หลวงปู่เชย อมโร , พระเกจิเมืองจันทร์ , และคณาจารย์สายตะวันออก

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ทุเรียนทอด, 7 ตุลาคม 2010.

  1. atiwan_p

    atiwan_p เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +904
    พี่ๆท่านใด มีข้อมูล ลพ.โกย สำนักสงฆ์วัดป่าแดง ได้ข่าวว่าท่านเก่งทางเมตตามหาเสน่ห์
     
  2. หิมาลัย

    หิมาลัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +227
    ดิฉันเป็นคน จ.ตราด แต่มาทำงานอยู่ท่าใหม่ ติดตามอ่านมานานแล้วค่ะ รู้สึกกระทู้นี้ มีความรู้เยอะเลยล่ะค่ะ วันนี้ขอลองออกความเห็นบ้างนะคะ
    หลวงพ่อโกย วัดป่าแดง เป็นพระสายวิชา ด้านเสน่ห์เมตตา ส่วนใหญ่คนพื้นที่อื่นเก็บของท่านกัน แต่แปลก เคยถามคนท่าใหม่จริงๆกลับไม่ค่อยรู้จักท่าน
    หรือบางครั้งเราอาจเจอครูบาอาจารย์ที่ใช่แล้ว..!! สำหรับเรา เราก็อาจจะรู้สึกธรรมดากับเกจิท่านอื่นๆ ถึงแม้ว่าท่านเกจิองค์นั้นๆ อาจจะเก่งมากก็ตาม ก็เป็นเรื่องธรรมดา อีกอย่างพระเกจิอาจารย์ที่ จ.จันทบุรี มีดีๆ เก่งๆหลายองค์ อย่างเช่น หลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม , หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส , หลวงปู่ฟัก วัดเขาน้อย , หลวงปู่เชย เขาเจ้าหลาว ฯลฯ ก็เลยทำให้พระเกจิยุคหลังๆไม่ค่อยมีคนรู้จัก ประกอบกับชาวบ้านส่วนใหญ่ของพื้นที่ทำอาชีพเกษตรกรรม เลยอาจทำให้ไม่ค่อยได้รับข่าวสารวงการพระมากนัก
     
  3. หิมาลัย

    หิมาลัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +227
    ดิฉันเป็นคน จ.ตราด แต่มาทำงานอยู่ท่าใหม่ ติดตามอ่านมานานแล้วค่ะ รู้สึกกระทู้นี้ มีความรู้เยอะเลยล่ะค่ะ วันนี้ขอลองออกความเห็นบ้างนะคะ
    หลวงพ่อโกย วัดป่าแดง เป็นพระสายวิชา ด้านเสน่ห์เมตตา ส่วนใหญ่คนพื้นที่อื่นเก็บของท่านกัน แต่แปลก เคยถามคนท่าใหม่จริงๆกลับไม่ค่อยรู้จักท่าน
    หรือบางครั้งเราอาจเจอครูบาอาจารย์ที่ใช่แล้ว..!! สำหรับเรา เราก็อาจจะรู้สึกธรรมดากับเกจิท่านอื่นๆ ถึงแม้ว่าท่านเกจิองค์นั้นๆ อาจจะเก่งมากก็ตาม ก็เป็นเรื่องธรรมดา อีกอย่างพระเกจิอาจารย์ที่ จ.จันทบุรี มีดีๆ เก่งๆหลายองค์ อย่างเช่น หลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม , หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส , หลวงปู่ฟัก วัดเขาน้อย , หลวงปู่เชย เขาเจ้าหลาว ฯลฯ ก็เลยทำให้พระเกจิยุคหลังๆไม่ค่อยมีคนรู้จัก ประกอบกับชาวบ้านส่วนใหญ่ของพื้นที่ทำอาชีพเกษตรกรรม เลยอาจทำให้ไม่ค่อยได้รับข่าวสารวงการพระมากนัก
     
  4. magictao

    magictao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,118
    ค่าพลัง:
    +3,523
    รอเรื่องประวัติการสร้างพระกริ่งอยู่ครับคุณทุเรียนทอด
     
