ทริป วันวิสาขบูชา และ พิธีกรรม วัดท่าซุง

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย gatsby_ut, 28 พฤษภาคม 2010.

  1. gatsby_ut

    gatsby_ut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    821
    ค่าพลัง:
    +14,291
    วันวิสาขบูชา

    ต ร ง กั บ วั น ขึ้ น ๑ ๕ ค่ำ เ ดื อ น ๖


    [​IMG]


    ความหมาย คำว่า "วิสาขบูชา" หมายถึงการบูชาในวันเพ็ญเดือน ๖ วิสาขบูชา ย่อมาจาก " วิสาขปุรณมีบูชา " แปลว่า " การบูชาในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ " ถ้าปีใดมีอธิกมาส คือ มีเดือน ๘ สองหน ก็เลื่อนไปเป็นกลางเดือน ๗ <O:p
    ความสำคัญ วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญยิ่งทางพระพุทธศาสนา เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ คือเกิด ได้ตรัสรู้ คือสำเร็จ ได้ปรินิพพาน คือ ดับ เกิดขึ้นตรงกันทั้ง ๓ คราวคือ

    [​IMG]

    ๑. เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะ ประสูติที่พระราชอุทยานลุมพินีวัน ระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์กับเทวทหะ เมื่อเช้าวันศุกร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีจอ ก่อนพุทธศักราช ๘๐ ปี

    <O:p[​IMG]

    </O:p๒. เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้าเมื่อพระชนมายุ ๓๕ พรรษา ณ ใต้ร่มไม้ศรีมหาโพธิ์ ฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ในตอนเช้ามืดวันพุธ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีระกา ก่อนพุทธศักราช ๔๕ ปี หลังจากออกผนวชได้ ๖ ปี ปัจจุบันสถานที่ตรัสรู้แห่งนี้เรียกว่า พุทธคยา เป็นตำบลหนึ่งของเมืองคยา แห่งรัฐพิหารของอินเดีย

    [​IMG]

    <O:p
    ๓. หลังจากตรัสรู้แล้ว ได้ประกาศพระศาสนา และโปรดเวไนยสัตว์ ๔๕ ปี พระชนมายุได้ ๘๐ พรรษา ก็เสด็จดับขันธปรินิพพาน เมื่อวันอังคาร ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะเส็ง ณ สาลวโนทยาน ของมัลลกษัตริย์ เมืองกุสินารา แคว้นมัลละ (ปัจจุบันอยู่ในเมือง กุสีนคระ) แคว้นอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย

    [​IMG]

    นับว่าเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง ที่เหตุการณ์ทั้ง ๓ เกี่ยวกับวิถีชีวิตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งมีช่วงระยะเวลาห่างกันนับเวลาหลายสิบปี บังเอิญเกิดขึ้นในวันเพ็ญเดือน ๖ ดังนั้นเมื่อถึงวันสำคัญ เช่นนี้ ชาวพุทธทั้งคฤหัสถ์ และบรรพชิตได้พร้อมใจกันประกอบพิธีบูชาพระพุทธองค์เป็นการพิเศษ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณ พระปัญญาธิคุณ และพระบริสุทธิคุณ ของพระองค์ท่าน ผู้เป็นดวงประทีปของโลก


    <CENTER>หมายกำหนดการ งานทำบุญวันวิสาขบูชา วัดท่าซุง </CENTER><CENTER></CENTER><CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER></CENTER><CENTER>พิธีไหว้ครู และ พิธีสะเดาะพระเคราะห์ </CENTER><CENTER>วันศุกร์ที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ( ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ )</CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER>
    เวลา ๐๖.๐๐ น. เจ้าหน้าที่ร้านอาหาร "กองทุน" ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ ณ สวนไผ่

    เวลา ๐๗.๐๐ น. พระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ พร้อมด้วยพระสงฆ์ ๓ รูป ลงรับสังฆทาน
    ที่ศาลา ๑๒ ไร่ (ส่วนที่วิหาร ๑๐๐ เมตร เริ่มเวลา ๐๙.๐๐ น. - ๑๖.๐๐ น.)

    เวลา ๐๗.๔๕ น. ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ ขณะที่พระสงฆ์ฉันภัตตาหาร เปิด วี.ดี.โอ. เทป พระธรรมเทศนา โดย พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    เวลา ๐๙.๕๐ น. พระครูปลัดอนันต์ เจ้าอาวาส ทำพิธีบวงสรวง เนื่องในพิธีไหว้ครู และพิธีสะเดาะเคราะห์ ณ ศาลา ๑๒ ไร่ เวลา

    ๑๐.๐๐ น. ทำพิธีไหว้ครู และทำพิธีสะเดาะเคราะห์ รอบที่ ๑ ณ ศาลา ๑๒ ไร่เวลา

    ๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตหารเพลแด่ พระสงฆ์ ที่ใต้อาคาร ๑๒ ไร่ เวลา

    ๑๔.๐๐ น. ทำพิธีไหว้ครู และทำพิธีสะเดาะเคราะห์ รอบที่ ๒ (รอบสุดท้าย) เวลา

    ๑๘.๓๐ น. พระครูปลัดอนันต์ พร้อมด้วยพระสงฆ์และญาติโยมเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ

    วันเสาร์ที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ( ตรงกับวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ )


    <DD>เวลา ๐๖.๐๐ น. เจ้าหน้าที่ร้านอาหาร "กองทุน" ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ที่สวนไผ่<DD>
    เวลา ๑๑.๐๐ น. พระสงฆ์ฉันภัตตาหารเพลที่หอฉัน


    <DD>
    หมายเหตุ พิธีสะเดาะเคราะห์ในวันที่ ๒๘ พฤษภาคม จัดเป็นแบบพิธีรับพระเสวยอายุ (ใช้เครื่องบูชา มีธงสี ข้าตอก ดอกไม้ และ ธูปเทียน)

    <DD>
    รูปถ่ายส่วนหนึ่ง ในวันงาน ถ่ายรอบเช้า ครับ
    <DD>
    คลิกเพื่อดูภาพขยาย


