ผีมีจริง...ตอนสร้างเมรุเผาศพเสร็จเพราะมีเว็บพลังจิตใช้งบเกือบล้าน(ป่าช้าโบราณ)

วันที่ทำรายการโอน: 24/10/2011 12:07:24 PM.
บัญชีผู้รับโอน: 258-0-07503-8
ธนาคารผู้รับโอน: KRUNG THAI BANK
ชื่อผู้รับโอน: พระจิรวัฒน์ ญาณวโร
จำนวนเงิน (บาท): 1500.00
ชื่อผู้โอน:

 

อีก 5ตารางเมตรเดี๋ยวโอนตามไปน่ะค่ะ พอดี จำผิด

 

วันที่ทำรายการโอน: 24/10/2011 12:17:16 PM.
บัญชีผู้รับโอน: 258-0-07503-8
ธนาคารผู้รับโอน: KRUNG THAI BANK
ชื่อผู้รับโอน: พระจิรวัฒน์ ญาณวโร
จำนวนเงิน (บาท): 750.00

 

...ผมโอนเงินบริจาคให้เรียบร้อยแล้วนะครับเมื่อ 15.54 น. 24 ต.ค.54
...13 ต.ร.ม. 1,950.- บาท
...ฐานวัฒน์ สุระพิพิธ

 

ความคืบหน้าของงานบุญเทคอนกรีตรอบเมรุสร้างใหม่ วันนี้ชาวบ้านมาช่วยกันอาตมาเห็นเเล้วก็ปิติในใจ งานบุญสร้างเมรเผาศพเป็นงานสาธารณกุศล คนทุกคนล้วนมีสิทธิ์ใช้เสมอกัน เพราะเมรุนั้นเป็นที่สุดท้ายหรือที่นอนอันเเสนอบอุ่น ที่ไม่มีใครอยากจะนอน...หรือหากจะต้องไปขอให้ไปให้ช้าที่สุด จึกเรียกขานกันว่า ''ป่าช้า''
ขอให้ไปช้าที่สุดนั้นเอง การทำบุญเกี่ยวกับศพนั้นได้อานิสงส์มาก ไม่ว่าจะเป็นบริจาคโลงศพ ช่วยเผาศพไร้ญาติ ล้างป่าช้า เป็นต้นคนมีบุญมีวาสนาเท่านั้น จึงจะเข้าใจบุญในข้อนี้ อาตมาภาพ
ขอขอบคุญคุณโยม nahpee เเละคุณโยมsamaice เเละท่านอื่นๆที่ร่วมบุญกับทางวัดป่าบ้านหนองผักเเว่น ขอบุญกุศลจงหนุนส่ง ให้คุณโยมเจริญยิ่งๆขึ้นไปทั้งทางโลกเเละทางธรรม ตราบเข้าถึงซึ้งพระนิพพานเทอญ สาธุๆ

 

เล่าบรรยากาศที่ได้ดูการเทคอนกรีตรอบเมรุครับ ผมมาร่วมงานกฐินวัดป่าหนองผักแว่นและ
อยู่มาได้วันที่ 6 คืนนี้คืนสุด้าย พรุ่งนี้จะกลับกรุงเทพครับ อยากเล่าความประทับใจที่ได้
อยู่ที่นี่นะครับ อย่างแรกทราบมาว่างบเทคอนกรีตยังมีไม่มาก หลวงปู่เลยให้ชาวบ้านมา
ช่วยกันทำแทนการจ้างเขาทำให้นะครับ ก็แปลกใจเลยเวลาเห็นชาวบ้านร่วมมือร่วมใจกัน
ปรับพื้นที่และเทคอนกรีตเสร็จตามที่วางแผนไว้เร็วมากๆ และชาวบ้านไม่ได้เรียกร้องค่า
แรงเลย เรียกได้ว่ามาทำด้วยศรัทธาจริงนะครับ อย่างคุณอาที่เห็นในรูปทำงานทั้งวันเลย
ได้พักตอนใกล้เสร็จแล้ว เห็นแล้วก็คิดว่าชาวบ้านหนองผักแว่นศรัทธาหลวงปู่มากจริงๆ
แล้วยังมีศรัทธาในพุทธศาสนาอีกด้วยครับ เห็นแล้วก็ชื่นใจอนุโมทนากับพวกชาวบ้านด้วย
ครับ

