สโมสรนักบุญภูเหล่าเงินฮาง ร่วมสร้างสรรกับ คณะเบิกบาน บันเทิงบุญ(อดีตรำลึกของบุญกุศล)

555 ผมกลัวว่าผมจะสร้างองค์ปฐมไม่แล้วจึงได้รีบนำมาลง นะสิครับ อือื

 

55555555
มาระบาดอีกแล้วครับ จดหมายลูกโซ่
ใครนะ ช่างสรรหา เรื่องไม่เป็นสาระ
มาเป็นขยะสุมใจ อย่างน่ารำคาญ
ให้กับเพื่อนพ้องน้องพี่

อย่าไปใส่ใจเลยนะครับ
ผมว่ามันเป็นวิธีของคนที่เป็นโรคจิตอะครับ
ถ้าจริงกระทรวงสาธารณสุข คงนำไปผลิตเป็นยา
ไปแล้วนะผมว่า
เพราะกระทรวงฯ ตอนนี้มียาแผนไทย เป็นทางเลือก
ให้ประชาชนได้บริโภค แล้ว
มีตัวยาดีๆ ก็เยอะครับ

 

ขอบคุณคุณอนุชา มา ณ ที่นี้ด้วย นะครับ

 

เชิญฟังธรรมจากการโหลดของน้องโย ในห้องฟังธรรม

http://www.palungjit.org/buddhism/audio/showthread.php?p=1560#post1560

 

เชิญร่วมทำบุญบริจาคหนังสือธรรมะ

<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->เชิญร่วมทำบุญบริจาคหนังสือธรรมะ
ให้กับห้องสมุดธรรมะวัดปราสาทศีขรภูมิ<O</O
เนื่องจากวัดปราสาทเป็นวัดที่อยู่ในตัวอำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ และมีวัดใกล้เคียงหลายวัด
มีโรงเรียนพระปริยัติธรรม สอนนักธรรมและบาลีและโรงเรียนประถมและมัธยมหลายโรงเรียน
ซึ่งอยู่ใกล้เคียง และต้องการที่จะสร้างห้องสมุดธรรมะให้นักเรียนจากโรงเรียนต่างๆนั้นมาค้นคว้า
หาข้อมูลและทำการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักธรรม
ดังนั้นทางวัดจึงเห็นควรให้ทำการสร้างห้องสมุดธรรมมะเพื่อประชาชนขึ้น โดยจะขอรับบริจาคหนังสือธรรมะและสื่อวิดิทัศน์ เทปธรรมมะ ซีดีธรรมมะที่ท่านอ่านแล้ว หรือมีหลายฉบับ และต้องการที่จะนำมาเผยแพร่เป็นธรรมทาน ท่านสามารถส่งมาบริจาคที่วัดได้โดยตรงโดยทางพัสดุไปรษณีย์หรือนำมามอบให้ด้วยตนเองก็ได้
<O</O
หรือส่งมาที่
พระอาจารย์ปิยะ ปิยะธัมโม
วัดปราสาท ต.ระแงง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ 32110
Tel 085-4160-602
http://[URL="http://www.watprasat.com/"]www.watprasat.com[/URL]
หมายเหตุ ทางวัดทำการรับบริจาคเป็นหนังสือธรรมะมือสองและสื่อธรรมะเท่านั้น ไม่มีการให้ออกทำการเรี่ยไร หรือรับบริจาคเงินทองใดใดทั้งสิ้น

 

วันนี้ออกไปเดินเล่นที่จตุจักร
กะว่า 10.30 น. จะแวะไปที่บ้านซอยสายลม
จะไปฝึกวรยุทธมโนมยิทธิซักหน่อย
พอได้เวลาเรียกแท๊กซี่ ไปจอดหน้าบ้าน
ปรากฏว่าเงียบฉี่

โอยโหย๋ ทำไมไม่มีคนเลย บ้านก็ปิด
ผิดหวังแล้วเรา
เห็นมอไซด์ ผ่านมาพอดี เลยถามเขา
เขาบอกว่าเมื่อวาน(วันเสาร์) ยังเห็นมีคนมากันตั้งเยอะ
เลยอาศัยนั่ง มอไซด์ (ทั้งๆที่ไม่ค่อยถนัดนั่ง) ไปปากซอย

แล้วต่อรถประจำทางปรับอากาศไปลงท่าพระจันทร์
ไปสำรวจตลาดตลับพระสแตนเลส
ปรากฏว่าตลับพระสแตนเลส ทรงกลม
สำหรับใส่พระจตุคาม ขาดตลาด มีแต่ไซด์เล็ก
ผมเลยโชคดี ได้รุ่นสมบัติจักรพรรดิ์ เนื้อชานหมาก
ยิงโค๊ดเลข และยันต์ ด้วยเลเซอร์ กันปลอม
รุ่นนี้น่าสนใจ ถ้าปลอมก็ยากหน่อย
พิธีศาลหลักเมือง และวัดนางพญา
พระสงฆ์ 2,549 รูป ร่วมสวดพุทธาฯ
ว่าจะไม่หา แต่ก็อดไม่ได้ เพราะรู้สึกผูกพัน
กับพระโพธิสัตว์แห่งทะเลใต้ (พ่อจตุคามรามเทพ)
นำมาใส่ตลับได้พอดี แฮปปี้จริงๆ

เลยแวะมาโม้ให้ฟังครับ
สวัสดี

 

