เปิดบ้านแวมไพร์

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย DevaIsis, 29 ธันวาคม 2010.

  1. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    ที่หยิบยกเอาตัวอย่างเรื่อง สีสัน และเอ็มวีนั้น เนื่องจาก คราวที่แล้วกล่าวถึง เสียง 3 มิติ ที่บอกระยะใกล้-ไกลจากแหล่งกำเนิดเสียง เป็นการปลุกการรับรู้ทางประสาทหู

    เรื่องสีสันต่างๆ มีวัตถุประสงค์เพื่อปลุกการรับรู้ทางประสาทตา

    ส่วนเรื่องเอ็มวี เป็นการปลุกการรับรู้ทางประสาทตา และหู พร้อมๆ กัน

    การปลุกการรับรู้ เพื่อให้กายในตื่นตัว และสามารถสื่อสารได้นั้น เป็นสิ่งที่ต้องทำเป็นประจำ ยกตัวอย่าง สัตว์จำพวก มด แมลง พอฝนใกล้ตก พวกนี้จะเดินเรียงแถวกันกลับรัง ในขณะที่มนุษย์ยังไม่รู้เลยว่าฝนจะตก กว่าจะรู้อีกที เสื้อผ้าที่ตากไว้ก็เปียกน้ำฝนแล้ว

    ดังนั้น สัตว์จำพวก มด แมลง ที่พวกเราชอบดูถูกพวกเขาว่า เป็นสัตว์เดรัจฉาน สมองเล็กกว่าก้านไม้ขีด แต่กลับมีสัญชาติญาณ ในการเอาตัวรอดได้ดีกว่ามนุษย์ที่ชอบดูถูกพวกมัน เช่นนี้แล้ว อยากทราบว่า สมองของใครที่เท่าก้านไม้ขีดกันแน่

    โทนสี/เสียงที่ละเมียด ละไม มองแล้วสบายตา เปรียบเสมือน สภาวะของจิต ยิ่งโทนสีละมุนละม่อม มองแล้วเย็นตา เย็นใจ ก็จะแสดงถึงระดับความปราณีตของสภาวะจิตของคนผู้นั้น

    โทนสีร้อนแรง/เสียงที่เร่งเร้า บ่งบอกถึงการเป็นคนใจไม่ปราณีต จังหวะคึกคักเช่น ในผับ/บาร์ บ่งบอกถึงรสนิยมของคนดู/คนฟัง อันเป็นลักษณะพื้นฐานของสภาพอารมณ์ จิตใจ และบุคคลิกภาพโดยรวม

    ฉะนั้น หากพวกเรา นักกรรมฐาน เลือกเสพย์แต่ สี/เสียง (อันจะรวมไปถึงกลิ่น/รส/กายสัมผัส ซึ่งไม่อาจแสดงตัวอย่างได้ เพราะเป็นการเขียนกระทู้หน้าคอมพิวเตอร์) ที่เหมาะกับสภาพจิตใจ สภาวะอารมณ์ ก็จะทำให้ การปฏิบัติ เจริญภาวนา สามารถก้าวหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว ดังที่หลวงพ่อปราโมทย์ฯ สอนว่า

    จิตที่สบาย สบาย ผ่อนคลาย ไม่บีบเค้น ไม่ฝืน ไม่เร่งรีบ ไม่กดดัน นั่นแสดงว่า มาถูกทางแล้ว
     
  2. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    แต่สีที่ร้อนแรง และเสียงที่เร่งเร้า ก็ไม่ใช่ว่า จะไม่มีประโยชน์เอาเสียเลย

    ทั้งนี้เพราะ ในสภาวะอารมณ์ของมนุษย์นั้น มีหลากหลาย ซับซ้อน

    สีที่ร้อนแรง/เสียงที่เร่งเร้า ก็มีประโยชน์ในการทำให้ ร่างกายที่อ่อนเพลีย หรือ ง่วงหงาวหาวนอน นั้นตื่นตัวได้

    ในโลกนี้ สิ่งที่เราคิดว่าไม่มีประโยชน์นั้น แท้จริงแล้ว ทุกอย่างมีประโยชน์ มีด้านดี ในตัวของมันเอง หากรู้จักเลือกใช้ ให้ถูกต้องตามกาละเทศะ

