หลวงปู่นาม วัดน้อยชมภู่ (ร่วมโชว์วัตถุมงคล ร่วมเล่าประสบการณ์ครับ)

มาตามนัดครับ และนี่คือสถานที่ๆหลวงปู่นาม ไปขอผงพุทธคุณเพื่อนำมาผสมใน พระสมเด็จปรกโพธิ์(รุ่นกฐิน54สร้างสะพานเข้าวัด)
วัดแค ตั้งอยู่บ้านค่ายเก่า หมู่ ๑ ต.รั้วใหญ่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๐๓๔ ตั้งอยู่ริมฝั่งทิศตะวันตกของแม่น้ำท่าจีน มีเนื้อที่ ๗ ไร่ ๑ งาน ๘๐ ตารางวา อยู่ปลายสุดของคูเมือง หรือกำแพงเมืองสมัยอู่ทอง ทางด้านเหนือเป็นวัดที่มีชื่ออยู่ในวรรณคดีขุนช้างขุนแผน กล่าวถึงวัดแคอยู่หลายตอน ด้วยเป็นวัดที่ขุนแผนได้มาเรียนวิชา เสกใบมะขามเป็นตัวต่อ ตัวแตน กับ สมภารคง เพราะที่วัดแคมี ต้นมะขามยักษ์ ขนาดใหญ่ ๙ คนโอบ อายุนับร้อยปี เชื่อกันว่า เป็นต้นเดียวกันที่สมภารคงได้ใช้สอนวิชาเสกใบมะขามเป็นตัวต่อตัวแตนให้ สามเณรแก้ว หรือ ขุนแผน เมื่อครั้งมาจำพรรษาอยู่ที่วัดแค
เมื่อวันที่ ๔ สิงหาคม ๒๔๔๗ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ประพาสต้นจังหวัดสุพรรณบุรี ได้เสด็จประทับที่ท่าน้ำวัดแค เพื่อเสวยพระกระยาหารกลางวัน<O</O
บริเวณประตูวัด เมื่อเราลงจากรถ ก็จะพบพระหลวงปูคง และรูปเหมือนขุนแผน จากประวัติที่วัดทราบว่าพระหลวงปูคงเป็นพระที่มีวิชาคาถาอาคม และขุนแผนได้มาเรียนคาถาอาคม เป็นศิษย์เอกของพระหลวงปูคง ปัจจุบันเป็น เป็นวัด 1 ใน 9 ของไหว้พระ 9 วัดที่สุพรรณบุรีและกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญ ในวันหยุด เทศกาลจะมีคนมาไหว้พระ เที่ยวชมมาก อยู่ใกล้กับ มังกรสวรรค์ ยังมีของดีในวัดแค นี้อีกหลายอย่าง <O</O
วัดแค มีโบราณวัตถุที่ทรงค่าเป็นอย่างยิ่ง ปัจจุบัน มี พระครูปลัดธรรมวงศานุวัตร (สมศักดิ์ กตวฑฺฒโน) หรือ พระครูโอ๋ เป็นเจ้าอาวาสรูปที่ ๑๓








<O</O
<O</O

 

และนี่คือภาพ วันที่ หลวงปู่นาม และเณรโย เดินทางไปวัดแค เพื่อนำผงพุทธคุณของหลวงปู่คง(อาจารย์ ขุนแผนในอดีต)มาผสมลงในพระสมเด็จปรกโพธิ์(รุ่นกฐิน54)ตามดำริของหลวงปู่นาม เพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ เด่นในด้านเมตตามหานิยม

 

ยังเหลืออีก 1 ผง จากพระเกจิดังระดับประเทศ ไว้ ตอนค่ำๆหรือพรุ่งนี้ ค่อยมาลงให้ทราบกัน แต่ที่แน่ๆ ขอให้ท่านทั้งหลายที่นิยมชมชอบหลวงปู่นาม รีบลงชื่อจองกฐินกับทางวัด ด่วน ก่อนที่จะเต็มครับ เพราะยอดจองตอนนี้พุ่งแรงมากๆครับ จบข่าว

 

สุดยอดเลยครับพี่เสือ ต้องขอบคุณพี่เสือมากๆที่คอยนำข้อมูลข่าวสารดีๆมาแจ้งให้พวกเราสมาชิกได้ทราบ กราบ กราบ กราบหลวงปู่นาม

 

จองแล้วครับ แต่ตอนรับซองนี่ คงต้องเหมารถไปที่วัดเลยครับ
ขออนุโมทนากับทุกท่านที่ได้ร่วมจองกฐินกับองค์หลวงปู่นามด้วยครับ

 

กราบ กราบ กราบหลวงปู่นาม

 

