วิธี ตรวจสอบ เพื่อจะยึดท่านผู้ใดเป็น ครูอาจารย์ ทางธรรม

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย โทสะ, 2 มีนาคม 2011.

  1. โทสะ

    โทสะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +466
    การจะยึดถือ ท่านผู้ใดเป็น ครูอาจารย์ในทางธรรม ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ ด้วยหากเราไปเพียรปฏิบัติกับท่านที่ไม่รู้จริง ประเภท ปริยัธิจนเต็มพุง ปฏิบัติไม่เคยเพียร ดีแต่สอนคนอื่น ไม่เคยเพียรอบรมรมตน ก็จักทำให้ผู้มาเป็นลูกศิษย์ เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ดีไม่ดีพาเข้ารก เข้าพง หาบกิเลสมาเผาหัวใจอีกต่างหาก ดังนั้นหากจะไปฝากตัวเป็นศิษย์และยึดคำสอนของท่านใดมาประพฤติ ปฏิบัติ วิธีการตรวจสอบง่ายๆ มีดังนี้
    1. คำสอนตรงตามแนวทางแห่งพระพุทธองค์ที่ทรงสั่งสอน เน้นเรื่อง จิตภาวนา เป็นหลักสำคัญ ไม่ใช่แห่ไปซื้อบุญ
    2. พฤติกรรมที่แสดงออกของท่านผู้นั้น ทั้งทาง กาย ทางวาจา ไม่โน้มเอียงไปในทาง โลภ โกรธ หลง หวังเพียง ลาภ สักการะ พูดทีคนจะได้จ่ายเป็นแสนๆ
    3.ในสายการปฏิบัติ ที่เป็นเครื่องยืนยันที่สำคัญ ว่าท่านผู้นั้น บรรลุอรหัตผล คือ กระดูกกลายเป็นคลิสตัล (พระธาตุ ) แต่ประเด็นนี้เราจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อท่านมรณภาพไปแล้ว ถึงกระนั้น บางท่านแม้ยังมิได้มรณภาพ อวัยวะบางส่วน เช่น เส้นผมก็จับก้อนรวมกันเป็นคลิสตัลได้ แต่หากท่านใด เมื่อมรณภาพหรือตายลงไปแล้ว เถ้ากระดูก็เพียงแต่ดำๆ เทาๆ หรือแต่เพียงขาวๆเท่านั้น ก็ถือว่ายังมิได้สำเร็จมรรคผลอันใด บางท่านไปติดความว่างในอรูปจนถอนตัวไม่ขึ้น มันเลยมีแต่ว่างกับว่าง แต่เจ้าของไม่ถอนตัวออกมา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 มีนาคม 2011
  2. เงาเทวดา

    เงาเทวดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +314
    วิธี ตรวจสอบ เพื่อจะยึดท่านผู้ใดเป็น ครูอาจารย์ ทางธรรม

    นำตรง ไปตรง (สัมมาทิฏฐิ) นำคด ไปคด (มิจฉาทิฏฐิ)

    ในเบื้องต้น ควรตรวจสอบในจิตใจตนเองว่า สิ่งที่ได้รับมา แล้วกำลังปฏิบัติตนอยู่ เป็นสัมมาทิฏฐิ หรือ มิจฉาทิฏฐิ จ้า....
     
  3. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ถูกต้องนะครับ....ตามนี้เลย....แต่จุดที่สำคัญนั้น...เราจะตรวจสอบอย่างไรว่าสิ่งที่ได้มาเป็นสัมมา หรือ มิจฉา ......
     
  4. Scorpius

    Scorpius เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +647
    อย่าส่งจิตออกนอกเลย
     
  5. เงาเทวดา

    เงาเทวดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +314
    ตอบ...การดูตนเองว่าเป็นสัมมาทิฏฐิหรือไม่ ในชั้นต้น เอาตนไปเปรียบเทียบกับศีลห้า ด้วยศีลห้าเป็นต้นกำเนิดของจิตที่เป็นสัมมาทิฏฐิจ้า...
     