    ทุกสิ่งทุกอย่างในโลก เกิดขึ้นมา ตามเหตุและปัจจัย ฉะนั้น สิ่งที่เราคิดว่า ไม่ดี ไม่มีประโยชน์นั้น แท้จริงแล้ว เรายังไม่ได้สัมผัส เรียนรู้มัน จึงโยกโย้ไปว่า มันไม่มีประโยชน์ สมควร โละทิ้ง เช่นนี้ แสดงว่า เราเป็นผู้คับแคบ และไม่มีข้อมูลเพียงพอ ในการตัดสินใจเช่นนั้น

    สำหรับผู้ป่วย ผู้ที่ไวต่อสิ่งเร้ารอบตัว เช่น ไอ เพราะตาทิพย์ หูทิพย์เปิด เวลาจะเดินไปห้าง หรือ ที่ที่คนพลุกพล่าน ก็แทบจะเอาชีวิตไม่รอด สมัยก่อนต้องเอากระดาษฟอย foil ที่ห่ออาหาร มาคลุมหัวไว้ เพราะ ไวต่อพลังงานรอบตัวมาก ทำให้ไม่อยากออกจากบ้าน

    มาระยะหลัง ไอเลือกเสพย์ สี/เสียง/กลิ่น/รส/สัมผัส ที่ถูกต้อง อันหมายถึง เหมาะกับสภาพร่างกาย และสภาพอารมณ์นั้นๆ ของไอ ไอกลับพบว่า การที่ไอไวต่อพลังงานรอบตัวนั้น เป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะนอกจากจะทำให้ไอทราบข่าวสารที่คนอื่นไม่ล่วงรู้แล้ว ไอยังสามารถทำตัวให้เป็นประโยชน์แก่คนอื่นได้ด้วย ดีกว่าการที่ไอเอาแต่นอนซุกหัวบนเตียง ไม่กล้าออกไปไหน ไม่กล้านั่งติดกับใคร

    ไอจึงเอาเคล็ดลับมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังว่า การที่เราเลือกสังเกตสภาพร่างกาย อารมณ์ และจิตใจของเรา แล้วทำการเลือกเสพย์ สิ่งต่างๆ ที่เข้ามา ทางอายตนะ 6 ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ล้วนแต่เป็นเกราะป้องกันการเจ็บป่วย ทางร่างกาย+จิตใจ และทำให้มีสุขภาพดี มีความคิดสร้างสรรค์ และการปฏิบัติธรรมก้าวหน้าค่ะ


    จงเลือกเสพย์ เลือกบริโภคนะคะ
     
  3. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    หากน้องชายเอาภาพดังกล่าว ไปให้พวกที่ชอบเที่ยวเธค เที่ยวบาร์ พวกนี้จะชี้ไปที่ภาพสีโทนร้อนทันที เพราะสีสันดุดัน โดนใจ

    นี่คือตัวอย่างที่พี่ไอหยิบยกว่า นอกจากเราจะเลือกเสพย์สิ่งต่างๆ ให้โดนใจของเราแล้ว เรายังมีหน้าที่ ในการสังเกตว่า คนอื่นเสพย์สี/เสียง/กลิ่น/รส/สัมผัส ประเภทไหน เพราะนอกจากจะทำให้เราเอาใจเขาผู้นั้นถูกแล้ว เรายัง ชนะใจ พวกเขาเหล่านั้นด้วย

    ซุนวูก็ใช้เทคนิคนี้เช่นกัน เรียกได้ว่า รบกี่พันครั้ง ก็ชนะทุกพันครั้งค่ะ
     
  4. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    นราสภา รู้จัก เกรมลิน Kremlin มั้ยเอ่ย

    เกรมลิน สัตว์พิเศษ ที่ชาวจีนคนหนึ่งเลี้ยงเอาไว้ เกรมลินเป็นสัตว์วิเศษ ที่สามารถแบ่งตัวได้คล้ายแบคทีเรีย เมื่อโดนน้ำ และหากให้อาหารตอนกลางคืน เกรมลินจะแบ่งตัวเป็นร้อยๆ พันๆ ตัว ในภาคมาร

    เมื่อชาวจีนขายให้ชาวอเมริกัน ชาวอเมริกันไม่เคร่งครัด เพราะเกรมลินมาขออาหารตอนกลางคืน อ้อนวอน ชาวอเมริกันใจอ่อน จึงยอมให้อาหารกิน ในตอนกลางคืน

    แถมจับอาบน้ำ ขัดถู ปรากฏว่า เกรมลินแบ่งตัวออกมาเป็นตัวสีเขียวในภาคมารเป็นร้อยๆ พันๆ ตัว สร้างความโกลาหลไปทั่ว



    kremlin.jpg
    kremlin01.jpg
     
  5. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    ศาสตร์มืด กับเดวาไอซิส

