สอบถามอาการหลังจากออกสมาธิครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย chayong27, 25 ตุลาคม 2011.

  1. chayong27

    chayong27 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +76
    พอนั่งสมาธิเสร็จ พอเปิดตารู้สึกสบายๆแล้วไม่อยากพูดกับใคร
    เป็นเพราะสาเหตุใดครับ
    ขอบคุณคับ
     
  2. ธรรมภัฎ

    ธรรมภัฎ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2009
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +734
    จิตได้พักผ่อน ไม่วิ่งวุ่นวายเหมือนเมื่อก่อน เมื่อจิตได้พัก จิตก็มีกำลังวังชา แช่มชื่นเบิกบานและแจ่มใส อันนี้เป็นผลจากการทำสมาธิที่ถูกต้อง มาถูกทางแล้วครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    นักภาวนาส่วนใหญ่ เมื่อถึงจุดๆหนึ่งแล้ว มักมีนิสัยสันโดษ ไม่มักอยู่กับคนหมู่มาก ชอบปลีกตัวอยู่คนเดียวเพื่อบำเพ็ญเพียรทางจิตต่อ รักความสงบเน้นสงบภายในเป็นหลัก<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    สำหรับผู้ที่ยังไม่คล่องตัวกับการเข้าออกจากสมาธิ บางรายในช่วงแรกอาจจะรู้สึกดีที่มีกำลังวังชา แต่กลับอาการตื้อๆตึงๆ อื้อๆ อึงๆ คือเฉย นิ่ง แบบไร้ปัญญา เหล่านี้ เขาเรียกฌานค้าง<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    สาเหตุมาจากตอนที่เข้าสมาธิได้ตามลำดับแล้ว ออกมาแบบลัดๆ แล้วรีบลืมตาทันที หรือลืมตาเข้าสมาธิแต่ออกจากสมาธิโดยที่ไม่ออกตามลำดับ อย่างนี้ พอออกมาแล้ว อารมณ์ที่เราเข้าอยู่นั้นไม่ได้ถูกสลัดออกเสียก่อน ความนิ่งเฉยทั้งหลายจึงยังอยู่ พอนิ่งเฉยแบบนี้แล้ว มันก็ไม่อยากพูดกับใคร ไม่สนใจ ไม่ใส่ใจใคร อาจสนใจบ้างแต่อยู่ในระดับที่น้อยลงกว่าปกติ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    วีธีแก้ไข เมื่อจะออกจากสมาธิทุกครั้ง ต้องค่อยๆคลายสมาธิออกมา เมื่อรู้สึกว่าขยับตัวได้ก็ให้ลองขยับมือ แขน ขา ยกไหล่ หรือส่ายหน้าไปมา เพื่อให้กายรับรู้กับประสาทสัมผัสจากภายนอก<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ส่วนการกำหนดภายในใจ คือถอยลงมาขนาดที่ว่าจิตรู้ได้แล้วว่ารุ้สึกตัวได้ ให้กำหนดว่า ถอย, ถอย, ถอย, ไปเรื่อยๆ จนกว่าสติทั้งหมดจะมาอยู่ตรงหน้า แล้วค่อยๆลืมตาขึ้น กวาดลุกตาไปมาซ้ายขวา เพื่อรับรู้กับประสาทภายนอกอีกครั้งหนึ่ง<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    อาการทางจิต เมื่อแรกเริ่มใหม่ๆหัดเข้าได้แล้ว หลังจากนั้นก็ต้องหัดออกได้ด้วยเช่นกัน<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ไม่เสียหายหลายหรอก ได้ขนาดนี้ก็เก่งพอตัวแล้ว เอ้า ..เดินจิตต่อนะครับ เอาใจช่วย เก่งแล้วๆ
    <O:p</O:p
    เจริญธรรมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2011
  3. chayong27

    chayong27 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +76
    ขอบคุณมากคับผม จะตั้งใจปฏิบัติต่อไปคับ
     
  4. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    หลังออกจากสมาธิ

    หลังจากออกจากสมาธิ ตอนนี้กาย วาจา ใจ เราสงบระงับ ให้เราตั้งจิตใจไว้ในทางกุศล แผ่เมตตา และทำดี ทำกับคนที่เราอยากจะให้บุญ ปันบุญให้ใครก็ได้ที่เราอยากจะแบ่งบุญให้ อาจจะไม่ต้องบอกเขาตรงๆ แต่เรารู้แล้วเราก็ทำความดี หลังจากออกจากสมาธิ...
     
