พื้นที่ปลอดภัยยามเกิดอภิมหันตภัย ในจังหวัดต่าง ๆ ของประเทศไทย

เข้ามาเชียร์ อิอิ :VO

 

ยินดีต้อนรับทุก ๆ คนนะค่ะ ถ้าอยากจะมา
ถ้ำเขาช้างหาย ควรมาเป็นวันเสาร์-อาทิตย์
จะดีกว่านะค่ะ แต่ถ้ามาวันอาทิตย์ เป็นวันหยุด
ของผู้เขียนจะพามุดถ้ำให้ฉ่ำปอดเลยค่ะ ณ ที่ถ้ำ
แห่งนี้ มีอาจารย์ท่านหนึ่ง ใช้เป็นที่สอบอารมณ์
ของบุคคลนั้น ๆ แต่ไม่บอกวิธีให้นะค่ะ เพราะการที่
ท่านมีสิทธิจะรอดจากภัยพิบัติหรือเปล่า ที่นี่คือ
ด่านทดสอบอันดับแรก


สำหรับที่ปลอดภัยของแต่ละจังหวัด จะทยอยบอก
ให้นะค่ะ อาจจะบอกได้ครบทุกจังหวัดหรือเปล่า
แล้วแต่ธรรมะจัดสรรก็แล้วกันค่ะ

 

ตามมาเป็นแฟนคลับด้วยคนค่ะ แล้วกรุงเทพจะมีพื่นที่ปลอดภัยไม๊คะ (f) ตอบ PM ด้วยนะค๊า

 

ตามเข้าไปอ่านแล้ว ได้เนื้อหาสาระแนวคิดมากมาย น่าจะรวมเล่มออกวางแผงเร็วๆนี้ นะคะ
ขอบคุณมากค่ะ คุณไอย ...

 

ขออ้างอิงแนวทางวิชาการเรื่องภูมิภาค
ของจังหวัดตรังก่อนนะค่ะ จะได้เข้าใจ
เรื่องภูมิศาสตร์ และสาเหตุที่อาจจะทำให้
เกิดภัยพิบัติได้ เนื้อหาอาจจะโดดไปโดดมา
ต้องขอประทานโทษด้วยนะค่ะ ด้วยเวลา
อันจำกัด ทำให้ไม่สามารถเรียบเรียงเนื้อหา
เป็นขั้นเป็นตอนได้

 

ลักษณะภูมิประเทศ
<O</O
พื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน มีพื้นที่
เป็นแนวทอดยาวตามชายฝั่งทะเลอันดามันทาง
ทิศตะวันตกของประเทศ ตั้งอยู่บนพื้นที่ลุ่มน้ำภาคใต้
ฝั่งตะวันตก ลักษณะภูมิประเทศด้านตะวันตกมีแนว
เทือกเขาพาดผ่านจากจังหวัดระนองลงมาถึงจังหวัด
พังงา ซึ่งเป็นต้นกำเนิดแม่น้ำสายต่างๆ แม่น้ำและ
ลำน้ำมีความยาวไม่มากนักและไหลลงสู่ทะเลอันดามัน
ไปทางทิศตะวันตกและตะวันตกเฉียงใต้เป็นส่วนใหญ่
ลักษณะภูมิประเทศเกิดจากแผ่นดินยุบตัวลงไป
ทำให้ชายฝั่งทะเลเว้าแหว่งมีอ่าวและเกาะเล็กๆ มากมาย<O</O

 

