หลวงปู่เชย อมโร , พระเกจิเมืองจันทร์ , และคณาจารย์สายตะวันออก

ขอช่วยบรรยายด้วยภาพ (ที่ถ่ายไว้หลายปีแล้ว) นะคะ (สำหรับท่านที่ยังไม่เคยไป) ที่วัดเทพธารทองเขียวขจีบรรยากาศร่มรื่นจริงๆค่ะ

 

หวัดดีคุณทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่านครับ

 

สรุปรูปหล่อรุ่นนี้ ไม่ทันหลวงปู่ และมีพวกมือผีสร้างเพื่อยัดว่าทันหลวงปู่ ไม่ทราบผมเข้าใจถูกต้องหรือเปล่าครับ

 

สาธุครับพี่หนู แต่ละท่านล้วนมีประสบการณ์และความศรัทธาในองค์หลวงปู่อย่างแรงกล้าทั้งนั้น( รวมทั้งพี่หนูด้วย ) กระแสบารมีขององค์หลวงปู่ท่านขจรขจายไปทั่วทุกแห่งหน ท่านผู้รู้บอกว่าแม้แต่ในโลกทั้งสาม ยังให้ความเคารพและเกรงใจท่านอย่างมาก ท่านเคยช่วยลูกศิษย์ที่เสียชีวิตไปแล้วจากการผูกคอตาย ให้ฟื้นคืนชีพได้อย่างน่าอัศจรรย์ มัจจุราชยังต้องยอมให้นำลูกศิษย์ท่านกลับมาเข้าร่างดังเดิมเพราะยังไม่ถึงคราวตายจริงๆ พอคนนั้นฟื้นขึ้นมาบอกว่า หลวงปู่วัดเทพธารทองมาช่วยชีวิต ทั้งๆที่คนๆนั้นไม่เคยรู้จักและมาหาองค์หลวงปู่ที่วัดมาก่อน เพียงแต่แม่ของเขาศรัทธาองค์หลวงปู่และมาทำบุญที่วัดหลายครั้ง และปัจจุบันชายคนที่ผูกคอตายดังกล่าวยังมีชีวิตอยู่ และอยู่ที่ จ.ระยองครับ

พระผู้รู้บางท่านบอกอีกว่า หลวงปู่เป็นผู้นำพระอรหันต์และพระอริยะทั้งหลายไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า แม้แต่ในมหานครแห่งความดีคือสรวงสวรรค์ หลวงปู่ท่านยังเป็นที่เคารพศรัทธาของเหล่าทวยเทพชั้นผู้ใหญ่ แม่แต่องค์หลวงปู่ก็เคยเล่าให้ฟังว่า ทุกวันเวลาประมาณเที่ยงคืนจะมีเทวดาชั้นผู้ใหญ่ มาขอฟังธรรม และฟังท่านสวดมนต์ เวลาประมาณตี 3 ก็จะกลับกัน จากนั้นก็จะเป็นเวลาของเทพเทวดาชั้นรองๆลงมา กับพวกกายทิพย์ นาคาต่างๆเป็นลำดับของ และมาแต่ละครั้งนับไม่ถ้วน มองไปทางไหนก็เห็นแต่พวกเทวดาเต็มไปหมด หลวงปู่ท่านเคยชี้ให้ผมดูท่านชี้ไล่ไปให้ดู ว่านั่นๆๆๆ เทวดาเขามาเป็นองค์เล็กๆเต็มไปหมด มาฟังเราสวดมนต์และร่วมอนุโมทนา เห็นบ้างไหม?(ไม่เห็นเลยครับ..:'()

บางครั้งหากท่านอารมณ์ดีท่านก็จะเล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนมีใครมาหาบ้าง ที่มาหาหลวงปู่บ่อยๆก็มี องค์พระมหาอุปคุต ท่านพ่อลี หลวงปู่แหวน เจ้าคุณนรฯ พระศรีอาริย์ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงปู่เหรียญ หลวงตาพระมหาบัว ท่านท้าวสักกะ... ฯลฯ ผมเคยถามองค์หลวงปู่ว่า หลวงปู่เคยเจอ....องค์นั้นองค์นี้ไหม? ท่านก็ตอบว่า เจอหมด ถ้าเราถึงพระพุทธเจ้าองค์เดียวเท่านั้น นอกนั้นเราจะถึงหมดเลย เพราะแต่ละท่านก็ขึ้นตรงต่อพระพุทธเจ้าองค์เดียวเหมือนกัน... นี่แหละครับถึงเรียกได้ว่า กระแสพระบารมีขององค์หลวงปู่พิศดูท่านแผ่ขจรขจายไปทั่วในโลกทั้งสาม ท่านเป็นผู้กว้างขวางมาก และเป็นพระอรหันต์ปัจเจกภูมิผู้เลิศในทางฤทธิ์ครับ สาธุ



.

