ใครในที่นี้เป็น "มนุษย์สามภพ" บ้างครับ?

ช่วงที่ตกสภาพเหมือนผีชั้นต่ำนี่แย่สุดๆ เลย
ก็พอๆ กับผีขนุนละมั้ง เขาคงเป็นเหมือนเรา
เลยต้องไปหากินกลางคืนแบบนั้น


ภายนอกเราก็ต้องเก็กไว้ใช่ไหม แต่ภายในเรา
มันย่ำแย่ เหมือนผีนรก เหมือนซากศพเดินได้
เอาร่างไปตามวิบากไปวันๆ แทบเอาตัวเองไม่
รอดเลย


ช่วงนั้นนะ มีผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นคริสเตียนที่เคร่งมาก
เขามาช่วยผมด้วยละ เหมือนพระแม่มาเรียเลย เขาก็
สอนให้ผมรู้จักสิ่งหนึ่ง คือ "กตัญญูที่ไม่ผูกมัด" เพราะ
ผมตกอยู่ในบ่วงแห่งความกตัญญู ผูกมัดไว้ เขาบอกผม
ว่า "ที่เขาช่วย ไม่ได้ต้องการสิ่งตอบแทน แต่ต้องการให้
ผมเข้มแข็ง แล้วช่วยคนที่อ่อนแอต่อไป"


โรแมนติกไหม เหมือนหนังเกาหลีเลยอ่ะ...

 

เมตตาที่ไร้เมตตา


ต่อมา เมื่อผมยืนหยัดด้วยตัวเองได้ ผมเริ่มเข้มแข็งขึ้น
แต่ทีมงานผมไม่มีใครเข้มแข็งเลย แต่ละคนทำอะไรไม่เป็น
ผมเลยทำให้ทุกอย่างคนเดียว ช่วงนั้น ผมได้พบผู้หญิงคนหนึ่ง
ครั้งแรกที่เห็น ในหัวมีคำหนึ่งผุดออกมา "นางสีดา" แปลกดี?
คนอื่นๆ ก็หน้าตาดีๆ กันทั้งนั้นแหละ แต่ทำไม เอ? คนนี้แตกต่าง
จากคนอื่นนะ? และผู้หญิงคนนี้เอง ที่สอนให้ผมรู้จักเมตตาที่ไม่เมตตา
เขาบอกผมว่า "เราช่วยเขามากเกินไป จนเขาทำอะไรไม่เป็น
พึ่งตัวเองไม่ได้" และเมื่อถึงจุดนั้น เราจึงละเอียดลึกขึ้นกับการ
ช่วยเหลือคนอื่น เข้าใจว่าการช่วยคนอื่นมากไป กลายเป็นเสียได้

 

เนกขัมมะที่ไม่ใช่ความโดดเดี่ยว


ต่อมา ผมก็ออกจากงาน และได้ไปปฏิบัติธรรมในที่แห่งหนึ่ง
ได้พบผู้หญิงคนหนึ่ง ตอนนั้น ผมต้องการก้าวหน้าทางธรรม
จำต้องบำเพ็ญหนักทางเนกขัมมบารมี มีคนมาบอกผมว่าคน
นี้หน้าตาคล้ายพระกวนอิม (ชี้ให้ดูองค์ที่ตั้งอยู่ด้วย) ซึ่งก็ใช่
เหมือนอยู่ เวลาคุยกันแล้วก็รู้สึกดี ประสานจิตใจกันได้ดีกว่า
คนอื่นๆ แล้วเขาก็บอกถึงการใช้กามเพื่อการเรียนรู้ (สั้นๆ นะ)
เราไม่ได้คุยเรื่องกามกับผู้หญิงหรอก แต่มันเกี่ยวข้องกับคนที่
ฝึกหยินหยาง และเขาก็ช่วยผมในการฝึกด้วย


