ขอเชิญร่วมสร้างพระพุทธโสธรหล่อด้วยโลหะเงินหน้าตัก5นิ้ว

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย มุ่งเต็มใจ, 21 กันยายน 2011.

  1. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
    ขอเชิญร่วมบุญกุศลสร้างพระพุทธโสธรหล่อด้วยโลหะเงินหน้าตัก5นิ้ว
    ตั้งใจกำหนดประดิษฐาน ณ วัดสระพัง กำแพงแสน นครปฐม
    สร้างตามคำแนะนำของหลวงปู่ฤาษีเกตุแก้วครับ

    บัญชีธนาคารดังนี้ครับ
    ธนาคารกรุงไทย
    เลขที่บัญชีออมทรัพย์ 066-0-05697-6
    นายกุศลมงคล สุวรรณกูฏ
     
  2. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
    [​IMG]

    หลวงพ่อโสธร หรือ หลวงพ่อพระพุทธโสธร เป็นพระพุทธรูปสำคัญของจังหวัดฉะเชิงเทรา ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถวัดโสธรวรารามวรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นพระพุทธรูปที่หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้างประมาณ 1 ศอกเศษ ปางขัดสมาธิเพชร แต่ได้เสริมแต่งขึ้นจากเดิมโดยพอกปูน ลงรักปิดทองให้เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 3 ศอก 5 นิ้ว พระเนตรเนื้อเลียนแบบพระสมัยล้านช้าง หรือที่เรียกว่า ”พระลาว” ได้บูรณะหรือสร้างขึ้นในปลายกรุงศรีอยุธยา หรือต้นสมัยรัตนโกสินทร์

    พระพุทธโสธร - วิกิพีเดีย
     
  3. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,255
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
    กับทุกท่านที่ได้ร่วมกันทำบุญสร้าง
    พระพุทธโสธรเนื้อโลหะเงินและทำบุญ
    สร้างกุศลทุกอย่างที่วัดแห่งนี้ด้วยครับ
    นิพพานัง ปรมัง สุขขัง
    นิพพานัง ปัจจโย โหตุ
     
  4. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
    ในอังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต จตุตถปัณณาสก์ อาฆาตวรรค อาฆาตวินยสูตรที่ ๒
    พระสารีบุตรท่านให้จำแนกคนที่ไม่พึงอาฆาตไว้ ๕ จำพวก

    ๑.คนที่ทำตัวไม่ดีแต่มีวาจาบริสุทธิ์
    ให้ระงับความอาฆาตในบุคคลนั้นเหมือนอย่างว่า ภิกษุผู้ถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตร
    เห็นผ้าเก่าที่ถนน เหยียบให้มั่นด้วยเท้าซ้าย เขี่ยออกดูด้วยเท้าขวา ส่วนใด
    เป็นสาระ ก็เลือกถือเอาส่วนนั้นแล้วหลีกไป

    ๒.คนที่วาจาไม่บริสุทธิ์แต่ประพฤติตนดี
    ให้ระงับความอาฆาตในบุคคลนั้นเหมือนอย่างว่า สระน้ำที่ถูกสาหร่ายและแหนคลุมไว้
    บุรุษผู้เดินทางร้อนอบอ้าว เหนื่อยอ่อน ระหายน้ำ เขาลงสู่สระน้ำนั้น แหวกสาหร่ายและแหน
    ด้วยมือทั้งสองแล้ว กอบน้ำขึ้นดื่มแล้วพึงไป

    ๓.คนที่ประพฤติตัวไม่ดี วาจาไม่บริสุทธิ์ แต่มีความสงบทางใจ ได้ความเลื่อมใสโดยกาลอันสมควร
    ให้ระงับความอาฆาตในบุคคลนั้นเหมือนอย่างว่า น้ำเล็กน้อยมีอยู่ในรอยโค
    บุรุษผู้เดินทางร้อนอบอ้าว เหนื่อยอ่อน ระหายน้ำ เขาพึงเกิดความคิดอย่าง
    นี้ว่า น้ำเล็กน้อยมีอยู่ในรอยโคนี้ ถ้าเราจักกอบขึ้นดื่มหรือใช้ภาชนะตักขึ้นดื่มไซร้
    เราก็จักทำน้ำนั้นให้ไหวบ้าง ให้ขุ่นบ้าง ให้ไม่เป็นที่ควรดื่มบ้าง ถ้ากระไรเรา
    พึงคุกเข่าก้มลงดื่มอย่างโคดื่มน้ำแล้วหลีกไปเถิด เขาคุกเข่าก้มลงดื่มน้ำอย่างโคดื่ม น้ำแล้วไป

    ๔.คนที่ประพฤติตัวไม่ดี วาจาไม่บริสุทธิ์ ไม่มีความสงาบทางใจ ไม่ได้ความเลื่อมใสโดยกาลอันสมควร
    ให้ระงับความ อาฆาตในบุคคลนั้นเหมือนอย่างว่า มีบุรุษป่วยทุรนทุราย เป็นไข้หนัก
    เดินทางมาแต่ไกล จะไปข้างหน้าก็มีบ้านอยู่ไกล จะไปข้างหลังเขาก็มีบ้านอยู่ไกล
    คงจะไม่ได้กินข้าวปลาที่ถูกโรค ไม่ได้ทานยา ไม่มีคนพยาบาล มีบางคนเดินผ่านมาก็เกิดความกรุณา
    อยากอนุเคราะห์ว่า โอ คนๆนี้น่าจะได้ทานอาหารดีๆ มียาทาน มีคนรักษาพยาบาลและมีคนพากลับบ้าน
    อย่าได้มาพินาศฉิบหายแถวนี้เลย

    ๕. ผู้มีความประพฤติทางกาย บริสุทธิ์ เป็นผู้มีความประพฤติทางวาจาบริสุทธิ์ และย่อมได้ทางสงบใจ
    ย่อมได้ความเลื่อมใสโดยกาลอันสมควร
    ให้ระงับความอาฆาตในบุคคลนั้นเหมือนอย่างว่า สระน้ำที่มีน้ำใส มีน้ำอร่อยดี มีน้ำเย็น
    มีน้ำขาว มีท่าน้ำราบเรียบ น่ารื่นรมย์ดาระดาดไปด้วยต้นไม้พันธุ์ต่างๆ บุคคลผู้
    เดินทางร้อนอบอ้าว เหนื่อย อ่อน ระหายน้ำ เขาพึงลงสู่สระน้ำนั้น อาบบ้าง
    ดื่มบ้าง แล้วขึ้นมานั่งบ้าง นอนบ้าง ที่ร่มไม้ใกล้สระน้ำนั้น

    ดิฉันลองจำแนกมาให้คุณอ่านง่ายๆให้หายอารมณ์หงุดหงิดเสียก่อน
    ทั้งนี้เพราะอ่านพุทธพจน์ของคุณ Quin
    แล้วเลยไล่ลงไปอ่านพระสูตรนี้แล้วประทับใจดี สงบใจได้แล้วลองอ่านพระสูตรนี้ดูนะคะ