  6. pichak

    pichak Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +69
    สำหรับผม ศึกษาจากหนังสือธรรมหลายๆ แขนง แล้วออกเดินทางหา ขอเมตตา ครูบาอาจารย์ ชี้แนะ ถ้าคำกล่าวมิผิดจากหนังสือธรรม ก็น่าจะเชื่อถือได้ การเดินทางเพื่อจบภายใน แต่ภายนอกก็คนปกติ สาเหตุที่ไม่ศึกษาจากหนังสืออย่างเดียว จะไม่เกิดความแตกฉานจากครูบาอาจารย์ที่ผ่านการเดินทางมาก่อนและอีกอย่างเป็นการล่นระยะเวลาเดินทาง ขอแบบที่ท่านสรุปมาเลย
    ส่วนการจะมีกิริยาอย่างใดเป็นหน้าที่ของแต่ละองค์ บารมีแต่ละพระองค์
    -บางองค์ก็มีกุศโลบาย ให้ลูกศิษย์ลด ละ สละ ทรัพย์ เพื่อสร้างทานให้เกิด แล้วไปต่อยอดภายหลัง หรือ จะดำเนินไปพร้อมกัน
    -บางองค์ก็มีกุศโลบาย ปฎิบัติธรรม เข้ากรรมฐาน อย่างมีรูปแบบ เพราะผู้ที่มากราบ ผ่านทานมาแล้ว ศีล ก็ต้องมีอัตโนมัติอยู่แล้ว
    สรุป ทาน ศีล ภาวนา พื้นฐานต้องผ่าน ภายนอกอาจจดูไม่ดีสำหรับบางสายตา แต่เจตนาภายในต้องอาศัยวาสนาตัวเอง
    -บางองค์มีวิชาเฉพาะ คำว่าวิชาเฉพาะหมายถึง ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง หมายถึงพระพุทธเจ้า แต่จะบารมีมากน้อย แตกต่างกัน จึงมีข้อเสนอว่า อย่าละเมิด ครูบาอาจารย์ที่มีวิชาเฉพาะ เพราะจะเป็นการสพประมาท พระพุทธเจ้าด้วย กรรมตีกลับไม่รู้ตัว
    -การตรวจสอบ เป็นการปรามาส ในฐานะผู้เดินทาง ทางธรรม ไม่สามารถตรวจสอบครูบาอาจารย์ได้ มีแต่ครูบาอาจารย์จะตรวจสอบเรา ขอใ้ห้ไปในฐานะขอเมตตา ชี้แนะ ท่านจะเมตตาเท่าใด ถูกกับจริตเรา ทำได้ก็รับ แต่ไม่ถูกกับจริต ไม่ใช่ว่าไม่ถูก เราก็ขอกราบด้วยความเคารพ แล้วผ่านไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2011
  7. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ด้วยความเห็นของปุถุชนนั้นยังหยาบอยู่ ธรรมที่พ้นโลกนั้นเป็นที่ขัดใจยิ่งนักสำหรับผู้กิเลสหนา เลยมีผู้ยกตนเป็นอาจารย์มากมาย อาทิเช่น พวกไม่ทำอะไรเลย พวกหาศรัทธา พวกอ้างเป็นผู้วิเศษ อ้างตนเป็นอริยะ ด้วยความไม่รู้ก็หลงผิดไปตาม ๆ กัน

    ผมจะแนะนำไว้ให้ ถ้าจะเอาแบบของแท้ชัวร์ ก็สายหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น สายนี้มีพระอรหันต์ พระอริยเจ้ามากมาย ให้ศึกษาคำสอนของพวกท่าน เช่น หลวงปู่ชา หลวงพ่อพุธ หลวงปู่ขาว หลวงปู่เทสน์ หลวงปู่ดุลย์ หลวงปู่หล้า และอีกมากมาย

    หากว่ายังยากอยู่ที่จะคัดเลือกอาจารย์ คัดเลือกคำสอน มาใช้ปฎิบัติ ก็เอาหลวงตามหาบัวก็ได้ ไปดูใน web ท่านเทศน์ไว้มากมาย ของจริงทั้งนั้น
     
  8. สปาต้า

    สปาต้า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +46
    ถ้ารู้อริยสัจจ์ก็ไม่ต้องตามล่าอาจารย์

    ปัญหา คนชนิดไหน ไม่มีความมั่นใจในพระสัทธรรมคอยแต่ละหาอาจารย์องค์นั้นองค์นี้ ? และคนชนิดไหนมีความมั่นใจในพระสัทธรรมอย่างแน่นอนมั่นคง ?

