คาถาเพื่อการยกระดับทางด้านจิตใจและจิตวิญญาณ_2

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย JIT_ISSARA, 17 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,163
    <CENTER>เรื่อง ยิ่งให้เร็วนั่นแหละจะยิ่งช้า</CENTER><HR align=center width="50%" SIZE=1><DD>มีหนุ่มคนหนึ่งเขาอยากจะเป็นนักฟันดาบที่เก่งกาจ เขาไปหาอาจารย์สอนฟันดาบให้ช่วยสอนเขาให้เป็นนักฟันดาบ เขาถามอาจารย์ว่าจะใช้เวลาสักกี่ปี อาจารย์ตอบว่าประมาณ ๗ ปี เขาชักจะรวนเร เพราะเวลา ๗ ปีนี้มันเป็นเวลามิใช่น้อย ฉะนั้นเขาจึงขอร้องใหม่ว่า เขาจะพยายามให้สุดฝีมือสุดความสามารถในการฝึกฝน ทั้งกำลังกายและกำลังใจทั้งหมด ถ้าเป็นเช่นนี้จะใช้เวลาสีกกี่ปี อาจารย์ก็บอกว่า "ถ้าอย่างนั้นต้องใช้เวลาสัก ๑๔ ปี" แทนที่จะลดลงกลับเพิ่มขึ้น. <DD>หนุ่มคนนั้นก็โอดครวญว่า บิดาของเขาแก่มากแล้ว จะตายอยู่รอมร่อแล้ว เขาจะพยายามอย่างยิ่ง ให้บิดาของเขาได้ทันเห็นฝีมือฟันดาบของเขาก่อนตาย เขาจะแสดงฝีมือฟันดาบของเขาให้บิดาของเขาชมให้เป็นที่ชื่นใจแก่บิดาเขาจะพยายามอย่างยิ่ง ที่จะแสดงความสามารถ ให้ทันสนองคุณของบิดา จะต้องใช้เวลาสักเท่าใด ขอให้อาจารย์ช่วยคิดดูให้ดีๆ?. <DD>ท่านอาจารย์ก็บอกว่า "ถ้าอย่างนั้นต้อง ๒๑ ปี"คือแทนที่จะลดลงกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยเป็น ๒๑ ปี หนุ่มคนนั้นจะเล่นงานอาจารย์อย่างไรก็ไม่ได้ เพราะเป็นอาจารย์ จะทำอย่างอื่นก็ไม่ถูกนึกไม่ออก เพราะไม่มีใครจะเป็นอาจารย์สอนฟันดาบให้ดีกว่านี้ ซึ่งเป็นอาจารย์ของประเทศ ดังนั้นเขาก็ซังกะตายอยู่ไปกะอาจารย์ ด้วยไม่รู้จะทำอย่างไรดีนั่นเอง.


    <DD>หลายวันต่อมา อาจารย์ก็ใช้คนคนนี้ แทนที่จะเรียกไปสอนให้ฟันดาบ กลับให้ทำครัว ให้ตักน้ำผ่าฟืน หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เรียกว่าต้องทำงานครัว. <DD>หลายวันล่วงมา วันหนึ่งอาจารย์ผลุนผันเข้าไปในครัว ด้วยดาบสองมือ ฟันหนุ่มคนนี้ทั้งๆที่ยังไม่รู้สึกตัว อุตลุตเป็นการใหญ่ เขาก็ต้องต่อสู้ไปตามเรื่องตามราวของเขา ตามที่เขาจะสู้ได้ โดยใช้อะไรแทนดาบหรือด้วยมือเปล่า หรืออะไรก็สุดแท้ สองสามอึดใจแล้วก็เลิกกัน อาจารย์ก็กลับไป ต่อมาอีกหลายวันเขาก็ถูกเข้าโดยวิธีนี้อีก และมีบ่อยๆอย่างนี้เรื่อยไป ไม่กี่ครั้งเขาก็กลายเป็นนักฟันดาบขึ้นมาได้ โดยไม่รู้สึกตัว จนกระทั่งอาจารย์บอกว่า กลับบ้านได้ คือจบหลักสูตรแล้ว และปรากฏว่า ต่อมาหนุ่มคนนี้ก็เป็นนักดาบลือชื่อของประเทศญี่ปุ่นไป .นิทานก็จบ. <HR align=center width="100%" SIZE=1>คติธรรม <DD>ความยึดถือว่ามีตัวตนอย่างนั้นอย่างนี้นั้นมันเป็นสิ่ง ที่ทำลายสมรรถภาพของจิตให้เสียหาย จิตที่เสียสมรรถภาพนั้นย่อมทำอะไรไม่ได้ดี จะต้องทำด้วยจิตที่ว่างจากความยึดมั่นถือมั่นว่ามีตัวตน จิตจึงจะมีสมรรถภาพสูงสุด และจะทำอะไรๆก็ถูกต้องรวดเร็วๆไม่ผิดพลาดและประสบผลสำเร็จอย่างรวดเร็วที่สุด.


