"หลินปิง"ก็มีรูปผนังโบสถ์ -สื่อรุมถ่ายอื้อ

"หลินปิง"ก็มีรูปผนังโบสถ์ -สื่อรุมถ่ายอื้อ

เด็กแห่เข้าวัด! เล่นหาโดเรมอน




<TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
มาด้วย - ภาพเขียน "หลินปิง" บน จิตรกรรมฝาผนังวัดแถวธาร อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งจิตรกรขี้เล่นวาดแทรกเข้าไปในภาพเช่นเดียวกับรูป "โดเรมอน" ซึ่งเป็นข่าวดังอยู่ขณะนี้


</TD></TR></TBODY></TABLE>
นักท่องเที่ยวแห่ดู "โดเรมอน" บนฝาผนังโบสถ์เพียบ ส่วนใหญ่สนุกสนานกับการตามหาโดเรมอน เจ้าอาวาสเผยไม่สั่งลบออกเด็ดขาด เพราะตั้งแต่เสนอข่าวไปนับเป็นเรื่องดี เป็นอานิ สงส์ที่ทำให้คนเข้าวัดมากขึ้น ด้าน "ช่างรักเกียรติ"มีนักข่าวแห่ไปทำข่าว-สกู๊ปแน่น ระบุใครอยากสัมภาษณ์ให้ไปที่วัดสำปะซิว ไม่ไปออกรายการที่ห้องส่งเพราะไม่ชอบคนมากๆ วุ่นวาย พร้อมยืนยันไม่ลบภาพที่เขียนไปแล้ว เพราะเจ้าอาวาสไม่ได้สั่ง แถมยังจะให้เขียนรูปท่านเพิ่มเข้าไปด้วย เพราะมีรูปรองเจ้าอาวาสแล้ว และตั้งใจจะทำงานให้เสร็จในปีนี้ เพื่อเดินทางกลับไปอยู่บ้านที่กรุงเทพฯ ขณะที่ททท.สุพรรณฯ เตรียมเปิดเส้นทางทัวร์วัดแล้ว ส่วนที่วัดแถวธาร แปดริ้ว ก็เป็นอีกผลงานของช่างรักเกียรติ ที่ชาวบ้านเพิ่งพบหลังเป็นข่าว เป็นรูปแพนด้าน้อยหลินปิง แอบอยู่ในโพรง ผญบ.เผยช่างรักเกียรติเป็นคนอยู่ง่าย และไม่ค่อยเบิกเงินค่าจ้างไปใช้นอกจากตอนที่ครอบครัวเดือดร้อนเท่านั้น

เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่วัดสำปะซิว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ผู้สื่อข่าวประจำจ.สุพรรณบุรี ราย งานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ามีประชาชนจากทั่วสารทิศ เดินทางเข้ามาที่วัดสำปะซิวจำนวนมาก รวมถึงผู้สื่อข่าวทั้งโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ เดินทางเข้ามาขอถ่ายทำรายการ พร้อมสัมภาษณ์ช่างเขียนอย่างละเอียด เนื่องจากต้องการทราบประวัติของผู้เขียน รวมถึงผลงานเขียนต่างๆ ของจิตรกร ที่เขียนภาพในพระอุโบสถวัดสำปะซิว

พระอนันต์ กุสลาลังกาโร เจ้าอาวาสวัดสำปะซิว เปิดเผยว่า ตั้งแต่มีข่าวเรื่องภาพโดเรมอน ทำให้ประชาชนรวมถึงเด็ก เข้ามาที่วัดตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เช้าจรดเย็นทำให้วัดสำปะซิวดูคึกคัก มีชีวิตชีวาขึ้นทันตาเลยทีเดียว นับว่าเป็นอานิสงส์จากการนำเสนอข่าวที่ให้แง่บวกกับวัด ซึ่งเมื่อประชาชนเดินทางมาก็ได้กราบไหว้พระได้เดินดูปลาที่แพปลานี่ก็เป็นเรื่องที่ดี โดยเฉพาะเด็กที่เข้ามาทุกวัน โดยเฉพาะช่วงหลังเลิกเรียน และมาพยายามหาภาพโดเรมอนกันอย่างสนุก สนาน ซึ่งคาดว่าในช่วงวันหยุดที่จะมาถึงนี้จะมีประชาชนหลั่งไหลเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งทางวัดเตรียมพระสงฆ์และเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เดินทางมาแล้ว ซึ่งวัดสำปะซิว พร้อมที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวและประชาชน

