ฮือฮารอยปริศนาบนหลังคารถ เชื่อเป็นรอยพญานาคมารับองค์กฐิน

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 12 พฤศจิกายน 2010.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,173
    [​IMG]


    ฮือฮารอยปริศนาบนหลังคารถ เชื่อเป็นรอยพญานาคมารับองค์กฐิน ชาวบ้านจุดธูปเทียนกราบไหว้


    เมื่อวันที่ 11 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีชาวบ้านร่ำลือว่าพบรอยประหลาดคล้ายงูเลื้อยปรากฏบนหลังคาเก๋งรถกระ ของ นายสฤษดิ์ วิเศษแก้ว อายุ 50 ปี ชาวบ้านปลาปาก ต.ปลาปาก อ.ปลาปาก จ.นคพรนม โดยเจ้าของได้นำรถไปเก็บไว้ในวัดของหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านที่ทราบข่าวแห่ไปกราบไหว้ขอโชคลาภ เนื่องจากเชื่อว่าเป็นรอยพญานาค จึงได้เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง พบชาวบ้านจำนวนมากแห่กราบไหว้บูชา ซึ่งเป็นรอยลักษณะคล้ายงูเลื้อย เป็นเกล็ดซ้อนกัน ความยาวประมาณ 40 เซนติเมตร อยู่บนหลังคารถยนต์กระบะ ยี่ห้อนิสสัน บิ๊กเอ็ม สีเขียว ทะเบียน บก 4978 นครพนม ที่เจ้าของนำไปจอดไว้ในวัด เพราะไม่กล้าที่จะนำไปขับ โดยชาวบ้านได้พากันดอกไม้ธูปเทียน พร้อมผ้าผืนแพรวา ไปกราบไหว้บูชา เพราะเชื่อว่าพญานาคได้มาปรากฏร่องลอยให้เห็น ถือเป็นโชคลาภตามความเชื่อของชาวอีสาน นอกจากนี้ชาวบ้านยังบอกว่าได้พบเต่าอีก จำนวน 1 ตัว อยู่ใต้ท้องรถ จึงนำมาเก็บบูชาไว้ด้วยกัน ซึ่งชาวบ้านที่แห่มาขอโชคลาภ ได้ขอบูชารูปภาพถ่ายรอยพญานาคไปเก็บรักษาไว้เพื่อเป็นสิริมงคลด้วย

    นายโอกาส พิมราช อายุ 33 ปี ญาติเจ้าของรถ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว นายสฤษดิ์ วิเศษแก้ว อายุ 50 ปี ได้นำรถคันดังกล่าวไปจอดไว้ที่บริเวณ ร้านอาหารของตัวเอง ใกล้กับโรงพญาบาลอำเภอปลาปาก จากนั้นพอถึงรุ่งเช้าได้พบเห็นเต่าอยู่ใต้ท้องรถ จึงจับไว้เพื่อจะนำไปปล่อย พอมองดูที่หลังคาเก๋งรถพบรอยประหลาดคล้ายงูเลื้อย เป็นลายเกล็ดซ้อน จึงเรียกญาติมาดู เชื่อว่าเป็นรอยพญานาคที่มาปรากฏให้เห็น และถือเป็นโชคลาภตามความเชื่อของชาวอีสาน จึงได้นำรถคันนี้มาจอดไว้ในวัด เพราะไม่กล้านำไปใช้ จะต้องนำมาทำพิธีสวด ตามความเชื่อขอคนอีสานก่อน พอชาวบ้านทราบข่าวต่างพากันแห่มาดู บางคนขอบูชาภาพถ่ายกลับไปบูชาที่บ้านเป็นสิริมงคล

    สำหรับลักษณะร่อยลอยนั้นถือว่าแปลกมาก เชื่อว่ายากที่จะทำขึ้นมาเอง หรือเป็นสัตว์ชนิดอื่น แต่หากเป็นงูกลับไม่มีรอยเลื้อยลงจากรถ ถือเป็นรอยแลปกมาก ส่วนเต่าเชื่อว่าเป็นการแสดงปรากฏการณ์ขึ้นด้วยกัน พอทำพิธีกราบไหว้เสร็จก็จะนำไปปล่อย และที่สำคัญเหตุการณ์ครั้งนี้ถือเกิดขึ้นเชื่อว่า เป็นการแสดงปาฏิหาริย์ เพราะในวันที่ 13 พ.ย. นี้ ทางอำเภอปลาปาก จะมีพิธีทอดกฐินพระราชทาน ที่โรงพยาบาล ที่ไม่เคยมีมาก่อน จึงถือว่าพญานาคที่อยู่ในสระน้ำใกล้โรงพญาบาลมาแสดงปาฏิหาริย์รับองค์กฐิน อย่างไรก็ตามชาวบ้านต่างเชื่อว่าเป็นสิริมงคลแก่อำเภอปลาปาก