ลักษณะทางธรณีสัณฐาน
<O</O
ลักษณะทางธรณีสัณฐานของพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้
ฝั่งอันดามัน มีลักษณะเป็นชายฝั่งทะเลยุบตัว
(Submerged shoreline) ซึ่งทำให้น้ำทะเลไหล
เข้ามาท่วมบริเวณผืนดินชายฝั่ง และเกิดเป็นแนว
ชายฝั่งขึ้นใหม่ ในบริเวณที่เป็นผืนแผ่นดินมาแต่เดิม
ชายฝั่งทะเลประเภทนี้ส่วนใหญ่มักเป็นหน้าผาชัน
ไม่ค่อยมีที่ราบชายฝั่ง และแนวชายฝั่งมีลักษณะ
เว้าแหว่ง มีอ่าวและเกาะเล็กๆ มากมาย นอกจากนี้
แม่น้ำที่ไหลลงสู่ทะเลส่วนมากจะมีปากแม่น้ำกว้าง
เป็นพิเศษ ซึ่งเรียกปากน้ำชนิดนี้ว่า ชะวากทะเล
ตัวอย่างเช่น บริเวณปากแม่น้ำกระบุรี จังหวัดระนอง<O</O

 

จังหวัดตรัง

มีลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาหินปูน
เนินสูงๆ ต่ำๆ สลับด้วยภูเขาใหญ่เล็ก ถ้ำ และ
แอ่งน้ำ ที่เกิดจากการยุบตัวของพื้นดิน
กระจัดกระจายอยู่ทั่วไปภายในพื้นที่ ได้แก่
ถ้ำเขาช้างหาย ถ้ำเล ถ้ำพระวิเศษ เป็นต้น ในขณะที่
พื้นที่ราบมีสัดส่วนค่อนข้างน้อยซึ่งส่วนใหญ่ใช้ใน
การปลูกข้าว ทางทิศตะวันออกมีเทือกเขาบรรทัด
ทอดตัวยาวจากเหนือจดใต้โดยเป็นเส้นแบ่งเขตแดน
ระหว่างจังหวัดตรังกับจังหวัดพัทลุง ซึ่งตามแนวทิวเขา
ปกคลุมด้วยป่าดงดิบที่สมบูรณ์ นอกจากนั้นทางด้าน
ทิศตะวันตกของพื้นที่ มีลักษณะเป็นที่ราบตามชายฝั่ง
ทะเลมีความยาวประมาณ 119 กิโลเมตร สภาพพื้นที่
ส่วนใหญ่เป็นป่าชายเลนที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์
ประกอบด้วยพื้นที่ที่เป็นเกาะทั้งสิ้น 46 เกาะ
<O</O
ที่มา : http://www.osmsouth-w.moi.go.th/904067.doc<O</O<O</O

 

ตรัง – กรมทรัพยากรธรณี ประกาศให้
จังหวัด ตรังเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิด
แผ่นดินทรุดตัวและเสี่ยงต่อการดินถล่ม

นายอภิชัย ชวเจริญพันธ์อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี
กล่าวว่าได้ดำเนินโครงการซักซ้อมแผนการเฝ้าระวัง
แจ้งเตือนภัยดินถล่มจังหวัด ตรังให้กับอาสาสมัคร
เครือข่ายแจ้งเหตุธรณีพิบัติภัย จำนวนทั้งสิ้น 412 คน
จากพื้นที่ 8 อำเภอ 24 ตำบล 125 หมู่บ้าน ยกเว้น
อำเภอที่ไม่มีพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่ม จำนวน 2 อำเภอ
ได้แก่ อำเภอกันตัง และอำเภอหาดสำราญ
<O</O
อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าวอีกว่า จังหวัดตรัง
เป็นจังหวัดหนึ่งที่อยู่ในลำดับต้นๆ ของประเทศไทย
ที่น่าเป็นห่วงต่อการเกิดเหตุหลุมยุบ หรือแผ่นดินทรุดตัว
โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอห้วยยอด และอำเภอปะเหลียน
เนื่องจากสภาพภูมิประเทศและธรณีวิทยาส่วนใหญ่เป็น
หินปูนซึ่งเป็นชั้นตะกอนที่จับตัวกันไม่แน่นจึงเป็นพื้นที่
ที่เสี่ยงต่อการเกิดธรณีพิบัติภัยดังกล่าวได้ง่าย