 

เจริญพร อาตมาจำได้ว่าสมัยเป็นเด็กประถม แม่จะเล่านิทานให้ฟังก่อนนอนเสมอๆ
และหนึ่งในนิทานที่ฟังบ่อยๆก็คือเรื่อง ผีก่องก่อย ..
ผีก่องก่อยเป็นผีป่าชนิดหนึ่ง มักอาศัยอยู่ในป่าทึบรกชัด และออกหากินเวลาดึกดื่นเที่ยงคืน
เพราะเป็นช่วงเวลาที่เงียบสงบ และปราศจากผู้คน อีกทั้งอาหารก็หาง่าย
อาหารของมันก็คือ ปลา กบ เขียด กุ้ง หอย(ดิบๆ) หากหาไม่ได้ ก็จะกิน หมา แมว และไปลักเป็ด ไก่​

ของชาวบ้านมากิน หรือ กินแม้กระทั่งเด็กเล็กๆ
ลักษณะของผีก่องก่อยจะเหมือนกับคนทุกอย่าง จะต่างก็ตรงรูปร่างเล็กผอม ใบหน้าลีบแหลม
และส้นเท้าหันไปข้างหน้า ปลายเท้าจะหันไปข้างหลัง รอยเท้าจึงเหมือนกับคนเดินกลับหลัง
เวลาออกหากินดึกๆ มันจะส่งเสียงร้องว่า " ก่องก่อย ก่องก่อย"
เมื่อหิวมากๆ จะร้องว่า "ก่องก่อย ก่องก่อย ก๊อก"
เสียง"ก๊อก" ที่ลงท้ายเป็นสัญญาณบอกว่า มันหิวสุดขีด
เวลาพูด มันจะพูดตรงข้ามกับสิ่งที่มันต้องการสื่อความหมาย เช่น ขาว จะหมายถึง ดำ
จะไปแป๊ปเดียว ก็หมายถึงจะไปนานมาก
มันจะมีฤทธิ์เดชหลายอย่าง เช่น วิ่งได้เร็วดั่งสายลม มีพละกำลังแข็งเเร็งมาก
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีพี่น้องอยู่สองคน มีอาชีพทำนา
เมื่อหน้าแล้งมาเยื่อน ก็ทำนาไม่ได้ ผู้เป็นพี่ชายจึงได้ไปหาปลาในห้วย ซึ่งอยู่ไกลออกไป
ทุกๆเช้าเขาจะไปกู้ลอบ ที่ดักปลาไว้
วันหนึ่งเขาไปกู้ลอบตามปกติ แต่ปรากฏว่า ไม่มีปลาเลยสักตัว
ซึ่งปกติแล้ว จะต้องมีปลาติดอยู่ตัวหรือสองตัว เขาคิดว่าจะต้องมีคนมาขโมยปลาเขาแน่ๆ
คิดดังนั้นเขาจึงเดินสำรวจบริเวณรอบๆ แล้วเขาก็พบรอยคนเท้าเล็กๆ ซึ่งไม่น่าจะยาวเกิน 3 นิ้ว
"ในโลกนี้คือสิมีคนตีนน้อยแนว(แบบ)นี้" เขาคิดในใจ
ถ้าเป็นตีนเด็กน้อย ขนาดนี้ก็ยังย่าง(เดิน)บ่ทันเป็น" คิดแล้วเขาก็เอาลอบลงน้ำตามเดิม
วันรุ่งขึ้น ก็เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก มันทำให้เขาโมโห และคิดว่าต้องจับให้ได้ว่าใครเป็นคนขโมย
คิดดังนั้น เขาจึงไปแอบคอยดักดูอยู่พุ่มไม้ใกล้ๆกับลอบดักปลาทั้งคืน เขาอดตาหลับขับตานอน
หลับๆตื่นๆ จนเวลาล่วงมาใกล้รุ่งสาง .. เขาก็ได้ยินเสียง คล้ายกับคนเดินมาเบาๆ
แล้วเขาก็ได้เห็น ผีก่องก่อยยืนอยู่ริมตลิ่ง มันเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆผมยาวเหมือนแม่มด
ไม่สวมเสื้อผ้า ยืนเปลือยกายอยู่ตรงหน้า และทำท่ากำลังจะขโมยปลาของเขา