    ไอติดต่อกับผู้เสพย์ความตาย 2 ท่าน มาได้ระยะหนึ่งแล้ว เวลาท่านทั้งสองมาเยี่ยมเยียน ดวงตาของไอแดงก่ำ หัวใจเต้นโครมคราม ระดับที่ทรงตัวไม่ไหว เพราะหัวจะมึนตึ้บ ชาไปทั้งหมด

    ผู้เสพย์ความตายของเมืองไทย ก็ระดับ ยมทูตทั้งหลายนั่นเองค่ะ เช้านี้ไอได้รับพลังงานด้านมืด เลยอยากหยิบยกเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟัง

    พระพุทธรูป ตามสถานที่สำคัญทั้งหลายของเมืองไทย รูปสักการะ อนุสาวรีย์ต่างๆ ที่เราเคารพกราบไหว้กันทุกวันก่อนนอนนั้น เพื่อนๆ ทราบหรือไม่ว่า มีการเชื่อมโยง ญาณ ไปถึงใครบ้าง

    นี่คือสาเหตุที่อนุสาวรีย์ ย่าโม ถูกขโมย หรือพระพรหมเอราวัณ มีคนบ้าเอาค้อนมาทุบตี แม้กระทั่ง กระดูกหน้าผากของแม่นาคพระโขนง ก็สูญหายไป

    วิธีลัดเช่นนี้ว่า ลักไก่ญาณ เนื่องจากสิ่งที่ถูกขโมย เป็นศูนย์รวมการสักการะ กราบไหว้ของพวกเรา นักขโมย จึงพากันขโมยเอาญาณของพวกเราไป อันเป็นวิธีที่ศาสตร์มืดใช้กันมานมนานแล้ว

    นี่คือสาเหตุ ที่คัมภีร์ อัลกุรอาน สอนว่า รูปภาพ+วัตถุต่างๆ เป็นแหล่งวิญญาณของ ญิน/ชัยฏอน และศาสนาพุทธเองยังสอนว่า ห้ามกราบไหว้รูปสักการะรูปเคารพต่างๆ (หลายคนเข้าใจผิดว่า พระพุทธรูปสามารถสักการะได้ แต่พระพุทธองค์ไม่ได้สอนเช่นนี้ ลองไปตรวจสอบหาข้อมูลนะคะ)

    ลักไก่ญาณ นอกจากจะทำได้ด้วยการขโมยวัตถุที่อยู่ในพระพุทธรูป/อนุสาวรีย์ต่างๆ แล้ว ยังสามารถทำได้กับคนปกติ ที่มีชีวิตอยู่ อันจะเรียกว่า การสวมญาณ


    การสวมญาณจะเลือกเหยื่อที่มี หูทิพย์ ตาทิพย์ เจโตฯ ผู้ที่ปฏิบัติได้ฌานสมาบัติต่างๆ แล้ว แต่ไม่มีความรู้เรื่องการป้องกันตนเอง พูดง่ายๆ คือ เก่งแต่เอาตัวไม่รอด

    พวกลักไก่ สวมญาณ ก็จะเอา ญาณของผู้นั้นไป เรียกง่ายๆ ว่า ขอแชร์ช่องสัญญาณเดียวกัน เห็นอะไร รับรู้อะไร ฝ่ายที่สวมญาณก็จะรู้เห็นไปหมดทุกอย่างพร้อมกัน บางครั้ง ก็เอาของเสียมาปล่อยให้เจ้าของญาณผู้นั้น รับเคราะห์ไป เพราะเวลามีใครมาหาเรื่อง ก็จะมาหาเรื่องกับเจ้าของญาณ โดยที่ไม่ล่วงรู้เลยว่า เจ้าของญาณถูกพ่วงสัญญาณดาวเทียมอยู่ ทำให้เจ้าของญาณสุขภาพทรุดโทรม อ่อนแอลงทุกวัน ในขณะที่ผู้แฮ๊ค hack สัญญาณ เจริญขึ้น เจริญขึ้นทุกวัน เพราะศัตรูเปลี่ยนเป้าหมายในการโจมตี หันไปโจมตีทำกับเจ้าของญาณที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่แทน

    วิธีนี้ เป็นวิธีที่มี บาปกรรมมาก เทียบเท่ากับการ ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ แม้จะเป็นทรัพย์สินทางปัญญา ก็ถือว่าเป็นการขโมย และเบียดเบียนสัตว์

