วัตถุมงคล หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร วัดธรรมมงคล

มีพี่ ๆ ท่านใดรู้จักเหรียญรุ่นญาณวิเศษบ้างครับ

เป็นเหรียญทรงออกจะสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่มุมมนทั้ง 4 ด้านครับ

เป็นเหรียญเนื้อโลหะ สัมริด ด้าหน้าเป็นรูปพระสงฆ์รูปหนึ่งครึ่งองค์ ด้านบนเศียรของท่านเป็นรูปธรรมจักรครับ

ส่วนด้านหลังเป็นรูปยันต์แต่มีแต่ตัวเลขทั้งนั้นเลยครับ ซึ่งตัวเลขในวงรีแนวนอนตรงกลางเขียน 227 ครับ

ด้านล่างของเหรียญด้านหลังเขียนว่ารุ่นญาณวิเศษ เลยแบบว่างงเลยครับ ไม่รู้ของเกจิท่านใด รบกวนท่านผู้รู้ชอบตอบหน่อยนะครับ

ปล. บอร์ดนี้พี่ท่านทั้งหลายอยู่หลายที่มากครับ เลยคิดว่าน่าจะพอทราบน่ะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

 

ถามผิดกระทู้นะครับ น่าจะไปถามที่ ก.ท. วิธีดูเหรียญนะครับ

 

ขอบคุณครับที่แนะนำครับ เดี๋ยวผมจะลองเอาไปลงดูครับ
แต่ที่ผมลงกระทู้นี้เนื่องจากเหตุผลดังนี้
1. ผมคิดว่าหลาย ๆ คนในบอร์ดนี้ก็ไม่ได้เล่นในบอร์ดวิธีดูเหรียญ
2. ในส่วนของหมวดดูเหรียญส่วน ผมคิดว่า ส่วนเซียนจะสนใจดูแต่ของเก่า มีราคา (ซึ่งเหรียญที่ผมเอามาถามน่าจะไม่แพงและยังเก่า)
3. ในบอร์ดนี้ส่วนมากที่ผมสัมผัสมา จะเป็นท่านที่เก็บจากศรัทธาจริง ๆ จึงน่าจะมีความรู้หลากหลายกว่า
4. ผมเคยเอาพระที่ไม่ได้ดังอะไรไปลงในหมวดอื่น ๆ แต่ไม่ได้รับการตอบจนต้องใช้เวลาค้นหา ค้นคว้าเองกว่า 3 ปี จึงรู้ว่าพระที่ตัวเองได้มา ประวัติเป็นยังไงที่ไหนอย่างไร ผมจึงต้องการลงในหลาย ๆ หมวดครับ
ถ้าความคิดเห็นผมผิดอย่างไรก็ขออภัยมานะที่นี้ด้วยครับ

แต่ขอลงรูปอีกทีครับเหรียญที่ว่า

 

ผมไม่รู้แต่เหรียญสวยดีครับ ยันต์สวยแปลกดี น่าสนใจ

 

ขอบคุณครับ ได้รับคำตอบแล้วครับ
เป็นเหรียญของ พระธรรมมงคลญาณ หรือ หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร เจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล พ่อแม่ครูบาอาจารย์สายพระอาจารย์มั่นครับ เนื้อเป็นเนื้อสัมริดครับ คล้ายกับเหรียญของหลวงปู่ลี หลังสมเด็จพระเนรศวรปี 48 ครับ

 

อ๋อหลวงปู่วิริยังค์ พระโขนงใช่มัียครับ ผมผ่านตอนสอบบ่อยไม่เคยเค้าไป เคยอ่านเรื่องท่านตอนที่ตามหลวงปุ่มั่นครับ

 

เข้าใจเจตนาดีค่ะ

เพิ่งเคยเห็นเหรียญแบบนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต....เหรียญสวยงามมากๆค่ะ

 

ใช่แล้วครับ อยู่พระโขนงครับ แต่ยังไม่เคยมีโอกาสไปกราบท่านเลยครับ

 