เมื่อผมก้าวหน้ามากขึ้นถึงจุดหนึ่ง ไม่คิดมีคู่อีกแล้ว ก็เกิดความ
คิดขึ้นมา ไม่ใช่อยากมีคู่นะ แต่สงสัยว่าทำไมคนต้องมีคู่ ในที่สุด
ก็ได้เข้าใจ ว่าการบำเพ็ญเนกขัมมบารมี ไม่จำเป็นต้องรักษาพรหมจรรย์
เป็นอย่างไร และการประสานหยินหยางที่ไม่ต้องมีกามเป็นอย่างไร
(มีการฝึกลมปราณบางชนิดที่ต้องใช้กามระหว่างหญิงชายจึงฝึกได้
แบบเอี้ยก้วยกับเซียวเล้งนึ้ง แต่ในใจผมตอนที่เห็นผู้หญิงคนนี้ รู้สึกถึง
คนที่ชื่อ "ก้วยเซียง" มากกว่า) แต่ในที่สุด เราก็ค้นพบวิธีที่ไม่ต้องมีกาม
ในที่สุด จึงเข้าใจการมีกามแบบเทวดา ที่ไม่ผ่านสังขาร ซึ่งเป็นกามละเอียด
ทำให้ทราบว่าผู้ที่ไม่มีกามทางกาย ไม่มีคู่เลย ยังมีกามแบบเทวดาได้
(ไม่เว้นแม้แต่พระนะครับ) อาจารย์ผมคนหนึ่ง แกเห็นนางฟ้ามาลงแขกแก
แกก็เฉยๆ ปล่อยไปตามกรรม ไม่ว่าอะไร ไม่ดีใจ ไม่เสียใจ ไม่หนีอะไร


เรื่องกามนี้ลึกซึ้งมากทีเดียว แต่ทำให้เราดูพระที่เหมือนไม่มีกามออกได้
ว่าเขาถึงที่สุดแห่งธรรมหรือยัง ซึ่งถ้าไม่ผ่านตรงนี้ ก็จะดูไม่ออกเลย

 

ว่าแต่จะหามนุษย์สามภพที่ว่านี่ไปทำไมหรอคับ
แล้วจะมีวิธีการใช้จิต(คนอื่น)พิสูจน์ จิตของเราได้รึป่าวคับว่าเราใช่รึป่าว

 

ของในโลกต้องไม่มีเพียงหนึ่งเดียว
อย่างน้อยต้องมีสิ่งที่ตรงข้ามกันอยู่


ดาวเกตุ - ดาวมฤตยู
ก็เหมือนเหรียญสองด้าน

 

<TABLE style="BORDER-LEFT-WIDTH: 0px; BORDER-RIGHT-WIDTH: 0px" height=1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=968 align=center border=0><TBODY><TR><TD width=43 height=13></TD><TD width=925 height=13>

​

</TD></TR><TR><TD width=968 background=../images/background.jpg colSpan=2 height=13>

</TD></TR><TR><TD width=968 colSpan=2 height=13>ดาวเกตุ(เทพเจ้าแห่งจิตวิญญาณ)</TD></TR><TR><TD width=43 height=13></TD><TD width=925 height=13>
บุคลิกภาพ : ชอบทำตัวแปลกๆ ลึกลับชอบกล ชอบอวดอ้างฤทธิ์เดช (มักสนใจศาสตร์เร้นลับ) มักศรีษะเถิก หรือล้าน หน้ามนคางแหลม ใบหน้าชอบกล (ใบหน้าของคนธาตุไฟ)
ตัวแทน : แพทย์ หมอโบราณ นักโหราศาสตร์ คนเข้าทรง นักจิตศาสตร์ นักวิปัสสนา นักดาราศาสตร์
สถานที่ : เป็นทุ่งใหญ่ในหน้าแล้ง มีบ้านโดดเด่น ห้องบนหลังคา หอคอย หอระฆัง ว่าวจุฬา สถานีรถไฟ โรงพยาบาล บ้านนักไสยศาสตร์ โรงพยาบาลโรคจิต หอวิปัสสนา
ธาตุ : ไฟ แสดงถึงความคิดฉับพลัน มักมีญาณสังหรณ์แม่นยำ เลื่อมใสศรัทธาในสิ่งเร้นลับ
มิตร : เป็นคู่มิตรกับตัวเอง คือ เกตุ กับ พลูโต
ศัตรู : เป็นศัตรูกับตนเองเช่นกัน
กำลังดาว : ไม่มีกำลังดาว (บ้างก็ว่าเป็น ๙ มาจากพญานาค ๙ ตัว)
สี : สีแสด
อัญมณี : เงิน ทองคำ โกเมน อัญมณีสีขาวหรือทอง
สัตว์ : แกะ แพะ เลียงผา
วัย : อยู่ระหว่างระยะอายุ ๙๐-๑๐๐ ปี
อวัยวะ : ศรีษะ กับ แขน
วัตถุรูปร่าง : สามเหลี่ยม
ทิศ : อุดร(ทิศเหนือ)