 

สาธุ...กราบนมัสการหลวงปู่ครับ

 

สวัสดีครับพี่บัติ และสมาชิกทุกท่านครับ


.

 

สาธุด้วยครับพี่หนู เห็นภาพเก่าๆแล้วนึกถึงสมัยก่อนจัง ตอนนี้เจดีย์ วิหารย์พระนอนสร้างเสร็จหมดแล้ว สวยงามมาก ว่าๆขอเชิญพี่หนูเข้ามาเที่ยวที่วัดอีกนะครับ เอาไว้นัดกันมาก็ได้

 

ก็ทำนองนั้นหละครับ :boo:

 

ขอดูรูปหน่อยครับ ตามลิ้งค์ไปไม่ถูก
ขอบคุณครับ

 

จิ้มตามลิ้งนี้ครับ...

http://uauction.uamulet.com/AuctionDetail.aspx?bid=309&qid=35673

 

สวัสดีครับพี่ทุเรียนทอดและท่านสมาชิกทุกท่าน ได้อ่านข้อความของแต่ละท่านแล้วขนลุกครับ น้ำตาพาลจะใหลเอาเสียดื้อๆ บารมีธรรมของหลวงปู่ท่านลึกซึ้งจริงๆ ถึงแม้กระผมจะไม่ได้ไปร่วมงาน ก็ขอน้อมจิตกราบหลวงปู่ด้วยความเคารพครับ สาธุ

 

อนุโมทนา สาธุ...ด้วยนะคะพี่ทุเรียนทอด ที่สละเวลานำเรื่องเล่าและประสบการณ์เกี่ยวกับองค์หลวงปู่มาถ่ายทอดให้ได้ฟังกัน ถือเป็นการเผยแผ่และประกาศเกียรติคุณของครูบาอาจารย์ให้ทุกท่านได้อนุโมทนากันนะคะ คิดว่าถ้าใครได้อ่านหรือได้ฟังเรื่องเล่าเกี่ยวกับปฏิปทา ปาฏิหารย์และบารมีธรรม(ซึ่งมีมากมาย)เกี่ยวกับองค์หลวงปู่แล้ว คงมีความปิติ.. ปลาบปลื้ม.. และเคารพศรัทธาในองค์หลวงปู่ยิ่งๆขึ้นไปเหมือนๆกันนะคะ

 

ตามไปดูรูปเหมือนรุ่นแรกท่ีบอกมาแล้ว ส่วนตัวคิดว่าไม่ใช่แน่นอนไม่เคยเห็นครับ ท่ีมีอยู่ไม่ใช่แบบน้ีแน่นอนเพราะว่าผมก็เก็บสะสมมาก็หลายปีไม่เคยเห็น สอบถามจากหลายคนได้ตรงกันครับว่า ไม่ใช่แน่นอน

 

หวัดดีคุณทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่านครับ

 

ได้อ่าน ค้อมเม้น ในกระทู้ แต่ละท่าน ล้วนมีประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับองค์หลวงปู่พิศดู ทั้งสิ้น เป็นที่น่าประทับใจมากครับ ทุกคน เอาภาพ มาแชร์ ว่าเป็นอย่างไร บรรยากาศภายในวัด วัตถุมงคล ต่างๆ น่าชื่นชมครับ

ภาพหลวงปู่ครับ กับ พระพุทธรูปทองคำ ของวัดโพธิธรรม ประเทศเยอรมันนี หล่อด้วยทองคำทั้งหมดครับ เพื่อนำไป เผยแพร่พระพุทธศาสนา ในประเทศเยอรมันนี และแถบยุโรป โดยก่อนที่จะนำพระพุทธรูปไป ก็ได้นำมาให้องค์หลวงปู่อธิฐาน จิต ครับ องค์หลวงปู่ ท่านก็เมตตา เสก และอธิฐานให้ครับ และพูดทำนองว่า ขอให้พระพุทธศาสนาเจริญสืบโตไป โชจช่วง และท่านยังให้ปัจจัยไปทำบุญด้วยครับ ท่าน คิดดูสิครับ บารมีขององค์หลวงปู่แผ่ไปไกล ถึงแถบยุโรป ลูกศิษย์ลูกหาท่าน เคารพองค์หลวงปู่มากครับ
คุณทุเรียนทอด ประสบการณ์กับองค์หลวงปู่ คงมากพอดูนะครับ ว่ามีโอกาส จะไปนั่งคุยด้วยครับ ผมว่าจะไปกราบหลวงปู่ ประมาณวันวิสาขบูชา หวังว่าคงได้พบกันที่วัดครับผม

