หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)

ในห้อง 'หลวงปู่แหวน' ตั้งกระทู้โดย psombat, 18 มีนาคม 2010.

  1. manopk

    manopk Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +61
    สวัสดีรอบดึกครับ
    มีอยู่ครั้งหนึ่งผมได้ยินพี่สันติบอกว่า"เก๋ ไม่ต้องเกรงใจ ยังไงเราก็เป็นลูกศิษย์พ่อแม่ครูอาจารย์คนเดียวกัน"
    ได้ยินแล้วซึ้งใจจริงๆมีกำลังใจเพิ่มขึ้นมาอีกเป็นกองเลย
    "ยังไงพวกเราก็เป็นศิษย์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช เหมือนกันนะ"
    ขอให้คืนนี้สมาธิกล้าแข็งปัญญาเฉียบแหลมนะครับพี่ๆ
    มานพ
     
  2. สมาชิกธรรม

    สมาชิกธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2011
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +1,308
    โมทนาสาธุครับท่านสันติ.....ยินดีด้วยครับกับความก้าวหน้าในการปฎิบัติท่านสันติไปได้เร็วและไกลมากแล้วเพียงระยะเวลาสั้นๆไม่กี่เดือนภูมิธรรมของท่านนั้นไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆไม่ธรรมดาเลยนะครับ(จากถ้อยธรรมของท่าน)ชื่นชมครับ..... เหมาะสมและสมควรแล้วครับที่เป็นบุรุษผู้ห้าวหาญผู้นั้น.....ยินดีด้วยครับ:cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2011
  3. สมาชิกธรรม

    สมาชิกธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2011
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +1,308
    เหมือนเดิมครับท่านดร.นนต์.....ท่านผู้เป็นพี่เลี้ยงพี่ใหญ่ใจดีของเหล่านักรบธรรมแห่งภูดานไหมิเปลี่ยนแปลง.....ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นเครื่องทดสอบกำลังใจของนักปฎิบัติซึ่งต่างคนต่างพบเจอในเหตุการณ์ที่แตกต่างกันไป เมื่อพบแล้ว ผ่านแล้วก็ยังจะมีสิ่งใหม่ๆเข้ามาเพื่อทดสอบกำลังใจอยู่เรื่อยไปไม่จบสิ้นจนกว่าปัญญาญาณเราจะกล้าแกร่งสามารถตัดกิเลสและอวิชชาให้สิ้นไป.....ซึ่งเป็นจุดที่เหล่านักรบธรรมปราถนายิ่งนัก

    เนื่องด้วยในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาทราบว่าภูมิธรรมของหลายๆท่านได้เลื่อนไหลไต่ระดับขึ้นไปแบบเร็วมากๆ..... ก็ต้องยอมรับว่าเกร็งมากๆครับในการที่จะพูดจะเขียนข้อความอะไรออกไปต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเกรงว่าจะเกิดบาปโดยไม่ตั้งใจ.....มาถึงวันนี้รู้สึกโล่งใจผ่อนคลายลงมากเลยหละครับท่านดร.นนต์(พี่ใหญ่ใจดี)ปีใหม่นี้ขึ้นภูปฎิบัติธรรมจะแจกอะไรดีคร๊าบ.......:cool:
     
  4. Indhus

    Indhus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +113
    เข้ามาให้กำลังใจท่านดร.นนต์อีกคนครับ หลังจากอ่านมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่ก็ทำได้แค่ส่งกำลังใจเท่านั้น เพราะความรู้ในธรรมของผมยังน้อยนัก เลยไม่ทราบจะสรรหาคำใดมากล่าวอ้างเพื่อให้กำลังใจ
     
  5. nontayan

    nontayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +976
    ต้องขอบคุณและอนุโมทนากับมุฑิตาจิตของเหล่านักรบธรรมทุกท่าน ที่แสดงออกต่อผมด้วยความบริสุทธิ์แห่งจิตใจของทุกท่าน


    ถ้อยแถลงทั้งหลายที่ผมได้แสดงออกไปนั้น เป็นสภาวะธรรมอย่างหนึ่ง เป็นการพัฒนาทางจิตอีกอย่างหนึ่ง เป็นการตีกิเลสหรือกวนกิเลสให้มันฟูขึ้นมาอีกอย่างหนึ่ง เพื่อจะได้เลือกตัดกิเลสในส่วนที่มันฟูขึ้นมาเสียก่อน ก้อนใดโผล่ขึ้นมาจะจะเราก็รีบตัดมันออกอย่างจะจะเช่นเดียวกัน ส่วนก้อนใหญ่ที่เหนียวหนืดเราก็ค่อยกวนค่อยกระเทาะมันออกมา สักวันหนึ่งก้อนใหญ่นั้นมันต้องพ่ายแพ้เราอย่างแน่นอน ผมกำลังเรียนรู้ "อวิชชา" คือ กิเลสซ้อนกิเลส อัตตาซ้อนอัตตา รู้ซ้อนรู้