​

</TD></TR><TR><TD width=43 height=13></TD><TD width=925 height=13></TD></TR><TR><TD width=968 background=../images/background.jpg colSpan=2 height=13>

</TD></TR><TR><TD width=968 colSpan=2 height=13>
ดาวมฤตยู (เทพเจ้าแห่งความตาย)
</TD></TR><TR><TD width=43 height=13></TD><TD width=925 height=13>
บุคลิกภาพ : รูปร่างประหลาด อาจสูงโย่ง หรืออ้วนกลมลงพุง ลำตัวเท่ากัน
อุปนิสัย : รักอิสระ ชอบสันโดษ ไม่ชอบอยู่ใต้บังคับบัญชาของใคร มีสติปัญญาว่องไว ชอบเข้าสังคม ใจคอกว้างขวาง อิสระรักการท่องเที่ยวเดินทาง เป็นนักค้นคว้าชอบพิสูจน์ ชอบทดลอง ไม่ชอบความจำเจ อาจฆ่าตัวตายเนื่องจากการเบื่อหน่ายหรือความวิปลาสของตัวเอง
ตัวแทน : นักวิทยาศาสตร์ นักท่องเที่ยว มนุษย์อวกาศ นักสำรวจ โจร นักบุกเบิก ผู้เดินทางมาจากถิ่นไกล
สถานที่ : ต่างประเทศ ต่างแดน ต่างจังหวัด บนรถ บนเรือ หรือ เครื่องบิน การเคลื่อนไหว ยานพาหนะ กระทรวงการต่างประเทศ โรงแรม ภัตตาคาร ห้างสรรพสินค้า สถาบันค้นคว้าวิทยาศาสตร์ การวิจัยปรมาณู
ธาตุ : อากาศธาตุ หรือธาตุลม
มิตร : เป็นคู่มิตรกับเลข ๖ ดาวศุกร์
ศัตรู : เป็นศัตรูกับเลข ๑ ดาวอาทิตย์
กำลังดาว : ไม่มีกำลังดาว (มีกำลังเป็น ๐ ศูนย์)
สี : ไม่มีสีสัน (บ้างว่าเป็นสีแห่งความตาย มีสีม่วง สีดำ)
สัตว์ : นกอินทรีย์ เหยี่ยว นกนางแอ่น
วัย : อยู่ระหว่างระยะอายุ ๗๐-๘๐ ปี
อวัยวะ : อวัยวะที่เกินหรืองอกออกมา เช่นนิ้ว หรือติ่งหู
โรคภัย : โรคลึกลับที่หาสาเหตุไม่ได้ โรคริดสีดวงทวาร ไซนัส ปอด หลอดลม
วัตถุรูปร่าง : เหมือนกลีบดอกไม้กลม
ทิศ : ไม่มีทิศ (บางตำราว่าเป็นทิศอุดร หรือทิศเหนือ)

</TD></TR></TBODY></TABLE>

จาก http://www.mahamodo.com/tamnai/starpull.asp

 

เรื่องของพระฉันนะ


ฉันนะถูกลงพรหมทัณฑ์ทำให้ต้องอยู่โดดเดี่ยว
แต่แม้ไม่มีใครไปช่วยให้ธรรม ฉันนะกลับบรรลุ
อรหันต์ได้ ทว่า เขาบรรลุอะไร? ถึงได้ด้วยตน
เอง ไม่ต้องมีคนช่วย


สามภพนี้จะมีภัย ถ้ามีพระปัจเจกพุทธเจ้าผิดยุค
ฉันนะยังไม่นิพพาน เพราะผลกรรมจากพรหมทัณฑ์
เขาต้องมาเกิดเป็นหญิงหลายชาติ ในชาตินี้ พุทธ
หักกลาง อรหันต์ขาดสาย เกิดช่องว่างสุญกาศ
หากเขาพ้นจากกรรมที่ต้องเป็นหญิง ย่อมสามารถ
ตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าได้ เมื่อนั้น กาลย่อม
แปรปรวน ภัยพิบัติจะมาทันที...