และนี่คือผงพุทธคุณที่หลวงปู่นาม ท่านไปขอจากเจ้าอาวาสวัดหน่อพุทธางกูร เพื่อผสมลงในพระสมเด็จปรกโพธิ์(รุ่นกฐิน54) เชิญชมประวัติหลวงปู่คำครับ

หลวงปู่คำ จันทโชโต หรือ พระครูสุวรรณวรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดหน่อพุทธางกูร ต.พิหารแดง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เป็นพระเถราจารย์ที่ชาวบ้านในตำบลนั้นรวมไปถึงชาวตลาดจ.สุพรรณบุรี มีความเคารพนับถือมากองค์หนึ่ง เพราะท่านเป็นพระที่สันโดษ มักน้อย มีความเมตตาปรานีสูงยิ่ง

ท่านเกิดเมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2430 เวลา 19.19 น. โดยประมาณ ตรงกับวันพุธ ขึ้น 15 ค่ำ เดือนอ้าย ปีกุน ร.ศ . 106 ณ บ้านพิหารแดง หมู่ 1 ต.พิหารแดง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เป็นบุตรจีนฮั้ว แซ่ตัน หรือ แซ่ตั้ง มารดาชื่อจันทร์ มีเชื้อสายเป็นชาวเวียงจันทน์

เมื่ออายุได้ไม่กี่ขวบก็ต้องกำพร้าบิดามารดา และอาศัยอยู่กับหน้าชายชื่อ ทอง น้าสาวชื่อ หริ่ม จนกระทั่งอายุ 16 ปี จึงบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดมะนาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันอังคารที่ 8 เม.ย. 2445 โดยได้รับความอนุเคราะห์จากพระอาจารย์คำตา และอยู่กุฏิเดียวกับพระปลัดบุญมี ซึ่งเป็นญาติกับท่าน พร้อมกับศึกษามูลกัจจายณ์และอักขระขอมไทยกับขอมลาว ต่อมาญาติของท่านชื่อพระอาจารย์บุญมา บวชอยู่ที่วัดภาวนาภิรตาราม อ.บางกอกน้อย ธนบุรี ได้ชักชวนให้ไปเรียนหนังสือต่อที่วัดแห่งนี้

ท่านได้ตั้งหน้าตั้งตาศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยและมูลกัจจายน์ กับหนังสือใหญ่ (หนังสือขอม) ด้วยความขยันขันแข็ง แต่ดวงของท่านต้องกลับมาอยู่บ้านเกิด เพราะเกิดเหน็บชาไม่สามารถที่จะอยู่วัดภาวนาภิตารามได้ เมื่อกลับมาอยู่วัดหน่อพุทธางกูร ไม่นานก็หายเป็นเหน็บชา เพราะได้ฉันข้าวซ้อมด้วยมือซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยวิตามินบี

เมื่ออายุ 21 ปีเต็มท่านได้กลับไปอุปสมบทที่วัดนะนาว เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2451 โดยมีพระครูวินยานุโยค วัดอู่ทอง เป็นอุปัชฌาย์ พระปลัดบุญมี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ส่วนพระอนุสาวนาจารย์ไม่ทราบชื่อ ได้ฉายาว่า "จันทโชโต" จากนั้นได้จำพรรษาอยู่ที่วัดมะนาวเรื่อยมา

ต่อมาพระอาจารย์บุญมา ได้กลับมาจำพรรษาและดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหน่อพุทธางกูร ในราว ปีพ.ศ 2452 ได้ชักชวนให้ท่านมาอยู่ที่วัดหน่อพุทธางกูร (วัดมะขามหน่อในขณะนั้น) เพื่อช่วยพัฒนาวัด เมื่อมาจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้ ท่านได้ตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัยจนมีความรู้แตกฉานยิ่งขึ้นทั้งพระธรรมวินัย และอักขระขอมไทย-ลาว ตลอดจนขนบธรรมเนียมและแบบแผนอันดีงานสืบต่อติดมาจนเป็นนิสัย จนชาวบ้านแถวนั้นต่างกล่าวขานว่า เป็นพระที่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยดีมาก

พระอธิการบุญมากับหลวงพ่อคำได้พยายามพัฒนาวัดหน่อพุทธางกูรเรื่อยมาจนวัดเจริญขึ้นตามลำดับ ภายหลังจากที่พระอธิการบุญมาถึงแก่มรณภาพในราว พ.ศ.2458 คณะสงฆ์จึงแต่งตั้งให้หลวงปู่คำ รักษาการแทน เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2458 ขณะมีอายุได้ 28 ปี พรรษาที่ 8 ก่อนที่จะเป็นเจ้าอาวาสอย่างสมบูรณ์แบบเมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2471 อายุได้ 41 ปีพรรษาที่ 21 ผ่านไปอีก 10 ปี ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการศึกษาเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2481 ต่อมาวันที่ 5 ธ.ค. 2498 ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตรที่ "พระครูสุวรรณวรคุณ" ขณะอายุได้ 78 ปี พรรษาที่ 48