    </DD>
     
  2. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,163
    มีนิทานของชาวจีนเรื่องหนึ่งเล่าว่า.... สามีภรรยาคู่หนึ่งอาศัยอยู่ในชนบทกับท่านผู้เฒ่าท่านหนึ่ง และมีม้าฉลาดแสนรู้อีกตัวหนึ่ง ทั้งสองสามีภรรยารักม้าตัวนี้มาก วันหนึ่งม้าหนีไป ทั้งสามีภรรยาเสียใจมาก

    ท่านผู้เฒ่าก็ได้ปลอบใจว่า “อย่าเสียใจเลย เพราะชีวิตนี้ไม่แน่”

    เวลาผ่านไปหลายวัน ม้าตัวนั้นก็กลับมาที่บ้าน แต่คราวนี้ได้พาแฟนมาด้วย เป็นม้าป่าอีกตัวหนึ่ง สามีภรรยาต่างก็ดีใจมาก แต่ท่านผู้เฒ่าก็บอกว่า...

    “อย่าเพิ่งดีใจ เพราะชีวิตนี้ไม่แน่”

    ต่อมาวันหนึ่ง สามีพาม้าตัวใหม่มาหัดขี่เล่นไปรอบๆ บ้าน ม้ายังไม่เชื่องดี จึงยังไม่สามารถบังคับได้ดังใจ ม้าพาวิ่งลอดเข้าไปใต้ถุนบ้าน ตัวเขาชนกระแทกเข้ากับตัวบ้านอย่างแรง ตกลงมาพิการแขนขาหัก ทั้งสามีภรรยาต่างก็เสียใจกับเหตุการณ์นี้มาก ท่านผู้เฒ่าก็ปลอบว่า... “อย่าเสียใจ เพราะชีวิตนี้ไม่แน่”

    ต่อมาเกิดสงครามขึ้น ชายฉกรรจ์ในหมู่บ้านถูกทางราชการเกณฑ์ไปเป็นทหารทุกคน สามีได้รับการยกเว้นเนื่องจากเป็นคนพิการ การสู้รบเป็นไปอย่างรุนแรง ทำให้ทหารตายเกือบหมด สามีภรรยาก็ดีใจที่ตัวเองไม่ต้องไปเสียชีวิตในการสงครามครั้งนี้...

    นิทานเรื่องนี้สอนเราว่า... บางครั้งเราอาจเกิดความรู้สึกว่า เราได้ สูญเสียมากมาย...เราเสียเปรียบน่าเสียใจ... แต่เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว เราอาจจะเห็นว่า สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่น่าเสียใจอะไรมาก อาจจะกลับกลายเป็นสิ่งที่ดีก็ได้

    บางสิ่งบางอย่างที่เรารู้สึกว่าดี แต่เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีก็ได้ มันก็กลับไปกลับมาอยู่อย่างนั้น เป็น “อนิจจัง”ไม่แน่นอนจริงๆ เราจึงควรทำความเข้าใจกับเรื่องของ “ความไม่แน่นอน” และรู้จัก “ปล่อยวาง”