  5. The Outsider

    The Outsider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2010
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +311
    ท่านพ่อลี หลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม , หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส , หลวงปู่ฟัก วัดเขาน้อย , หลวงปู่เชย เขาเจ้าหลาว พ่อแม่ครูอาจารย์เหล่านี้เป็นที่พึ่งทางใจให้ชาวจันทร์มาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย และมีอายุคาบเกี่ยวมาถึงรุ่นปัจจุบัน ทุกท่านล้วนมรณภาพปี 253..กว่า 254.. กว่า และหลวงปู่ฟัก 2553 เว้นท่านพ่อลี มรณภาพปี2504 ชื่อเสียงที่ท่านสะสมมาอย่างยาวนานและความขลังของวัตถุมงคลได้รับการเล่าขานสืบต่อกันมาอย่างยาวนาน เรียกว่าพอโตมาเริ่มสนใจพระก็ต้องได้ยินชื่อพ่อแม่ครูอาจารย์เหล่านี้ อาจทำให้คนจันทร์ มีความผูกพันและไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงศรัทธา
    ผมคิดว่าน่าจะเป็นช่วงจังหวะและระยะเวลาท่านเพิ่งเริ่มเป็นที่รู้จัก อาจต้องใช้เวลาอีกซักระยะที่ญาติโยมเข้าไปกราบและเลื่อมใสในวัตรปฏิบัติของท่าน และวัตถุมงคลมีประสบการณ์ช่วยเหลือญาติโยมที่เดือดร้อนใจได้จริง ท่านก็น่าที่จะเป็นที่ศรัทธาของคนทั่วไปอย่างกว้างขวางต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2010
  6. ปัทมินทร์

    ปัทมินทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +1,393
    อยากทราบประวัติและเรื่องราวต่างๆของพระพิศาลธรรมคุณ วัดบูรพาพิทยาราม (วัดใหม่ เนินสูง) ต.เขาวัว ท่าใหม่จังครับ พี่ๆคนใดพอรู้โปรดนำมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ ขอบคุณครับ
     
  7. tatty

    tatty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    8,976
    ค่าพลัง:
    +8,225
    มีสมาชิกเรียกร้องประวัติเกจิองค์อื่นๆเพิ่มเติม อยากให้คุณวุธ จันทบุรี กูรูเกจิเมืองจันท์มาแจมจัง รู้สึกจะเป็นสมาชิกพลังจิตด้วยนี่นา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2010
  8. กวาวชไม

    กวาวชไม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2009
    โพสต์:
    4,336
    ค่าพลัง:
    +14,779
    รออยู่เหมือนกันครับสำหรับประวัติการจัดสร้างพระกริ่งและพระกริ่ง อิอิ รอมาหลายเพลาแล้วแต่เต็มใจรอครับท่านทุเรียนทอด
     
  9. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981


    ครับต้องขออภัยเป็นอย่างมาก ที่หาข้อมูลให้ล่าช้า พอดีมีหน้าที่สำคัญที่ต้องทำหลายเรื่องครับ จริงๆแล้วประวัติการสร้างพระกริ่งหลวงปู่เชยผมเองก็พอทราบมาบ้าง แต่ยังอยากหาข้อมูลเพิ่มเติมให้ได้มากที่สุด และยังติดเรื่องจำนวนสร้างว่ามีกี่ชุด กี่เนื้อ แต่เอาเป็นว่าเพื่อไม่ให้เป็นการให้รอคอยเนิ่นนานไปกว่านี้ เกรงว่าท่านอื่นๆก็คงอยากทราบเช่นกัน ผมก็จะขอลงข้อมูลคร่าวๆให้ทราบก่อน เดี๋ยวได้ข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อไหร่เดี๋ยวจะนำมาลงให้ได้ทราบกันอีกครั้งนะครับ...

    พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ อมโร...

    พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ อมโร หลวงปู่เชยได้อนุญาติให้จัดสร้างขึ้นเป็นกรณีพิเศษ โดยให้ทาง คณะศิษย์ที่ใกล้ชิดองค์หลวงปู่เป็นผู้จัดสร้าง เมื่อปี พ.ศ. 2543 เพื่อหารายได้สร้างพระสถูป-เจดีย์ เพื่อใช้บรรจุพระอัฐิธาตุของหลวงปู่เชย ตามเจตนารมณ์ของท่าน ซึ่งต้องใช้งบประมาณมากพอสมควร วัตถุมงคลดังกล่าวที่จัดสร้างมีดังต่อไปนี้

    1.พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ อมโร + เหรียญ(บาท)ขวัญถุง (รวม1ชุด)
    - เนื้อทองคำ.....ชุด
    - เนื้อเงิน.........ชุด
    - เนื้อนวะโลหะ...ชุด
    - เนื้อสัมฤทธิ์.....ชุด