    พุทธดำรัสตอบ “ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง ย่อมไม่รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้นต้องคอยมองดูหน้าสมณะหรือพราหมณ์อื่น ด้วยหวังว่าท่านผู้นี้น่าจะรู้น่าจะเห็นอย่างแน่นอน เปรียบเหมือนปุยนุ่นหรือปุยฝายที่เบา ลมพัดเอาได้ง่าย ที่เขาวางไว้บนพื้นอันราบเสมอแล้ว ลมทิศตะวันออกพึงพัดเอาปุยนุ่นหรือปุยฝ้ายนั้นไปทางทิศตะวันตกได้ ลมทิศตะวันตกพึงพัดเอา...ไปทางทิศตะวันออกได้ ลมทิศเหนือพึงพัดเอา...ไปทางทิศใต้ได้ ลมทิศใต้พึงพัดเอา...ไปทางทิศเหนือได้ เพราะเหตุไร เพราะปุยนุ่นหรือปุยฝ้ายนั้นเป็นของเบา...
    “ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง ย่อมรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทางปฏิบัติไปสู่ความดับทุกข์ สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้น ย่อมไม่ต้องคอยมองดูหน้าของสมณะหรือพราหมณ์อื่น.... เปรียบเหมือนเสาเหล็กหรือเสาหิน มีรากลึกฝังไว้ดีแล้ว ไม่หวั่นไหว ไม่เอนเอียง ถึงแม้ลมฝนจะอันแรงกล้าจะพัดมาจากทิศตะวันออก....ทิศตะวันตก....ทิศเหนือ...ทิศใต้ก็ไม่สะเทือน สะท้านหวั่นไหวเพราะเหตุไร เพราะรากลึกฝังไว้ดีแล้ว...”
    อินทขีลสูตร มหา. สํ. (๑๗๒๒-๑๗๒๓ )
    ตบ. ๑๙ : ๕๕๔-๕๕๕ ตท. ๑๙ : ๔๙๘-๔๙๙
    ตอ. K.S. ๕ : ๓๗๕
     
  9. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949
    เพียงแต่เรามีสติ พึงระลึกถึงตัวเองเสมอ ครูบาอาจารย์ทุกท่านต่างมีดี ส่วนที่ท่านไม่ดีเราก็ไม่ต้องมอง จะหาพระอรหันต์ ที่ท่าประเสริฐสำเร็จมรรคผล ที่ยังมีชีวิตก็หาได้ยากยิ่ง ด้วยเราไม่สามารถไปตัดสินว่าท่านสำเร็จ หรือถึงขั้นไหนแล้ว พึงยึดมั่นในคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้เถอะ สาธุ
     
  10. pichak

    pichak Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +69
    -กาลบัดนี้ เข้าสู่ยุคยาก ภัยพิบัติก็ไกล้แค่เอื้อม พุทธอรหันต์ องค์สำคัญ ลงมาอย่างมากมาย เพื่อมาขนลูกหลานกลับไปก่อน การจะได้ธรรมแบบ จิต สู่ จิต ฉับพลัน เหมือน สมัยพุทธกาล ก็ต้องเป็น ลูกหลาน (หน่อเนื้อเชื้อไข) หรือจะร่วมด้วย ก็คงต้องเป็นแบบ ผลต่างตอบแทน คือเสนอหน้าบ่อยเข้าไว้ ทำบุญกับท่านบ่อยๆ เข้าไว้ สนใจในธรรมท่านบ่อยๆ เดี๋ยวก็ได้ร่วมไปด้วย
    -องค์คุณองค์ธรรม ครูบาอาจารย์ วิชาครูบอาจารย์ อย่าวิจัย วิจารณ์ เพราะบารมีสั่งสมมาแตกต่างกัน
    -แลเหล่าผู้เดินทางธรรม ก็ขอเป็นการขัดเกลากัน บารมีสั่งสมมา มากน้อย ใหญ่ ไม่เสมอกัน เพราะคงไม่รู้ว่าผู้ใด เป็นอย่างไร คงได้แต่ให้ความเคารพ ขัดเกลา ข้อธรรมบางอย่างและเปิดโอกาสให้ผู้อื่นแลกเปลี่ยน(เพื่อธรรมกระจ่าง) เพื่อเดินทางธรรมอย่างเร็ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2011
  11. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    จากพุทธวัจนะ จะเห็นว่า ปัญหามันอยู่ ที่ คนที่เป็นศิษย์

