากหลุดพ้นกรรม ต้องถือศีล ถือพรหมจรรย์ ห้ามมีผัวห้ามมีเป็นเพศเดียวกัน ทั้งชีวิต แล้ว อธิฐานขอให้พ้นกรรมนี้ชาติหน้าขอให้เกิดเป็นคนปกติ แต่ชาตินี้ มีผัว หรือ มีเมีย เพศเดียวกัน ชาติหน้าก็ไปได้กันอีก เลือกเอาเองครับ
     
  8. ake.susubda.phuket.

    ake.susubda.phuket. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +129
    อสุภะกัมมัฎฐานแก้ราคะจริต
     
  9. pummuq

    pummuq เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    375
    ค่าพลัง:
    +352
    ตอนผมอายุเท่าคุณผมก็กำหนักเรื่องกามอย่างมากแหละไม่ใช่เฉพาะเกย์หรอกครับ ผู็ชายธรรมดาๆผู็หญฺงธรรมดามันก็กำหนักเรื่องกามเหมือนกัน วิธีแก้มันมัน และได้ผลแน่ๆ อย่างในสมัยพุทธกาลมีภิกษุณีท่านหนึ่งตั้งใจรักษาศีลธรรมวินัยอย่างดี แต่ความกำหนัดในกามมากั้นไว้ตลอดไม่สามารถเข้าถึงธรรมอะไรได้เลย นางก็เสียใจอย่างมากทั้งๆที่ตั้งใจ แต่กามมันกวนตลอด นางจึงไม่กินข้าวจนร่างกายอ่อน พอร่างกายอ่อนลง กามมันไม่กำเริบระลึกถึงการรักษาศีลที่ดีงามของตน เจริญสมณธรรมจนบรรลุอรหันต์ได้ในขณะนั้น เรื่องราวประมาณนี้เท่าที่จับความได้ผมฟังมาจากพระอาจารย์สมภพ
    ในวัดป่าอย่างบ้านตาดก็มีการอดข้าวทีละเจ็ดวัน ทั้งพระฝรั่งทั้งพระไทย หรือวัดหลวงพ่อชาก็มีการอดข้าว หรือวัดพระอาจารย์สมภพก็มีการอดข้าว วัดป่าหลายๆวัดก็มีการอดข้าว เพื่อตัดกำลัง แต่ไม่ใช่อดเฉยๆแล้วไม่ทำอะไร หรืออดแล้วไปอวดใครว่าฉันอดข้าวนะแบบนั้นไม่ถูกต้อง แต่อดเพื่อภาวนาให้จิตเป็นสมาธิให้ได้เสียก่อน อันนี้เป็ฯเบื้องต้น แต่ผมคิดว่าคุณคงไม่ทำหรอกคุณต้องเป็นงี้ไปเรื่อยๆจนสามสิบสี่สิบห้าสิบหกสิบจนตายไปนั้นแหละ
     
  10. ตายแน่!

    ตายแน่! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +509
  11. Red Leaf

    Red Leaf เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,397
    ค่าพลัง:
    +4,547
    ก่อนอื่น...ยอมรับในสิ่งที่คุณเป็นค่ะ....การอยากได้อยากเป็นในสิ่งที่ตัวเองไม่ใช่ (รวมถึงไม่อยากในสิ่งที่ตัวเองเป็น) พระท่านเรียกว่า "ตัณหา" คือภวตัณหา และวิภวตัณหา คุณกำลังทุกข์เพราะตัณหาตัวนี้มากกว่าตัณหาในกามเสียอีกนะคะ

    ความจริงการเป็นเกย์เป็นของธรรมดามากในสังคมยุคนี้ คุณมีเพื่อนมากมาย ไม่ต้องร้อนใจเลย และการเป็นเกย์ก็ไม่ได้เป็นเครื่องปิดกั้นการทำกุศลความดี การปฏิบัติธรรมและแม้แต่การได้ดวงตาแห่งธรรม เพราะการเข้าถึงธรรมเป็นเรื่องของจิตล้วนๆ หาใช่กายภายนอกแต่อย่างใดไม่