    ๒. อาฆาตวินยสูตรที่ ๒
    [๑๖๒] ครั้งนั้น ท่านพระสารีบุตรได้เรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรอาวุโส
    ภิกษุเหล่านั้นรับคำท่านพระสารีบุตรแล้ว ท่านพระสารีบุตรได้กล่าวว่า ดูกรอาวุโส
    ทั้งหลาย ธรรมเป็นที่ระงับความอาฆาต ซึ่งเกิดขึ้นแก่ภิกษุโดยประการทั้งปวง
    ๕ ประการนี้ ๕ ประการเป็นไฉน คือ บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มีความ
    ประพฤติทางกายไม่บริสุทธิ์ (แต่) เป็นผู้มีความประพฤติทางวาจาบริสุทธิ์ ภิกษุ
    พึงระงับความอาฆาตในบุคคลแม้เช่นนี้ อนึ่ง บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มีความ
    ประพฤติทางวาจาไม่บริสุทธิ์ (แต่) เป็นผู้มีความประพฤติทางกายบริสุทธิ์ ภิกษุ
    พึงระงับความอาฆาตในบุคคลแม้เช่นนี้ อนึ่ง บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มี
    ความประพฤติทางกายไม่บริสุทธิ์ เป็นผู้มีความประพฤติทางวาจาไม่บริสุทธิ์
    แต่ย่อมได้ทางสงบใจ ได้ความเลื่อมใสโดยกาลอันสมควร ภิกษุพึงระงับความ
    อาฆาตในบุคคลแม้เช่นนี้ อนึ่ง บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มีความประพฤติ
    ทางกายไม่บริสุทธิ์ เป็นผู้มีความประพฤติทางวาจาไม่บริสุทธิ์ และย่อมไม่ได้
    ทางสงบใจ ไม่ได้ความเลื่อมใสโดยกาลอันสมควร ภิกษุพึงระงับความอาฆาตใน
    บุคคลแม้เช่นนี้ อนึ่ง บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มีความประพฤติทางกาย
    บริสุทธิ์ เป็นผู้มีความประพฤติทางวาจาบริสุทธิ์ และย่อมได้ทางสงบใจ ย่อม
    ได้ความเลื่อมใสโดยกาลอันสมควร ภิกษุพึงระงับความอาฆาตในบุคคลแม้เช่นนี้
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในบุคคล ๕ จำพวกนั้น บุคคลใด เป็นผู้มีความประพฤติ
    ทางกายไม่บริสุทธิ์ (แต่) เป็นผู้มีความประพฤติทางวาจาบริสุทธิ์ ภิกษุพึงระงับ
    ความอาฆาตในบุคคลนั้นอย่างไร เหมือนอย่างว่า ภิกษุผู้ถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตร
    เห็นผ้าเก่าที่ถนน เหยียบให้มั่นด้วยเท้าซ้าย เขี่ยออกดูด้วยเท้าขวา ส่วนใด
    เป็นสาระ ก็เลือกถือเอาส่วนนั้นแล้วหลีกไป แม้ฉันใด บุคคลใด เป็นผู้มี
    ความประพฤติทางกายไม่บริสุทธิ์ (แต่) เป็นผู้มีความประพฤติทางวาจาบริสุทธิ์
    ความประพฤติทางกายไม่บริสุทธิ์ส่วนใดของเขา ภิกษุไม่พึงใส่ใจส่วนนั้นใน
    สมัยนั้น ส่วนความประพฤติทางวาจาบริสุทธิ์ส่วนใดของเขา ภิกษุพึงใส่ใจส่วน
    นั้นในสมัยนั้น ฉันนั้น ภิกษุพึงระงับความอาฆาตในบุคคลนั้นอย่างนี้ ดูกรอาวุโส
    ทั้งหลาย บุคคลใด เป็นผู้มีความประพฤติทางวาจาไม่บริสุทธิ์ (แต่) เป็นผู้มี
    ความประพฤติทางกายบริสุทธิ์ ภิกษุพึงระงับความอาฆาตในบุคคลนั้นอย่างไร
    เหมือนอย่างว่า สระน้ำที่ถูกสาหร่ายและแหนคลุมไว้ บุรุษผู้เดินทางร้อนอบอ้าว
    เหนื่อยอ่อน ระหายน้ำ เขาลงสู่สระน้ำนั้น แหวกสาหร่ายและแหนด้วยมือทั้ง
    สองแล้ว กอบน้ำขึ้นดื่มแล้วพึงไป แม้ฉันใด บุคคลใด เป็นผู้มีความประพฤติ
    ทางวาจาไม่บริสุทธิ์ (แต่) เป็นผู้มีความประพฤติทางกายบริสุทธิ์ ความประพฤติ
    ทางวาจาไม่บริสุทธิ์ส่วนใดของเขา ภิกษุไม่พึงใส่ใจในส่วนนั้นในสมัยนั้น ส่วน
    ความประพฤติทางกายบริสุทธิ์ส่วนใดของเขา ภิกษุพึงใส่ใจในส่วนนั้นในสมัย
    นั้น ฉันนั้น ภิกษุพึงระงับความอาฆาตในบุคคลนี้อย่างนี้ ดูกรอาวุโสทั้งหลาย
    บุคคลใด เป็นผู้มีความประพฤติทางกายไม่บริสุทธิ์ เป็นผู้มีความประพฤติทาง
    วาจาไม่บริสุทธิ์ แต่ย่อมได้ทางสงบใจ ได้ความเลื่อมใสโดยกาลอันสมควร
    ภิกษุพึงระงับความอาฆาตในบุคคลนั้นอย่างไร เหมือนอย่างว่า น้ำเล็กน้อยมีอยู่ใน
    รอยโค บุรุษผู้เดินทางร้อนอบอ้าว เหนื่อยอ่อน ระหายน้ำ เขาพึงเกิดความคิดอย่าง
    นี้ว่า น้ำเล็กน้อยมีอยู่ในรอยโคนี้ ถ้าเราจักกอบขึ้นดื่มหรือใช้ภาชนะตักขึ้นดื่มไซร้
    เราก็จักทำน้ำนั้นให้ไหวบ้าง ให้ขุ่นบ้าง ให้ไม่เป็นที่ควรดื่มบ้าง ถ้ากระไรเรา
    พึงคุกเข่าก้มลงดื่มอย่างโคดื่มน้ำแล้วหลีกไปเถิด เขาคุกเข่าก้มลงดื่มน้ำอย่างโคดื่ม
    น้ำแล้วไป แม้ฉันใด บุคคลใด เป็นผู้มีความประพฤติทางกายไม่บริสุทธิ์ เป็นผู้มี
    ความประพฤติทางวาจาไม่บริสุทธิ์ แต่ย่อมได้ทางสงบใจ ได้ความเลื่อมใสโดยกาล
    อันสมควร ความประพฤติทางกายไม่บริสุทธิ์ส่วนใดของเขา ภิกษุไม่พึงใส่ใจ
    ส่วนนั้นในสมัยนั้น แม้ความประพฤติทางวาจาไม่บริสุทธิ์ส่วนใดของเขา ภิกษุก็
    ไม่พึงใส่ใจส่วนนั้นในสมัยนั้น แต่การได้ทางสงบใจ ได้ความเลื่อมใสโดยกาลอัน
    สมควรส่วนใดของเขา ภิกษุพึงใส่ใจส่วนนั้นในสมัยนั้น ฉันนั้น ภิกษุพึงระงับ
    ความอาฆาตในบุคคลนั้นอย่างนี้ ดูกรอาวุโสทั้งหลาย บุคคลใด เป็นผู้มีความ
    ประพฤติทางกายไม่บริสุทธิ์ เป็นผู้มีความประพฤติทางวาจาไม่บริสุทธิ์และย่อม
    ไม่ได้ทางสงบใจ ไม่ได้ความเลื่อมใสโดยกาลอันสมควร ภิกษุพึงระงับความ
    อาฆาตในบุคคลนั้นอย่างไร เหมือนอย่างว่า บุรุษผู้อาพาธ มีทุกข์ เป็นไข้หนัก
    เดินทางไกล แม้ข้างหน้าเขาก็มีบ้านอยู่ไกล แม้ข้างหลังเขาก็มีบ้านอยู่ไกล เขาไม่
    พึงได้อาหารที่สบาย (ถูกโรค) เภสัชที่สบาย ผู้พยาบาลที่สมควร และผู้นำทาง
    ไปสู่บ้าน บุรุษบางคนผู้เดินทางไกลพึงเห็นเขา บุรุษนั้นพึงเข้าไปตั้งความการุณ
    ความเอ็นดู ความอนุเคราะห์ในเขาว่า โอ คนๆ นี้พึงได้อาหารที่สบาย เภสัช
    ที่สบาย ผู้พยาบาลที่สมควร และผู้นำทางไปสู่บ้าน ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะ
    เหตุว่า คนๆ นี้อย่าถึงความพินาศฉิบหาย ณ ที่นี้เลย แม้ฉันใด บุคคลใด
    เป็นผู้มีความประพฤติทางกายไม่บริสุทธิ์ เป็นผู้มีความประพฤติทางวาจาไม่บริสุทธิ์
    และย่อมไม่ได้ทางสงบใจ ไม่ได้ความเลื่อมใสโดยกาลอันสมควร ภิกษุพึงเข้าไป
    ตั้งความการุณ ความเอ็นดู ความอนุเคราะห์ ในบุคคลแม้เห็นปานนี้ว่า โอท่านผู้
    นี้พึงละกายทุจริตแล้ว อบรมกายสุจริต พึงละวจีทุจริตแล้ว อบรมวจีสุจริต พึง
    ละมโนทุจริตแล้ว อบรมมโนสุจริต ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะเหตุว่า ท่านผู้นี้
    เมื่อตายไปแล้ว อย่าเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ฉันนั้น ภิกษุพึงระงับ
    ความอาฆาตในบุคคลนั้นอย่างนี้ ดูกรอาวุโสทั้งหลาย บุคคลใด เป็นผู้มีความ
    ประพฤติทางกายบริสุทธิ์ เป็นผู้มีความประพฤติทางวาจาบริสุทธิ์ ย่อมได้ทางสงบ
    ใจ และย่อมได้ความเลื่อมใสโดยกาลอันสมควร ภิกษุพึงระงับความอาฆาตใน
    บุคคลนั้นอย่างไร เหมือนอย่างว่า สระน้ำที่มีน้ำใส มีน้ำอร่อยดี มีน้ำเย็น มี
    น้ำขาว มีท่าน้ำราบเรียบ น่ารื่นรมย์ดาระดาดไปด้วยต้นไม้พันธุ์ต่างๆ บุคคลผู้
    เดินทางร้อนอบอ้าว เหนื่อย อ่อน ระหายน้ำ เขาพึงลงสู่สระน้ำนั้น อาบบ้าง
    ดื่มบ้าง แล้วขึ้นมานั่งบ้าง นอนบ้าง ที่ร่มไม้ใกล้สระน้ำนั้น แม้ฉันใด บุคคล
    ใด เป็นผู้มีความประพฤติทางกายบริสุทธิ์ เป็นผู้มีความประพฤติทางวาจาบริสุทธิ์
    ย่อมได้ทางสงบใจ และย่อมได้ความเลื่อมใสโดยกาลอันสมควร แม้ความ
    ประพฤติทางกายบริสุทธิ์ส่วนใดของเขา ภิกษุพึงใส่ใจส่วนนั้นในสมัยนั้น แม้
    ความประพฤติทางวาจาบริสุทธิ์ส่วนใดของเขา ภิกษุพึงใส่ใจส่วนนั้นในสมัยนั้น
    แม้การได้ทางสงบใจ ได้ความเลื่อมใสโดยกาลอันสมควร ส่วนใดของเขา ภิกษุ
    พึงใส่ใจส่วนนั้นในสมัย ฉันนั้น ภิกษุพึงระงับความอาฆาตในบุคคลนั้นอย่างนี้
    ดูกรอาวุโสทั้งหลาย เพราะอาศัยบุคคลผู้เป็นที่น่าเลื่อมใสโดยประการทั้งปวง จิต
    ย่อมเลื่อมใส ดูกรอาวุโสทั้งหลาย ธรรมเป็นที่ระงับความอาฆาต ซึ่งเกิดขึ้นแก่
    ภิกษุโดยประการทั้งปวง ๕ ประการนี้แล ฯ

