:: ถ้าอยากจะฝึกเพื่อเป็นครูสอนมโนมยิทธิที่สายลมสามารถทำได้ไหมครับ ::

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย PrinceCharming, 28 กรกฎาคม 2011.

  1. PrinceCharming

    PrinceCharming เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +773
    ผมคิดอยากสืบต่อปณิธานการสอนมโนมยิทธิของหลวงพ่อต่อ จึงอยากจะฝึกเพื่อเป็นครูสอนที่บ้านสายลมเพื่อสานต่อแนวทางอันประเสริฐนี้ต่อจากครูฝึกรุ่นปัจจุบันที่สายลม ผมควรขอใครหรือครับ การจะขอเป็นครูมีการสอบอารมณ์กับครูฝึกก่อนใช่ไหมครับ
     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    โมทนาในกุศลเจตนานะครับ......

    ส่วนใหญ่ที่ผมรู้นะ(รู้ตามที่เขาบอก)....ครูฝึกที่สายลม...จะเป็นชุดเดียวกับสมัยหลวงพ่อยังดำรงค์ขันธ์อยู่.....เรื่องนี้ต้องยอมรับว่าผมไม่รู้จริงๆนะ....

    เอาไว้อย่างไรไปถามหลวงพี่ท่านที่สายลมสิครับ....
     
  3. nutt_nst

    nutt_nst เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +1,470
    ถ้าคนที่ได้แล้วสอนกันเองนี่หลวงพ่อท่านให้ตั้งพานครูให้ถูกระเบียบก็ใช้ได้แล้วครับ

    แต่ถ้าที่บ้านสายลมนี่ผมไม่เคยไปฝึกเหมือนกันครับเลยไม่รู้ว่าครูที่มาฝึกเป็นใครบ้างแต่เคยได้ยินว่ามีทั้งพระทั้งฆราวาสที่ทันหลวงพ่อเป็นส่วนใหญ่

    แต่ถ้าให้ผมเดาก็คงจะเป็นครูต่อครูถึงวาระเวลาเหมาะสมครูเขาจะเลือกคนมาครอบครูสอนต่อไปเองครับ เพราะระดับเป็นครูที่บ้านสายลมนี่คงต้องคล่องหน่อยหละครับระดับติดต่อหลวงพ่อกับพระได้ทุกที่ทุกเวลา ฉะนั้นผมก็เดาเอาอีกว่าครูก็ต้องถามข้างบนอีกทีว่าจะเลือกใครอะไรยังไง ......ทั้งหมดนี่ก็เดาเอาหละครับ

    อนุโมทนาในจิตอันเป็นกุศลด้วยนะครับ
     
  4. ซาตานคลั่ง

    ซาตานคลั่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    496
    ค่าพลัง:
    +1,449
    ครู ต้องช่ำชองกว่า ศิษย์
    ครู ต้องทันเกม ศิษย์

    ต้องสามารถรู้วาระจิตวาระอารมณ์ของศิษย์ได้โดยไม่ต้องถาม คืออย่างน้อยต้องรู้ว่าการวางอารมณ์ของผู้เรียนในขณะนั้น วางอารมณ์ถูกต้องหรือเปล่า เมื่อวางอารมณ์ถูกจึงค่อยเข้าไปถาม การถาม ไม่ใช่ถามเพื่ออยากรู้ว่าศิษย์รู้อะไรเห็นอะไร แต่ถามเพื่อทดสอบว่า ศิษย์ กล้าพอที่จะตอบหรือไม่ ถ้ายังอ้ำอึ้งก็ต้องตัดขันถ์ห้ากันต่อไป ลดมานะทิฐิกันต่อไป

    ที่กล่าวนี้ไม่ใช่ที่ซอยสายลมนะครับ เพราะผมก็ไม่เคยไป แต่ดูเหมือนว่า หลวงพ่อปานท่านรู้วาระอารมณ์ของลูกศิษย์ทุกคนทั้งที่ท่านอยู่ในกุฏิ แต่ศิษย์ของท่านอยู่ในป่าช้า



    แต่ถ้าเป็นที่บ้านสายลมคงไม่ค่อยมีปัญหานัก(คิดว่านะ)เพราะส่วนใหญ่ก็นัดแนะกันอยู่แล้วเรื่องการวางอารมณ์และการอย่าอยากรู้จนเกินไปเพราะเป็นกิเลศ
     
  5. panuwat_cps

    panuwat_cps เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +433
    ตามที่ผมฟังเทปหลวงพ่อที่แนะนำครูฝึกมา หลวงพ่อท่านบอกว่าถ้าจะเป็นครูฝึกต้องได้เจโตปริยญาณ ก่อนไม่งั้นห้ามเป็นเพราะศิษย์จะเสียผล ตามที่คุณซานต้าคลั่งกล่าวนั้นถูกต้องแล้ว โมทนาในจิตอันเป็นกุศลของเจ้าของกระทูครับ
     