    Daily News Online > หน้าภูมิภาค > ตื่นรอยพญานาคบนหลังคารถ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • l15.jpg
      l15.jpg
      ขนาดไฟล์:
      19.9 KB
      เปิดดู:
      3,967
  2. ทิพย์ปทุโม

    ทิพย์ปทุโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +2,471
    รอยนี้ถาวร หรือจางหายไปเองตามกาลเวลา??? ไม่เคยเห็นของจริง เห็นแต่ภาพถ่ายจึงมีคำถามเกิดขึ้นในใจค่ะ
     
  3. ...คนสู้กรรม...

    ...คนสู้กรรม... เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +967
    ไม่อยากสรุปนักนะครับ ว่าที่แท้แล้วเป็นร่องรอยของอะไรกันแน่? เพราะหากเป็นรอยของพญานาคจริง ก็คงจะเป็นอะไรที่เป็นมงคลมากๆนะครับ แต่ถ้าไม่ใช่... ป่านนี้เจ้าของรอยนั้นคงจะหัวเราะกันจนฟันร่วงแล้ว จากการกระทำของมนุษย์ ที่เห็นอะไรประหลาดๆเป็นต้องกราบไหว้ไปซะหมดเช่นนี้
     
  4. kors111

    kors111 kor

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +10
    ใช้ครับ:cool:
     
  5. prosper

    prosper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    201
    ค่าพลัง:
    +383
    ค่อนข้างจะเชื่อค่ะ แต่อย่างว่านะขึ้นอยู่ที่ตัวบุคคล ความศรัทธาของแต่ละบุคคลมันหลากเหตุผล
     
  6. พิชญากร

    พิชญากร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    909
    ค่าพลัง:
    +5,260
    ....น่าจะมีนักวิทยาศาสตร์หรือนักสัตว์วิทยา ออกมาประกาศหรือให้ความรู้ว่า มันเป็นรอยอะไร เห็นมีมานานแล้วแต่ก็ไม่เห็นมีใครออกมาให้ความรู้แก่ผู้คนว่า เป็นสัตว์อะไรมีรูปภาพมาแสดง เพื่อที่จะได้เข้าใจกันเสียที ถ้าเป็นงู ก็บอกมาเลยว่า งูประเภทไหน ถึงมีรอยแบบนี้ หรือสัตว์อะไรก็ว่า พอรู้แล้วคนก็จะได้เข้าใจไม่แปลกตื่นเห็นเป็นของแปลก
    .... แต่ที่ไม่มีใครออกมาให้ความรับรอง เพราะมันสิ่งที่หาสาเหตุหรือหลักฐานอะไรมายืนยันไม่ได้ใช่ไหม ว่าสิ่งที่เห็นคืออะไร? ปล่อยให้เป็นตามความเชื่อของแต่ละบุคคลไป
    บางทีวิทยาศาสตร์ก็พิสูจน์อะไรไม่ได้ทุกอย่างสินะ
     
  7. Pelagia

    Pelagia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,198
    เห็นบางคนคาดว่ามันน่าจะเป็นรอยของผีเสื้อกลางคืนที่หงายหลังตกลงไปบนรถที่มีฝุ่น แล้วมันกระพือปีกพยายามกลับตัว
     
  8. pinitko

    pinitko เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    264
    ค่าพลัง:
    +291
    นี่รอยพญานาคผมว่ารอยงูเหลือมยังใหญ่กว่าเลย ผมว่าพญานาครอยไม่เล็กแค่นี้หรอครับผมคิดว่าพญานาคลำโตต้องใหญ่มาก
     
  9. roop&nam

    roop&nam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +215
    เคยเห็นรอยคล้ายแบบนี้บนโคลนที่ริมแม่น้ำแห่งหนึ่งเป็นแม่น้ำไม่ใหญ่มากนักความกว้างแม่น้ำประมาณ 8-10 เมตร ได้แต่สงสัยแต่ก็ไม่ได้บอกใครให้รู้หรือไปดู อาจเป็นแค่รอยสัตว์บางชนิด
     