    คนที่เป็นศิษย์นั้นแหละ สาเหตุ ของความเบา ในอุปมานั้น เปรียบดังนุ่นที่เป่า
    ไปทางไหนก็ได้ หากใช้ศัพท์ปัจจุบันก็คือ เป็นพวก "หูเบา"

    หมายถึง คนที่เป็นศิษย์ พอไปสำนักนี้ ฟังลมปากอันเป็นคำสอนของครูมาอย่าง
    หนึ่ง จิตใจก็ปลิวลมมีปิติ มีสุข แล้วยึดมั่นตามแรงลมนั้นไปคราวหนึ่ง ครั้นออก
    ไปยังอีกสำนักหนึ่ง ก็ถูกเป่าให้ได้ยินอีกอย่างหนึ่ง แล้วก็มีปิติ มีสุข ไปอีกแบบ
    หนึ่ง พอเที่ยวไปในสำนักมากๆ ก็จะพบว่า ตนนั้น ปลิวไปดั่งนุ่น ถูกครูคนนั้น
    เป่าหูให้ได้ยินแบบนี้ที แบบนั้นที ตัวเองก็ปลิวไปทิศเหนือที ทิศใต้ที สุดท้ายเลย
    ต้องการยึดมั่นเอาเสียอย่างหนึ่ง

    หากการยึดมั่น เป็นการหยุดแสวงหา แล้วลงมือปฏิบัติเสียตามครูท่านนั้นๆ มันก็จบ

    แต่หากใช้การยึดมั่น และใช้ความที่ตัวเองทำผิดพลาดมาก่อน แล้วอยาก ปิดบังซ่อนเร้น
    ความผิดพลาดไว้ เมื่อนั้น การยึดมั่นคำสอนของครูก็จะเป็นการยึดเพื่อฟาดฟันคำ
    ครูของสำนักอื่น(ภายใต้ความรู้สึกอยากช่วยผู้อื่นไม่ให้ผิดอย่างตน) เพื่อกลบเกลื่อน
    ร่องลอย ที่ตัวเองเป็น ปุยนุ่น

    เมื่อนั้น ก็เปลี่ยนจาก ฐานะเป็นปุยนุ่น กลายเป็น พวกสวะลอยน้ำแทน กล่าว
    คือ พอออกจากแหล่งสายธารสายทางของตนไปติดหรือไปแวะที่คุ้งน้ำหรือสำนัก
    อื่น ก็ไปสร้างปัญหาให้กับเขา ขวางทางน้ำของเขา อวดการเบ่งบานความเป็น
    ดอกเป็นผลของตน

    พอเกิดปัญหากันระหว่างศิษย์ ก็ไม่รู้จะโทษใคร เพราะเหล่าศิษย์แต่ละสำนักก็อาศัย
    ความหวังดีไม่อยากให้ใครผิดอย่างตัวเอง จำต้องยึดมั่นแนวทางตนว่าถูก ก็เลยต้อง
    ไปลงเอยที่ครูว่าสอนผิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2011
  12. tuta868248

    tuta868248 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    563
    ค่าพลัง:
    +1,116
    มีครูอาจารย์ท่านสอนไว้ว่าถ้าเราอยากทราบว่า ท่านไหนรักษาศิล ประพฤติปฎิบัติเจริญกรรมฐานภาวนา รักษาพระวินัย ให้คำสั่งสอน ตรงตามพระไตรปิฏกจริงเราต้อง ไปปฎิบัติ
    รับใช้อยู่ใกล้ๆท่าน ก็จริงเหมือนครูอาจารย์ท่านสอน บางท่านสอนคนอื่นคำพูดดีมาก จากพระไตรปิฎกเลย แต่มีศิลบ้างไม่มีศิลบ้าง และไม่ปฏิบัติเลย บางท่านมีศิลเคร่ง มีวินัยดี ปฎิบัติดี แต่ยังต้องการลาภสักการะเยอะๆ ต้องพระเกจิอาจารย์ที่มีอายุมากๆ มีอยู่รูปหนึ่งที่เชียงใหม่นะคะ หลวงปู่ครูบาตั๋น สำนักม่อนปู่อินทร์อำเภภอจอมทอง อายุ 90 กว่าพรรษาท่านปฏิบัติดีปฎิบัติชอบ สมรรถะมากคะ ลองเข้า google นะคะ หลวงปู่ชม ท่าน อายุ 80 กว่าวัดท่าสุดอำเภอแม่แตง อีกรูปคะ แต่เราหาครูบาอาจารย์ที่ดีๆได้เราก็มาปฏิบัติอย่างต่อเนื่องไม่จำเป็นต้องไปวัดบ่อยๆ แต่การปฏิบัติจำเป็นต้องมีครูอาจารย์ดูแล บางคนหลงนิมิตรจิตวิปราส ก็มีนะคะ ขอให้ทุกท่านที่จะปฎิบัติธรรมพบครูอาจารย์ที่ดี พบพระอริยะสอนในทางที่ถูกที่ตรงนะคะ บุญรักษาคะ
     
