สรุปภัยที่เกิดจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• หิมะตกหนักที่อังกฤษ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%"> [ 07-12-2553 ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">อังกฤษ เผชิญกับสภาพอากาศเลวร้ายต่อเนื่อง จากภาวะหิมะตกลงมา อย่างหนัก ส่งผลกระทบต่อประชาชน ที่จำเป็นต้องเดินทางในช่วงนี้ ทั้งบนท้องถนนและทางอากาศ

โดยเฉพาะเมือง Glasgow และ Edinburgh ของอังกฤษ ได้ปิดสนามบิน ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา เนื่องจากหิมะตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามคาดว่าทั้งสองสนามบิน จะเปิดใช้บริการในช่วงบ่ายหรือเย็นวันนี้ แต่ก็จะมีเที่ยวบิน อาจล่าช้าหรือถูกยกเลิก ทางสายการบินจึงแนะนำให้ ผู้ที่จะเดินทาง ตรวจสอบเที่ยวบินก่อนเดินทางไปสนามบิน เช่นเดียวกับ ผู้ใช้รถใช้ถนน เจ้าหน้าที่อังกฤษ แนะว่าไม่ควรเดินทางออกนอกบ้าน หากไม่จำเป็น เนื่องจากถนนหลายสายถูกหิมะปกคลุม จนไม่สามารถสัญจรไปมาได้

ขณะที่สก็อตแลนด์ มีรายงานว่า มีรถยนต์กว่า 500 คน ติดอยู่บนท้องถนน ที่เต็มไปด้วยหิมะ ในเมือง Castlecary ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวจัด
ทั้งนี้อังกฤษ จะเร่งปัดกวาดหิมะออกจากถนนตลอดทั้งคืนนี้ แต่สำนักอุตุนิยมวิทยาก็เตือนว่าอุณหภูมิลดต่ำถึงจุดเยือกแข็ง จะทำให้หิมะกลายเป็นน้ำแข็งบนพื้นถนน อาจเกิดอุบัติเหตุได้ และเตือนให้ประชาชนระมัดระวังภาวะหิมะตกหนัก ซึ่งจะตกต่อเนื่อง ไปจนถึงวันพรุ่งนี้ ในพื้นที่สก็อตแลนด์, ไอร์แลนด์เหนือ ,พื้นที่ทางเหนือ และใต้ของแคว้นเวลส์ ไปจนถึงพื้นที่ตอนเหนือและกลางของอังกฤษ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ประชาชนหลายร้อยคนติดค้างท่ามกลางหิมะในสกอตแลนด์

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 07-12-2553 | 17:52 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">ลอนดอน 7 ธ.ค. – ผู้ขับขี่ยวดยานหลายร้อยคนต้องติดค้างตลอดทั้งคืน หลังหิมะและสภาพอากาศอันหนาวเย็น ทำให้นักเดินทางในพื้นที่ตอนเหนือ ของอังกฤษ เกิดความโกลาหล

ตำรวจในสแตรธไคลด์ โลเธียน และตอนกลางสกอตแลนด์แนะให้ประชาชน งดการเดินทางในวันนี้ หากไม่จำเป็น เพราะหิมะที่ก่อตัวหนา และน้ำแข็ง ทำให้ถนนหลายสายไม่ปลอดภัย ทั้งนี้ อุณหภูมิในสกอตแลนด์ลดลง ต่ำกว่าจุดเยือกแข็งตลอดทั้งคืน และหิมะที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ผู้ขับขี่ยวดยานจำนวนมากติดค้างอยู่ในรถยนต์ ขณะที่บางคนตัดสินใจทิ้งรถยนต์เอาไว้

สื่อรายงานว่า มีเด็กนักเรียน ผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่ราว 150 คน ต้องอาศัยอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในเซาธ์ลานาร์คไชร์ตลอดทั้งคืน หลังสภาพอากาศอันเลวร้าย ทำให้พวกเขาไม่สามารถกลับบ้านได้ ขณะที่ทางหลวงสายเอ็ม876 เอ็ม80 และเอ็ม8 ได้รับผลกระทบเช่นกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องเข้าช่วยเหลือนำผู้ที่ติดค้างอยู่ในรถยนต์ไปส่งที่โรงแรม หรือนำอาหารและเครื่องดื่มอุ่นๆ มาให้รับประทาน อย่างไรก็ตาม ท่าอากาศยานกลาสโกว์และท่าอากาศยานเอดินบะระเปิดให้บริการในเช้าวันนี้.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• อากาศหนาวหนักในอังกฤษ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 07-12-2553 | 12:10 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">หิมะที่ตกลงมาอย่างหนัก และระดับอุณหภูมิหนาวติดลบในหลายพื้นที่ ทั่วประเทศอังกฤษ และสก็อตแลนด์ ส่งผลให้ทางการต้องสั่งปิดสนามบิน ในเมือง "กลาสโกว" และ "เอดินเบิร์ก" ลงชั่วคราว ก่อนจะเปิดให้บริการ อีกครั้งเนื่องจากสภาพอากาศ ทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินเป็นจำนวนมาก ขณะที่หิมะยังได้ส่งผลกระทบต่อระบบการคมนาคมอื่นอาทิ การเดินรถไฟ และการจราจรบนท้องถนน ทางการอังกฤษได้ออกประกาศเตือน ให้ผู้ใช้รถยนต์ใช้ถนน หลีกเลี่ยงการเดินทางหากไม่มีความจำเป็น และจำต้องปิดถนนบางสาย เนื่องจากมีหิมะทับถมหนา ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า อุณภูมิที่หนาวจัดใน จะเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ แต่ยังเตือนว่าสภาพอากาศอาจแย่ลงไปอีก ในสัปดาห์ต่อไป พร้อมขอให้ประชาชนในหลายภูมิภาคทั่วประเทศ ระวังภัยจากพายุหิมะด้วย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• โคลนถล่มในโคลอมเบียตายเพิ่มเป็น 13 คน / แอลเบเนียน้ำท่วมหนัก

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 07-12-2553 | 05:01 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">ทางการโคลอมเบียรายงานยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุดินถล่มทับบ้านเรือน ประชาชน หลายสิบหลัง ในเมืองเมเดลลิน ทางตะวันตกเฉียงเหนือ โดยล่าสุดยืนยันว่า พบผู้เสียชีวิตแล้ว 13 คน ขณะที่เชื่อว่า ยังมีผู้ถูกฝังอยู่ ใต้ซากดินโคลนถล่ม อีกราว 145 คน ซึ่งทางการได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัย กว่า 200 นาย ขุดค้นหาผู้รอดชีวิตอย่างต่อเนื่อง และสามารถช่วยเหลือ ผู้รอดชีวิตได้แล้ว 3 คน
ขณะที่ปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์หนัก ที่ใช้ในการขุดเจาะทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้มือในการขุดค้นหา

ส่วนในแอลเบเนีย มีรายงานเหตุน้ำท่วมหนักที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ในพื้นที่ภาคเหนือ ทำให้ประชาชน มากกว่าหนึ่งหมื่นสองพันคนต้องอพยพ ทิ้งบ้านเรือน ขณะที่พื้นที่ทำการเกษตร ได้รับความเสียหายหลายหมื่นไร่ ซึ่งทางการแอลเบเนียได้เรียกร้องขอความช่วยเหลือ จากชาติสมาชิกนาโต้ ให้จัดส่งอาหาร และสิ่งบรรเทาทุกข์อื่นๆ ให้
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• อากาศแปรปรวนทั่วโลก