  10. konngaam

    konngaam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2008
    โพสต์:
    615
    ค่าพลัง:
    +369
    ไม่มีคนกล้าออกมาพูดหรอกครับ เรื่องความเชื่อแบบนี้ มันไม่ใช่เรื่องของความเชื่อของคนน้อยๆ ก็แบบเดียวกับบั้งไฟพญานาคที่มีคนพยามพูดแต่ก็ไม่มีใครฟังกัน
     
  11. pagorn

    pagorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +2,848
    ถ้าเชื่อในพระพุทธศาสนาก็จงเชื่อเถิดว่าพญานาคมีจริง !!!
    ดังบทพาหุงมหากาบทนี้ที่กล่าวถึงพญานาคนาม

    นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง
    ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต
    อิทธูปะเทสะวิธีนา ชิตะวา มุนินโท
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ
    พระจอมมุนี ได้เอาชนะพญานาคราช ชื่อ นันโทปนันทะ ผู้มีความรู้ผิด มีฤทธิ์มาก ด้วยวิธีบอกอุบายให้พระโมคคัลลานเถระพุทธชิโนรส แสดงฤทธิ์เนรมิตกายเป็นนาคราช ไปทรมานพญานาค ชื่อ นันโทปนันทะ นั้น,
    ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแด่ท่าน ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้นเถิดฯ
    อนุโมทนา.
     
  12. LungKO

    LungKO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    590
    ค่าพลัง:
    +925
    <table class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="alt2">คนบางส่วนเชื่อว่าเป็นรอยพญานาค
    เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2553 เวลาประมาณ 5 โมงเย็น กระผมลุงโก (มหาโกศล) อุ้มหลานไปตามถนนเคิร์กแฮ่ม จนถึงบ้านเลขที่ 421-423 ตัดกับถนน 8 - 9
    (8-9th. Ave. and Kirkham,San Francisco, USA. มีต้นเชอรรี่กำลังออกดอกสวยงาม ในเมืองซาน ฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ได้พบรอยแปลก ๆ อยู่หน้าบ้านหลังหนึ่งเก่า ๆ คล้าย ๆ ไม่มีคนอยู่ ถ้าเป็นคนไทย-คนลาว หรือชาติอื่น ๆบางกลุ่มก็จะคิดว่าเป็นรอยพญานาค
    โดยเฉพาะแฟนผมเชื่อดังนั้น เพราะก่อนที่กระผมจะเห็นรอยดังกล่าวนี้ คืนก่อนเธอฝันว่ามีผู้ชายแต่งตัวปอน ๆ เธอถามว่าบ้านอยู่ไหน นายคนนั้นบอกว่าอยู่ใกล้ๆแถวนี้แหละ ซึ่งรอยที่เห็นก็อยู่ไม่ไกลจากบ้านลูกชาย คือห่างกันประมาณ 10 หลังคา มาหา มาขอเป็นแฟนเธอ เธอปฏิเสธ แต่นายคนนั้นก็ดื้อรั้นไม่ยอม จะเอาเธอไปให้ได้ เธอตกใจก็จึงตื่น. กรุณาอย่าซีเรียส นะครับ ส่งมาให้ชมเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ สวัสดีปีใหม่ไทยเรา ขอให้ท่านพญานาคช่วยคุ้มครองทุกท่าน ให้โชคดีมีชัย สุขกาย สุขใจ ตลอดไป ตลอดกาลเทอญฯ
    ครั้งแรกมีหลายรอยอยู่ (รูปที่2) ครั้งแรกเมื่อ13 เมษา 53 ผ่านไป
    ปรากฏมีครั้งที่ 2 อีก มีรอยมากกว่าเดิม 10 เท่า เมื่อช่วงวันวิสาขะบูชา (26-29 พฤษภา 2553 ช่วงนี้ รูปที่ 4-5) (รอยเก่า ๆ เริ่มหายไป) และหลังจากนั้น เมื่อวันที่ 17 สิงหา 2553 มีมากอีกกว่าครั้งที่ 2 อีก ครั้งที่ 3 นี้ นับไม่หวาดไม่ไหว ดังที่เห็นในรูปตัวอย่าง(รูปที่6-7) หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 10-13 ตุลาคม 2553 ก็เห็นอีกมีมากกว่าเดิมจริง ๆ (ภาพที่ 8-9) ดังที่เห็น นี่แหละครับ</td> </tr> <tr> <td class="alt1" id="picturebits"> <table style="width: 164px; height: 168px; margin: 5px; float: left;" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="smallfont" align="center" valign="middle"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table><table style="width: 164px; height: 168px; margin: 5px; float: left;" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="smallfont" align="center" valign="middle"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table><table style="width: 164px; height: 168px; margin: 5px; float: left;" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="smallfont" align="center" valign="middle"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table><table style="width: 164px; height: 168px; margin: 5px; float: left;" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="smallfont" align="center" valign="middle"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table><table style="width: 164px; height: 168px; margin: 5px; float: left;" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="smallfont" align="center" valign="middle"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table><table style="width: 164px; height: 168px; margin: 5px; float: left;" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="smallfont" align="center" valign="middle"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table><table style="width: 164px; height: 168px; margin: 5px; float: left;" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="smallfont" align="center" valign="middle"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table><table style="width: 164px; height: 168px; margin: 5px; float: left;" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="smallfont" align="center" valign="middle"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table><table style="width: 164px; height: 168px; margin: 5px; float: left;" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="smallfont" align="center" valign="middle"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> <tr> <td class="tfoot smallfont" align="center"> Add Pict</td></tr></tbody></table>
     