    จึงเอามาตักเตือนกัน ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ รู้เห็นหมดแล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2011
  6. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    การสร้าง ฮอร์ครักซ์ Horcrux

    Horcrux คือการถ่ายญาณลงไปในวัตถุ รูปภาพ ตัวอักษร หรือเวทย์มนตร์ต่างๆ เพื่อให้ผู้เป็นเจ้าของ มีสวัสดิภาพ ปลอดภัย จากการถูกโจมตี นัยหนึ่งคือการสร้างความเป็นอมตะ นั่นเอง ...ดังแสดงในเรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ และทศกัณฑ์ ถอดหัวใจ

    จะฉีกวิญญาณออกเป็นส่วน ๆ
    วิญญาณส่วนที่หลุดออกมาก็จะถูกห่อหุ้มด้วยเวทมนตร์แล้วกักเก็บเอาไว้ในวัตถุใดวัตถุหนึ่ง ซึ่งจะกลายเป็นฮอร์ครักซ์

    วิธีการนั้นมีหลายอย่าง ยกตัวอย่างที่พบเห็นได้ง่าย คือ การสร้างพระพุทธรูป วัตถุมงคล อนุสาวารีย์ หรือศาลต่างๆ

    ในอียิปต์โบราณ จึงมีการสร้างปิรามิด และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ พร้อมเวทย์มนตร์สลักเขียนกำกับไว้ในสิ่งปลูกสร้างนั้นๆ

    การทำมัมมี่ ดังที่เคยกล่าวแล้วว่าเป็นการคงไว้ซึ่ง ดีเอ็นเอ สามารถทำโคลนนิ่งได้ หากต้องการสร้างร่างใหม่

    จากนั้น สวมญาณที่ทำ Horcrux ลงไป เท่านี้ก็จะได้ร่างเดิมและญาณเดิมของคนที่ต้องการปลุกขึ้นมา

    การทำ Horcrux มีข้อเสียคือ วิญญาณนั้นๆ จะไม่สามารถไปแดนนิพพานได้ เนื่องจาก ญาณไม่ครบถ้วน เพราะถูกปลูกถ่ายเอาไว้ตามที่ต่างๆ มากมาย

    พระเกจิแดนทิเบตสมัยโบราณ จึงนิยมทำมัมมี่ตัวเอง ด้วยการนั่งกรรมฐาน กิน+ดื่มน้อย จนร่างกายอยุ่ในสภาวะจำศีล ลดปริมาณอ๊อกซิเจนที่เข้าสู่ร่างกายลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งตัวเองตาย

    และไม่นิยมให้คนอื่นทำมัมมี่ให้ร่างกายของตนเอง เพื่อเป็นการ รวมญาณเอาไว้ในที่ที่เดียว มิใช่แยกกระจายตาม Horcrux ต่างๆ ก็จะสามารถไปแดนนิพพานได้ตามที่ตั้งใจ

    มัมมี่พระทิเบตที่มีชื่อเสียงคือ ท่านบูกาอิ ลองค้นเอาใน google เอาเองนะคะ

    และในหนังเรื่อง ไซอิ๋ว ตอนที่ท่านเฮ่งเจียตอนเด็กจะขอฝึกวิชา อมตะ กับอาจารย์นั้น อาจารย์เล่าว่า จะโดน 3 สิ่งคือ
    1.ฟ้าจะผ่าจนร่างกายฉีกขาดไปทั่วสรรพางค์กาย
    2.ลมพายุจะโหมกระหน่ำ ฉีกร่างกายเป็นส่วนๆ
    3.มหาไฟจะลุกท่วม โชติช่วงแผดเผาร่างกายจนมอดไหม้ ไม่มีชิ้นดี


    นั่นคือ เรื่องจริง เพราะวิญญาณจะถูก ฉีกทึ้งแยกแตกออกจากกัน สร้างความเจ็บปวดทรมานแสนสาหัส ที่ไม่อาจทนทานได้


    เช้านี้ ไอหยิบยกอุทาหรณ์มาฝากว่า

    ไม่มีใคร หลบหนีได้ตลอดกาลหรอกค่ะ และการมีชีวิตแบบ หลบๆ ซ่อนๆ นั้น เป็นสิ่งที่หลอกหลอนจิตใจ และอยู่คู่กับตัวเองไป ตลอดกาลนาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2011
  7. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    อ้าว...ใครกลัว เดวาไอซิส ยกมือขึ้น 1.gif