  13. ศรีสุทโธ

    ศรีสุทโธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    201
    ค่าพลัง:
    +461
    แนวปฏิบัติใด ปฏิปทาใด คำสอนใด ธรรมะใด ปฏิบัติแล้ว ทำตามแล้ว เรียนแล้ว
    ไม่เป็นไปเพื่อการออกจากทุกข์ ไม่ทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ ธรรมทั้งหลายเหล่านั้น
    ไม่ใช่ธรรมะของพระพุทธเจ้า..พึงระลึก ดังนี้ เถิด....
     
  14. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    ธรรมนั้นอยู่รอบตัวเรา ถ้ายังไม่มีครูบาอาจารย์ตัวเป็นๆก็ไม่เป็นไร ขอให้ตั้งจิตระลึกถึง แล้วธรรมจะคอยรักษาผู้ปฏิบัติเอง

    ที่กล้าตอบแบบนี้เพราะเมื่อก่อนไม่มีครูบาอาจารย์ทางธรรมตัวเป็นๆเหมือนกัน (มีแต่ครูอาจารย์บนสวรรค์) แต่เพิ่งมาเจอตัวเป็นๆเมื่อไม่นานมานี้ค่ะ
    เมื่อศิษย์พร้อม ครูบาอาจารย์ก็พร้อม
     
  15. ซาตานคลั่ง

    ซาตานคลั่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    496
    ค่าพลัง:
    +1,449
    วิธีที่ง่ายที่สุดเบื้อต้น คือ
    ลองขออะไรที่คุณมั่นใจว่าเป็นของส่วนตัว ไม่ใช่ของสงฆ์สิ ยกเว้นสบง รัดปคต(สองอันนี้สงสารท่านเถอะ) ส่วนจีวรนี่ไม่แน่ใจว่าควรขอหรือเปล่า แต่จำได้ว่ามีชาวบ้านขอจีวรสมเด็จพระพุทธาจารย์โตพรหมรังษี(สมเด็จโตวัดระฆัง)แล้วท่านก็ให้แบบไม่ได้คิดอะไรเลย

    ที่ว่าลองขอดูนี่คือ ดูว่าท่านผู้นั้นจะหวงมั้ย ถ้าหวงหรืออิดออดก็ไม่ต้องพิจารณาอีกต่อไป ยังตัดไม่ขาดแน่นอน

    ลองขอดู อะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่ของสงฆ์
     
  16. Fabreguz

    Fabreguz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +1,911
    หลวงพ่อทวี เคยดูแลหลวงปู่แหวน สุจินโณ ตอนนี้จำวัดอยู่ที่ วัดป่าอรัญญวิเวก อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย

    พระอาจารย์ เปลี่ยน ปัญญาปทีโป วัดอรัญญวิเวก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ครับ
     
  17. kong_sorakrit

    kong_sorakrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,771
    ค่าพลัง:
    +3,426
    จะดูความเป็นอาจารย์ ให้ดูที่ลูกศิษย์