    2.รูปหล่อลอยองค์(รุ่น3) ขนาดห้อยคอ
    -เนื้อเงิน..........องค์
    -เนื้อนวะโลหะ....องค์
    -เนื้อสัมฤทธิ์......องค์

    โดยพระทั้งหมดนี้ทางคณะศิษย์ทั้งหลาย ได้ช่วยกันหาชนวน-มวลสารต่างๆ มาร่วมในการหล่อครั้งนี้ อาทิ ตะกรุดรุ่นต่างๆของหลวงปู่เชย แผ่นยันต์อักขระ ตะกรุดจากพระเกจิอาจารย์ต่าง ชนวนพระกริ่งหลวงพ่อผล วัดเทียนดัด...ฯลฯ
    และในการนี้ หลวงปู่เชยได้เมตตาอธิษฐานจิตชนวนมวลสารทั้งหมดก่อน และได้จารแผ่นพระยันต์สำคัญต่างๆให้ เพื่อเอาไปหล่อหลอมในพิธีนี้
    พิธีการเททองหล่อพระกริ่ง-ชัยวัฒน์อมโร และรูปเหมือนลอยองค์(รุ่น3)ทุกเนื้อ ได้ประกอบพิธีกัน ณ บริเวณด้านล่างของอาศรมโดยมีหลวงปู่เชย อมโร เป็นประธานนั่งอธิษฐานจิต(เดี่ยว)

    พระกริ่ง-ชัยวัฒน์อมโร+เหรียญขวัญถุง ทุกเนื้อ ได้ทำการตอก โค๊ต(รูปเจดีย์) และ โค๊ต(เชย) ทุกองค์

    รูปหล่อลอยองค์ อุดผงยาผสมกับชันโรงใต้ฐานทุกองค์ ทุกเนื้อ ได้ทำการตอก โค๊ต(เชย) เช่นเดียวกัน

    วัตถุมงคลทั้งหมดนี้ หลวงปู่เชย อมโร ได้อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวเต็มที่ เป็นเวลาหนึ่งไตรมาสเต็มๆ เพื่อปราถนาให้เป็นวัตถุมงคลรุ่นสำคัญ ฝากไว้ให้กับลูกหลานได้จดจำ และน้อมนำไปสักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลตราบนานเท่านาน




    .
     
  10. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981

    สาธุ....เชิญคุณวุธ จันทบุรี แลกเปลี่ยนความรู้กับท่านสมาชิกทุกท่านได้เลยนะครับ




    .
     
  11. ปัทมินทร์

    ปัทมินทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +1,393
    มีสมาชิกเรียกร้องประวัติเกจิองค์อื่นๆเพิ่มเติม อยากให้คุณวุธ จันทบุรี กูรูเกจิเมืองจันท์มาแจมจัง รู้สึกจะเป็นสมาชิกพลังจิตด้วยนี่นา<!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หวังว่าจะมีสักคนเห็นโลโก้ผมแล้วเกิดธรรมานุสตินะครับ<!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย tatty : เมื่อวานนี้ เมื่อ 09:55 PM

    ครับคุณ tatty ผมเองก็เป็นสมาชิกด้วย ผมอยู่หน้าวัดบูรพาพิทยาราม (วัดใหม่ เขาวัว) แต่ไม่ทราบรายละเอียดประวัติของพระพิศาลธรรมคุณ เจ้าอาวาสองค์เก่าเลย ได้ยินจากคนละแวกใกล้วัด เล่าให้ฟังว่า "หลวงปู่สมชาย วัดเขาสุกิม, หลวงพ่อกล้วย วัดหมูดุด, หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า จะไปมาหาสู่กะท่านปู่พระพิศาลธรรมคุณบ่อยๆ ผมจึงอยากทราบข้อมูลที่พวกพี่ๆได้รับรู้มาแบ่งปันกันน่ะครับ ..
     