ความโกธรทำให้เขาลืมตัว ระเบิดโทสะออกไป
" กูสิสับมึงให้แหลกปานลาบพู้นล่ะ อีขี่ลัก" เขาตะโกนออกไปพร้อมกับกระโจนออกจากที่ซ่อน
ถึงแม้ว่าเขาจะแข็งแรงมากแต่ก็ไม่สามารถจับตัวผีก่องก่อยได้
ในที่สุด เขาเองกลับเป็นฝ่ายที่ถูกผีก่องก่อยจับตัวไปขังไว้ที่ถ้ำของมัน
พร้อมกับบังคับให้เขาเป็นผัว
และทุกครั้งที่ผีก่องก่อยออกไปหากิน มันจะเอาหินก้อนใหญ่มาปิดปากถ้ำไว้
หนึ่งปีผ่านไป เขาก็มีลูกชายกับผีก่องก่อย 1 คน เขามีหน้าที่เลี้ยงลูกยามที่ผีก่องก่อยไม่อยู่
และเขาต้องอยู่แบบนี้นานถึง 3 ปี
อยู่มาวันหนึ่ง ลูกชายของเขาได้พยายามดันก้อนหินออกจากหน้าถ้ำ
ด้วยพละกำลังที่ได้มาจากแม่ผู้เป็นผีก่องก่อย ทำให้เด็กน้อยสามารถเปิดปากถ้ำให้ผู้เป็นพ่อ
หลบหนีออกไปได้
พอปากถ้ำเปิด เขาก็รีบวิ่งกลับบ้านอย่างสุดชีวิต ...ถึงเขาจะวิ่งได้เร็วแค่ไหน
แต่ก็ยังช้ากว่าผีก่องก่อย ทันทีที่ผีก่องก่อยรู้ว่าเขาหนีไป มันก็รีบวิ่งตามมาติดๆ
เขาวิ่งจะถึงหมู่บ้านอยู่แล้ว ...ช้าไปเสียแล้ว ผีก่องก่อยวิ่งตามเขาทัน..
เมื่อรู้ตัวว่าไม่พ้นเงื้อมือมัน เขาจึงรีบล้มตัวลงนอน แกล้งตายอยู่ตรงนั้น
เมื่อผีก่องก่อยมาถึงตัวเขา มันก็เดินวนรอบตัวเขา พร้อมกับเอามือจั๊กจี้เอวเขาดู
เขาเป็นคนที่มีความอดทน ไม่บ้าจี้ จึงนอนแน่นิ่งอยู่อย่างนั้น
พร้อมกันนั้นเขาก็ค่อยๆผายลม(ตด) ออกมาอย่างแผ่วเบา กลิ่นเหม็นจากตดของเขาตลบอบอวนไปทั่ว
ผีก่องก่อยเห็นดังนั้นก็ร้องไห้เศร้าโสกเสียใจด้วยความอาลัยรัก เมื่อมั่นใจแน่ว่าเขาตายแล้วจริงๆ
มันจึงเอาฆ้องวิเศษให้เขา 1 อัน พร้อมกับบอกว่า
"เมื่อเจ้าต้องการหยัง ก็ให้ตีฆ้องเทื่อหนึ่ง"
พอผีก่องก่อยลับตาไปแล้วชายหนุ่มก็รับเข้าบ้าน กลับมาแล้วความเป็นอยู่ของเขาก็ดีขึ้น
เพราะว่าอยากได้อะไรก็แค่ตีฆ้องวิเศษ เมื่อน้องชายเห็นดังนั้นก็อยากได้บ้าง
จึงได้ถามว่า เขาได้มันมายังไง และหายไปไหนมาตั้ง 3 ปี
เขาจึงเล่าให้น้องชายฟังอย่างละเอียด เมื่อน้องชายเขาฟังจบก็พูดว่า
"ข้อยก็อยากรวยคือกัน"
เมื่อน้องชายเขาคิดดังนี้แล้วจึงได้ออกไปหาผีก่องก่อยให้ผีก่องก่อยจับตัวไป
แล้วก็หนีกลับมา แต่เขาโชคไม่ดีเหมือนพี่ชายเขาเพราะ
เขาไม่สามารถอดกลั้นเสียงหัวเราะไว้ได้ ตอนที่เขาโดนผีก่องก่อยจั๊กจี้ที่เอวนั้น
เขาก็หัวเราะชักดิ้นชักงอ....ผีก่องก่อยจึงรู้ว่าเขาไม่ได้ตาย
มันจึงเอามือจก(ล้วง)กินตับไตใส้พุงของเขาจนหมดเกลี้ยง ...

