ความลับของปีรมิดของชาวแอตแลนติส

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Jjfreeman, 12 พฤศจิกายน 2010.

  1. Jjfreeman

    Jjfreeman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2010
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +130
    [​IMG]


    "คัมภีร์มรกต" (The Emerald Tablets) - ความลับของปิรามิดของชาวแอตแลนติส

    .... นักประวัติศาสตร์ และนักโบราณคดีเชื่อว่า มหาปิระมิดแห่งกีซากับสฟริงส์ ในประเทศอียิปต์ ถูกสร้างเมื่อ ประมาณ 2,900 ปี ก่อนคริสต์กาลแต่ สิ่งที่จะนำมาพูดถึงต่อไปนี้ เป็นความจริงที่ โหรเทวดา "เอ็ดการ์ เคซี" ได้เปิดเผย (ใช้หลักของการรับรู้ ทางจิต) ซึ่งข้อมูลที่จะนำเสนอ เอ็ดการ์ เคซี มิได้พึ่งพาเอกสาร หรือการค้นคว้าใดๆทั้งสิ้น เช่นเดียวกับการทำนายอื่นๆ ผมจะขอนำเสนอ ตามที่ได้รับรู้มาจาก หนังสือมังกรจักรวาล ภาค 2 ชื่อตอน เทพอวตาร ของ ดร.สุวินัย ภรณวลัย วัตถุประสงค์ที่ผมต้องการนำเสนอนี้ เพราะผมเห็นว่า น้อยคนนักที่จะ รู้ว่า หนังสือ มังกรจักรวาล มีดีเช่นไร เนื่องมาจาก ราคาแพง ชื่อเรื่องไม่น่าสนใจเท่าที่ควร จึงยากที่หลายคนจะได้รับรู้ข่าวสารจากหนังสือเล่มนี้ แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้รับจากหนังสือมังกรจักรวาลทั้ง 4 ภาค คุ้มค่ามาก กับการสูญเสียเวลาไปกับการอ่านหนังสือเล่มหนาแหล่านั้น เพราะได้รับสิ่งสำคัญกับการดำรงชีวิตและจุดหมายปลายทางที่พึงสำนึกไว้ และเพื่อประโยชน์ของท่านผู้อ่าน ผมจึงขอนำเสนอ จากสิ่งที่ผมได้รับรู้มา "บางส่วน ของ มังกรจักรวาล"
    มหาปิรามิดแห่งกีซา ถูกสร้างขึ้นราวๆ หนึ่งหมื่นปีก่อนคริสต์กาล ใช้เวลาก่อสร้าง 100 ปีเต็ม โดย "พลังจักรวาล"

    ….. ตลอดช่วงเวลาสองแสนห้าหมื่นปี อียิปต์ยังเป็นดินแดนอยู่ใต้ทะเล อยู่เหนือพ้นน้ำก็มีทะเลทรายซาฮาร่า กับดินแดนตอนบนของลุ่มแม่น้ำไนล์ เมื่อดินแดนอื่นๆ เริ่มผุดขึ้นมาเป็นแผ่นดิน ก็ยังเวลาอีกนาน ที่อียิปต์จะกลายเป็นพื้นที่ที่คนอยู่อาศัย คนเผ่าแรกที่มาอาศัย เป็นคนผิวดำ อาศัยอยู่นะบริเวณตอนบนของลุ่มแม่น้ำไนล์ หลังจากนั้น ก็มาถึงยุคของพระเจ้าไร ซึ่งเป็นกษัตริย์ผู้ปกครองอียิปต์ พระองค์มีพระปรีชาสามารถมาก เกี่ยวกับเรื่องทางจิตวิญญาณ เข้าใจเกี่ยวกับกฎของจักรวาล และพระองค์ได้ทรงพยายามอย่างยิ่ง ที่จะให้ประชาชน เข้าใจในเรื่องเหล่านี้ด้วย เพื่อให้มนุษย์เป็นเจ้าแห่งสรรพสัตว์ทั้งปวง พระองค์ทรงทราบเรื่องนี้จากการศึกษาธรรมชาติ ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับจักรวาล วิวัฒนาการของมนุษย์เป็นวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณขั้นตอนต่างๆ คำสอนต่างๆของพระองค์ ได้ถูกบันทึกไว้ในแผ่นหินและแผ่นไม้ กลายเป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์เล่มแรกๆ ที่มีผู้รู้จักในชื่อ "คัมภีร์มรณะอียิปต์" พระเจ้าไรปกครองอียิปต์เป็นเวลา 199 ปี จนคนรุ่นหลังๆบูชาพระองค์เป็น "เทพเจ้า" องค์หนึ่ง แต่การปกครองของพระองค์มิได้ต่อเนื่อง เพราะถูกรุกราน จนพระองค์ต้องเสียราชบัลลังก์ การถูกรุกรานเกิดขึ้นเมื่อ 11,016 ปี ก่อนคริสต์กาล หรือราวๆ 300 ปี ก่อนที่จะเกิดการระเบิดครั้งสุดท้ายในทวีปแอตแลนติส (ซึ่งเป็นผลให้แอตแลนตีสจม) มีชนผิวขาวกลุ่มใหญ่ โดยการปกครองของพระเจ้าอารีท บุคคลผู้นี้มีความเลื่อมใสในพระหนุ่มรูปหนึ่ง ที่มีความสามารถดุจผู้วิเศษ ชื่อราตะ พระราตะได้ทำนายไว้ว่า ชาวเผ่าซูที่อพยพมาจาก อารเบีย จะรุกร้ำเข้ามาในอียิปต์ และต่อไปรัฐอียิปต์จะเป็นรัฐชั้นนำแห่งยุค เมื่อได้ฟังคำทำนายนั้น พระเจ้าไรก็เอาแต่หมกมุ่นค้นคว้าในเรื่องอภิปรัชญา ไม่ใส่ใจกับการปกครองบ้านเมือง จึงทำให้พระเจ้าอารีท ยึดอียิปต์ได้โดยง่าย อย่างแทบจะไม่มีการต่อต้าน ส่งผลให้ ทั้งสองประนีประนอมกัน พระเจ้าไรก็ยอมสละราชบัลลังก์ให้พระเจ้าอารีท โดยยกธิดาโฉมงามของพระองค์ ให้เป็นพระชายา และสละราชสมบัติให้แก่ราชบุตรของพระองค์ชื่ออารารัท โดยพระองค์หันมาเป็น ที่ปรึกษาคอยค้ำบัลลังก์ ให้แก่ราชบุตรของตนแทน