มีเรื่องมาฝากครับ

เด็กชายคนหนึ่งเข้า
ไปหาคุณแม่ในครัวแล้วเจ้าตัวเล็กก็ยื่นกระดาษเขียนด้วยลายมือโย้เยให้คุณแม่อ่านมี
ใจความว่า “ค่าตัดหญ้า๕ บาท
ค่าทำความสะอาดห้องผม๑บาท
ค่าซื้อของให้แม่ ๒ บาท
ค่าเอาขยะไปทิ้ง ๑ บาท
ค่าเรียนได้คะแนนดี ๕ บาท
ค่ากวาดสนามหญ้าหน้าบ้าน
๓ บาท รวมค้าง ๑๗ บาท”
คุณแม่อ่านแล้วก็ยิ้มหยิบปากกา
ที่เจ้าตัวเล็กเขียนมาแล้วพลิก
กระดาษแผ่นนั้นเขียนลงที่ด้าน
หลังที่ว่างอยู่ว่า“ค่าอุ้มท้องเก้าเดือนแม่ไม่คิด เงินค่าพยาบาลรักษาเวลาลูกป่วยและ
สวดมนต์ให้ลูกแม่ก็ไม่คิด เงินค่าที่ลูกดื้อทำให้แม่เสียน้ำตาก็ไม่คิด เงินค่าเช็ดน้ำมูก
ให้ก็ไม่คิดเงิน ค่าพาไปเที่ยวซื้อของเล่นให้ก็ไม่คิดเงินหรอกจ๊ะลูกรวมทุกอย่างเป็น
ราคาเต็มคือความรักที่แม่มอบให้ก็ไม่คิดเงินเหมือนกัน”เด็กชายหยิบมาอ่าน
ทำหน้างงงง แล้วหยาดน้ำตาของเด็กน้อยก็ไหลหยดลงบนกระดาษแผ่นนั้นเขามองแม่
อย่างซาบซึ้งแล้วพูดว่า “แม่ครับ….ผมรักแม่จริงๆครับ” จากนั้นก็ขอปากกามาเขียนข้อ
ความตัวโตๆว่า “แม่จ่ายหมดแล้ว จ่ายหมดแล้ว …..แต่ลูกยังทอนให้ไม่หมดครับแม่

 

กลับมาแย้ววว...ครับผม หลังจากที่หายตัวไป ๓ วัน (วันที่ ๕-๖-๗)
พกเอาบุญแน่นกระเป๋ามาให้อนุโมทนากันด้วยครับ กดกันเอาเอง..เด้อ...ครับ
คือว่าได้ไปปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ที่วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรีมาครับ เป็นการกำหนด ยืน เดิน นั่ง นอน ตามแนวสติปัตฐานสี่ (ซ้ายย่างหนอ ขวาย่างหนอ)
เคยไปมาเมื่อสิบปีที่แล้ว คราวก่อนโน้นไปกี่วันก็จำไม่ได้แล้ว ไม่รู้ว่า ๕ หรือ ๗กันแน่ วิธีปฏิบัติก็เหมือนๆเดิมครับ เพียงแต่สถานที่ปฏิบัติเปลี่ยนแปลงไป
และคนก็มาปฏิบัติกันมากขึ้น แทบจะเดินชนกันเลยครับ ช่วงที่ผมไปนี้มีขึ้นบอร์ดของทางวัด ทั้งหมดจำนวน ๔๗๐ คน (หญิงมากกว่าชาย ๓ เท่า) แต่วันนี้ออกซะครึ่งนึงแล้วครับ เหลือพวกที่อยู่ปฏิบัติ ๗ วัน กับพวกมาที่ใหม่.
ต้องลุกตื่นตั้งแต่ตี ๓ ครึ่งแน่ะครับ แต่ว่าผมตื่น ตี๓ ทุกวันเลย (ทำไมไม่รู้แหะ ปกติไม่เคยตื่นเวลานี้) ต้องถือ ศีลแปด ด้วยนะครับ
การปฏิบัติธรรมแบ่งออกเป็น ๔ ช่วงในแต่ละวัน ดังนี้
ช่วงแรก ๐๔.๐๐ น. - ๐๖.๓๐ น.
ช่วงที่สอง ๐๘.๐๐ น. - ๑๑.๐๐ น.
ช่วงที่สาม ๑๓.๐๐ น. - ๑๗.๐๐ น.
ช่วงที่สาม ๑๘.๐๐ น. - ๒๑.๐๐ น.
ใครสนใจก็ขอเชิญได้นะครับ ดูทุกขเวทนาของตัวเอง ที่เกิดขึ้นเพราะต้องใช้สติจับตลอด ไม่เหมือนกับสมถกรรมฐานซึ่งนั่งนิ่งๆ นั่งได้นานๆไม่ปวดไม่เมื่อยสักเท่าไหร่ วิปัสสนานี่แน่นอนเลย สารพัดปวด ไม่ลองไม่รู้ครับ...อิ..อิ

 

โมทนาด้วยครับ สมาธิภาวนา วิปัสนากรรมฐานบุญใหญ่ ได้ทำอยู่เนืองๆประเสริฐนักแล

 

ขออนุโมทนากับน้าแผน ที่ได้มีโอกาสไปปฏิบัติ
สติปัฏฐาน เฝ้าดูอาการทางกาย
ถือเป็นสุดยอดของพระพุทธศาสนาเลยทีเดียว

จากจำนวนคนที่ไปปฏิบัติ ถือได้ว่า
คนเราปัจจุบันมีความตื่นตัวกันมาก
ในการหาสถานที่ปฏิบัติธรรมกัน
ใครมีเวลา ก็หาโอกาส หาสถานที่
ไปปฏิบัติกันนะครับ
อย่ารอเวลา เพราะมัจจุราชไม่เคยรอใคร
กาลเวลากลืนกินทุกสรรพสิ่ง