(วันนี้ ถ้าสมมุติว่าอาตมามีฆ้องวิเศษ) อาตมาจะตีให้นำลดทันที ญาติโยมพี่น้องชาวไทย จะได้หมดทุกข์ คุณโยมท่านใด อ่านถึงตรงนี้ เเล้ว อย่าลืมเเบ่งปันน้ำใจ ช่วยเหลือผู้ประสบภัย น้ำท้วม ใกล้ที่ใด...บริจาคที่นั้น อนุโมทนาสาธุๆ<!-- google_ad_section_end -->
พระจิรวัฒน์ ญาณวโร
โทร 0872365287

 

...เคยได้อ่านเหมือนกันครับ "ผีกองกอย" เหมือนที่ ท่านพระอาจารย์เล่าครับ
...น้ำท่วมผมบริจาคเข้ามูลนิธิของในหลวงฯ ส่ง sms ผ่านมือถือของ trues สะดวกและมั่นใจ ในหลวงทรงห่วงพสกนิกรของท่านมาทั้งชีวิตครับ
...ผมชอบวิถีวัดป่าในที่ห่างไกล รู้สึกชาวบ้านชุมชนรอบวัด
...เขามักเสียสละด้วยแรงกายและแรงใจด้วยความศรัทธากันจริงๆ

...คุณ bluebaby2 จะกลับเข้า กทม.แล้วหรือครับ
...ขอให้เดินทางปลอดภัย
...ชาว กทม.กำลังตระหนกตกใจกับภัยธรรมชาติที่ไม่ธรรมดาในปีนี้
...แต่ถ้าอ่านพระกรรมฐานเตือนภัยตั้งแต่ปี49 ค่อนข้างใกล้เคียงความจริงมาก
...ทางเดียวคือรีบทำความดี รักษาศีล๕ให้ครบ จะไม่ค่อยตระหนกตกใจกับเขาสักเท่าไร
...อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดไม่มีอะไรไปห้ามได้โดยเฉพาะถ้าธรรมชาติเขาพิโรธขึ้นมาครับ

 

วันนี้กลับกรุงเทพแล้วครับคุณน้าพี จากมุมมองของพระอาจารย์เรื่องน้ำท่วมใหญ่พระ
อาจารย์มองว่ามีคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่คำรพในหลวงทำให้เทพเทวดาท่านลงโทษ พระอาจารย์
เทียบเคียงกับกรณีที่พระพุทธเจ้าเผชิญกับพญามาร แล้วมีเทพคือพระแม่ธรณีบีบมวยผมทำ
ให้น้ำท่วมเหล่ามารร้ายไปแบบนี้ครับ โดยส่วนตัวไม่ได้ติ่นตระหนกอะไร และหลวงปู่ยัง
บอกมาด้วยครับว่าปีหน้าท่วมหนักกว่านี้อีกครับ