    "คัมภีร์มรกต" ความลับของปิรามิดของชาวแอตแลนตีส"

    ความเป็นมาของคัมภีร์มรกต

    "…ที่มาของคัมภีร์มรกตที่ผมแปลออกมาเป็นภาษาอังกฤษนี้ ช่างน่าพิศวงเหลือเกิน เพราะ มันมีอายุเก่าแก่มาก ถึง 36,000ปี ก่อนคริสต์กาลทีเดียว ผมรับรองว่า พวกนักวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ไม่มีทางยอมเชื่อในเรื่องนี้อย่างแน่นอน ผู้เขียนคัมภีร์มรกตนี้ เป็นชาวแอตแลนติส ชื่อ โธท หรือเรียกอีก อย่างหนึ่งว่า เฮลมอส ภายหลังจากที่ทวีปแอตแลนติสล่มสลายจมลงใต้สมุทรแล้ว โธทได้ไปสร้างอาณานิคมแห่งหนึ่งของแอตแลนติสที่อียิปต์โบราณ โธทนี่แหละ ที่สร้างมหาปิรามิดแห่งกีซา แต่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นผลงานของพระเจ้าคีออปส์ โธทได้บรรจุองค์ความรู้และภูมิปัญญาโบราณของตนซ่อนเอาไว้ใต้มหาปิรามิด พร้อมกับบันทึกของแอตแลนติสและเครื่องมือต่างๆ…" "โธทปกครองอียิปต์โบราณ เป็นเวลา 16,000 ปี ในช่วงห้าหมื่นปีถึงสามหมื่นสี่พันปีก่อนคริสตกาล เขาได้ฉายาจากผู้คนว่า เป็นเทพผู้อมตะ คัมภีร์มรกตถูกเก็บเอาไว้ในมหาปิรามิด และได้รับการดูแลโดยเหล่าศิษย์ของโธทหลังจากที่โธทจากอียิปต์ไปแล้ว ซึ่งคัมภีร์นี้มีอยู่ทั้งหมด 12 แผ่น

    ต่อมาในราว หนึ่งพันสามร้อยปีก่อนคริสต์กาล เกิดความวุ่นวายในอียิปต์ กลุ่มพระผู้ดูแลมหาปิรามิด ได้นำคัมภีร์มรกตไปที่อเมริกาใต้ ที่เป็นที่ตั้งของอาณานิคมของแอตแลนติสเหมือนกัน นั่นคือชาวเผ่ามายา"

    "ในศตวรรษที่ 10 ชาวเผ่ามายาได้อพยพไปที่อื่น คัมภีร์มรกตได้ถูกซ่อนไว้ใต้แท่นบูชาของวิหารที่บูชาพระอาทิตย์"

    "มหาปิรามิดแห่งกีซามิใช่ห้องเก็บศพของพระราชา แต่เป็นอารามถ่ายทอดวิชาเร้นลับต่างหาก ตัวผมได้บุกป่าฝ่าอันตรายคนเดียวเข้าไปพบคัมภีร์มรกตนี้
    ที่ประเทศเม็กซิโก เมื่อปี 1925 แต่ผมไม่ได้รับอนุญาตให้นำฉบับจริงออกมา จึงได้แต่คัดลองคัมภีร์นี้กลับมาแทน"

    แน่นอนว่า มีแต่ ดร.โดเรียลคนเดียวเท่านั้นที่อ่านรู้เรื่อง ส่วนความน่าเชื่อถือ ผมคิดว่า ยังสู้ของ เอ็ดการ์ เคซี่ที่มีผลงาน "การอ่าน" ในอดีตพิสูจน์ยืนยันไม่ได้ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ทั้งสองท่าน พูดเหมือนกันว่า มหาปิรามิดถูกสร้างโดยชาวแอตแลนติสที่ชื่อ เฮลเมส"

    ดร.โดเรียลผู้แปลและขยายความ "คัมภีร์มรกต" ได้พูดถึงลักษณะคัมภีร์ว่า

    เป็นแผ่นโลหะสีมรกต 12 แผ่น ที่ไม่มีวันเป็นสนิมหรือผุกร่อน ร้อยด้วยห่วงสีทอง อักษรที่จารึกเป็นภาษาแอตแลนติสโบราณ


    คัมภีร์มรกต แผ่นที่ 1

    กล่าวถึง ความเป็นมาของชาวแอตแลนติสชื่อโธท โดยโธทเล่าเรื่องตัวเองว่า เขาต้องการบันทึกองค์ความรู้อันยิ่งใหญ่ของ แอตแลนติสไว้ให้คนรุ่นหลัง