  6. PrinceCharming

    PrinceCharming เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +773
    ไปถามครูฝึกแล้วครับ ครูบอกว่าถ้าเราเกิดมาเพื่อจะทำสิ่งนี้ถึงเวลาก็จะได้ทำเอง ไม่ต้องดิ้นรน เพราะครูเองก็ไม่เคยนึกว่าจะได้มาสอนเหมือนกัน และคนที่จะเป็นครูได้ต้องได้มโนมยิทธิเต็มกำลังและผ่านการสอบอารมณ์ก่อน

    ปล.ครูบอกว่าตอนนี้กำลังหาครูรุ่นต่อไปอยู่ครับ ^^
     
  7. Pan&R

    Pan&R เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +320
    พี่เอง เป็นครูรุ่นแรก ขอเข้ามาคุยเรื่องการเป็นครูฝึกมโนมยิทธิ หน่อยนะคะ เพื่อให้ความรู้แก่คนรุ่นหลัง ใครไม่เป็นครูก็อ่านได้ เป็นความรู้ดีมั๊ยคะ

    การเป็นครูนี่ หลวงพ่อท่านว่า เป็นประโยชน์แก่ตนเองในแง่ที่สนิมไม่ขึ้น เพราะต้องใช้อยู่เสมอ แต่ ตัวพี่เองนี่ คิดว่า การเป็นครู เป็นดาบ 2 คม เพราะอะไร?
    ส่วนดีที่เป็นประโยชน์ คือ เราได้ช่วยเป็นสะพานให้คนฝึกมโนมยิทธิได้สำเร็จ และถ้าบุคคลเหล่านั้น ตั้งใจแน่วแน่จริง เขาก็ไปถึงพระนิพพานโดยเร็ว และได้ฝึกฝนตนเองให้มีความคล่องตัวในมโนมยิทธิอยู่เสมอ

    ด้านลบก็มี มีอย่างไร ตั้งใจฟังแล้วนำไปคิดด้วยนะคะ คนที่เป็นครุนี่ เรียกว่า ยังเป็นปุุถุชน ก็เป็นะรรมดา ย่อมมีความโลภ ความหลง ถ้าคนเขาแสดงความเคารพนับถือมาก มีลาภสักการะมาก ก็อาจมีจิตที่ติดในลาภ สักการะ นี่เป็นกิเลสส่วนหยาบ เขาซักถามปัญหา เราตอบได้ฉอด ๆ ก็อดคิดไม่ได้ว่าเรานี่มันเก่งไม่เบา กิเลสตัวนี้ รุนแรงมาก หลวงพ่อท่านสอนเสมอว่า ยามใดก็ตามที่ลูกคิดว่า ตัวเราดี จงรู้ว่า ขณะนั้น เราเลวเป็นที่สุด คำว่าดี จะไม่มีสำหรับเรา จนกว่าเราจะเข้าพระนิพพาน พระอรหันต์เอง ท่านไม่เคยคิดว่า ท่านดี เห็นมั๊ยคะ
    เพราะอะไร เมื่อเราคิดว่า เราดี เราก็ไม่มีความพวกเพียรแก้ไข การปฎิับัติธรรมเพื่อพระนิพพาน หลวงพ่อบอกว่า ให้ยึดคำว่า "จงกล่าวโทษ โจษความผิดตัวเองเสมอ" ไอ้ที่ดี อย่าไปมอง มองไอ้ที่ยังไม่ดี แล้วเพียรแก้ไขให้จงได้

    หลวงพ่อท่านเน้นว่า การสอนที่ซอยสายลม ให้เป็นครูชุดเดิมเท่านั้น บางคนได้ฟังเทปนี้มาบ้าง ทั้งนี้ ก็เพราะว่า มีท่านที่ได้มโนมยิทธิแล้ว มาแอบอ้างว่า สมเด็จฯ และหลวงพ่อ บอกเธอในสมาธิ ว่า ให้เธอมาช่วยสอนมโนมยิทธิ ก็เคยมีบ่อย ๆ ในสมัยทีึ่หลวงพ่อท่านยังอยู่นะคะ พี่ ในฐานะ ผู้จัดที่ (ในเวลานั้น) ก็ตอบว่า ไม่ได้หรอกค่ะ เพราะเป็นคำสั่งจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ท่านสั่งว่า การสอนที่นี่ให้เป็นครูชุดเดิม ถ้าคุณคิดว่า คุณต้องการมาสอน ก็ขอให้ลงไปกราบขออนุญาต ต่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อก่อน

    การที่หลวงพ่อท่านเคร่งครัดในเรื่องครุฝึก ก็เพื่อประโยชน์ของผู้มาฝึกนะคะ เพราะท่านบอกญาติโยม ว่า คนที่เป็นครูฝึกของท่านนี่ เขาทำมาแล้วหลายชาติ ไม่ใช่แค่ชาตินี้

    ส่วนคนที่่ฝึกได้แล้ว หลวงพ่อท่านอนุญาตให้นำไปสอนหรือเผยแพร่เองได้ (แต่ไม่ใชที่วัดท่าซุง หรือ บ้านซอยสายลม)
     