  12. wiraj

    wiraj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +1,620
    วันนี้ผมได้ข้อมูลหลวงปู่แช่มวัดบ่อพุมาแล้ว

    ท่านเป็นทั้งหลานและเป็นศิษย์หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง ผู้สืบทอดวิชาเบี้ยแก้จากหลวงปู่รอด วัดนายโรง

    หลวงปู่แช่มเป็นพระใจดี ผมเคยได้กราบและได้รับน้ำมนต์จากท่านเป็นประจำปีละ 2-3 ครั้ง คือทุกครั้งที่มีการตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง จะนิมนต์หลวงปู่ขึ้นนำขบวนแห่ ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ทุกปีใหม่ สงกรานต์ ออกพรรษา ท่านยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา

    การทำเบี้ยแก้นั้น ผู้อยากได้จะต้องเตรียมอุปกรณ์ไปเอง ได้แก่ เบี้ย ปรอท ตะกั่วทำ่ชา โดยในสมัยก่อนการคมนาคมติดต่อยังไม่รวดเร็วสดวกสบายเหมือนปัจจุบัน การรวบรวมของทั้งหมดทำได้ยาก เบี้ยนั้นต้องไปซื้อยกล่องมาจากชลบุรี ซึ่งหลวงปู่จะคัดเลือกเบี้ยที่ตรงตามตำรา เบี้ยที่ถูกคัดออกมีเกินครึ่ง ซื้อมา 1 กล่องใช้ได้ไม่กี่ตัว สมัยก่อนจึงใช้วิธีแบ่งกันหาของ บางคนมีเบี้ย บางคนมีตะกั่ว รวมกันเอาไปถวายหลวงปู่ แล้วค่อยเอามาแบ่งกัน

    ในเบี้ยแก้ของหลวงปู่ยุคดั้งเดิมนั้น จะมีตะกรุดตะกั่วดอกเล็กๆอยู่ข้างในด้วย แล้วใช้ชันโรงปิด ต้องเอาชันจากรังแมงลมที่ทำรังอยู่ใต้ดินเท่านั้น บนดินไม่ใช้

    หลังจากทำเบี้ยแก้เสร็จแล้ว คนที่ได้รับไปจะไปถักเชือกหุ้มเอง แล้วเอายางหมาก จากต้นที่กินแล้วยันมาทาหุ้มไว้ เพื่อเป็นเคล็ดตามตำราให้ยันของไม่ดีออกไป แล้วนำไปให้หลวงปู่ปลุกเสกอีกที

    เหรียญรุ่นแรกของหลวงปู่เป็นเหรียญอาร์มอันเล็กๆ มีประสบการณ์ด้านแคล้วคลาดคงกระพัน ออกปี 2514 ครับ
     
  13. tatty

    tatty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    8,976
    ค่าพลัง:
    +8,225
    คุณปัทมินทร์คือคุณวุธ จันทบุรีเหรอครับ? ผมจำได้ว่าคุณวุธ ใช้อีก user name นี่นา?
     
  14. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981

    สาธุ....ครับพี่ wiraj หายไปหลายวันนะครับ กลับมาพร้อมข้อมูลดีๆ อีกแล้วครับท่าน





    .
     
  15. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981
    :cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool:
    :cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool:
    :cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool:





    .
     
  16. The Outsider

    The Outsider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2010
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +311
    พระครูสวัสดิ์ธรรมพินิต(ใย สุวัฑฒิโก)
    วัดมะขาม ต.มะขาม อ.มะขาม จ.จันทบุรี

    โดยรณธรรม ธาราพันธุ์


    เมืองจันท์มีพระที่ได้รับคำยกย่องเป็น "ท่านพ่อ" อยู่ไม่กี่องค์ ที่รู้จักกันทั่วไปแม้มรณภาพไปนานแล้วคือ "ท่านพ่อลี ธัมมธโร" ซึ่งท่านได้ไปสร้างวัดที่เมืองจันท์นามว่า "วัดป่าคลองกุ้ง" ก็ด้วยข้อวัตรที่เคร่งครัด ปฏิปทาที่น่าเลื่อมใส และด้วยจิตตานุภาพที่เข้มขลัง คนจันท์จึงไม่เคอะเขินที่จะเรียกท่านว่า

    "ท่านพ่อลี"

    ก็ท่านพ่อลีนี้แหละทำให้ชาวไทยได้รู้จักกันว่าคนตะวันออกลงนับถือใครสุดใจ ก็ยกย่องเป็น "ท่านพ่อ" ซึ่งคล้ายคลึงกับคนใต้ หากนับถือใครจริง ๆ เขาจะถวายนามเป็น "พ่อท่าน" เช่น "พ่อท่านคล้าย" "พ่อท่านคลิ้ง" ฯลฯ