    นักรบธรรมทั้งหลาย อย่าได้กังวลใดๆเลยเกี่ยวกับตัวผม อาการที่ผมแสดงออกไปนั้น มันเป็นเพียงอาการที่เกิดจากการเรียนรู้สภาวะทางธรรม เป็นอาการสะเทือนทางธรรม เป็นวิทยาทาน และเป็นธรรมทาน ตามสติปัญญาของผมที่มีอยู่ในขณะนี้ ความเศร้าโศกเสียใจหรือดีใจในสิ่งต่างๆนั้น มันหายไปจากผมนานแล้ว ยังเหลือไว้แต่อาการสั่นสะเทือนทางธรรมเป็นระลอกๆเท่านั้น เพราะจุดดำในดวงจิตของผมมันได้เลือนหายไปนานแล้ว


    ท้ายสุด ผมต้องขอบคุณทุกท่าน ที่เป็นส่วนหนึ่งในการแสดงออกทางธรรมจากหัวจิตหัวใจ สมกับเป็นศิษย์ของพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช การยกแหขึ้น ต้องยกพร้อมๆกัน แหนั้นจึงจะไม่หย่อนยาน เช่นเดียวกัน สภาวะทางธรรมและสภาวะทางจิตของพวกเราก็ต้องถูกยกไปพร้อมๆกัน ไม่มีใครเป็นผู้นำ ไม่มีใครเป็นผู้ตาม เราจะเดินไปพร้อมๆกัน


    ขอเจริญในธรรม
    ดร.นนต์
    28 ตุลาคม 2554
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2011
  6. nontayan

    nontayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +976
    แจกใจเป็นลำดับหนึ่ง
    แจกวัตถุมงคลเป็นลำดับสองครับ
     
  7. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    อาการหลงดี อาการติดในอวิชชาทั้งหลายนั้น หากไม่ได้ครูบาอาจารย์ ผู้เคยเคี่ยวเข็ญกันมานับภพชาติไม่ถ้วน (ดั่งช้างพลาย ย่อมกลัวนายควาญช้าง) ยากยิ่งนักที่จักได้สติกลับคืนมา คงเป็นบุญของผมกับท่าน ดร.นนต์ที่ท่านสู้อุตส่าห์หนี...ลงมาช่วย ลงมาโปรดเหล่าศิษย์ที่จักก้าวล่วงสู่อบายภูมิโดยไม่รู้ตัว

    ท่านพูดเปรยๆในเช้าวันแรก (ที่ 21 ต.ค.) ที่ผมคุยกะครูชาติแบบทีเล่นทีจริงโดยไม่รู้ตัวว่า "ระวังเด้อโยม อาตมาเคยเห็นมามากแล้ว ที่ความคิดพาคนลงนรก มันไม่ต้องรอให้ตายไปก่อนค่อยลงนรก มันพาลงไปนรกตั้งแต่ขณะคิดกันเลย"

    ผมพะวงและตกใจอย่างยิ่ง เพราะเราไม่ได้เดินทางไกลมาเพื่อจะลงนรกนะ จึงสบโอกาสถามท่านว่าจักทำอย่างไรดีขอรับ ท่านก็ได้เมตตาสอนว่า "อย่าทำอีก! ธรรมดาของเหม็น แม้มือเราไปแตะต้องเพียงนิดหน่อยเราก็รู้ว่าเหม็น เมื่อรู้แล้วต้องรีบชำระล้าง อย่าไปแตะต้องมันอีก อย่าไปเล่นกับมัน ดุจดั่งไฟ เมื่อเรารู้ว่ามันร้อน ก็อย่าไปแตะต้องมัน บุญกับบาปแยกแยะกันชัดเจน "บาป" แม้เราจักไม่รู้(อวิชชา) ว่าที่เราคิดหรือกระทำมันเป็นบาป อย่างไรมันก็เป็นบาป ดังนั้นการนำเรื่องราวของพระอริยะเจ้า พระโพธิสัตว์ หรือคุณธรรมทางพระพุทธศาสนามาพูดเล่นนั้นไม่ได้" (เรียบเรียงคำพูดใหม่จากความทรงจำ)

    ในเช้าวันนั้นท่านโปรดต่อว่า... พุทธพยากรณ์นั้น พระองค์ทรงตรัสแล้วเป็นหนึ่ง ไม่มีสอง ผู้ที่ทำเหตุให้สมควรจักได้ตามเหตุ ท่านถึงจักพยากรณ์ให้ได้ว่าผู้นั้นจักได้ตามนั้น(สัจจะอธิษฐาน) วาจาของท่านไม่มีเหลาะแหละเหลวไหล ตรัสอย่างไรต้องเป็นอย่างนั้น เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ฯลฯ