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    <DD>
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    ความเป็นมา เรื่องเคราะห์กรรม
    คำว่า เคราะห์กรรม เป็นวิธีเรียกของพรหมณ์ ทางพระพุทธศาสนาเรียกว่า กฏของกรรม คณาจารย์ต่างๆ เรียกไม่เหมือนกันแต่ผลมันเหมือนกัน นั่นคือ ความทุกข์ ถ้าอยากทราบว่า ความทุกข์มาจากไหน ก็จะเล่าให้ฟัง


    <DD>
    ประการแรก การป่วยไข้ไม่สบายทางร่างกาย มาจากกรรมปาณาติบาต การฆ่าสัตว์ตัดชีวิต


    <DD>
    ประการที่ ๒ ความทุกข์เกิดจากไฟไหม้บ้าง ขโมยปล้น ขโมยจี้ ลมพัดให้บ้านพัง น้ำท่วม มาจากโทษอทินนาทาน การลักขโมยของเขาจากชาติก่อน

    ประการที่ ๓ เคราะห์กรรมที่ทำให้คนใต้บังคับบัญชาดื้อด้าน ว่ายากสอนยากไม่เชื่อฟัง มาจากโทษกาเมสุมิจฉาจาร เจ้าชู้จัดในชาติก่อน

    <DD>ประการที่ ๔ เราพูดดีแต่คนอื่นไม่ชอบฟัง ไม่เชื่อฟัง มาจากโทษมุสาวาทจากชาติก่อน


    <DD>
    ประการที่ ๕ การเป็นโรคปวดหัวบ่อยๆ หรือโรคประสาทก็ดี เป็นบ้าก็ดี เป็นโทษมาจากกฏของกรรม คือ ดื่มสุราเมรัย ในชาติก่อน อันนี้เป็นหลักหยาบๆ หลักใหญ่นะ


    <DD>
    อย่างคนตาบอด ในสมัยชาติก่อน เขาทำบุญเห็นแล้ว แกล้งทำเป็นไม่เห็น อย่างคนหูหนวก เขาทำบุญสุนทาน เขาฟังเทศน์ฟังธรรมกันแกล้งส่งเสียงกลบ เขาฟังเทศน์ฟังธรรม เขาคุยกันด้วยความเคารพในธรรม เราแกล้งส่งเสียงกลบ เกิดเป็นคนหูหนวก ๕๐๐ ชาติอย่างนี้เป็นต้น
    ก็รวมความว่า ขึ้นชื่อว่า เคราะห์กรรม คือ กฏของกรรมเก่าของเราในชาติก่อน คนทุกคนที่เกิดมานี้ที่ไม่มีกรรมเก่า ที่กรรมไม่ดี ไม่มีนะ ไม่เคยทำบาปนี้ไม่มี...(เนื้อหาซ้ำกันกับข้างต้นจึงขอข้ามไป)...


    <DD>
    ทีนี้คำว่า สะเดาะเคราะห์ หมายความว่าทำให้เคราะห์หมด คำว่าสะเดาะเคราะห์ไม่มีศัพย์ในทางพระพุทธศาสนา เป็นศัพย์ของคณาจารย์ต่างๆ ในทางพระพุทธศาสนาไม่มี ในเมื่อไม่มี ทำไมวัดท่าซุงจีงบอกว่า สะเดาะเคราะห์ ก็เลยบอกว่าพูดตามเขา ทีนี้การทำคราวนี้ไม่ใช่สะเดาะเคราะห์ เป็นการสร้างความดี ความโชคดีให้เกิดขึ้น คือ หมายความว่าทำบุญให้มีกำลังสูง


    <DD>
    คำว่า เคราะห์ คือ บาป เราล้างไม่ได้แต่ถ้าหากว่าทำความดีให้มีกำลังสูงกว่า คำว่า เคราะห์จะเปรียบเทียบให้ฟัง เหมือนกับคนยืนอยู่กลางแดดจัดๆ เวลานี้อยู่ในร่มมันก็ร้อน ถ้ายืนกลางแดดมันก็ร้อน ถ้าทำบุญน้อยๆ ก็เหมือนกับมีร่มเล็กๆ ไปกางบังอยู่มันก็เย็นไปหน่อยหนึ่ง ทำบุญที่มีอานิสงส์มากๆ ก็เหมือนกับมีคนเอาน้ำไปราดให้ ก็มีความเย็น ถ้าทำบุญที่มีกำลังสูงใหญ่อย่างเรา เจริญกรรมฐานเหมือนกับเราแช่ในอ่างน้ำ ถึงเราจะอยู่กลางแจ้ง กลางแดด ความร้อนมันก็น้อยไป ข้อนี้ฉันใด การสะเดาะเคราะห์ก็เหมือนกัน การสะเดาะเคราะห์ไม่ได้ทำให้หมดไป


    <DD>
    ตัวอย่าง : ในสมัยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระชนม์อยู่ ในครั้งหนึ่งองค์สมเด็จพระบรมครูทางเทศน์เรื่อง กายคตานุสสติกรรมฐาน กับ อสุภกรรมฐาน สองอย่าง คำว่า กายคตานุสสติกรรมฐาน หมายถึงการพิจารณาร่างกายของตนเอง อสุภกรรมฐาน ให้เห็นว่าร่างกายทุกคนเต็มไปด้วยความสกปรกโสโครกทั้งหมด พระ ๖๐ องค์เศษๆ ฟังแล้วพิจารณาตามเกิดความสลดใจเห็นว่าร่างกายของคน มีความสกปรกมาก มีความเบื่อหน่าย หลังจากเทศน์จบองค์สมเด็จพระจอมไตร ทรงบอกว่า นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ฉันจะเข้าไปอยู่ในถ้ำ ๑๕ วัน ขณะที่อยู่ในถ้ำ ๑๕ วันห้ามมิให้คนอื่นเข้าพบ นอกจากพระที่ส่งอาหาร
    บรรดาพระ ๖๐ องค์เศษๆ เหล่านั้น เมื่อฟังเทศน์จบก็พิจารณาร่างกายว่ามันสกปรก มีความรักเกียจร่างกายมาก ท่านเปรียบเทียบบอกว่า เหมือนหนุ่มสาวที่อาบน้ำใหม่ๆ แต่งตัวสวยๆ และมีคนเอางูเน่ามาคล้องคอ หรือเอาสุนัขเน่ามาแบกที่บ่าหรือใส่ที่บ่า มีความรังเกียจขนาดนั้น ในที่สุดก็ฆ่าตัวตายเองบ้าง จ้างคนอื่นฆ่าบ้าง พอครบ ๑๕ วันพระพุทธเจ้าก็ออกจากถ้ำ ก็มีพระถามว่า การที่พระองค์ทรงเทศน์กายคตานุสสติ อสุภกรรมฐานทั้งสองอย่างทรงทราบหรือไม่ว่าพระ ๖๐ องค์เศษๆ จะฆ่าตัวตาย หรือจ้างคนอื่นฆ่าตัวตาย พระพุทธเจ้าบอกว่าทราบ ในเมื่อทรงทราบพระก็ถามว่า ทำไมจึงเทศน์ว่าเขาจะฆ่าตัวตาย พระพุทธเจ้าท่านก็บอกว่า ขึ้นชื่อกฏของกรรม ไม่มีใครหนีพ้น จะเทศน์อย่างนั้นหรือไม่เทศน์ก็ตาม เขาก็ต้องฆ่าตัวตาย หรือจ้างคนอื่นฆ่าตัวตาย เพราะกฏของกรรมเดิม กรรมเดิมที่พระพวกนี้เคยเป็นพรานฆ่าเนื้อ ฆ่าสัตว์มาก่อน มันติดตามมาทัน เขาต้องตายแบบนั้น


