คำทำนายแผ่นดินไหวที่เชียงใหม่

ความเชื่อเรื่องแผ่นดินไหวของคนเมืองในล้านนานั้น ปรากฏหลักฐานที่บันทึกไว้ในเอกสารโบราณของวัดศาลาหม้อ อ.เกาะคา จ.ลำปาง ซึ่งสถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ยืมมาถ่ายเก็บไว้ในคลังไมโครฟิล์ม เนื้อหาสาระกล่าวไว้ 2 ลักษณะคือ วันกับเดือนที่เกิดแผ่นดินไหว ดังนี้

สิทธิการ จักกล่าววันแผ่นดินไหว คันไหววัน 1 ฝนบ่ดี ต้นตาลตาย บ่ดี กั้นอึบนักแล (แผ่นดินไหววันอาทิตย์ ฝนฟ้าไม่ดี ต้นมะพร้าว ต้นตาลแห้งตาย จะเกิดความอดอยากมากนัก)

วัน 2 แผ่นดินไหว โอชารสดี ข้าวกล้าลูกไม้ดี คนออกลูกมีประหยาดีแล (แผ่นดินไหววันจันทร์ ผลหมากรากไม้ ข้าวกล้าอุดมสมบูรณ์ดี เด็กที่เกิดปีนี้เป็นผู้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด)

แผ่นดินไหววัน 3 คนมักลักครุบชิงกันมากนัก ลูกผู้ใหญ่มักตายนักแล (แผ่นดินไหววันอังคาร ผู้คนมักแย่งชิงขโมยข้าวของกันและกันเป็นอันมาก ลูกของเจ้าใหญ่นายโตมักเสียชีวิต)

แผ่นดินไหววัน 4 พระเจ้าปัจเจกพุทธ จักกวัติราชมาเอาปฏิสนธิแล เพื่อนจักเอากันมาส่วยแล นัย 1 ผู้ประหยาจักมารอดเมืองเราชะแล (แผ่นดินไหววันพุทธ พระปัจเจกพุทธเจ้า พระยาจักรพรรดิราชจะมาเกิด จะมีผู้คนเอาส่วยมาให้ อีกนัย 1 ว่าผู้มีปัญญาจะมาถึงบ้านเมืองของเรา)

แผ่นดินไหววัน 5 บ้านเมืองที่ไกลจักเอาของมาฝากมาถวายมากนักแล (แผ่นดินไหววันพฤหัสบดี หัวเมืองที่อยู่แดนไกลจะเอาของมาฝากให้)

แผ่นดินไหววัน 6 ลูกแลแม่พี่น้องทุบตีกันมากนักแล (แผ่นดินไหววันศุกร์ พ่อแม่พี่น้องจะทุบตีกันเป็นอันมาก)

แผ่นดินไหววัน 7 พราหมณ์ เศรษฐี คนเป็นดีมีข้าวของมักตายฉิบหายมากนักแล (แผ่นดินไหววันเสาร์ พราหมณ์ เศรษฐี ผู้ดีมีเงินทองข้าวของมักฉิบหายล้มตายมากนัก)

เดือนที่แผ่นดินไหว
แผ่นดินไหวเดือน 6 นั้น ศัตรูฉิบหายแล (แผ่นดินไหวเดือนมีนาคม ศัตรูพินาศฉิบหาย)
แผ่นดินไหวเดือน 7 ลูกไม้ข้าวกล้าบ่ดีแล (แผ่นดินไหวเดือนเมษายน ผลหมากรากไม้ข้าวกล้าไม่อุดมสมบูรณ์)
แผ่นดินไหวเดือน 8 คนจักตายมากนักแล (แผ่นดินไหวเดือนพฤษภาคม ผู้คนจะล้มตายกันมาก)

แผ่นดินไหวเดือน 9 คนมาเอาปฏิสนธิหลายเสีย บ่ดี เจ้าเมืองจักฉิบหายตายแล (แผ่นดินไหวเดือนมิถุนายน ประชากรจะเกิดมีจำนวนมาก แต่ไม่ดี เจ้าเมืองจะฉิบหายตายไป)

แผ่นดินไหวเดือน 10 คนจักทุกข์ยากมากนัก จักกระทำร้ายแก่กันมากนักแล (แผ่นดินไหวเดือนกรกฎาคม ผู้คนจะทุกข์ยากลำบากมากนัก และจะทำร้ายฆ่าฟันกันเป็นอันมาก)