  8. Pan&R

    Pan&R เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +320
    ทีนี้ขอเล่าว่า การเป็นครู ต้องเป็นอย่างไร ถ้าน้อง ๆ คนไหนอยากเป็นครู ก็ฟังทางนี้ นะคะ
    ครูฝึก ในความหมายของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ คือ คนที่ต้องรักษาศีลให้มั่นคง อย่าให้ศีลขาดหรือเศร้าหมอง เจริญสมาธิสม่ำเสมอ เมื่อเวลาที่จะสอน อันนี้สำคัญมาก
    เวลาที่จะสอน จะต้องไม่สอนด้วยตนเอง หรือใช้กำลังใจของตนเองเป็นสำคัญ
    หลวงพ่อท่านบอกว่า คนที่ยังไม่ได้เป็นอริยเจ้า พูดเรื่องธัมมะ พูดอย่างไรก็ผิด เพราะว่าตัวเองยังไม่ได้เป็นพระอริยเจ้า พระอริยเจ้า ตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไปเท่านั้น ที่จะเข้าใจในธรรม ดังนั้น ถ้าเรารู้ว่า เรายังไม่ได้เป็นพระอริยเจ้า ก็จงอย่าแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับธัมมะ เพราะมันอาจจะผิด ผิดแล้ว ก็จะมีโทษ ในฐานะ ปรามาสในพระธรรม อันนี้ รุนแรงนะคะ ดังนั้น แม้ในกระดานสนทนาะรรม ถ้าเราไปวิจารณ์หรือ ตอบปัญหาธรรม แต่เราตอบผิด อันนี้มีโทษเหมือนกัน ทำให้ผู้อื่นเขาเข้าใจธัมมะของพระพุทธเจ้าคลาดเคลื่อน จึงขอแนะนำว่า เราไม่รู้จริง อย่าร่วมวิจารณ์นะคะ นอกเสียจากว่า เราเคยอ่านพบว่า หลวงพ่อเคยกล่าวในเรื่องนั้น ๆ ไว้ว่าอย่งไร อันนี้จึงจะปลอดภัยกับตัวเอง

    มาว่าเรื่องการสอนกันต่อ เมื่อเราไม่ใช่พระอรหันต์ เราจะไปสอนคนไปนิพพาน เป็นไปไม่ได้ จริงไหมคะ ทำไมครุฝึกเป็นฆราวาส บางทีสอนชาวบ้าน บางทีสอนพระสงฆ์ และท่านปฎิบัติกันได้ วิธีก็ไม่ยาก เพราะว่าเราต้องไม่สอนเอง ไม่ทำเสียเอง

    ครูฝึก จำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องกำหนดจิตไปนิพพานเองก่อน แล้วทำกำลัีงใจของตนเองให้สว่างแจ่มใสเต็มกำลัง เมื่อถึงเวลาที่จะสอน ก็ต้องกราบนมัสการสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ขอพระองค์ทรงเสด็จมาประทับเหนือเศียรเกล้า กราบนมัสการหลวงปู่ปาน และพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ท่านมาด้วย ขอท่านสงเคราะห์กำลัีงใจของเรา (ครูผู้ฝึก) ให้มีความสว่างแจ่มใสเต็มกำลัง และการฝึกในครั้งนี้ ขอท่านโปรดควบกคุม กาย วาจา ใจของเรา เพราะเราขอเพียงเป็นสพาน การแนะนำในการฝึก ขอเป็นเรื่องของท่าน ขอท่านโปรดดลจิตของเราให้แนะนำการฝึกครั้งนี้ ให้เป็นไปอย่างถูกต้อง เหมาะสมกับจริตของผู้ฝึก และมีผลสำเร็จตามพระพุทธประสงค์ ทุกประัการ สิ่งใดที่บรรดาพุทธบริษัทเห็น ขอให้ข้าพเจ้าได้รู้ ได้เห็น และเท่าทัน ผู้ฝึกทุกประการ ด้วย

    ครูฝึกนี่ ฝึกคนทีละหลาย ๆ คน แม้หลวงพ่อท่านกำหนดไว้ ว่า วงละ 7 คน บางที เมื่อคนมาฝึกกันมาก ก็อาจจะต้องรับวงละ สิบกว่า คนก็มี ดังนั้น เราต้องมีจิตที่คล่องตัวเพียงพอที่จะเห็นคน ทุก ๆ คน ว่าเขาไปไหม ตอบจริงหรือ แกล้งตอบ อันนี้สำคัญ เพราะคนที่เขามาลอง แต่ไม่ได้มีศรัทะา ก็มีมากนะคะ
     