ขอบคุณมากๆครับที่เข้าใจครับ
พอดีผมศรัทธาพ่อแม่ครูบาจารย์สายวัดป่ามาก ๆ น่ะครับ แล้วเห็นรูปแบบเหรียญน่าจะเป็นสายวัดป่า และเหรียญแบบ และ เนือ้หาสวยดีครับ เลยบูชามาครับ ท่านเป็นศิษย์สายอาจารย์มั่นที่ ทันสมัยอาจารย์มั่นครับ

 

เหรียญสวยดีครับ เคยเห็นอยู่ครั้งนึงเหมือนกันเป็นของเพื่อน

ผมเคยเข้าไปที่วัดมานานมากแล้ว ตอนนั้นไปเช่าพระหยกมา 3 องค์

 

โหเยี่ยมเลยครับ พระหยกท่านที่วัดยังมีไหมครับ ราคาเท่าไหร่ครับ

แล้วของพระท่านเด่นด้านไหนครับ?

 

ไม่ทราบเลยครับ แต่ตอนนั้นท่านนำหินหยก ก้อนเบ้อเร่อมาจากต่างประเทศ

แล้วเอามาแกะเป็นพระให้คนเช่าบูชาอ่ะครับ ผมเช่าเอาไว้ 3 องค์ 3 พิมพ์ (รู้สึกว่าจะมีแค่ 3 พิมพ์นี่แหละ น่าจะออกช่วงปี 253 (2-9) กว่าๆ อ่ะครับ จำไม่ค่อยได้)

เดี๋ยวขอไปหาดูก่อนนะครับ ไม่รู้แจกใครไปรึยัง

 

สนับสนุนข้อมูลครับ

มีสมเด็จคะแนน นางพญา และอะไรอีกจำไม่ได้ครับ

แต่เยอะมากสมควร

 

ถ้ามี ถ้าแบ่งให้บูชาได้จะขอบคุณอย่างสูงครับ

แล้ววัตถุมงคลของท่านเด่นด้านไหนครับ? หรือใครมีประสบการณ์ก็เล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ

 

แหะๆ ยังไม่ได้ไปหาดูเลยอ่ะครับ ไม่รู้แจกใครไปรึป่าวง่ะ

ส่วนเด่นด้านใหนก็ไม่ทราบ เพราะผมได้มาก็เก็บไว้อย่างเดียวเลยครับ

 

ประวัติหลวงพ่อครับ
----------------------------------------
ชาติกำเนิด
พระธรรมมงคลญาณ เดิมชื่อ วิริยังค์ บุญฑีย์กุล เป็นบุตรขุนเพ็ญภาษชนารมย์ กับนางมั่น บุญฑีย์กุล (อุบาสิกามั่น ถึงแก่กรรม พ.ศ. 2520) เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 7 มกราคม 2463 ปีวอก แรม 13 ค่ำ เดือนอ้าย ณ สถานีรถไฟปากเพรียว จังหวัดสระบุรี ต่อมาย้ายมาตั้งหลักฐานที่บ้านใหม่สำโรง อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา มีพี่น้อง 7 คน
ปฐมวัย-ก่อนบวช