    จาก หนังสือ”ปีกระต่ายขอจงสวัสดี” ของพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
    วัดป่าสุนันทวนาราม บ้านท่าเตียน ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ. กาญจนบุรี

     
  3. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,163
    [​IMG]


    ผู้ที่ต้องการดำเนินจิตวิถีดอกบัวบาน ต้องทำจิตตนเองให้มีความสุข ปล่อยวางภาระ ความกังวลทั้งหมด วางอดีต อนาคต ปัจจุบัน

    วางความคิดการแบ่งแยกดีชั่ว การแบ่งแยกคุณค่าสรรพสิ่ง ไม่มีเขา ไม่มีเรา
    วางคำอธิบายในทุกๆเรื่องของการปฏิบัติ
    วางความเพียรในสติ สมาธิ ปัญญา ความเพียรพยายามในการปฏิบัติบำเพ็ญทั้งปวง
    วางความคิดเกี่ยวกับบุญ บาป กุศล อกุศล
    วางความสำคัญมั่นหมายว่าต้องการบรรลุธรรม ประกาศธรรม
    วางความคิดเรื่องสงบ สมาธิ การรู้แจ้ง

    วางความรู้สึกในความอยากมี อยากเป้นอยากได้ อยากเอา อยากสำเร็จ

    เมื่อวางทั้งหมดได้อย่างนี้แล้ว ก็จะเหลือสภาวะจิตล้วนๆ คือ จิตเดิมแท้ เอาสภาวะจิตอันเป็นปรมัตถ์จริงๆ ที่ รู้ ตื่นตลอดเวลา เหนือเหตุและผล คือหยุดการอธิบายให้หมดสิ้น

    เมื่อทำได้อย่างนี้แล้ว ให้ภาวนา " โพธิ โพธิ สวาฮา สวาโฮม สวาฮายะ " ลงที่จิตเดิมนั้น จนสำเร็จดังที่กล่าวไว้ในแนวทางที่ 1
    อันนี้ได้ผลสำเร็จแน่นอนครับ

    โพธิจิตสภาวะ(จิตจักวาล จิตใหญ่ จิตพุทธะ)
    จะแจ้งในสภาวะทั้งปวงตามที่มันเป็นจริง จิตคือจิต นิพพานคือนิพพาน ขันธ์คือขันธ์ กิเลสคือกิเลส ไม่ใช่สิ่งเดียวแต่เกี่ยวเนื่องด้วยกัน ทุกสรรพสัตว์ล้วนเป็นหนึ่งเดียวกัน เสมอกัน