    บางทีผมก็หลง ๆ ไปเหมือนกัน

    เช่นเดียวกับคนเหนือ เคารพกันจริงเรียกเป็น "ครูบา" เช่น"ครูบาศรีวิชัย" "ครูบาพรหมา" ฯลฯ ส่วนภาคอีสานนับถือสุด ๆ ก็ว่า "ญาท่าน" หรือ "ญาพ่อ" หรือ "ญาคู" (ไม่ใช่ยาคูลท์นะ) แต่ภาคอีสานถ้าเรียกพระบวชใหม่ เขาเรียก ครูบา ฉะนั้นพระบวชใหม่ภาคอีสานหากไปเที่ยวเหนือกับญาติโยมทางอีสาน แล้วโยมเรียก "ครูบา..ครูบา" คนเหนือคงงงพิลึก

    โอ้ เก่งจัง หน้ายังเดะ เดะ อยู่เลย

    วันนี้ คนจันท์มีพระที่ได้รับสมัญญาว่าท่านพ่ออยู่สององค์ ที่ขึ้นชื่อลือชาคือ ท่านพ่อสมชาย ฐิตวิริโย วัดเขาสุกิม ต.เขาบายศรี อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ถ้าให้บรรยายสรรพคุณของท่านพ่อสมชาย

    เกรงจะเอาทุเรียนไปขายสวนทุเรียน

    กวนเก็บใส่ตู้เย็นไว้ก่อนดีกว่า

    แต่องค์นี้เชื่อแน่ว่า เอาทุเรียนไปขายสวนมะพร้าว

    ท่านพ่อใย สุวัฑฒิโก แห่งวัดมะขาม คน แดนมะขามถือท่านเป็นดุจเทพเจ้าแห่งอำเภอเลยทีเดียว คุณธรรมทั้งด้านการบริหารงานปกครองพระเณรและญาติโยม ยกให้ท่านเป็นหนึ่ง ด้านจิตตภาวนาก็ยกท่านเป็นหนึ่งได้อีกเช่นกัน

    เมื่อปี พ.ศ. 2534 ท่านพ่อใยอายุครบ 89 ปี ทางคณะกรรมการวัดมะขามได้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นมาใหม่อีกรุ่นมีทั้งรูป เหมือนบูชา ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว และ 5 นิ้ว มีทั้งพิมพ์นั่ง พิมพ์ยืน รวมถึงพระเครื่องมากมาย

    โดยท่านพ่อปลุกเสกแบบบินเดี่ยวในพระอุโบสถ ในงานนี้ไม่มีใครทราบล่วงหน้า พระราชสิงหคณาจารย์ หรือ หลวงพ่อแพ เขมังกโร วัดพิกุลทอง ต.พิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี ก็ เข้ามากราบเยี่ยมท่านพ่อถึงที่พัก ทั้งที่ท่านทั้งสององค์ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย ก่อนที่หลวงพ่อแพกำลังคุกเข่าจะก้มกราบนั่นเอง ท่านพ่อก็ลุกขึ้นคุกเข่าเช่นกัน ทันทีที่หลวงพ่อแพก้มกราบ ท่านพ่อก็กราบตอบ เลยกลายเป็นกราบคารวะใส่กัน เมื่อกราบเสร็จแล้วต่างองค์ต่างมองหน้าแล้วยิ้มน้อย ๆ อย่าง รู้กัน

    เมื่อทักทายจนเป็นที่พอใจแล้ว หลวงพ่อแพ ก็เข้าไปในโบสถ์ขึ้นนั่งบนธรรมาสนซึ่งปูอาสนะอยู่แล้ว จากนั้นก็เริ่มอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคลทั้งหมดที่อยู่ในนั้น

    น่าอัศจรรย์ไหมล่ะ

    ไม่ เคยรู้จักกัน ไม่เคยพบกัน แต่มาเยี่ยมกันโดยไม่ต้องนิมนต์ หลวงพ่อแพอ่อนพรรษากว่าพ่อท่านใย 3 พรรษา แต่เหตุไฉนท่านพ่อจึงต้องกราบหลวงพ่อแพในทันที อย่างนี้น่าจะเป็นเรื่อง...

    ...ของบุญบารมีกระมัง !