    อาจารย์ที่ดี ย่อมสามารถสอนศิษย์ให้ดีได้

    หากศิษย์ใกล้ชิด ยังมีหัวใจที่เต็มไปด้วยกิเลส

    แล้วศิษย์ปลายแถวอย่างเราจะยังไง
     
  18. pichak

    pichak Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +69
    -สำหรับผม เข้าไปกราบขอเมตตาจากท่าน แล้วท่านแก้สภาวะธรรมเราได้ เช่น เราถาม 1 ประโยค ท่านสาทยายจนหมดแก้ไขข้อข้องขัดเราหมดเลย โล่ง สบาย เย็น แสดงว่าท่าน มิใช่พระธรรมดา นี่เจอมาแล้ว
    -สิ่งหนึ่งที่ระวังคืออย่าทดสอบครูบาอาจารย์ เข้าข่ายปรามาท ล่วงเกิน มีแต่ครูบาอาจารย์จะตรวจสอบเรา ศิษย์ไม่มีสิทธิตรวจสอบครูบาอาจารย์ เดี๋ยวไปเสียเวลา ครูบาอาจารย์อย่างน้อยต้องรู้วาระจิตเรา ระวังด้วยครับ
    -การใช้ความสังเหตุลูกศิษย์ใกล้ชิดว่าดีหรือเปล่าก็พอได้ แต่จะให้ของจริงเข้าไปกราบเลย ขอเมตตาจากท่าน แล้วกลับมาพิจารณาดู
    -ฟังธรรมแล้วต้องโปร่ง โล่ง เย็น สบาย เพราะท่านเมตตาแก้สภาวะธรรมเราแล้ว มิใช่ต้อง ต้อง หนักตึบ กลับมาอีก
     
  19. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    อย่างนั้นเรามาดูวิธีตรวจสอบพระพุทธเจ้ากันด้วยนะ

    เคยคิดไหมว่าทำไมเราถึงเชื่อเรื่องพระพุทธเจ้า เชื่อในคำสอน ว่าจริง

    บางคนตรวจสอบตน เห็นทุกข์ในตน พยายามแก้ทุกข์ในตน เมื่อเจอคำสอน ก็เกิดความแจ้งใจแต่ยังไม่ปักษ์ใจเชื่อ ก็ปฏิบัติก่อนพิสูจน์ก่อน และเห็นว่าคำสอนนั้นจริง คือทำที่สุดแห่งทุกข์ด้วยตน ไต่ระดับไปตามทุกข์ขั้นหยาบขั้นกลางขั้นละเอียด
    เมื่อเห็นครูบาอาจารย์เดินตามรอยพระพุทธเจ้าอย่างไร ก็พยายามเดินตามรอยครู


    บางท่านทุกข์ แต่ก็หวังจะหาที่พึ่งให้เขาแก้ทุกข์ให้ พอใครๆ พร่ำพูดถึงพระพุทธเจ้าๆ ก็เกิดความนับถือเป็นบุคคล ใครมาแตะไม่ได้ คำสอนของท่านดีแล้วถูกแล้ว ทั้งที่ไม่ได้พิสูจน์ ไม่ช่วยตัวเอง
    คนประเภทนี้ ถ้าเจอครูบาอารย์ของจริง ก็โชคดี เจอของปลอมที่อ้างพระพุทธเจ้าๆ
    บ้างก็เอาคำสอนไว้อีกที่ แต่หวังพึ่งเขาโดยทำบุญ หรือให้เขาพาไปนิพพาน
    บ้างก็ยึดเอาคำสอน เพราะเชื่อเขาว่าเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า ขาดการไตร่ตรอง เพราะขาดการปฏิบัติ มีแต่วิปัสนึกไปตามจินตนาการ

    พระพุทธเจ้าเป็นบรมครูผู้ชี้ทาง
    ผู้เดินตามทางที่สุดแห่งทุกข์ก็บอกทางต่อ เป็นผู้ชี้ทาง
    ผู้ไม่ช่วยตัวเอง หวังจะให้ผู้มีบารมีคนไหนมาช่วย ก็ได้แต่ถูกหลอกใช้
     
  20. pichak

    pichak Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +69
    <TABLE id=post4440359 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>[​IMG] เมื่อวานนี้, 03:43 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#141 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ผู้ที่_<!-- google_ad_section_end --> [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4440359", true); </SCRIPT>

    ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต



    [​IMG]



    วันที่สมัคร: Sep 2008​

    สถานที่: ณ ที่แห่งนั้น

    ข้อความ: 110
    พลังการให้คะแนน: 43 [​IMG]











    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_4440359 class=alt1><!-- google_ad_section_start --><SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "ca-pub-2576485761337625";/* 336x280 */google_ad_slot = "0551074580";google_ad_width = 336;google_ad_height = 280;//--> </SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><INS style="POSITION: relative; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 336px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 280px; VISIBILITY: visible; BORDER-LEFT-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px"><INS style="POSITION: relative; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 336px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 280px; VISIBILITY: visible; BORDER-LEFT-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px" id=google_ads_frame1_anchor></INS></INS>