    จบสูตรที่ ๒

    http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=22&A=4342&Z=4422

    003259 -
     
  5. โอมธนกฤต

    โอมธนกฤต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2009
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +3,984
    "ครอบครัวบุญ"
    โอนร่วมทำบุญ 100 บาท ผ่านทาง ธ.กรุงไทย 18/กค/55 เวลา 20.25 น

    อานิสงค์ในบุญทั้งหมดขออุทิศให้พ่อไสว จันทร์ทุ่ง/สิเรียม จันทร์ทุ่ง/มะลิวัลย์ ตันตา/พ่อบุญมา สารเวียง
    และญาติของข้าพเจ้าในทุกภพชาติได้เลื่อนเปลี่ยน/ปรับภพภูมิให้สูงขึ้นๆ

    อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรทุกภพชาติและเทวดาประจำตัวของครอบครัวจันทร์ทุ่ง/จิ๋วนารายณ์/เกตุทุ่ง/เมฆเสือ/ชูเที่ยง
    ครอบครัวสังวร/แก้วนิตย์/พวยอ้วน/สารเวียง/ตันตา/ยะอุโมงค์/ยานะคำ/คงเจริญ... ได้รับและจงอโหสิกรรมด้วยเทอญ...

    และให้ทุกๆท่านทุกครอบครัวที่กล่าวมาขอให้คำว่า ไม่มี ไม่ดี ไม่ได้ ไม่สบาย มีหนี้ จงหมดสิ้นไปอย่าได้เกิดขึ้น
    และขอให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง อายุยืนยาว ไม่จน ไม่เจ็บ ได้เข้าถึงพระธรรมทุกท่านในทุกครอบครัวโดยเร็วฉับพลันเทอญ
     
  6. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
    สาธุๆๆ อนุโมทนามิครับ
    ปรารถนาสิ่งใดที่ดีงามขอให้สมความปรารถนาครับ
    ขอให้เป็นสรรพพลวปัจจัยให้ผู้ร่วมบุญกุศลในโครงการนี้เจริญในศีลธรรม จตุรพิธพรชัย สิริสุขสวัสดิพิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผลสมปรารนาในสิ่งที่ดีงาม ปรารถนาพระนิพพานขอให้ได้พระนิพพาน
    และโครงการนี้สำเร็จสมบูรณ์โดยดีงามยิ่งๆขึ้นไปครับ
     
  7. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
    คุณแอนทีโอทีร่วมบุญ 500บาทครับ

    สาธุๆๆ อนุโมทนามิครับ
    ปรารถนาสิ่งใดที่ดีงามขอให้สมความปรารถนาครับ
    ขอให้เป็นสรรพพลวปัจจัยให้ผู้ร่วมบุญกุศลในโครงการนี้เจริญในศีลธรรม จตุรพิธพรชัย สิริสุขสวัสดิพิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผลสมปรารนาในสิ่งที่ดีงาม ปรารถนาพระนิพพานขอให้ได้พระนิพพาน
    และโครงการนี้สำเร็จสมบูรณ์โดยดีงามยิ่งๆขึ้นไปครับ
     