    แต่ที่สำคัญ คุณควรอยู่ในศีล 5 อย่าละเมิดเด็ดขาดโดยเฉพาะข้อ 3 เพราะจะเป็นการสร้างวิบากมาทับถมตัวเอง เท่าที่เห็นมาโดยมาก ผู้ที่รักเพศเดียวกัน มักเป็นผู้มากรัก บางทีผิดศีลข้อ 3 ก็ไม่คำนึงถึง...นี่คือพฤติกรรมเดิมที่เป็นนิสัยมาจากอดีตชาติ ต้องละเลิกเสีย เพื่อจะได้ไม่สร้างวิบากอีก (แต่ที่ไม่มากชู้ มากรักก็มีนะคะ)

    เป็นกำลังใจให้นะคะ....เรื่องที่คุณฟุ้งซ่านไม่ต้องกังวลใจเลย ผู้ที่ยังวนอยู่ในกาม ล้วนมีเรื่องแบบนี้เป็นปกติ ขอให้อยู่ในกรอบของศีล 5 ก็พอค่ะ
     
  12. bestsu

    bestsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +617
    "..สมัยหนึ่ง ที่องค์พระเมตไตรยต้องบุรพกรรม มาเกิดเป็นนางยักษ์ รูปร่างร้ายอยู่ในป่า องค์พระ โคตมะกำลังบำเพ็ญบารมีอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเอราวดี ด้วยสัพพัญญุตญาณทราบว่า นางยักษ์นี้ได้ก่อสร้างบารมี 30 ทัศมามากมาย แต่เพราะผลกรรมที่กระทำกาเมสุมิจฉาจารกับภรรยาผู้อื่น จึงมาเกิดเป็นนางยักษ์ชาตินี้ พระองค์จึงเสด็จมาโปรด นางยักษ์แลเห็นลักษณะอันประเสริฐ จิตเลื่อมใสก้มลงกราบ เมื่อองค์พระโคตมะตรัสเทศนาพระธรรม นางยักษ์ปลงใจเด็ดขาด ตัดเอาเต้านมทั้งสองถวายเป็นพุทธบูชา อานิสงส์นางยักษ์ตัดเต้านมทั้งสองมากระทำสักการบูชาพระตถาคตครั้งนั้น ส่งผลให้นางยักษ์พ้นจากอิตถีเพศ คือ ท่านจะเกิดเป็นหญิงแต่เพียงชาติเดียวเท่านั้น.."
     
  13. gaiou419

    gaiou419 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    331
    ค่าพลัง:
    +716
    ถ้าปฏิบัติมากๆเข้า อ่าน ฟัง เข้าถึงธรรมะ มันจะน้อยลงๆ
    เป็นธรรมดาที่จิตเราจะวิ่งหาความสุขแบบที่สะดวกที่สุด และ
    เคยชิน ยินดีที่สุด หากเราชอบทางนี้ จิตมันก็คิดว่า อันนี้เป็นความสุข
    มันก็วิ่งไปหา ยามว่าง ยามเบื่อ ยามทุกข์
    สุขทางเพศรสเป็นสุขแบบเดียวกับอาหาร และความสุขส่วนใหญ่ในโลก
    คือ แป๊บๆ สั้นๆ ต้องเสพต่อๆๆไป เสพติดไป ทำให้เหมือนว่าสุขมันยาว
    มันยิ่งใหญ่ ทั้งๆที่จริงๆแล้วเอามาตีแผ่ด้วยปัญญา จะพบว่ามันแป๊บเดียว
    การทำสมาธิ นั้นยาก แต่เป็นความสุขแบบไม่เสพติดนะคะ
    มันทำให้ เรามีความสุขกับตัวเองได้ สุขในความสงบ แล้วความเหงา
    ความเบื่อ หรือความกระหายความสุขทางกาม จะลดลง เราจะไม่วิ่งหา
    ความสุขจากที่อื่น คนอื่น ไม่เอาความสุขไปแขวนไว้กับใคร
     