    <DD>
    ฉะนั้นก่อนจะตาย ตถาคตจึงเทศน์กายคตานุสสติกรรมฐาน อสุภกรรมฐานสองอย่างรวมกัน ให้เขาพิจารณาเบื่อในร่างกาย ในเมื่อเขาตาย เขาไปนิพพานไม่ดีกว่าหรือ
    ทีนี้การทำคราวนี้ ก็เช่นเดียวกัน ไม่ใช่ทำลายให้เคราะห์หมดไป การทำลายเคราะห์คือบาป ทำลายไม่ได้โยม แต่ว่าเราทำบุญให้มีกำลังสูงขึ้น อย่างญาติพุทธบริษัทที่มานั่งที่นี่ทุกคน ไม่ใช่มีแต่เคราะห์ โชคก็มี คือชาติก่อนมีทั้งความดีมีทั้งความชั่ว มีทั้งบุญและบาป ขณะใดที่มีการป่วยไข้ไม่สบาย นั่นคือผลของบาปเข้าสนอง แต่ว่าทุกคนมีทรัพย์สินอยู่ได้เพราะผลของทาน ทานการให้ในชาติก่อน ทำให้คนมีทรัพย์สิน แต่การมีทรัพย์สินทำไมจึงไม่เสมอกัน อย่างทานที่มีกำลังสูงสุดในด้านวัตถุก็คือ วิหารทาน เป็นทานที่มีกำลังสูงมาก ทานที่รองลงมาก็คือ สังฆทาน สังฆทานนี่โดยเฉพาะอย่างยิ่ง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า คนที่เคยถวายสังฆทานแล้วครั้งหนึ่งในชีวิต ตายแล้วเกิดกี่ชาติก็ตาม ถ้ายังไม่เข้าพระนิพพานเพียงใด จะไม่พบกับความยากจนเข็ญใจ จะเป็นเศรษฐี มหาเศรษฐีทุกชาติ ทีนี้คนที่เขาเป็นเศรษฐมหาเศรษฐีเพราะว่า เขาเคยถวายสังฆทานในกาลก่อน อันนี้เป็นผลอันหนึ่งที่เราจะทำ เพื่อเป็นการหลีกเร้นกฏของกรรม คือ บาป บาปถึงแม้มันจะกลั่นแกล้งขนาดไหนก็ตาม แต่เรามีกำลังบุญสูง คือคล้ายๆ กับสุนัขไล่กัด ถ้าเราวิ่งเร็วมันก็กัดไม่ทัน ถึงกัดทันก็กัดไม่ถนัด


    <DD>
    ประการที่สอง ต่อนี้ไปจะให้ญาติโยมทั้งหลายรับศีล การสมาทานศีลมีอานิสงส์ ๓ อย่างคือ
    ๑. สีเลนะ สุคะติง ยันติ คนที่มีศีลอยู่แล้ว เวลามีชีวิตอยู่ก็มีความเป็นปกติสุข ตายจากความเป็นคนก็ไปเกิดเป็นเทวดา เป็นนางฟ้ามีความสุข


    <DD>
    ๒. สีเลนะ โภคะสัมปะทา ในขณะที่มีชีวิตอยู่เรามีศีลบริสุทธิ์ ทรัพย์สินก็ไม่เปลืองก็มีการเป็นอยู่ดีในการครองทรัพย์สิน ตายไปก็ร่ำรวยมาก


    <DD>
    ๓. สีเลนะ นิพพุติง ยันติ คนที่รักษาศีลได้ดี จะไปนิพพานได้โดยง่าย
    นี่คืออานิสงส์ของศีล หลังจากนั้นไปจะให้ญาติโยมพุทธบริษัท เจริญวิปัสสนา คือเจริญกรรมฐาน ใช้กำลังพุทธานุสติกรรมฐานเป็นกำลัง นี่เป็นบุญใหญ่ที่สุดในพระพุทธศาสนา บุญในพระพุทธศาสนามี ๓ ชั้น คือ ทาน ศีล ภาวนา ภาวนานี่เป็นบุญใหญ่ที่สุด จะให้ญาติโยมภาวนาว่า พุทโธ เป็นการนึกถึงพระพุทธเจ้า เวลาหายใจเข้านึกว่า พุท เวลาหายใจออกนึกว่า โธ ใช้เวลา ๑๐ นาที จงอย่านึกว่าแค่ ๑๐ นาที จะมีบุญน้อย ความจริงไม่ใช่น้อย มีกำลังมากเหลือเกิน การนึกถึงพระพุทธเจ้าอย่าง มัฏฐกุลฑลีเทพบุตร หรือ สุปติฏฐิตเทพบุตร ซึ่งเขาไม่เคยนับถือพระพุทธเจ้า เขานึกถึงท่านอยากให้ท่านมารักษาโรคให้หาย เพียงเท่านี้ไม่ได้เคารพอย่างเรา เขาตายจากความเป็นคนไปเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เทวโลก แต่นี่เราเจริญพระกรรมฐาน นึกถึงพระพุทธเจ้าด้วยอารมณ์ของความเคารพจริงๆ อานิสงส์มากไปกว่านั้น ปรารถนานิพพานในชาตินี้ยังได้