  13. pagorn

    pagorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +2,848
    [​IMG]
    เนื้อความ :

    หลวงตา... ถามเรื่องอะไรก็ไม่รู้ เราอ่านไม่คอยชัด ลองอ่านดูซิเป็นยังไง

    โยม... กราบเท้าพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่เคารพยิ่ง ขณะนี้สังคมไทยกำลังสับสนและถกเถียงกันเรื่องบั้งไฟพญานาค มีการสัมภาษณ์ คนลาวบอกว่าไม่มีใครดูบั้งไฟพญานาคเหมือนอย่างคนไทย นอกจากนั้นบริษัทแกรมมี่ยังทำภาพยนตร์เกี่ยวกับบั้งไฟพญานาค โดยเน้นที่บั้งไฟ ว่าพระลาวเป็นผู้ทำขึ้นมากกว่าข้อสันนิษฐานอย่างอื่น ข้าน้อยคิดว่าความเชื่อเรื่องบั้งไฟพญานาค มีผลต่อความเชื่อในศาสนาพุทธเกี่ยวกับภพภูมิต่าง ๆ ที่ตาเนื้อมองไม่เห็น รวมทั้งเรื่องตายแล้วเกิด และเรื่องกฎแห่งกรรม จึงขอให้พ่อแม่ครูบาอาจารย์โปรดกรุณาตอบเรื่องบั้งไฟพญานาค เพื่อให้เป็นหลักฐานแก่คนทั้งโลกได้ยินในครั้งนี้ด้วย ด้วยจิตคารวะ พนอ ภู่สน

    หลวงตา... อันนี้เราก็เคยอธิบายมาแล้วตั้งแต่ยังไม่ถามปัญหานี้ขึ้นมา เรื่องกฎแห่งกรรม เรื่องตายแล้วสูญ นี่เราเทศน์แทบทุกวันละมัง อันนี้มันล้วนแล้วตั้งแต่เรื่องของกิเลสหลอกสัตว์โลกที่เป็นนักเกิดตายด้วยกัน ไม่มีใครด้อยกว่ากัน การเกิดการตายนี้เป็นนัก นักเกิดนักตายมาทั่วหน้ากันหมด จำนวนการเกิดของตัวเองแต่ละคน ๆ นี้มีจำนวนเท่าไร ๆ นับมา เกิดมากี่กัปกี่กัลป์นับไม่ได้เลยด้วยกัน แต่กิเลสหูหนวกตาบอดมันก็มาบีบหูบีบตาคนเราซึ่งเป็นนักเกิดนักตายด้วยตัวเองนั้นแหละ ให้เชื่อตามมันว่า ตายแล้วสูญ นี่คือความโกหกของกิเลส ฝั่งของกิเลสว่าตายแล้วสูญจากใจดวงเดียวกัน ส่วนฝั่งของธรรมนั้นตายแล้วเกิดตลอดกัปตลอดกัลป์มา แล้วยังจะต้องตายแล้วเกิดต่อไปอีกถ้าเชื้อแห่งความเกิดยังไม่สิ้นซากจากจิตใจ แล้วความเกิดจะเกิดต่อไปตลอด ไม่มีต้นมีปลายเช่นเดียวกัน นี้คือหลักความจริงแห่งธรรม