ดังนั้นจึงควรเตรียมความพร้อมในการแก้ไขปัญหา
หรือสร้างเครือข่ายอาสาสมัครในการสังเกตเหตุ
หลุมยุบหรือแผ่นดินทรุดตัว เพื่อช่วยลดปัญหา
ความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่มากที่สุด
นอกจากนี้ทางกรมทรัพยากรธรณี ยังได้ลงไป
ตรวจสอบสถานการณ์การกัดเซาะพื้นที่ชายฝั่ง
บริเวณชายหาดปากเมง ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา
จังหวัด ตรังหลังเป็นพื้นที่หนึ่งที่ประสบปัญหา
การกัดเซาะชายฝั่งด้วย
<O</O
ที่มา : http://www.andamanguide.com/andaman_news/andaman_news_5_505.html

 

จากรายละเอียดของลักษณะพื้นที่ทางทางภฺมิศาสตร์
และการนั่งสมาธิ ข้อมูลความเป็นไปได้ในเรื่องของ
ภัยพิบัติ ในจังหวัดตรัง อาจจะเหลือเพียงเกาะเล็ก ๆ
ก็เป็นได้ เนื่องจากโครงสร้างเดิมของแผ่นดิน เกิดจาก
การยุบตัวของเปลือกโลกมาแต่ดึกดำบรรพ์และเกิด
ภัยพิบัติทั้งสึนามิและแผ่นดิบยุบมาหลายครั้งหลายคราว

ดังนั้นถ้าเกิดเหตุภัยพิบัตินี้ขึ้นจริง จุดที่คาดว่าน่าจะ
ปลอดภัยในการนั่งสมาธิของครูบาอาจารย์หลาย ๆ ท่าน
ได้ชี้จุดว่าน่าจะปลอดภัยที่สุด ได้แก่<O</O

 

1. บริเวณถ้ำเขาช้างหาย<O</O

 

2. บริเวณที่ก่อสร้างเจดีย์ 9 ชั้นแถบตำบลละมอ
(อยู่ตรงข้ามกับวัดธรรมมงคล อำเภอนาโยง)

ขอให้ยึดจุดแนวของถ้ำเขาช้างหายมุ่งไปทางเจดีย์
ซึ่งแต่เดิมตรงบริเวณเจดีย์นั้น คือเมืองเก่าที่โดน
แผ่นดินถล่ม ฝังตัวลงไป บริเวณเจดีย์นั้น สร้างครอบ
เมืองเก่าเอาไว้ ข้างใต้ระหว่างเจดีย์และถ้ำเขาช้างหาย
เป็นแม่น้ำสายใหญ่ เชื่อมต่อกัน ซึ่งทั้งสองที่นี้
<!--?XML:NAMESPACE PREFIX = O /--><o< o<="" p="">ได้เชื่อมโยงกันด้วยสิ่งศํกดิ์สิทธิ์ที่มีอยู่ในใต้ดิน
ซึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ว่านี้จะช่วยปกป้องและป้องกัน<o< font="" o<=""></o<>
<font face="Arial">ภยันตรายต่าง ๆ ในบริเวณนี้ทั้งหมด
(ขอให้อ่านดูเป็นเรื่องเล่าปรัมปรากันนะค่ะ
ข้อมูลนี้ได้มาจากฌานหยั่งรู้ ของอาจารย์ท่านหนึ่ง
ซึ่งทุก ๆ ชาติ ได้เกิดและดับสังขาร ณ ที่นี้<o< font="" o<=""></o<>
<font face="Arial">จึงเล่าสู่กันฟังเฉย ๆ พิจารณากันเอาเองนะค่ะ)
สำหรับรายละเอียดของวัดที่สร้างเจดีย์นี้<o< font="" o<=""></o<>
ขอติดค้างไว้ก่อน เพราะทางขึ้นไปลำบากมาก
ต้องมีรถโฟล์วิวอย่างเดียว ผู้เขียนให้คนพาไป<o< font="" o<=""></o<>
มีแต่คนส่ายหน้า คงไม่อยากเข็นผู้เขียนขึ้นเขากัน
แต่ได้ข่าวว่า วันที่ 5 ธันวาคม ศกนี้ ที่นี่จะมีงาน
ถ้ามีโอกาสก็อยากให้หลาย ๆ คน ไปร่วมบุญกันนะค่ะ<o< font="" o<=""></o<>