    เรื่องฤทธิ์เรื่องเดชนั้น มันเป็นของโลก มันเป็นของเล่น มันเป็นเรื่องขี้ปะติ๋วมากของพระอริยะเจ้า เมื่อท่านได้ปริญญามาแล้ว จักไปสนใจเล่นอะไรกะเด็กอนุบาล คุณธรรมเพียงขั้นพระโสดาบัน ท่านไม่จำเป็นต้องห้อยพระ หาเครื่องรางของขลังดอก เพราะกายของท่านเป็นธาตุกายสิทธิ์อยู่ในตัวอยู่แล้ว พระโสดาบันจึงไม่ใช่เพียงละสังโยชน์ 3 ตามตำรา ความจริงมีมากกว่านั้นยิ่งนัก อารมณ์เคืองโกรธ ขุ่นมัวแทบไม่มีเลย ฯลฯ

    คุณแม่ชมถาม(กิเลส)ผมบ่อยๆระหว่างการเดินทางกลับ ว่า...ตื่นหรือยังลูก? ตื่นหรือยัง? ทั้งๆที่ผมเบิกตาลืม ผมก็บอกว่าตื่นแล้วครับแม่ - เมื่อท่านรับรู้ว่าเราตื่นแล้วและอาจจะกังวลใจ ท่านถึงได้พูดปลอบประโลมว่า ธรรมดาต้นไม้นั้นรากฐานแข็งแรง ลำต้นตรงสวยเด่นงามดีอยู่ เพียงแต่มีบางกิ่งที่ยื่นออกนอกแนวทางไปหาขวากหนาม ตอนนี้...ได้ดัด ได้แต่ง ให้กลับมาเป็นปกติแล้ว ขอให้มีกำลังใจมุ่งมั่นปฏิบัติต่อไปนะลูก
    (ปรับปรุงมาจากคำพูดของคุณแม่ชม)

    ธรรมดาคนเรา หากพูดถึงอดีตชาติก็พูดถึงแต่ความยิ่งใหญ่ของตัวเอง กลับไม่สอดส่องดูเลยว่า ตัวเองเคยตกนรกขุมไหน เคยเป็นสัตว์อะไรมาบ้าง มัวแต่ทะนงตนว่าอยู่สูง เปรียบดั่งภาชนะ แม้ทำด้วยทองคำกลับแตกหักง่าย สู้ภาชนะที่ทำด้วยกะลามะพร้าวก็ไม่ได้ น่าแปลกใจดีแท้...
    (ปรับปรุงมาจากคำพูดของคุณแม่ชม)

    การก้าวเดินในการปฏิบัติธรรมของนักรบธรรม ภายใต้พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช จักต้องสง่างาม ทั้งภายนอกและภายใน เหมือนปฏิปทาของท่าน ทำอะไรอย่าให้กระเทือนถึงท่าน เปรียบดั่งการหลอมทองคำให้เป็นพระพุทธรูป จักต้องมีแต่ทองคำเท่านั้น อย่าให้มีสิ่งแปลกปลอมเจือปนนะลูก
    (ปรับปรุงมาจากคำพูดของคุณแม่ชม)

    ธรรมะสั่งผม ราวๆตี 2 ครึ่ง (ก่อนลงไปนอน แล้วเดินทางต่อในตี 3 ครึ่ง)
    พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านพูดอย่างอิดโรยจนผมสะเทือนใจมาถึงตอนนี้...ที่ท่านยังไม่ยอมพักหลังจากเหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งวันและคืนที่ 23-24 ต.ค. ว่า...
    การแสดงความคิด ความเห็นในระหว่างที่เรายังไม่รู้ทุกอย่างอย่างแจ่มแจ้ง ต้องใช้คำพูดที่ว่า ตัวเราเป็นเพียงผู้ศึกษา ยังไม่ใช่นักปฏิบัติ หรือผู้รู้ เพราะมีคนที่คอยติดตาม คอยปฏิบัติตามเราอยู่ ในขณะเดียวกันก็มีผู้ที่คอยจ้องจักทำร้ายหรือกระทืบซ้ำเติมเราอยู่ มีทั้งเทพบุตรมาร มีทั้งมนุษย์ที่ใช้คำพูดดีๆแต่ใจเป็นมาร มารมันไม่ยอมให้เราหลุดพ้นจากอำนาจของมันไปได้ง่ายๆ นรก มนุษย์ สวรรค์ พรหม ล้วนแล้วแต่อยู่ภายใต้อำนาจของมารทั้งนั้นเลย