    เขียนกระทู้แนวนี้ได้ อย่าคิดว่า ไอเป็นพวก Dark lord นะคะ

    ไอขอยืมข้อมูลมาจาก เดวาไอยคุปย์คนสวย เมื่อ 5 พันปีก่อนค่ะ 10.gif

    http://www.youtube.com/user/Kayarawolf#p/a/f/2/s8_0M_yu0LU
    เด็กน้อยห้ามคลิ๊ก
    คลิปนี้แสดงให้เห็นว่า ดีเจ นีโอไฟท์ Neophyte คือศูนย์กลาง ญาณ ของคนในคอนเสริต์ค่ะ

    พรุ่งนี้มาต่อ เล่าเยอะแต่ไม่มีใครตอบมาเลย คนนะ ไม่ใช่เสือ อิ อิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2011
  8. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    ด้วยเหตุเรื่อง ญาณนี้ ชาวจีนโบราณจึงคำนับฟ้า-ดิน

    ซึ่งที่จริงแล้วเง็กเซียนฮ่องเต้ก็คือ “ดาวขั้วฟ้าเหนือ” (Polaris) ด้วยเหตุที่ว่าองค์เง็กเซียนฮ่องเต้เป็นดวงดาว คนโบราณเวลาจะเซ่นสรวงองค์เง็กเซียนฮ่องเต้ จะกระทำต่อฟ้า โดยไม่มีการทำรูปเคารพ และกระทำในที่กลางแจ้ง

    อ่านเพิ่มเติมที่กระทู้นี้นะคะ

    http://palungjit.org/threads/~-เนเ...นเธฅเธฐเธ˜เธฒเธ•เธธเธ•เนˆเธฒเธ‡เน†-~.220373/

    คุณ Nate1986 ลงไว้ไม่ผิดเพี้ยน

    นั่นคือสาเหตุที่ เอเลี่ยนก็คือ เทวดา นั่นเองค่ะ ตามความเชื่อของไอ เพราะมีที่อยู่ตามดวงดาว ฟากฟ้าต่างๆ
     
  9. noinid0209

    noinid0209 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    742
    ค่าพลัง:
    +570
    ตามมาอ่านเหมือนเดิมครับ ว่างแล้ว
     
  10. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    ส่วนนี่ มอบให้ ไอ้ชาติชั่วตัวแสบ

    เมิงดูที่นาทีที่ 5.29 เป็นต้นไปนะ

    กรูจะคว้ามาก่อนเมิงจะกระโดดถึงอีก

    สัด เอ๊ยยย

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=FVmKWd-yKBo"]YouTube - Angelina Jolie in Tomb Raider I[/ame]

    มรึงฆ่ากรู เมิงก็ไม่ได้มันไป ไม่มีทาง

    ฉะนั้น เมิงมาเลียตรีนกรู ซะ ดี ดี

    กรูเนี่ยะ สาวเฮี๊ยวที่สุดในสวรรค์แล้วเมิง

    จำใส่กะโหลก หนา หนา ไว้

    ไอ้ไฝ..เมิงมาสอดนิ้วซี๊ซั๊ว เล่นกีตาร์ปีใหม่อีกรอบนะ กรูจะฟ้อง The White เอาเมิงไปล่ามในรูเลย สัด นรก !!!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2011
  11. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    ไอ้ไฝนรก เมิงตัวผู้ ตัวเมีย เอาให้แน่ แน่

    เมิงแน่จริง อย่า ลอบกัดตอนหลับสิเมิง

    มากันตอนกรูตื่น

    แล้วให้ White ปลดประคัตหน้าผาก ของกรูก่อน

    ค่อยมา ต่อยกัน

    เชี่ย รำยำ จริงๆ

    ส่วนอีหญิงไพร่ ชาติหญ้าแพรก ปัญญาสถุล ที่มาชวน องครักษ์กรูไปดูทีวี

    แค้นนี้ มีต่อ เชี่ยทั้งโคตรเลยเมิง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2011
  12. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    White ยูเล่นให้แฟร์ เอาประคัตออก แล้วให้ไอ้ไฝมาเจอกับไอ

    คืนนี้ ไม่ต้องรอรีเลย

    ไอไม่ชอบ หมาลอบกัด หญิงไพร่กับไอ้ไฝ มันร่วมกัน เล่นงานไอ

    หากยูมาไม่ทันคืนนั้น ไอโดนรุมโทรมไปแล้ว

    ยูต้องจัดการนะ ไม่ใช่ปล่อยให้ หมามันเริงร่า

    เสียชื่อ เจ้านาย เจ้าของรังนะ White, dont you see?
     