วันหนึ่งขณะที่ท่าน มีอายุประมาณ 13 ปี เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง ชวนให้ไปวัดเป็นเพื่อน ขณะที่รอเพื่อนไป ต่อมนต์(ท่องบทสวดมนต์) กับพระอาจารย์กงมา ท่านก็รออยู่ด้วยความเบื่อหน่ายเพราะไปตั้งแต่ 2 ทุ่มกลับเที่ยงคืน จะกลับบ้านเองก็ไม่ได้ เพราะเส้นทางเปลี่ยวและกลัวผี ได้แต่คิดอยู่ในใจว่า "ตั้งแต่นี้ต่อไปไม่มาอีกแล้ว ๆ ๆ " ไม่ช้าก็เกิดความสงบขึ้น ตัวหายไปเลย เบาไปหมด เห็นตัวเอง มี 2 ร่าง ร่างหนึ่งเดินลงศาลาไปยืนอยู่ที่ลานวัด มีลมชนิดหนึ่ง พัดหวิวเข้าสู่ใจ รู้สึกเย็นสบายเป็นสุขอย่างยิ่ง ถึงกับอุทานออกมาเองว่า "คุณของพระพุทธศาสนา มีถึงเพียงนี้เทียวหรือ" แล้วเดินกลับไปที่ร่าง กลับเข้าตัว พอดีเป็นเวลาเลิกต่อมนต์ จึงเล่าให้กับ พระอาจารย์กงมาฟัง พระอาจารย์ก็ว่า "เด็กนี่ เรายังไม่ได้สอนสมาธิให้เลยทำไม จึงเกิดเร็วนัก " ตั้งแต่นั้นมาก็จึงเรียนรู้เกี่ยวกับการทำสมาธิ
ต่อมาวันหนึ่งท่าน ทำงานหนักเกินตัวจึงล้มป่วยเป็นอัมพาต บิดาพยามหาหมอมารักษา แต่ก็รักษาไม่ได้ แพทย์แผนปัจจุบันบอกว่า หมดหวังในการรักษา ท่านได้แต่นอนอธิษฐานอยู่ในใจว่า " ถ้ามีผู้ใดมารักษาให้หาย จากอัมพาตได้ จะอุทิศตน เพื่อพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น " ไม่นานก็ปรากฏว่ามีชีปะขาวตนหนึ่ง มาถามบิดาของท่านว่า "จะรักษาลูกให้เอาไหม" บิดาก็บอกว่า "เอา" ชีปะขาวก็เดินมาหาท่านซึ่งนอนอยู่ พร้อมทั้งกระซิบถามว่า อธิษฐานดังนั้นจริงไหม ท่านก็ตอบว่าจริง จึงให้พูดให้ได้ยินดัง ๆ หน่อย ท่านก็พูดให้ฟัง ชีปะขาวก็เอาไพรมา เคี้ยว ๆ แล้วก็ พ่นใส่ตัวของท่าน แล้วก็จากไป เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ปรากฏว่าท่านรู้สึกว่าจะ กระดิกตัวได้ ทดลองลุก ขึ้นเดินก็ทำได้เป็นที่อัศจรรย์ใจ 7 โมงเช้า ปรากฏว่าชีปะขาว มายืนหลับตาบิณฑบาตอยู่ ที่ประตูบ้าน ท่านจึงนำอาหารจะไปใส่บาตร ชีปะขาว กลับขอให้ท่านพูดถึงคำ อธิษฐานของท่านให้ฟัง เมื่อพูดแล้ว จึงยอมรับบาตร แล้วบอกให้ท่านไปหาที่ ใต้ต้นมะขาม วัดสว่างอารมณ์ เมื่อไปถึงชีปะขาวก็ให้พูดคำอธิษฐาน ให้ฟังอีก แล้วก็พาเดินไปหลังวัด คว้าเอา มีดอันหนึ่งออกไปตัดหางควาย มาชูให้ดู แล้วก็ต่อหางคืนไปใหม่ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พร้อมกับถาม ว่า "ลุงเก่งไหม" ท่านก็ตอบว่า "เก่ง" ลุงจะสอนคาถาให้ แต่ต้องท่องทุกวัน เป็นเวลา 10 ปีจึงใช้ได้ ท่านก็ได้เรียนคาถานั้น แล้วก็บอกว่าพรุ่งนี้ให้ เตรียมใส่บาตร วันรุ่งขึ้นปรากฏว่า ไม่พบ ตาชีปะขาวแล้ว ตั้งแต่นั้นมาท่านก็ไม่ เคยพบกับตาชีปะขาวอีกเลย
บรรพชา