    <DD>
    หลังจากนั้นจะมีพระเจริญพระอภิธรรม สวดอภิธรรมมาติกา คำว่า มาติกา เขาสวดสำหรับคนตาย และพวกเราตายแล้วหรือยัง แต่ความจริงเขาไม่ได้สวดเพื่อคนตาย คนตายไม่ได้ฟัง เขาสวดให้คนที่ยังไม่ตายฟัง เพราะบทมาติกานี่อานิสงส์มากเพียงแค่รับฟังอย่างไม่รู้เรื่อง อย่างค้างคาว ๕๐๐ ตัว ฟังสวดอภิธรรมเพียงแค่เพลิดเพลินไม่ทราบผู้สวดเป็นพระ ไม่ทราบว่าธรรม ที่สวดเป็นธรรมะเพลินไป ผลที่สุดเท้าก็หลุดจากที่เกาะหล่นลงมาตายทั้ง ๕๐๐ ตัว หลังจากตายจากความเป็นค้างคาวแล้วไปเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เทวโลก ในเมื่อพระพุทะเจ้าองค์นี้มาตรัส เขาเกิดเป็นลูกชาวประมง ในที่สุดเขาก็ฟังอภิธรรม เพียงแค่จบเดียวโดยย่อก็บรรลุพระอรหันต์ทั้งหมด นี่แค่สัตว์เดรัจฉานนะเขาไม่รู้เรื่อง ยังมีอานิสงส์อย่างนี้ ฟังแล้วชาติเดียวเกิดเป็นเทวดา และหลังจากนั้นมาก็เป็นพระอรหันต�

    </DD>
    <DD>ท่านทั้งหลายฟังแล้วด้วยความเคารพ รู้ว่าท่านผูสวดเป็นพระ คำสวดเป็นธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน และฟังด้วยความตั้งใจจริงอย่างนี้ ถ้าปรารถนิพพานชาตินี้ยังได้ ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็ไปเกิดเป็นเทวดานางฟ้าหรือพรหม เวลานั้นก็เจอะพระศรีอาริยเมตตรัย ฟังเทศน์จากพระศรอาริย์จบเดียวก็ป็นพระอรหันต์ นี่เป็นของไม่ยาก ง่ายๆ นะ ตั้งใจให้ดีนะหลังจากนั้นพิธีสะเดาะเคราะห์จะเกิดขึ้นนั่นคือว่าจให้พระบังสกุลตาย


    <DD>
    ตอนที่พระบังกุลตายขอบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย ให้ตั้งใจคิดว่าวลานี้ขอผลของความชั่วทั้งหมดบปกรรมที่ทำมาแล้วจาก... (การละเมิดศีล ๕)...ที่ทำให้จิตใจเรามีความทุกข์ มีความเร่าร้อน ให้มันสลายตัวไป พร้อมกับคำบังสกุลตายของพระ หลังจากนั้นพระจะบังสุลเป็น ตอนนั้นบรรดาพุทธบริษัท ก็ตั้งใจคิดว่าเวลานี้เราเกิดใหม่พร้อมความดี คือ


    <DD>
    ๑. ศีลที่เราสมาทานแล้ว
    ๒. สังฆทานที่เราทำแล้วมีอานิสงส์ใหญ่
    ๓. การภาวนาซึ่งเราทำแล้ว
    ๔. วันนี้บวชเณร ๘๕ องค์ บวชชีพราหมณ์ ๖๐ องค์เศษๆ คนทั้งหมดที่บวชเป็นนักเรียนโรงเรียนสุธรรมยานเถระวิทยา เป็นนักเรียนที่ได้สมาบัติ คือได้ฌานโลกีย์ทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาบัติขั้นอภิญญา เขาสามารถไท่ยวสวรรค์ นรกได้ เพราะโรงเรียนนี้มีกฏบังคับ เด็ที่เข้าโรงเรียนนี้ ต้องเจริญกรรมฐานก่อน ต้องสอบกันก่อนว่าเที่ยวสวรรค์นรกได้หรือเปล่า ระลึกชาติได้หรือเปล่า ถ้าทำไม่ด้เข้าโรงเรียนนี้ไม่ได้ เมื่อเข้ามาได้แล้วก็มีการซักซ้อมทุกอาทิตย์ เป็นอันว่าเณรและชีพวกนี้เป็นผู้ทรงฌาน ผู้ทรงฌาน พระโสบันเรียกว่า เป็นผู้ปฏิบัติตนเพื่อพระโสดาปัตติมรรค ทำบุญมีอานิสงส์มาก


    <DD>
    ฉะนั้นบรรดาท่านพุทธบริษัท ถ้าต้องการทำบุญให้มากขึ้น เวลาเลิกแล้วก็เอาสตางค์มาใส่ขัน ตั้งใจบวชเณรบวชชี มากก็ได้น้อยก็ได้ ๕ สตางค์ก็ได้ ๑๐ สตางค์ก็ได้ สลึงก็ได้ บาทก็ได้ตามชอบใจ ตามที่จะพึงทำได้ ให้ตั้งใจคิดว่า เวลานี้เราบวเณรบวชชี


    <DD>
    สำหรับการบวชเณรนี่บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท ถ้าพ่อแม่ของเณร ถ้าลูกบวชหนึ่งองค์ เขาจะมีอานิสงส์เกิดเป็นเทวดานางฟ้า หรือเป็นพรหมได้คนละ ๑๕ กัป ลูกชายได้ ๓๐ กัป ญาติโยมที่ไม่ใช่พ่อแม่ของเณรจะได้อานิสงส์คนละ ๔ กัป ทีนี้มัน ๘๕ องค์นี่ เอา ๔ คูณ ๘๕ เข้าได้เท่าไหร่ ก็รวมความว่าก็ได้ ๓๐๐ กัปกว่า ถ้าเราตายจากชาตินี้เป็นเทวดาหรือพรหมก็สามารถเป็นเทวดาหรือพรหม อยู่ได้ถึง ๓๔๐ กัป ในเมื่อท่านทั้งหลายมีบุญขนาดนี้ก็อยู่ไม่ถึง ๓๐๐ กัป ไปนิพพานแน่ ก็เป็นอันว่ามีความดีใหญ่