อยู่ว่างๆ ก็อย่าลืม ทำจิตให้ว่าง โล่ง โปร่ง สบาย นะครับ
ขจัดขยะให้ออกไปจากอารมณ์จิต
แล้วชีวิตจะเป็นสุข

สาธุครับ

 

สาธุ โมทนากับพี่เม้าด้วย

องค์พ่อจตุคามรามเทพ พระเทวราชโพธิสัตว์แห่งทะเลใต้ นับวันบารมีองค์พ่อจะแผ่ขยายไปทั่วทั้งประเทศ ไม่จำกัดเฉพาะในภาคใต้อีกแล้ว และได้แผ่บารมีไปต่างประเทศด้วย ทั้งชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ มาบูชากันก็มาก

รุ่นสมบัติจักรพรรดิ์โยจองไว้ชุด 4 องค์ 2 ชุดและตอนจองหนังสือก็ได้รับเนื้อชานหมากมาอีก 1 องค์กับผ้ายันต์ 1 ผืน

ไว้จะไปที่ท่าพระจันทร์จะนำไปใส่กรอบสเตนเลสเหมือนกัน

และขออนุโมทนากับน้าแผนด้วยค่ะ

(f)

 

<TABLE class=tborder id=post438909 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> 03-01-2007, 08:20 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #2522 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>MOUNTAIN<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_438909", true); </SCRIPT>
สมาชิก GOLD
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 05:01 PM
วันที่สมัคร: Dec 2005
ข้อความ: 3,162 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 11,256 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 17,990 ครั้ง ใน 2,644 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 2435



</TD><TD class=alt1 id=td_post_438909 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ตามหาหินทิเบต ได้ตาม ลิงค์ข้างล่างนี้ครับ

http://www.hintibet.com/

ฝากให้น้าแผน
<!-- / message --><!-- sig -->
____________________________________________________________
ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิต พระเณร

สโมสรนักบุญภูเหล่าเงินฮาง ร่วมสร้างสรรกับ คณะเบิกบาน บันเทิงบุญ

ใครทำ ใครได้ ใครพบ ใครพ้น

http://www.abhidhamonline.org/Ajan/book.htm
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ขอบคุณครับพี่เม้าท์ ไม่ทราบว่าลูกกลมๆใสๆในรูปเป็นอะไรครับ แล้วดีอย่างไร
ใช้แบบไหน ทำไมถึงมีเยอะจัง..สมบัติของพี่เม้าหรือปล่าวครับ...อิ..อิ
วันไหนว่าง พอจะเจอกันได้อ่ะครับ (คำถามพิเศษ: มีเสด็จพ่อจตุคามรามเทพ รุ่นชนะมาร ปี ๒๕๔๗ แล้วหรือยังครับ)

 

ลูกกลมๆใสๆ ที่เห็นในรูปแทนตัวนั้น
ไปขอถ่ายมาจากคุณนพ เจ้าของหิน ที่จตุจักร
เที่ยวนี้มีมาหลายลูก เนื้อใสงดงามมาก
ผมเอามาเก็บไว้ทำสมาธิกำหนดนิมิตรลูกแก้ว
2-3 ลูก ของพวกนี้ มีพลังธรรมชาติในตัวครับ

จะเป็นด้วยเหตุการณ์บ้านเมือง โดยทั่วไป
ค่อนข้างจะร้อนรุ่ม หรืออย่างไรก็ไม่ทราบ
ทรัพย์ใต้ดินจากพระแม่ธรณี เลยโผล่ขึ้นมา
มากมาย พึ่งใครไม่ได้ ก็ต้องพึ่งพลังจาก
หินของพระแม่ธรณี ในวินาทีนี้
แล้วก็อย่าลืมพระวังหน้าที่เจ้าคุณสิทธิ์ฯ นำมาเผยแพร่นะครับ
สุดยอดมะพร้าวทั้งนั้น

พระเสด็จพ่อจตุคาม ปีพ.ศ. 2549 สร้างกันขึ้นมา
มากมายหลายรุ่น
แรกๆ ก็ทำเมินๆ อยู่เหมือนกัน
แต่พอได้รับกับมือหลวงพี่หนูวัดสุทธาราม สำเหร่
ในวันลอยกระทง ท่านแจกให้ฟรี 1 ชุด
มี 3 องค์ หน้าเศียรจตุคาม หลังเศียรพ่อแก่
แล้วก็หน้า เศียรจตุคาม หลัง หลวงปู่ทวด
สุดท้าย หน้าหลวงปู่ทวด หลังหลวงปู่โต
ทั้งหมดสีดำ
ตอนนี้ เขาให้ชุดละ 3,000.-บาท
โอ้ละหนอ อะไรจะขนาดนั้น
นี้คือชุดแรกของพ่อจตุคามที่เสด็จมาโปรดโดยไม่ต้องควักกะตัง
มีเพียงดอกไม้ธูปเทียน ไปกราบพระอาจารย์เท่านั้น

จากนั้น ก็เริ่มเกิดกิเลส เพราะองค์พ่อมาอยู่แล้ว
อะไรก็คล่องขึ้น โดยเฉพาะค้าขายคล่องดีจริง
จึงเดินตลาดตามหาพ่อจตุคาม มาบูชาอีกสักรุ่น
ไหนๆ ก็ปีมหามงคล เอาที่เขาสร้างในปีมหามงคลนี่แหละ
ในที่สุดก็เหลือบไปจ๊ะเอ๋ รุ่นสมบัติจักรพรรดิ
จองกับเขาไม่ทันหรอก เพราะตอนนั้นหยิ่ง ไม่สน
ตอนนี้ต้องเพิ่มมันนี่ ให้เขานิดหน่อย จึงได้มา
ส่วนใหญ่จะบวกเพิ่มเยอะมาก
เมื่อวันอาทิตย์ผ่านมา โชคดี เจอน้องเขาบวกน้อย
จนน่าตกใจ เกือบแถมตังให้ไปอีก 55555555