    โธทบอกว่า ทุกๆพันปี และทุกๆห้าสิบปี เขาจะทำการ "อวตาร" และชุบร่างกายให้หนุ่มขึ้นมาอีกครั้ง โดยเข้าไปในอารามศักดิ์สิทธิ์และนอนใต้ "ดอกไม้แห่งชีวิต" หรือ อาบ "ไฟแห่งชีวิต" ตอนที่โธทเขียนคัมภีร์เล่มนี้ เขามีอายุ ห้าหมื่นปีแล้ว โธทบอกว่า เขาสามารถตั้งจิตให้ดวงวิญญาณของเขา ไปเกิดในร่างอื่นหรือชีวิตอื่นได้ โดยร่างเดิมของเขายังนอนหลับอยู่ เขาจึงสามารถเดินทางไปทั่วจักรวาลได้โดยเพ่งจิตไปที่หัวใจของตน เพราะที่นั่นมีความเร้นลับอันยิ่งใหญ่ดำรงอยู่ โธทและผู้ติดตามนั่ง "จานบิน" ไปยังอียิปต์และใช้ "ไม้เท้าวิเศษ" ที่ควบคุมโดยอำนาจจิต สามารถปล่อยแสงปล่อยพลังได้ต่างๆนานา สะกดให้ผู้คนที่นั่น ยอมรับในตัวเขาคือเทพเจ้าและเป็นบุตรของพระอาทิตย์

    คัมภีร์มรกต แผ่นที่ 2

    โธทบอกว่า ที่ตั้งของอารามศักดิ์สิทธิ์ที่เขาใช้ชุบร่างกายทุกห้าสิบปี นั้น อยู่ใต้ทวีปแอตแลนติส ณ ที่อารามนั้น เป็นศูนย์รวมของ "พลังชีวิต" ที่ค้ำจุนสรรพชีวิตบนพื้นโลก ที่เรียกว่า "ดอกไม้แห่งชีวิต" ซึ่งทำหน้าที่เดียวกับ "โซล่าเพลกซัส" (จักรสะดือ) ในร่างกายมนุษย์ ซึ่งเป็นตำแหน่งเก็บพลังชีวิตของมนุษย์ โดยมีทางเข้าของพลังอยู่ที่กลางกระหม่อม (จักรมงกุฎ)

    เมื่อโธทได้ฝึกฝน "พลังชีวิต" (ปราณ) จนตัวเขาบรรลุธรรมขั้นสูงสุดได้แล้ว
    เขาสามารถเลือกวิธีแห่งการทำงานของเขาได้อย่างเสรี จะไปอยู่ดวงดาวอื่นหรือภพอื่น หรือจักรวาลอื่นก็ย่อมได้ดังใจปรารถนา แต่ตัวเขากลับตัดสินใจอยู่ในโลกนี้ต่อ และทำงานให้โลกนี้ต่อ เพื่อเป็นผู้นำแห่งการชี้นำจิตวิญญาณของหมู่มนุษย์ ให้หลุดพ้นจากความมืดมิด และฟื้นฟู "ความเป็นเทพ" หรือ "ความเป็นพระเจ้า" กลับคืนให้แก่มวลมนุษย์

    คัมภีร์มรกต แผ่นที่ 3

    โธทกล่าวถึงกุญแจที่จะไขไปสู่ "ปัญญา" ที่จะนำมาซึ่ง "พลัง" และพลังจะทำให้เกิดปัญญาว่าอยู่ที่ความถ่อมตัว เพราะ ผู้ที่ยะโสหลงตัวเองคือคนโง่ที่ปฏิเสธที่จะเรียนรู้

    คนเราพึงปฏิบัติตามคำสั่งของ "คุรุ" หรือสิ่งที่อยู่ในตัวเรา หรือ "อาตมัน" ทรัพย์สมบัติเป็นเพียงวิธีการ ไม่ใช่เป้าหมาย เมื่อความต้องการทางวัตถุได้รับการตอบสนองแล้ว ควรหันมาสนใจยกระดับจิตวิญญาณ "อาตมัน" หรือ "ใจที่แท้" ตั้งอยู่ในบริเวณกึ่งกลางของหัวใจ ที่เชื่อมโยงกับต่อมไพนีลในสมองได้ "ใจที่แท้" นี้ไม่แค่สนใจแสวงหาเรื่องความมั่งคั่งเลย มันสนใจแต่เรื่อง "ความเป็นพระเจ้า" หรือ "ความบริสุทธิ์ของจิตเท่านั้น"

    " ความรัก" เป็นจุดเริ่มต้นของ "ทาง" และเป็นจุดสิ้นสุดของ "ทาง" โธทเน้นความเป็นเอกภาพของทุกๆสิ่งในจักรวาล ที่ถูกหล่อเลี้ยงด้วย "ความรักอันยิ่งใหญ่" ความสงบเงียบ คือกุญแจสำคัญไปสู่ความรุดหน้า จงใช้ความสงบเงียบรักษาพลังภายในตัวเราไว้ อย่าหลงตัวเอง ว่าเรายิ่งใหญ่กว่าใครอื่น เพราะทุกคนต่างก็เป็นเพชร ต่างกันที่บางคนเป็นเพชรที่ยังไม่เจียระไนเท่านั้น ร่างกายเป็นธาตุดินที่หยาบ จิตเป็นธาตุไฟที่ละเอียด ก่อนที่จิตวิญญาณจะเข้ารวมเป็นหนึ่งเดียวกับ "พระอาทิตย์ดวงแม่" (พระอาทิตย์ในโลกทิพย์) จิตวิญญาณจะต้องละจากร่างกายที่เป็นวัตถุหยาบเสียก่อน พลังสร้างสรรค์เกิดจากการเปิดตาที่สามหรือต่อมไพนีล คนธรรมดาตาที่สามจะเปิดอยู่เล็กน้อย ต้องฝึกฝนให้ตาที่สามเปิดกว้างเต็มที่ เพื่อรวมเป็นหนึ่งเดียวกับปรมาตมันได้ มีแต่ความเพียรกับประสบการณ์เท่านั้น ที่จะทำให้จิตใจหลุดพ้นจากความมืดมิดได้ วัตถุเป็นเพียงรูปการที่แสดงออกมาของจิตเท่านั้น ขั้นสุดท้ายวัตถุกับจิตจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกันสรรพสิ่งล้วนอยู่ในกระบวนการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มนุษย์เพียงใส่ "จิต" เข้าไปในกฎของธรรมชาติเท่านั้น "ปัญญา" จะมาหาแก่ผู้แสวงหามัน สิ่งสำคัญคือ "โลกทางวัตถุคือมายาที่เกิดจากใจของผู้ที่มีอวิชชา แต่โลกวัตถุนี้ก็เป็นการสำแดงตนของพระเจ้าผู้สร้างโลกด้วยเช่นกัน (กฎของจักรวาล) ไม่ว่าจะเป็นยุคใดก็ตาม "ผู้ที่ตื่นแล้ว" จะได้รับแสงสว่าง ปัญญา และความเร้นลับเสมอ จากเนื้อความข้างต้นหากท่านได้อ่าน หัวข้อ ฟิสิกส์แห่งยุคใหม่ กับศาสนาตะวันออก คงพอเห็นถึงความ "เหมือน" ของสิ่งที่ศาสนาตะวันออก ได้ "สำแดง" ออกมา

