ทำบุญขึ้นสวรรค์ หรือติดบุญขึ้นสวรรค์กันแน่ ทำบาปตกนรกหรือติดบาปตกนรกกันแน่!!!

ความหมายของผมคือ ติดอยู่ในใจ อาราธนาผู้รู้ช่วยชี้แจงแถลงไขหน่อยครับ สวดให้เต็มญัตติไปเลยครับ

 

หากผิดศีลห้าตกนรกจริงๆ เราหมั่นไส้ใครอยากให้ตกนรก จับกรอกเหล้าหมายความว่าเขากินเหล้าแล้ว กินเหล้าผิดศีลห้าแบบนั้นแปลว่าเขาตกนรกแล้วใช่ไหม ถามแบบกวนๆหน่อยแต่เป็นปัญญา สำหรับผู้ขวนขวายในธรรม ขออภัยล่วงหน้าครับ สำหรับผู้ตอบ หวังว่าผู้อ่านคงจะได้ความรู้มากมาย

 

นรก สวรรค์เป็นความเชื่อเฉพาะของศาสนาพราหม์-ฮินดู เรื่องนี้อาจมีอยู่จริงก็เป็นได้เพราะเคยได้ฟังคำบอกเล่าอาจหลายท่านที่ระลึกชาติมาบ้างแล้ว แต่อย่าหลงมิติแห่งจิตจากความเชื่อนี้เข้าไปละไม่งั้นท่านไม่สามารถรอดพ้นออกจากวัฏจักรแห่งการเวียนว่ายตายเกิดนี้ได้ เรื่องนี้ถูกนำเข้าไปรวมกับศาสนาพุทธด้วย จริง ๆ แล้วพทุธแท้จึงมุ่งเน้นแต่นิพพาน

 

ต้นทุนของกุศลกรรมมีได้ก็เนื่องด้วยมีอกุศลกรรม
ต้นทุนของความสุขมีได้ก็เนื่องด้วยมีความทุกข์
ต้นทุนของความดีมีได้ก็เนื่องด้วยมีความเลว
สวรรค์มีได้ ก็เนื่องด้วยมีนรก

ทุกอย่างที่เป็นคู่ล้วนแต่ทำให้วกวนไม่จบสิ้น ก็นอกเหนือมันทั้งหมดนั่นแหละ ใจน่ะ ก็ "ไม่" ซะอย่างเดียว ไม่ต้องตั้งเอาทั้งบุญหรือบาป อะไรๆก็ช่างมัน เดี๋ยวมันก็จบของมันเอง

 

นรกสวรรค์ เป็นดินแดนของผู้ที่ยัง ยึดติด และ หลง ในความดี ความชั่ว อยู่

กำลังจิตด้านดี กำลังจิตด้านชั่ว ได้เนรมิตดินแดนเหล่านี้ขึ้นมา

--------

แท้จริงแล้ว โลกความเป็นจริงของสรรพสิ่ง ไม่มีตัวตน ไม่มีสิ่งใดมีอยู่

ดวงจิตของเรานี้ ไม่มีรูปร่าง ไม่มีตัวตน

แต่ที่เรายังฝันว่าเราเป็นคน ที่เรายังไปนรก ไปสวรรค์ เพราะเรายังหลง ยังยึดมั่น ว่าเราเป็นคน

เมื่อใดที่เรามีกำลังสติมาก (คือไม่หลง) เมื่อใดที่เรา สามารถละ รัก โลภ โกรธ หลง เราจะไม่ต้องไปสวรรค์ หรือไปนรก

เราจะมองเห็น ความจริงแท้ของสรรพสิ่งได้ เมื่อจิตของเรา ไม่ยึดติดกับการมีอยู่ของสิ่งเหล่านี้ เพราะแท้จริงแล้ว โลกความจริงแท้ของสรรพสิ่ง ไม่มีรูปร่าง ไม่มีแบบแผน ไม่มีตัวตน

พวกเรา เนรมิตสิ่งเหล่านี้มา จากการหลง การยึดติด ของเรา

 

คนที่มีกำลังสติมาก นั่งสมาธิบ่อยๆ พวกเขาสามารถถอดจิตออกจากกายเนื้อได้ ..

แต่.... เขาเหล่านั้น ยังไปมองเห็นสวรรค์ มองเห็นนรก มองเห็นวิมานเป็นทอง เป็นสิ่งสวยงาม เพราะจิตของเขา ยังยึดมั่นในร่างกายเนื้อหนัง ยึดมั่นในความสุข ยึดในการมีตัวตน

แต่หาก เราไม่หลงไหลไปกับสิ่งเหล่านี้ ถ้าเราไม่ยึดในร่างกาย ไม่ยึดว่าเราเป็นคน ไม่ยึดในชั่ว ไม่ยึดในความดี และเรามีกำลังสติมากๆ เราจะมองเห็นความจริงแท้ของสรรพสิ่ง

 

...............................

 

...................................

 

ดูท่าท่านผู้ที่มาตอบนี่จะเกินบารมีสิบหลายท่านนะครับ ยินดีด้วยครับ