    <DD>
    (ต่อจากนั้นหลวงพ่อนำบรรดาญาติโยมพุทธบริษัทสมาทานศีล ๕ จบแล้ว สมาทานพระกรรมฐานแล้วให้ภาวนาพุทโธ ๑๐ นาที)
    (ต่อจากนั้นพระเริ่มสวดอภิธรรมมาติกา)
    (สวดจบหลวงพ่ออธิบายต่ออีกว่า)


    <DD>
    อันดับต่อนี้ไปบรรดาญาติโยมทั้งหลายฟังอภิธรรมแล้ว เป็นมหากุศลใหญ่ที่กล่าวมาแล้วนี้ ต่อไปนี้ก้เป็นการสะเดาะเคราะห์ พระจะบังสกุลตาย ขอบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลายคิดว่า ขึ้นชื่อว่าอกุศลกรรมที่ทำมาแล้วในชาติก่อน (ช่วงนี้หลวงพ่อพูดถึงศีล ๕)
    อกุศลทั้งหลายเหล่านี้ที่ให้ผลกับเราในชาตินี้ก็ตาม ขอบุญบารมีของเราที่มีแล้วในวันนี้เป็นมหาศาล จงทำลายอกุศลกรรมทั้งหลายให้พินาศสลายไปพร้อมกับคำว่ บังสกุลตายของพระ หมายความว่า ให้เคราะห์กรรมต่างๆ มันตายไปกับคำบังสกุลตายของพระ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปนะ ตั้งใจตามนั้นนะ


    <DD>
    (พระสงฆ์บังสกุลตาย) อนิจจัง วะตะ สังขารา อุปปาทะวะยะธัมมิโน... อุปปัชชิตวา นิรุชฌันติ เตสัง วูปะสะโม สุโขฯ


    <DD>
    (หลวงพ่ออธิบายต่ออีกว่า)
    ขอให้เคราะห์กรรมต่างๆ ของญาติโยมทั้งหลาย จงสลายตัวไป ต่อไปนี้จะบังสกุลเป็น ขอบรรดาญาติโยมพุทธบริษัทจงคิดว่า เวลานี้เราเกิดใหม่พร้อมกับความดี คือ เป็นผู้มีศีล เราสมาทานศีลแล้ว อานิสงส์ศีลจะปรากฏกับเรา


    <DD>
    ประการที่ ๒ เราถวายสังฆทาน นี่เป็นมหากุศลใหญ่ ชาตินี้ก็มีความคล่องตัวในความเป็นอยู่ ในการบริโภคทรัพย์ ชาติต่อไปจะเป็นมหาเศรษฐีทุกชาติจนกว่า จะเข้าพระนิพพาน
    และประการที่ ๓ เราได้มีการบวชเณร บวชเณรมีอานิสงส์มาก จะเป็นเทวดานางฟ้าอยู่ได้นาน


    <DD>
    ประการที่ ๔ เราเจริญพระกรรมฐาน พระกรรมฐานนี่เป็นปัจจัยเข้าถึงพระนิพพานโดยตรง จะเป็นเหตุให้พุทธบริษัทพ้นจากความทุกข์ คือไปนิพพานได้


    <DD>
    ประการที่ ๕ ฟังอภิธรรม อภิธรรมจัด ว่าเป็นอานิสงส์ให้เกิดปัญญา ถ้าบังเอิญจะเกิชาติหน้า เป็นคนร่ำรวย เป็นคนมีอายุยืนนาน มีความสวยก็ตาม ถ้าไร้ปัญญาก็ไร้ประโยชน์ ฉะนั้นการฟังอภิธรรมจึงเกิดประโยชน์กับบรรดาพุทธบริษัทในด้าน ปัญญา ฉะนั้นขอบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายโดยถ้วนหน้า จงคิดว่าผลบุญทั้งหมดตามที่กล่าวมาแล้วนี้คือ
    ๑. ศีล ๒. สังฆทาน ๓. บวชเณร ๔. เจริญกรรมฐาน ๕. ฟังอภิธรรม จงดลบันดาลให้ข้าพเจ้าเป็นผู้เกิดขึ้นพร้อมกับความดีอันนี้ มีแต่ความสุขตลอดไป ตลอดชีวิต ถ้าตายจากชาตินี้เมื่อไรขอไปนิพพานทันทีทันใดนะ ต่อนี้ พระจะบังสกุลเป็น

    <DD>
    อะจิรัง วะตะยัง ปพฐะวิง อะเสสสะติ
    ฉุฑโฑ อะเปตะวิญญาโณ นิรัตถังวะ กะริงคะรังฯ
    ต่อนี้ไปขอญาติโยมทั้งหมด รับพรจากพระสงฆ์นะ อธิษฐานตามชอบใจ
    (พระสงฆ์ให้พร)
    หลังจากนี้หลวงพ่อก็ให้พระประพรมน้ำพุทธมนต์ให้ เป็นเสร็จพิธี

    คัดจากหนังสือสมบัติพ่อให้ เล่ม ๑ หน้า ๒๔๓ -๒๔๘
    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.964958/[/MUSIC]​



    <DD>[​IMG]






    </DD>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 พฤษภาคม 2010
  2. อรชร

    อรชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,768
    ค่าพลัง:
    +11,465
    ตอนเช้าไปทำบุญใส่บาตร ตอนเย็นทำวัตรและเวียนเทียน ขออนุโมทนาสาธุค่ะ

    วันวิสาขบูชา วันสำคัญทางศาสนาของชาวพุทธทั่วโลก
     
  3. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    [​IMG]

    อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ ... ดีแล้วชอบแล้ว<!-- google_ad_section_end -->
     
  4. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ช่วงบ่ายนำเงินไปถวายเจ้าอาวาสวัดท่าซุง ในนามเว็บพลังจิต
    เพื่อสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ จำนวน 80,800 บาทครับ

    โมทนา
     
  5. gatsby_ut

    gatsby_ut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    821
    ค่าพลัง:
    +14,291
    [​IMG]

    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
     
  6. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ...กราบอนุโมทนาเป็นอย่างสูงค่ะ...
    ...กราบอนุโมทนาเป็นอย่างสูงค่ะ...
    ...กราบอนุโมทนาเป็นอย่างสูงค่ะ...
    ...กราบอนุโมทนาเป็นอย่างสูงค่ะ...
     