อุปนิสัยใจคอของหลวงปู่คำนั้นเยือกเย็น ถ้าใครได้ไปพบเห็นจะมีความรู้สึกเคารพนับถือขึ้นมาทันที เพราะใบหน้าท่านยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา พูดค่อยและช้า แต่วาจาศักดิ์สิทธิ์มาก ภายในกุฏิของท่าน ของมีค่าหาได้น้อย มีหัวกะโหลกมนุษย์ตั้งอยู่ นอกนั้นเป็นสิ่งหาค่าไม่ได้วางอยู่อย่างไม่เป็นระเบียบ ท่านมีความมักน้อยในจิตใจ แต่มักใหญ่ในการก่อสร้างเสนาสนะ เช่น การสร้างพระอุโบสถ ศาลาการเปรียญคอนกรีต และโรงเรียนประชาบาลจนกระทั่งมรณภาพ<O</O
ในส่วนของวิชาอาคม เชื่อกันว่าท่านได้ไปเรียนเวทย์มนต์คาถาและวิปัสสนากรรมฐานจากหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกับหลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว พระเกจิอาจารย์ดังของเมืองสุพรรณอีกองค์หนึ่ง และมีความเชี่ยวชาญถึงขั้นเล่นแร่แปรธาตุได้<O</O
หลวงปูคำสร้างมงคลวัตถุขึ้นหลายอย่าง อาทิ รูปหล่อรุ่นแรก ปี2498 รุ่น 2 ปี2504,รุ่น 3 ปี 2511-2512, เหรียญรุ่นแรก รูปอาร์ม ปี2498,รุ่น 2 รูปไข่ ปี2504,รุ่น 3 รูปไข่ ปี2509,รุ่น 4 ปี 2511,รุ่น 5 ปี 2513 นอกจากนี้ ยังมีพระเครื่องเนื้อดิน เนื้อว่าน เนื้อผง และผงใบลานเผา อีกหลายพิมพ์ เช่น พระพิมพ์นาคปรกเศียรแหลม2498,พระพิมพ์ท้าวชมพูบดี2498,พระผงสุพรรณหลังยันต์ ปี2504,พระชินราชใหญ่-เล็ก ปี2498,พระพิมพ์ซุ้มกอ ,พิมพ์ยันต์อุ,พิมพ์นางกวัก, ฯลฯ พระเครื่องของท่านทุกรุ่นมีประสบการณ์ดังในด้านแคล้วคลาด ปลอดภัย ยิงไม่ออก ฟันแทงไม่เข้า ทำให้บางรุ่นหายากมาก โดยเฉพาะรูปหล่อรุ่นแรก ตอนนี้เช่าหาอยู่ที่ราคาหลักหมื่น ไม่มีคนอยากปล่อย เพราะถือว่ามีพระหลวงพ่อคำแล้วไม่ตายโหง<O</O
พระเครื่องของท่านทุกรุ่นมีประสบการณ์ดังในด้านแคล้วคลาด ปลอดภัย ยิงไม่ออก ฟันแทงไม่เข้า ทำให้บางรุ่นหายากมาก โดยเฉพาะรูปหล่อรุ่นแรก ตอนนี้เช่าหาอยู่ที่ราคาหลักหมื่น ไม่มีคนอยากปล่อย เพราะถือว่า "มีพระหลวงพ่อคำแล้วไม่ตายโหง"

ลูกศิษย์ที่เป็นฆราวาสของท่านมีอยู่หลายคน ที่มีชื่อเสียงคือ พระเอกยอดนิยม "มิตร ชัยบัญชา" ซึ่งให้ความเคารพนับถือท่านมากครับ เมื่อครั้งที่ มิตร ชัยบัญชา เสียชีวิต ท่านได้เล่าให้ศิษย์ฟังว่า วันที่มิตรเสีย ไม่ได้ห้อยพระของท่าน ไม่งั้นคงไม่ตาย นอกจากนี้ ยังมี "สุรพล สมบัติเจริญ" ราชาเพลงลูกทุ่งไทย คนบ้านวัดไชนาวาสที่ให้ความนับถือท่าน และฝากตัวเป็นลูกศิษย์ตั้งแต่สมัยที่หลวงปู่คำยังไม่โด่งดังเลย

วาระสุดท้าย หลวงปู่คำมรณภาพเมื่อวันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ 2513 เวลา 17.43 น. ตรงกับแรม 5 ค่ำ เดือน 3 ปีระกา สิริอายุ 83 ปี โดยจัดงานพระราชทานเพลิงศพท่านเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2514 ในงานมีพระเกจิอาจารย์มากันมากมายหลายองค์ รวมทั้งลูกศิษย์ลูกหาประชาชนที่เลื่อมใสศรัทธา ก็มากันล้นหลามชนิดที่ว่าแน่นศาลาวัดจนต้องลงมาอยู่ข้างล่างกันเลย แสดงให้เห็นถึงบารมีอันสูงส่งของหลวงปู่คำ<O</O