    **************************************************************************************

    ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตรไทย ( สูตรแห่งใจ )
    ข้าพเจ้าได้สดับมาดังนี้
    สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาค ประทับอยู่ ณ เขาคิชคูฏ ใกล้กรุงราชคฤห์
    พร้อมด้วยภิกษุหมู่ใหญ่ และพระโพธิสัตว์หมู่ใหญ่
    สมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาค ทรงฝึกสมาธิชื่อว่าคัมภีร์ราวสังโฆแท้
    และสมัยนั้น พระอริยอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์
    ทรงประพฤติจริยาในปรัชญาปารมิตาอันลึกซึ้ง
    พิจารณาอยู่อย่างนี้ คือพิจารณาขันธ์ ๕ และความสูญโดยสภาพ
    ลำดับนั้น ท่านสารีบุตร ได้กล่าวต่อ พระอริยะอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ด้วยพุทธานุภาพว่า
    กุลบุตร หรือ กุลธิดาใดๆ ใคร่จะประพฤติจริยาในปรัชญาปาระมิตาอันลึกซึ้งนั้นจะพึงศึกษาอย่างไร
    พระอริยอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์อันท่านพระสารีบุตรกล่าวอย่างนี้แล้วได้กล่าวตอบท่านสารีบุตรว่า
    ท่านสารีบุตร กุลบุตรหรือกุลธิดาใดๆ ใคร่จะประพฤติจริยาในปรัชญาปาระมิตาอันลึกซึ้ง
    เขาพึงพิจารณาอย่างนี้ คือพิจารณาขันธ์ ๕ และความสูญโดยสภาพ
    รูปคือความสูญ ความสูญนั่นแหละคือรูป ความสูญไม่อื่นไปจากรูป
    รูปไม่อื่นไปจากความสูญ รูปอันใดความสูญก็อันนั้น ความสูญอันใด รูปก็อันนั้น
    อนึ่ง เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ก็คือความสูญอย่างเดียวกัน
    ท่านสารีบุตร ธรรมทั้งปวง มีความสูญเป็นลักษณะ
    ไม่เกิด ไม่ดับ ไม่มัวหมอง ไม่ผ่องแผ้ว ไม่หย่อน ไม่เต็ม อย่างนี้
    เพราะฉะนั้นแหละ ท่านสารีบุตร ในความสูญจึงไม่มี รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
    ไม่มีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่มีรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรม
    ไม่มีจักษุธาตุ จนถึงมโนธาตุ ธรรมชาตินั้น วิญญาณธาตุ
    ไม่มีวิชชา ไม่มีอวิชชา ไม่มีความสิ้นไปแห่งวิชชา และอวิชชา
    จนถึงไม่มี ความแก่ ความตาย ไม่มีความสิ้นไปแห่ง ความแก่ ความตาย
    ไม่มีทุกข์ สมุห์ทัย นิโรธ มรรค ไม่มีญาณ ไม่มีการบรรลุ ไม่มีการไม่บรรลุ
    ท่านสารีบุตร เพราะฉะนั้น ผู้ดำเนินตามปรัชญาปาระมิตา ของพระโพธิสัตว์ทั้งหลายแล้ว
    แต่ยังมีกิเลสห่อหุ้มจิตอยู่ ก็เพราะยังมิได้บรรลุ คืนนั้นจึงไม่สะดุ้งกลัว
    ก้าวล่วงความขัดข้องสำเร็จพระนิพพานได้ ก็เพราะความไม่มีกิเลสห่อหุ้มจิต
    พระพุทธเจ้าทั้งปวง ผู้ตั้งอยู่ในกาลทั้งสามทรงดำเนินตามปรัชญาปาระมิตา
    ได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ เพราะฉะนั้น จึงทูลทราบมหามนต์
    ในปรัชญาปาระมิตา อันเป็นมหาวิทยามนต์ อนุตตะระมนต์ อะสัมมะสมมนต์
    สัพพะทุกข์ กับสมณมนต์ นี้เป็นสัจจะ เพราะไม่ผิดพลาด
    มนต์ที่ท่านกล่าวไว้ ในปรัชญาปาระมิตา คือดูก่อน ความรู้ ไป ไป ไปสู่ฝั่ง ไปให้ถึงฝั่งสวาหา


    ท่านสารีบุตร สัตว์ผู้จะตรัสรู้ พึงศึกษาจริยาในปรัชญาปาระมิตาอย่างนี้
    ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาค ทรงออกจากสมาธินั้นแล้ว
    ได้ประทานสาธุการ แก่พระอริยอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ว่า
    ถูกแล้ว ถูกแล้ว กุลบุตร ข้อนั้นเป็นอย่างนั้น กุลบุตร จริยาในปรัชญาปาระมิตา อันลึกซึ้งนั้น
    อันบุคคลพึงประพฤติอย่างนี้ พระตถาคตอรหันต์เจ้าทั้งหลาย
    ย่อมทรงอนุโมทนาอย่างที่ท่านยกขึ้นแสดงแล้ว
    พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสคำนี้จบลงแล้ว ท่านพระสารีบุตร พระอริยะอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์บริษัท
    อันมีประชุมชนทุกเหล่าและสัตว์โลกพร้อมทั้งเทวา มนุษย์ อสูร คนธรรพ์ ก็มีใจเบิกบาน
    ชื่นชมภาษิต ของพระผู้มีพระภาค ด้วยประการฉะนี้