  14. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676

    ใช่ครับสมัยก่อนตอนวัยประมาณนี้ ผมเป็น และเป็นมาก เราใช้

    พิธีกรรมขจัดความขี้เกียจ ยามเรารู้สึกว่าขี้เกียจ โดยการอดข้าวอดน้ำ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง ปรากฎว่าอาการพวกกาม มันไม่ค่อยได้คิด นอนก็นอนไม่ได้ ต้องคอยทำงานตลอด เพื่อให้ลืมความหิว เข้าใจล่ะ ทำไมพระวินัยถึงมีกฎห้ามฉันอาหารเลยเที่ยง เพราะมันไม่ค่อยมีประโยชน์ นี่เอง

    แต่ถ้าวันไหนท้อแท้ จะใช้เดินขึ้นยอดภูเขาสูงๆ เพื่อพิชิตยอดเขา เพื่อสร้างกำลังใจให้ตนเอง ว่าจะมีอะไรที่เราทำไม่ได้ ขนาดยอดเขาสูงขนาดนี้ ยังอยู่ต่ำกว่าเข่าเราเลย
     
  15. Pawanrat-jin

    Pawanrat-jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,052
    ค่าพลัง:
    +3,939
    ขอแนะนำอย่าเพิ่งไปบวชนะคะ
    จิตใจที่ฟุ้งซ่านเรื่องเพศ
    ถ้าไปทำให้นักบวชด้วยกันฟุ้งด้วยก็จะยิ่งบาปไปกันใหญ่
    ชาติหน้าจะยิ่งหนักนะจ๊ะ
    ทำใจว่าเราทำผิดศีลข้อกาเมมาเยอะ เลยต้องมาเป็นอย่างนี้
    อดทนไว้ค่ะ อย่ายอมแพ้ต่อกิเลสของตัวเอง
    ดร. สนอง ท่านเคยบอกไว้ว่าเพศที่สาม บรรลุธรรมไม่ได้ (หรือยากมาก)
    ยอมรับ และอดทนไปค่ะ ถือว่าชดใช้กรรมในชาตินี้
    และอย่าสร้างกรรมใหม่....ขอให้น้องทำได้นะ
     
  16. tumsokpho

    tumsokpho เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2010
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +469
    ผมก็เป็นเหมือนคุณนะ
    ผมว่าเป็นได้ก็เลิกได้
    ลองถือศีลแปดดู คนที่ถือศีลแปดจะสำรวมเรื่องเพศมากกว่าคนที่ถือศีลห้า
     
  17. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    การงดเว้นอาหารมื้อเย็นช่วยได้มากเลยค่ะ ลองดูนะคะ
    (พระอาจารย์ท่านสอน)
     
  18. 137149403312121

    137149403312121 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +13
    ศีล ครับช่วยได้ อันนี้แนะนำให้ลองประพฤติดูครับ ศีลห้าอย่าให้ขาด ถือศีลแปดทุกวันพระ

    อันนี้เป็นมหาอนิสงค์เลยนะ พอศีลครบศีลบริสุทธิ์ ศีลเจริญ เอาการภาวนามาต่อเข้า พอภาวนาไปๆ ให้มันรู้ให้มันทันใจตัวเอง พอมันเกิดราคะปั๊ปเอาใจมานั่งดูมัน พอรู้ทันปุ๊ปมันดับเลยครับ ถ้าเราดับมันไปเรื่อยๆ ซักวันคุณจะรู้ผลของมันเองครับ ว่าคุณได้เปลี่ยนไปแล้ว

    เอาใจช่วยครับ
     
  19. camrymax

    camrymax นายองครักษ์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    468
    ค่าพลัง:
    +1,257
    ขอเป็นกำลัง ใจไห้นะครับ........

    กามฉันทะนี้ .... เป็นกิเลส ที่ผมเอง...ก็ด่างพล้อยบ่อย พยามต่อสู้อยู่เช่นกัน...

    อดทน...เข็มแข็งนะครับ...
     
  20. gastonoy

    gastonoy สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +0
    ผมนึกถึงคำพูดของอาจารย์ริวเลยครับ

    ที่ว่า "เราเกิดมาเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเอง"
     

แชร์หน้านี้

Loading...