เมื่ออายุประมาณ 15 ปี พ.ศ. 2477 ก็ได้บวชเป็นผ้าขาว บรรพชาเมื่อ 22 พฤษภาคม 2477 ณ วัดสุทธจินดา ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยพระธรรมฐิติญาณ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากบรรพชาได้ 10 วัน ก็ตามพระอาจารย์กงมาออกธุดงค์ ตามป่าเขา ลำเนาไพร เพื่อแสวงหาที่วิเวก เมื่อพบที่สงบ ก็จะหยุดอยู่ทำความเพียร แม้บางครั้งอดอาหารกันอยู่หลายวัน บางครั้งเจอสัตว์ร้าย เจออันตราย หรือหนทางอันยาวไกล เช่นในบางวันเดินธุดงค์ข้ามเขาเกือบ 50 กิโลเมตร ก็ไม่ย่อท้อ โดยถือคติที่ว่ารักความเพียร รักธรรมะมากกว่าชีวิต ครั้งหนึ่งเมื่อออกจากดงพญาเย็น พบโจรกลุ่ม หนึ่งมีอาวุธครบมือมาล้อมไว้ พระอาจารย์กงมาได้เทศน์ สั่งสอนโจร มีอยู่ตอนหนึ่งเทศน์ว่า " พวกเธอเอ๋ย แม้พวกเธอจะมาหาทรัพย์ ตลอดถึง การผิดศีลของพวกเธอนั้น ก็เพื่อเลี้ยงชีวิตนี้เท่านั้น แต่ชีวิตนี้ก็ไม่ใช่ของ พวกเธอเลย มันจะสิ้นกัน ไม่รู้วันไหน เป็นเช่นนี้ทุกคน ถึงพวกเธอ จะฆ่าไม่ฆ่าเขาก็ตาย เธอก็เหมือนกัน มีความดีเท่านั้นที่ใคร ๆ ฆ่าไม่ตาย อย่างเรานี้จะตายเมื่อไหร่ก็ไม่อนาทรร้อนใจ เพราะความดีเราทำมามากแล้ว " ปรากฏว่าพวกโจรวางมีด วางปืนทั้งหมด น้อมตัวลงกราบพระอาจารย์กงมาอย่าง นอบน้อม หัวหน้าโจรมอบตัว เป็นศิษย์ และได้บวชเป็น ตาผ้าขาวถือศีล 8 เดินธุดงค์ไปด้วยกัน จนกระทั่งหมดลมหายใจ ในขณะทำสมาธิ
อุปสมบท

ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2484 ท่านมีอายุ 21 ปี ได้อุปสมบท ณ วัดทรายงาม บ้านหนองบัว อ.เมือง จ.จันทบุรี โดยพระปัญญาพิศาลเถระ (หนู) เจ้าอาวาสวัดปทุมวนาราม กรุงเทพฯ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์กงมาจิรปุญโญเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระมหาทองสุข สุจิตโต เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลวงพ่อได้เดินธุดงค์ติดตามพระอาจารย์กงมาไปในที่ต่าง ๆ เป็นเวลา 8 ปี วันหนึ่ง พระอาจารย์กงมาก็พาท่านเดินธุดงค์จากจังหวัดจันทรบุรีไปจังหวัดสกลนคร เพื่อไปพบพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต หลวงพ่อวิริยังค์ได้รับเลือกให้เป็นอุปัฎฐากอยู่ 4 ปี ได้เดินธุดงค์ร่วมกับพระอาจารย์มั่น เรียนธรรมะ อันลึกซึ้ง ได้จดคำสอนของหลวงปู่มั่นบางตอนไว้ (ปกติท่านห้ามผู้ใดจดเด็ดขาด เมื่ออ่านให้ท่านฟังภายหลังท่าน กลับรับรองว่าใช้ได้) ต่อมาท่านได้เผยแพร่คำสอนนี้แก่สาธารณะชน ในหนังสือที่ชื่อว่า "มุตโตทัย"
สมณศักดิ์