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2011
  4. จันทรวิชิต

    จันทรวิชิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +802
    สวัสดีครับ คุณจิตอิสระ ผมควรที่จะภาวนาเริ่มต้นอันไหนดีครับ ผมชื่อ สุรศักดิ์ ภาษา ขอโมทนาด้วยครับ
     
  5. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,163
    ยิ้มน้อยๆที่ริมฝีปากแล้วภวนาว่า ปะสะนะวา ปะชานาติ 5 วัน ถ้าต้องการไปต่อก้อมาส่งอารมในเวปครับ แล้วหมั่นขอพรด้วยนะครับ

    (ฉบับปรับปรุง ใครอยากรวยเอาไว้ขอพรนะครับ และพรนี้จะให้เฉพาะคนที่ทำงานนะครับ)
    ฉันเกิดมาเพื่อประสบความสำเร็จ ความเป็นไปได้ที่ไม่มีวันสิ้นสุดจะปรากฎในตัวฉันอย่างที่ฉันต้องการ สันติสุข ความรักอันไม่มีที่สิ้นสุดจากจักรวาลทำให้จิตใจ และ จิตวิญญาณของฉันเต็มเปี่ยมตลอดเวลา ปัญญา ความฉลาด ความคิดสร้างสรรค์ พลังแห่งการก่อกำเนิดสิ่งใหม่ ได้นำทางฉันในวิถีทางทั้งหมด ความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ ความร่ำรวยในทุกๆสิ่งจากจักรวาลได้หลั่งไหลมายังฉันอย่างเป็นอิสระ ฉันกำลังก้าวหน้า เคลื่อนที่ไปข้างหน้า พร้อมทั้งเติบโตทางด้านจิตใจ จิตวิญญาณ ทางด้านการเงินและในวิถีทางอื่นทั้งหมด ฉันรู้ว่าความจริงเหล่านี้กำลังจมลงสู่จิตสำนึกของฉันและเติบโตไปตามวิถีทาง ของมัน
    สันติภาพและความอุดมสมบูรณ์ของจักรวาลได้เติมเต็มจิตใจ และจิตวิญญาณของฉัน ความรักของจิตจักรวาลใหญ่ หรือจิตหนึ่งที่เป็นองค์รวมของความรักจากทุกสรรพสิ่งหล่อหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ทำให้ตัวตนและจิตวิญญาณของฉันสมบูรณ์เต็มเปี่ยม ฉันเป็นหนึ่งเดียวกับจิตหนึ่งและจิตหนึ่งได้ชี้นำทาง สร้างความรุ่งเรือง สร้างความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์เพื่อประโยชน์แก่ทุกสรรพสิ่ง และให้แรงบันดาลใจในแก่ฉัน และนำความรัก ความเบิกบาน ความเมตตากรุณา ความเกื้อกูล ความปราถนาดี สุขภาพพลานามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์ปราศจากโรคภัยใดๆ มายังตัวฉัน ไปยังทั่วทุก cell ในร่างกายฉัน และได้หลั่งไหลผ่านตัวฉัน ไปยังทุกๆสรรพสิ่งทั้งหมดรอบๆตัวฉัน ทุกๆขณะทุกๆเวลา ทุกๆสถานที่ ที่ฉันปรากฎ รวมถึงทุกๆที่ทั่วทุกจักรวาล ทุกมิติ ทุกๆสรรพสิ่งได้รับพรนี้ ได้รับความปราถนาดี ความเกื้อกูล ได้รับความอุดมสมบูรณ์ ความสำเร็จ และได้รับแรงบันดาลใจนี้อยู่เสมอทุกๆขณะเวลา
    นี่คือวันที่จักรวาลได้สร้างขึ้น ฉันมีความยินดีและขอขอบคุณจักรวาลสำหรับคำอวยพรอันนับไม่ถ้วนที่มายังทุกๆสรรพสิ่ง ทุกๆคน รอบๆตัวฉันและมายังตัวฉัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2011
  6. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,163
    ตกหล่นของใครบอกนะครับ พรุ่งนี้จะออนและตอบ ตอนเย็นนะครับ จะไปเที่ยวเยื่ยมสหายธรรมที่ศรีษะเกษ 2 วัน
     