  9. Pan&R

    Pan&R เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +320
    ทีนี้ขอเล่าว่า การเป็นครู ต้องเป็นอย่างไร ถ้าน้อง ๆ คนไหนอยากเป็นครู ก็ฟังทางนี้ นะคะ
    ครูฝึก ในความหมายของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ คือ คนที่ต้องรักษาศีลให้มั่นคง อย่าให้ศีลขาดหรือเศร้าหมอง เจริญสมาธิสม่ำเสมอ เมื่อเวลาที่จะสอน อันนี้สำคัญมาก
    เวลาที่จะสอน จะต้องไม่สอนด้วยตนเอง หรือใช้กำลังใจของตนเองเป็นสำคัญ
    หลวงพ่อท่านบอกว่า คนที่ยังไม่ได้เป็นอริยเจ้า พูดเรื่องธัมมะ พูดอย่างไรก็ผิด เพราะว่าตัวเองยังไม่ได้เป็นพระอริยเจ้า พระอริยเจ้า ตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไปเท่านั้น ที่จะเข้าใจในธรรม ดังนั้น ถ้าเรารู้ว่า เรายังไม่ได้เป็นพระอริยเจ้า ก็จงอย่าแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับธัมมะ เพราะมันอาจจะผิด ผิดแล้ว ก็จะมีโทษ ในฐานะ ปรามาสในพระธรรม อันนี้ รุนแรงนะคะ ดังนั้น แม้ในกระดานสนทนาะรรม ถ้าเราไปวิจารณ์หรือ ตอบปัญหาธรรม แต่เราตอบผิด อันนี้มีโทษเหมือนกัน ทำให้ผู้อื่นเขาเข้าใจธัมมะของพระพุทธเจ้าคลาดเคลื่อน จึงขอแนะนำว่า เราไม่รู้จริง อย่าร่วมวิจารณ์นะคะ นอกเสียจากว่า เราเคยอ่านพบว่า หลวงพ่อเคยกล่าวในเรื่องนั้น ๆ ไว้ว่าอย่งไร อันนี้จึงจะปลอดภัยกับตัวเอง

    มาว่าเรื่องการสอนกันต่อ เมื่อเราไม่ใช่พระอรหันต์ เราจะไปสอนคนไปนิพพาน เป็นไปไม่ได้ จริงไหมคะ ทำไมครุฝึกเป็นฆราวาส บางทีสอนชาวบ้าน บางทีสอนพระสงฆ์ และท่านปฎิบัติกันได้ วิธีก็ไม่ยาก เพราะว่าเราต้องไม่สอนเอง ไม่ทำเสียเอง

    ครูฝึก จำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องกำหนดจิตไปนิพพานเองก่อน แล้วทำกำลัีงใจของตนเองให้สว่างแจ่มใสเต็มกำลัง เมื่อถึงเวลาที่จะสอน ก็ต้องกราบนมัสการสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ขอพระองค์ทรงเสด็จมาประทับเหนือเศียรเกล้า กราบนมัสการหลวงปู่ปาน และพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ท่านมาด้วย ขอท่านสงเคราะห์กำลัีงใจของเรา (ครูผู้ฝึก) ให้มีความสว่างแจ่มใสเต็มกำลัง และการฝึกในครั้งนี้ ขอท่านโปรดควบกคุม กาย วาจา ใจของเรา เพราะเราขอเพียงเป็นสพาน การแนะนำในการฝึก ขอเป็นเรื่องของท่าน ขอท่านโปรดดลจิตของเราให้แนะนำการฝึกครั้งนี้ ให้เป็นไปอย่างถูกต้อง เหมาะสมกับจริตของผู้ฝึก และมีผลสำเร็จตามพระพุทธประสงค์ ทุกประัการ สิ่งใดที่บรรดาพุทธบริษัทเห็น ขอให้ข้าพเจ้าได้รู้ ได้เห็น และเท่าทัน ผู้ฝึกทุกประการ ด้วย

    ครูฝึกนี่ ฝึกคนทีละหลาย ๆ คน แม้หลวงพ่อท่านกำหนดไว้ ว่า วงละ 7 คน บางที เมื่อคนมาฝึกกันมาก ก็อาจจะต้องรับวงละ สิบกว่า คนก็มี ดังนั้น เราต้องมีจิตที่คล่องตัวเพียงพอที่จะเห็นคน ทุก ๆ คน ว่าเขาไปไหม ตอบจริงหรือ แกล้งตอบ อันนี้สำคัญ เพราะคนที่เขามาลอง แต่ไม่ได้มีศรัทธา ก็มีมากนะคะ
     
  10. Pan&R

    Pan&R เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +320
    ตอนนี้คงจะเข้ากันบ้างแล้ว นะคะ ว่า การสอน หรือ การแนำนำของครูฝึก ไม่ใช่ครูฝึกสอนเอง ครูฝึก จะต้องขออาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าท่านมาสอน แต่อย่างไรก็ตาม ครูฝึกจะต้องทำตัวให้ตนมีความรู้ คือ ต้องเป็นผู้อ่านมาก ฟังมาก ต้องเข้าใจในสังโยชน์ 10 เข้าใจในกรรมฐาน 40 และ ข้อธรรมต่าง ๆ จึงควรอ่านหนังสือและฟังเทปคำสอนหลวงพ่อให้มาก ๆ เมื่อถึงเวลา พระท่านจะดลใจให้พูดเรื่องอะไร ก็จะสามารถรับการสื่อสารได้ ไม่ใช่ ได้แค่มโนมยิทธิ เต็มกำลัง หรือ ครึ่งกำลัง แต่ไม่อ่านไม่ฟังคำสอนอื่น ๆ อันนี้ ก็ถือว่า ใช้ไม่ได้ เหมือนกัน นะคะ