    ท่าน พ่อใยสร้างเหรียญรุ่นแรกเมื่อปี พ.ศ.2516 มีทั้งหมด 3 ชนิด คือเหรียญรูปเหมือนเสมาครึ่งองค์ เหรียญทรงกลมครึ่งองค์ และแหนบรูปท่านครึ่งองค์ทั้งหมดในปัจจุบันเป็นของหายากไปเสียแล้ว

    วัตถุมงคลอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ต้องอ้างกาลเวลาเพราะนับรุ่นไม่ได้นั่นคือ จุกยาฉุน จุกยาฉุนคือ ยาเส้นที่ท่านพ่อมักจะเอามาสีฟันแล้วเหน็บเอาไว้ที่ริมฝีปากบน นัยว่าทำให้ฟันทน แข็งแรง และปากหอม เป็นของแก้เหงาปากแทนหมากได้เป็นอย่างดี และของสิ่งนี้แหละที่สร้างชื่อเสียงให้กับท่านเป็นอย่างมาก

    เพราะ เมื่อยาจืดแล้วท่านตั้งท่าจะคายทิ้ง คนก็ตั้งท่าขอทันทีเหมือนกัน ครั้นเอาไว้แล้วก็เอาไปเลี่ยมแขวนกันด้วยถือว่าเป็นของขลังจากท่าน

    ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ

    หลาย คนถูกยิงไม่เข้า ถูกแทงถูกฟันไม่เข้า หมากัดไม่เข้า งูฉกแต่อ้าปากไม่ขึ้น เรื่องเหล่านี้มีพบเห็นบ่อย ๆ ในแถบอำเภอมะขาม จนข่าวขลังของ จุกยาฉุน แพร่หลายไปทั่ว ใครมาต่างก็ปรารถนาสิ่งนี้เป็นลำดับแรก กระทั่งกลายเป็นสัญญลักษณ์ของท่านไป ดุจเดียจกับพ่อหลวงสงฆ์ จันทสโร วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ที่มีจุกยาฉุนและน้ำปลาเป็นเอกลักษณ์

    ปัจจุบันนี้ ท่านพ่อใยไม่สามารถจะมอบจุกยาฉุนให้กับผู้มีศรัทธาได้อีกต่อไป เพราะท่านอาพาธด้วยโรคเกี่ยวกับสมองคล้ายกับหลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง แม้ท่านพ่อจะพูดไม่ได้ เดินเหินไม่ได้ก็ตาม แต่จิตของท่านหาได้ป่วยตามร่างกายไม่ จิต ท่านตื่นอยู่เสมอ รับรู้การไปมาของศิษย์ รับฟังถ้อยคำได้เป็นอย่างดี

    เพียงโต้ตอบด้วยคำพูดไม่ได้เท่านั้น

    คราว หนึ่งคุณอภิรักษ์ จุฬาศินนท์ กับผมได้ขึ้นไปกราบนมัสการท่านที่วัดมะขาม เมื่อคุณอภิรักษ์ได้เห็นรูปหล่อขนาดบูชา 5 นิ้วของท่านพ่อ ซึ่งสร้างในปี พ.ศ. 2527 อันเป็นรูปหล่อที่สวยงามและพิธีดีเยี่ยมรุ่นหนึ่งก็เกิดอยากจะเช่าไว้บูชา ตามประสาของคนมีน้ำใจคุณอภิรักษ์ก็โทรศัพท์หาอาจารย์เบิ้มเพื่อสอบถามว่าจะ เอารูปหล่อท่านพ่อไหม ?

    อาจารย์เบิ้มตอบกลับมาว่าเอา คุณอภิรักษ์จึงเลือกรูปหล่อขึ้นมา 2 องค์และโดยที่ผมไม่ทราบ คุณอภิรักษ์ได้จดจำตำหนิรูปหล่อไว้แล้วในใจเพื่อแยกแยะว่าองค์ไหนของเขา องค์ไหนของอาจารย์เบิ้ม ผมเองก็เช่าด้วยองค์หนึ่ง

    เมื่อเอารูปหล่อ ทั้งหมดไปถวายให้ท่านพ่อประสิทธิ์ประสาทให้ ท่านก็เอามือจับรูปหล่อทั้งหมดไว้นานพอสมควร แล้วท่านก็ยกขึ้นองค์หนึ่งยื่นมาข้างหน้า คุณอภิรักษ์ก็กรากเข้าไปรับรูปหล่อนั้นทันที ด้วยเข้าใจว่าเป็นองค์ของคุณอภิรักษ์เอง

    แต่ท่านไม่ปล่อย

    ประคองกันอยู่นานก็ไม่ปล่อยให้สักที คงถือค้างอยู่อย่างนั้น จนลูกศิษย์ท่านบอกกับผมว่า

    คุณรับจากท่านพ่อสิ

    ผมจึงยื่นสองมือเข้าไปรับ คราวนี้ท่านปล่อยอย่างง่ายดาย จากนั้นท่านก็หยิบขึ้นมาอีกองค์แล้วทำแบบเดิม คุณอภิรักษ์ก็เข้าไปรับ

    ปรากฏว่าปล่อยทันที !