ใครมีบูชาท่านให้ดีนะ รับรองไม่ผิดหวัง

(คำถามพิเศษ ของน้าแผน นี่ แปลว่า จะมาแจกน้องๆ หรือกระไรมิทราบ ข รับ อิอิ หลานเม้ายังบ่เคยมีกะเขาสักรุ่น เพิ่งจะมีรุ่นเดียวนี่แหละ )

 

ขอโมทนากับน้องโย ด้วยเช่นกัน
ที่ได้ของดีสุดยอดปีมหามงคล เลยก็ว่าได้
สมบัติจักรพรรดิ ใช้เท่าไหร่ก็ไม่มีวันหมดนะ
มีแต่จะพอกพูนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
สาธุๆๆ
(verygood)

 

ผมมีพระชุดพิเศษที่จะนำมาให้บูชากัน เพื่อสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งกันครับ

เป็นพระวังหน้านอกจากหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรท่านเมตตาเสกให้แล้วนั้นยังมีองค์พระพุทธเจ้ากุกุธสันโธท่านเมตตามาเสกให้อีกครับครับ บอกได้คำเดียวว่าสุดยอดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

.

 

E20CEM (เอ็คโค่-ทู-ซีโร่-ชาร์ลี-เอ็คโค่-ไม๊ค์)
เรียกน้าแผน ได้ตลอด หากเกิดภัยพิบัติ นะ ข รับ

โมทนากับน้าแผน(อาสาสมัครช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต)

 

(คำถามพิเศษ ของน้าแผน นี่ แปลว่า จะมาแจกน้องๆ หรือกระไรมิทราบ ข รับ อิอิ หลานเม้ายังบ่เคยมีกะเขาสักรุ่น เพิ่งจะมีรุ่นเดียวนี่แหละ )<!-- / message --><!-- sig -->

สำหรับพี่เม้าน่ะได้อยู่แล้วววครับยินดีให้ฟรีๆครับ แต่ขอบอกว่าตอนไปจองครั้งแรกจำนวน ๕ องค์ เป็นเงิน ๒,๕๐๐ บาท แต่เวลาจะไปรับของ ทางร้านบอกว่าพี่ไม่ต้องเอาของไปได้มั๊ย จะให้เงินคืน ๔,๐๐๐ บาท (ได้กำไรทันที ๑,๕๐๐ ตั้งแต่ยังไม่ได้เห็น ก็แปลกดี ถ้ามีคนเก็งกำไรสงสัยรวยอื้อ....) แต่ว่าสร้างแค่อย่างละ ๓,๐๐๐ องค์ ตอกโค๊ตยิงเลเซอร์เหมือนกัน และทุบแบบทิ้งทะเลหมด เดี๋ยวนี้หายากแล้ว องค์นึงไม่ตำกว่า ๑,๕๐๐ ชัวร์...ผมให้เพื่อนๆแลกไปเกือบหมดแล้ว(ได้เหรียญหลวงปู่ทิมกับพระกรุมา) เหลือแค่สององค์เอง มีคนอยากได้มาขะยั้นขะยอ ขอแลกหรือบูชาอีกก็เลยบอกไปว่าหมดแล้ว เพื่อนเขาเอาไปเลี่ยมกรอบสแตนเลสห้อยคอตลอดเลย เขาว่าดีมากขออะไรได้ทุกอย่าง (ผ่านตลอด) ผมเองก็ยังเก็บไว้เฉยๆอยู่
แล้วตกลงว่าอาจารย์จะให้ผมเอาไปถวายเมื่อไหร่ดีครับเนี่ย ผมมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมสูงประมาณ ๓๐ ซ.ม.ทำจากอะไรไม่รู้คล้ายๆพลาสติกแข็ง สวย และของอย่างอื่นจะมอบให้อีก นัดวัน เวลามาเลยครับ พบกันที่สภากาชาดไทยก็ได้ครับ ผมจะไปบริจาคเลือด จะเล่นเน็ทรออยู่ที่บ้านนะครับ

 

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณในน้ำจิตน้ำใจที่มีเมตตาของน้าแผน
และขอโมทนาเป็นอย่างสูง

พูดถึงเรื่องบริจาคเลือด ที่สภากาชาด
ทำให้นึกได้ เคยไปบริจาคอยู่เหมือนกัน
ช่วงหลังทิ้งห่างไปนาน
ถ้าจะไปบริจาคโลหิต ผมคงว่างวันอาทิตย์
ถ้าน้าแผนว่าง ก็ไปบริจาคโลหิตพร้อมกันก็ได้

สมาชิกท่านใดสนใจจะไปร่วมบริจาคโลหิตด้วยกัน
ก็ยินดี และขอโมทนาล่วงหน้า

แต่ว่าสภากาชาด เขาเปิดรับรับบริจาคโลหิต วันอาทิตย์หรือเปล่า

 

<TABLE class=r-navi-border cellSpacing=5 cellPadding=2 width="90%" border=0><TBODY><TR><TD class=r-navimain>มีเรื่องมาฝากครับ