สำหรับวัดสำปะซิวเป็นวัดที่อยู่ในตำนานรอยสมเด็จพระนเรศวรกรีธาทัพ เดิมชื่อวัดสางบัญชี ซึ่งเป็นสถานที่พักทัพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมื่อครั้งสู้รบกับกองทัพพม่า ที่ต.หนองสาหร่าย อ.ดอนเจดีย์ เพื่อสำรวจว่ากองกำลังทหารเหลือเท่าไร จึงเรียกวัดสำปะซิวว่าวัดสางบัญชี และเรียกเพี้ยนกันจนเป็นวัดสำปะซิวในปัจจุบัน ซึ่งยังมีวัดที่อาบน้ำศพ วัดที่ประดับยศ วัดที่ฌาปนกิจ และวัดที่เป็นที่เก็บเถ้ากระดูกเหล่าวีรชนอีก นับว่าเป็นเส้นทางที่ชนรุ่นหลังน่าศึกษา สำหรับภาพที่ช่างเขียนไปแล้วจะไม่ลบออกเนื่อง จากถือว่าเป็นจุดขายของวัด

ด้านนายรักเกียรติ เลิศจิตรสกุล ช่างเขียนภาพ เปิดเผยว่า ตั้งแต่มีการนำเสนอข่าวส่งผลให้มีผู้สื่อข่าวหลายแขนงเดินทางเข้ามาสัมภาษณ์เรื่องราวต่างๆ รวมถึงประวัติส่วนตัวอย่างละเอียด รวมถึงรายการทีวีติดต่อให้ตนไปที่สถานี แต่ตนก็ได้ปฏิเสธไป เนื่องจากลำบากและต้องทำงาน ซึ่งใครต้องการข้อมูลตนจะให้แต่ขอให้เดินทางมาที่วัดสำปะซิวจะสะดวกกว่า และตนต้องเร่งให้งานเสร็จในปี 2554 และจะหยุดเขียนภาพในพระอุโบสถ เพราะอยากกลับไปทำงานที่บ้าน

ส่วนภาพวาดที่วัดแถวธาร อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ยังมีอีกหลายรูปที่เป็นลูกเล่นอย่างรูปหลินปิงที่อยู่ในพุ่มไม้ แต่มีภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนั้นอีกหลายรูป ไม่อยากบอกนักข่าวให้หากันเองดีกว่า ตนชอบอยู่อย่างสงบไม่ชอบคนมาก มันวุ่นวายบอกไม่ถูก อยากทำงานคนเดียวเงียบๆ ได้งานมากกว่า อย่างทุกวันนี้ต้องเดินออกจากพระอุโบสถไปเดินเล่นปลดปล่อยอารมณ์บ้าง ช่วงเช้าตื่นตี 5 ไปบิณฑบาตกับพระ กลับมากินข้าวเสร็จจึงเข้ามาลงเส้นวาดภาพ ส่วนที่เหลือจะวาดกับผ้าแล้วนำมาติดทับไว้แล้วส่วนภาพที่เขียนแล้ว ขอยืนยันว่าจะไม่ลบเด็ดขาด นอกจากเจ้าอาวาสจะสั่ง ซึ่งถึงทุกวัน นี้เจ้าอาวาสยังจะให้ใส่รูปเจ้าอาวาสลงไปด้วย เพราะถ้าสังเกตดีๆในภาพจะมีรูปรองเจ้าอาวาสอยู่ด้วย