  8. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
    สาธุๆๆ อนุโมทนามิครับ
    ปรารถนาสิ่งใดที่ดีงามขอให้สมความปรารถนาครับ
    ขอให้เป็นสรรพพลวปัจจัยให้ผู้ร่วมบุญกุศลในโครงการนี้เจริญในศีลธรรม จตุรพิธพรชัย สิริสุขสวัสดิพิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผลสมปรารนาในสิ่งที่ดีงาม ปรารถนาพระนิพพานขอให้ได้พระนิพพาน
    และโครงการนี้สำเร็จสมบูรณ์โดยดีงามยิ่งๆขึ้นไปครับ
     
  9. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
    สาธุๆๆ อนุโมทนามิครับ
    ปรารถนาสิ่งใดที่ดีงามขอให้สมความปรารถนาครับ
    ขอให้เป็นสรรพพลวปัจจัยให้ผู้ร่วมบุญกุศลในโครงการนี้เจริญในศีลธรรม จตุรพิธพรชัย สิริสุขสวัสดิพิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผลสมปรารนาในสิ่งที่ดีงาม ปรารถนาพระนิพพานขอให้ได้พระนิพพาน
    และโครงการนี้สำเร็จสมบูรณ์โดยดีงามยิ่งๆขึ้นไปครับ
     
  10. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
    คุณชำนาญและหมู่คณะ จากทีโอทีร่วมบุญ 500บาทครับ

    สาธุๆๆ อนุโมทนามิครับ
    ปรารถนาสิ่งใดที่ดีงามขอให้สมความปรารถนาครับ
    ขอให้เป็นสรรพพลวปัจจัยให้ผู้ร่วมบุญกุศลในโครงการนี้เจริญในศีลธรรม จตุรพิธพรชัย สิริสุขสวัสดิพิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผลสมปรารนาในสิ่งที่ดีงาม ปรารถนาพระนิพพานขอให้ได้พระนิพพาน
    และโครงการนี้สำเร็จสมบูรณ์โดยดีงามยิ่งๆขึ้นไปครับ
     
  11. Anija

    Anija เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +317
    ขอถามเป็นความรู้หน่อยครับ หล่อพระด้วยโลหะเงิน จะต้องมีแม่พิมพ์หรือไม่ครับ และเพราะเหตุใดจึงเป็นโลหะเงินไม่ใช่ทองเหลืองตามที่เห็นได้ทั่วไปครับ สาธุ
     
  12. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
    สาธุ ยินดีอย่างยิ่งครับ
    จะต้องมีแม่พิมพ์เหมือนกับการหล่อพระพุทธรูปทองคำ สัมฤทธิ์และทองเหลืองเช่นกันครับ นอกจากว่าอาจมีเทคโนโลยีใหม่อื่นๆครับ
    โลหะเงินนั้นมีความอ่อนตัวสูงเมื่อหลอมละลายตัว ลายที่เกิดจาการหล่อจึงเก็บรายละเอียดได้ง่ายและชัดเจน
    โลหะเงินเป็นโลหะที่มีสภาพการนำไฟฟ้าที่ดีที่สุด ดีกว่าทองคำและทองแดงด้วย
    การเจริญภาวนากสิณสีขาว(โอทาตกสิณ) นอกจากสามารถทำให้เกิดตาทิพย์(ทิพยจักขุญาณ)เร็วมากแล้ว ยังสามารถเปลี่ยนธาตุอื่นๆให้เป็นโลหะเงินได้
     
  13. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
    อานิสงส์การสร้างพระพุทธรูป
    (คำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ (พระราชพรหมยาน) วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี เกี่ยวกับอานิสงส์การสร้างพระพุทธรูป)

    http://www.sangkapan.com/Article-anisong3.html

    การสร้างพระพุทธรูปจัดว่าเป็น พุทธบูชา ถ้าในกรรมฐานจัดว่าเป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน (การระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์) ถ้าตายจากคนไปเกิดเป็นเทวดา มีรัศมีกายสว่างไสวมาก
    การสร้างพระถวายด้วยอำนาจพุทธบูชาทำให้มีรัศมีกายมากเป็นคนสวย ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า

    “พุทธะปูชา มะหาเตชะวันโต” แปลว่า “การบูชาพระพุทธเจ้ามีเดชอำนาจมาก”

    การสร้างพระพุทธรูปนี่เป็นพุทธบูชาเป็นพุทธานุสสติในกรรมฐาน 40 กอง ท่านบอกว่ากำลังของพุทธานุสสติเป็นเหตุให้เข้าถึงนิพพานได้ง่ายที่สุด ง่ายกว่ากองอื่นก็จะเห็นจริง เพราะว่าพระพุทธเจ้าท่านอยู่ที่นิพพานนี่และท่านก็เป็นต้นตระกูลของพระนิพพาน ทีนี้เมื่อเราต้องการสร้างพระพุทธรูปให้สวยตามที่เราชอบเห็นแล้วก็ทำให้จิตใจสดชื่น จิตมันก็นึกถึงพระอยู่เสมอ ถ้าจิตนึกถึงพระพุทธรูปองค์นั้นอยู่เสมอก็จัดเป็นพุทธานุสสติ กรรมฐาน ถ้าใจเราเกาะพระพุทธเจ้าเป็นปกติ ตายแล้วลงนรกไม่เป็น ฉะนั้นถ้าเราชอบพระแบบไหนปางไหน ก็ให้สร้างอย่างที่เราชอบจิตจะได้เกิดศรัทธา
    หลวงพ่อปานวัดบางนมโคแนะนำว่าควรหันหน้าพระบูชาไปทางทิศตระวันออกหรือทิศเหนือ ไม่ควรหันหน้าพระบูชาไปทางทิศตะวันออกหรือทิศเหนือ ไม่ควรหันหน้าพระบูชาไปทางทิศตะวันตก หรือทิศใต้ เพราะจะทำให้สตางค์ไม่เหลือใช้
    ส่วนอานิสงส์การสร้างแท่นพระนั้น ก็มีอานิสงส์เหมือนกับการสร้างพระพุทธรูป คือแท่นพระพุทธรูปเขาบกพร่องอยู่ เราทำให้เต็ม อย่างที่นางวิสาขาหรือพระสิวลีได้เคยทำมาในอดีต อานิสงส์ไม่ใช่เล็กน้อยนะ อานิสงส์ใหญ่มาก จะเกื้อหนุนให้รวย วาสนาบามีสูง การสร้างแท่นพระหนุนพระพุทธรูป ซึ่งเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าให้สูงน่ะ จะทำให้ฐานะเราดีขึ้น
    ครั้งหนึ่งมีญาติโยมถามหลวงพ่อฤาษีลิงดำเรื่องการชำระหนี้สงฆ์ว่าถ้าหากนับรวมหลายๆ ชาติเราไม่รู้ว่าเคยล่วงเกินของสงฆ์มามากน้อยเท่าไหร่ จะทำอย่างไรจึงจะชำระหนี้สงฆ์ได้หมด หลวงพ่อท่านกำหนดสมาธิจิตถามพระพุทธเจ้า ก็ปรากฏนิมิตเป็นพระพุทธเจ้าลอยมาตอบคำถาม ท่านว่า “ถ้าจะชำระให้ครบถ้วนเป็นเงินเท่าไหร่ก็ไม่พอ ให้สร้างพระพุทธรูปหน้าตัก 4 ศอก” พระหน้าตัก 4 ศอก ถือว่าเป็นพระประธานมาตรฐาน ท่านบอกว่า “พระพุทธรูปนี่ไม่มีใครตีราคาได้ ใช้ในการชำระหนี้สงฆ์ หนี้สงฆ์ที่แล้วๆ มาถือเป็นการหมดกันไป” เมื่อถามว่าการสร้างพระองค์หนึ่งชำระหนี้สงฆ์ได้คนเดียวหรือกี่คน ท่านก็บอกว่า “ถ้าไม่ปิดทองได้คนเดียว ถ้าปิดทองครบถ้วนได้ทั้งคณะ” คำว่า “คณะ” หมายความว่าบุคคลหลายคนก็ได้ ตัดบาปเก่าชำระหนี้สงฆ์เก่าๆ ได้หมด แต่ถ้าสร้างหนี้ใหม่ต่อก็เป็นหนี้ใหม่เหมือนกันนะ
    เวลาถวายสังฆทานเพื่ออุทิศให้แก่ผู้ตาย อย่างน้อยควรมีพระพุทธรูปหน้าตักกว้าง 5 นิ้วขึ้นไป ผู้ที่อนุโมนารับบุญรับกุศลจะมีรัศมีกายสว่างมาก เพราะเทวดาหรือพรหมเขาแบ่งฐานะกันตามความสว่างของร่างกาย ไม่ดูที่เครื่องแต่งตัว ถ้ามีจีวรด้วย ผู้อนุโมทนาจะมีเครื่องประดับสวยงามกว่าเดิม ถ้ามีอาหารด้วย ความเป็นทิพย์ของร่างกายจะดีกว่าเก่า