 

งงอะจ้าา....

 

เอาเถอะคับๆ เราเข้าใจไม่หมดอ่ะ ว่าท่านต้องการสิ่งใด ขอให้ท่านตามหาเจอละกันนะคับ

 

เกตุู สัญญลักษณ์คือเลข ๙ ซึ่งต่อไปนี้เราจะใช้เลข ๙ ให้หมายถึง เกตุ
[ เทพเจ้าแห่งความปั่นป่วนวุ่นวาย ]


เกตุ (๙) ให้สังกัดฝ่ายดาวบาปเคราะห์
เกตุ (๙) คือ ทางสายกลาง ธรรมะ วิญญาณ ศาสนา สมาธิ ปรัชญา ปัญญา
เกตุ (๙) เป็นได้ทั้งบวกและลบ หมายถึง เกต(๙)ุสามารถเสริมดีหรือเสริมร้ายได้อย่างมากมาย
เกตุ (๙) หมายถึงคนทรง พระสงฆ์ ผีสาง พลังลึกลับ ไม่มีตัวตน ธาตุอากาศ ทิศศูนย์กลาง สีใส เลข 9
เกตุ (๙) อีกทางหนึ่งคือ ของเก่า ของโบราณ พระเครื่อง นักเล่นของเก่า การปลุกเสกเครื่องรางของขลัง
หรือทำของขึ้น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือของโบราณวัตถุจะเข้ามาอยู่กับเจ้าชะตาได้ง่าย
เกตุ (๙) หมายถึง ผู้เฒ่ารุ่นลายคลาม การสักยันต์ของขลังตามร่างกาย นักปลุกเสกต่างๆ เกตุถึง ลั มักเป็นที่
พอใจหรือได้รับความเมตตาจาก ผู้เฒ่า ผู้สูงอายุ นักบวช พระสงฆ์องค์เจ้า
เกตุ (๙) หมายถึงอายุยืน ถ้าเกตุ(๙)ถึง ลั โบราณว่าจะไม่ตายโหง แต่ถ้าเกตุ(๙)ตกอยู่เรือนอริและวินาศ มักมี
ปัญหาเรื่องสุขภาพ อยู่มรณะ มักล่อแหลมต่ออุบัติเหตุ ให้สังเกตุ ถ้าเกตุ(๙)อยู่อริและเป็นเรือนกาลกิณี
ให้ระวังอุบัติเหตุที่ทำให้ผู้อื่นถึงกับเสียชีวิตได้
เกตุ (๙) เป็นสัญญลักษณ์ของความเกิน หรือความเกินพอดี เกินปกติ ความแปลกๆ รวมถึงบรรยากาศแตกต่าง
เกตุ (๙) เป็นดาวแห่งความคิดริเริ่มแปลกๆ การดัดแปลงที่ทันสมัย ชอบเด่น-แปลกแหวกแนว แต่ก็เป็นดาวแห่ง
การละทิ้งการกระทำกลางคัน(เหตุนี้เองจึงควรเตรียมบุคคลมาสานต่อความคิดหรือการกระทำต่างๆ)
เกตุ (๙) แผ่อิทธิพลถึง ลั มักทำชอบทำตัวเด่นกว่ากลุ่มผู้คน ถ้าใครทำอะไรไม่ได้แล้วเจ้าชะตาจะต้องอาสาทำ
ให้ได้ และมักจะทำได้เสียด้วยหรือต้องให้ได้ในสิ่งนั้นๆ เหตุนี้เองเลยทำให้รู้สึกเด่นกว่าคนอื่นๆ
เกตุ (๙) ทำให้ชอบของแปลกใหม่ที่ไม่เป็นธรรมชาติ หรือชอบวิตถาร พวกกระเทยหรือรักร่วมเพศก็
ตกอยู่ในอำนาจอิทธิพลของ เกตุ เหมือนกัน

 