  13. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    อีสำลี

    เมิงอ่ะ อีกตัว หลายทีแล้วนะเมิง ผัวเผลอเป็น ลอบกัด

    สมควรแล้วนะดอก ขนาดผัว เมิงยังเอาอาหารโสโครกป้อนใส่ปาก ยืนคร่อมหม้อ คร่อมแกง

    แล้วป้อนให้ผัวเมิง

    สมควรแล้วที่โดนทิ้ง

    เหอะ เหอะ

    หากกรูไม่เหลืออดกับเมิง กรูไม่พูด ฟ้องใครหรอก เรื่องผัว-เมีย กรูไม่ยุ่ง

    ทำไร อย่านึกว่า กรูไม่รู้ จะพูดไม่พุด นั่นอีกเรื่อง

    ตากรู ยิ่งกว่า สัปปะรด อีกนะสำลี จำไว้
     
  14. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    ทำไมรังยู ไม่มีระเบียบ เหมือน รังเฮีย เลยฟะ

    อ้ายอีหน้าไหน เสนอหน้ามากระตุกหนวดไอ เฮียจัดการให้หมด ไม่ต้องร้องขอ

    สมแล้ว ที่มีแต่ ตัวเมียสั่ว สั่ว

    ไอไม่อยากอยู่กับยูแล้ว ยูดูแลไอไม่ได้ดีเท่าเฮีย

    Since now, leave me alone !!!

    Do you copy?
     
  15. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    เฮียเขา ดุ เพราะเขารัก

    เมื่อก่อนไอไม่รู้เลยว่าทำไม เฮียถึงเข้มงวด เอะอะอะไร จับมัด จัดล่าม

    ตอนนี้ไอรู้แล้วล่ะ เพราะรังเฮียเขามีระเบียบ

    ไอไม่เรียกร้องอะไรหรอก ให้เฮียอ่านแล้วเข้าใจในนี้ก็พอ

    ไอไม่มีหน้ากลับไปโยกโย้อะไรแล้ว พวกยูนั่นแหละ ทำให้ไอมีมลทิน

    ชาตินี้ สาปส่งพวกยูเลย ให้เมียมาเหยียบอกแม่ของไอ ให้เมียเอายาพิษมาใส่ในสบู่ ให้เมียเอาไอ้ตุ๊ด มารุมโทรมตอนเผลอ

    หากวันนั้น เฮียไม่มาช่วย ไอโดน น่วมไปแล้ว

    พวกยูจำไว้ ต่อแต่นี้ บุญคุณ-ความแค้น ไอทดแทนไปหมดแล้ว

    เอาเพื่อนไฮโซของยูไปด้วย รังอนูบิสยกไปให้หมด

    ไอไม่สนใจอะไรอีกแล้ว

    เข้าใจมั้ย
     
  16. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    Central Anubis !!!

    You also add me to your world without asking.
    The CP Anubis did unforgivable sins.
    Dont you see?

    You sent the mummies with curses.
    Do harm to me when I was really weak.

    Still you call yourself the underworld guardians?

    Those why Im bored to the shits.

    Stop finding me a husband !!!

    I can survive, ok?

    Death is so easy and very simple, you all know well.

    Prides and righteous are marked forever !!!

    Showing you have no guts to control your famales.

    Damn !!!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2011
  17. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    เฮียจ๋า ขอโทษนะคะ ฮือ ฮือ

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=mKaEsAuV1R8"]YouTube - กลับมาได้หรือเปล่า TT[/ame]

    หนูจะอยู่ยังไงอ่ะ หากไม่มีเฮีย

    หนูจะหายใจยังไงคะ

    ช่วยบอกที

    ยกโทษให้ด้วยเถิด

    หนูป่าวประกาศไปทั่วแล้วค่ะ

    มารับหนูไปอยู่ด้วยสิคะ

    นะ นะ แล้วหนูจะเป็น

    เด็กดีของเฮียคนเดียว

    ได้โปรด พลีสสสสสส

    ไม่อายฟ้า-ดินแล้วค่ะเฮีย

    หนูรักเฮียคนเดียว (หากมีสติ)

    เฮียก็รู้ดี (ว่าทำไม ไม่มีสติ)

    นะคะ นะ นะ

    จับไปล่ามไว้เหมือนเดิม ยังดีกว่า โดนพวกมันรุม

    เนี่ยะนะ ตั้งแต่ชีวิตหนูขาดเฮียนะ ก็เคว้งคว้างเหมือน เรือลำน้อยในมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ ไร้ทิศทาง โดนลมทะเลพัดไปทางโน้นที ทางนี้ที