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 07-12-2553 | 17:40 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">กรมอุตุนิยมวิทยาของอังกฤษ ประกาศเตือนให้ประชาชนทั่วประเทศ หลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็น เนื่องจากมีหิมะตกหนัก และปกคลุม หนา ทางการต้องประกาศปิดถนน และสนามบินบางแห่ง โดยเฉพาะที่เมือง"กลาสโกว" และ"เอดินเบิร์ก" ล่าสุด แม้จะเปิดให้บริการ สนามบินแล้ว แต่เที่ยวบินยังคงล่าช้า และไม่สามารถให้บริการได้ทั้งหมด คาดว่า สภาพอากาศจะเริ่มอุ่นขึ้นช่วงสุดสัปดาห์นี้ แต่อาจมีหิมะตกหนักอีกในสัปดาห์หน้า

ส่วนเหตุอุทกภัย และดินถล่ม ที่รุนแรงสุดในรอบ 42 ปี ในเมือง "เมเดยิน" ของโคลอมเบีย ทีมกู้ภัย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายร้อยนาย ยังคงเร่ง ค้นหาผู้สูญหายใต้อีกกว่า 100 คน ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 23 คน
ประชาชนกว่า 1 ล้าน 5 แสนคนไร้ที่อยู่อาศัย /ที่เวเนซูเอล่า เกิดอุทกภัย และโคลนถล่มครั้งใหญ่ มีผู้เสียชีวิตไป 34 คน ไร้ที่อยู่อาศัย 5,000 คน ทางการเวเนซูเอล่า มีคำสั่งให้โรงแรมเอกชนหลายแห่ง ให้ที่พักกับผู้ประสบภัย ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 90,000 คนแล้ว พร้อม ประกาศภาวะฉุกเฉิน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• หลายประเทศเผชิญอุทกภัยครั้งเลวร้าย

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">[ 07-12-2553 ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">โคลอมเบียเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุแผ่นดินถล่มครั้งใหญ่ ขณะที่ผู้นำ เวเนซูเอล่า สั่งปรับโรงแรม และศูนย์การค้าเป็นศูนย์ประสบภัย ช่วยเหยื่อน้ำท่วม

เจ้าหน้าที่กุ้ภัยโคลอมเบียเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุแผ่นดินถล่มครั้งใหญ่ ที่เมืองเบโย่ หลังเกิดฝนตกหนักติดต่อกันนานหลายวัน ซึ่งล่าสุด พบศพผู้เสียชีวิตแล้ว 19 ศพแต่ยังมีผู้ติดอยู่ใต้ซากโคลนอีกกว่าร้อยคน ซึ่งนายเจอร์มัน วาร์กาส เยราส รัฐมนตรีมหาดไทยโคลอมเบีย ได้มีคำสั่ง ให้เจ้าหน้าที่ใช้ความระมัดระวัง โดยให้ใช้เฉพาะคนและสุนัข ในการค้นหาเท่านั้น ห้ามใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ เพราะเชื่อว่า อาจจะยังมีผู้รอดชีวิตติดอยู่ด้านใน ทั้งนี้คาดว่าอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุด ในประวัติศาสตร์โคลอมเบีย ทำให้มีคนไร้ที่อยู่แล้วกว่า 2 ล้านคน

ส่วนที่เวเนซูเอล่า ประธานาธิบดีฮูโก้ ชาเวซได้สั่งปรับเปลี่ยนโรงแรมเอกชน และศูนย์การค้า เป็นศุนย์ประสบภัยชั่วคราว เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม จำนวนหลายหมื่นคน ที่ต้องอพยพหนีตายจากเหตุน้ำท่วม และโคลนถล่ม ครั้งเลวร้าย ซึ่งล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 32 คน ทั้งนี้ชาเวซรับปากจะจ่ายเงิน ค่าโรงแรมให้ทั้งหมด จนกว่าระดับน้ำจะลดลง ขณะที่ทางการได้ประกาศ ภาวะฉุกเฉินในกรุงคาราคัส และอีก 3 รัฐรวมทั้งมิรันด้า, วาร์กัสและฟัลคอน หลังจากที่เหตุน้ำท่วมครั้งนี้ ได้ทำให้ทางหลวงหลายสายต้องจมอยู่ใต้น้ำ

และสถานการณ์น้ำท่วมที่แอลเบเนีย องค์กานาโต้ ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ จากตุรีและกรีซ เข้ามาช่วยอพยพผู้ประสบภัย ที่ติดค้างอยู่ตามบ้านเรือน รวมทั้งได้นำน้ำและอาหารเข้าไปส่งตามพื้นที่ห่างไกลที่ถูกตัดขาด ขณะที่อิตาลีได้ส่งรถบรรทุก 5 คัน พร้อมอาหารและยา รวมทั้งสิ่งของ บรรเทาทุกข์ ตลอดจนทหาร เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเขตชโกด้า ทางเหนือของแอลเบเนีย หลังเกิดน้ำท่วมครั้งเลวร้ายที่สุด ในประวัติศาสตร์ของแอลเบเนีย ทางการต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน ที่เขตชโกด้า, เลซา และดูเรส พร้อมเร่งฉีดยาฆ่าเชื้อโรคในหลายพื้นที่ ท่ามกลางความวิตกว่า จะเกิดโรคระบาดตามมา หลังมีสิ่งปฎิกูลลอยปะปนมากับน้ำจำนวนมาก คาดว่าความเสียหายจากไม่ต่ำกว่า 80 ล้านยูโร
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• หิมะตกหนักทั่วอังกฤษ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%"> [ 08-12-2553 ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">เกิดหิมะตกหนักและอุณหภูมิลดต่ำกว่า 0 องศา ขึ้นทั่วเขตการปกครอง สกอตแลนด์ และส่วนอื่นๆ ของอังกฤษ ทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบิน และปิดสนามบิน และทำให้การจราจรตามท้องถนนทั่วอังกฤษ ที่มีเนื้อที่ 2.4 แสนตารางกิโลเมตร และประชากรกว่า 61 ล้านคน เกือบจะหยุดนิ่ง

บนมอเตอร์เวย์สายเอ็ม 8 ระหว่างเมืองกลาสโกว์ กับนครเอดินบะระ ในเขตการปกครองสกอตแลนด์ การจราจรได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากสภาพอากาศเลวร้าย คนขับรถบรรทุกคนหนึ่งกล่าวว่า ขับรถมานานหลายชั่วโมง ไม่สามารถหาที่พักค้างคืนได้ เพราะโรงแรมทุกแห่งถูกจองจนหมด

ผู้ขับขี่รถได้รับคำแนะนำให้ใช้รถในกรณีจำเป็นจริงๆ เท่านั้น เพราะถนนหลายสายถูกปิดเนื่องจากหิมะตกหนัก