 

ใช้งานได้แล้ว เหงาอยู่นาน

 

ขอบคุณมากๆครับพี่เสือ ผมนอนได้แล้วครับ หลังรอฟังข่าวตั้งแต่หัวค่ำ อิอิ

 

รบกวนพี่เสือ เล่าประวัติของฤาษีสมเด็จฯโต หน่อยได้ไหมครับ ขอบคุณครับ

 

พี่เสือครับ ทำไมต้องเป็นพิมพ์ปรกโพธิ์ด้วยครับ มีที่มาที่ไปไหมครับ ช่วยให้ความรู้ด้วยครับ ขอบคุณครับ

 

โทรไปจองกฐินที่วัดมาแล้วครับ ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูลดีๆจาก พี่เสือ

 

และนี่คือภาพ วันที่ หลวงปู่นาม กับเณรโย เดินทางไปวัดหน่อพุทธางกูร จ.สุพรรณบุรีเพื่อนำผงพุทธคุณของหลวงปู่คำ จากเจ้าอาวาส มาผสมลงในพระสมเด็จปรกโพธิ์(รุ่นกฐิน54) ตามดำริของหลวงปู่นามที่ท่านต้องการให้พระสมเด็จรุ่นนี้ เด่นทางด้านเมตตามหานิยมจบข่าว


<O</O





<O</O

 

กราบ ๆๆๆ หลวงปู่นาม สุดยอด

 

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านผมได้ไปกราบหลวงปู่นามมา เห็นเณรโยและหลวงพี่กำลังช่วยกันตำผงพุทธคุณอยู่พอดีเลยถ่ายภาพมาให้ชมกันครับ หลังจากนั้นผมเลยเดินไปจองกฐินจำนวน 5 กองเพราะว่าได้เห็นส่วนผสมที่จะใช้สร้างพระสมเด็จปรกโพธิ์แต่ละอย่างสุดยอดทั้งนั้นเลยครับไม่รู้จะหาได้อีกที่ไหนครับ ผมจึงขอเชิญชวน พี่ๆๆ น้องๆๆ ลูกศิษย์ของหลวงปู่นามทุกท่านมาร่วมกันจองเป็นเจ้าภาพกฐินนะครับ

 

สอบถามครับ ตอนนี้จำนวนยอดกฐิน อยู่ที่เท่าไหรแล้วครับ.........พี่เสือ พี่ศรีอุทุมพร

 

ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพ กฐินสามัคคีวัดน้อยชมภู่ 035-548075

ถามมาก็ตอบไปครับ ยอดจองกฐินที่วัด ล่าสุด ถึงเวลานี้ประมาณ 500+กองแล้วครับ เด่วผมจะลงภาพ ตัวอย่างรูปหล่อและสมเด็จปรกโพธิ์ให้ชมเป็นตัวอย่าง พอดี วันนี้ ทางโรงงานนำตัวอย่างมาให้หลวงปู่ชม

 

นี่คือตัวอย่าง พระรูปหล่อ3นิ้ว กับพระผงสมเด็จปรกโพธิ์ เชิญชม




รูปหล่อเนื้อจริง เนื้อมันปูรมดำ สวยงามมากครับ
พระสมเด็จ เนื้อจริงอมเหลือง ดูแค่ รูปร่างพอครับ ส่วนสีสัน รอแก้ไขก่อนครับ จบข่าว

 

หลวงปู่ ท่านตั้งใจมาก ดูแลทุกขั้นตอนสำหรับ พระที่แจกเจ้าภาพ กฐินปีนี้ ท่านถึงกับพูดกับช่างว่า ฉันจะทำพระรุ่นนี้ ให้จารึกเป็นประวัติ การสร้างพระของหลวงปู่ ท่านว่า ต้องดีทั้งรูปแบบ และเนื้อหา และเจตนาการสร้าง
โดยเฉพาะ ผงที่ท่านนำมาผสมด้วย ท่านบอกว่า ล้วนแต่ยอดเยี่ยมจริงๆ เด่นทางด้านเมตตาทั้งนั้น ได้ทั้งบุญและวัตถุมงคลที่สุดยอดอีก ผมว่า ใครไม่รีบจอง อาจจะได้แต่มองก็เป็นได้ เชิญโทรจองกฐิน ได้ที่วัดน้อยชมภู่ 035-548075

 

รูปหล่อหลวงปู่ สวยจริงๆ ครับ
กราบหลวงปู่ครับ