    หยิบ มาอีกองค์ยื่นให้คุณอภิรักษ์ ท่านก็ปล่อยให้โดยดีอีกเช่นกัน เหตุนี้สร้างความสงสัยให้กับคณะเราอย่างมากว่า ทำไมท่านทำอย่างนั้น ? แต่แล้วความสงสัยก็มอดมลายกลายเป็นความศรัทธาอย่างถึงขีด เมื่อก้มลงพิจารณารูปหล่อตรงหน้าของตน

    เพราะรูปเหมือนแต่ละองค์ที่รับมานั้น คือ องค์ที่ทุกคนได้เลือกสรรไว้ในใจทั้งสิ้น

    องค์ แรกที่คุณอภิรักษ์เข้าไปรับแล้วท่านไม่ให้คือของผม องค์ที่สองที่ท่านให้คุณอภิรักษ์เป็นของคุณอภิรักษ์เอง และองค์ที่สามที่ยื่นให้เป็นของอาจารย์เบิ้ม

    อย่างนี้น่าจะเรียกว่ารู้วาระจิตใช่หรือไม่ ?

    ไม่ ว่าจะวิจารณ์ไปเช่นไร ผลก็คือความเคารพศรัทธาในท่านพ่อใยเกิดขึ้นมาแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย จากเดิมที่มีอยู่ 90 เปอร์เซ็นต์ คงเป็น 100 เต็มในวันนั้นเอง

    ทุก วันนี้เครื่องมงคลของท่านพ่อซึ่งมีอานุภาพ พอจะคุ้มให้ท่านทั้งหลายได้อย่างแน่นอนยังคงมีตกค้างอยู่ที่วัด ท่านพ่อเองแม้จะพูดคุยไม่ได้ แต่ท่านยังคงทรงสังขารวัย 95 ปีให้เราได้เคารพ กราบไหว้บูชาอยู่ที่วัดเช่นกัน

    ขอขอบคุณ คัดลอกบทความของ อาจารย์รณธรรม ธาราพันธุ์ http://www.navaraht.com/forum/forum15/topic3681.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2010
  17. ปัทมินทร์

    ปัทมินทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +1,393
    คุณปัทมินทร์คือคุณวุธ จันทบุรีเหรอครับ? ผมจำได้ว่าคุณวุธ ใช้อีก user name นี่นา?

    ผมไม่ใช่คุณวุธครับ ... ^ ^ คุณtatty
     
  18. wiraj

    wiraj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +1,620
    พระเกจิอาจารย์ที่เป็นที่เคารพของชาวท่าใหม่อีกรูปหนึ่งคือท่านพ่อเงิน วัดหนองโพรง

    ท่านเป็นพระยุคเก่ามาก ก่อนท่านพ่อจิ่ม ตอนผมเด็กๆมีคุณยายที่ตลาดท่าใหม่คนหนึ่งอายุเกือบเก้าสิบปี คุณยายท่านนี้เคยได้รับการเป่าหัวจากท่านพ่อเงิน ท่านเล่าให้ฟังว่าตอนเด็กๆพ่ออุ้มท่านใส่บาตรท่านพ่อเงิน ท่านร้องไห้ไม่หยุด ท่านพ่อเงินจึงเป่าหัวให้ แล้วท่านก็ไม่เคยเจ็บป่วยเลย มาป่วยครั้งเดียวก่อนเสียชีวิต คือป่วยหนักครั้งเดียวแล้วตายเลย

    คุณยายท่านนี้เสียไปแล้วประมาณ 20 กว่าปี ตอนเสียอายุเกือบร้อย แสดงว่าท่านพ่อเงินก็คงอยู่ในช่วง 100 กว่าปีที่แล้ว ก็น่าจะประมาณหลวงปู่ผุด วัดวังเวียนนะครับ
     