    อานิสงส์การสร้างพระพุทธรูป นำมาจากหนังสือ “หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม 1 โดยพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม (ท่าซุง) อ.เมือง จ.อุทัยธานี จัดทำโดย เจ้าหน้าที่ธัมมวิโมกข์ (ข้อมูลมาจากหนังสือ พุทธมงคลอานิสงส์ เรียบเรียงโดย พระชุมพล พลปัญโญ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ตุลาคม 2012
  14. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
    วัฏฏังคุลีชาดกการปฏิสังขรณ์ซ่อมแซมพระพุทธรูป..เป็นอจินไตยประมาณไม่ได้

    อานิสงค์การสร้างพระพุทธรูป


    ในวัฏฏังคุลีชาดก กล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า พระเจ้าปเสนทิโกศล ถวายนมัสการสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วทูลถามว่า “บุรุษสตรีผู้หนึ่งผู้ใด เมื่อได้สร้างพระพุทธปฏิมากร กระทำรูปเปรียบจำลองพระพุทธองค์ ขึ้นไว้ จะได้ประมาณอานิสงส์เช่นไรพระพุทธเจ้าข้า”

    สมเด็จพระบรมศาสดามีพระพุทธดำรัสว่า “ดูกร มหาบพิตร ผู้เป็นมหาราชบุรุษหรือสตรีผู้ใดผู้หนึ่ง ซึ่งประกอบด้วยศรัทธา เมื่อได้สร้างพระพุทธปฏิมากรไว้ในพระพุทธศาสนา พระพุทธปฏิมากรนั้น บุคคลจะสร้างด้วยดินเหนียว หรือศิลาก็ตามหรือทำด้วยโลหะแลทองแดงก็ตาม จะทำด้วยไม้ แลสังกะสี ดีบุกก็ตาม จะทำด้วยรัตนะ เงินทองก็ตาม ผู้ที่สร้างทำนั้น จักได้อานิสงส์ผลอันมากพ้นที่จะนับประมาณ การที่สร้างพระพุทธปฏิมากร หรือปฏิสังขรณ์พระพุทธรูปก็ดี เป็นประเพณีของพระพุทธเจ้าทั้งหลายซึ่งยังเวียนว่ายในวัฏฏสงสาร ครั้งเมื่อตถาคตเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ ได้เห็นนิ้วพระหัตถ์พระพุทธปฏิมากรซึ่งทำด้วยดินเหนียวหักขาดไปนิ้วหนึ่ง จึงนำเอาดินเหนียวมาปั้นทำให้เป็นบริบูรณ์เป็นปกติ แล้วทำการสักการบูชาด้วยมาลาแลของหอม ครั้งทำลายเบญจขันธ์ ก็ได้เสวยสมบัติในสวรรค์ ได้เป็นบรมกษัตริย์ในมนุษย์โลก สิ้นกาลนาน ภายหลังเมื่อโพธิสมภารพุทธการกธรรมเต็มบริบูรณ์แล้วก็ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า” แล้วทรงเทศนาถึงอดีตชาติของพระองค์ ดังนี้

    ในอดีตกาล มีพ่อค้าคนหนึ่งชื่อ กุลภัทรกุมาร ไดัชักชวนพ่อค้าทั้งหลายเดินทางไปค้าขายยังต่างเมือง ระหว่างทางเขาเห็นพระพุทธปฏิมากรทำด้วยดินเหนียวองค์หนึ่ง ซึ่งประดิษฐานอยู่ในพระอาราม ในป่าชัฏ พระพุทธปฏิมากรนั้น มีนิ้วพระหัตถ์หักไปนิ้วหนึ่ง จึงเอาดินเหนียวมาขยำกับน้ำอ้อย ปั้นนิ้วพระหัตถ์พระพุทธปฏิมากรปฏิสังขรณ์ให้เต็มบริบูรณ์ทั้ง ๕ นิ้ว แล้วเอาเงิน ๕ กหาปนะ ให้หญิงทาสีคนหนึ่ง คอยปฏิบัติรักษา พระพุทธปฏิมากรนั้น และให้มูลค่าประทีป เทียน แลมาลา ของหอม สำหรับบูชาพระปฏิมากรนั้นด้วย ครั้นบูชาแล้ว จึงตั้งความปรารถนาด้วยว่า “อานิสงค์ที่ข้าพเจ้าได้ปฏิสังขรณ์นิ้วพระหัตถ์นี้ ขึ้นชื่อว่าข้าศึกศัตรูทั้งปวง อย่าให้มีเฉพาะหน้าข้าพเจ้าเลยอนึ่งขอให้ข้าพเจ้าได้ตรัสรู้เป็นสัพพัญญูพระพุทธเจ้าในอนาคตด้วยเถิด”

    นับแต่นั้นมา ข้าศึกศัตรูและ ร้ายทั้งหลายทั้งหลาย แม้แต่งู ตะขาบ และแมลงป่อง เป็นต้น ก็มิได้กล้ำกลายกุลภัทรกุมาร เมื่อตายไปได้เกิดเป็นเทพในสวรรค์ พวกอสูรในเทวโลกก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้ พากันหนีหมด เมื่อปฏิสนธิในครรภ์พระอัครมเหสีของพระเจ้าพาราณสี เทพบุตรซึ่งเป็นบริวารพันหนึ่งก็มาเกิดในครรภ์ของภรรยาพวกอำมาตย์ เมื่อประสูติพระกุมารแล้ว ในกาลนั้น ทั้งหลายมีช้าง แลม้าเป็นต้น แม้จะดื้อเพียงใด เมื่อพระราชกุมารยกนิ้วพระหัตถ์ชี้มาในกาลใด เหล่านั้นก็ซวนเซล้มลงพระราชกุมารจึงได้พระนามว่า “วัฏฏังคุลีราชกุมาร”