    คัมภีร์มรกต แผ่นที่ 4

    โธทได้กล่าวถึงประสบการณ์ทางจิตในการท่องจักรวาล จนเขาได้พบกับ "จิตสำนึกแห่งจักรวาล" และได้เรียนรู้ว่ามนุษย์เป็นส่วนหนึงของจิตสำนึกแห่งจักรวาลนี้ ดุจความสัมพันธ์ระหว่างสมองกับเซลล์สมอง

    โธทได้แนะวิธีถอดกายทิพย์ออกจากกายหยาบว่า วิธีที่ดีที่สุดคือการขยาย "โซล่าเพลกซีส" (จักรสะดือ) หรือ "ดอกไม้แห่งชีวิต" ในกายคนให้ใหญ่ขึ้น จนพลังชีวิตไหลเข้ามากระตุ้นกายหยาบให้ทำงานอย่างมีชีวิตชีวา เพื่อเป็นการเตรียมให้จิตออกจากร่างได้ราบรื่น ต่อไป ทำการอดอาหารในช่วงสั้นๆ ราวๆหนึ่งวัน เพื่อตัดความรู้สึกภายนอกและไม่พูดจาใดๆ อยู่ในความสงบ เมื่อความสงบบรรลุถึงภาวะสมบูรณ์ โดยผ่านการโน้มนำแห่งจิตแล้ว ให้เพ่งจิตไปที่ต่อมไพนีล ที่เป็นที่ตั้งของจิตวิญาณ ก่อนที่จะนึกถึงสถานที่ที่กายทิพย์ต้องการจะไป โดยจะต้องทำการสั่นขึ้นที่ต่อมไพนีล จากนั้นให้จิตหมุนภายในสมอง แล้วให้จิตเคลื่อนที่ออกนอกศีรษะไปตามเส้นโค้งที่เกิดจากการหมุนข้างในนั้น (เป็นหลักการที่เหมือนกันอย่างน่าทึ่ง ของ "สมาธิหมุน" (สมาธิหมุน หรือมังกรจักรวาลภาค 1 เขียนโดย ดร.สุวินัย) กับสิ่งที่โธทกล่าว)

    การสั่น (Vibration) เป็นความเร้นลับอันยิ่งใหญ่ สรรพสิ่งล้วนเป็นความสั่นของคลื่นทั้งสิ้น การสั่นของคลื่น เป็นกุญแจของการสร้างจิตที่หลุดพ้น หากอยากเข้าถึงปัญญา ก็ต้องหมั่น " ภาวนา" เพราะการภาวนาเป็นการปรับการสั่นของคลื่น ให้สอดคล้องกับพระผู้เป็นเจ้า

    (การสั่น = การปรับคลื่น จูนคลื่น เพื่อเข้าสู่ความถี่ความถี่หนึ่ง ที่ยังเข้าไม่ถึง และไม่สามารถมองเห็น)

    คัมภีร์มรกต แผ่นที่ 5

    โธท กล่าวถึง เหล่าที่พำนักอยู่ที่เกาะอุนาล ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบเอ็ดเกาะของดินแดนแอตแลนติส และเล่าถึงการพาชาวแอตแลนติสกลุ่มหนึ่ง รวมทั้งเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ขึ้นจานบินมาที่อียิปต์ ก่อนที่ทวีปแอตแลนตีสจะล่มสลาย หลังจากที่ทำให้ชาวอียิปต์นับถือบูชาได้แล้ว โธทก็ได้สร้าง ปิรามิด กับ สฟิงส์ ขึ้นมา

    คัมภีร์มรกต แผ่นที่ 6

    โธทถ่ายทอดเคล็ดลับการเอาชนะพลังมืดเอาไว้ หากเป็นพลังมืดจากภายนอก ให้เข้าไปอยู่ในห้องมืด และปิดวงกลมล้อมรอบตัวเองไว้ เพราะวงกลมสามารถ มีพลังป้องกันภูตร้ายได้ จากนั้นก็ท่องชื่อ คุรุทั้งเจ็ด ดังนี้ Untanas , Quertas , Chietal , Goyana , Huertal , Semveta , Ardal

    แต่ถ้าเป็นพลังมืดภายในจิตใจ ให้สร้างความสั่นขึ้นภายในต่อมไพนีล ก่อนที่จะขับออกไปจากร่างกายพร้อมกับลมหายใจออก