    กราบนอบน้อมบูชาพระคุณถึงพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโชด้วยความเคารพสูงยิ่ง

    กราบ กราบ กราบ
    กราบ กราบ
    IT Man / 28 ต.ค. 2554
     
  8. naicharty

    naicharty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +394
    เช้าวันนี้ผมรู้สึกดีใจปิติจนขนลุกซู่ เมื่อมาอ่านข้อความต่างๆ ของแต่ละท่าน จึงขออนุญาตยกข้อความของท่าน ดร.นนต์ และของคุณสันติ มาประกอบ
    ยินดีกับท่าน ดร.นนต์ ด้วยนะครับที่ท่านเข้าใจสภาวะธรรม สามารถเข้าใจคำว่า "อวิชชา" และหันมาใช้ปัญญาพิจารณาธรรมตามสภาวะที่เป็นจริง ตอนแรกผมและนักรบธรรมหลายท่านก็ลุ้นอยู่ว่าท่านจะผ่านได้หรือเปล่า หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่ามีบางท่านห่างหายไปจากเว็บบอร์ดไป ซึ่งผมก็ได้กราบเรียนพ่อแม่ครูอาจารย์เป็นระยะ ท่านก็บอกว่าท่าจะพยายามลองดู หากเขามีวาสนา และบุญบารมียังมีอยู่ คุณงามความดีทั้งหลายจะทำให้เขามีความเห็นไปในทางที่ถูกต้องได้ ก็เป็นจริงดังที่ท่านกล่าว เพราะพ่อแม่ครูอาจารย์ได้เดินทางไปโปรดโดยตรง และก็มีคณะหลวงปู่เทพโลกอุดรมานิมิตให้อีก นี่แหละพระธรรมมารักษาคุณดีย่อมมีสิ่งรักษา... ลองถามดูคุณอ้าน ดูนะครับบุญกุศลได้ช่วยให้เขาผ่านพ้นวิกฤตเหตุการณ์สูนามิที่ญี่ปุ่น เห็นพ่อแม่ครูอาจารย์เล่าให้ฟังว่า ตอนแรกก็งงว่าทำให้เขาให้ออกจากงานที่ญี่ปุ่น พอกลับมาอยู่ที่บ้านได้ไม่นานก็เกิดเหตุการณ์สูนามิที่ญี่ปุ่น จากนั้นก็มาสมัครสอบและได้ทำงานที่ ม.ราชภัฏมหาสารคาม รายละเอียดคงให้เจ้าตัวคือคุณอ้านมาเล่าให้ฟังอีกที....ท่าน ดร.นนต์ ก็เช่นกันหากหลงผิดผิดแล้วกลับตัวทันยังไม่สาย เพราะเป็นอดีตไปแล้ว ให้อยู่กับปัจจุบันเท่านั้น อดีตเก็บเอาไว้เตือนตนไม่ให้ทำอีกเท่านั้น ต่อไปนี้กองทัพธรรมของเราก็เดินหน้าต่อไปได้แล้ว...พวกเรานักรบธรรมทุกคนจะถือเอาเหตุการณ์นี้มาเป็นคติเตือนตน และต้องใช้ปัญญาให้มาก และพวกเราทุกคนยังเคารพและนับถือท่านดร.นนต์ เช่นเดิม พร้อมที่จะให้ท่านดร.นนต์ เป็นแม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพธรรมที่จะร่วมกันสร้างบารมี โดยมีพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช เป็นผู้นำ คอยชี้แนะแนวทางถูกผิด เพราะการประพฤติปฏิบัติธรรมก็มีถูกบ้างผิดผิดผู้ที่อยู่สูงกว่าเราเท่านั้นจะรู้....
    ขออนุญาตนำข้อความของคุณสันตที่กล่าวว่า "พ่อแม่ครูอาจารย์ของข้าฯ ชื่อ พ.สุรเตโช ข้าฯขอตั้งจิตอธิษฐาน ไม่ว่าจะเกิดหรือดับอีกกี่ภพกี่ชาติ จะขอกราบเป็นศิษย์ของท่านและจักเดินตามรอยบาทของท่าน ทุกภพทุกชาติ ตราบจนกระทั่งถึงซึ่งความหลุดพ้นทั้งหลายทั้งปวงจากกิเลส เหตุแห่งทุกข์" ข้าพเจ้าก็ขอตั้งจิตอธิษฐานเช่นเดียวกับคุณสันติดังข้อความข้างต้น และผู้ที่จะช่วยให้ข้าพเจ้าพ้นทุกข์ได้มีเพียงพ่อแม่ครูอาจารย์เท่านั้น ข้าพเจ้าขอมอบกาย ถวายแด่ท่าน และจะไม่อะไรยิ่งใหญ่ไปกว่าธรรม จะยึดเอาคุณพระพุทธ คุณพระธรรม และคุณพระสงฆ์ เป็นสรณะที่พึ่งตลอดไป....
    การประพฤติปฏิบัติต้องประกอบด้วยสติปัญญา ปัญญาเท่านั้นที่จะช่วยให้เราพ้นทุกข์ พุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งปัญญาและทำเหตุให้สมผล ทำไปเรื่อยๆ ไม่ท้อรับรองคงได้รับผลแน่นอน....ขอให้ทุกท่านจงเจริญในธรรม....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2011
  9. ซึ้งบน