    เมื่อได้ครองราชย์เป็น “พระเจ้าวัฏฏังคุลีราชโพธิ ” ประกอบด้วยเมตตากรุณา ไม่เคยเบียดเบียนชีวิตใดเลย ตั้งมั่นอยู่ในศีล ในกาลนั้นพระยาร้อยเอ็ดทั้งหลายในชมพูทวีปจึงปรึกษากันจักไปชิงราชสมบัติ ของพระเจ้าวัฏฏังคุลีราช เพราะเห็นว่าพระองค์ไม่ฆ่า เลย คงได้เมืองมาโดยง่ายเมื่อยกทัพมาประชิดเมืองของพระเจ้าวัฏฏังคุลีราช พระองค์เพียงชี้นิ้วพระหัตถ์ พวกพระยาร้อยเอ็ดและเหล่าทหารก็ตกจากยานพาหนะและหกล้มระเนระนาด พระยาร้อยเอ็ดจึงสวามิภักดิ์ยอมเป็นประเทศราชของพระโพธิ สมเด็จพระทศพลจึงตรัสพระคาถาว่า บุคคลผู้สร้างพระพุทธรูปนั้น จะได้เป็นพระอินทร์ ๘ ครั้ง จะได้เป็นสมเด็จบรมจักรพรรดิ ๘๐ ชาติหรือ ๑๐๐ ชาติ จะได้เป็นพระราชานับประมาณไม่ได้ ผลแห่งการปฏิสังขรณ์ซ่อมแซมพระพุทธรูปนั้น ไม่ควรคิดว่ามีค่าเท่าใดเพราะเป็นอจินไตย ประมาณไม่ได้บุคคลผู้ก่อสร้างพระพุทธรูปด้วยปีติเลื่อมใสแล้วจะเกิดในสวรรค์สิ้นกาลนาน ผู้ปลูกมหาโพธิ์ นรชนผู้บวชตน นรชนผู้สร้างพระปฏิมากร นรชนสามจำพวกนี้ จักได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าเที่ยงแท้.....

     
  15. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
    1) สร้างพระ 1 องค์ ได้อานิสงส์ 5 กัปป์ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ สร้างด้วยอะไรก็ตาม หมายความว่าบุญกุศลจะตามหนุนส่งท่านไปทุกภพทุกชาตินานถึง 5 กัปป์........(หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ)....


    2) หลวงพ่อฤาษีลิงดำ กล่าวว่า"การสร้างสมเด็จองค์ปฐมทำได้ยาก คือ ว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต้นพระพุทธเจ้าทั้งหมด การสร้างองค์ปฐมนี้ ท่านเปลี่ยนบัญชีใหม่ โดยใช้บัญชีสีทอง เป็นทองคำล้วนทั้งเล่ม จดบันทึก(เป็นอีกเล่มหนึ่งจากที่จดธรรมดา) ก็แสดงว่า คนที่จะสร้างพระพุทธเจ้าองค์ปฐมได้นี้ ต้องเป็นคนมีบุญมาก และไปนิพพานได้เร็วมาก" เพราะบัญชีสีทอง หลวงพ่อฯบอกว่า พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ต้องโมทนาหมด......


    3) ผู้ใดสร้างรูปพระพุทธเจ้า จะเป็นองค์เล็กเท่าต้นคาก็ดี ใหญ่กว่าต้นคาก็ดี ผู้นั้นจะได้เป็นพรหม เป็นพระอินทร์ หมื่นชาติแสนชาติ ถ้าเป็นมนุษย์ จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิหมื่นชาติ แสนชาติ จะไม่เป็นผู้ตกต่ำเลย ตราบจนกว่าเข้าสู่นิพพาน (หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว)......


    4) การสร้างพระ เปรียบได้กับธนาคารบุญ ซึ่งจะเกิดบุญกุศลกับผู้ที่มีส่วนในการสร้าง โดยบุญกุศลนั้น จะเกิดขึ้นทุกครั้ง ที่มีผู้มากราบไหว้ สักการะบูชา เท่ากับจำนวนคน และจำนวนครั้ง (หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา).......


    5) การที่ผู้สร้างพระพุทธรูปได้เกิดศรัทธา จนถึงสละเงินออกมาสร้างพระพุทธรูปได้ และออก
    มาทำทาน ในงานฉลองพระพุทธรูปได้ ชื่อว่าเป็นผู้มี "ความเห็นตรง เห็นถูกแท้" เพราะเป็นบุญของตนเอง ไม่ใช่บุญของใครเลย ผู้สร้างพระพุทธรูป ชื่อว่า เป็นผู้ไม่ประมาท ชื่อว่า เป็นผู้ได้เตรียมตัวก่อนตาย (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม)
     
  16. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
    อานิสงส์การสร้างพระพุทธรูป

    คำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ(พระราชพรหมยาน) วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี
    เกี่ยวกับอานิสงส์การสร้างพระพุทธรูป


    การสร้างพระพุทธรูปจัดว่าเป็น พุทธบูชา ถ้าในกรรมฐานจัดว่าเป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน (การระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์) ถ้าตายจากคนไปเกิดเป็นเทวดา มีรัศมีกายสว่างไสวมาก การสร้างพระถวายด้วยอำนาจพุทธบูชาทำให้มีรัศมีกายมากเป็นคนสวย ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า

    "พุทธะปูชา มะหาเตชะวันโต" แปลว่า "การบูชาพระพุทธเจ้ามีเดชอำนาจมาก"

    การสร้างพระพุทธรูปนี่เป็นพุทธบูชาเป็นพุทธานุสสติในกรรมฐาน ๔๐ กอง ท่านบอกว่ากำลังของพุทธานุสสติเป็นเหตุให้เข้าถึงนิพพานได้ง่ายที่สุด ง่ายกว่ากองอื่นก็เห็นจะจริง เพราะว่าพระพุทธเจ้าท่านอยู่ที่นิพพานนี่ และท่านก็เป็นต้นตระกูลของพระนิพพาน ทีนี้เมื่อเราต้องการสร้างพระพุทธรูปให้สวยตามที่เราชอบเห็นแล้วก็ทำให้จิตใจสดชื่น จิตมันก็นึกถึงพระอยู่เสมอ ถ้าจิตนึกถึงพระพุทธรูปองค์นั้นอยู่เสมอก็จัดเป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน ถ้าใจเราเกาะพระพุทธเจ้าเป็นปกติ ตายแล้วลงนรกไม่เป็น ฉะนั้นถ้าเราชอบพระแบบไหนปางไหน ก็ให้สร้างอย่างที่เราชอบจิตจะได้เกิดศรัทธา หลวงพ่อปานวัดบางนมโคแนะนำว่าควรหันหน้าพระบูชาไปทางทิศตะวันออกหรือทิศเหนือ ไม่ควรหันหน้าพระบูชาไปทางทิศตะวันตก หรือทิศใต้ เพราะจะทำให้สตางค์ไม่เหลือใช้


    ส่วนอานิสงส์การสร้างแท่นพระนั้น ก็มีอานิสงส์เหมือนกับการสร้างพระพุทธรูป คือแท่นพระพุทธรูปเขาบกพร่องอยู่ เราทำให้เต็ม อย่างที่นางวิสาขาหรือพระสิวลีได้เคยทำมาในอดีตชาติ อานิสงส์ไม่ใช่เล็กน้อยนะ อานิสงส์ใหญ่มาก จะเกื้อหนุนให้รวย วาสนาบารมีสูง การสร้างแท่นพระหนุนพระพุทธรูป ซึ่งเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าให้สูงน่ะ จะทำให้ฐานะของเราดีขึ้น