    กิเลสมันไม่ได้พิสูจน์อะไรมันหลอกเอาเลย ว่าตายแล้วสูญ ๆ ลบล้างพวกเราที่เป็นนักเกิดนักตายตลอดสัตว์ทั้งหลายทั่วหน้ากันหมด ไม่มีงดเว้นว่าใครตายแล้วยังอยู่ไม่สูญ มีแต่ตายแล้วสูญ นี้เป็นโวหารของกิเลสหลอกลวงต้มตุ๋น หรือลูบหน้าปิดตาของสัตว์โลกให้เชื่อตามมันว่าตายแล้วสูญ นี่คือฝั่งของกิเลส ทีนี้ฝั่งของธรรม คำว่าฝั่ง ใจนี้เทียบเหมือนกับแม่น้ำลำคลอง ฝั่งทางนี้เป็นฝั่งกิเลสลบล้างอรรถธรรมความจริงทั้งหลาย ฝั่งข้างนี้เป็นฝั่งของธรรม ลบล้างตัวจอมปลอมคือกิเลสที่มันหลอกลวงโลกมาตลอดเวลาให้หายซากไป ทรงไว้แต่ความจริงล้วน ๆ เท่านั้น

    ทีนี้ฝั่งของกิเลส สัตว์โลกทั้งหลายที่ตายเกลื่อนมานี้นับกัปนับกัลป์ไม่ได้ แล้วยังจะเป็นอย่างนี้ต่อไปอีกนับไม่ได้อีกเหมือนกัน กิเลสมันก็ลบล้างว่าตายแล้วสูญ นี่คือฝั่งของกิเลสตัวหลอกลวงสัตว์โลก ทีนี้ฝั่งของธรรมตายแล้วเกิด เพราะเหตุไร ทำไมถึงว่าตายแล้วเกิด กิเลสทำไมถึงว่าตายแล้วสูญ สูญเพราะเหตุไร กิเลสไม่มีเหตุผลว่าสูญเฉย ๆ สูญเพราะเหตุไรตอบไม่ได้ แต่ธรรมนี้ว่า ตายแล้วเกิด เกิดเพราะเหตุไรธรรมนี้พิสูจน์ได้เลย คืออวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา ฝังอยู่ในหัวใจสัตว์ ให้พาไปเกิดไปตายอยู่ตลอดมา ทีนี้เวลาธรรมนี้ชะล้างสิ่งปิดบังทั้งหลายให้สัตว์ทั้งหลายหลงงมงายว่า ตายแล้วสูญนี้ออกตามหลักความจริงว่าตายแล้วเกิดด้วยธรรม คือให้สะอาดสะอ้านภายในจิตใจ

    ชำระล้างจิตใจเข้าไปเรื่อย ๆ เฉพาะอย่างยิ่งด้วยจิตตภาวนา อันนี้เห็นชัดเจนร้อยเปอร์เซ็นต์ อย่างอื่นพิสูจน์ได้ยาก และพิสูจน์ไม่เห็นไม่มีทาง แต่เรื่องจิตตภาวนาออกจากหลักพุทธศาสนาของเราด้วยแล้วร้อยทั้งร้อย พิสูจน์เข้าไปจะไปเห็นตัวจริง ตัวที่เป็นเงาติดอยู่ในจิต พาให้สัตว์เกิดสัตว์ตายได้แก่ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา เป็นต้น นี้แลตัวแทรกอยู่ในตัวจิต เป็นเงาอยู่ในตัวจิต แต่ทำลายตัวจิต หมุนตัวจิตให้เกิดให้ตายไม่มีเวลายับยั้งหรือหยุดยั้งได้เลย คือตัวนี้เอง เวลาภาวนาเข้าไป นี่เราพูดให้นักภาวนาได้พิสูจน์ด้วยว่า อยากจะเห็นเรื่องนี้ให้ภาวนา ทำจิตใจให้มีความสงบเย็น ใจของเราวุ่นวายส่ายแส่ มีแต่กิเลสผลักดันออกไปให้คิด ให้ปรุงฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมไม่มีวันเข็ดหลาบอิ่มพอ หมุนอยู่อย่างนั้นตลอดไป นี้คือฝั่งของกิเลสลากสัตว์โลกให้เป็นเพื่อความลุ่มหลงตลอดไป

