หลวงปู่เชย อมโร , พระเกจิเมืองจันทร์ , และคณาจารย์สายตะวันออก

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ทุเรียนทอด, 7 ตุลาคม 2010.

  1. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981
    ก็พอจะทราบอยู่บ้างครับถึงการสร้างพระปิดตารุ่นแรก รุ่นนี้หลวงปู่ท่านทำเองทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การทำแม่พิมพ์เอง โดยการที่ท่านเอาพระปิดตาของสำนักอื่น มาถอดพิมพ์กับปูนซีเมนต์ พิมพ์เดียวกัน แต่ถอดได้ประมาณ 3-4 บล็อค จากนั้นก็เอาเนื้อมวลสารต่างๆมาผสมกัน อาทิ เนื้อผงยา ว่านต่างๆที่อยู่บนเขาเจ้าหลาว เช่นว่าน สาวหลง ว่านสบู่เลือด และสารพัดว่าน รวมทั้งผงอิทธิเจที่ท่านเขียน-ลบเองตามสูตร ผงธูป ขุยดินปิดปากรูปู กาฝากมะรุม ผงพระเครื่องที่ชำรุด ฯลฯ จากนั้นเอามาผสมตัวประสานแล้วกดพิมพ์กับมือท่านเองทุกองค์ กดไปก็ภาวนาไปด้วย เริ่มทำตั้งแต่ประมาณปี 2537เป็นต้นมา ทำออกมาหลายครก เนื้อหาจึงต่างกันบ้าง มีทั้งหยาบ และละเอียด พระออกมาจะไม่ค่อยสวย หลวงปู่จึงทาทองเอาไว้ให้แลดูสวยงามขึ้น แต่ต่อมา ลูกศิษย์เลยขออนุญาตปิดทองถวายให้เฉพาะด้านหน้า จำนวนสร้างทั้งหมดประมาณ 800 องค์ ถือเปฯพระที่น่าใช้ขึ้นคอมาก แถมองค์ก็ไม่ใหญ่เกินไปด้วย

    แต่แท้จริงแล้วมีข้อมูลอีกหนึ่งเรื่องถึงการสร้างพระปิดตาของท่าน ซึ่งข้อมูลนี้เป็นเรื่องจริงที่หลายคนไม่รู้ ว่า....นอกจากพระปิดตาดังกล่าวมาแล้วที่ว่าเป็นพระปิดตารุ่นแรกนั้น แท้จริงยังมีพระปิดตาอีกรุ่นนึงที่สร้างก่อนรุ่นแรก อาจจะเรียกได้ว่าเป็น ปิดตารุ่น 0 ก็ว่าได้เนื่องจากสร้างก่อนรุ่นแรกจริงๆ ปิดตารุ่นนี้สร้างไว้ตั้งแต่ประมาณปี 2535 สร้างถวายโดย คุณพรศักดิ์ บ้านอยู่ที่บ้านชำปลาไหล ต.สองพี่น้อง อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี คุณพรศักดิ์ มีความศรัทธาในองค์หลวงปู่เชยมาก เรียกได้ว่าเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดยุคแรกๆเลย และหลวงปู่ท่านก็เมตตามากๆ สมัยนั้นหลวงปู่ยังไม่ค่อยมีชื่อเสียง เวลาหลวงปู่ท่านอาพาธก็ไม่ค่อยมีใครสนใจ ท่านก็ได้แต่อดทนต่อทุกขเวทนา ก็ได้คุณพรศักดิ์นี่แหละพาท่านซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปหาหมอที่ตัวจังหวัด ซึ่งสมัยนั้น ถนนหนทางจะลำบากมาก ไม่มีทางลาดยางเหมือนทุกวันนี้ แถมระยะทางจากอาศรมถึงโรงพยาบาลพระปกเกล้าในตัวจังหวัด ยังไกลกันหลายสิบกิโลเมตร หลวงปู่ท่านถึงรักคุณพรศักดิ์มาก จะให้ทำอะไรท่านก็ทำให้อย่างดี และหลวงปู่ยังถ่ายทอดวิชาลงตะกรุด และวิชาการสร้างพระปิดตาให้อีกด้วย คุณพรศักดิ์ เคยบอกว่าหลวงปู่ท่านชอบพระปิดตามาก แต่ยังไม่เคยจัดสร้าง คุณพรศักดิ์ศักดิ์ ก็เลยขออนุญาตสร้างพระปิดตาถวายหลวงปู่ หลวงปู่ก็เห็นชอบด้วย ส่วนมวลสารที่ใช้สร้างนั้น ก็จะใช้มวลสารของหลวงปู่เป็นหลัก รวมกับมวลสารที่คุณพรศักดิ์ได้เก็บสะสมมา ใช้ยางรักเป็นตัวประสาน(ผงยาคลุกรัก) ส่วนแม่พิมพ์ที่ใช้กดพระนั้น คุณพรศักดิ์ก็จะแกะทำแม่พิมพ์เองทั้งหมด มีทั้งปิดตาพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก พิมพ์พระพุทธ หรือแม้แต่พิมพ์ 2หน้าก็มี แต่จะนวนน้อย(เอาไว้ผมจะลองไปหาตัวอย่างมาลงให้ดู แต่ต้องอดใจรอสักหน่อย เพราะที่ผมมีไม่ครบทุกพิมพ์) จำนวนสร้างทั้งหมดประมาณ 250-300องค์ หลวงปู่เมตตาอธิษฐานจิตให้ที่อาศรมประมาณ 2ปี หลังจากนั้นคุณพรศักดิ์ ก็ถึงแก่กรรม พระที่สร้างเอาไว้จึงตกอยู่กับญาติของคุณพรศักดิ์ และญาติคุณพรศักดิ์ได้ถวายไว้ให้หลวงปู่แจก ประมาณเกือบ 200องค์ ที่เหลือเอากลับ แต่รู้สึกว่า หลวงปู่ไม่ค่อยได้แจกพระชุดนี้ใครเท่าไหร่ อาจเนื่องจากพระชุดนี้ไม่ค่อยสวยงาม เป็นการทำแบบฝีมือชาวบ้านไม่ค่อยได้มาตรฐาน ลักษณะเป็นพระพิมพ์ที่ส่วนใหญ่ไม่ได้ตัดปีก เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง คนจึงไม่ค่อยนิยมแพร่หลาย และสร้างอย่างไม่เป็นทางการ แต่ถ้ามองถึงคุณค่าแล้ว เรียกได้ว่าคุณภาพเกินมาตรฐานเลยทีเดียว เคยเห็นหลงตามแผงพระที่จันทบ้างเล็กน้อย แต่พอหลวงปู่ท่านมรณะภาพลง ก็ไม่ปรากฏว่าพระพิมพ์นี้หลงอยู่ที่อาศรมเลย ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าไปอยู่ที่ไหนหมด