    ถ้าเรายึดถือพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ และไม่เอาตัวเองมาสอน คนที่มาฝึก เขาถึงจะได้ประโยชน์ การเอาตัวเรามาสอน นี่ เท่ากับเอากิเลสของเราไปให้ชาวบ้าน แล้วเราจะไปไหน ชาวบ้านอาจไปนิพพาน แต่เราเองไม่ได้ไป เพระาต้องไปเริ่มต้นในนรกใหม่ มันก็ไม่คุ้มนะคะ

    นอกจากนี้ ครูฝึก จะต้องเป็นคนเสียสละ และมีความรับผิดชอบ คือ คนเรานี่ บางทีมันก็มีธุระส่วนตัว ไม่สามารถไปสอนได้ทุกนัด แต่ก็ไม่ควรจะขาดนัดมาก เพราะ ถ้าเขาขาดครู คนที่มาฝึก เขาก็ลำบาก ครูที่เหลือ เขาก็ต้องรับภาระมากขึ้น ดังนั้น เมื่อถึงเวลา ก็ต้องมาสอน เพราะการมาสอนนี่ ถือว่า ตัวก็ได้ธรรมทาน ต้องมีความรับผิดชอบ และมาด้วยศรัทธา ไม่ใช่มาด้วยความจำใจมา แม้ว่า มาแล้ว จะเจอคน ยวน ๆ กวน ๆ เราก็ต้องไม่ใส่ใจ
    ถือว่า เรามาเพื่อคนส่วนใหญ่ที่เขามีศรัทธาในการมาฝึกฝน นะคะ

    ครูฝึก ยังแบ่งออกเป็น ผู้ฝึกเบื้องต้น กับฝึกคนที่ได้ไปแล้ว

    การฝึกเบื้องต้น คือ ฝึกผู้ที่ยังไม่เคยฝึกมาเลย หรือ คนที่ยังขาดความมั่นใจ (ซึ่งมีเยอะ) อยากทบทวนการฝึกเบื้องต้นใหม่

    การฝึกผู้ที่ได้แล้ว ก็ต้องแนะนำการฝึก ญาณ 8 และ ท่อง 3 ภพ

    การฝึกแต่ละขึ้น ไม่ใช่ของง่าย และครูฝึก ก็จะใช้ทักษะต่างกัน นะคะ

    สิ่งหนึ่งที่ทุกคนควรจะเข้าใจ คือ
    การฝึกขั้นต้น ก็เพื่อให้คนรู้คุณของการรักษาศีล ตัดสินใจรักษาศีลไม่ได้ ก็ไปไม่ได้ ไปแล้วก็เข้าสถานที่สำคัญไม่ได้ ผู้ปฎิบัติจึงตัดสินใจรักษาศีล จากนั้นแนะนำไปนิพพาน ผู้ปฎิบัติก็จะมีความมั่นใจว่า นิพพาน มีจริง มีสภาพไม่สูญ ก็มีกำลังใจที่จะทำความดี เพราะต้องการไปนิพพาน และผู้ที่ไปได้ ก็จะรู้ว่า นิพพาน มีความสุขเพียงไร จึงมีกำลังใจที่จะทำความดี ละความชั่ว เพื่อจะได้นิพพาน ในที่สุด การสอนเบื้องต้นนี้ ครูจึงต้องปลูกฝัง คติ และมีวิธีการให้กำลังใจแก่ผู้ฝึก ด้วยการให้ผู้ฝึกยึดพระพุทธเจ้า และครูบาอาจารย์ (หลวงปูและหลวงพ่อ) ให้มั่นคง จะไปจุดไหน อย่าให้เขาใช้กำลังใจตัวเอง เพราะมีโอกาสผิดพลาดได้ และต่อไป เขาจะคิดว่า เขาเก่ง ซึ่งแปลว่า เจ๊ง หรือ พัง นั่นเอง ดังนั้น ครูฝึกเองก็ดี ผู้มาฝึกก็ดี จะต้องยึดพระพุทธเจ้า หรือ ครูบาอาจารย์ ในการใช้กำลังใจดูนั่นหรือนี่ จงอย่าได้พยากรณ์สิ่งใดด้วยตนเองเป็นอันขาด ตรงนี้ เป็นหัวใจสำคัญ นะคะ