    คนฉลาดย่อมทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย



    รู้มากหาใช่หลุดพ้นเร็วเพราะต้องใคร่ครวญหลายสิ่ง



    สรุปว่าที่ไม่ต้องทำอะไรน่ะ จริงๆก็คือ "ทำใจ" นั่นเอง


    คำว่า ขัดเกลานั้นใช้ได้เสมอ








    </TD></TR></TBODY></TABLE>​





    -เข้าใจไหมครับ อารมณ์ความคิดเก่าๆ เอาวาง วาง วาง ว่าง ว่าง บ้างก็ได้ครับ คนอื่นเขาเห็นงง นะเนี่ย ผู้เดินทางธรรม พหูสูตรมีมากมาย มิต้องชี้นะว่านั่นไม่ดี นี่ไม่ดี

    -ทาน ศีล ภาวนา ทำให้มั่นคง ทานยังลังเลสงสัย ว่าอะไรกันทำกันหมดตัว ทำกันอยู่ได้ แสดงว่าทานยังไม่มั่นคง ศีล พูดจากเหน็บแนม กระทบ ปรามาส ศิลข้อห้ามพูดโกหก เพ้อเจ้อ ส่อเสียด ภาวนาก็เลยไม่ทะลุทะลวง นิพพานก็แป๊คด้วย ถ้าปรามาส องค์คุณเบื้องสูง

    -ครูบาอาจารย์ก็สังเกตุ วัดไหนใหญ่ ๆ แสดงว่าไม่ธรรมดา เข้าไปได้เลย แสดงว่าท่านสั่งสมบารมีมาทางนี้ แต่ครูบาอาจารย์ที่ดังๆ ก็เข้าไปได้ บารมีท่านก็มีให้เห็น หรือจะสำนักในป่าที่ไม่มีคนไปก็มี หลายแห่ง

    -มัวแต่สังเกตุ เดี๋ยวก็ไปไม่ทันเขาพอดี เข้าไปกราบ แล้วขอเมตตานะคับ ขอเมตตาเจ้าค่ะ อย่าไปเพื่อพิสูจน์ เดี๋ยวไม่ได้อะไร มีแต่ครูบาอาจารย์จะเช็คเราว่า พอจะรับมือกับจริตเราไหวไหม ถ้าไม่ไหว ก็ทำไม่สนใจ ให้เหนื่อยไปหาเองที่อื่น

    -แค่คำว่าพิสูจน์ ตรวจสอบ ก็ผิดแล้ว ไม่น่าจะออกมาจากผู้เดินทางธรรมเลย เป็นคำพูดที่ปรามาส ล่วงเกิน (องค์คุณ องค์ธรรม เบื้องสูง อย่าปรามาส ลบหลู่ เดี๋ยวเดินทางธรรมจะไม่ทะลุทะลวง จะแป๊ค บังนิพพานด้วยครับ บารมีมาก บารมีน้อยไม่เกี่ยวบังหมด)

    -มีข้อคิดว่า ให้อธิฐานน้อมบารมีทั้งหมดที่เคยสร้างมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันของตัวเอง ว่า "เข้าพเจ้าขอตรงต่อนิพพาน เข้าสู่เนื้อหาการโปรดสรรพสัตว์ ในกาลบัดนี้ด้วยเทอญ" ต่อหน้าพระประธานที่วัด ถ้าบุญสัมพันธุ์สร้างมาดี เหตุและปัจจะแห่งนิพพาน จะเข้ามาเชื่อมร้อยเอง

    -ครูบาอาจารย์ที่ไหนมีการโปรดสามภพ สามโลก แสดงว่ามีเมตตาสุดๆ แล้ว ปกติ จะโปรดแค่ มนุษย์ และเทวดาขึ้นไป ส่วนข้างล่างไม่มี จะมีแต่องค์พุทธะ ที่เมตตา มหาเมตตา ที่จะกระทำ(ข้อนี้อย่างพึ่งค้าน ขอให้ไปกราบขอเมตตาจากครูบาอาจารย์ก่อนค่อยตอบนะครับ) ตัวผมเองก็ไป กราบครูบาอาจารย์ 2 วัด แล้วก็ขอเมตตา ทั้งสองวัดนี้ มีการโปรด 3 ภพ 3 โลก เหมือนกัน กาลบัดนี้ พระปัจเจ พระอรหันต์ พระโพธิสัตว์ ต่างก็ลงมาช่วยกันมากมายแล้ว ขอผู้เดินทางธรรมมีโอกาสได้พบพาล ได้กราบสักการะ ด้วยเทอญ




    <SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("ads_core.google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...