    คัมภีร์มรกต แผ่นที่ 7

    โธทบอกว่า ชีวิตคนเต็มไปด้วยอุปสรรค มีหลุมพลางต่างๆ ที่คอยฉุดให้มนุษย์ลงสู่หนทางที่ตกต่ำ ดังนั้น ผู้แสวงหาทุกคน ควรตั้งเป้าหมายชีวิตไว้กับการเป็นหนึ่งเดียวกับจิตสำนึกแห่งจักรวาล จงเพ่งกระแสจิตและความคิด ไปข้างในตัวเอง เพื่อค้นพบ "จิตวิญญาณที่เป็นแสง" อยู่ข้างใน และเมื่อนั้น ตัวเราก็จะเป็น "คุรุ" ของตัวเรา

    คัมภีร์มรกต แผ่นที่ 8

    โธทบอกว่า ในสัญลักษณ์ต่างๆ จะมีกุญแจไปสู่ปัญญา ได้โดยที่ปัญญาก็คือความรู้เกี่ยวกับ "การประยุกต์ใช้กฎแห่งจักรวาล" นั่นเอง บางครั้งปัญญาก็แฝงอยู่ในความมืด ต้องใช้ความพยายามเสาะหาเอง ความเป็นแสง ซ่อนตัวอยู่ในความมืดฉันใด ปัญญาที่แท้จริง ก็มักจะซ่อนตัวอยู่ในความมืดฉันนั้น

    คัมภีร์มรกต แผ่นที่ 9

    โธทบอกให้แสวงหาความเป็นวงกลม เพราะวงกลม (จักร) เป็น สัญญลักษณ์ที่แสดงถึง ความสมบูรณ์ของการเป็นช่องทางให้พลังจักรวาล ไหลผ่านศูนย์ต่างๆในร่างกาย การใช้ภาษาก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะภาษาคือคลื่นหรือความสั่น ที่ปลดปล่อยพลังออกมา มนุษย์ นั้นแท้จริงแล้วไม่ใช่วัตถุ แต่คือแสงหรือพลังงานที่เปล่งมาจากต้นตอ ที่เป็นนิรันดร์ต่างหาก แต่คนเราเห็นเป็นวัตถุไปเอง

    เพราะ สิ่งที่เรียกว่าวัตถุนั้น จริงๆแล้วก็คือแสงเช่นกัน แต่คนเห็นเป็นวัตถุไป (หากได้อ่าน ฟิสิกส์แห่งยุคใหม่ กับศาสนาตะวันออก คงพอเข้าใจถึงความสัมพันธ์ ดังกล่าว) คนเรามีปัญญาอยู่แล้ว ก็ควรที่จะแสวงหาปัญญาเพิ่มอยู่เสมอ

    มนุษย์สามารถทำตัวเองให้เป็นได้ทั้งเทพและมารและโธทได้ให้มนตร์ในการปลุกพลังภายในตัวเอง คือ "Zin Uru"


    คัมภีร์มรกต แผ่นที่ 10

    โธทบอกว่า จิตวิญญาณที่สามารถเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับจักรวาลได้แล้ว จะเป็นเหมือน "พระอาทิตย์ในหมู่แสง"

    สิ่งที่ชี้นำชะตาชีวิตของคนเรานั้น ก็คืออาตมันของผู้นั้น ซึ่งเป็นเสียงแห่งความสงบเงียบของจักรวาล

    ร่างกายคนเราเกิดมาจากขั้วสองขั้ว หากขั้วใดขั้วหนึ่งเสียสมดุล จะทำให้เกิดโรคภัย แต่ถ้าร่างกายอยู่ในสภาวะสมดุลโดยสมบูรณ์ ระหว่างสองขั้วนี้ คนผู้นั้นจะปลอดโรคและไม่ตาย สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้ร่ายกายเสียสมดุล เกิดจากการเสียสมดุลของใจแทบทั้งสิ้น ทำให้ต่อมไร้ท่อบกพร่อง

    ถ้านอนเอาศีรษะหันไปทางทิศเหนือ(ขั้วบวก) ให้วางจิตอยู่ระหว่างช่วงหน้าอกถึงศีรษะถ้านอนเอาศีรษะหันไปทางทิศใต้(ขั้วลบ) ให้วางจิตอยู่ระหว่างช่วงหน้าอกถึงปลายเท้า

    หากฝึกเช่นนี้ได้ จะช่วยให้เกิดสมดุลภายในร่างกาย เมื่อถึงเวลาใกล้ตาย แล้วต้องรักษาความทรงจำในชาตินี้ ให้ไประลึกได้ในชาติหน้า โธทบอกให้ทำดังนี้ จงผ่อนคลายร่างกายอย่าให้เกิดความตึงเครียดใดๆ เป็นอันดับแรก ต่อจากนั้น เอาจิตสำนึกของตน ไปตั้งไว้ที่หัวใจ ก่อนที่จะโน้มนำอย่างรวดเร็ว ไปที่ต่อมไพนีล(บริเวณกึ่งกลางของสมอง) ตั้งใจไว้ที่ต่อมไพนีลชั่วครู่ แล้วค่อยเคลื่อนจิตไปที่ต่อมพิตทูอิทารี บริเวณกึ่งกลางหัวคิ้ว ซึ่งเป็นที่ควบคุมความทรงจำของชีวิต กำหนดจิตไว้ที่จุดนี้ จนกระทั่งความตายมาพาตัวเราไป

    คัมภีร์มรกต แผ่นที่ 11

    โธทบอกว่า...
    วิถีของจิตวิญญาณ มีอยู่ 3 ด้วยกันคือ
    พัฒนาจากมนุษย์ที่เป็นสัตว์โลก
    ไปเป็นจิตสำนึกที่บริสุทธิ์ก่อน
    แล้วค่อยพัฒนาเป็น "แสงสว่าง" หรือเทพเจ้า