 

โอนเงินร่วมบุญถมดินวัดแล้ว 440บาท เช้านี้ค่ะ ประมาณ 08.03น.
วาทินี ราชบุรี

 

:boo:

อนุโมทนาสาธุคุณโยม วาทินี จากจังหวัดราชบุรี ขอให้คุณโยมเจริญด้วยอายุวรรณะ สุขะ พละตลอดกาลนานเทอญ ช่วงเช้านี้ อาตมากำลังเทปูนรอบเมรุพร้อมชาวบ้าน บ่ายๆจะถ่ายรูปมาลงให้ร่วมอนุโมทนาบุญ ในการนี้อาตมาขอฝากกระทู้คุณโยมน้าพี คุณโยมปริมนทร์29เเละท่านอื่นด้วย ใครอยากเขียนอะไรก็ได้ เกี่ยวกับธรรมะหรือเรื่องอื่นๆเชิญเขียนตามสะดวกเลย...
พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

 

...สิ่งที่ ปชช. คนไทยส่วนใหญ่ยังเพลินกับกิเลสที่เขามายื่นให้ฟรีๆ
...โดยไม่สนใจว่าสิ่งที่ได้มานั้นจะมาด้วยความถูกต้องหรือไม่ถูกต้องฉันได้ฉันเอาทั้งนั้น
...มนุษย์มีแต่ความโลภและเห็นแก่ตัวชัดเจนมากไม่เฉพาะในประเทศไทยแต่ทั่วโลก
...ที่น่าเสียใจคือ ประเทศไทยคือดินแดนแห่งพุทธศาสนา แต่ กลับพอกพูนกิเลสไว้กันจนหนา
...ประเทศไทยเป็นแผ่นดินที่พระมหากษัตริย์ทรงปกป้องชาติบ้านเมืองมาจนทุกวันนี้เกิดความเจริญในด้านทรัพยากรมีทุกอย่างจนคนทั่วโลกอิจฉา
...คนไทยไม่ค่อยสนใจประวัติศาสตร์ความเป็นรากเง่าของเชื้อชาติที่ไม่เหมือนใคร
...จึงริอาจปรามาสพระเจ้าอยู่หัวฯทั้งๆที่ทั่วโลกเขาให้การยกย่องย่องว่าเป็นกษัตริย์ที่ทรงธรรมของโลก
...นอกจากนั้นยังไม่สนใจแก่นแท้ของพุทธศาสนามีแต่เปลือกๆมุ่งหวังเรื่องโชคลาภความรวย และกิเลสทุกชนิดที่ยื่นให้
...ไม่เชื่อกฎแห่งกรรม ไม่เชื่อบาปบุญคุณโทษและสิ่งศักดิ์สิทธิ์เทวดาเบื้องบนที่ปกปักษ์รักษาผืนแผ่นดินไทย
...พระเจ้าอยู่หัวฯท่านเปรียบเสมือนเทวะสมมุติที่ลงมาดูแลทุกข์สุข ปชช. ของท่าน
...เคยอ่านในตำรา ก็คือ พระสยามเทวาธิราช ในแต่ละยุคสมัย เช่นเดียวกับพระพุทธเจ้าที่มีหลายพระองค์กว่าจะมาถึงองค์ปัจจุบัน
...นี่คือความพิโรธของพระแม่คงคา ที่แสดงให้ คนไทยบางกลุ่มได้สำนึกเป็นการล้างบาปให้แผ่นดินสะอาดขึ้น
...ใครยังรู้สึกว่าเป็นเพียง ภัยธรรมชาติทั่วๆไปก็ไม่เป็นไร เพราะเดี๋ยวนี้ความชั่วเหนือความดีและกลายเป็นสิ่งที่สังคมส่วนใหญ่ยอมรับ
...สำหรับผมคงได้แต่นั่งพิจารณาเหตุการณ์บ้านเมืองต่อไปว่าจะลงเอยอย่างไร
...แต่หลังน้ำลดคนเหล่านี้ก็ยังไม่สำนึกเช่นเดิม เพราะคนไทยลืมอะไรง่ายๆพอสบายก็เพลินกับกิเลสเช่นเดิม
...ได้ข่าวว่าปี 2556 จะมีเหตุการณ์แบบจัดหนักยิ่งกว่าปีนี้เสียอีกนี่แค่การเตือนเพื่อสั่งสอน
...สำหรับตนเอง พยายามรักษาศีล๕ ให้ครบ ปฏิบัติภาวนา ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้สรรพสัตว์ทุกชีวิต
...มีหนทางเข้าถึงนิพพานได้ชาตินี้ยินดีปฏิบัติ เห็นแล้วการเกิดเป็นอย่างไร ทุกข์ทั้งนั้นนอกนั้นสุขปลอมๆ
...ที่สำคัญ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดไม่ตระหนกตกใจไปตามกระแสสังคมเพราะยึดมั่นในพระรัตนตรัยซะแล้วครับ