    ซึ้งบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    225
    ค่าพลัง:
    +377
    หลังพายุใหญ่ ฟ้ากลับมาใสอีกครั้ง
    ฟ้าหลังฝน มักจะสวยงามเสมอ ครับ
    เมื่อพวกเราพร้อมแล้ว ก็ขอให้เดินไปข้างหน้าพร้อมกัน นะครับ

    คืนวันหนึ่งที่บ้านสวนฯ ผมได้เรียนถามพ่อแม่ครูอาจารย์เรื่องการก่อสร้างศาลาปฏิบัติธรรม เพื่อที่จะให้ญาติธรรมได้มีที่สำหรับฟังธรรมและปฏิบัติธรรม แทนที่ศาลาฯหลังเก่าที่ชำรุดทรุดโทรมเต็มที

    จริงๆแล้วพ่อแม่ครูอาจารย์ ท่านไม่ได้เน้นในเรื่องการสร้างวัตถุ ท่านเน้นที่จะสร้างคนมากกว่า แต่เนื่องจากกรณีนี้มันจำเป็นจริงๆ เพราะถ้าไม่มีที่ปฏิบัติธรรม ไม่มีที่สั่งสอนเทศนาธรรม ก็คงจะไม่สามารถสร้างคนให้มีธรรมในใจได้ ความเมตตาของท่าน พวกเราเหล่าลูกศิษย์คงไม่อาจที่จะนิ่งดูดายได้ ผมจึงคิดว่าเราน่าจะมีการปรึกษาหารือเพื่อแบ่งเบาภาระของท่าน ผมจึงอยากกราบขอร้อง พี่ใหญ่ของพวกเรา คือท่านดร.นนต์ให้ช่วยเป็นหัวขบวน ที่จะนำเหล่า นรธ. ในการที่จะสร้างศาลาฯในครั้งนี้ด้วยครับ

    เมื่อใดที่พี่ใหญ่ เริ่มขยับนับ 1 ขอโปรดให้พวกเราช่วยกันนับ 2 3 4.....ไปพร้อมๆกันเพื่อให้ถึงซึ่งจุดหมาย ในการสร้างศาลาฯถวายพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช ของพวกเราเหล่าลูกศิษย์ทุกคน ครับผม

    ปล. รายละเอียดปลีกย่อย เราจะปรึกษาทาง mail นะครับ
     
  10. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388

    ครับผม รอนับ ...5...6...7...8...9....ต่อๆไปอยู่ครับ
    โมทนาสาธุครับ
     
  11. nontayan

    nontayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +976
    ผมนับ 1 ตั้งแต่วันแรกที่พบพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช แล้วครับ เอ้าเดินต่อไปเหล่านักรบธรรมทั้งหลาย พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านคอยอยู่นานแล้ว
     
  12. หมวดซุบ

    หมวดซุบ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +20
    ต้องขอขอบคุณท่าน อาจารย์ นนต์ และขออนุโมทนากับท่านอาจารย์ด้วยที่ทำให้ผมได้รู้จักกับคำว่า อวิชชา ได้ดีขึ้น ซึ่งอ่านตอนแรกผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าที่ควร จึงได้โทรสอบถามท่านอีกครั้ง ถึงได้เข้าใจขึ้นมาอีกหน่อย โชคดีมีละครเรื่องเสือสั่งฟ้าตอนจบและผมก็ได้ดูละครเรื่องนี้อยู่ จึงได้เข้าใจยิ่งขึ้น ซึ่งมีทั้งตัวอย่าง ตัวบุคคล สอนให้ผมเข้าใจไปในตัว ว่าตัวเราเท่านั้นจะใช้ไปในทางที่ถูกหรือผิด และถึงอย่างไรท่านอาจารย์นนต์ ก็ยังเป็นบุคคลที่ผมให้ความเคารพและศรัทธาในตัวท่านตลอดไป
     