น.ส.ขวัญชนก สงค์ทอง ชาวดอนเจดีย์ ซึ่งเดินทางเข้ามาดูภาพโดเรมอน กล่าวว่า ตอนแรกหาไม่พบดูนานกว่าจะพบภาพโดเรมอน ซึ่งช่างที่เขียนนั้นสุดยอดจริงๆ วาดภาพไทยได้สวยงาม แถมแอบซ่อนภาพโดเรมอนไว้ เรียกว่าไม่ดูดีๆ ไม่เห็นเด็ดขาด ตนคิดว่าเป็นเรื่องดีไม่ได้ผิดอะไร ซึ่งชาวบ้านบางคนบอกให้ลบออกตนคิดว่าไม่จำเป็นเลย เพราะเป็นอารมณ์ของศิลปินช่างที่วาด ซึ่งวาดมาหลายปีไม่มีใครรู้ พอข่าวออกชาวบ้านจึงรู้นักท่องเที่ยวก็แห่มาชม นับเป็นเรื่องดีตนไม่เห็นว่าจะเสียหายแต่อย่างใด

ด้านนายวิศรุต อินแหยม ผอ.ททท.สุพรรณ บุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้เตรียมเปิดเส้นทางท่องเที่ยวแห่งใหม่คือ ไหว้พระออมบุญ สำนึกคุณแผ่นดินตำนานตามรอยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกรีธาทัพ ใช้แม่น้ำท่าจีนเป็นป้อมปราการด่านสำคัญ ซึ่งก็คือวัดสำปะซิว วัดปู่บัว วัดโพธิ์เจริญ วัดวรจันทร์ และวัดสนามชัย ซึ่งขณะนี้มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่วัดสำปะซิว เดินทางเที่ยวต่อไปตามวัดต่างๆ นับเป็นเรื่องที่น่าปลื้มใจมาก เพราะนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาล เดินทางเข้าพื้นที่ เพราะเป็นช่วงงานอนุสรณ์ดอนเจดีย์ด้วย เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัวตามโบราณบอก แต่ของเรามากกว่า 2 ตัวได้มากกว่ามากจริงๆ เรียกว่าคุ้มสุดคุ้มเลย

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวประจำจ.ฉะเชิงเทรา เดินทางไปที่วัดแถวธาร หมู่ 2 ต.บ้านซ่อง อ.พนม สารคาม จ.ฉะเชิงเทรา หลังทราบว่า นอกจากนายรักเกียรติจะวาดภาพโดเรมอน 2 ตัวที่วัดสำปะซิวแล้ว ยังเขียนภาพแพนด้าน้อย "หลินปิง" ไว้ที่วัดแห่งนี้ด้วย โดยนายสมโภชน์ ทิพกรณ์ อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 พร้อมพระสงฆ์และชาวบ้านช่วยกันค้นหา และพบว่าที่ผนังมุมพระอุโบสถด้านซ้ายเบื้องหน้าพระประธาน ติดประตูทางเข้าหน้าพระอุโบสถ มีภาพของแพนด้าน้อย "หลินปิง" ซ่อนตัวอยู่ในโพรงต้นไม้ใหญ่ โผล่หน้าออกมาเห็นเพียงส่วนหู ลูกตาขวาและจมูกเล็กน้อย เหมือนแอบดูความเคลื่อนไหวที่อยู่ตรงหน้า คือ พราน 5 คนกำลังป่ายปีนต้นไม้ เพื่อจะใช้บ่วงคล้องจับเงือกสาว 4 ตัว หรือแอบดูเงือกสาว 4 ตัว ที่เปลือยกายท่อนบนเล่นน้ำตกในลำธารอย่างสนุกสนาน ซึ่งภาพดังกล่าวสร้างความประหลาดใจแก่พระสงฆ์และชาวบ้านที่พบเห็นเป็นอย่างมาก