Aura และความหมาย
</TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 10px; PADDING-LEFT: 10px" vAlign=top> ในปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์อธิบายปรากฏการณ์ออร่า aura ว่าเกิดจากการที่ อะตอมของสารต่างๆเกิดการสั่นสะเทือนโดยอิเลกตรอนที่วิ่งรอบๆแกนอะตอมและเมื่อมีการเคลื่อนที่ก็มีการ รับและส่งพลังงานออกมาเพื่อให้ตัวเองมีเสถียรภาพ พลังงานที่ปล่อยออกมาจะออกมาในรูปแสงและคลื่นเสียง ออร่าเป็นผลพวงจากกระบวนการดังกล่าวในปัจจุบัน มีการบันทึกภาพออร่าด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรียกว่า เทคนิคแบบเกอร์เลี่ยน ซึ่งเป็นชื่อของผู้ค้นพบชาวรัสเซียและปัจจุบันได้พัฒนาเทคนิคนี้ จนเป็นที่ยอมรับโดยนักวิทยาศาสตร์ได้ใช้ภาพถ่ายเกอร์เลี่ยนนี้ในการศึกษา พลังของสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะพลังอำนาจของชีวิต เช่น ใช้ในการวิเคราะห์โรค ตรวจอำนาจหรือคุณสมบัติบางประการในวัตถุหรือสสาร (วิเคราะห์จากสเปคตัม)ความหมายของสีออร่า ในวัตถุที่มีชีวิตและไม่มีชีวิตล้วนก็มีพลังงานทั้งสิ้น ฉะนั้นจึงมีผลต่อคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าโลก สีออร่าที่แผ่รัศมีออกจากวัตถุนั้น จะเป็นการสื่อว่าวัตถุชนิดนั้นๆ มีสภาพเป็นเช่นไร จึงมีการจำแนกสีเพื่อเป็นเครื่องชี้วัดให้เกิดความเข้าใจถึงสถานภาพของวัตถุนั้นๆ

<!-- Start Bravenet.com Service Code --> <!-- End Bravenet.com Service Code -->​

แต่ในที่นี้จำแนกเพียงสีออร่าที่แผ่ออกมาจากกายมนุษย์และวัตถุโดยจะแนะนำให้ใช้เป็นข้อมูลในการอ่านออร่าเบื้องต้นดังนี้(เป็นเพียงข้อมูลส่วนหนึ่ง)
๑. สีชมพู หมายถึง พลังกายพลังใจที่แจ่มใส สดใส มีเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น มีความโอบอ้อมปลอบประโลมผู้อื่นในวัตถุถือว่าส่งผลทางเมตตามหานิยม
๒. สีแดง หมายถึง การกระฉับกระเฉง ความทะเยอทะยาน ความภาคภูมิใจ เต็มไปด้วยพลังแห่งการทำงาน และในวัตถุมงคลถือว่าเป็นอำนาจปกป้องคุ้มครอง ข่มอาถรรพ์คุณไสยและทางมหาอำนาจด้วย เครื่องรางประเภทคงกระพันชาตรี จะพบออร่าสีแดงเป็นพื้นอาจมีสีอื่นผสมด้วยสีแดงยิ่งเข้ม ยิ่งแสดงอำนาจในการคุกคาม แสดงถึงอำนาจในการป้องกันสูงตามไปด้วย

<!-- Start Bravenet.com Service Code --> <!-- End Bravenet.com Service Code -->​

๓. สีส้ม/แสด หมายถึง ความกระฉับกระเฉงว่องไว สุขภาพสมบูรณ์ มีความสุขทั้งทางกายและทางใจในวัตถุมงคลเป็นสีโอโรสหมายถึงผลทางเสน่ห์โดยเฉพาะและหากร่วมกับสีชมพู ก็จะยิ่งส่งผลทางเสน่ห์สูงมากยิ่งขึ้นไปด้วย
๔. สีเหลือง หมายถึง ความฉลาด ความเมตตา มองโลกในแง่ดี เป็นสีที่มีภูมิคุ้มกันโรค สีเหลืองอมส้มหมายถึง ความฉลาดปราดเปรื่อง ในวัตถุมงคลเป็นสีของบารมีทั้งหลายส่งผลทางโภคทรัพย์ด้วยสีเหลืองหากปรากฏในวัตถุมงคลจะหมายถึงบารมีพระพุทธในบางกรณีซึ่งอาจมีการผสมกับสีฟ้าอ่อนๆด้วย

<!-- End Bravenet.com Service Code -->​

๕. สีเขียว หมายถึง จิตใจละเอียดอ่อน ใจดี เข้าใจผู้อื่นง่าย เป็นสีแสดงถึงความสมดุลของสภาพร่างกาย ในวัตถุมงคลคือส่งผลทางป้องกันรักษา โดยเฉพาะการรักษาโรค และล้างคุณไสย และในบางกรณี การผสมของออร่า บางสี อย่างสีเหลือง(แสดงอารมณ์ปิติมีความสุข) และสีฟ้า(อารมณ์เมตตา) ก็อาจเห็นเป็นออร่าสีเขียวได้เช่นกันดังนั้นการอ่านออร่า จึงต้องมีผู้ที่เชี่ยวชาญที่เห็นออร่าแบบต่างๆมามากให้คำแนะนำ
๖. สีน้ำเงิน หมายถึง ความสงบ มีสัจจะ ซื่อตรง จริงใจ เป็นผู้มีความมั่นคง ฉลาด และมักประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างสูง ในวัตถุมงคลเป็นสีทางโชคลาภอีกสีหนึ่งที่มาจากลาภลอย ลาภจาก การเจรจาตกลง
๗. สีคราม หมายถึง สีของพลังจิต มีสัมผัสที่ ๖ มีความฉลาดล้ำลึก ความคิดสร้างสรรค์ และมีความเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ชอบค้นหาสัจจะธรรมของชีวิต เป็นการแสดงอำนาจญาณบางชนิดด้วยแต่ต้องชำนาญในการอ่านเช่นญาณพระพุทธ(สีคราม-ฟ้า) ญาณว่าน ญาณจากวัตถุธรรมชาติซึ่งแตกต่างกันในรายละเอียดบางประการต้องได้รับการแนะนำจากผู้รู้