  13. nontayan

    nontayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +976
    ผมได้รับพระองค์จตุคามรามเทพที่สร้างโดยวังหน้าหรือวังหลวงเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว จากท่าน Srithong เรียบร้อยแล้ว สวยงามมาก ต้องขอบพระคุณและอนุโมทนาบุญกับท่านเป็นอย่างยิ่ง บุญกุศลใดที่ผมได้กระทำแล้วทุกประการ จงย้อนกลับไปอำนวยชัยให้ท่านและครอบครัวจงมีแต่ความสุขความเจริญ สว่างไสวทั้งทางโลกและทางธรรมจนกว่าท่านจะเข้าสู่พระนิพพานนะครับ

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. Phoobes

    Phoobes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,181
    สวัสดีครับ พี่น้องนักรบธรรมทุกท่าน
    ผมไม่ได้เข้ามาพูดคุยหลายวันด้วยใช้เวลาอยู่กับการเตรียมพร้อมรับสถานะการณ์ที่อาจมาถึงตัวจากสภาวะน้ำท่วมซึ่งมีโอกาสถึงผมได้เนื่องจากอยู่ติดคลองแสนแสบและบ้านผมอยู่ต่ำกว่าระดับถนนประมาณ30ซ.ม. โดยพยายามเก็บข้าวของที่อาจเสียหายขึ้นที่สูง
    แรกตั้งใจว่าจะอยู่รอจนน้ำเริ่มมีระดับเดียวกับพื้นบ้าน แต่ได้มาพิจารณาว่าเราจะรออยู่เพื่ออะไรเพราะขณะนี้ทุกอย่างมันก็ชะงัก ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือการค้าขาย และเมื่อถึงเวลานั้นอาจจะเคลื่อนตัวลำบาก และคงต้องใช้เวลาอยู่กับน้ำเป็นระยะเวลาไม่น้อย และการงานก็คงไม่ได้เดินหน้าไปไหน เลยตัดสินใจพาครอบครัวออกจากกรุงเทพฯ ก็ขอบคุณหลายท่านที่โทร.สอบถามด้วยความเป็นห่วง และขอเป็นกำลังใจให้พี่อ๊อดที่ได้รับความเสียหายมาก่อนหน้านี้ แต่พี่อ๊อดเป็นผู้มีธรรมในหัวใจอยู่แล้วก็คงได้ธรรมโอสถเยียวยาได้เป็นอย่างดีนะครับ
    วันนี้ ผมก็ได้ปลีกวิเวกมาอยู่ที่เกาะสีชัง (ถือโอกาสพาครอบครัวเที่ยว) และหลังจากนี้คงได้ไปอยู่ที่พิษณุโลก(ภูมิลำเนาเดิม)สักระยะ
    เสียดายที่หากได้เตรียมพร้อมทุกอย่างเรียบร้อยก่อนหน้านี้ อาจมีโอกาสได้ร่วมขบวนธรรมสัญจรครั้งที่๑กับหลายท่าน
    ก็ขอแสดงความยินดีและอนุโมทนากับ ทุกท่านที่ได้ไป ได้ถึงธรรม นะครับ
     
  15. Phoobes

    Phoobes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,181
    ขอแสดงความชื่นชมยินดีกับคุณสันติที่ได้ถึงธรรมในส่วนที่ได้รับจากองค์พ่อแม่ครูอาจารย์(พ.สุรเตโช)และได้นำมาถ่ายทอดให้ผู้ที่ไม่มีโอกาสได้รับโดยตรงจากองค์ท่านให้ได้รับธรรมนั้นด้วย ขออนุโมทนาครับ
    อนุโมทนากับท่านIT Man ที่ท่านได้เดินตามรอยพ่อแม่ครูอาจารย์ในความแยบยลในการแสดงออกในธรรม ดังพ่อแม่ครูอาจารย์ได้แสดงออกให้พวกเราได้ใช้ปัญญาอยู่บ่อยๆ
    และชื่นชมยกย่อง ในความหาญกล้าของดร.นนท์ พีใหญ่ของกลุ่มนักรบธรรม ที่ท่านแสดงถึงสภาวะตัวตนของท่านด้วยการยอมรับอย่างห้าวหาญเช่นผู้ที่ละซึ่งอัตตา ซึ่งได้เห็นเองด้วยปัญญาของท่านจากความแยบคายของพ่อแม่ครูอาจารย์ที่ได้สั่งสอนศิษย์ด้วยความเมตตา
    ขอเปิดเผยความรู้สึกในใจว่า ก่อนหน้านั้นด้วยความผูกพันในความเป็นพี่น้องกลุ่มนักรบธรรม ผมมีความวิตกอยู่ แต่ก็เชื่อว่าธรรมสัญจรครั้งนี้พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านคงมีอุบายธรรมอันนุ่มนวลได้ช่วยแก้ให้ดร.ผ่านสภาวะนั้นไปได้ ก็ขอคารวะในจิตใจของดร.และอนุโมทนากับ "รู้" ที่เข้าถึงความจริงแท้(สัจจธรรม)
    ด้วยจิตคารวะทั้งสามท่าน