  5. เกลี่ยง

    เกลี่ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +428
    โมทนา สาธุกับ คำถาม จขกท และ คำตอบ ของคุณ ธรรมภัฎ
    เป็นประโยชน์ สำหรับผู้ฝึก
     
  6. fullner

    fullner เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    287
    ค่าพลัง:
    +239
    ใช่เลย...กลายเป็นคนขี้เกียจพูด..ตื้อๆบางทีคิดอะไรไม่ค่อยออก
    จำอะไรไม่ค่อยได้..หลังจากฝึกปล่อยวางด้วย...พอจะทบทวนเรื่องราวต่างๆ
    ที่เกิดกับตัวเอง แต่ก่อนจำได้ดีมาก..วันที่ เวลา เหตุการณ์ยังจำได้..แต่ตอนนี้ไม่
    งง..มาก....ออกจากสมาธิ..นอกจากทางกายแล้ว..ต้องทำอะไรอีกบ้าง
     
  7. กิดากร

    กิดากร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    264
    ค่าพลัง:
    +1,046
    ต้องสำรวจจิตตัวเองว่า จิตยังง่วนอยู่กับการจับลมหายใจหรือเปล่า จิตต้องการแต่รักษาอารมณ์นั้นไว้เป็นสมบัติมีค่าที่สุด ไม่อยากให้หายไปไหน ถ้าจิตไม่สนใจต่ออะไรทั้งหมด หิวก็ไม่หิว ถึงหิวก็ไม่อยากกิน ปวดก็ไม่ปวด ถึงปวดก็ไม่สนใจ อยากก็ไม่อยาก ถึงอยากก็ไม่เอา นี่เป็นอาการของจิตทรงญาณ ( แบบอ่อน ) เป็นของดี จำอารมณ์นั้นไว้ นั่นเป็นอารมณ์ที่เราเอาชนะกิเลสได้แล้ว แต่อย่าเข้าใจผิดว่าเป็นพระโสดาบัน เพราะยังรักษาอารมณ์ไม่ได้เป็นปรกติ ( ผมเคยเข้าใจผิดมาแล้ว ) เรียนรู้อารมณ์นั้น เวลาเกิดอีกจะได้ไม่สงสัย ถ้าคุณได้อารมณ์นี้ ถ้าฉลาดสักนิด ปัญญามันเกิดตอนนี้ ( จิตเป็นทิพ ) สงสัยอะไรให้ถามจิต ( บางคนเรียกว่าตัวรู้ ) คุณจะพบความมหัศจรรย์ว่า คำตอบที่ได้รับน่ะ เถียงไม่ออกเลยทีเดียว มันมีเหตุ มีผล สมบูรณ์หมดชนิดหายสงสัย มันเป็นวิปัสนาของมันเองปัญญามันเกิดด้วยกำลังของฌาณ

    นักปฏิบัติพึงระลึกเอาไว้ว่า จะเลือกฟังคำแนะนำจากใคร คนนั้นต้องได้มากกว่า ถ้าพบว่าภายหลังคุณได้เหมือนกับคนที่แนะนำคุณไว้ แสดงว่าคนนั้นเคยได้มาก่อนแล้ว ให้จำชื่อคนนั้นไว้ ภายหลังสงสัยอะไรก็คอยถามเขา ให้มีความฉลาดในการเลือกครู หรือผู้สอน

    ผมฟังแต่คำสอนของหลวงพ่อ และผมก็ได้ตามนั้น แสดงว่าท่านเคยได้มาก่อน ถึงรู้อารมณ์เดียวกันเพราะมันได้เหมือนกัน ( แต่อย่าคิดว่าผมเก่งเสียแล้วนะ เอาประสบการณ์มาเล่ากัน ) ผมก็ใช้วิธีเลือกครูแบบนี้แหล่ะ สำหรับผมมีหลวงพ่อเป็นครูคนเดียวพอแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ตุลาคม 2011
  8. อศูนย์น้อย

    อศูนย์น้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +495
    สาธุครับ ดูมันไป เดียวก็ เก็ต ^^ คำตอบด้านบนครายสงสัยแล้วครับ แต่ที่สำคัญกว่า
    คือ ความรู้ ความเข้าใจ ด้วยคนเอง เห็นถูก เห็นผิด รู้อะไรควร อะไรไม่ควร
    ดูเพื่อพิจรณา แล้วมันก็หลุดไปเอง อย่าดูเพื่อเพิ่งพูลเขาตน เป็นไช้ได้ อนุโมทนาด้วยครับ ...
     
  9. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    อนุโมทนาสาธุกับทุกท่านค่ะ ดูหนังหนึ่งเรื่องจบแล้ว ก็คือจบค่ะ เพราะมันจบไปแล้ว
     
  10. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    สมถะกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐานครับ ธรรมทั้งหลายสำเร็จได้ด้วยใจ.....
     
  11. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    สาเหตุมาจาก

    มาจากจิตที่ถูกปรุง จนสํารวม เป็นเนื้อเดียวกัน
    พอเวลาไหลผ่านไป มันก็ค่อยๆคลาย จน ถูกองค์ประกอบโดยรอบ ซึม เข้ามาทีละน้อย จนเป็นปกติ กลับมาพูดคุย เหมือนเดิม
     

แชร์หน้านี้

Loading...