    ครั้งหนึ่งมีญาติโยมถามหลวงพ่อฤาษีลิงดำเรื่องการชำระหนี้สงฆ์ว่าถ้าหากนับรวมหลาย ๆ ชาติเราไม่รู้ว่าเคยล่วงเกินของสงฆ์มามากน้อยเท่าไหร่ จะทำอย่างไรจึงจะชำระหนี้สงฆ์ได้หมด หลวงพ่อท่านกำหนดสมาธิจิตถามพระพุทธเจ้า ก็ปรากฏนิมิตเป็นพระพุทธเจ้าลอยมาตอบคำถามท่านว่า "ถ้าจะชำระให้ครบถ้วนเป็นเงินเท่าไหร่ก็ไม่พอ ให้สร้างพระพุทธรูปหน้าตัก ๔ ศอก" พระหน้าตัก ๔ ศอก ถือว่าเป็นพระประธานมาตรฐาน ท่านบอกว่า "พระพุทธรูปนี่ไม่มีใครตีราคาได้ ใช้ในการชำระหนี้สงฆ์ หนี้สงฆ์ที่แล้ว ๆ มา ถือเป็นการหมดกันไป" เมื่อถามว่าการสร้างพระองค์หนึ่งชำระหนี้สงฆ์ได้คนเดียวหรือกี่คน ท่านก็บอกว่า "ถ้าไม่ปิดทองได้คนเดียว ถ้าปิดทองครบถ้วนได้ทั้งคณะ" คำว่า "คณะ" หมายความว่าบุคคลหลายคนก็ได้ ตัดบาปเก่าชำระหนี้สงฆ์เก่า ๆ ได้หมด แต่ถ้าสร้างหนี้ใหม่ต่อก็เป็นหนี้ใหม่เหมือนกันนะ เวลาถวายสังฆทานเพื่ออุทิศให้แก่ผู้ตาย อย่างน้อยควรมีพระพุทธรูปหน้าตักกว้าง ๕ นิ้วขึ้นไป ผู้ที่อนุโมทนารับบุญรับกุศลจะมีรัศมีกายสว่างมาก เพราะเทวดาหรือพรหมเขาแบ่งฐานะกันตามความสว่างของร่างกาย ไม่ได้ดูที่เครื่องแต่งตัว ถ้ามีผ้าจีวรด้วย ผู้อนุโมทนาจะมีเครื่องประดับสวยงามกว่าเดิม ถ้ามีอาหารด้วย ความเป็นทิพย์ของร่างกายจะดีกว่าเก่า

    อานิสงส์การสร้างพระพุทธรูป นำมาจากหนังสือ "หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๑" โดยพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม (ท่าซุง) อ.เมือง จ.อุทัยธานี จัดทำโดย เจ้าหน้าที่ธัมมวิโมกข์



    อานิสงค์การสร้างพระ
     
  17. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
    ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

    ............อานิสงส์ของการสร้างพระเจดีย์ต่างๆ ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ มีอานิสงส์มากครับ

    แต่ พระพุทธรูป ก็มี(เป็น...?มุ่งเต็มใจ)เจดีย์อย่างหนึ่ง คือ เจดีย์ เป็นสิ่งที่ควรระลึก ควรเคารพ สักการะ เป็นอุทเทสิกเจดีย์ ดังนั้น บุญ คือ กุศลจิตที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม หากเป็นกุศล ก็เป็นบุญ และจะมีอานิสงส์มาก คือ ทำกับวัตถุที่เลิศ คือ พระพุทธเจ้าและไม่มีความโลภหวังต้องการบุญ และมีปัญญาประกอบด้วย คือ เชื่อในเรื่องกรรม ผลของกรรม เป็นต้น

    ดังนั้นการสร้างพระพุทธรูป หากทำด้วยจิต คิด บูชาพระพุทธเจ้า และเพื่อให้ผู้อื่นได้เป็น

    เครื่องระลึกไหว้พระพุทธองค์ ไม่ใช่(มุ่งเพียง...?...มุ่งเต็มใจ)เพื่อประโยชน์ตน แต่ประโยชน์ผู้อื่น ก็เป็นจิตที่ดี และปรารภพระพุทธเจ้า ก็มีอานิสงส์มากครับ แต่ถ้าหวังต้องการบุญ จากการสร้าง มีอานิสงส์

    บุญน้อยครับ ดังนั้น สำคัญที่จิตของผู้ทำและการสร้าง ปรารภใครครับ ขออนุโมทนา


    อานิสงส์การสร้างพระพุทธรูป พระพุทธเจ้าตรัสว่าอย่างไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ตุลาคม 2012
  18. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
    ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

    พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นสิ่งที่มีจริง เป็นเหตุเป็นผล

    เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรมประการต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ปัญญา

    ความเข้าใจถูก เห็นถูก สำหรับผู้ที่มีความเข้าใจธรรมอย่างถูกต้องตามความเป็นจริง

    แล้ว สภาพธรรมที่ดีงาม อันได้แก่ กุศลธรรมประการต่าง ๆ ทั้งที่เป็นไปทางกาย ทาง

    วาจา และ ทางใจ ก็จะคล้อยตามความเข้าใจพระธรรม ความเข้าใจพระธรรมนี้เอง

    จะเป็นเครื่องอุปการะเกื้อกูล ให้มีความประพฤติที่ดีงามในชีวิตประจำวัน เมื่อเหตุดี ย่อม

    เป็นเหตุให้เกิดผลที่ดี เป็นไปไม่ได้เลยที่เหตุดี แล้วจะเป็นเหตุให้ผลที่ไม่ดีเกิดขึ้น

    จุดประสงค์ของสร้างพระพุทธรูป ของบุคคลผู้ที่มีศรัทธา นั้น ก็เพื่อให้น้อมระลึกถึง

    พระคุณของพระพุทธเจ้า ทั้งพระบริสุทธิคุณ พระปัญญาคุณ และพระมหากรุณาคุณ

    สำหรับผู้ที่มีโอกาสได้พบเห็น เพราะพระพุทธรูป [หรือ อุทเทสิกเจดีย์] เป็นสิ่งที่ควร

    เคารพสักการบูชา เป็นเครื่องเตือนให้น้อมระลึกถึงพระคุณของพระองค์ ที่เสด็จอุับัิติ

    ขึ้นในโลก เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์โลกอย่างแท้จริง แล้วจะระลึกถึงพระคุณของ

    พระองค์ได้อย่างไร ถ้าหากว่าไม่ได้ฟังพระธรรม ไม่ได้ศึกษาพระธรรมที่พระองค์

    ทรงแสดง

    การที่เข้าใจถึงพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิ-

    คุณและพระมหากรุณาคุณ ที่ไม่มีใครเสมอเหมือน ได้ นั้น ก็ด้วยการฟังพระธรรม

    ศึกษาพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง เท่านั้น จริง ๆ ไม่มีทางอื่นเลย ครับ ..

    ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุก ๆ ท่านครับ...

