แอ่วเหนือ รับลมหนาว ชมตำนานเมืองแป้

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย titawan, 16 พฤศจิกายน 2010.

  1. titawan

    titawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2008
    โพสต์:
    2,290
    ค่าพลัง:
    +5,139
    [​IMG]

    อุณหภูมิ ที่กำลังลดต่ำลงเรื่อยๆ ในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศช่วงนี้ เป็นเหมือนสัญญาณบอกให้นักท่องเที่ยวทุกคนรู้ว่า ลมหนาวในภาคเหนือพร้อมต้อนรับนักเดินทางที่รอเวลานี้มานานกว่าค่อนปี ถ้าใครยังคิดไม่ออกว่าจะไปเดินเล่นรับอากาศหนาวของปีที่จังหวัดไหน และเบื่อกับความวุ่นวายของผู้คนในจังหวัดท่องเที่ยวยอดฮิต จังหวัดแพร่ จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการไปรับลมหนาวในปีนี้

    จังหวัดแพร่ เป็นเมืองท่องเที่ยวภาคเหนือที่มีทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ พุทธศาสนา ธรรมชาติ สถาปัตยกรรม และวิถีชาวบ้านที่น่าสนใจไม่แพ้จังหวัดอื่นๆ เพราะนอกจากลมหนาวที่พัดมาทักทายเป็นประจำตามฤดูกาลแล้ว ความเงียบสงบจากวิถีการดำเนินชีวิตของผู้คน ก็เป็นเสน่ห์อีกหนึ่งอย่างที่ทำให้เมืองแพร่เป็นเมืองสำหรับการพักผ่อน ที่ใครได้มาเยือนแล้วคงต้องติดใจ

    ถ้ามีโอกาสได้มาเที่ยวยังเมืองแพร่แนะนำให้ใช้วิธีการชมรอบเมืองด้วยกิจกรรม นั่งสามล้อ ผ่อบ้านเก่า เล่าขานตำนานเมืองแป้ ซึ่ง นับเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นอย่าง ดี ทุกคนจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศของเมือง ด้วยการแนะนำจากไกด์กิติมาศักดิ์อย่างคนปั่นสามล้อ โดยคนปั่นสามล้อที่นำนักท่องเที่ยวชมเมืองนั้น จะรู้เรื่องแหล่งท่องเที่ยวในตัวเมืองเป็นอย่างดี พร้อมสามารถเล่าให้เราฟังคร่าวๆก่อนเข้าไปศึกษาในสถานที่จริงได้

    มาเที่ยวเมืองแพร่ในครั้งนี้นอกจากจะมีโอกาสนั่งสามล้อชมเมืองแล้ว ยังได้เดินทางเข้าไปยังสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย เริ่มจากเป้าหมายแรกที่รถสามล้อปั่นมาจอดที่ วัดหลวง วัดเก่าแก่คู่เมืองแพร่ที่ชาวบ้านทุกคนต่างให้ความนับถือ อีกทั้งยังเป็นวัดที่รวบรวมเรื่องราวต่างๆที่น่าสนใจไว้ตามจุดต่างๆมากมาย ทั้ง วิหารหลวงพลนคร วิหารเก่าแก่สร้างพร้อมกับการสร้างเมืองแพร่ภายในประดิษฐานพระเจ้าแสนหลวง

    ทางด้านหลังมี พระธาตุหลวงไชยช้างค้ำ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุที่นำมา จากหงสาวดี ใกล้กันเป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์วัดหลวง (พิพิธภัณฑ์เมืองแพร่) เป็นสถานที่รวบรวมพระพุทธรูปเก่าแก่หลายองค์ที่มีอายุเกือบ 500 ปี และโบราณวัตถุต่างๆของเมืองแพร่ จุดสะดุดตาอีกแห่งคือ หอวัฒนธรรม เมืองแพร่ สร้างด้วยไม้สักทองอายุ 200 ปี เป็นที่เก็บรวบรวมศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านมากมาย และด้านข้างเป็น คุ้มพระลอ บ้านไม้หลังกะทัดรัด จัดแสดงตัวอย่างบ้านแบบล้านนาโบราณ เหมาะสำหรับคนที่หลงใหลในความงามของบ้านไม้เก่า

    ชมความงามทางประวัติศาสตร์ที่วัดหลวงได้สักพัก ก็ได้เวลาเดินทางกันไปต่อที่ วัดสระบ่อแก้ว สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2419 เดิมชื่อ วัดจองกลาง เป็นศิลปะแบบพม่าที่สวยงามแปลกตา ทั้งศาลาการเปรียญ โบสถ์ และเจดีย์ มีพระพุทธรูปหินอ่อนทรงเครื่องแบบพม่า ใครที่ได้มายลความงามของวัดแห่งนี้เป็นครั้งแรกรับรองต้องชอบและรู้สึกทึ่ง ในการออกแบบของช่างฝีมือชาวพม่า