    ส่วนการสอน ท่อง 3 ภพ บางคนเรียก ท่องเที่ยว ฟังแล้ว ก็ชวนให้คนที่เขาไม่ศรัทธาวิพาก วิจารณ์กันว่า มีพาไปเที่ยวด้วยหรือ แต่ก็ช่างเขา เรื่องของเขา การสอนท่อง 3 ภพ เป็นขั้นต่อไปจากการฝึกเบื้องต้น ทั้งนี้ ก็เพื่อให้คนที่ฝึกขั้นต้นได้แล้ว ได้มีทักษะในการใช้มโนมยิทธิได้คล่องตัวขึ้น และได้เรียนรู้เพิ่มเติม ว่า ภพภูมิ ที่เป็น สุขติ มีกี่ภูมิ แต่ละภูมิ มีสภาพเป็นอย่างไร ทำกุศลอะไร จึงได้มาอยู่ที่นี่ ในทางกลับกัน ได้ศึกษา อบายภูมิ ว่ามีอะไรบ้าง ผู้ตกอบายภูมิ เขามีสภาพทุกอย่างไร เขาทำกรรมอะไรมา ก็เพื่อให้เป็นอุทธาหรณ์สอนใจว่า ถ้าตัวเราเอง ยังประมาท ไม่รักกำลังใจให้ตั้งอยู่ในความดี หรือ ละกรรมบถ 10 เราก็ยังไม่พ้นอบายภูมิเหมือนกัน ก็จะช่วยให้บรรดาท่านที่มาฝึก มีความเกรงกลัวในผลของบาปกรรม และเพียรพยายามหลีกเลี่ยง ความชั่ว ขวนขวายทำกุศลกรรมให้เกิดขึ้นกับตัวเอง นะคะ

    ทีนี้ มาถึงญาณ 8 ที่สำคัญมาก
    คนที่ฝึกมโนมยิทธิ ขั้นต้นได้แล้วนี่ จะได้ญาณ 8 แต่ใช้่ไม่เป็น ก็ต้องไปฝึกว่า เขาใช้อย่างไร และใช้เพื่ออะไร ญาณ 8 ก็มี ทิพย์ขักขุญาณ ซึ่งแปลว่า มีความรู้สึกทางใจ คล้ายตาทิพย์ แต่ลูกตาไม่ได้เป็นทิพย์ ก็ทำให้จิตของท่าน สามารถเห็นผี เห็นเทวดาได้ เห็นสวรรค์ นรก พรหม หรือ นิพพานได้ ก็จะไม่ขอบรรยายทั้งหมด แต่ญาณ เหล่านี้ จะทำให้ท่าน ระลึกชาติได้ ดูอดีตของสถานที่ได้ ดูอนาคตได้ อันนี้ รู้ไปเพื่ออะไร? ตรงนี้ ที่มีความสำคัญ ถ้าท่านฝึกระลึกชาติ ไปดูแต่ชาติที่เป็นเจ้าหญิง เจ้าชาย เป็นเศรษฐี เป็นบุคคลสำคัญหรือ ลูกหลายบุคคลสำคัญ อันนี้ ถือว่า ยังใช้ไม่ได้ ไม่ตรงทาง การระลึกชาติ ก็เพื่อจะตามศึกษาดูว่า ชาติที่เราเกิดมาดี มีตระกูล ตอนจะตาย เรามีอาการอย่างไร มันทุกข์ไหม? ตายแล้วไปไหน ไปดี หรือ ไปเลว? เพราะทำกรรมอะไร? ชาติที่เราเป็นยาจกเข็ญใจมีไหม เรามีสภาพอย่างไร มันทุกข์ขนาดไหน อาการตอนตายเป็นอย่างไร ตายแล้วไปไหน? ชาติที่เกิดมาเป็นหมาขี้เรื้อน เป็นสัตว์เดียรรัจแนที่น่ารังเกียจมีไหม ? เพราะเราทำอะไรมา? ดูไปทั้งหมดนี้ ก็เพื่อที่ปลงธรรมสังเวช เพื่อให้เกิดความรู้ว่า การเวียนว่ายตายเกิดนี่มันไร้สาระ มันเป็นทุกข์ และก็จบลงด้วยความตาย แล้วเราจะเกิดมาอีกเพื่ออะไร สู้ไปนิพพานดีกว่า
     
  11. Pan&R

    Pan&R เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +320
    คนที่จะสอนเขานี่ ถ้าสอนเองนอกวัด ก็ต้องสอนเขาให้ครบหลักสูตร ก็ต้องถามว่า ท่านจะพาท่อง 3 ภาพ ท่านก็ต้องคล่องในสถานที่เหล่านั้นด้วย ต้องไปที่ไหน ทำอย่างไร ก็ต้องทำให้ถูก นะคะ การจะสอนญาณ 8 นี่เป็นเรื่องใหญ่อีกเหมือนกัน ถ้าทำไม่ถูก พาสอนนอกหลักสูตร ท่านก็ลงนรกได้สบาย ๆ เหมือนกัน นะคะ

    ทีนี้ ขอพูดถึงการสอบถาม หรือ สนทนาธรรม หลังกรรมฐาน นี่เป็นเรื่องที่ครูทุกคนจะต้องเจอ เพราะคนที่ฝึก แต่ละครั้งนี่ เขาย่อมจะมีข้อสงสัย แต่ก็จะถามได้เมื่อหลังกรรมฐานแล้ว ท่านจะต้องเตรียมตัวตอบ และอธิบายข้อซักถามได้อย่างถูกต้อง