  7. zerozodiac

    zerozodiac Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    270
    ค่าพลัง:
    +66
    อย่างผมนี่ เรียกว่ายึดติด ยึดถือ อยากมี และอยากได้

    ครั้นตั้งใจ ก็กลับกลายเป็นว่า "อยาก"

    ครั้นปล่อยเฉยๆ ก็กลับกลายเป็นว่า "ยึดติดกับความว่าง"

    ครั้นอยากรู้เพื่อความสนุก ก็กลับกลายเป็นว่า "เกิดจิตปรุงแต่ง"

    อืม หนทางยังอีกไกลนักแล
     
  8. zerozodiac

    zerozodiac Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    270
    ค่าพลัง:
    +66
    เมื่อตะกี้ลองไปเปิดหน้าแรกๆดู พอเปิดไปถึงหน้า 4 ก็รู้สึกโหวงๆเหวง เคว้งคว้าง แปลกใจ พอเลื่อนกระทู้ลงมา ก็เห็นไฟเขียวของท่านพี่ แสดงว่าท่านพี่ออนแล้ว ณ ตอนนี้ อืมแปลกดีนะครับ ทั้งๆที่ไม่ได้ตั้งใจจะทำสมาธิเลย แต่รู้สึกถึงพลังบางอย่าง
     
  9. -[คนหลงทาง]-

    -[คนหลงทาง]- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +140
    ขอถามครับ สำหรับผมต้องภาวนาว่าอย่างไรถึงจะดีครับ
     
  10. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,163
    น้องก้อพัฒนามาได้ไกลพอสมควร เปลี่ยนทุกสิ่ง ทุกอย่างใหเป็นความรู้ รู้ เห็น ทุกอย่าง แต่ไม่ยึดซักอย่าง นั้นแหละใช่ สภาวะน้อเลยสภาวะที่ต้องสงอรมในกาะทู้นะ โทรมาส่งอารมกีบพี 3 วันครั่งนะ
     
  11. zerozodiac

    zerozodiac Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    270
    ค่าพลัง:
    +66
    งั้นวันนี้ก็ครบ 3 วันแล้วครับ ตอนดึกๆ 1-2 ทุ่มเหมือนเดิมนะครับ :D
     
  12. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,163
    ภาวนา อะ เว ปะ มา อุ ที่กลางหน้าอก แผ่ออก ยิ้มก่อนภาวนา
     
  13. -[คนหลงทาง]-

    -[คนหลงทาง]- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +140
    ขอบคุณครับ อีก3 วันผมจะมาส่งการบ้านครับ ^__^
     
  14. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    สวัสดีครับ
    เรียนถามครับ
    "เปลี่ยนทุกอย่างให้เป็นความรู้"
    เหมือนจะเข้าใจ แต่มันยังไม่แจ้งครับ
    รบกวนคุณจิตอิสระ ขยายความ พร้อมยกตัวอย่างประกอบได้ไหมครับ
    พอดีนักเรียน ความรู้น้อย ต้องขอนิทานประกอบครับ
    ขอบคุณครับ
     
  15. kit14

    kit14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2009
    โพสต์:
    399
    ค่าพลัง:
    +618
    เผื่อตกหล่นครับ

    ผมขอถามอีกครั้งนะครับเผื่อว่าจะตกหล่นครับ
     
  16. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,163
    ได้ครับ ลองพิจารณา ความรู้ไม่มีถูกหรือผิด เมื่อเปลี่ยนความคิด ความเชื่อ ความรู้สึกเป็นความรู้ ทุกสิ่งทุกอย่าง 50:50 ไม่มีถุกหรือผิด ใช่หรือไม่ใช่ ไม่มีบุญหรือบาป ไม่มีสิ่งใดถูก 100% หรือผิด 100% อะไรที่เข้ามา 50:50
    ----------------------------------------------------------------