    ทีนี้ทำจิตที่มันวุ่นวายทั้งหลายนี้ให้เข้าสู่ความสงบ เอ้า ความสงบเราจะเอาอะไรมาเป็นเครื่องกำกับใจของเราก็ได้ เช่น อย่างทางพุทธศาสนานี้ การที่จะนำคำบริกรรมมาเป็นที่เกาะที่ยึดของจิตนี้มีมากต่อมาก เช่น ท่านว่ากรรมฐาน ๔๐ ห้องมีได้ทั้งนั้น แต่เราจริตนิสัยชอบในบทใด เช่น ที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้เป็นจำนวนมากก็คือว่า พุทโธบ้าง ธัมโมบ้าง สังโฆบ้าง อานาปานสติบ้างหรือว่ามรณัสสติ เป็นคำบริกรรมติดอยู่กับใจ นึกบริกรรม หรือว่าเราตาย ๆ อย่างนี้ก็ได้ หรือมรณัสสติว่าความตาย ๆ อยู่กับเราทุกคนอย่างนี้ก็ได้ ให้มีสติกำกับดูอยู่ในนั้น จิตของเราจะค่อยสงบลง ๆ พอจิตสงบลงแล้วเราจะเริ่มเห็นรากฐานของใจที่ตัวเงามันพาให้เกิดให้ตายคือ อวิชชา เราจะเริ่มเห็นเป็นลำดับลำดา

    จิตใจมีความสว่างไสวขึ้นเท่าไรก็ยิ่งจะเห็น ทั้งตัวของเราทั้งเงาที่เป็นภัยต่อเราอีกเป็นลำดับ จนกระทั่งพิจารณาชำระซักฟอกหมดเงาของกิเลสได้แก่ อวิชฺชายเตฺวว อเสสวิราคนิโรธา สงฺขารนิโรโธ เรื่อยไปเลย ทีนี้เมื่ออวิชชาดับภายในจิตใจแล้ว สังขาร วิญญาณ นาม รูป ดับหมด นี้แลเข้าถึงจิตที่ตัวตายแล้วเกิด ตายแล้วสูญ รู้ตัวนี้ แต่เวลาจิตได้เข้าถึงนี้แล้วเรียกว่า คำว่าตายแล้วเกิด ตายแล้วสูญหมดปัญหาไปเลย เหลือแต่ธรรมธาตุล้วน ๆ ปรากฏอยู่ภายในจิตใจ นี่ไม่มีเกิดไม่มีตาย ธรรมชาติที่เลิศเลอคือธรรมชาตินี้ ที่กิเลสมันต้มมันตุ๋น มันตีเสียแหลกว่าตายแล้วสูญ ๆ ไสสัตว์ให้ไปเกิดนรกอเวจี ที่ไหน ๆ เกิดหมดตายหมด ได้รับความทุกข์เพราะกิเลสหลอกด้วยกันทั้งนั้น ทีนี้พอกิเลสตัวนี้ตายแล้ว เรื่องตายแล้วสูญมันก็ไม่มี เพราะมันไม่เคยมี กิเลสหาเรื่องเฉย ๆ มีแต่ตายแล้วเกิด เมื่อชำระตัวตายแล้วเกิดนี้ออกหมดแล้ว ถึงความบริสุทธิ์เต็มที่แล้ว ทุกขํ นตฺถิ อชาตสฺส ทุกข์ย่อมไม่มีแก่ผู้ไม่เกิด ไม่เกิดก็ไม่ตายอันเดียวกัน แล้วจะมีทุกข์มาจากไหน นี่พูดถึงเรื่องอะไรที่ถามปัญหานี่ลืมแล้วนะ อย่างนั้นนะ

    โยม... บั้งไฟพญานาคครับ

    หลวงตา... อย่าเอามายุ่งบั้งไฟพญานาคนั่น ให้พูดถึงนี้ ที่มันพันหัวใจเราอยู่เดี๋ยวนี้มันอะไร บั้งไฟพญานาคไม่ไปหาพัน เราไปพันมันต่างหาก

    โยม... เกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิด

    หลวงตา... เออ นี่ละ ตายแล้วเกิด เกิดแล้วตาย ธรรมพิสูจน์อย่างนี้ แล้วจะเห็นตายแล้วไม่สูญ อมตะไม่ตายด้วย มีเท่านั้น มีอะไรอีกล่ะ