นักพยากรณ์อากาศเตือนว่า อุณหภูมิที่จุดเยือกแข็งจะเปลี่ยนหิมะที่ละลาย ให้กลายเป็นน้ำแข็ง ซึ่งจะเป็นอันตรายมากขึ้น และคาดว่า อุณหภูมิจะเริ่มกลับสู่ระดับปกติ ภายในสุดสัปดาห์นี้ แต่เตือนว่า คลื่นความเย็นอีกระลอกจะพาดผ่านในสัปดาห์หน้า
รัฐบาลของเขตการปกครองสกอตแลนด์กล่าวว่า สามารถรับมือกับ สภาพอากาศที่หนาวจัดได้ เพราะมีเกลือและหินกรวดสำรองเพียงพอ ตลอดฤดูหนาวนี้

หน่วยอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติอังกฤษเตือนว่า หิมะและน้ำแข็งจะยังคงมีต่อไป จนถึงวันนี้ สำหรับสกอตแลนด์ ไอร์แลนด์เหนือ ทางเหนือและตะวันตก ของเขตการปกครองเวลส์ ทางเหนือของอังกฤษ และเขตภาคกลาง ของประเทศ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ออสเตรเลีย-อุทกภัยในนิวเซาท์เวลส์

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">[ 08-12-2553 ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">รัฐนิวเซาท์เวลส์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของออสเตรเลียเผชิญอุทกภัย ระลอกใหม่เมื่อวานนี้ ขณะหน่วยฉุกเฉินท้องถิ่นต่างๆ เตือนว่าจะเกิดฝนตกหนักอีก ตลอดช่วง 2 ถึง 3 วันข้างหน้า

ฝนในปริมาณถึง 100 มิลลิเมตรอาจตกในบางส่วนของรัฐนิวเซาท์เวลส์ คืนวันนี้และเช้าวันพรุ่งนี้ จากการพยากรณ์ของหน่วยฉุกเฉินรัฐนิวเซาท์เวลส์ -หน่วยอุตุนิยมวิทยารัฐนิวเซาท์เวลส์ก็พยากรณ์ว่า จะมีฝนตกหนักในวันนี้และวันพรุ่งนี้ และจะลดลงเล็กน้อยในวันศุกร์

การประกาศภัยพิบัติแห่งชาติครอบคลุมเขตรัฐบาลท้องถิ่นต่างๆ อย่าง นาร์ราบรี, วอลเก็ทท์,ฮันเตอร์บน,แบ็สส์ และลิธเกาว์ ทำให้จำนวนเขตทั้งหมด ที่ถูกประกาศให้เป็นเขตภัยพิบัติแห่งชาติเพิ่มเป็น 22 เขต

สตีฟ เพียร์ซ เจ้าหน้าที่จากหน่วยฉุกเฉินรัฐนิวเซาท์เวลส์เปิดเผยว่า ตอนนี้เรามีระบบแม่น้ำกว่า 12 ระบบ ที่ยังอยู่ใต้คำเตือนเรื่องน้ำท่วม หากฝนตกลงมาอีก สถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายไปอีก

ทหารถูกเรียกระดมมาช่วยเตรียมถุงทรายและตรวจเช็คบ้านเรือนประชาชน ในเขตต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งอพยพ รวมทั้งกัมลีกัมลี, วักกาวักกาตะวันออก และวักกาวักกาเหนือ

สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางนี้ กระตุ้นให้เกิดความกลัวว่า มูลค่าความเสียหายของพืชผลทางการเกษตร ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ จะสูงกว่า 2.9 หมื่นล้านบาท

รัฐนิวเซาท์เวลส์มีเนื้อที่ 8.9 แสนตารางกิโลเมตร และมีประชากร 7.1 ล้านคน มีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอก
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• อากาศเลวร้าย 3 ทวีป

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">[ 08-12-2553 ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">สภาพอากาศที่เลวร้ายได้ส่งผลกระทบทั่วโลกอย่างน้อย 3 ทวีป โดยอเมริกาเหนือเกิดหิมะตกหนัก ขณะที่อเมริกาใต้ และออสเตรเลีย เกิดฝนตกอย่างต่อเนื่อง

โดยที่รัฐนิวยอร์คของสหรัฐฯ เกิดหิมะตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยเฉพาะที่เมืองแรนดอล์ฟ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของรัฐ ประชาชนต้องใช้พลั่ว เก็บกวาดหิมะบนทางเท้าและถนนหน้าบ้าน รวมทั้งหลังคา หลังจากหิมะตก หนาถึง 4 ฟุต ซึ่งเป็นผลมาจากมวลอากาศหนาวเย็นเคลื่อนตัวผ่าน Great Lakes หรือทะเลสาบทั้ง 5 ของสหรัฐฯ ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่า จะมีหิมะตกลงมาอีก 5-9 นิ้ว ทางการสหรัฐฯ ต้องประกาศเตือนภัยหิมะ ทางตะวันตกของรัฐนิวยอร์ค และเมืองอีรี่ย์ รัฐเพนซิลเวเนีย

และที่โคลอมเบีย ประธานาธิบดีฮวน มานูเอล ซานโตส ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินถล่มที่เมืองเบโย่ ก่อนให้คำมั่นจะให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย และจะหามาตรการรับมือ และป้องกันอุบัติภัยที่จะเกิดในอนาคต นอกจากนี้ก็สั่งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ให้เร่งอพยพชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ออกจากพื้นที่หลังกรมอุตุนิยมวิทยา เตือนว่าจะมีฝนตกลงมาอีกจนถึงต้นปีหน้า

ขณะที่ปฎิบัติการกู้ภัยยังคงไม่ยุติ ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ขุดศพผู้เสียชีวิต ออกมาแล้ว 30 ศพ ยังติดอยู่ใต้ซากโคลนอีกเกือบร้อยคน ขณะที่ธนาคาร เพื่อการพัฒนาอเมริกาได้เสนอให้เงินช่วยเหลือ 350 ล้านดอลล่าร์ และนานาชาติก็ได้ช่วยเริ่มทยอยส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์มายังโคลอมเบียแล้ว

ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมครั้งเลวร้ายที่รัฐนิวเซาธ์เวลส์ของออสเตรเลีย มีทีท่าว่าจะเลวร้ายลงอีก หลังจากคาดว่าจะเกิดฝนตกหนักในวันนี้ และพรุ่งนี้ ส่งผลให้ทางการขยายพื้นที่ภัยพิบัติออกไปเป็น 22 พื้นที่ พร้อมส่งทหาร และอาสาสมัครกว่า 500 นาย เร่งก่อกำแพงทรายเตรียมรับมือแล้ว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• หิมะท่วมมหานครสำคัญในยุโรป

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"></TD><TD width="92%">[ 09-12-2553 ]


</TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">

</TD><TD width="93%">หลายมหานครสำคัญของยุโรปยังคงถูกปกคลุมด้วยหิมะหนา เนื่องจากคลื่นความเย็นที่พาดผ่าน

หิมะยังคงตกในกรุงเบอร์ลิน นครหลวงของเยอรมนี แม้จะมีอุณหภูมิสูงขึ้น เล็กน้อยจากช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาก็ตาม แม้ไม่มีปัญหาการจราจรเป็นอัมพาต แต่หน่วยอุตุนิยมวิทยาเยอรมนีก็เตือนผู้ขับขี่ยวดยานทั่วประเทศ ให้ระวังน้ำแข็งบนถนน