  7. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ
    เว็บทางนิพพาน
    เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O:p
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O:p
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่

    www.tangnipparn.com<O:p
    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p>ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา



    [​IMG]</O:p>
     
  8. everpook

    everpook เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +129
    ตอนเด็กๆ เราเคยลักขโมยของเพื่อนๆ ลักขโมยเงินย่าที่เลี่ยงเรา ชอบพูดโกหก เป็นประจำ
    ตอนนี้เราโตแล้ว เราเลิกนิสัยที่ไม่ดีเหล่านั้นแล้ว เราพยายามสวดมนต์ รักษาศีลห้า
    แต่เราก็กังวลว่ากรรมที่กระทำตอนเด็กๆ เราจะแก้ไข ขอผู้รู้ช่วยชี้ทางสว่างด้วยค่ะ
     
  9. phasukjai

    phasukjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +445
    ถ้าเป็นกรรมจากอดีตชาติ มาชาตินี้ แม้ไม่ได้ทำ แต่ผลกรรมจากอดีตมาปรากฏ จะแก้ไขยังไงได้ละคะ
     
  10. meephoo

    meephoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    ค่าพลัง:
    +2,133
    อนุโมทนา ครับ เด็กทำตามเดียงสา เขาเรียกว่าไร้เดียงสา อย่าไปกังวลกลับเหตุการณ์สมัยอดีตโดยเฉพาะเด็กๆ เลย ทำให้เกิดทุกข์ไปเปล่า ปัจจุบัน เรารู้ชั่ว - ดี รู้ บุญ - รู้บาป แล้ว ระลึกถึงพระพุทธเจ้าเข้าไว้ รักษาศีลห้าให้บริสุทธิ์ หลีกเลี่ยงความไม่ดีทั้งหมด กำหนดจิต ภาวนา พุทโธ ทุกขณะที่ทำได้ มีโอกาสบรรลุโสดาบันได้ง่าย ๆ สามารถหนีกรรม ได้โดยกรรมตามไม่ทันเรา ดั่งพระอรหันต์เจ้าทุก ๆพระองค์ ท่านก็มีกรมไม่ดีติดตัวมาทุกชาติภพ แต่ท่านไปนิพพานด้วยกรรมดี คือมั่นทำกรรมดี จนกรรมไม่ดีทุกชาติภพตามไม่ทัน แต่หากจิตตกลงเมื่อใดท่านก็ไม่สามารถหนีกรรมเหล่านั้นได้ สรุป ขออย่าให้จิตตก นำกิเลสมาครอบใจเราได้ก็แล้วกัน นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2010
  11. meephoo

    meephoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    ค่าพลัง:
    +2,133
    อนุโมทนา ครับ เด็กทำตามเดียงสา เขาเรียกว่าไร้เดียงสา อย่าไปกังวลกลับเหตุการณ์สมัยอดีตโดยเฉพาะเด็กๆ เลย ทำให้เกิดทุกข์ไปเปล่า ปัจจุบัน เรารู้ชั่ว - ดี รู้ บุญ - รู้บาป แล้ว ระลึกถึงพระพุทธเจ้าเข้าไว้ รักษาศีลห้าให้บริสุทธิ์ หลีกเลี่ยงความไม่ดีทั้งหมด กำหนดจิต ภาวนา พุทโธ ทุกขณะที่ทำได้ มีโอกาสบรรลุโสดาบันได้ง่าย ๆ สามารถหนีกรรม ได้โดยกรรมตามไม่ทันเรา ดั่งพระอรหันต์เจ้าทุก ๆพระองค์ ท่านก็มีกรมไม่ดีติดตัวมาทุกชาติภพ แต่ท่านไปนิพพานด้วยกรรมดี คือมั่นทำกรรมดี จนกรรมไม่ดีทุกชาติภพตามไม่ทัน แต่หากจิตตกลงเมื่อใดท่านก็ไม่สามารถหนีกรรมเหล่านั้นได้ สรุป ขออย่าให้จิตตก นำกิเลสมาครอบใจเราได้ก็แล้วกัน นะครับ
    ขออำนาจ พุทธ ธรรม สงฆ์ จงบันดาลบุญข้า ให้เจ้านายเวรที่จะมาถึงตัวeverpook ขอให้ นายเวรจงรับเอาบุญแล้วอยู่ให้เป็นสุขเถิด ข้าขออภัยแทนในความผิดที่ everpook เคยทำกับพวกท่านไว้ เรามาสร้างบุญร่วมกัน มามีความสุขด้วยกันเถิด และขออำนาจพุทธ ธรรม สงฆ์ จงบัญดาลบุญข้าจงเนรมิตเป็นตัวeverpook ให้นายเวรที่จะมาถึงตัว everpook ได้แก้แค้นกับร่างกายอันเกิดจากบุญที่ข้าส่งไปให้นั้นเถิด ขอจงเป็นสุขจากบุญข้าเถิด<!-- google_ad_section_end -->
    ***หากตนเองจะโอนบุญให้นายเวรโดยตรงก็เปลี่ยนคำคำพูด ดังนี้ <TABLE class=tborder id=post3354945 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1 id=td_post_3354945 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">ขออำนาจ พุทธ ธรรม สงฆ์ จงบันดาลบุญข้า ให้เจ้านายเวรที่จะมาถึงตัวข้า ขอให้ นายเวรจงรับเอาบุญแล้วอยู่ให้เป็นสุขเถิด ข้าขออภัยในความผิดที่ ข้า เคยทำกับพวกท่านไว้ เรามาสร้างบุญร่วมกัน มามีความสุขด้วยกันเถิด และขออำนาจพุทธ ธรรม สงฆ์ จงบัญดาลบุญข้าจงเนรมิตเป็นตัวข้า ให้นายเวรที่จะมาถึงตัว ข้า ได้แก้แค้นกับร่างกายอันเกิดจากบุญที่ข้าส่งไปให้นั้นเถิด ขอจงเป็นสุขจากบุญข้าเถิด<!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. meephoo

    meephoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    ค่าพลัง:
    +2,133
    เมื่อวาน 28 พค.53 เวลา 06.10 น. เดินทางไปร่วมกับอาจารย์สมบูรณ์ ถวายน้ำมะพร้าวน้ำหอมแด่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ( 2,220 องค์ ) เนื่องในวันพระใหญ่หรือวันวิสาขบูชา คุณกบและน้องช้างไปเป็นเจ้าภาพพระสมเด็จหลวงพ่อทองคำโดยมีนายเสน่ห์ รัตนาภรณ์ เป็นเจ้าภาพมะพร้าวน้ำหอม พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสบอกว่า ขอให้เอาใจบูชาท่าน ใจอันบริสุทธิ์ และรักษาศีลห้าให้ได้ เท่านี้ก็เป็นการบูชาพระพุทธองค์โดยสมบูรณ์แล้ว มั่นทำความดีเข้าไว้ สะสมเข้าไว้ เร็ว ๆ ขอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2010
  13. chai9000

    chai9000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +591
    ขอร่วมโมทนาทุกท่านที่ไปร่วมงานวันวิสาขบูชา แม้อยู่ไกลไม่ได้ไป แต่พอเห็นรูปและอ่านข้อความแล้ว เหมือนได้ไปร่วมงานจริงๆ ขอบคุณทีมงานทุกท่าน นิพพาน นิพพาน
     
  14. Nutthawut

    Nutthawut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +479
    ขอกราบอนุโมทนาด้วยครับเป็นอย่างสูงครับ สาธุ สาธุ สาธุ...
     
  15. Peak_14

    Peak_14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +465
    ดูจากภาพคนเยอะจัง...ขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่านทุกบุญด้วยครับ
     