    ทีนี้ ถ้าท่านไม่ได้อ่านมามาก ไม่ได้ฟังมามาก ท่านจะตอบปัญหา หรือ ข้อติดขัด ข้อสงสัยของบรรดาผู้ฝึกได้หรือไม่? การตอบ ท่านต้องตอบอย่างไร ก็ขอบอกว่า การจะตอบคำถาม ถ้าตอบเอง ก็มีสิทธิ์ ตอบผิดเหมือนกัน เพราะครูฝึก ยังไม่ได้เป็นพระอรหันต์ และไม่ใช่พหูสูตร ครูฝึกจะต้องตอบโดยอ้างอิงว่า เรื่องนี้ หลวงพ่อท่านเคยตอบ เคยอธิบายไว้ว่าอย่างไร จำไว้นะคะ ครูฝึกที่ดี จะไม่ตอบคำถามเอง จะต้องตอบว่า เรื่องนี้ หลวงพ่อท่านเคยตอบไว้ว่าอย่างนี้

    ก็ด้วยเหตุผลนี้แหละค่ะ หลวงพ่อท่านจึงไม่ได้อนุญาตให้บุคคลทั่วไป มาเป็นครุฝึกสอนที่วัดท่าซุง หรือ ซอยสายลม เพราะแต่ละขั้นตอน ไม่ใช่เรื่องง่าย คนที่เป็นครูฝึกประจำสำนัก ก็ได้ยินได้ฟังหลวงพ่อท่านมามาก แต่ละเรื่องก็ฟังซ้ำแล้ว ซ็ำอีก ขนาดนั้น ก็ไม่มีปัญญาจะจำได้หมด ก็ต้องหมั่นอ่านหลวงพ่อตอบปัญหาด้วย มีกี่เล่มควรอ่านให้หมด

    ถ้าเขาถามมา ครูฝึกเอง ก็ไม่รู้เหมือนกัน จะทำอย่างไร? ควรตอบว่า อันนี้ไม่รู้เหมือนกัน ขอไปฝึกษาดูก่อนแล้วจะให้คำตอบทีหลัง ต้องไม่กลัวเสียหน้า ถ้ากลัวเสียหน้า ก็พยายามตอบตามความเข้าใจของตัวเอง นี่ อาจเจ๊งได้ คือ ถ้าตอบผิด ก็มีโทษ ปรามาสในพระธรรม และทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดในพระธรรมไปด้วย ครูก็ไปลงนรก ลงกันง่าย ๆ แบบนี้ ดีมั๊ยคะ

    ดังนั้น ก็ขอให้ความรู้แก่ท่านที่อยากเป็นครูฝึก ถ้าท่านจะฝึกฝนตนเองเป็นครูฝึก ก็ขอให้เข้าใจและทำตามนี้ให้ได้ ท่านก็สามารถจะเป็นครูฝึกที่ดีได้ นะคะ แต่ถ้าคิดว่าทำไม่ได้ ท่านก็จงเอาตัวเองให้รอดก่อนดีกว่า เร่งรัดปฎิบัติตนให้สำเร็จในพระโสดาับัน ปิดประตูอบายภูมิเสียก่อนจะดีกว่า อย่าไปคิดว่า การเป็นครูฝึกแล้วจะดี หรือ ได้บุญมากอะไรเลย นะคะ
    การสงเคราะห์คนในธรรม หรือ ธรรมทาน ทำได้อีกหลายวิธี ก็พิจารณากันดู นะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 สิงหาคม 2011
  12. ขาโจ๋ข้าเอง

    ขาโจ๋ข้าเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    244
    ค่าพลัง:
    +4,856
    โมทนาด้วยขอรับ เป็นครูรุ่นแรกๆด้วย แถมมาตอบปัญหาให้หายข้องใจด้วยโมทนาดด้วยเป็นอย่างสูงขอรับ
     
  13. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    อนุโมทนากับคุณครูฝึกรุ่นแรกด้วยค่ะ และเห็นด้วยกับสิ่งที่คุณครูกล่าวมาทั้งหมดค่ะ สาธุ
     
  14. viphard

    viphard เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2010
    โพสต์:
    951
    ค่าพลัง:
    +1,877
    โมทนา ในจิตกุศลครับ การเป็นครูนี่ปิดทองหลังพระสุดๆครับ
     
  15. siranyapat

    siranyapat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2009
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +382
    อนุโมทนาสาธุกับครูรุ่นแรกค่ะหวังว่าคงมีโอกาสเป็นศิษย์ท่านนะคะคงไม่นานนี้แหล่ะค่ะเพราะตั้งใจมานานแล้ว รอลูกสาวคนเล็กเข้ามหาลัยฯปีนี้ก่อนค่ะ เคยไปปี่ที่แล้วเสาร์ห้าที่วัดท่าซุง คิดว่าฝึกเต็มกำลังคงหมายถึงอาจารย์ช่วยหมดแต่ที่ไหนได้เราต้องช่วยตัวเองหมดเลยแป๊วๆๆๆทั้งครอบครัว(พาครอบครัวไปหมดค่ะ)อยู่อุบลฯทางไกลมากเลยไม่ค่อยสะดวกค่ะแต่ก็จะไปอีกให้ได้ค่ะ
     