กรุงมอสโก นครหลวงของรัสเซีย หิมะแรกตกหนักตลอดช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา เด็กๆ พากันออกไปเล่นหิมะตามสวนสาธารณะต่างๆ ทั่วกรุง อุณหภูมิยังคงอยู่ต่ำกว่า 0 องศาเล็กน้อย ซึ่งแม้จะไม่สบายนัก แต่ก็ยังดีกว่าอุณหภูมิ -10 องศาเซลเซียส เทศบาลนครมอสโก ส่งขบวนรถกวาดหิมะ ออกไปปฏิบัติการกวาดหิมะออกจากท้องถนนในช่วงเช้า เพื่อช่วยให้การจราจรคล่องตัว เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า รถบรรทุกหลายพันคัน ขนหิมะกว่า 1.5 แสนลูกบาศก์เมตร ไปทิ้งยังบริเวณชานเมือง

หิมะที่ตกหนักในกรุงปารีส ฝรั่งเศส ทำให้ต้องปิดสนามบินนานาชาติชาร์ลส์ เดอ โกลล์ การท่าอากาศยานปารีส กล่าวว่า เที่ยวบินที่จะร่อนลงจอด และบินขึ้นจากสนามบินชาร์ลส์ เดอ โกลด์ ต้องงดเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะถึงเวลาประมาณ 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หิมะเปลี่ยนเป็น โคลนเหลวอย่างรวดเร็ว บนถนนสายต่างๆ ของกรุงปารีส ทำให้การจราจร หยุดชะงัก เครือข่ายการขนส่งแห่งชาติ RATP ของกรุงปารีส กล่าวว่า รถโดยสารประจำทางทั้งหมดในกรุงปารีส หยุดวิ่งให้บริการ เช่นเดียวกับรถโดยสารประจำทางในเขตชานเมืองหลายสาย เจ้าของร้านในกรุงปารีสเร่งกวาดหิมะที่ละลายเป็นโคลนออกจากทางเท้า ชาวกรุงปารีสและนักท่องเที่ยวต้องคอยระวังไม่ให้ลื่นล้ม หิมะที่ตกหนัก บ่ายวานนี้ ปกคลุมหอไอเฟล ถนนชองป์ เอลีเซ และชิงช้าสวรรค์ยักษ์ที่มาตั้ง สำหรับการฉลองวันหยุดคริสต์มาส บริเวณจัตุรัสคองคอร์ด ต้องปิดหอไอเฟล เป็นการชั่วคราว กรุงปารีสเผชิญกับสภาพอากาศหนาวผิดปกติ อุณหภูมิลดลง ต่ำกว่า 0 องศา ตลอดช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่คาดว่า สภาพอากาศจะดีขึ้นและอุณหภูมิจะสูงขึ้นในวันนี้

ขณะที่กรุงปารีสเผชิญกับอากาศหนาวจัด ภาคใต้ของฝรั่งเศส กลับมีอากาศร้อนอบอ้าว โดยมีอุณหภูมิพุ่งสูงขึ้นถึง 20 องศาเซลเซียส

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD width="1%"></TD><TD colSpan=2></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เกาหลีใต้ ยันพบการระบาดไข้หวัดนกอีกครั้ง

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"></TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น [ 09-12-2553 | 07:45:21 น. ]

</TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">

</TD><TD width="93%">เกาหลีใต้ ยืนยัน พบการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัย หลักของนกอพยพ

กระทรวงอาหาร เกษตร ป่าไม้ และประมง ของเกาหลีใต้ เปิดเผย วานนี้ (8) ถึงการตรวจพบเชื้อไวรัสไข้หวัดนกในฝูงนกป่า ที่แม่น้ำมางยอง (Mangyeong) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองอิกซาน จังหวัดชอลลาเหนือ ซึ่งทางกระทรวงฯ ได้ดำเนินการฆ่าเชื้อ อย่างเร่งด่วน บริเวณโดยรอบแม่น้ำ ดังกล่าวแล้ว และกำหนดให้พื้นที่ ในรัศมี 10 กิโลเมตร จากจุดที่พบ การแพร่ระบาด เป็นเขตควบคุม ซึ่งครอบคลุมฟาร์มไก่ 219 แห่ง และฟาร์มเป็ด 13 แห่ง

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• น้ำท่วมภาคกลางและใต้ของสเปน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">[ 09-12-2553 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายเขตของภาคกลาง และภาคใต้ของสเปน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน ประชาชนหลายร้อยคนต้องอพยพจากบ้านเรือน

เครือข่ายโทรทัศน์แห่งชาติ TVE ของสเปน รายงานว่า ชายวัย 31 ปีคนหนึ่งถูกฟ้าผ่าเสียชีวิตในเมืองอาร์โรโย เดล โอคันโก ของชุมชนปกครองตนเองคาเอ็น ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ เขาอยู่ในโรงนาตอนที่ฟ้าผ่าทะลุผ่านหน้าต่างบานหนึ่งเข้ามา และถูกเครื่องรับโทรทัศน์เครื่องหนึ่งทำให้เกิดระเบิดขึ้น

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบศพเด็กชายวัย 9 ขวบคนหนึ่งที่จมน้ำเสียชีวิต จากเหตุน้ำท่วมฉับพลันในเมืองอัลโมโดบาร์ เดล กัมโป ของชุมชนปกครองตนเองซิวดัดเรอัล ทางภาคกลาง

ขณะเดียวกันแม่น้ำเคนิลทางภาคใต้ก็ไหลท้นฝั่งในชุมชนปกครองตนเอง อันดาลูเซีย และไหลเข้าท่วมเมืองเอซีคาของชุมชนปกครองตนเองเซบียา ทำให้ต้องอพยพประชาชนออกจากบ้านเรือนประมาณ 1,000 หลัง ขณะที่หลายส่วนของศูนย์กลางของเมืองเก่าแก่แห่งนี้จมอยู่ใต้น้ำ ชาวเมืองเอซีคารวมพลังรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมนี้ หลังบ้านเรือน ร้านค้า บาร์ และทุกสิ่งจมอยู่ใต้น้ำ รวมทั้งรถยนต์ แม่น้ำเคนิลยังไหลท้นฝั่ง ในเมืองกอร์โดบา ของชุมชนปกครองตนเอง อันดาลูเซีย ทำให้ระดับน้ำสูง เป็นประวัติการณ์ถึง 7.30 เมตรในบางเขต ประชาชน 100 ครัวเรือน ในเมืองกอร์โดบาถูกอพยพ เนื่องจากเกรงว่าแม่น้ำอีกสายหนึ่งคือ แม่น้ำกวาดัลกุยบีร์จะไหลท้นฝั่ง ประชาชนอีก 150 ครอบครัวต้องอพยพ จากบ้านเรือนในเมืองโลรา เดลเรียว ในชุมชนปกครองตนเองเซบียาที่อยู่ข้างเคียง

ในเมืองเอซีคา เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนของเมือง ต้องใช้เครื่องสูบน้ำ และอุปกรณ์เคลื่อนย้ายซากปรักหักพังจากฝนที่ตกหนัก