    ภูเบศวร์
     
  16. สมาชิกธรรม

    สมาชิกธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2011
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +1,308
    ขอบคุณมากครับ.....ด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ
     
  17. สมาชิกธรรม

    สมาชิกธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2011
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +1,308
    ปลอดภัยสบายดีนะครับท่านภูเบศวร์.....ลี้ภัยไปวิเวกที่เกาะสีชังคงได้บรรยากาสดีนะและหวังว่าคงจะได้พบปะสนทนาธรรมกันในวาระที่จะถึงในปลายปีนี้นะครับ.....ก็เรามีนัดกันไปกางเต็นท์ปฎิบัติธรรมรับลมหนาวอยู่บนยอดภูดานไหไงครับ.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ตุลาคม 2011
  18. manopk

    manopk Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +61
    สวัสดีครับพี่สันติ

    คาถาหลวงปู่โตใช่บทนี้หรือเปล่าครับ

    นโมพุทธายะ นะมะพะทะ
    จะภะกะสะ มะอะอุ
    อิสวาสุอาปามะจุปะ ทีมะสังอังคุ
    สังวิธาปุกะยะปะ สะทะวิปิปปะสะอุ
    อะสังวิสุโลปุสะพุภะ นะมะนะอะ
    นอกอนะกะ กอออนออะ
    นะอะกะ อัง อิติอะระหังพุทธังสรณังคัจฉามิ
    อิติอะระหังธัมมังสะระณังคัจฉามิ
    อิติอะระอังสังฆังสะระณังคัจฉามิ
    ติติอุนิ จิเจรุนิจิตตัง เจตะสิกัง
    รูปังนิพพานัง นามะรูปังทุกขัง
    นามะรูปังอนิจจัง นามะรูปังอนัตตา
    อะยังอัตตะพาโว อสุจิ อสุภัง
    อะระหังหะรินังหัคคะตา สัมมาสัมพุทโธ
    พุทธสังมิ มังคะลังโวเจติ อิติอะระหัง
    อะระหังพุทโธ นโมพุทธายะ


    มานพ
     
  19. ซึ้งบน

    ซึ้งบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    225
    ค่าพลัง:
    +377
    สวัสดีครับ ท่านนักรบธรรมทุกท่าน ผมขอนำธรรมที่พ่อแม่ครูอาจารย์เมตตาสั่งสอน มาถ่ายทอดให้แก่ผู้ที่ไม่มีโอกาสได้รับโดยตรงจากองค์ท่าน (ภาษาธรรมอาจจะไม่สละสลวยนัก แต่เนื้อหาไม่ผิดเพี้ยนครับ)

    เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม เวลาประมาณบ่าย 3 โมง ผมและเก๋ ได้มีโอกาสนั่งภาวนากับพ่อแม่ครูอาจารย์ ในทะเลที่เกาะช้าง ท่ามกลางแสงแดด สายลม และคลื่น ท่านมักสอนธรรมลูกศิษย์ของท่านให้ปฏิบัติธรรม ท่ามกลางสภาวะที่เป็นจริง ให้เหนื่อยจริง ให้ร้อนจริง ให้กลัวจริง ฯลฯ ทุกสิ่งเป็นเรื่องจริงที่เราสัมผัสได้ทั้งหมด แล้วจะทำให้เราเข้าใจการใช้ปัญญาพิจารณาธรรมได้ถ่องแท้ เปรียบเสมือนนักมวย (อีกแล้ว)ที่ได้ซ้อมแล้ว ได้ขึ้นเวทีต่อสู้กับคู่ชกจริง หลังจากนั้นท่านก็จะเมตตาสอบถามว่าการปฏิบัติ เป็นอย่างไรบ้าง ถ้าเราพิจารณาธรรมได้ถูกต้อง ท่านก็จะบอกเราว่า ถูกต้องแล้วให้นำไปปฏิบัติเป็นแนวทางต่อๆไป ถ้าไม่ถูกต้องท่านก็จะเมตตาแก้ไขให้ลูกศิษย์ของท่าน ให้เข้าใจว่าควรปฏิบัติอย่างไร ถึงจะถูกต้อง ความเมตตาของท่านผมคิดว่าพวกเราเหล่าลูกศิษย์ทุกคน คงรู้ถึงความรู้สึกนั้นได้ทุกคนครับ