    โยม... ตกลงว่ามีบั้งไฟพญานาคจริง หรือว่าคนไทยถูกคนลาวหลอก คือหนังสือพิมพ์และไอ ที วี เขาไปทำสกู๊ปข่าวว่า ที่ไปดูบั้งไฟกันเป็นแสน ๆ เป็น ๕-๖ ปีมานี้ ที่ทำเนี่ย เขาว่าคนไทยนี้โง่ คือคล้าย ๆ กับคนไทยโง่เพราะฝั่งลาวไม่มีใครดูกัน เป็นทหารลาวเขายิงปืนส่องแสง ยิงปืนนำวิถีค่ะ ฉลองเทศกาลพญานาค แล้วคนไทยก็ฉลองเทศกาลออกพรรษา ไอ ที วี เขาทำข่าวว่า คนไทยที่ไปดูนั้นคล้าย ๆ กับเป็นคนโง่งมงายเจ้าค่ะ ทีนี้สังคมไทยก็ถกเถียงกันมาตั้งแต่งานบั้งไฟ จนบัดนี้หนังสือพิมพ์ยังเถียงกันอยู่

    หลวงตา... เราจะตัดสินนะ ทางลาวว่าคนไทยเราโง่ใช่ไหม ที่ไปดูบั้งไฟนะ ถ้าคนลาวไม่ไปดู คนลาวโง่ที่สุดเลยเข้าใจไหม เอาตรงนี้เลย เอาตรงนี้ละซิ ทำไมเขาดูกันทั้งประเทศเมืองไทย ทำไมไม่ดูถ้าไม่โง่เกินไป ก็มีเท่านั้นแหละ

    โยม... เขาบอกว่าทหารลาวยิงปืนเจ้าค่ะ

    หลวงตา... นี่หมัดหยอกเล่น เข้าใจไหม ไอ้เรื่องโง่มันโง่ด้วยกันทุกคน ฉลาดด้วยกันทุกคนนั่นแหละ เข้าใจไหม แต่เรื่องบั้งไฟมันมีหมัดรับหมัดต่อย ก็ต่อยกันไปอย่างนั้น ไม่พูดละเรื่องนี้ช่างมันเถอะ มันมีอยู่ทั่วไป ไปหาดูวับ ๆ แวม ๆ อยู่ตามริมแม่น้ำโขง ฟาดขึ้นฟ้าดูพระอาทิตย์ ถ้าไม่กลัวตาแตกดูทั้งวันก็ได้ มันยากอะไร ไปหาเกาในที่ไม่คัน อุ๊ย.ยังไงกัน เอาจุดมันสำคัญ ๆ นี่ ที่เทศน์วันนี้เป็นคติเข้าใจไหม ตายแล้วเกิดตายแล้วสูญ พิสูจน์จิตดวงนี้ จ้าขึ้นมาแล้วคำว่าตายแล้วเกิดตายแล้วสูญหายทันทีเลย เหลือตั้งแต่ธรรมอันเลิศเลอ คือธรรมธาตุของจิตดวงนี้บริสุทธิ์แล้ว ไม่มีคำว่าเกิดว่าตายเข้าไปแทรกเลย นั่น ธรรมตัดสิน ตัดสินอย่างนี้แหละ ก็มีเท่านั้นแหละ
    Luangta.Com - ��ǧ����Һ�� �ҳ����ѹ��


    อ่านธรรมะหลวงตาวันต่อวัน ได้ที่
    Luangta.Com - ��ǧ����Һ�� �ҳ����ѹ��

     
  14. apichaichai

    apichaichai สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +4
    ในช่วงต้นเดือนนี้ก็มีเหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นที่พิษณุโลก บริเวณเต้นท์รถสีหราช คาร์เซ็นเตอร์ ถ.สีหราชเดโชชัย ต.บ้านคลอง อ.เมืองพิษณุโลก ชาวบ้านตำบลบ้านคลองจำนวนมากต่างแห่กันมาดูรอยประหลาด ที่เชื่อกันว่าเป็นรอยพญานาค บนหลังคารถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ สีรอนด์ ทะเบียน กท 4198 พิษณุโลก โดยชาวบ้านต่างวิพากษ์วิจารณ์กันถึงรอยประหลาด ที่ระบุว่าเคยเห็นตามข่าวหนังสือพิมพ์ที่ต่างโจษขานกันว่าเป็นรอยพญา (มติชนออนไลด์ ครับ ค๊อปปี้มาให้อ่าน อิๆๆ)
     