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งขาติสเปน หรือ AEMET ออกคำเตือนให้ระวัง ฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ และหมู่เกาะคาเนรี ดินแดนปกครองตนเองของสเปนในมหาสมุทรแอตแลนติก
ในโปรตุเกส เพื่อนบ้านทางตะวันตกของสเปน เกิดเหตุพายุทอร์นาโดลูกหนึ่ง พัดถล่มเมืองโตมาร์และเมืองอื่นๆ ในภาคกลาง ทิ้งร่องรอย ความเสียหาย ยับเยินไว้เบื้องหลัง มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 30 คน เครือข่ายโทรทัศน์แห่งชาติ RTA ของโปรตุเกส รายงานว่า ผู้บาดเจ็บ ส่วนใหญ่เป็นเด็ก ในโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง ในเมืองโตมาร์ ที่ลมพัดจนหลังคาพังลงมาทับเด็ก
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เกิดน้ำท่วมหนัก ในหลายรัฐของออสเตรเลีย

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 09-12-2553 | 17:10 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">ที่รัฐ นิวเซาท์เวลส์ ฝนที่ตกหนักติดต่อกันในช่วง 10 วันที่ผ่านมา ทำให้หลายเมือง ต้องจมอยู่ใต้กระแสน้ำ ซึ่งนับเป็นอุทกภัยที่รุนแรงที่สุด ในรอบ 34 ปี โดยที่เมือง คีนเบยัน ทางการต้องประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ หลังระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักของเมืองเพิ่มสูงขึ้นจนเอ่อท้นตลิ่ง ส่วนที่รัฐ วิคตอเรีย เกิดน้ำท่วมหนัก และกระแสน้ำเชี่ยวกราก พัดร่างชายวัย 51 ปี ไปติดอยู่กับต้นไม้นานกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนที่ เจ้าหน้าที่จะช่วยเหลือไว้ได้ และที่รัฐ เซ้าท์ ออสเตรเลีย สถานการณ์น้ำท่วม และฝนตกเริ่มลดลง ชาวเมืองจึงทยอยเดินทางกลับเข้าบ้านเรือนแล้ว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• หิมะตกหนักที่ฝรั่งเศส

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%"> [ 09-12-2553 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">ฝรั่งเศสเป็นอีกประเทศในยุโรป ที่กำลังเผชิญกับสภาพอากาศเลวร้าย ในช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะที่กรุงปารีส หิมะที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้การเดินทางทั่วกรุงปารีสต้องกลายเป็นอัมพาตชั่วคราว นับเป็นหิมะตกหนักที่สุดครั้งหนึ่งของกรุงปารีส ในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา

สื่อโทรทัศน์ฝรั่งเศส เผยว่า หิมะที่ตกลงมาอย่างหนักทั่วกรุงปารีสเมื่อวานนี้ ถือว่าหนักที่สุด นับตั้งแต่ 1987 ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนและท้องถนน เต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน โดยเฉพาะ ผู้ที่กำลังเดินทาง เพราะระบบขนส่งทั้งทางบก และอากาศ ต้องประสบภาวะชะงักงัน โดยทางการสั่งปิดสนามบิน ชาร์ล เดอ โกลด์ ซึ่งเป็นสนามบินที่มีผู้คนพลุกพล่านที่สุดของฝรั่งเศส เป็นเวลานาน หลายชั่วโมง ทำให้เที่ยวบิน 1 ใน 3 จากสนามบินชาร์ล เดอ โกลด์ ถูกยกเลิก และอาจล่าช้าอีกหลายเที่ยวบิน ขณะที่การจราจรบนท้องถนนหลายสาย ในกรุงปารีส ติดขัดอย่างหนักเป็นประวัติการณ์

สำนักอุตุนิยมวิทยาฝรั่งเศส ได้ออกคำเตือนสภาพอากาศเลวร้าย เป็น ระดับสีส้ม หลังวัดปริมาณหิมะที่ตกลง สูงราว 10-15 เซ็นติเมตร และอาจจะ ต้องต่อเนื่องอีก รัฐมนตรีมหาดไทยของฝรั่งเศส วิงวอน ประชาชนจำกัด การเดินทางเท่าที่จะเป็นไปได้ ขณะเดียวกันได้ระดมเจ้าหน้าที่ป้องกันพลเรือน ราว 1 พัน 500 ถึง 2 พันนาย ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ขับขี่ยวดยาน ที่ติดอยู่บนถนน ท่ามกลางหิมะตกหนักและสภาพอากาศหนาวเย็น

นอกจากนี้ ระบบขนส่งมวลชนอย่างรถโดยสารประจำทาง หยุดให้บริการ รวมไปถึงปิดรับนักเที่ยวขึ้นไปเยี่ยมชมบนหอไอเฟล สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของฝรั่งเศสชั่วคราว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• หิมะตกหนักทั่วเยอรมนี

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%"> [ 10-12-2553 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">ฝนและหิมะที่ตกหนัก อุณหภูมิที่ลดต่ำลงถึงจุดเยือกแข็งสร้างความโกลาหล ด้านการจราจรขึ้นทั่วเยอรมนี มีรายงานอุบัติเหตุหลายร้อยครั้ง รถติดยาวหลายสิบกิโลเมตรบนทางหลวง

มีรายงานผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุหลายสิบคน รวมทั้งเกือบ 50 คน ในอุบัติเหตุกว่า 600 ครั้ง เฉพาะในรัฐนอร์ทไรน์-เวสต์ฟาเลีย เพียงรัฐเดียว มีผู้เสียชีวิต 1 คนในอุบัติเหตุรถชนในรัฐไรน์แลนด์ พาลาทีเนเทอ ทั้งสองรัฐอยู่ติดพรมแดนฝรั่งเศส
สนามบินนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ตทางตะวันตกถูกปิดนานกว่า 4 ชั่วโมง ตลอดคืนที่ผ่านมา หลังรันเวย์ลื่นเกินไปสำหรับการขึ้น-ลงอย่างปลอดภัย เตียงนอนและเก้าอี้ ค่ายพักแรมพิเศษถูกนำเข้ามาให้ผู้โดยสาร 2,000-3,000 คน ได้ใช้พักค้างคืนในอาคารผู้โดยสาร เนื่องจากเที่ยวบินถูกยกเลิก ขณะที่คนอื่นๆ ถูกส่งตัวไปพักตามโรงแรมท้องถิ่นต่างๆ

เมื่อเช้าวานนี้เกิดเหตุรถบรรทุกที่บรรทุกเหล็กกล้ามาเต็มคันพุ่งชนกำแพง ป้องกันเสียง ในเมืองมักเดบูร์ก-รีฟอร์ม ในรัฐซักโซนี-อันฮัลท์ ทางตะวันออกของเยอรมนี คนขับรถบรรทุกได้รับบาดเจ็บ ตำรวจเปิดเผยว่า รถบรรทุกพุ่งทะลุกำแพงป้องกันเสียง และบางส่วนของรถบรรทุกห้อยต่องแต่ง อยู่สูงจากพื้นขึ้นไปประมาณ 20 เมตร หรือ 65 ฟุต