    หากเฮียชอบสำนวน ยกโทษให้ด้วยได้มั้ยคะ

    ขอโทษ

    ชีวิตที่ขาดเฮีย เหมือนเต้าหู้ปลาพอง พองในซึ้ง ที่นึ่งแล้วนึ่งอีก

    ไม่ได้ยกไปจัดใส่จาน พร้อมเสริ์ฟ

    หากได้ยินแล้ว ช่วยส่ง ซิก มาหน่อยได้มั้ยคะ

    หน้าหนูไม่มียางแล้วเฮีย เพราะโดนกั๊กในซึ้ง นึงจนเหี่ยวแล้วค่ะ
     
  18. ฮกหลงขงเบ้ง

    ฮกหลงขงเบ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +3,143
    อันนี้ขอเพิ่มเติมและแก้ไขหน่อยนะครับเกรงว่าจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่เกี่ยวกับเง็กเซียนฮ่องเต้ ตามความเชื่อของชาวจีนแล้วนั้น เง็กเซียนฮ่องเต้ในภาษาแต้จิ๋ว หรือหยกอ๋องซงตี้ในภาษาจีนกลางนั้น ไม่ได้เป็นชื่อเทพครับ แต่เป็นชื่อตำแหน่งของท่าน โดยความเชื่อนั้นเปลี่ยนแปลงได้เสมอ เง็กเซียนฮ่องเต้ไม่ใช่ดวงดาวครับ แต่เง็กเซียนฮ่องเต้จะดำรงตำแหน่งโดยมนุษย์ ชาวจีนเชื่อว่าเง็กเซียนฮ่องเต้องค์แรก คือ จักพรรดิอึ่งตี้ ซึ่งเป็นจักรพรรดิองค์แรกของชาวจีนครับ ส่วนที่ว่าเง็กเซียนฮ่องเต้เป็นดาวขั้วฟ้าเหนือนั้นก็ไม่ใช่ความเชื่อที่ผิดไปเลย แต่จริงๆแล้วดาวขั้วฟ้าเหนือคือดาวสารถีหรือดาวราชรถเง็กเซียน เรียกว่า ดาวเป๋ยโต่วครับ ไม่ใช่เง็กเซียนที่เป็นดาวนะครับ
    ....สุดท้ายนี้ผมยังสงสัยที่ว่าเทวดาคือเอเลี่ยนนั้นไม่ทราบว่าเจตนาจะสื่ออะไร ขอทราบนิยามของคำว่า เทวดา และนิยามของคำว่าเอเลี่ยนด้วยครับ ประเดี๋ยวจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่
     
  19. สกั๊ง

    สกั๊ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +131
    ไชโย พี่ สาววว

    ฮ่าๆๆๆๆๆ (เป็นพี่น้องกันแล้วก็เป็นไปตลอดนา),
    ครับ ใช้ความเป็นมนุษย์ ให้มีประโยชน์ ที่สุดT^T นี่ก็เป็นข้ออ้างในการมีชีวิตของผม แต่ผลลัพธ์ ไม่ค่อย มีประโยชน์กะใครเท่าไหร่ ..
    ,หลุมดำ แค่คิดถึงก็สยอง แล้ว>.< ไว้เจอกัน อยากฟังทุกเรื่องของพี่เลย~
    พอดี ผมเป็น มังสวิรัติ จะว่าไป เหตุผลแรก เหมือนพี่เลยนะ การแผ่เมตตาเป็นตัวกระตุ้นให้ทานไม่ลง (เห็น เป็นเพื่อน แต่ก็คุยรู้เรื่องกันยาก^^")
    ,ในไบเบิ้ล พระองค์ เน้น ห้าม ทานเลือด ผมก็ว่ามันต้องมีผลร้ายต่อจิตวิญญาณเรามากๆ ก็ชิม แต่เลือด ตัวเองตอนเป็นแผลแหละ (บางทีมันหอมหวานเป็นพิเศษ ก็เลยพอเข้าใจผู้ เสพเลือด,ซุปไก่ ก็เคยเตือนเพื่อนนะ เพิ่งเห็นพี่นี่แหละ ที่คิดเหมือนกัน) ผมรู้สึกได้ถึงวิญญาณแฝง เลยไม่ยอมให้มันกิน
    ทั้งเนื้อ สัตว์ แอลกอฮอล์ มีแฟน และเล่นดนตรี ในผับบาร์(กลัวเขาทำร้ายใคร)
    ,ผมเกลียดความคิดของ นักจิตวิทยา ส่วนใหญ่ด้วย มันถ่ายทอดไปสู่ ครอบครัว ให้กระทำ กับลูก แบบ ไม่เข้าใจและโหด ร้าย (เลยเรียนจิตวิทยา)
    ,พระนางคลีโอพัตรา เคยออกกฎหมาย
    ห้ามฆ่าไส้เดือน หรือเปล่าครับ (ปลื้มม๊าก)
    ,สุดท้ายยย ขอต่อ ว่า องครักษ์ พี่หน่อย :mad:
    ถึงผมเป็น คนธรรมดา โง่และขี้ขลาด ไม่ได้มีพลังอะไรเลย
    แต่ มั่นใจ ว่า ปกป้องพี่ได้ ดี กว่า นี้
    แน่!!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2011
  20. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    ขอขอบคุณ คุณฮกลกขงเบ้งนะคะ ที่ช่วยอธิบายให้กระจ่าง