    และอุปสรรค ก็มีอยู่ 3 อย่างคือ
    ขาดความเพียรพยายามในการแสวงหาธรรม
    ไม่เอาใจใส่ในพระผู้เป็นเจ้า
    และหมกมุ่นอยู่กับความชั่วช้า

    พลังในการสร้างสรรค์สรรพสิ่ง ก็มีอยู่ 3 อย่างคือ
    การมีความรักอันศักดิ์สิทธิ์
    การมีปัญญาในการใช้วิธีการทั้งปวง
    และการมีความมุ่งมั่น ที่จะผนึกความรักอันศักดิ์สิทธิ์ กับปัญญาอันศักดิ์สิทธ์เข้าด้วยกัน

    การพิชิตพลังแห่งความมืด ไม่ใช่การต่อสู้กับความมืด แต่คือการเปล่งแสงแห่งอาตมัน หรือความเป็นพระเจ้าในตัวเราให้เจิดจ้าออกมาต่างหาก

    คำสอนเหล่านี้ อย่านำไปสอนต่อผู้มีใจไม่สะอาด และผู้มีใจอ่อนแอเลย มันจะเป็นความสูญเปล่าโดยแท้

    คัมภีร์มรกต แผ่นที่ 12

    โธทบอกว่า บทนี้เป็นสุดยอดแห่งความลับทั้งปวง

    เพราะเขาจะถ่ายทอดพลัง เพื่อการเป็น "เทพมนุษย์" ให้แก่ผู้เป็นศิษย์เขา การเป็น "เทพมนุษย์" คือการสำแดงออกซึ่งความเป็นแสงสว่าง ของพระเจ้าที่อยู่ในตัวมนุษย์นั่นเอง อันที่จริง "ความมืด" กับ "ความสว่าง" เป็นสิ่งต่างกันแค่ภายนอกเท่านั้น แท้ที่จริงแล้ว มันเป็นสองด้านของสิ่งที่เป็นธาตุแท้เดียวกัน ที่มาจากต้นตอเดียวกัน

    ความมืดคือความไร้ระเบียบ ความสว่างเป็นความมีระเบียบ หากเกิดการเปลี่ยนแปลง ความมืดย่อมกลายเป็นความสว่างได้ และนั้นคือเป้าหมายของชีวิตคนเรา การที่จะรู้ความเร้นลับเกี่ยบกับธาตุแท้ของมนุษย์ ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ร่างกายคนเราประกอบด้วยกายหยาบ กายทิพย์ และกายละเอียดที่สุด(mental body) ในร่างกายมีช่องทางต่างๆ ให้ปราณไหลผ่าน เพื่อค้ำจุนชีวิตเอาไว้ การไหลเวียนของปราณ อยู่ภายใต้การควบคุมของจิต มนุษย์ขณะที่อยู่บนโลกนี้ เขาจะถูกผูกมัดจองจำให้เป็น "ทาส" ของเวลาและสถานที่ การจะปลดปล่อยตัวเองให้ "หลุดพ้น" จากการถูกจองจำนี้ เคล็ดลับอยู่ภายในตัวเขาผู้นั้น คนเราจะค้นพบเสรีภาพที่แท้จริงจากภายในตัวเราเองเท่านั้น

    ในตอนที่ผู้ฝึกต้องการหลุดลอยออกจากกายหยาบ ไปยังที่ไกลๆสุดขอบฟ้า ขอให้เขาบริกรรมมนตร์ "Dor-E-Ul-La" เอาไว้ในใจ ก่อนอื่นต้องทำใจให้สงบนิ่ง ผ่อนคลายร่างกายตั้งจิตมุ่งมั่น ที่จะปลดปล่อยตนเองออกจากกายหยาบ หากต้องการพาดวงจิตขิงตนไปที่ใด ก็ขอให้นึกถึงเสรีภาพแห่งดวงจิต พร้อมบริกรรมมนต์ต่อไปนี้ "la Um-I-L-Gan" (ลาอุมอีลูกาน)

    หากต้องการจะถอดจิต ไปยังวิหารศักดิ์สิทธิ์ของแอตแลนติส ก็ให้บริกรรมมนตร์ต่อไปนี้ โดยไม่ออกเสียง
    1. Me-Kut-El-Shab-El
    2. Hale-zur-Ben-El-Zabrut
    3. Zin-Efrim-Quar-El

    และหากต้องการถอดจิตไป "ศัมภาลา" ก็ขอให้บริกรรมมนต์ต่อไปนี้ เพื่อเปิดทวารเข้าสู่ศัมภาลา "Edom-El-Ahim-Sabbe-Rt-zur-Adom"

    หลังชาวแอตแลนติสผู้ไม่สนใจแม้ทรัพย์สินเพชรนิลจินดา แต่เป็นนักค้นหาทางจิตวิญญาณ ได้กลายไปเป็นผู้หลงวัตถุและเอาแต่ต้องการความยิ่งใหญ่ ติดอยู่แต่ในวัตถุความสนุกสนานและกิเลสตัณหา เทพเจ้าจึงลงโทษโดยถูกมหันตภัยจากน้ำท่วมจมอยู่ใต้บาดาล
     
  2. rwoot

    rwoot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +191



    เป็นข้อมูลใหม่ที่ผมได้รับเลยนะครับเนี่ย...ดีมากและให้ความรู้ฉีกออกไปอีกแนวเลยครับ...แต่แฝงไว้ซึ่งแนวทางแห่งพุทธ แนวทางแห่งความดี แนวทางตัดกิเลสเพื่อปัญญาเห็นแจ้งจริง....