ใกล้กับเมืองเลาเอ็นไฮม์ ของรัฐซักโซนี ประชาชน 4 คน ได้รับบาดเจ็บ หลังคนขับรถโค้ชสูญเสียการควบคุมรถ รถลื่นไหลตกลงไปในคูน้ำ

หิมะที่ตกหนัก อุณหภูมิที่ลดต่ำทำให้การจราจรอากาศเป็นอัมพาต ที่สนามบินนานาชาติเทเกิล ของกรุงเบอร์ลิน สำนักข่าว DNF ของเยอรมนีรายงานว่า หลายเที่ยวบินต้องเสียเวลา และเที่ยวบินกว่า 40 เที่ยวถูกยกเลิก

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• อินโดยันพบป่วยหวัดนก1หวัดใหญ่H1N1อีก1

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น [ 10-12-2553 | 08:44:28 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">อินโดนีเซีย ยืนยัน พบ ผู้ป่วยไข้หวัดนกรายใหม่ 1 ราย และผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ A/H1N1 อีก 1 ราย ในจังหวัดชวาตะวันตก

โฆษกของกระทรวงสาธารณสุขอิโดนีเซีย เปิดเผยวานนี้ (9) ว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดนก (สายพันธุ์ H5N1) รายใหม่ของประเทศ เป็นหญิงสาว อายุ 21 ปี โดยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลฮาซาน ซาดิกิน ในเมืองบันดุง ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจังหวัดชวาตะวันตก ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ส่วนผู้ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ A/H1N1 เป็นเด็กหญิงอายุ 7 ปี ซึ่งเข้ารับการรักษา ในโรงพยาบาลเดียวกัน แต่วันที่ 17 พ.ย.

ทั้งนี้ การพบผู้ป่วยรายใหม่ในครั้งนี้ ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยไข้หวัดนก ในอินโดนีเซีย เพิ่มเป็น 169 ราย ด้วยจำนวนผู้เสียชีวิต 138 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ A/H1N1 ในอินโดนีเซียอยู่ที่ 10 ราย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• หิมะตกที่กรีซ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%"> [ 12-12-2553 ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">คลื่นความเย็นที่พาดผ่านทำให้อุณหภูมิลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว และเกิดหิมะทั่วประเทศกรีซ ขณะที่ตุรกี หิมะที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้พื้นถนนลื่น เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์หลายจุด

ภายในเวลา 24 ชั่วโมง อุณหภูมิซึ่งเคยอยู่ในระดับ 17 องศาเซลเซียส ลดต่ำลงมาอยู่ที่ 2 องศาเซลเซียส ในกรุงเอเธนส์ ส่วนพื้นที่ตอนเหนือ ของกรีซ ติดลบ 8 องศา ขณะเดียวกันยังเกิดหิมะตก และมีลมพัดแรง ทั่วประเทศอีกด้วย จากอิทธิพลของลมหนาว ทำให้รถยนต์ และอาคารบ้านเรือนถูกปกคลุมได้ด้วย หิมะขาวโพลน และมีน้ำแข็งเกาะพื้นถนน นอกจากนี้มีรายงาน กระแสไฟฟ้าดับ ในบ้างพื้นที่ด้วย ขณะที่เส้นทางเดินเรือไปยังเกาะต่างๆ ต้องถูกยกเลิก เพราะลมแรงจัด แต่ดูเหมือนว่าหิมะที่ตกหนัก ได้ทำให้เด็ก ทางตอนเหนือ ของกรุงเอเธนส์ พากันสนุกสนานในการเล่นหิมะกับหิมะแรกของฤดูหนาว ด้านเจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยา เผยว่า คลื่นอากาศเย็นจะปกคลุมต่อเนื่องอีก 2-3 วัน แล้วอุณหภูมิจะเพิ่มขึ้น แต่ก็จะลดลงอีกในช่วงก่อนวันคริสต์มาส

ขณะที่ตุรกี สภาพอากาศเลวร้ายทั้งฝนตกและหิมะตก ทำให้ถนนลื่น เป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนหลายจุด โดยเฉพาะเส้นทางหลวง อังการ่า-อิสตันบูล มีรายงานรถยนต์ลื่นไถล พุ่งชนข้างทางหลายคัน เป็นรถยนต์ 8 คัน รถโค้ช 3 คัน และรถบรรทุก 6 คัน บางคันมีสภาพพังยับเยิน มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คน บาดเจ็บอีก 27 คน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• น้ำท่วมโคลอมเบียทล.กว่า20,000กม.เสียหาย

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น [ 11-12-2553 | 08:18:13 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">ทางหลวงโคลอมเบีย ระยะทาง ราว 20,000 กิโลเมตร ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วม รวมถึง ผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย และดินถล่มในปีนี้ อีกกว่า 200 ราย

ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักที่สุด ในรอบ 42 ปี ส่งผลให้ ประชาชนชาวโคลอมเบีย นับพันได้รับความเดือดร้อน พืชผล ไร่นาทางการเกษตรได้รับความเสียหาย ทั้งยังส่งผลให้เกิดดินถล่มปิดกั้นถนนหลายเส้นทาง ด้าน สำนักงานบรรเทา ภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวว่า พบผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วม และดินถล่ม ในปีนี้แล้ว กว่า 200 คน โดยรัฐบาลต้องแบ่งงบประมาณค่าใช้จ่าย เพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ ฝนฟ้าอากาส แล้ว ถึง 265 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• พายุฝนลมแรงและหิมะตกแถบตะวันออกกลาง

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 13-12-2553 | 05:01 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">คลื่นลมที่รุนแรง ได้ถาโถมเข้าใส่ชายฝั่งทะเล บริเวณอ่าวของเมืองดาฮับ ในแหลมโซไนของอียิปต์ ทำให้ประชาชนต่างพากันวิ่งหนี เพื่อเอาชีวิตรอด และคลื่นได้ซัดเข้าใส่ภัตตาคารหลายแห่ง จนได้รับความเสียหาย

ส่วนที่กรุงไคโรพายุทราย ได้พัดปกคลุมพื้นที่ของเมืองหลวง จนบดบังทัศนวิสัยการมองเห็น ส่วนเรือที่ให้บริการนักท่องเที่ยวตามลำน้ำไนล์ ก็ต้องงดให้บริการเป็นการชั่วคราว ขณะที่จอร์แดนก็เผชิญกับพายุทรายเช่นกัน แต่ที่ซีเรียกลับมีหิมะตกเป็นครั้งแรกในช่วงฤดูหนาว

ที่กรุงเบรุตของเลบานอนก็เผชิญกับพายุฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก จนก่อให้เกิดน้ำท่วม ถนนหลายสาย แต่บางพื้นที่ในเขตภูเขาที่ห่างไกล กลับมีหิมะตกลงมา จนต้องปิดการสัญจรไปมาตามท้องถนน นอกจากนี้ พายุยังทำให้ต้นไม้เป็นจำนวนมากหักโค่น ทำให้สตรีคนหนึ่งเสียชีวิต จากต้นไม้หักทับรถยนต์ของเธอ และส่งผลให้มีการเลื่อนเที่ยวบิน ทั้งขาเข้า และออกจากสนามบินในกรุงเบรุต นอกจากนี้แรงลมยังทำให้เครื่องบินเล็ก ที่ใช้สำหรับการฝึกได้เสียหายหนักถึง 4 ลำ