  19. wiraj

    wiraj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +1,620
    วัตถุมงคลของท่านพ่อเงินเป็นเหรียญและรูปหล่อขนาดเล็กซึ่งสร้างในปี 2512 หลังจากท่านมรณภาพไปแล้ว โดยจัดสร้างในโอกาสที่สร้างรูปหล่อบูชาขนาดเท่าองค์จริงขึ้นที่วัด

    การพุทธาภิเษกในสมัยนั้น มีหลวงพ่อทองอยู่ วัดหนองใหม่พะอง เป็นประธาน มีหลวงปู่โป๊ะ วัดสีสะเกด(ไม่รู้สะกดถูกหรือเปล่า) หลวงปู่อิน วัดลาด หลวงพ่อหนุน วัดเสม็ดโพธิ์ศรี(ดังมากเรื่องคงกระพัน) หลวงพ่อรวย วัดท่าเรือ เป็นต้น พระเกจิประมาณ 9-11 รูป

    พิธีนั้นเป็นที่เล่าขานของชาวท่าใหม่ เพราะในสมัยก่อนปลุกเสกพระจะทำตอนหัวค่ำและทำไปเรื่อยจนสว่าง การปลุกเสกจะทำแบบมหาอุตม์คือปิดประตูหน้าต่างทั้งหมด ในคืนนั้นเกิดพายุใหญ่ ลมพัดแรงจนหน้าต่างโบสถ์ที่ปิดไว้กลอนหลุด หน้าต่างเปิดออกลมกระแทกพังไปหลายบาน เหรียญและรูปหล่อรุ่นนี้มีประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์แก่ชาวท่าใหม่ทุกคน

    ช่วงหลังๆนี้มีการเข้าใจผิดว่ารูปหล่อบูชาท่านพ่อเงินหน้าตักประมาณ 5 นิ้วซึ่งมีรุ่นเดียวนี้สร้างในปี 2512 ซึ่งไม่ใช่นะครับ รูปบูชานี้ทำประมาณช่วง2526-2530 ผมไม่แน่ใจ แต่จำได้แน่ๆว่าอยู่ในช่วงนี้ เพราะผมยังไม่ได้เข้าไปเรียนในกรุงเทพ และยังได้เข้าร่วมพิธีด้วย มีหลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า มาร่วมพิธี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2010
  20. wiraj

    wiraj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +1,620
    ลุงจิต เจ้าของร้านทองไฉ่กี่ในตลาดท่าใหม่เล่าให้ผมฟังว่า สมัยท่านบวชที่วัดหนองโพรงนั้น มีเพื่อนพระรูปหนึ่งป่วยกระเสาะกระแสะตั้งแต่ยังไม่บวช ไปหาหมอทั้งแผนปัจจุบันแผนโบราณมาหลายที่ยังไม่หาย

    อยู่มาวันหนึ่ง ท่านพ่อเงินได้เข้าพระรูปหนึ่งในวัดแล้วบอกว่า ท่านคือท่านพ่อเงิน จะมาช่วยรักษาให้ ท่านสั่งให้ต้มน้ำในหม้อให้เดือด แล้วบอกว่าบนหลังตู้บนวิหารแดงมีเหรียญอยู่ให้หยิบมาใส่น้ำต้ม จากนั้นท่านพ่อเงินที่อยู่ในร่างพระรูปนั้นลงไปข้างล่าง เก็บหญ้ามามัดเป็นปล้องๆ เสกคาถาแล้วบอกให้พระอีกรูปหยิบเหรียญในน้ำเดือดๆขึ้นมา พระรูปนั้นใจกล้ามาก จุ่มมือลงไปในน้ำเดือดหยิบขึ้นมาจริงๆ มือไม่เป็นอะไรเลย ไม่พอง ไม่ร้อน

    หลังจากนั้นท่านใส่หญ้าเสกลงต้มด้วย แล้วบอกให้พระที่ป่วยนั้นดื่มยานั้นทุกวัน ดื่มหนึ่งวันแกะหญ้าออกหนึ่งปล้องจนหมดปล้องหญ้า

    หลังจากนั้นพระองค์นั้นก็หายป่วยจากที่เรื้อรังมาหลายปี ชาวท่าใหม่ทุกคนนับถือท่านมากครับ ผมเองตอนเป็นเด็กไปไหว้ท่านเอาน้ำมนต์ล้างหน้ารดหัวทุกครั้งตั้งแต่เด็กจนสอบEntrance ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...