<o </o</o<>

 

3. บริเวณตำบลนาพละ แถบถนนเลี่ยงเมือง
ใกล้ ๆ กับเขาช้างหาย แถวนี้ในตัวเมืองตรัง
เวลาน้ำท่วม ที่นี่จะไม่ท่วม นอกจากท่วมทุ่งนา
พื้นที่ของจังหวัดตรัง จะเป็นพื้นที่เทลาดลงสู่
ท้องทะเล เวลาน้ำท่วม จึงไม่ท่วมขังนาน
เพราะจะไหลลงทะเลหมด แต่เดิมที่นี่เป็นทุ่งนา
แล้วค่อยมาสร้างถนนเลี่ยงเมือง เพื่อที่จะได้
ไม่ต้องผ่านตัวเมืองตรัง ซึ่งจุดนี้เป็นที่ตั้งของ
ที่อยู่ผู้เขียนเอง ห่างจากเขาช้างหาย
แค่นิดเดียว เพราะก่อนสร้างนั้น ได้ตรวจดูจาก
การนั่งสมาธิว่าที่นี่จะไม่โดนน้ำท่วม และรอดพ้น
จากภัยพิบัติ ถ้าเกิดอะไรขึ้น สามารถเข้าไปที่
ถ้ำเขาช้างหายได้ในเวลาไม่นาน

(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล กรุณาพิจารณาก่อนอ่าน)
<O</O

 

ทางเลือกชีวิต(จริง)ใหม่

ขอฝากมีชีวิตก่อนและหลังภัยพิบัติฯ อาจจะเป็นข้อคิดสำหรับคนสมัยใหม่นี้นะครับ
และโปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=M_iAvGwP09c]โจน จันได ตอน1 - YouTube[/ame]
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=l3FwlthWb1A]โจน จันได ตอน 2 - YouTube[/ame]

 

สำหรับจุดที่ไม่ปลอดภัยและมีความเสี่ยง ได้แก่
<O</O
1. 8 อำเภอ 24 ตำบล 125 หมู่บ้าน ที่ได้มีการประกาศไว้<O</O
2. อำเภอปะเหลียน อำเภอนาโยง อำเภอย่านตาขาว
เป็นจุดที่อาจารย์ ให้เฝ้าระวังเรื่องแผ่นดินยุบ หลุมยุบในช่วงนี้<O</O
3. แนวเทือกเขาบรรทัด ซึ่งเป็นเขตแดนติดต่อของ
จังหวัดตรังและพัทลุง ให้ระวังเรื่องภูเขาถล่ม แผ่นดินสไลด์<O</O
4. แถบบริเวณชายฝั่งทะเลทั้งหมด ระวังจะเกิดเมกะสึนามิ <O</O

 

ขอบคุณนะค่ะ ที่หลาย ๆ คน มาช่วยกันแชร์ความคิด
เดี๋ยวตอนหลัง ๆ จะเขียนเรื่องการรับมือและวิธีการ
อยู่รอดแบบไม่ต้องควักกระเป๋าเลยก็ยังได้ สำหรับ
ผู้ที่ถามว่าตรงไหนปลอดภัยกันบ้าง คอยตามอ่าน
แล้วกันนะค่ะ จะได้เขียนซะทีเดียวเลย