<!-- Start Bravenet.com Service Code --><!-- End Bravenet.com Service Code -->​

๘. สีม่วง หมายถึง จิตละเอียดอ่อน เป็นตัวของตัวเอง มีสัมผัสที่ ๖ และแสดงถึงเป็นผู้ที่มีพลังจิตสูง ชอบทางสมาธิและโน้มเอียงไปทางศาสนา ชอบเรื่องลี้ลับ คนส่วนมากมักไม่มีสีนี้ สีม่วงหากปรากฏในวัตถุมงคลถือว่ามีเทพระดับสูงรักษา(แรงครูบาอาจารย์)วัตถุมงคลที่มีสีม่วงแสดงว่ามีญาณทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าลางสังหรณ์
๙. สีขาว หมายถึง เป็นสีที่มีความสมดุลมากที่สุด มักพบในนักบุญหรือผู้ที่เจริญสมาธิอยู่เสมอ ถ้าปรากฏเป็นเส้นสีขาวผ่านซ้อนแสงหมายถึง การสื่อกับมิติอื่นได้ เป็นสีของญาณสมาบัติพบในมงคลวัตถุแสดงว่าผู้เสกสร้างได้สมาธิระดับสมาบัติชั้นสูง สีขาวเป็นการผสมของสีต่างๆอย่างสมดุลลงตัว เป็นสีที่บอกประการหนึ่งของพลังด้านบวก เป็นตัวปรับสมดุลเครื่องรางที่มรสีขาวจะมีผลทางด้านส่งเสริมให้จิตใจผู้สวมใส่เป็นสมาธิได้ง่าย และยังใช้ในการอธิษฐานขอเรื่องต่างๆได้ด้วย
๑๐. สีทอง หมายถึง สีของพลังจักรวาล พลังแห่งทิพยชั้นสูง ผู้ที่มีสีนี้พบได้น้อยมากปัจจุบันแทบจะหาไม่พบเลย เป็นพลังอำนาจนอกมิติการอ่านในภาพถ่ายจะแยกยากมากระหว่างสีเหลืองกับสีทองรายละเอียดจะข้ามไปสำหรับผู้ศึกษาโดยเฉพาะ

<!-- Start Bravenet.com Service Code --><!-- End Bravenet.com Service Code -->​

พลังสีต่างๆที่ปรากฏในวัตถุมงคลหมายถึงพละพลังของวัตถุมงคลนั้นที่เปล่งอานุภาพออกมา พิจารณาจากสี ความใส ความกว้างของออร่า การตรวจอำนาจมงคลวัตถุโดยออร่า เช่นภาพถ่ายเป็นกระบวนการที่ใช้วิทยาศาสตร์มารองรับว่ามีพลังงานประจุอยู่จริง ส่วนผลที่ว่า นำมงคลวัตถุนั้นไปใช้จะเกิดผลตามปรารถนาหรือไม่ ก็เป็นที่ตัวผู้ใช้เอง(Auraตัวผู้ใช้) และความสามารถในการต่อจิตสัมพันธ์กับพลังในวัตถุนั้นๆด้วย การอ่านออร่าด้วยสีต่างๆที่ปรากฏนั้นมีรายละเอียดค่อนข้างมากและบางสถาบันอาจมีความเห็นไม่ตรงกัน ทั้งนี้ก็เนื่องจากมีการค้นคว้าที่ต่างกันและสีที่ปรากฏบางครั้งเกิดการผสมกันจนเป็นอีกสีหนึ่ง จึงต้องพิจารณาทั้งสีพื้น สีแซม และสีที่แฝงด้วยการพิจารณาที่ถูกต้องจึงต้องเจาะให้ลึกถึงระดับออร่าเป็นชั้นต่างๆด้วย สำหรับในเว็บนี้จะพยายามนำออร่าของวัตถุมงคลแบบต่างๆมาให้ศึกษากัน ในโอกาสต่อไป

<!-- Start Bravenet.com Service Code --><!-- End Bravenet.com Service Code --><CENTER>
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ออร่า
<O</O
​

จำที่มาไม่ได้ครับ ขอขอบพระคุณท่านผู้เขียนครับ

(ใช้วิจารณญาณในการอ่านครับ)
<O</O
ออร่าคืออะไร คำว่าออร่ามาจากภาษาลาติน แปลว่า อากาศ
มาจากภาษากรีก แปลว่า ลมหายใจ

หลักฐานทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับออร่า
- แสงฉัพพรรณรังสีของพระพุทธเจ้าที่เราเห็นตามฝาผนังโบสถ์
- ภาพรัศมีของพวกนักบุญฝรั่ง
ส่วนหลักฐานที่จารึกเป็นลายลักษณ์อักษร พบในยุโรปประมาณเกือบ 1,000 ปีมาแล้ว
โดยกล่าวถึงออร่าว่า มี 4 จำพวกคือ
1. นิมบัส Nimbus มีลักษณะเป็นหมอก
2. ฮาโล Halo เป็นรัศมี
3. ออเรโอลา Aureola เป็นแสงรอบตัว
4. กลอรี่ Glory เป็นแสงที่รวมเอาแสงที่ศีรษะและรอบตัวเข้าด้วยกัน (ภาพ)<O</O
แสงออร่าไม่ใช่เรื่องใหม่
หลายๆ คนอาจจะมองออร่าไม่เห็น แต่ทุกคนสามารถรับข้อมูลและความรู้สึกจากแสงออร่า
ของผู้อื่นได้ จากประสบการณ์ดังนี้
1. รู้สึกสดชื่นหรือห่อเหี่ยว เมื่อได้ยินเสียงใครบางคน
2. รู้สึกว่าเพื่อนคุณสวยหรือหล่อเป็นพิเศษ เมื่อสวมเสื้อผ้าสีใดสีหนึ่ง
3. รู้สึกว่าคุณสดชื่นขึ้นเมื่อสวมเสื้อผ้าสีใดสีหนึ่ง
4. รู้สึกว่ามีคนจ้องมองอยู่ เมื่อเหลียวกลับไปก็มีคนจ้องอยู่จริง
5. รู้สึกชอบหรือเกลียดขี้หน้าคนบางคน ทั้งๆ ที่เพิ่งพบกันเป็นครั้งแรก
6. รู้สึกโกรธหรือสงบเมื่อย่างเท้าเข้าไปในสถานที่บางแห่ง
7. รู้สึกว่าคนที่คุยด้วยไม่จริงใจกับคุณ และภายหลังคุณพบว่าความรู้สึกนั้นถูกต้อง<O</O
ถ้าคำตอบเหล่านี้คือ ใช่ แสดงว่าคุณสามารถสัมผัสออร่าได้ และหากฝึกฝนคุณก็สามารถสัมผัส ได้ด้วยตา มือ จิต และอ่านความหมายได้ รวมไปถึงหากดูแลรักษาสุขภาพ แสงออร่าของตัวเอง จะช่วยให้ร่างกายคุณ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บมีแต่ความสุขกายสบายใจ<O</O
สีของออร่าและความหมาย
มี 2 ประเภท
1. สีของความคิดและอารมณ์
จะมีลักษณะเป็นหมอก มีความไหลปรากฏเป็นหย่อมๆ จะเห็นได้ชัดเจนบริเวณรอบศีรษะ และเหนือบ่า มีสีสันต่างๆ เช่น
1.1 สีชมพู หมายถึงพลังที่แจ่มใส เต็มไปด้วยความรัก อารมณ์ขัน ถ่อมตนสามารถ ปลอบประโลม ผู้อื่น โรแมนติก ข้อเสียคือมักจะใจคอโลเล
1.2 สีแดง เป็นสีที่แสดงถึงความทะเยอทะยาน เต็มไปด้วยพลังงาน มีความกระฉับกระเฉง และ มีพลังทางเพศ ถ้าเป็นสีแดงมืดอาจหมายถึงอารมณ์รุนแรง ถ้าเป็นสีแดงสดใสหมายถึงความ ภาคภูมิใจ และทะเยอทะยานในทางที่ถูกที่ควร ถ้าสีแดงขุ่นเป็นพวกใจคอโหดร้าย
1.3 สีส้ม / แสด เป็นสีของความกระฉับกระเฉงว่องไว มีความสุข สุขภาพ ที่เต็มไปด้วยพลัง ถ้ามีแสงสีนี้มากเกินไปจะกลายเป็นคนเย่อหยิ่ง สีนี้ยังเป็นสีที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อด้วย สีส้มมัวหม่นหรือส้มปนน้ำตาลแสดงถึงปัญญาต่ำ ถ้าสีส้มแดงหมายถึง เย่อหยิ่ง อวดฉลาด
1.4 สีเหลือง เป็นสีที่มองเห็นง่ายที่สุดในออร่า เป็นสีของความฉลาดความเมตตา มองโลกในแง่ดี รักเพื่อนมนุษย์ นอกจากนั้นยังเป็นสีของภูมิคุ้มกันโรค สีเหลืองอมส้มแสดงถึง ความฉลาด - ปราดเปรื่อง สีเหลืองขุ่นค้นแสดงถึงความอิจฉาริษยา หรือความคลางแคลงใจ
1.5 สีเขียว เป็นสีของจิตใจที่ละเอียดอ่อน มีความเข้าใจผู้อื่น นอกจากนั้นยังเป็นสีของ ความรัก การเปลี่ยนแปลง การรักษาโรค ความสามารถในการใช้มือ และยังเป็นสีที่แสดงถึงความสมดุล ถ้าเป็นสีเขียวสดใสแสดงว่าเป็นคนปรับตัวเก่ง ใจดี ชอบอิสระ ถ้าเป็นสีเขียวมืดจะเป็นพวกขี้โกง ขี้อิจฉา ถ้าเป็นสีเขียวอมฟ้าเป็นพวกชอบช่วยเหลือผู้อื่นไว้วางใจได้ เข้าอกเข้าใจผู้อื่น และแสดงถึงความสามารถในการรักษาโรค ถ้าเป็นสีเขียวขี้ม้าเป็นพวกชอบหลอกลวง ต้มตุ๋น ขี้โกง และขี้เหนียว
1.6 สีน้ำเงิน เป็นสีของความสงบและสัจจะ เป็นสีของการสื่อสาร พลังจิตความฉลาด
ความมีอุดมคติ ขยันขันแข็ง ความสำเร็จ สามารถยืนหยัดอยู่บนขาของตัวเอง มีความเชื่อมั่น ในตนเอง ซื่อตรง จริงใจ และชอบช่วยเหลือผู้อื่น มักจะเป็นพวกสมถะ แต่ใจคอหงุดหงิดง่าย สีน้ำเงินขุ่นแสดงว่าทัศนะวิสัยถูกปิดกั้น กลายเป็นคนขี้กังวล และขี้ลืม