  16. siranyapat

    siranyapat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2009
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +382
    ก็เคยสงสัยอยู่เหมือนกันว่าครูที่ฝึกให้จะเป็นยังไงแต่ก็มั่นใจเพราะเคยอ่านเจอว่าหลวงพ่อท่านและครูบาอาจารย์คอยดูแลอยู่ก็วางใจแต่เมื่อครูอธิบายชัดอย่างนี้ยิ่งมั่นใจมากขึ้นเลยค่ะว่าต้องไปให้ได้ๆๆๆ ถ้ามีวาสนาต่อกันคงได้เจอครูนะคะ ขอเป็นศิษย์ล่วงหน้าค่ะ
     
  17. nutt_nst

    nutt_nst เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +1,470
    เอาใจช่วยคุณ PrinceCharming ครับ ตอนนี้ผมแนะนำว่าเอาญาณ 8 ให้คล่องสุดๆไปเลยครับ เมื่อวาระเวลามาถึง จะได้เป็นที่พึ่งของศิษย์ได้ครับ ^^

    :cool::cool:
     
  18. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    โมทนาสาธุกับท่านครูฝึกรุ่นแรกนะครับ....

    เสียดายหลวงพ่อท่านไม่ได้สั่งเอาไว้นะครับ....ว่าให้ฝึกครูฝึกใหม่.....ถ้าอย่างนี้รุ่นเก่าไปหมด....ก็สิ้นวงศ์เลย....มันน่าเสียดายนะครับ....

    หลวงพี่นันต์ ท่านไม่ปรับหาทางออกข้อนี้ไว้บ้างเหรอครับ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2011
  19. nichaojung

    nichaojung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    392
    ค่าพลัง:
    +8,247
    ซักวันบุญบารมีคงจะถึงนำพาให้ไปฝึกมโนมยิทธิครับ
     
  20. Pan&R

    Pan&R เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +320
    ที่จริง ทางวัดมีครุฝึกรุ่นใหม่ ๆ หลายคนทีเดียวค่ะ เริ่มเป็นครูกันได้หลายปีแล้ว ส่วนใหญ่ ครูฝึกจะเป็นผู้หญิงนะ ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน เคยมีครูที่เป็นผู้ชาย ก็สอนไม่นาน ก็เลิกไป ด้วยมีภารกิจต่าง ๆ เลยมีแต่ผู้หญิง นะคะ

    เรื่องการเป็นครูฝึก มีเกร็ดย่อยมีกเยอะ นี่พี่เล่าเฉพาะย่อ ๆ นะคะ ถ้าใครสนใจอยากรู้การปฎิบัติในการเป็นครูฝึก ก็สอบถามพี่เป็นการส่วนตัวได้ ไม่มีปิดบัง นะคะ
    สมัยก่อน หลวงพ่อท่านสอนเข้มกับพวกครูฝึกมาก ๆ แรก ๆ นี่ ท่านไม่เรียกพวกเราว่าครูฝึกเลย ท่านเรียกว่า ผู้แนะนำในการฝึก ท่านกันไม่ให้พวกเรามีมานะ ถือตัว ถือตน ว่าเราเป็นครู เพราะอย่างไร "ครู" ของมโนมยิทธิ นี่ คือ สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ท่าน และ หลวงพ่อ

    ภายหลัง ซึ่งก็หลายปีมาก ท่านจึงเรียกว่า "ครูฝึก" ดังนั้น ครูจะต้องสำนึกไว้ในใจตนเสมอ ว่า เราเป็นเพียงผู้แนะนำ และเราต้องถือว่า คนที่เราช่วยแนะนำนั้น เขาเป็นลูกศิษย์ หลวงพ่อ เป็นสาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่ ลูกศิษย์ ของเรา

    ส่วนการจะเข้าเป็นครูใหม่ ของวัด ทำอย่างไร อันนี้พี่ไม่ทราบ เพราะไม่ใช่ภารกิจของพี่ นะคะ พี่รู้แต่ว่า ใครประสงค์จะทำภารกิจนี้ น่าจะไปกราบเรียนถามท่านเจ้าอาวาสวัดท่าซุง โดยตรง เวลาที่ท่านมาบ้านสายลมก็ได้ อย่าอาย เราถามแบบสำหรับบุคคลทั่ว ๆ ไป ไม่เฉพาะว่าเป็นตัวเราเอง นี่พี่ว่า ถามได้ นะคะ

    แต่ถ้าใครได้เป็นครูแล้ว พี่ก็ขอปรวนาตนเอง ว่า พี่ยินดี เล่าประสบการณ์ และคำสอนหลวงพ่อ ที่สอนพวกเราในสมัยนั้น ให้น้อง ๆ ฟัง เพื่อที่พวกเราจะได้สามารถจรรโลง จริยา มรรยาท และวิธีปฎิบัติที่ถูกต้อง สำหรับคนรุ่นหลัง ๆ ต่อไปค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...