    ธรรมะอยู่ที่ ๕๐ : ๕๐
    ถ้าคิดว่า “เขาทำผิด” เขาไม่ควรทำเราอย่างนี้
    ให้คิดว่าเราก็ผิด ๕๐ % ด้วย
    คิดอย่างนี้เราก็จะไม่โกรธเขา เพราะถ้าโกรธเขาก็ต้องโกรธตัวเราด้วย
    และเขาอาจจะไม่ผิดก็ได้ เชื่อไว้ ๕๐ % ก่อน
    คิดอย่างนี้เราก็ไม่ทุกข์
    ใครเล่าว่า “คนนั้นเขานินทาเราอย่างนั้นอย่างนี้ คนนั้นเขาเป็นอย่างนั้นอย่างนี้”
    อย่าเพิ่งเชื่อ และก็อย่าเพิ่งปฏิเสธทันที
    รับฟังไว้ ๕๐ % ก่อน
    อย่าวิพากษ์วิจารณ์ทันที แล้วก็เป็นทุกข์ แล้วก็ปรุงแต่งต่อไป
    บ่อยๆ ครั้งเราก็จะโกรธและเสียเวลาคิด เสียอารมณ์ไปโดยเปล่าประโยชน์
    อย่าไปทำตามคำพูด ความคิดของใครๆทั้งหมดทันที
    ฟังแล้วทำตามเขา ๑๐๐ % ก็มักจะวุ่นบ่อยๆ
    เพราะความคิดก็เป็นอนิจจัง เขา (ผู้พูด) อาจจะเปลี่ยนใจก็ได้
    เราอาจฟังผิดก็ได้ เขาอาจคิดผิดและเปลี่ยนความคิดใหม่ก็ได้
    ถ้าเรารับฟังไว้ ๕๐ % ก่อน
    ตั้งสติของเราเข้าไว้ ก็จะปลอดภัย ไม่สับสน ไม่ทุกข์
    แม้แต่ความคิดของเราเองก็อย่าเชื่อ ๑๐๐ %
    รับฟังไว้ ๕๐ % ก่อน
    เพราะเราก็อาจเปลี่ยนความคิดได้
    ที่เราคิดว่าถูก จริงๆ อาจผิดก็ได้
    ไม่แน่หรอก
    สรุปว่า อย่าเชื่อทั้งตัวเรา ตัวเขา อย่าเชื่อทั้งสุข และทุกข์ ๑๐๐%
    รับฟังไว้ ๕๐ % ก่อน
    ไม่ต้องโกรธ ไม่ต้องตกใจ ไม่ต้องแปลกใจตั้งสติเข้าไว้ก่อน
    พิจารณาให้ดีก่อน
    สุขก็ไม่แน่นอน ทุกข์ก็ไม่แน่นอน
    สุขหายไปก็ทุกข์ ทุกข์หายไปก็สุข
    ทุกอย่างไม่แน่นอน…ก็เท่านั้นเอง
    *****************************************
    ยังงั้นรึ

    พระอาจารย์เซ็นชื่อฮะกูอิน ได้รับยกย่องจากชาวบ้านว่าเป็นผู้ที่ดำรงชีวิตอย่างบริสุทธิ์ ณ ที่ใกล้วัดของท่าน มีร้านขายของชำอยู่ร้านหนึ่ง เจ้าของร้านมีลูกสาวสวยอยู่คนหนึ่ง จู่ๆ พ่อแม่ของหญิงสาวได้พบว่า ลูกสาวของตนได้ตั้งท้องขึ้นโดยไม่รู้เบาะแสมาก่อน