1.7 สีคราม เป็นสีของพลังจิต สัมผัสที่ 6 โทรจิต ความฉลาดล้ำลึกความคิดสร้างสรรค์ และ ความเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ มีความจริงใจ ชอบค้นหาสัจจะความจริงของชีวิต
1.8 สีม่วง เป็นพวกจิตละเอียดอ่อน เป็นตัวของตัวเอง มีสัมผัสที่ 6 ชอบทางสมาธิ และโน้มเอียง ไปทางศาสนา ชอบเรื่องลี้ลับ คนส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยมีสีนี้ ผู้ที่มีสีนี้มักจะมีพลังจิตสูง แต่อาจมี ปัญหาเกี่ยวกับบริเวณท้อง เนื่องจากจักระช่วงบนพัฒนาล้ำหน้าจักระช่วงล่าง
1.9 สีน้ำตาล เป็นสีที่แสดงถึงความคิดแคบๆ ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น เห็นแก่ตัว ชอบคุยแต่เรื่องตัวเอง เป็นคนน่าเบื่อ สีน้ำตาลยังเป็นสีของจักระเท้า พลังธรณี และอดีตที่ผ่านมา ข้อดีของสีนี้คือ เป็นสีของความขยันขันแข็ง ความมีระเบียบ และอาจหมายถึงความมุ่งมั่นที่จะให้ สู่จุดมุ่งหมาย และความสำเร็จ
1.10 สีดำ หมายถึง การสิ้นสุด ซึ่งในที่นี้หมายถึง การสิ้นสุดของสถานการณ์หนึ่ง เพื่อเปิดโอกาส ให้สถานการณ์ใหม่เข้ามา อาจหมายถึงการเกิดใหม่ หรือความล่าช้าก็ได้ บางครั้งอาจหมายถึง โรคร้ายแรง หรือโรคเรื้อรัง อิทธิพลมืด บางครั้งอาจหมายถึงการปกป้องตัวเองจากพลังภายนอก หรือคนผู้นั้นอาจจะมีความลับ ถ้าสีดำเกิดปะปนอยู่กับสีอื่นๆ เช่น สีแดง แสดงถึงความโกรธ เกลียด อาฆาต พยาบาท สีเหลือง แสดงถึงความคิดชั่วร้าย สีเขียวหมายถึง ความคิดหักหลัง อิจฉา
1.11 สีขาว เป็นสีที่มีความสมดุล และสมบูรณ์แบบมากที่สุด จะปรากฏกับพวกนักบุญ พระ หรือ ผู้ฝึกสมาธิวิปัสสนาสม่ำเสมอ ถ้าปรากฏเป็นเส้นแสงสีขาวผ่านเข้ามาในแสง อาจหมายถึงข่าวสาร จากมิติอื่นเข้ามา พวกที่เข้าทรงจะมีสีขาวเข้ามาในแสงระหว่างการเข้าทรง ผู้ที่มีสีขาวปรากฏอยู่ในออร่า หมายถึง กายแสงได้รับการชำระและฟอกให้บริสุทธิ์ หรืออาจหมายถึง สภาพจิตใจที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และบริสุทธิ์
1.12 สีเงิน หมายถึงแรงบันดาลใจ หรือข่าวสารข้อมูลจากโลกวิญญาณ หรือจากมิติอื่น
1.13 สีทอง เป็นพลังของจักรวาล หรือพลังจากเทพที่เข้ามาช่วยถ่ายโรคออกจากร่างกาย
1.14 สีเทา เป็นพวกขาดจินตนาการ คร่ำครึ หัวโบราณ ยึดถือความคิดตนเป็นใหญ่ เจ้าระเบียบ ถ้าเป็นสีเทามืด ยิ่งมืดทึบมาก ยิ่งแสดงถึงอารมณ์ที่เหี่ยวเฉา สลดหดหู่ คนพวกนี้มักจะว้าเหว่
ถ้ามีจุดมืดสีนี้ในแสงแสดงถึงโรคอวัยวะที่มีปัญหา หรืออิทธิพลมืด
ถ้ามีจุดสีแดงอยู่ในเงามืดของแสง แสดงถึงความคิดแง่ลบ ได้แก่ ความเกลียด เคียดแค้น หรือ แม้แต่อารมณ์ฆาตกร สีเทาค่อนไปทางสีเงิน แสดงถึงว่าสมองซีกขวาได้รับการกระตุ้นก่อให้เกิด จินตนาการ และ สัมผัสที่ 6
สีที่ไม่ค่อยปรากฏอยู่ด้วยกันคือสีน้ำเงินกับสีแสด ถ้าใครมีสองสีนี้อยู่ด้วยกันจะเป็นคนที่น่าอิจฉา เพราะสีน้ำเงินเป็นสีของความสงบ และสีแดงเป็นสีของความสุข คุณจะมีแต่ความสงบสุข ทางจิตใจ <O></O>
2. สีพื้นฐานของออร่า
จะทราบอย่างไรว่าเรามีสีพื้นฐานของออร่าเป็นสีอะไร
ง่ายนิดเดียว เพียงคำนวณตามสูตร
นำวัน เดือน ปี ค.ศ. ที่เกิด มาบวกกัน สมมุติว่า เกิดวันที่ 5 เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1960
ก็นำเลขทั้งหมดมาบวกกันคือ 5 + 5 + 1960 = 1970
จากนั้นก็แยกตัวเลขออกมาบวกกันอีกครั้ง
จะได้เป็น 1 + 9 + 7 + 10 = 17 ก็นำมาแยกบวกอีกจนกว่าจะได้เลข 1 ตัว
จะได้เป็น 1 + 7 = 8 เมื่อได้ผลลัพธ์เป็นเลขตัวเดียวแล้ว ขอให้ดูว่า ตัวเลขที่ได้ตรงกับสีพื้นฐาน
สีอะไร มีความหมายว่าอย่างไร แต่ถ้าเลขบวกกันแล้วได้ผลเป็น 11 และ 22 ไม่ต้องแยกบวกอีก
เพราะเป็นพวกพิเศษกว่าพวกอื่น

<O</O