 

พระอาจารย์ จิรรัฒน์ ฝากขอบคุณโยมน้าพีที่ช่วยดูแลกระทู้

อาตมาหวั่นใจว่าปีหน้าน้ำจะท่วมหนักกว่านี้ถ้าคนไทยยังทะเลาะกันและไม่เทิดทูนในหลวงและสถาบันกษัตริย์ อาตมาอยากฟังความคิดเห็นของญาติโยมที่ติดตามกระทู้ของอาตมาอยู่ว่ามีความคิดเห็นอย่างไรกับเหตุการณ์ปัจจุบัน เราจะสังเกตว่าตั้งแต่เกิดคลื่นสึนามิ และมีแผ่นดินไหวที่ประเทศไทยและพม่าเป็นสัญญาณเตือนจากธรรมชาติว่ามนุษย์บนโลกนี้จะมัวแต่เพลิดเพลินกับกิเลศ ตัณหา ราคะไม่ได้แล้ว พระอริยสงฆ์หลายรูปได้เตือนล่วงหน้ามาหลายปีแล้วแต่หลายคนยังประมาทอยู่ ยกตัวอย่างหลวงปู่สรวงเทวดาเล่นดินท่านก็เคยพูดไว้เมื่อหลายปีก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ภายในไม่ช้านี้แต่หลายคนไม่เชื่อ วันนี้ยังไม่สายที่ทุกคนจะหันหน้าเข้าวัด ฟังธรรม ปฏิบัติธรรมและเชื่อในคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ท่านทรงตรัสสอนไว้ว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ชีวิตที่เหลืออยู่อาตมาอยากเห็นชาวพุทธของเราเข้าถึงแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคือการปฏิบัติบูชา มีศีล สมาธิ ปัญญาเป็นเบื้องต้น แล้วนำมาปฏิบัติจริงอย่างสม่ำเสมอเช่นการไหว้พระสวดมนต์และนั่งสมาธิ อาตมาเชื่อว่าด้วยพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพจะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาในอุทกภัยครั้งต่อๆ ไป อาตมาเชื่อว่าต้องเกิดอีกอย่างแน่นอน....