    เหตุการณ์นี้ทำให้เขาทั้งสองโกรธมาก จึงพยายามเค้นเอาความจริง ลูกสาวใจเด็ดไม่ยอมปริปากบอกว่าใครเป็นพ่อของเด็กในท้อง แต่ในที่สุด เมื่อถูกบังคับขู่เข็ญนักเข้า จึงหลุดปากออกมาว่า พ่อของเด็กคือท่านอาจารย์ฮะกูอิน
    สองตายายจึงวิ่งแจ้นไปด่าว่าอาจารย์ฮะกูอินด้วยความโกรธจัด ท่านอาจารย์ย้อนถามว่า
    "ยังงั้นรึ"

    เมื่อเด็กเกิดมาแล้ว พ่อแม่ของหญิงสาวได้นำเด็กไปให้อาจารย์ฮะกูอินเลี้ยง มาถึงตอนนี้ชื่อเสียงของท่านได้เสื่อมไปหมดแล้ว แต่ท่านก็ไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไร เอาใจใส่เลี้ยงดูเด็กอย่างดี โดยซื้อนมและอาหารที่จำเป็นสำหรับเจ้าหนูน้อยจากชาวบ้านข้างเคียง

    หนึ่งปีให้หลัง แม่ของเด็กสุดที่จะทนดูเหตุการณ์ต่อไปได้ จึงสารภาพความจริงกับพ่อแม่ว่า พ่อที่แท้จริงของเด็กนั้นคือ เจ้าหนุ่มที่ตลาดขายปลา หาใช่ท่านอาจารย์ฮะกูอินไม่

    สองตายายได้ฟังดังนั้นจึงรีบไปหาท่านอาจารย์ฮะกูอิน ขอโทษขอโพยในความผิดของตนอย่างยืดยาวและขอรับเด็กกลับ

    ท่านอาจารย์ฮะกูอินย้อนถามเช่นเดิมว่า"ยังงั้นรึ" แล้วนำเด็กมามอบให้

    ***************************************
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2011
  17. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,163
    ครับ ตกหล่นจริงๆครับ
    ให้ภวนา คำว่า อัฐฐิกัง ครับ 5 วันมาส่งอารมณ์ครับ
     
  18. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,163
    ดูภาพ ปรับพลังงานภายในกันครับ


    [​IMG]
     
  19. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,163
    วิถีดอกบัวบาน

    1 ทำจิตตนเองให้มีความสุข ปล่อยวางภาระ ความกังวลทั้งหมด วางอดีต อนาคต ปัจจุบัน

    2 วางความคิดการแบ่งแยกดีชั่ว การแบ่งแยกคุณค่าสรรพสิ่ง ไม่มีเขา ไม่มีเรา
    3 วางคำอธิบายในทุกๆเรื่องของการปฏิบัติ
    4 วางความเพียรในสติ สมาธิ ปัญญา ความเพียรพยายามในการปฏิบัติบำเพ็ญทั้งปวง
    5 วางความคิดเกี่ยวกับบุญ บาป กุศล อกุศล
    6 วางความสำคัญมั่นหมายว่าต้องการบรรลุธรรม ประกาศธรรม
    7 วางความคิดเรื่องสงบ สมาธิ การรู้แจ้ง

    8 วางความรู้สึกในความอยากมี อยากเป้นอยากได้ อยากเอา อยากสำเร็จ

    เมื่อวางทั้งหมดได้อย่างนี้แล้ว ก็จะเหลือสภาวะจิตล้วนๆ คือ จิตเดิมแท้ เอาสภาวะจิตอันเป็นปรมัตถ์จริงๆ ที่ รู้ ตื่นตลอดเวลา เหนือเหตุและผล คือหยุดการอธิบายให้หมดสิ้น

    เมื่อทำได้อย่างนี้แล้ว ให้ภาวนา " โพธิ โพธิ สวาฮา สวาโฮม สวาฮายะ "
     
  20. สายสุดสวาท

    สายสุดสวาท สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +4
    เริ่มฝึกตั้งแต่เรเรกนี่ต้องทำอะไรบ้างค่ะช่วยแนะนำหน่อยค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...