นายสมโภชน์ เปิดเผยว่า ได้คลุกคลีกับอาจารย์รักเกียรติตั้งแต่เริ่มเขียนภาพพุทธประวัติเมื่อปีพ.ศ.2550 ทราบว่า มีทายกทายิกาและญาติโยมบริจาคเงินให้ทางวัดจ้างให้เขียนตารางเมตรละ 5,000 บาท ร่วมเป็นเงินประมาณ 1 ล้านบาท แต่อาจารย์รักเกียรติไม่ค่อยได้เบิกเงินไปใช้ จะเบิกใช้ก็เมื่อคราวจำเป็นที่ครอบครัวเดือดร้อนและขอมาก็ส่งไปให้ ส่วนตัวก็เป็นคนสมถะ กินง่ายนอนง่าย ไข่ต้ม ปลากระป๋อง ทำตัวแบบสบายๆ ส่วนใหญ่จะใช้เวลาทุ่มเทกับงานเขียน ภาพภายในพระอุโบสถ ส่วนภาพเขียนทั้งการ์ตูนโดเรมอนหรือแพนด้าน้อยหลินปิงที่เขียนสอดแทรกไว้ ก็ไม่ทราบมาก่อนเหมือนกันเพิ่งมารู้เช่นเดียวกัน ส่วนภาพโดเรมอนขี่ม้าก้านกล้วยวิ่งเล่นกับเด็กเปีย เด็กแกละ ซึ่งเขียนไว้ที่ผนังห้องสุขาชาย ก็ดูสวยงามดี แต่ยังมีอีก 1 ชุดที่ผนังห้องสุขาชายถัดไป เป็นภาพเด็กๆ วิ่งเล่นซุกซนซึ่งเขียนเป็นเส้นร่างเอาไว้ ยังไม่เสร็จ ซึ่งอาจารย์รักเกียรติบอกว่าจะกลับมาเขียนให้เสร็จเรียบร้อยในภายหลัง


"��Թ�ԧ"�����ٻ��ѧ��ʶ� -��������������� : ����ʴ�͹�Ź�==

 

ภาพวาดเกี่ยวกับนรกก็น่าจะวาดภาพนักการเมืองคอรัปชั่นซ่อนไว้ด้วยนะ

 

จิตรกรซ่อนภาพ อีกแนวหนึ่งของศิลปิน..เป็นกุศลกรรมชวนคนเข้าวัด..

 

ถ้าวาดไม่ได้ออกแนวทำให้เกิดความเสื่อมเสียก็ไม่เป็นไรนะครับ
กลัวอย่างเดียว ไม่ใช่อนาคต ไปเจอภาพวาด โดเรมอนหรือหลินปิงกำลังเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้านะครับ แบบนี้ผมว่าไม่เหมาะสม <---- ความเห็นส่วนตัวนะ ใครว่าดีก็ว่ากันไปครับ

 

อนุโมทนา สาธุ ค่ะ ... ดีออก เด็กๆ จะได้เข้าวัด เป็นกุสโลบายที่ดีที่เดียว เห็นด้วยค่ะ นี่ถ้าอยู่ใกล้ ลิงน้อยที่บ้านคงไม่พลาดแน่ค่ะ ^__^

 

โดเรม่อนก็แมวหลินปิงก็หมี
สมัยพุทธกาลลิงกับช้างยังไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าได้แล้วทำไมแมวกะหมีแพนด้าจะไปเข้าเฝ้าพระมั่งไม่ได้
เพราะพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้มาเพื่อโปรดเหล่าเวไนยสัตว์อยู่แล้วท่านคงไม่ได้เลือกจะสงเคราะห์แต่ลิงกับช้างมั้งครับ
นี่ความเห็นผมมั่งนะครับ^_^

 

ภาพจิตรกรรมบนผนังโบสถ์น่าจะมีส่วนเป็นพุทธประวัติซึ่งเกิดขึ้นจริง อย่าทำให้มันผิดเพี้ยนไปเลย แต่ในกรณีที่ไม่ได้กล่าวถึงพุทธประวัติแต่สอดแทรกเรื่องสวรรค์ นรก ก็สามารถทำได้นะคะ เพราะไม่ได้ทำให้ผิดเพี้ยนไปจากเดิม เพียงแต่ใส่สีสันเพื่อดึงดูดความสนใจให้คนมาสนใจเพิ่มมากขึ้น