 

โอวาทธรรม
ของ
พระวิสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์
(พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร)
วัดอโศการาม อ.เมือง จ.สมุทรปราการ





การตายนั้น...นักปราชญ์บัณฑิตท่านเห็นเหมือนกับว่า
เป็นการแก้ผ้าขี้ริ้วออกโยนทิ้งไปจากตัวเท่านั้น
จิตก็เหมือนกับตัวคน กายก็เหมือนกับเสื้อผ้า
ไม่เห็นว่าเป็นการสลักสำคัญอะไรเลย

แต่พวกเรานี่สิกลัวนัก พอเห็นเสื้อผ้าขาดนิดขาดหน่อย
ก็รีบหาอะไรมาปะมาเย็บให้มันติดต่อเข้าไปใหม่
ยิ่งปะยิ่งเย็บ มันก็ยิ่งหนา ยิ่งหนาก็ยิ่งอุ่น ยิ่งอุ่นก็ยิ่งติด ยิ่งติดก็ยิ่งหลง
ผลที่สุดเลยไปไหนไม่รอด

นักปราชญ์บัณฑิตนั้น
ท่านเห็นว่าการอยู่การตายไม่สำคัญเท่ากับการทำประโยชน์
ถ้าการอยู่ของท่านมีประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นแล้ว
ถึงผ้ามันจะเก่า เสื้อมันจะขาดจนเป็นผ้าขี้ริ้ว ท่านก็ทนใส่มันได้
แต่ถ้าเห็นว่าไม่มีประโยชน์อะไรแก่ใครแล้ว ท่านก็แก้มันโยนทิ้งไปเลย

ผิดกับคนธรรมดาสามัญอย่างเราที่ไม่มีใครอยากตาย
พอพูดถึงตาย ก็กลัวเสียแล้ว ถึงร่างกายมันจะตายก็ยังอยากจะให้มันอยู่
บางคนร่างกายมันจะอยู่ ก็อยากจะให้มันตาย
ตายไม่ทันใจเอามีดมาเชือดคอให้มันตายเร็วเข้า เอาปืนมายิงให้มันตายบ้าง
กระโดดให้รถไฟทับตายบ้าง กระโดดลงแม่น้ำให้มันจมตายบ้าง ฯลฯ
อย่างนี้นี่เป็นเพราะอะไร ?
เพราะอวิชชา ความไม่รู้เท่าความเป็นจริงในสังขาร
หลงผิด คิดผิดทั้งหมด
อย่างนี้มันก็จะต้องตายไปตกนรกหมกไหม้ ไม่รู้จักผุดจักเกิด

ทุกคนย่อมรักตัวของตัวเองยิ่งกว่าสิ่งใดทั้งหมด
แต่การรักตัวนั้น มี ๒ สถาน คือ
รักอย่างลืมตัว เผลอตัวและหลงตัว นั้นอย่างหนึ่ง
การรักเช่นนี้ไม่เรียกว่า การรักตัว เพราะไม่กล้าจะทำความดีให้แก่ตัวเอง
จะทำความดีก็กลัวอย่างนั้นกลัวอย่างนี้
กลัวว่าตัวเองจะได้รับทุกข์ยากลำบากต่างๆ
เช่น อยากไปวัด ก็กลัวไกล กลัวลำบาก กลัวแดดกลัวฝน
จะถือศีลอดข้าวเย็นก็กลัวหิวกลัวตาย จะให้ทานก็กลัวยากกลัวจน
จะนั่งภาวนาก็กลัวปวดกลัวเมื่อย เช่นนี้เท่ากับคนนั้นตัดมือ
ตัดเท้า ตัดปาก ตัดจมูก ตัดหู ฯลฯ ของตัวเอง
ผลดีที่จะได้อันเกิดจากตัวก็เลยเสียไป นี่เป็นการรักตัวในทางที่ผิด