แผ่นดินไหวเดือน 11 จักเป็นเสิกใหญ่แล (แผ่นดินไหวเดือนสิงหาคม จะเกิดศึกใหญ่)
แผ่นดินไหวเดือน 12 จักแพ้แม่หญิงมากนัก บ่ดีแล้ว (แผ่นดินไหวเดือนกันยายน ผู้หญิงจะพบกับความเดือดร้อนมากนัก ไม่ดีแล)
เดือนเจียงแผ่นดินไหว อำมาตย์ตาย บ่ดีแล (แผ่นดินไหวเดือนตุลาคม อำมาตย์จะตายไม่ดีแล)
เดือนยี่ แผ่นดินไหว อำมาตย์ใหญ่จักตายมากนักแล (แผ่นดินไหวเดือนพฤศจิกายน อำมาตย์ผู้ใหญ่จะตายเป็นอันมาก)

เดือน 3 แผ่นดินไหว เมืองน้อย ท้าวพระยา จะกาย นายบ้านมักตายมากนักแล (แผ่นดินไหวเดือนธันวาคม หัวเมืองน้อยที่ห่างไกล ท้าวพระยา จะกาย (จักกาย,เช็คตาย) ผู้ใหญ่บ้านมักตายเป็นอันมาก)

เดือน 4 แผ่นดินไหว พระเจ้า เจดีย์โล้แล (แผ่นดินไหวเดือนมกราคม พระพุทธรูป เจดีย์จะแตกพังลง)

เดือน 5 แผ่นดินไหว ท้าวพระยาแลคนมักฟื้นต่อเจ้าตนแล (แผ่นดินไหวเดือนกุมภาพันธ์ ท้าวพระยาและบุคคลมักก่อกบฏกับเจ้านายของตน)

ดูวันและเดือนที่แผ่นดินไหว

แผ่นดินไหวที่เชียงใหม่ในคืนวันอังคารที่ 12 ธันวาคม 2549 เวลาเลยเที่ยงคืนไปแล้วนั้น ยังไม่นับเป็นวันพุธแบบสุริยคติ ดังนั้นคำทายจึงอาศัยการพยากรณ์ทางจันทรคติ ส่วนเดือนตรงกับเดือน 3 เหนือ ตรงกับเดือนอ้าย ใต้คือเดือน 1 หรือธันวาคม คำทำนายจึงเป็นดังนี้

แผ่นดินไหววันอังคาร ผู้คนมักแย่งชิงขโมยข้าวของกันและกันเป็นอันมาก ลูกของเจ้าใหญ่นายโตมักเสียชีวิต

แผ่นดินไหวเดือน 3 เหนือ ตรงกับเดือนอ้าย ใต้คือธันวาคม หัวเมืองน้อยที่ห่างไกล ท้าวพระยา จะกาย (จักกาย,เช็คตาย) ผู้ใหญ่บ้านมักตายเป็นอันมาก

นอกจากนี้แล้ว ในตำราแผ่นดินไหว ฉบับวัดแม่คือ จ.เชียงใหม่ ซึ่งแปลโดยบำรุง บารมี ยังกล่าวถึงวันและเดือนที่แผ่นดินไหว ดังนี้
แผ่นดินไหววันอังคาร ปีนั้นจักมีโจรผู้ร้ายชุกชุม ท้าวพระยาเสนาบดีจักตายกันมากนัก ตายกันเป็นหมู่เป็นชุมแล

แผ่นดินไหวเดือน 3 (เดือนอ้ายใต้) คือธันวาคม ชาวชนบทน้อยใหญ่ และท้าวขุนมูลนายจักระส่ำระสายทะเลาะวิวาทซึ่งกันและกันแล

ส่วนตำราแผ่นดินไหวฉบับไทใหญ่ในพม่าพยากรณ์ไว้ว่า
แผ่นดินไหววันอังคาร โจรผู้ร้ายจะชุกชุม เจ้าใหญ่นายโตจะตาย แต่พืชผักผลไม้จะออกดอกให้ผลดี
แผ่นดินไหวเดือนก๋ำ คือธันวาคม บ้านใหญ่เมืองหลวงจะเกิดภัยพิบัติทุกหนแห่ง

จากเนื้อหาในคำทำนายแผ่นดินไหวทั้ง 3 ฉบับดังกล่าว จะเห็นได้ว่ามีคำทำนายที่คล้ายคลึงกัน นอกจากนี้แล้วยังทำให้นึกถึงเหตุการณ์สึนามิเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งตรงกับเดือน 3 เหนือ คือธันวาคมเหมือนกัน จนทำให้ผู้คนล้มตายเป็นอันมาก ปีนี้แผ่นดินไหวที่เชียงใหม่ก็เกิดขึ้นในระยะเวลาใกล้เคียงกันอีกแล้ว

อะไรจะเกิดขึ้น? ฟ้าดินเท่านั้นที่รู้

++ ไพฑูรย์ ดอกบัวแก้ว สถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

http://www.siamrath.co.th/Education.asp?ReviewID=160690