    ไอพยายามจะถ่ายทอดว่า แท้จริงแล้ว การกราบไหว้รูปเคารพ ไม่มีในทุกศาสนาค่ะ

    ปัจจุบันผู้คนเข้าใจผิดเพี้ยนกันไป

    เรื่องเชื่อมโยงเทพเข้ากับดวงดาว มีมาตั้งแต่สมัย แอตแลนติส แล้วค่ะ

    สวรรค์ชั้นสูงๆ ที่มีมิติตั้งแต่ที่ 4, 5,6...ถึงแดนนิพพาน ที่ที่ไม่มีกาลเวลา เพราะเชื่อมโยงทุกมิติเข้าด้วยกันหมดนั้น แท้จริงแล้วก็คือ ออกนอกโลก ไปตามดวงดาวต่างๆ สูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนไปถึงจักรวาลอื่นๆ นั่นเองค่ะ

    เอเลี่ยนมีทั้งที่มี มิจฉาทิฏฐิ และสัมมาทิฏฐิ ประกอบกับ เอเลี่ยนนั้นเป็นดวงจิต ไม่มีร่างกาย สามารถสิงสู่ได้ใน อวาตาสัตว์/มนุษย์

    คุณสมบัติดังกล่าว คล้ายเทวดามาก ยิ่งเอเลี่ยนจะมีอายุยืนยาว หลายพัน หลายหมื่นปีโลกมนุษย์ ไม่สงสัยบ้างหรือคะว่า เอเลี่ยนก็คือเทวดาบ้านเรานั่นเอง

    สามารถ เสกโน่นนี่ได้ เล่นกับมิติกาลเวลาได้ มีพลังจิตสูงส่ง คุณสมบัติดังกล่าว ไม่คลับคล้ายคลับคลาบ้างหรือคะ ว่าเหมือนใคร

    ได้ยินว่า สวรรค์ชั้น สุทธาวาส-อรูปพรหมนั้น ไม่มีร่างกาย เป็นดวงจิตเท่านั้น ยิ่งใกล้เคียงกับ คุณสมบัติเอเลี่ยนบ้านเรา

    ขนาดชั้นพรหมฯ เห็นรูปเทพเจ้ามีหลายแขนมั้ยคะ บ้างเป็น พันเนตร พันกร ภาพวาดคล้าย เอเลี่ยนแปลกประหลาดมาก เหตุใด จึงไม่มีใครสงสัยเลยว่า เอเลี่ยนดังกล่าวก็คือเทพชั้น พรหมฯ ขึ้นไปนั่นเองค่ะ

    พวกเทพก็ชอบล้อเล่น เห็นมนุษย์ตั้งชื่อตัวเองว่า เอเลี่ยน ก็หัวเราะชอบใจ สร้างหนังเอเลี่ยนมากมาย เสกยานอวกาศมาให้คนโน้น คนนี้ ตามถ่ายภาพ เป็นที่สนุกสนานไปทั่วสวรรค์ ใช้ความต่างมิติเวลาต่างๆ สร้างอิทธิฤทธิ์ ผู้คนนั้นก็เรียกว่า เอเลี่ยน ต่างดาว พวกเทพก็ชอบอกชอบใจ ขบขันมาก

    นี่แหละคือ เสี้ยวแห่งความเป็นจริง ที่มนุษย์ไม่เคย เอะใจ สงสัยเลยค่ะ

    ในไตรภูมิพระร่วงกล่าวว่า พระอินทร์ขี่จักรแก้ว ซึ่งก็คือ ยานอวกาศนั่นเองค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...