การรักอีกอย่างหนึ่งเรียกว่า เมตตาตัว
คือ หมั่นประกอบบุญกุศลและคุณความดีให้มีขึ้นในตน
ขณะใดที่จะเกิดประโยชน์จากตา หู จมูก ปาก มือ เท้า ฯลฯ ของตนเองแล้ว
ก็ไม่ยอมปล่อยโอกาสให้เสียไป
มือของเราที่จะให้ทานก็ไม่ถูกตัด เท้าของเราที่จะก้าวเดินไปวัดก็ไม่ถูกตัด
หูของเราที่จะได้ฟังเทศน์ก็ไม่ถูกตัด ตาที่จะได้พบเห็นของดีๆ ก็ไม่ถูกปิดมืด
เราก็จะได้รับผลได้อันดีจากตัวของเราอย่างเต็มที่
อย่างนี้เรียกว่า เมตตาตัว เป็นการรักที่ถูกทาง ผู้นั้นจะมีแต่ความสุข

คนใดที่ขาดเมตตาตัวเองเท่ากับฆ่าตัวเอง เรียกว่า เป็นคนใจร้าย
เมื่อฆ่าตัวเองได้ ก็ย่อมฆ่าคนอื่นได้ด้วย
เช่น เขาจะไป ห้ามไม่ให้เขาไป เขาจะดู ห้ามไม่ให้เขาดู
เขาจะฟัง ห้ามไม่ให้เขาฟัง ฯลฯ
ทำให้ผลประโยชน์ของคนอื่นที่ควรจะได้พลอยเสียไปด้วย
นี่แหล่ะเป็นการฆ่าตัวเองและฆ่าคนอื่นให้ตายไปจากคุณความดี


ที่มา : แนวทางวิปัสสนากัมมัฏฐาน.
พิมพ์ครั้งที่ ๑. โดยชมรมกัลยาณธรรม. ปี ๒๕๕๒, หน้า ๖๕-๖๗.

 

กราบหลวงปู่พิศดู สวัสดีคุณทุเรียนทอด และสมาชิกทุกท่านครับ

 

สวัสดีครับ สาธุ บารมีธรรมของท่านล้ำลึกและอลังการยิ่งนัก จริงๆครับ

 

สาธุครับคุณหิมาลัย ผมก็นำเสนอเรื่องราวที่องค์หลวงปู่ และหลายๆท่านรวมทั้งผมที่พบเจอมาตามความเป็นจริง เพื่อบูชาเผยแผ่เกียรติคุณของท่านให้ขจรขจายไปทั่วถ้วนด้วยความเคารพศรัทธาอย่างสูงสุด นี่ยังเป็นเพียงล่วนเล็กๆเท่านั้นที่ถ่ายทอดให้ทราบ ยังมีอีกมากมายที่ผมทราบ และอีกหลายๆท่านที่พบเจอมา บอกได้เลยว่า เรื่องราวที่พ่อแม่ครูอาจารย์รุ่นเก่าๆที่ท่านได้เจอะเจอมา ที่พวกเราๆท่านๆเคยได้อ่านมาในประวัติของท่านเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ด้านเสี่ยงอันตรายจากสัตว์ร้าย สิ่งลี้ลับ หรือจิตวิญญาณต่างๆทั้งในป่าและในเมือง...ฯลฯ หลวงปู่ท่านผ่านมาหมดมีอยู่ทุกรูปแบบ เรื่องของท่านถ้าเขียนเป็นเรื่องจริงอิงชาดก, นิยายได้เลยละครับ ตอนนี้ผมเริ่มจะมีเวลาบ้างแล้วเดี๋ยวว่าจะตั้งกระทู้ใหม่ เป็นหัวข้อขององค์หลวงปู่พิศดูเองเลย ขอทุกท่านคอยติดตามนะครับ สาธุ



.

 

อนุโมทนาสาธุครับ ประเทศเยอรมันนีมีลูกศิษย์ขององค์หลวงปู่มากมาย บางองค์ก็เป็นเกจิอาจารย์ด้วย หลวงปู่เคยมอบรูปเหมือนพระมหาอุปคุตให้ไปเผยแพร่ที่นั่น และพระต่างๆรวมทั้งปัจจัย4 อีกด้วย น่าปลื้มใจมากที่ประชาชนแถบนั้นมีผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนา ไม่แน่องค์หลวงปู่อาจเล้งเห็นบางอย่างในอนาคตก็ได้นะครับ สาธุ



.