  16. Anant Kalki

    Anant Kalki Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +44
    ข้าพเจ้าฯ รู้สึกดีขึ้นมาก ๆ เมื่อได้อ่านข้อความทั้งหมดคร่าว ๆ ... ข้าพเจ้าฯ สุวิภาช อนันตพัชรวิภาส ขอแจ้งตรงๆ ว่าข้าพเจ้าฯ เป็นบุคคลหนึ่งใน 3-4 บุคคลในตำนานพระนารายอวตาร ปาง กัลกิยาวตาร (ภาพใบหน้าปรากฏอยู่ในภาพเขียนยุคปิรามิด ภาพม้าหน้าคน ซึ่งใบหน้าคนนี้หมายถึงใบหน้าของ 3 บุคคลที่อยู่ในประเทศไทย และเป็นผู้บรรลุมหาโพธิญาณแบบเทา อรหันต์ประมุขและผู้นำฯ รายละเอียดจะนำมาเขียนเล่าให้ท่านทั้งหลายทราบภายหลัง) <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ช่วงนี้ ข้าพเจ้าฯ ไม่ค่อยสบาย สาเหตุมาจากหลาย ๆ กรณี ก่อนหน้านี้เคยไปวัดท่าซุง 1 ครั้ง พบว่าวัดนี้สวยงามดี (แต่ถ้าน้ำท่วม ก็จมอยู่ใต้น้ำไปเกือบครึ่งหนึ่ง) ข้าพเจ้าฯ มีความประสงค์จะไปกับท่านทั้งหลายแต่โอกาสไม่อำนวยฯ <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ข้าพเจ้าฯ ขอแจ้งตรง ๆ อีกครั้งหนึ่งว่า บัดนี้ โลกมนุษย์ได้ก้าวเข้าสู่ยุคศรีอารยเมตรไตรยแล้ว โดยมี พระศรีอารยะเมตไตรยมหาพุทธเจ้าหลวง (ในหลวง และ พระราชินี) เป็นพระประมุขและผู้นำสูงสุดแห่ง 3 ภพหรือสากลจักรวาล (สัญลักษณ์ 3 เทพอรหันต์/มหาโพธิสัตว์ เรืองแสงปรากฏกลางหน้าผากของพระองค์ท่าน) <o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    ข้าพเจ้าฯ ในฐานะ พระมหาโพธิสัตว์ฯ และ พระผู้แทนฯ (ซึ่งยังมิได้มีโอกาสได้เข้าเฝ้าทั้ง 2 พระองค์โดยตรง) เคยประกาศให้ใช้วันที่ 28-05-2553 หรือ วันวิสาขะบูชา เป็นวันก้าวเข้าสู่ยุคศรีอารยะเมตไตรย (ซึ่งก็อาจไม่ถูกต้องนัก เพราะด้วยคิดอย่างเร็ว ๆ ประกอบกับไม่ทราบว่าในหลวงท่านตรัสรู้หรือบรรลุมหาโพธิญาณเมื่อใด ...) <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    สำหรับข้าพเจ้าฯ เองนั้น เข้าใจว่าบรรลุมหาโพธิญาณ เป็นพระมหาโพธิสัตว์ฯ เมื่อประมาณเที่ยงวันที่ 29-01-2553 โดยมองเห็นจักรวาลปรากฏขึ้นบนพื้นห้อง (สายตาเปล่าปกติ) ช่องจักรวาลเปิดออก 1 ช่องพร้อมด้วยคำสอนว่า "เมื่อท่านตายแล้ว ท่านจะเกิดหรือไม่เกิด หรือจะไปสถิต ณ ที่ใด ไม่มีผู้ใดไปว่าอะไรท่าน แม้แต่ช่องจักรวาลที่ปิดกั้นไว้ ก็เปิดให้ท่านออกไปได้หากท่านประสงค์จะออกไป เพราะท่านรู้หน้าที่อันควรของท่านโดยแท้แล้ว”<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ข้อมูลอ้างอิง ข้าพเจ้าฯ (จำวันที่ไม่ได้) หลังจากบรรลุธรรม ด้วยความคิดถึงในหลวงด้วยความเคารพรักและบูชาเป็นอย่างยิ่ง และประสงค์จะขอเข้าเฝ้าในหลวงที่ รพ. ศิริราช จึงไปลงนามในสมุดเยี่ยมและเขียนข้อความประหลาด ๆ เพื่อให้ผู้มีหน้าที่นำความไปกราบทูลในหลวง แต่เขามิได้กระทำตามนั้น ดังนั้นข้าพเจ้าฯ จึงถูกนำไปสอบสวนในห้องที่มีตำรวจ/องครักษ์จำนวนมาก และลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานฯ ระหว่างเดินทางกลับ ข้าพเจ้าฯ จึงได้รับโทรจิตจากพระองค์ท่านแจ้งว่า ท่านคือพระกัลกิยาวตารพุทธเจ้าพระองค์แท้ ส่วนข้าพเจ้าฯ คือ พระโพธิสัตว์กวนอิม แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรเลยยกให้ข้าพเจ้าหมดเลย... ข้าพเจ้าฯ เมื่อทราบความจริงแล้ว จึงพยามที่จะถวายสิ่งที่มิใช่ของข้าพเจ้าโดยแท้คืนให้พระองค์ท่าน ในขณะเดียวกันก็ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายควบคู่กันไปอย่างเงียบ ๆ จนกระทั่งถึงทุกวันนี้...<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    กรณี ผู้หญิงคนนั้นในห้างเซ็นทรัลเวิลด์ที่ไฟไหม้ คือ ข้าพเจ้าฯ ในฐานะ พระเจ้าตรวจการฯ (ออกตรวจดูพฤติกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ฯ /มิได้ทำเพลิงไหม้และไม่สำผัสหรือแตะต้องกิจกรรมของมนุษย์แต่อย่างใด) สาเหตุด้วย ข้าพเจ้าฯ อยู่ใน 2 สถานะคือ 1. พระมหาโพธิสัตว์ และ 2. พระเจ้า (พระผู้สร้างจักรวาลและให้กำเนิดสรรพชีวิตทั้งปวง ณ เริ่มแรก ตลอดเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ดำเนินต่อไปด้วย หลักกฎแห่งกรรมแบบธรรมาภิบาลต่อเนื่อง) เรื่องนี้ ข้าพเจ้าฯ เชื่อว่าในหลวงท่านเข้าพระทัยดีเพียงแต่พระองค์ท่านท่านมีเหตุผลสำคัญของท่านจึงให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่นี้ ด้วยโทรจิต ในหลวงท่านโทรหาข้าพเจ้าหรือผู้ใดก็ได้ ข้าพเจ้ารับได้แต่โทรหาพระองค์ท่านไม่ได้ เข้าใจว่าด้วยเหตุผลสำคัญอีกเช่นกัน <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    อนึ่ง โปรดรับทราบและระวังเรื่อง บทอกุศลกรรม (ชุดปรับปรุง พ.ศ. 2553 ) ว่าด้วยผู้ก่ออกุศลกรรมต่อพระผู้บรรลุโพธิญาณ...(จะไม่มีโอกาสเกิดมาเป็นคนหรือมนุษย์ได้อีก…)<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    *เหล่านี้คือส่วนหนึ่งของความจริงที่เกิดขึ้น... เรื่องจริง/เหตุการณ์จริงอื่น ๆ ข้าพเจ้าฯ จะนำมาโพสต์แจ้งให้ท่านผู้สนใจทั้งหลายทราบต่อไป* <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ขอท่านทั้งหลาย จงมีแต่ความสุขความเจริญ ... (ด้วยความดีงามโดยแท้จริงแบบสายกลางพอดีเพื่อการมีอยู่และดำเนินต่อไปนิรันดร ... สุดโต่งขั้วใดขั้วหนึ่งนั้นไม่ดี เพราะอาจทำให้อะไรบางอย่างที่มีอยู่แล้วหายไป... ข้าพเจ้าฯ เชื่อว่า ในหลวงท่านเข้าพระทัยดีว่าข้อความในวงเล็บนี้หมายความว่าอะไร เพราะทั้งพระองค์ท่านและข้าพเจ้าฯ ต่างไม่ประสงค์จะทำสิ่งนั้นหายไป ด้วยที่มีอยู่นี้ก็ดีแล้วจะได้มีอะไรทำกันและขอให้ทำดี...)<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ขอบคุณมากครับ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    สุวิภาช อนันตพัชรวิภาส (ภาส / สะพานควาย)<o:p></o:p>
    (เดิม : พรชัย เพิ่มอุบล / วัน – บางรักน้อย)<o:p></o:p>
    พระวันวิสาข์มหาโพธิสัตว์ (Great Bhodhisattava Wanwisa) และ พระเจ้าฯ (God Wonderful) <o:p></o:p>
    พระผู้แทน ใน พระศรีอารยะเมตไตรยมหาพุทธเจ้าหลวง และ พระเจ้าสูงสุด (ในหลวง และ พระราชินี
     
  17. namo3

    namo3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +116
    อนุโมทนาสาธุกับสิ่งดี ๆที มาบอกบุญ

    อนุโมทนาขอให้ทุกคนเพื่อนร่วมโลกจงหมดเคราะห์นะ
     
  18. fullmoonsun

    fullmoonsun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    735
    ค่าพลัง:
    +2,321
    Anumothana Sathu
     
  19. mrnop

    mrnop Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +39
    ถึง คุณ สุวิภาช อนันตพัชรวิภาส
    ข้อพิสุูููจน์มหาปัญญาอรหันต์
    มีหลายข้อครับ
    ที่จำได้ก็ข้อที่ว่า..............
    สามารถย่นย่อพระไตรปิฏกให้กระชับ รู้ความได้อย่างง่ายดาย
    และสามารถขยายความ สาธยายพระไตรปิฏกให้เข้าใจง่าย ๆ ได้

    คุณ สุวิภาช อนันตพัชรวิภาส ช่วยออกมาตีความพระไตรปิฏกให้คนพ้นทุกข์หน่วยครับ เป็นการคอนเฟริมด้วย ว่าคุณคือของแท้
     

แชร์หน้านี้

Loading...