    หลังจากนั่งภาวนาในทะเล และกลับถึงที่พักแล้ว ท่านก็เมตตาถาม ผมกับเก๋ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ผมกราบเรียนท่านว่า พอพ่อแม่ครูอาจารย์บอกให้ผมกับเก๋ นั่งภาวนาพร้อมกับท่านเลย ผมก็นั่งลงภาวนาห่างจากท่านประมาณ 3 วา นั่งกำหนดลมหายใจ เข้า-ออก อยู่พักใหญ่ ก็ไม่สามารถเจริญสติให้เกิดสมาธิได้ เพราะคลื่นที่ซัดเข้ามาทำให้ตัวของผมส่ายไปส่ายมา มันไม่นิ่ง เพราะแสงแดดที่สาดส่องเข้าตา เพราะความเย็นของน้ำทะเลและของลมที่สัมผัสตัวผม

    ผมจำได้ว่าพ่อแม่ครูอาจารย์ ท่านเคยสอนว่าเวลานั่งสมาธิแล้วจิตไม่รวมตัว ให้ดูสาเหตุว่าทำไมจิตถึงไม่รวม ผมก็มาพิจารณาว่า เป็นเพราะสาเหตุที่ได้กล่าวมาข้างต้น เพราะสิ่งต่างๆเหล่านั้นต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเอง คือ แสงแดดให้ความร้อน ลมให้ความเย็น คลื่นที่พัดมากระทบตัวเราทำให้ตัวเราไม่นิ่ง เมื่อพิจารณาแล้ว สิ่งเหล่านั้นมันไม่เที่ยง มันเกิดแล้วก็ดับ มันมาแล้วก็ไป เป็นไปตามธรรมชาติ เราไปบังคับไม่ได้

    จิต(ตัวรู้) ก็ทำหน้าที่รับรู้ว่าร่างกาย(ตัวถูกรู้) ร้อน-เย็น-ไม่นิ่ง แต่ไม่ได้ยึดติดว่าร่างกายเป็นของเรา ต่างส่วนต่างทำหน้าที่ รับรู้ของใครของมัน ไม่ยุ่งเกี่ยวซึ่งกันและกัน ตัวเราของเรา จึงไม่เกิดขึ้น พอใช้ปัญญาพิจารณาได้ดังนี้ จึงปล่อยวางไว้แค่นั้น จิตเริ่มรวมตัว สมาธิจึงเกิดขึ้น จนกระทั่งได้ยินเสียงพ่อแม่ครูอาจารย์ บอกว่าพอได้แล้ว

    เมื่อผมกราบเรียนตอบพ่อแม่ครูอาจารย์ ท่านบอกว่า ถูกต้องแล้ว เป็นการใช้ปัญญาก่อให้เกิดสมาธิ

    ถ้าถ้อยธรรมที่ ข้าฯได้อรรถธิบายข้างต้นนี้ มีประโยชน์ต่อญาติธรรมบ้าง ข้าฯขอยกบุญกุศลทั้งปวงแด่พ่อแม่ครูอาจารย์ ของข้าฯ ที่เมตตาอบรมสั่งสอนข้าฯให้มีปัญญาในการจักพิจารณาธรรม กราบ กราบ กราบ

     
  20. ซึ้งบน

    ซึ้งบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    225
    ค่าพลัง:
    +377
    ใช่ครับ พระคาถาบทนี้เป็นพระคาถาที่เจ้าประคุณสมเด็จฯแห่งวัดระฆังโฆสิตาราม ใช้ลบผงดินสอ(หมายถึงดินสอพอง)เพื่อผสมกับผงอื่นๆ ใช้สร้างเป็นพระพิมพ์สมเด็จ ผงที่ลบด้วยพระคาถานี้ นอกจากจะมีอภินิหารในการใช้ป้องกันตัว ยังใช้บำบัดโรคภัยไข้เจ็บ แก้การกระทำย่ำยีคุณผีคุณคนได้ทุกประการ
    ตรงวรรคที่ว่า "ติติอุนิ"ในหนังสือของปู่ประถม อาจสาคร เขียนว่า"ตะติอุนิ"ครับ นอกนั้นเหมือนกันทุกวรรคครับ
    อ้างอิงจาก หนังสือ วิเคราะห์พระพิมพ์สมเด็จฯและพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า เขียนโดย ปู่ประถม อาจสาคร

    ผมสวดพระคาถาบทนี้ทุกเช้า ตอนอาราธนาพระพุทธปฐวีธาตุ ของพ่อแม่ครูอาจารย์ กับสร้อยประคำเหล็กไหลไพร่ดำ ครับ:cool:
    (เมื่อวานผมส่ง pm พระคาถาบทนี้ไปให้ ไม่ทราบว่าได้รับหรือเปล่าครับ)
     

แชร์หน้านี้

Loading...