 

ความคืบหน้าในการเทคอนกรีตรอบเมรุสร้างใหม่วัดป่าหนองผักแว่นจังหวัดร้อยเอ็ด

 

...อนุโมทนาบุญกับการเทคอนกรีตรอบเมรุฯ เลยครับ
...เห็นผลงานแล้วตามภาษาชาวบ้าน คือ ชื่นใจครับ ท่านพระอาจารย์
...แค่เพียงไม่กี่วันใกล้จะสำเร็จแล้ว สุดยอดเลยครับ

...ผมต้องอนุโมทนาสาธุ กับท่านพระอาจารย์ที่เปิดประเด็นเรื่องผีๆไว้มากกว่าครับ
...ทำให้ผมได้มีโอกาสมารู้จัก ท่านพระอาจารย์ หลวงปู่ดี และสัมภเวสี ณ วัดป่าหนองผักแว่น
..ได้เข้าใจอะไรแบบผีๆมากขึ้นกว่าเก่าและคงอยู่ร่วมกันในมิติได้อย่างไม่ต้องรู้สึกหวาดกลัว
...จะได้อุทิศส่วนกุศลผลบุญให้เขาเหล่านั้นสบายขึ้นเท่าที่ความดีและบุญที่เรามีอยู่สามารถส่งไปถึงเขาได้ครับ
...ที่สำคัญได้มีโอกาสร่วมทำบุญกับทางวัด เพราะวัดกำลังเดือดร้อนจริงๆ
...ผมก็พยายามจะเข้ามาสนทนาธรรมและชมความคืบหน้าผลงานของ ท่านพระอาจารย์ครับ
...ช่วงนี้ก็เข้ามาดูทุกวันครับ

***รูป 2 รูปนี้หลังจากผมร่วมทำบุญใหญ่ที่วัดป่าภูก้อน ลงมาตอนเย็นพักแถวริมน้ำโขง อ.สังคม จ.หนองคาย จะเป็นควันธรรมดาๆก็ดูจะแปลกทำไมจึงลอยต่ำเลียบเหนือผิวน้ำ ดูไปดูมาเหมือนพญานาคมาโมทนาบุญหรือเปล่าไม่ทราบครับ?????

 

กราบนมัสการพระคุณเจ้า และทุกท่านที่อยู่ในกระทู้นี้ค่ะ และก็ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านและวัดที่กำลังเร่งสร้าง เมรุด้วยคนค่ะ ดิฉันหายจากหน้าเวบบอร์ดนี้ไปหลายวันคิดถึงมากเลยค่ะ อันเนื่องมาจากเน็ตใช้ไม่ได้ แต่ในใจก็ยังนึกถึงอยุ่ตลอด เมื่อคืนก็ฝันเห็นพระสงฆ์ แต่ในนั้นไม่มีพระอาจารย์ค่ะ สงสัยดิฉันคงคิดถึงคำพูดและหน้าตาของพระอาจารย์เกินไป เมื่อได้เข้ามาอ่าน หลายวันที่ผ่านมา เห็นผู้คนเขัามาโพสเยอะขึ้น และมีผู้ร่วมบริจาคเยอะขึ้นด้วย ดีใจค่ะ ที่คนไทยยังคงให้ความเคารพและบูชาพระพุทธศาสนาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนเรื่องของน้ำท่วม อย่างที่ทุกท่านได้อ่านในพทธทำนายตรงกันค่ะ มีทุกอย่าง ทั้งแผ่นดินไหว น้ำท่วม สึนามิ และที่สำคัญ คนฆ่ากันเอง โดยไม่มีใครห้ามกันได้เลย ทุกคนต้องทุกข์นัก ไม่รู้เพราะอะไร ไม่เข้าใจกับมนุษย์นี้เอาสะเลย สำหรับดิฉัน แก่งแย่งชิงดี กัน เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ โดยไม่สนใจความเดือนร้อนของคนหมู่มาก พูดมาแล้วเศร้าใจ สำหรับดิฉันแล้ว พระพุทธ พระธรม พระสงฆ์ คือที่พึ่งทางใจ ถึงแม้ตอนนี้ดิฉันยังปฏิบัติไม่สำเร็จ แต่ก็มีความตั้งมั่นและตั้งใจ หวังว่าดิฉันคงจะทำได้ไม่มากก็น้อย ฌเยส่วนตัวแล้ว ดิฉันไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับใครที่คิดคดหรือลบหลู่องค์พระมหากษัติ องค์เป็นประมุขของประเทศ แต่ดิฉัน เคารพและเทิดทูล องค์พระมหากษัติหาที่สุดไม่ได้ เพราะพระองค์ทรงห่วงใย และทำเพื่อประชาชนจริงๆ เรื่องของคนที่คิดไม่ดีกับพระองค์ ก็คงต้องได้รับผลกรรมเองในไม่ช้า เหมือนกับที่คุณ nahpee ว่าแหล่ะค่ะ เมื่อน้ำลด คนพวกนั้นก็คงกลับมาเป็นอีกเหมือนเดิม เพราะคำว่าไม่รู้จักสำนึก
ขออนุโมทนา กับหลวงพี่และทุกๆท่านค่ะ