ดาวมฤตยู สัญญลักษณ์คือเลข ๐ ซึ่งต่อไปนี้เราจะใช้เลข ๐ ให้หมายถึง ดาวมฤตยู


มฤตยู (๐) ดาวบาปเคราะห์
มฤตยู (๐) คือ ความแปลกประหลาด มหัศจรรย์ น่าตื่นเต้น ตกใจ สิ่งใหม่ๆ ทันสมัย แปลกแหวกแนว กระทันหัน
มฤตยู (๐) เป็นสัญญลักษณ์ ของความไม่ครบถ้วน ขาด หมด ความหงุดหงิด โกรษง่าย ภัยอาเภท ลี้ลับซับซ่อน
มฤตยู (๐) หมายถึงนักวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรมสิ่งใหม่ๆ ปฎิวัติ การเปลี่ยนแปลงอย่างเฉียบพลันจาก
หน้ามือเป็นหลังมือ ธาตุสุญกาศ เลข 0
มฤตยู (๐) แผ่อิทธิพลถึง ลั มักอาภัพ ต้องเหนื่อยยากตรากตรำลำบาก มักมีชีวิตที่ต้องช่วงใช้ผู้อื่น ชีวิตส่วนตัว
มักลุ่มๆดอนๆ บางครั้งรุ่งโรจน์บางครั้งตกต่ำไม่คงทน ปฎิภาณไหวพริบจะแก่กว่าอายุจริง ชอบครบ
คนที่อายุมากกว่าตน มีญานวิเศษมีลางสังหรณ์และพลังจิตสูง


จาก ความหมายของดาว - ดาวมฤตยู (๐)

 

ผมขอเพียงให้ภพนี้จบสวย

 

อุณณหภูมิโดยเฉลี่ยของน้ำทะเลสูงถึง 45 องศาเซียลเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นวันสิ้นโลก ปัจจุบันไม่เคยมีการวัดระดับความของพื้นผิวทะเล แต่เมื่อปีที่แล้ว ที่อินเดียคนตายไป 16 คนเพราะทนความร้อนไม่ไหวครับ อุณหภูมิตอนนั้นอยู่ที่ 42 องศาเซลเซียลครับผม

 

ท่านจะหา"มนุษย์สามภพ" ไปเพื่ออันใด?

แล้วถ้าพบแล้วท่านจะทำเช่นไร?

หากวัตถุประสงค์ของท่านดี ท่านที่เป็นมนุษย์สามภพ จักต้องปรากฏกายให้ท่านได้ทราบ

ท่านโพลส แบบนี้แสดงว่าท่านทราบดีว่า มนุษย์สามภพ มีคุณสมบัติเช่นไรในกายของมนุษย์?

รบกวนท่านผู้รู้ ช่วยแจ้งคุณสมบัติของผู้ที่เป็น มนษย์สามภพให้ที เพราะแต่ละท่านจะได้

สำรวจว่าในกายของตนในอยู่ในข่ายของมนุษย์สามภพ หรือไม่?

"สิ่งที่รู้ควรจักต้องรู้ให้จริง มิใช่เพียงเพื่อความเมามันส์ หรือสนุกสนาน มิเช่นนั้นสังคมจักสับสน"

 

ฉันก็คิดว่างี้แหล่ะ มันควรจะเป็นอย่างนั้น

 

ปัจจัยสี่คือความต้องการพื้นฐานของคนเพื่อให้ดำรงชีพอยู่ได้

เงินเป็นแค่ตัวกลางที่ให้เราใช้จ่ายเพื่อแลกกับปัจจัยสี่ สมัยนี้จะเอาอาหารไปแลกกับเสื้อผ้าก็คงไม่ได้

เงินก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ได้ปัจจัยพื้นฐานเหล่านั้น จะให้ได้เงินก็ต้องทำงานสิครับ

แต่คนส่วนใหญ่ยิ่งอยู่ในโลกทุนนิยม มักต้องการเงินเกินกว่าความต้องการปัจจัยพื้นฐานเพื่อสนองกิเลส เลยต้องดิ้นรนทำงานกันให้มีเงินมากๆ

กระทู้สามภพ กลายเป็นเรื่องเงินไปแล้ว.. ว่าแต่เจ้าของกระทู้เอาเรื่องนั้นมาจากไหน จิตแยกได้ขนาดนั้นเชียว