1. พ.ศ. 2507 ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอกที่ พระครูญาณวิริยะ
2. พ.ศ. 2510 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระญาณวิริยาจารย์ (ฝ่ายวิปัสสนา)
3. พ.ศ. 2535 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชธรรมเจติยาจารย์ (ฝ่ายวิปัสสนา)
4. พ.ศ. 2547 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพเจติยาจารย์ (ฝ่ายวิปัสสนา)
5. พ.ศ. 2553 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมมงคลญาณ (ฝ่ายวิปัสสนา)

ผลงาน

1. สร้างวัด 12 แห่งในประเทศไทย
2. สร้างวัดไทยในประเทศแคนาดา 6 แห่ง
3. สร้างวิทยาลัยสงฆ์ 2 แห่ง
4. สร้างสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า)ที่จังหวัดนครราชสีมา
5. สร้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 3000 กว่าแห่งทั่วประเทศ
6. สร้างโรงพยาบาลจอมทอง
7. สร้างที่ว่าการอำเภอจอมทอง
8. สถาบันประถมศึกษาจอมทอง
9. สร้างพระมหาเจดีย์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย วัดธรรมมงคล
10. สร้างพระหยกที่ใหญ่ที่สุดในโลก วัดธรรมมงคล
11. สร้างสถาบันพลังจิตตานุภาพในประเทศไทยและประเทศแคนาดา
12. สร้างสถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์

ผลงานการสร้างวัดในประเทศไทย

1. วัดที่ 1 ปี พ.ศ. 2486 สร้างวัดบ้านห้วยแตน ตำบลหนองเหียน อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ขณะอายุได้ 24 ปี
2. วัดที่ 2 ปี พ.ศ. 2487 สร้างวัดวิริยพลาราม บ้านเต่างอย อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร
3. วัดที่ 3 ปี พ.ศ. 2489-91 สร้างวัดมณีคีรีวงค์ (กงษีไร่) จังหวัดจันทบุรี
4. วัดที่ 4 ปี พ.ศ. 2492-95 สร้างวัดดำรงธรรมมาราม อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรีให้เป็นที่ธุดงค์วิปัสสนากัมมัฏฐาน
5. วัดที่ 5 ปี พ.ศ. สร้างวัดสถาพรพัฒนา (วัดหนองชิ่ม) ตำบลหนองชิ่ม อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี เป็นแหล่งบำเพ็ญสมณธรรมอย่างสงบร่มเย็น
6. วัดที่ 6 ปี พ.ศ. 2506 สร้างวัดธรรมมงคล สุขุมวิท 101 พระโขนง กรุงเทพฯ เป็นวัดแรกที่อยู่ในกรุงเทพนี้เนื้อที่ทั้งหมด 32 ไร่ มีกุฏิบำเพ็ญสมาธิภาวนา 9 หลัง ศาลาการเปรียญ ศาลาเมรุฌาปนกิจสถาน อุโบสถ และที่สำคัญที่สุดคือ พระมหาเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ มีความสวยสดงดงามตามศิลปไทยวิจิตระการตาหาชมได้ยาก สิ้นงบประมาณรวมร้อยล้านบาท มีพระภิกษุสงฆ์พำนักอยู่กว่า 500 รูป และมีโรงเรียนอนุบาล อบรมสอนหนังสือให้แก่นักเรียนกว่า 500 คน
7. วัดที่ 7 ปี พ.ศ. 2512 สร้างวัดผ่องพลอยวิริยาราม สุขุมวิท 105 (ลาซาล) พระโขนง กรุงเทพฯ มีเนื้อที่ทั้งหมดรวม 10 ไร่ มีกุฏิบำเพ็ญสมาธิภาวนา 60 หลัง ศาลาการเปรียญ อุโบสถ หอระฆัง และอื่นๆ
8. วัดที่ 8 ปี พ.ศ. 2512 สร้างวัด สิริกมลาวาส (วัดใหม่เสนานิคม) ซอยเสนานิคม1 ถนนพหลโยธิน ลาดพร้าว กรุงเทพฯ มีกุฏิ 40 หลัง ศาลาปฏิบัติธรรมโรงเรียนสอนพระปริยัติธรรม อุโบสถ มีพระสงฆ์ 400 รูป
9. วัดที่ 9 ปี พ.ศ. 2512 สร้างวัดหนองกร่าง วิทยาลัยสงฆ์กำแพงแสน ตำบลทุ่งลูกนก อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม มีกุฏิ 80 หลัง ศาลาการเปรียญ มีอาคารเรียน 3 หลัง อุโบสถ 2 ชั้น มีพระภิกษุสงฆ์-สามเณรศึกษาอยู่ปัจจุบัน 200 รูป
10. วัดที่ 10 ปี พ.ศ. 2513 สร้างวัดอมาตยาราม (เขาอีโต้) จังหวัดปราจีนบุรี มีเนื้อที่ทั้งหมด 60 ไร่ มีศาลาการเปรียญ กุฏิที่พัก อุโบสถ ฯลฯ
11. วัดที่ 11 ปี พ.ศ. 2513 สร้างวัดแก้วพิทักษ์เจริญธรรม สุขุมวิท103 (อุดมสุข) พระโขนง กรุงเทพฯ มีศาลาการเปรียญ กุฏิที่พัก โรงครัว บ่อน้ำ อุโบสถ
12. วัดที่ 12 ปี พ.ศ. 2514 สร้างวัดชูจิตรธรรมมาราม วิทยาลัยสงฆ์วังน้อย จังหวัดอยุธยา (มหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย) มีเนื้อที่ทั้งหมด 108 ไร่ มีพระภิกษุ-สามเณรศึกษาอยู่ 500 รูป