 

ไร้สาระมาก ๆ ผมว่านะ จะเอาไอ้แพนด้า(ควายยังมีค่ากว่า)
เอาพวกช้าง ม้า วัว ควาย มาวาดแทนไม่ดีกว่าเหรอครับ
อย่าลืมนะครับ !! แพนด้าไม่ใช่สัตว์สัญชาติไทย แต่เป็นของจีน ต้องจ่ายเงินให้จีนทุกปี เป็นล้าน ๆ บาท ค่าไอ้แพนด้า บ้าที่สุด !!!

 

น่าจะวาดถึงความเป็นจริงนะครับ ไม่ใช่วาดไปเรื่อยเปื่อย
ผมอยากรู้จริง ๆ สมัยพุทธกาล โดเรม่อน กับ หมีแพนด้า มันมาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าตอนไหนครับ ?

อีกอย่างเป็นผม ผมไม่เอาพวกสัตว์ไม่มีคุณค่ามาวาดไว้บนฝาผนังวัดแน่
มีเหรอครับ สมัยก่อนประเทศไทย หรือ ประเทศไหน ๆ เคยขี่หมีแพนด้า หรือ โดเรม่อน ไปสู้รบกับชาติอื่น
คนไทยนี้ก็แปลก ชอบบ้าอะไรที่มันไม่ใช่เรื่อง เกาหลีอย่างนี้ ไม่รู้เหมือนกันว่า บรรพบุรษใครไปเต้นกินรำกินอยู่เกาหลีถึงได้ชอบกันมากมาย อีกอย่าง
ช้างไทยเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองมีคุณค่ามาก ที่สุดก็ว่าได้สำหรับไทย แต่บางคนก็ดันไปบ้า หมีโง่ ๆ ตัวหนึ่ง ที่ทำอะไรก็ไม่เป็น วัน ๆ นอนในห้องแอร์อย่างสุขสบาย ต่างกับช้างไทย ต้องเร่ร่อนไปในที่ต่าง ๆ

เห้อ !! นี่แหละ คนไทย

 

นับวัน ใดใดในโลกล้วนบิดเบือน ห่างไกลไปจากความจริงและคุณธรรมอันดี ยิ่งขึ้นทุกที...ทุกที

 

วัดพระแก้ว ยังมีภาพรามเกียรย์ สอดแทรกอารมณ์ขันของศิลปินอยู่มากมาย
เคยเจอกองทัพลิง แอบดูดกัญชา.... เป็นการสอดแทรกเรื่องราวของปุถุชน
บนความคิดของศิลปิน
..เป็นเรื่องของจินตนาการของศิลปินครับ ตามยุคตามสมัย

 

คิดและทำอะไรน่าจะอยู่ในระดับที่สมควร สถานที่ที่ทำนั้นเป็นของสูง เบื้องหน้ามีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน เป็นที่ที่พระสงฆ์ใช้ในการทำสังฆกรรม บุคคลที่เข้าไปน่าจะมีจิตใจที่สูง ไม่น่าจะใช่ที่สถิตของหลินปิง ของเงือกเปลือยอก คนที่เข้าไปน่าจะไปกราบไหว้บูชาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำสมาธิ ยกจิตใจของบุคคลให้เข้าไปสู่ที่สูง ไม่น่าจะไปแค่ส่องหาหลินปิง หรือส่องหาโดเรมอน โนบิตะ พระอุโบสถคงไม่ใช่หอศิลป์ส่วนบุคคลของศิลปิน ที่แสดงผลงานที่ไม่อยู่ในพุทธประวัติ หรือแสดงผลงานที่บิดเบือน

 

ส่วนตัวผมก็ไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร
ถ้ารูปอยู่ในกิริยาท่าทางที่สำรวม
ใจกุศล กุศลก็เกิด ใจอกุศล อกุศลก็เกิด
แล้วแต่ใครจะมองในมุมไหน