 

จะเล่าประสบการณ์แปลกที่เคยเจอตอนเรียนลูกเสือ ตอนนั้นนั่งทำกิจกรรม
อยู่ด้านนอกอาคารเรียน มีตั้งแต่ชั้น ม.1-ม.3 ส่วมผมอยู่ ม.2 ในคาบลูกเสือ
จะต้องใช้ไม้ง่ามซึ่งเป็นไม้สีแดงๆ มีสองง่าม เอาไว้ทำกิจจกรรมนะครับ โดย
จะเอามาจากห้องเก็บอุปกรณ์ลูกเสือซึ่งเป็นของเก่าที่ผ่านมาหลายรุ่นแล้ว
ส่วนผมก็เลือกมาอันหนึ่ง พอเรียนคาบลูกเสือมีคนนั่งอยู่หลังผม 2 คน และมี
พี่ ม.3 นั่งข้างๆ ติดกับผมเลย เรียนไปซักพักก็รู้สึกว่าไม่ง่ามมันขยับไปมาน่า
รำคาญ ในใจก็คิดว่าเพื่อนแกล้งอีกแล้ว ก็หันไปต่อว่าเพื่อน แต่เพื่อนบอกว่า
ตนไม่ได้ทำ ผมก็ไม่เชื่อจองอยู่เพื่อจับให้ได้คาหนังคาเขา คือไม้ง่ามมันจะ
ขยับเป็นช่วงพอมันเริ่มขยับผมก็จับไม้ง่ามแล้วหันไปหาเพื่อนทันทีแต่ต้องตก
ใจจนทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นว่าเพื่อนไม่ได้จับไม้ง่ามเลยแม้แต่น้อย นั่งฟังอย่าง
ไม่สนใจเลย แต่ไม้ง่ามที่ผมจับอยู่มันเขย่าของมันเอง ตอนนั้นเริ่มหน้าถอดสี
แล้วครับ เลยบอกกับรุ่นพี่ ม.3 ที่นั่งด้านข้าง เขาก็ไม่เชื่อ ผมเลยบอกให้เขา
จับไม้ง่ามนี้ดูมันก็ขยับเองจริง ผมกับพี่คนนั้นก็ได้แต่มองหน้ากันอย่างงงๆ ไม่
รู้จะพูดอะไร พอเขาปล่อยให้พักก็ไปคุยกับพี่คนนั้นเขาบอกว่าเขาเห็นไม้ง่าม
ลอยขึ้นมาจากพื้นเลยครับ ผมคิดว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับวิญญาณของเจ้าของ
ไม้ง่ามคนเดิมหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ จนวันนี้ก็ยังไม่ได้คำตอบแต่ก็เป็นประสบ
การณ์ที่แปลกดีครับ

เอารูปที่หลวงปู่ดีถ่ายติดจากหน้าต่างเครื่องบินกับรูปจากหนังสืองานศพหลวงตามหาบัวมาให้ดูครับ

 

พอดีอ่านเจอครับเลยเอามาให้พระอาจารย์ดูครับ