    อานิสงส์การสร้างพระพุทธรูป พระพุทธเจ้าตรัสว่าอย่างไร
     
  19. chromosome x

    chromosome x เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2012
    โพสต์:
    327
    ค่าพลัง:
    +1,512
    ขอร่วมบุญด้วยคนครับ
    โอนเงินเรียบร้อยแล้วครับ วันนี้ตอนเช้า(9-10-55) จำนวนเงินโอน 200 บาท เข้าบัญชีธ.กรุงไทย เลขที่บัญชี 066-0-05697-6

    ฤทธิไกรและครอบครัว
     
  20. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468

    อานิสงส์ของการสร้างพระพุทธปฏิมา[
    « เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2009, 10:04:41 pm »
    อานิสงส์ของการสร้างพระพุทธปฏิมา--------------------------------------------------------------------------------
    http://www.ubmthai.com/leksoundsmf3/index.php?topic=51769.0
    พุทธรัตน ธรรมรัตน สังฆรัตน นิพพาน ปัจจโย โหตุ อนาคเต กาเล

    ท่านพุทธศาสนิกชน ผู้มีดวงกมลเลื่อมใสในคุณพระศรีรัตนตรัยเป็นที่เคารพสักการะแล้ว พึงรำลึกในพระกรุณาธิคุณ พระบริสุทธิคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นเจ้าของพระศาสนา ในเมื่อพระองค์ได้เสด็จสู่ดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้วล่วงประมาณ 2552 ปี บรรดาท่านที่เป็นสาวกและพุทธบริษัทของพระองค์ท่านก็ได้สร้างพระพุทธปฏิมากรไว้บูชาสักการะแทนพระองค์ท่าน เป็นธรรมเนียมตลอดมาจนทุกวันนี้ เพื่อเป็นการแสดงออกว่าพุทธมามกชนได้เคารพเลื่อมใสในพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ พร้อมทั้งจะปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระองค์ท่าน และตามพระพุทธโอวาทไม่ล่วงละเมิดแต่ประการใด

    การที่ท่านพุทธศาสนิกชนได้จัดสร้างพระพุทธปฏิมากรเอาไว้เคารพบูชาสักการะแทนองค์พระศาสดานั้น ย่อมมีอานิสงส์เป็นอเนกนานาประการ ซึ่งพระพุทธภาษิตได้กล่าวว่า

    บุคคลใดได้สร้างพระพุทธรูปได้สำเร็จด้วยดิน(ปูนปั้น)
    บุคคลนั้นเมื่อละจากโลกนี้ไปแล้วจะได้เป็นเทพยดาผู้มีฤทธิ์

    บุคคลใดได้สร้างพระพุทธรูปให้สำเร็จด้วยศิลา(หินแกะสลัก)
    บุคคลนั้นจักได้เป็นสมเด็จท้าวอมรินทราธิราชเป็นใหญ่ในดาวดึงส์
    บุคคลใดได้สร้างพระพุทธรูปฉายเจ้า(เขียนเป็นรูปภาพ) เขียนด้วยพระบฎ
    บุคคลนั้นจักได้เป็นท้าวมหาพรหม

    บุคคลใดได้สร้างพระพุทธรูปให้สำเร็จด้วยไม้โพธิ์และแก่นจันทร์
    บุคคลนั้นจักได้เป็นใหญ่ในประเทศราช ประกอบด้วยจตุรงคเสนาทั้ง 4
    บุคคลใดได้สร้างพระพุทธรูปให้สำเร็จด้วยทองเหลือง และสัมฤทธิ์
    บุคคลผู้นั้นจักได้เป็นบรมกษัตริย์ มีสมบัติเป็นอันมาก

    บุคคลใดได้สร้างพระพุทธรูปให้สำเร็จด้วยเงิน บุคคลนั้นจะได้เป็นพระมหาจักรพรรดิราช ประกอบด้วยแก้ว 7 ประการ เป็นใหญ่ในแผ่นดินปฐพีทั้งหมด
    บุคคลใดได้สร้างพระพุทธรูปให้สำเร็จด้วยทองคำธรรมชาติปราศจากราคี
    บุคคลนั้นแม้ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าในกาลข้างหน้า ก็อาจสำเร็จตามความปรารถนา


    นี่ก็เป็นอานิสงส์แห่งการสร้างพระพุทธรูปด้วยวัตถุต่างๆ กัน ควรที่ท่านพุทธศาสน

    นิกชนทั้งหลายยินดีปรีดาในกุศลจริยาส่วนนี้ไว้ หรือว่าจะบำเพ็ญให้ยิ่งๆขึ้นไป อันธรรมดาว่าบุญกุศลนั้น จะมากหรือน้อย อันเกิดจากการกระทำของท่านทั้งหลาย ก็ย่อมได้กุศลขึ้นเรื่อยๆ ประดุจดังเราเอาภาชนะไปตั้งกลางแจ้ง เมื่อฝนตกมาทีละหยดๆนานๆเข้าตุ่มนั้นก็เต็ม
    ฉันใดก็ดีบุญก็เหมือนกันฉันนั้น จึงไม่ควรประมาทว่า บุญที่เราสร้างพระพุทธรูปจะได้น้อยกว่าอย่างอื่น บุญกุศลที่สร้างพระพุทธรูปนี้มีอานิสงส์ใหญ่ จะมีไว้บูชาสักการะเคารพกราบไหว้ในบ้านก็ดี หรือจัดสร้างถวายวัดเพื่อเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ก็จะเป็นอนุคามินีตามติดตัวท่านไปในปรภพเบื้องหน้า ให้ท่านประสบสุขมีสุคติสวรรค์ เป็นต้น อีกทั้งในปรภพนี้ท่านก็จะประสบแต่ความสุขความเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ บริวาร ปฏิภาณและธนสารสมบัติเป็นภาชนะทองรองรับในความศรัทธาท่านทั้งหลายที่ได้จัดสร้างพระพุทธรูปนี้เทอญฯ


    การสร้างพระพุทธรูปจะได้บุญอย่างไร

    พระพุทธรูปเป็นสัญลักษณ์แห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจัดเป็นปูชนียวัตถุสูงสุด ผู้สร้างพระพุทธรูปจะได้ประโยชน์ดังนี้

    1. ได้บุญตั้งแต่วินาทีแรกที่คิดสร้างอันประกอบด้วยศรัทธาในพระพุทธองค์จัดเป็นตถาคตโพธิศรัทธา

    2. เมื่อบริจาคทรัพย์ในการสร้างจัดเป็นทานบารมี

    3. เมื่อขวนขวายติดตามตลอดงานจัดสร้างพระปฏิมาจัดเป็นกุศลส่วนเวยยาวัจจมัย

    4. เมื่อองค์พระปฏิมาสำเร็จบริบูรณ์ ได้เป็นที่ตั้งแห่งความตามอนุสรณ์ถึงพระพุทธคุณทั้งตนเองด้วย
    ทั้งผู้อื่นด้วย กุศลจะเกิดเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ได้อาศัยพระพุทธปฏิมา

    5. อำนาจแห่งกุศลที่สร้างพระปฏิมา ส่งผลให้ได้เกิดเป็นคนรูปงาม มีบุคลิกสง่าเป็นที่เคารพรักใคร่
    ของประชาชน และมีอิสริยยศ, บริวาร, ทรัพย์สมบัติตลอดจนความสุขสถาพร ไม่เป็นโรควิกลวิการ

    6. ปิดอบายภูมิ และส่งให้ปฏิสนธิในสุคติภูมิทันที ในสมัยกาลมรณะแล้ว หากมีอารมณ์ในกุศลกิจ
    นั้นมาปรากฏให้จิตยึดก่อนจะจุติ

    7. เป็นการส่งเสริมพุทธศิลป์ ให้เจริญแพร่หลายพุทธศิลปะนั้นในชนที่มีความเจริญทางสติปัญญา
    เขายกย่องว่าเป็นศิลปะอันสุขุมประณีตละเอียดอ่อน เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติธรรม และปัญญา ธรรมบริสุทธิ์

    ที่มา : Uamulet.com : ขออภัยในความไม่สะดวก!!
     

แชร์หน้านี้

Loading...