  15. พระไตรภพ

    พระไตรภพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,067
    ค่าพลัง:
    +7,521
    รอยที่เห็นบนรถ ตามที่อาตมาเคยเจอมาไม่ใช่รอยพญานาคแน่ๆ และเคยเห็นรอยแบบนี้อยู่บ่อยๆ เจ้าของรอยที่เคยเห็นก็คือ เจ้าหอยทากชนิดหนึ่ง บ้านอาตมาเรียกหอยเดื่อ มีลักษณะคล้ายๆหอยหอม หรือ หอยภูเขา หอยชนิดนี้เป็นหอยที่อยู่บนบก หากินพวกพืช ตามพื้น เวลามันหากินมันจะค่อยๆกระดื๊บพื้นไปตาม และมันจะปล่อยเมือกออกมาตลอดเวลา เพื่อช่วยหล่อเลี้ยงตัวมันให้ชุ่มชื่น และให้สะดวกในการคืบคลาน มันจะไต่ไปเลื่อยๆตามพื้นบ้าง ตามต้นไม่บ้าง ตามผนังบ้าง ด้วยลักษณะของมันและวิธีหากินของมัน จึงทำให้เกิดเป็นรอยเหมือนในภาพตามข่าว

    ที่วัดอาตมามีเยอะเลยนะ ทั้งรอยและเจ้าของรอย หรือจะเอารอยพวกน้องๆของพญานาคก็ยังมีนะ เช่น งูเห่า งูเหลือม หลาม แมวเซา เป็นต้น แต่รอยงูอาตมาไม่เคยเห็นมันเป็นอย่างที่ในรูปเลย

    แต่เรื่องบั้งไฟพญานาคนั้น เป็นจริง เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นมานานนม ที่มีการกล่าวหาว่าทหารลาวยิงปืนหลอกคนไทย คนไทยโง่แห่ไปดูกันเป็นแสนๆ นับว่าเป็นการกล่าวหาชาวลาวและดูถูกชาวไทยเป็นอย่างยิ่ง

    เขาจะยิงทำไม คิดได้ไงก็ไม่ทราบนะ แถวๆวัดอาตมาก็มี มันพุงขึ้นมาจากดิน บางทีก็เป็นก้อน บางที่ก็เป็นเหมือนพุ สีแดง สีเขียว เป็นเรื่องปกติชาวป่าชาวไร่เขาเห็นกันจนเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว

    แต่ที่แห่ไปดูบั้งไฟพญานาคกันที่แม่น้ำโขงนั้นก็เพราะ บั้งไฟที่นั่นแปลกกว่าที่อื่นๆ คือ แรง ขนาดโตกว่าและมีปรืมาณที่เยอะกว่า สมัยยี่สิบปีก่อน อาตมาพักอยู่ป่าช้าริมฝังแม่น้ำโขง อำเภอโพนพิสัย เห็นมันพุงขึ้นเป็นพันๆลูก แต่ปัจจุบันนี้รู้สึกน้อยลงถนัดตา

    แต่อย่างไรก็สุดแล้วแต่ดุลพินิจของแต่ละท่านที่จะคิดวิเคราะห์กันไปนะ อาตมาเห็นกระทู้เลยเข้ามาแสดงความคิดเห็นตามประสบการณ์ของตนที่เคยเจอมา สาธุขออนุโมทนา
     
  16. เพชรกร

    เพชรกร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +1,254
    แม้ชีวิตข้าจะแตกดับไปข้าก็ไม่ยอมเสียพรหมจรรย์
    <!-- google_ad_section_end -->ขอท่านจงสำเร็จดังหวังครับ
    ขออนุโมทนาในความดีด้วยครับ สาธุ
     
  17. dangcarry

    dangcarry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +4,306
    ฮือฮา แตกตื่นกันอีกแล้ว........
    ถ้ายังเชื่ออะไรง่าย ๆ ไม่มีเหตุ ไม่มีผล
    เขาไปดาวดวงอื่น ๆ กันแล้ว....รู้เปล่า

    :mad:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2010
  18. pat_paradise

    pat_paradise สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    มีความเป็นไปได้อยู่นะคะ
     
  19. คนข้างทาง

    คนข้างทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    216
    ค่าพลัง:
    +392
    ผมว่ารอยพญานาคคงไม่น่าเล็กเท่านี้นะคับ [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...