ผลงานการประพันธ์

1. มุตโตทัย บันทึกคำสอนของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตเถระ
2. ประวัติพระอาจารย์มั่น ภูริทัตเถระ
3. หลักสูตรครูสมาธิ

 

ของผมมีเหรียญหยดน้ำที่ผสมหยก จำไม่ได้ปีไหนเหมือนกันพี่ที่ทำงานให้มา เดี๋ยวกลับไปค้นดูก่อน.............

 

ของจริง นิ่งเป็นใบ้ จะกราบท่านต้องช่วงที่วัดมีงานครับ ไปก่อนวันงานสักวันสองวันก็ได้ไปตอนเช้า ๆ 6-7 โมง ท่านฉันที่ศาลา 84 ปีถ้าไม่มีกิจนิมนต์ ถ้าวัดไม่มีงานใด ๆ ท่านจะไปเผยแผ่วิชาสมาธิที่ต่างประเทศครับ สำหรับที่วัดมีสถาบันพลังจิตตานุภาพสำหรับเผยแพร่วิชาสมาธิครับ วันอาทิตย์มีสอนหลักสูตรหนึ่งวันทุกอาทิตย์ ส่วนวันอื่น ๆ ต้องเรียนเป็นหลักสูตรครับ
พระหยกที่วัดก็น่าจะมีอยู่บ้างครับลองไปดูที่วัดได้ นอกจากนี้ก็ยังมีเหรียญหรือวัตถุมงคลรุ่นเก่า ๆ อยู่บ้าง ลองดูที่ศาลา 84 ปีครับ ตอนนี้ไม่รู้เหรียญติดเกศาที่ให้บูชาเพื่อหาทุนให้กับศูนย์เด็กเล็กหมดหรือยังนะครับ ลองไปดูที่วัดหรือโทรไปสอบถามครับ สถาบันพลังจิตตานุภาพ | ทำสมาธิสร้างพลังจิต เพิ่มกำลังใจ

 

เป็นลูกศิษย์พระอาจารย์หลวงพ่อ ครับ ไม่เคยเห็นเหรียญนี้มาก่อนเลยครับ พึ่งเห็นคราวนี้หละ

 

ถ้าเหรียญน้ำหยด เข้ากรอบ บรรจุพระเกศา หลวงพ่อ ลองโทรไปสถาบันครับ ปีนี้มีโอกาส ร่วมบุญทอดกฐิน สามัคคี บูรณะ พระิวิริยะมงคลมหาเจดีย์กันนะครับ