ส่วนข่าวที่ว่าเขื่อนภูมิพลจะแตกมั้ย ถ้าจากสมาธิ
เขื่อนพังค่ะ แต่ไม่ระบุวันเวลาดีกว่า เพราะ
ผู้เขียนเอง ถึงแม้จะรู้จักครูบาอาจารย์หลาย ๆ ท่าน
ขนาดเข้าไปนั่งถึงก้นครัวได้ ก็ไม่เชื่อ 100%
เพราะหลาย ๆ ครั้ง ก็ไม่ใช่อย่างที่ท่านกล่าว
ส่วนใหญ่ถูกต้องแค่ 60-70% นี่ไม่ใช่เป็น
การลบหลู่ครูบาอาจารย์ เพราะฉะนั้นผู้เขียน
มักจะเขียนเสมอ ๆ ว่า ให้พิจารณาดูเอา
เตรียมการเพื่อที่จะป้องกันไว้ แต่อย่าตื่นตระหนก
มีสติพิจาณาอยู่เสมอ ดังที่พระพุทธเจ้า
ท่านทรงตรัสถึง หลักกาลามสูตร โดยแสดง
ให้แก่ชาวกาลามะ หมู่บ้านเกสปุตติยนิคม
http://www.easyinsurance4u.com/buddha4u/kalamasutta.htm

เพราะฉะนั้น การที่ผู้เขียนจะถ่ายทอดอะไรลงในเวป
พึงตระหนักเสมอว่าสิ่งที่เขียนไปนั้น สร้างความตื่น
ตระหนกตกใจให้กับผู้อ่านหรือเปล่าเป็นข้อสำคัญ
ซึ่งการเขียนอะไรที่หมิ่นเหม่ มักจะย้ำเสมอ ๆ ว่า
เป็นความเชื่อส่วนบุคคล เพราะเกรงจะไปกระทบ
กับความตื่นกลัวของผู้คน โดยเฉพาะการสื่อสาร
ทาง internet ที่มีคนอ่านนับหมื่น นับแสนคน
ซึ่งจะทำให้เกิดผลกรรมสะท้อนกลับมายังผู้เขียน
เป็นร้อยเท่าทวีคุณ การกระทำอะไรด้วยความหวังดี
เจตนาดี แต่ต้องเตือนใจตนเองไว้เสมอ ไม่อย่างนั้น
ความหวังดี จะเป็นดาบยื่นทำร้ายผู้อื่นด้วยความรู้เท่า
ไม่ถึงการณ์ และอย่าเฝ้าระวังเรื่องเขื่อนภูมิพล
อย่างเดียว เมื่อ 2-3 ปีก่อน ได้พบปะสนทนาธรรม
กับอาจารย์ท่านหนึ่งที่วัดถ้ำกระบอก ซึ่งจะเป็น
คุณหนุมานผู้นำสารหรือไม่ ท่านไม่ยอมรับ แต่ท่าน
ได้เตือนเรื่องเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เอาไว้ ซึ่งเมื่อ
ก่อนนั้นไม่มีใครนึกถึง เพราะข่าวช่วงนั้นจะเป็น
เขื่อนแถวจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งตอนนั้นผู้เขียน
รับฟังและเก็บข้อมูลไว้ รอเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
ว่าท่านพูดถูกหรือไม่ ซึ่ง ณ ปัจจุบัน คงรู้คำตอบ
แล้วว่าใช่หรือไม่ ดังนั้น สิ่งที่ท่านเฝ้าเตือนเรื่อง
เขื่อนยักษ์ของประเทศจีน ที่จะเข้ามาทางเหนือ
ของไทย อาจจะเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เขื่อนภูมิพล
หรือเขื่อนป่าสักแตก ขอให้ผู้อ่าน อ่านอย่างพิจารณา
โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ทางตอนเหนือตามจุดที่คุณหนุมาน
บอก คอยเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำให้ดี ทุกคนช่วยกัน
คนละไม้คนละมือในการเฝ้าระวังและเตือนภัยกันดีกว่า
ช่วยกันตรงไหนได้ก็ช่วย ๆ กัน อย่าลืมพระราชดำรัส
ของในหลวงปีนี้ว่า "ขอให้ทุกคนสามัคคี" เราใช้
ความสามัคคีไปในทางที่ดี มีประโยชน์และเกื้อกูลกัน
จะพาให้ประเทศและคนในชาติรอดปลอดภัย
ผู้เขียนเขียนข้อความนี้ไม่ได้คิดจะตำหนิติเตียนใคร
ทั้งสิ้น แค่เพียงอยากให้นึกถึงความรู้สึกของผู้คน
ก็เท่านั้น ถ้าเป็นการกระทบใจใคร ผู้เขียนก็ขออภัย
มา ณ ที่นี้