ส่วนดินแดนปาเลสไตน์พื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบจากพายุลมแรง และฝนตกหนัก ประกอบด้วยพื้นที่ในเขตเมืองกาซาในเขตฉนวนกาซา และพื้นที่เมืองรอมัลเลาะห์ ในเขตเวสต์แบงค์

ที่อิสราเอลสภาวะหมอก ยังปกคลุมไปทั่วนครเยรูซาเล็มและคลื่นลมแรง ส่งผลให้เรือคนส่งสินค้าลำหนึ่งของอิสราเอลอัปปางลงสู่ทะเล ทำให้ลูกเรือต้องพากันใช้เรือชูชีพลอยลำอยู่กลางทะเลอยู่เป็นเวลานาน ก่อนจะได้รับความช่วยเหลือจากเรือสินค้าของไต้หวัน แต่การช่วยเหลือก็ดำเนินไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากคลื่นลมที่รุนแรง

แต่ในอีกด้านหนึ่งพายุฝนครั้งนี้ ได้ส่งผลให้ภูมิภาคนี้ที่ร้อนระอุมาเป็นเวลา หลายสัปดาห์บรรเทาลงได้
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• แผ่นดินไหว6.2ริกเตอร์หมู่เกาะโซโลมอน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น [ 13-12-2553 | 09:56:47 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">แผ่นดินไหว 6.2 ริกเตอร์ บริเวณหมู่เกาะโซโลมอน ให้ติดตามข้อมูลจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ตรวจสอบเหตุแผ่นดินไหว เมื่อเวลา 08.14 น. บริเวณหมู่เกาะโซโลมอน ขนาด 6.2 ริกเตอร์ ศูนย์กลาง 6,060 กิโลเมตร ห่างจาก อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี คาดว่า ไม่มีผลกระทบต่อชีวิต และทรัพย์สิน และให้ติดตามข้อมูลจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ โทรศัพท์ 192 หรือ www.ndwc.go.th

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• พายุหิมะถล่มหลายเมืองของสหรัฐ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น [ 13-12-2553 | 07:53:19 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">สหรัฐ เจอภัยธรรมชาติเล่นงานอย่างหนัก พายุหิมะถล่มหลายเมือง การสัญจรเป็นไปด้วยความยากลำบาก

สำนักข่าวเอพี รายงานว่า พื้นที่หลายรัฐ ทางตะวันตก และตอนกลาง ค่อนไปตอนบนของสหรัฐ ประกอบด้วย มิสซูรี , นอร์ธ ดาโกตา , มินเนโซตา และวิสคอนซิน ต้องเผชิญภัยพายุหิมะถล่มอย่างหนัก หิมะตกคลุมหนาถึง 20 นิ้ว จนต้องปิดการจราจรถนนหลายสาย พร้อมกันนี้ มีรายงานเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน และรถลื่นตกถนนหลายคัน

ขณะที่ เมืองเล็กแถบริมแม่น้ำหลายเมืองในรัฐวอชิงตัน และพอร์ทแลนด์ รัฐโอเรกอน มีการเตือนภัยให้ประชาชน ระวังน้ำท่วม หลังเกิดพายุกระหน่ำอย่างหนักเช่นกัน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ภัยพายุหิมะและอากาศหนาวจัดในสหรัฐฯ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 13-12-2553 | 12:10 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">สภาพอากาศที่หนาวจัดและหิมะที่ตกปกคลุมอย่างหนักในพื้นที่ แถบตะวันตก ตอนกลางของสหรัฐฯ ทำให้การจราจรบนถนนหลวงหลายสาย ประสบปัญหาอย่างหนัก ขณะที่ในสนามบินเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ อิทธิพลจากลมแรง และหิมะ เป็นเหตุให้เที่ยวบินกว่า 1,400 เที่ยวต้องยกเลิก และอีกหลายเที่ยวบินต้องเลื่อนให้บริการ

ในเมืองมินเนอาโปลิสรัฐมินนิโซตา ผลกระทบจากหิมะตกหนัก ส่งผลให้ สนามบินภายในเมืองต้องปิดให้บริการ และทำให้หลังคาของสนามแข่งขัน อเมริกันฟุตบอลของทีมมินนิโซตา ไวกิ้งรับน้ำหนักไม่ไหว จนเกิดพังถล่มลงมาบางส่วน ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้พยายามตักเอาหิมะออกจากหลังคาเพื่อลดน้ำหนัก แต่ต้องหยุดดำเนินการ เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย

ทั้งนี้ ทางการสหรัฐฯ ยังได้ประกาศเตือนให้ประชาชนเตรียมรับมือพายุหิมะ ที่อาจพัดกระหน่ำรัฐอื่นในภูมิภาคเดียวกัน อย่างไอโอวา, มิชิแกนและวิสคอนซิน ซึ่งตอนนี้ก็กำลังเผชิญสภาพอากาศหนาวจัด และมีอุณหภูมิต่ำสุดถึงติดลบ 18 องศาเซลเซียส
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• แผ่นดินไหว 6.1 ริกเตอร์ เขย่า "ปาปัวนิวกินี"

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 13-12-2553 | 10:25 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">หน่วยสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐฯ รายงานว่าเกิดแผ่นดินไหว วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.1 ริกเตอร์ บริเวณนอกชายฝั่งของ ปาปัว นิว กินี เมื่อเวลาประมาณ 08.14 น. ที่ผ่านมาตามเวลาในประเทศไทย ซึ่งศูนย์กลางแผ่นดินไหวพบว่าเกิดขึ้นลึกลงไปใต้พื้นดิน 144 กิโลเมตร ห่างพื้นที่ชายฝั่งเมืองอาราวาไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 40 กิโลเมตร เบื้องต้นไม่มีรายงานความเสียหายจากแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น และไม่พบความเสี่ยงที่จะเกิดคลื่นสึนามิ เนื่องจากแผ่นดินไหวเกิดขึ้นลึกลงไปใต้พื้นดินค่อนข้างมาก
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• หิมะถล่มสหรัฐ , สภาพอากาศเลวร้ายตะวันออกกลาง

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%"> [ 13-12-2553 ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">พายุหิมะพัดถล่มทั่วพื้นที่ในเขตมิตเวสท์ ของสหรัฐ ทำให้ต้องปิดทางหลวง สายสำคัญในหลายรัฐ รวมไปถึงเที่ยวบินกว่าพันเที่ยวบิน ในชิคาโก้ และหิมะที่ตกหนัก ส่งผลให้หลังคาของสนามกีฬาในรัฐมินเนโซต้า พังถล่มด้วย

สำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐ ออกคำเตือนสภาพอากาศเลวร้าย ในนครChicago และหลายพื้นที่ทางตอนเหนือของรัฐ Illinois, Iowa, Minnesota, Wisconsin, Missouri, Michigan and North and South Dakota โดยอิทธิพลของพายุหิมะ ส่งผลให้เกิดหิมะตกหนักทั่วพื้นที่ โดยเฉพาะที่รัฐมินเนโซต้า วัดความหนาของหิมะที่ตกลงมา ตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่ผ่านมา วัดได้ 17.1 นิ้ว โดยหิมะที่ปกคลุมหนาทึบ ทำให้ หลังคาของสนามกีฬา Metrodome พังถล่ม เมื่อวานนี้ เคราะห์ดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ขณะเดียวกันรายงานระบุว่า ลมที่พัดแรงและหิมะที่ตกหนัก ส่งผลให้การจราจรบนท้องถนนและการเดินทางทางเครื่องบิน ประสบปัญหา ทางหลวงสายสำคัญในหลายรัฐ ต้องปิดเนื่องจากทัศนวิสัยเลวร้าย และเกิดอุบัติเหตุหลายจุด นอกจากนี้เที่ยวบินอย่างน้อย 1 พัน 375 เที่ยวบิน ที่สนามบินนานาชาติ O’Here และอีก 300 เที่ยวบินถูกยกเลิก จนกว่าสภาพอากาศอากาศดีขึ้น

ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวเนื่องกับหิมะตกหนักแล้วอย่างน้อย 4 ราย
ส่วนที่ตะวันออกกลาง กำลังเผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวน ทั้งพายุฝน, พายุทราย และหิมะตก

โดยหลายพื้นที่ของอิสราเอล ปาเลสไตน์ อียิปต์ ไปจนถึงเลบานอน ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากฝนตกหนัก และลมกระโชกแรง ทำให้เกิด น้ำท่วม และ ต้นไม้ เสาไฟจราจร หักโค่นล้มระเนระนาด ขณะที่อิยิปต์ และซีเรีย ประกาศปิดท่าเรือชั่วคราวด้วย เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย ทั้งพายุฝนและพายุทราย พัดถล่มต่อเนื่องเป็นวันที่สอง

ทั้งนี้ลมพายุที่พัดกระหน่ำในพื้นที่ตะวันออกกลาง ทำให้อุณหภูมิ ในหลายพื้นที่หนาวเย็นลง โดยยอดภูเขาของ Hemon ในที่ราบสูงโกลาน ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• พายุหิมะที่ตกลงมาขยายตัวครอบคลุมหลายพื้นที่ในหลายรัฐ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 14-12-2553 | 17:45 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">พายุหิมะยังคงโหมพัดผ่านภูมิภาค ตะวันตกตอนกลาง ของสหรัฐฯ ทำให้หลายพื้นที่ในรัฐ มินนิโซตา และ วิสคอนซิน มีหิมะทับถมหนากว่า 60 เซนติเมตรประชาชน ต่างพยายามตักหิมะออกจากบริเวณบ้านเรือนของ ขณะที่พายุหิมะได้เคลื่อนตัวต่อไปทางตะวันออก ทำให้เริ่มมีหิมะตกในรัฐ โอไฮโอ,เพนซิลวาเนีย, และนิวยอร์ค ส่วนที่นคร ชิคาโก รัฐ อิลลินอยส์ หิมะเริ่มตกเบาบางลงบ้างแล้ว แต่ยังคงมีลมโหมพัดแรงกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นเหตุทำให้หลังคาอาคารแห่งหนึ่งปลิวหลุด และส่งผลให้ทางการต้องสั่งยกเลิกเที่ยวบินกว่า 75 เที่ยว ทำให้ในช่วงสองวันที่ผ่านมามีการยกเลิกเที่ยวบินกว่า 1 พัน 600 เที่ยว

ขณะที่ภูมิภาคทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ก็กำลังเผชิญกับ ปัญหาหิมะตกหนักเช่นเดียวกัน โดยที่เขต มองโกเลียใน หิมะที่ตก อย่างต่อเนื่อง ได้ปกคลุมไร่นา บ้านเรือนและท้องถนนจนได้รับความเสียหาย ส่วนที่มณฑล เหลียวหนิง ทางการต้องสั่งปิดทางหลวง 18 สายและสนามบิน ต้าเหลียน จากผลของพายุหิมะที่เข้าถล่มเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้โดยสารตกค้างกว่า 3,000 คน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• หิมะตกครั้งแรกในรอบ 25 ปี ในกรุงดามัสกัส ซีเรีย

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%"> [ 14-12-2553 ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">หิมะปกคลุมทั่วกรุงดามัสกัส นครหลวงของซีเรีย ขณะที่ส่วนอื่นๆ ของประเทศที่มีประชากรกว่า 22.5 ล้านคนแห่งนี้ ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวเหน็บจากคลื่นความเย็นที่พาดผ่าน

โรงเรียน ร้านค้าและบริษัทหลายแห่งปิดชั่วคราวเนื่องจากหิมะตกหนัก

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติซีเรียเปิดเผยว่า เป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปีที่มีหิมะตกในกรุงดามัสกัส กรุงดามัสกัสมีประชากรกว่า 1.7 ล้านคน

ซีเรียเคยเผชิญกับภัยแล้งมาก่อน โดยเฉพาะในภาคตะวันออก ประชาชนกลัวว่าจะฝนจะไม่ตกต้องตามฤดูกาลในปีนี้

หิมะฤดูหนาวซึ่งพัดถล่มประเทศอื่นๆ ในตะวันออกกลาง อาทิ อียิปต์ เลบานอน และจอร์แดน สร้างความเสียหายหนักให้กับบางเขตของประเทศ เพราะไม่มีการเตรียมรับมือพายุฤดูหนาวลักษณะนี้มาก่อน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• หิมะตกหนักในรัฐอินดีแอนา สหรัฐฯ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%"> [ 14-12-2553 ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ต้องหาทางเข้าไปช่วยเหลือผู้ขับขี่ยวดยานกว่า 70 คน ที่ติดอยู่ในรถยนต์ตามทางหลวงที่อุณหภูมิลดต่ำลงกว่า 0 องศาเซลเซียส ในรัฐอินดีแอนา ในภาคตะวันตกตอนกลางของสหรัฐฯ ขณะพายุฤดูหนาวรุนแรงคร่าชีวิตประชาชนไปแล้วอย่างน้อย 11 คน

นายแอนดี ไฮเน็ก รองนายอำเภอเทศบาลมณฑลสเปอร์เต รัฐอินดีแอนา กล่าวว่า ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า มีประชาชนกี่คนติดอยู่กลางหิมะ แต่ทราบว่ามีบางคนติดอยู่ในนั้นนานกว่า 12 ชั่วโมงแล้ว

หิมะตกหนักที่ส่งผลกระทบต่อรัฐอินดีแอนาล่าสุดเป็นส่วนหนึ่งของพายุหิมะ ที่ค่อยๆ เคลื่อนไปทั่วภาคกลางของสหรัฐฯ ตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดหิมะตกหนักเกือบ 2 ฟุต หรือ 0.6 เมตร ก่อนจะเคลื่อนตัว ไปทางตะวันออก ทำให้เกิดหิมะตกหนักในบางส่วนของรัฐโอไฮโอ เพนซิลเวเนีย และนิวยอร์ก

รัฐอินดีแอนาได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยมีหิมะตกหนักถึง 16 นิ้ว หรือ 40 เซนติเมตรในบางเขต
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>