    นอกจากความสวยงามและความศักสิทธิ์ของพระอุปคุตที่ชาวบ้านนับถือแล้ว วัดสระบ่อแก้วยังมีประเพณีสำคัญที่น่าสนใจอย่าง ประเพณี “ตักบาตรเป็งปุ๊ด”(ตัก บาตรเที่ยงคืน) ในทุกวันพุธที่ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ ประเพณีนี้ได้รับอิทธิพลมาจากพม่า เนื่องจากชาวพม่า รวมทั้งชาวไทลื้อ เชื่อว่าพระอุปคุตจะมาโปรดชาวเมืองก่อนเวลารุ่งอรุณ ชาวบ้านจะตื่นแต่ดึกเตรียมอาหารมาใส่บาตรพระอุปคุตจะทำให้ชีวิตรุ่งเรือง ด้วยโชคลาภ คลาดแคล้ว จากอุบัติภัยทั้งปวง

    หลังจากไหว้พระทำบุญในวัดคู่เมืองทั้งสองแล้ว สามล้อก็ปั่นกันมาต่อที่ บ้านวงศ์บุรี บ้านไม้สักสองชั้น แบบยุโรปประยุกต์ โดดเด่นด้วยสีชมพูสะดุดตา ลวดลายไม้แกะสลักที่หน้าจั่ว ชายคา ระเบียง ช่องลม ชายน้ำ หน้าต่าง และประตู ซึ่งเป็นบ้านอาศัยของ หลวงพงษ์พิบูลย์ และแม่เจ้าสุนันทา ภายในบ้านตกแต่งด้วยสิ่งของเครื่องใช้เก่าแก่ของตระกูลที่ถ่ายทอดกันมาหลาย ชั่วอายุคน

    ปัจจุบันได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเพราะเป็นสถานที่ศึกษาความรู้ทาง ประวัติศาสตร์ และมีมุมสวยงามสำหรับถ่ายรูปมากมาย การันตีได้ด้วยการเคยใช้ถ่ายทำหนังและลงหนังสือต่างๆมาแล้วมากมาย และยังเคยได้รับรางวัลอนุรักษ์ดีเด่น ปี 2536 ของสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์มาแล้ว

    แดดร่มลมตกสามล้อปั่นและการเดินทางชมเมืองแพร่ก็ยังดำเนินต่อไป โดยจุดหมายถัดมาอยู่ที่สถานที่สำคัญและเป็นไฮไลท์ของเส้นทาง คุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ คุ้มแห่งนี้เป็นอาคารโอ่โถง มีประตูหน้าต่างทั้งหมด 72 บาน งดงามด้วยลวดลายไม้แกะฉลุ ตัวอาคารสร้างด้วยอิฐ ถือปูนทั้ง 2 ชั้น ไม่มีการฝังเสาเข็มแต่ใช้ไม้ซุงท่อนเป็นไม้เนื้อแข็ง ในอดีตใช้เป็นที่คุมขังทาสบริวารที่ทำผิดร้ายแรงและลหุโทษ

    คุ้มนี้สร้างขึ้นโดยเจ้าหลวงพิริยะชัยเทพวงศ์ ซึ่งเป็นเจ้าผู้ครองเมืองแพร่องค์สุดท้าย จากนั้นได้ถูกมอบหมายให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ ดูแลรักษาและบริหารจัดการ เพื่อบริหารจัดการบำรุงรักษาและพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้ และเคยใช้เป็นที่ประทับแรมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เมื่อคราวที่เสด็จมาเยี่ยมเยียนราษฎรจังหวัดแพร่

    หนาวนี้ถ้าเริ่มเบื่อกับการขึ้นดอยกางเต้นท์รับลมแล้ว ลองมานั่งสามล้อกับบรรยากาศสบายๆ แล้วมารับลมหนาวแรกของปีที่เมืองแพร่ดูสักครั้ง.

    สอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวเมืองแพร่เพิ่มเติมติดต่อ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานแพร่ (พื้นที่รับผิดชอบ แพร่ น่าน อุตรดิตถ์) โทร 0 5452 1118 , 05425 9907

    ใต้หล้า

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  2. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    สวย ๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ...............
     
  3. ทหารเก่า

    ทหารเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    3,027
    ค่าพลัง:
    +19,019
    อยากไปแอ๋วแต่ไม่มีเงินซื้อหวยก็ไม่ถูกแต่อยากไป มากจริงๆค่าใช้จ่ายไปแอ๋วสูงสงสัยอด แป่ววววววว(cry)
     
  4. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    [​IMG]
    นี่เลยค่ะ งดงามจริงๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...