 

" การเตรียมตัวรับภัยทางเศรษฐกิจ" ผมว่า น่าจะสำคัญที่สุด ถ้าเราเป็นหนึ่งในผู้รอด ลองถามตัวเองว่า เราจะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร ท่ามกลางสภาพบ้านแตก เมืองถล่ม ระบบสังคม การเมือง เศรษฐกิจ ล่มจม
เราทำนา ทำไร่ ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ เป็นไหม เคยลองทำหรือเปล่า เรารู้จักพืชพันธุ์อาหาร ดีมากน้อยแค่ไหน มันจะกลายเป็นเรื่องยากลำบาก สำหรับผู้ที่ไม่เคยทำมาก่อน

ทั้งนี้ทั้งนั้น มันก็ดำเนินไปตามกรรมของแต่ละคน แต่เราสร้างกรรมใหม่ที่ดี เพื่อให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปจากที่ฟ้าลิขิต
บางครั้ง เฝ้าถามตัวเองว่า จิตใจมั่นคงต่อความตายในระดับใด แค่ฟ้าร้อง พลุระเบิด จิตใจก็วูบวาบแล้ว ถ้าตายในภัยพิบัติ คงไม่แคล้วอบายภูมิเป็นแน่แท้

 

เห็นด้วยอย่างยิ่ง ถึงคราวตายอยู่ที่ไหนก็ตาย หนีความตายหนียังงัยก็หนีไม่พ้น มีสติอยู่กับปัจจุบัน เดี๋ยวจะตายก่อนตาย อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด เป็นการดีสำหรับคนที่มี่เงินย้ายก่อนล่วงหน้า แต่...สำหรับคนที่ไม่มีทุนทรัพย์เพียงพอล่ะจะทำยังงัย เป็นเรื่องที่ยากพอสมควร

 

จังหวัดสุราษฎร์ธานี พื้นที่ที่คาดว่าจะปลอดภัย
จากภัยพิบัติ

<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O< font O<>

1.ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเขาท่าเพชร<O< p O<> ตำบลขุนทะเล อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี

<O< font O<>

เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาท่าเพชร ตั้งอยู่ที่เขาท่าเพชร
ซึ่งเป็นเขาทรงเตี้ยๆทอดตัวยาวตามแนวเหนือ-ใต้
ด้านตะวันตกเฉียงเหนือมีหน้าผาและลาดชันมาก
ความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 210 เมตร
บริเวณเชิงเขาเป็นที่ราบ สภาพป่าเขาท่าเพชร
ส่วนใหญ่เป็นป่าดิบแล้งและมีป่าหญ้าคาอยู่บริเวณ
เชิงเขาด้านตะวันออก มีเนื้อที่ประมาณ 900 ไร่
และในบริเวณจุดชมวิวยังเป็นที่ตั้งของพระธาตุ
ศรีสุราษฎร์ในพระบรมราชูปถัมภ์สร้างขึ้นเมื่อ
พ.ศ.2500 และศาลเจ้าแม่กวนอิม
</O<></O<></O<>