    ขอบคุณมากมายครับ ถ้ามีข้อมูลต่อหรือเพิ่ม จะรอศึกษานะครับ


    อนุโมทนาสาธุ...ครับ
     
  3. Jjfreeman

    Jjfreeman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2010
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +130
    ขอบคุณครับหากเป็นประโยชน์กับคุณผมก็ดีใจแล้วครับ

    *****แต่อย่าลืมนะครับ คนแปลอาจสอดแทรกเอาตามใจตัวเองก็ได้ อ่านพิจจารณาให้ดีนะครับ*****
     
  4. เจษฎา เยี่ยมคำน

    เจษฎา เยี่ยมคำน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,332
    ค่าพลัง:
    +5,413
    ผมว่าหลักการคล้ายเต๋า คล้ายพราหมณ์ คล้ายพุทธ ผสมกัน สุดท้ายผมว่าฝึกแนวพุทธเราก้ไม่แตกต่างครับ (หากฝึกถึงขั้นการจะมีอายุยืนอย่างโธทก็ไม่ใช่เรื่องแปลก พระพุทธเจ้ายังเคยกล่าวว่าความรู้ที่พระองค์รู้นั้นมากมายแต่ทรงคัดเพียงเสี้ยวเล็กๆมาสอนเพราะเห็นว่าเป็นความรู้ที่จำเป็นเพื่อการหลุดพ้นจากความทุกข์) โธทน่าจะเป็นผู้เข้าถึงธรรมขั้นสูงผู้หนึ่งครับ ขอบคุณที่นำบทความดีๆมาให้อ่านครับ
     
  5. rwoot

    rwoot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +191

    ขอบคุณครับที่แนะนำ...


    ผมเป็นศิษย์ในพระรัตนตรัย พุทธองค์รงสอนให้ศึกษาค้นคว้าเก็บข้อมูลทั้งหมดที่พบเห็นมาพิจารณา กลั่นกรองเอาประโยชน์ที่มีต่อการหลุดพ้นจากกิเลส พิจารณาด้วยกำลังปัญญาของตนเองที่พอจะมีอยู่ในขณะปัจจุบันนั้นๆ "แล้ววางลง" นะครับ....


    ผมจึงเชื่อว่าทุกข้อมูลจากสรรพชีวิตในสรรพสิ่งนี้...ล้วนเป็นประโยชน์ต่อการขัดเกลากิเลสทั้งสิ้นนะครับ


    ....ขอบคุณบทความดีๆ มีประโยชน์มากครับ...
     
  6. banpong

    banpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,437
    ค่าพลัง:
    +1,770
    มนต์ใน คัมภีร์ ตรงคำว่า ลา อูม อี ลู กาน
    อาจารย์ พ่อมดโลจิ ถ้ายังจำกันได้เคยใช้ได้ผลมาแล้วนะครับ อันที่จริงคัมภีร์มรกตมาโพสที่เว็ปนี้หลายรอบแล้วครับ ตั้งแต่ ปี2006 แหนะ แต่ก็ขออณุโมทนา ครับ
     
  7. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    ตามอ่านค่ะ...............
     
  8. tomlucky

    tomlucky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +166
    อึ้งไปเลยครับ อยากทดสอบแต่ไม่กล้าลอง กลัวกลับมาไม่ได้ ><'
     
  9. banpong

    banpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,437
    ค่าพลัง:
    +1,770
    ผมว่าไม่น่ากลัวหรอกครับ อยู่ที่ว่าสภาวะเราจะไปได้ไหม

    งั้นลองไป ภาวนา วิชาเดินธาตุสักระยะ รับรองหายห่วงครับ
    ภาวนาครับว่า นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ นะมะอะอุ
    ก็นั่งท่องภาวนาไปเรื่อยๆนะครับ ท่องช้าเร็วแล้วแต่ถนัด
    ทำสักเดือนก่อนนะครับ พลังจิตจะได้แข็งๆ
    แต่มีผลข้างเขียงนิดหน่อยนะครับ มันจะร้อนร่างกาย ถ้าเิริ่มได้แล้ว
    แต่ถ้าคนภาคเหนือหนาวๆแบบนี้ สบายเลยครับ ไม่ต้องห่มผ้าเลย
     
  10. weruwan

    weruwan เวฬุวัน ว.มุจลินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +537
    เราก็เคยสดับศึกษามาเมื่อปี 2536-2537 เกี่ยวกับพลังงานของปีรมิด ความสัมพันธ์ของมหาปิรมิดกิซ่าต่อความสัมพันธ์กับปิรมิดอื่น เกี่ยวกับพลังงานต่างๆ เกี่ยวกับการเติมพลังงาน และเกี่ยวกับประตูสู่มิติ ความสัมพันธ์ของสามเหลี่ยมเมอร์บิวดาร์ หากท่านใดศึกษาไปได้ลึกเพียงนั้นก็จักรู้ในบางสิ่งได้ แต่หาที่จักไปสนทนากับผู้ใดรู้เรื่องได้ไม่ เราก็เลยหยุดไม่ได้ศึกษาต่อ วันนี้ได้มีโอกาศกลับมาอ่านอีกครั้ง แต่ยังไม่ละเอียดเท่าที่เคยศึกษามา เป็นอีกแขนงหนึ่งที่ได้เรียนรู้เพิ่มเติม
    เราจักขอขอบคุณท่านเสียยิ่งนักได้ได้มีโอกาสกลับมาอ่านอีกครา

    สิ่งที่ท่านจักจับต้องได้ในพลังงานของปีรมิดคือ
    - ณ เพลานี้มีผู้เชี่ยวชาญได้จำลองปีระมิดกิซ่าอย่างถุกส่วนมาจำหน่ายนานแล้ว จากการศึกษาพบว่า ผู้ที่เข้าไปนั่งสมาธิในปีรมิดอย่างถูกจุด พลังสมาธิจักดำเนินไปได้ด้วยดีอัศจรรย์เสียยิ่งนัก
    - หากท่านเอาสัตว์ตายไปไว้ในปิรมิดที่จำลองย่ออย่างถูกส่วน สัตว์นั้นจักไม่เน่า เพียงแห้งเหี่ยวลงไปในที่สุด ผักก็เช่นกัน
    - มีทหารอเมริกันบางกลุ่มได้นำปิรมิดจำลองที่ย่อได้ส่วนขนาดเล็กเอาพกติดตัวไปด้วย เขาเอาไว้ใช้ลับใบมีดโกนที่ทื่อแล้ว ด้วยการนำเอาใบมีดโกนนั้นใส่ไว้ในปีรมิด 2-3 วัน มีดโกนนั้นกลับมาคมใช้งานได้ดังเดิมอีกครั้ง
    มีอีกหลายอย่างที่เราเคยศึกษาในครานั้น ก็ขอเอ่ยไว้เพียงพอทำเนานะท่าน
    เพราะเราเกรงว่า จักมีท่านผู้รู้มากล่าวอันใดต่อเรา ทุกสิ่งคือประสบการณ์แห่งการเรียนรู้นะท่าน โปรดวางใจที่เป็นกลาง มีอีกมากมายนักที่เรายังไม่รู้ ไม่พบ ไม่เห็น แต่คือความจริง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2010
  11. ตันติปาละ

    ตันติปาละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    4,421
    ค่าพลัง:
    +4,649
    คุณธรรม 4 อย่างเรียก อิทธิบาท 4 สามารถทำให้สำเร็จกิจทั้งปวง
    1.ฉันทะ พอใจรักใคร่ในสิ่งนั้น
    2.วิริยะ เพียรประกอบในสิ่งนั้น
    3.จิตตะ เอาใจใส่ไม่ท้อถอย
    4.วิมังสา พิจารณาอยู่ตลอดเวลา

    ผู้ใดเจริญ อิทธิบาทนี้ย่อมกำหนดวันที่จะละสังขารได้ หรือจะมีชีวิตอยู่เป็นกัลป์ก็ได้

    วิชาเป็นอมตะที่พระพุทธเจ้าสอนครับ
     
  12. topff

    topff สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +8
    หนังสือมังกรจักรวาล ยังมีขายอยู่ไหม
     
  13. baddog

    baddog Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +36
    ผมเคยได้อ่าน คัมภีมรกตนี้เมื่อประมาณ 10 กว่าปีมาแล้ว
    ยังเซฟเก็บไว้ในแผ่น diskett 1.44MB 3.5"
    ไม่แน่ใจว่าคนร่นหลัง ยังรู้จัก หรือไม่ diskett 1.44MB 3.5"

    ดีครับ ได้ความรู้ไปอีกแบบ
     
  14. herriken

    herriken Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2005
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +91
    แผ่นดิส ดั้งเดิมมี 2 ขนาด คือ 5 เศษ 1/4 กับ 3 เศษ 1/2 ขนาดแรกใช้กับเครื่อง 8088 ต่อเนื่องมาจนถึง 486x ส่วนขนาดที่สองก็ใช้ต่อจากรุ่นนี้ คือ แพนเทียม 100 แต่ปัจจุบัน คาดว่าคงใกล้ (หรือล้มหายตายจาก) ไปแล้ว เพราะว่ามี flash drive เข้ามาแทน
     
  15. rapeepan.n

    rapeepan.n สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +12
  16. jedinn

    jedinn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +25
    เป็นความคิดเห็นที่ดีเลยครับ ขอบคุณที่นำความรู้นี้มาบอก
     
  17. keroro2

    keroro2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +203
    ขอบคุณ สำหรับความรู้ดีๆ ไม่นึกว่าจะได้มาเจอ
     
  18. จ๋าเอง

    จ๋าเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +333
    หนังสือรุ่นเก่า ติดต่อสำนักพิมพ์ ไอโอนิค 027172691-5 คุณอี๊ด ศศิธร
    เราเคยสั่งซื้อครบทุกเล่มเลย ..หลายปีแล้วนะ

    ไม่รู้ว่าจะมีเหลือป่าว ลองดูค่ะ

    สำหรับหนังสือรุ่นใหม่เข้าไปเช็คได้ที่ dragon press จ้า

    dragon-press [Powered by Makewebeasy.com]


    ขอให้โชคดี ได้อ่านสมใจค่ะ

    ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ความบังเอิญ
     
  19. Army56

    Army56 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,098
    ค่าพลัง:
    +1,862
    ขอบคุณมากนะครับ

    เข้ามากระทู้นี้ เพราะนั่งอ่านคัมภีร์มรกตจากเวบอื่นอยู่

    ดูจากหัวข้อกระทู้เลยไม่รู้ว่าเรื่องเดียวกัน




    และนี่คงเป็นสาเหตุของกระแสต่อต้านอิลลูมินาติ(ตัวปลอม)

    ศาสนาแห่งตะวันออก ศาสนาแห่งการรู้แจ้ง ศาสนาที่พัฒนาตนสู่ความเป็นเทพ

    อันเป็นเครื่องหลุดพ้น จากอิลลูมินาติ(ตัวจริง) พวกระบบวัตถุนิยมจัด


    หนังเรื่อง ดร.พาร์นาซัส ก็คงทำมาเพื่อป้ายสีให้กับศาสนาแห่งตาที่สามนี้
     
  20. Army56

    Army56 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,098
    ค่าพลัง:
    +1,862
    ผมจะหาต้นฉบับที่ ดร.โดเรียล คัดลอกข้อความทั้งมดได้จากไหนครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...