    .
     
  2. The Outsider

    The Outsider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2010
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +311
    ขอบคุณมากครับพี่ทุเรียนทอด เรื่องของหลวงปู่หาอ่านยากมากครับ พี่ครับแล้วพี่มีคาถาอาราธนาพระปิดตา ของหลวงปู่เวลาจะคล้องคอมั้ยครับ
     
  3. The Outsider

    The Outsider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2010
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +311
    ปิดตาหลวงพ่เชยองค์นี้ครับที่ผมคล้องอยู่ แ้ท้มั้ยครับ ผมคล้องคู่กับเหรียญพระอุปคุตครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC01562.JPG
      DSC01562.JPG
      ขนาดไฟล์:
      40.1 KB
      เปิดดู:
      496
    • DSC01563.JPG
      DSC01563.JPG
      ขนาดไฟล์:
      34.2 KB
      เปิดดู:
      299
    • DSC01516.JPG
      DSC01516.JPG
      ขนาดไฟล์:
      49.8 KB
      เปิดดู:
      319
    • DSC01517.JPG
      DSC01517.JPG
      ขนาดไฟล์:
      53.3 KB
      เปิดดู:
      269
  4. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981

    คาถาอาราธนาพระปิดตาของหลวงปู่ท่านผมยังไม่มั่นใจครับว่ามีหรือไม่ แต่เท่าที่เคยถามท่านถึงคาถาอาราธนาพระเครื่องของหลวงปู่ ท่านบอกว่า จะใช้บทไหนก็ได้ หรือไม่มีก็ได้ เพียงแค่ตั้งจิตระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แล้วก็หลวงปู่เชย อมโร ก็พอ ตามแต่จะอธิษฐานเอาครับ ส่วนคาถาที่หลวงปู่ท่านใช้เป็นประจำ เป็นคาถาหัวใจต่างๆ ที่ท่านใช้ลงวัตถุมงคลทุกชนิดของท่าน เราจะเอามาประกอบกับการอาราธนาพระก็ได้ครับ..

    จุ จู จัน จู
    มะกันตังวา
    อาปามะจุปะ
    สุนะโมโล
    นะโมพุทธายะ


    พระปิดตารุ่นแรกของหลวงปู่เชย แท้ครับ เป็นพระชุดที่ไม่ทาทอง สงสัยจะเป็นชุดแรกๆ ยอดเยี่ยมมากครับ สภาพสวยสมบูรณ์มาก น่าใช้จริงๆ

    เอ..เหรียญพระมหาอุปคุตของหลวงปู่พิศดู ธัมมะจารี นี่นา ท่านได้แต่ใดมาครับเนี่ย สุดยอดประสบการณ์ ผมเองก็ใช้ไม่เคยห่างคอเหมือนกันครับ



    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ตุลาคม 2010
  5. The Outsider

    The Outsider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2010
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +311
    ขอบคุณมากครับพี่ทุเรียนทอด เหรียญพระอุปคุตผมไปกราบท่านที่วัดมาครับท่านให้มาพร้อมสร้อยปะคำครับ ท่านเมตตามากๆ ครับ พระปิดตารุ่นแรกของหลวงปู่เชยกับเหรียญพระอุปคุต ผมคล้องกับสร้อยปะคำหลวงปู่พิศดูครับ
     
  6. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981
    ดีครับมีของดีทั้งหมดเลย สร้อยประคำของหลวงปู่พิศดู หลวงปู่ท่านบอกว่า ประคำปราบโรคครับ หรือใช้ภาวนานับประคำทำสมาธิได้ดีมากครับ

    คาถา พระไภษัชยะคุรุพุทธะ
    อาราธนาประคำ (เวลาเกิดโรค)

    นะโมภะคะวะเต ไภษัชยคุรุ ไวฑูรยปะระภา
    ราชายะ ตะถาคะตายะอะระหะเต
    สัมยักสัม พุทธายะ โอมไภเษชะเย ไภเษชะเย ไภเษชะยะ
    สมุระตะเต สมุระคะเต สวาหะยะฯ

    คาถาบทนี้หลวงปู่พิศดูท่านจะใช้สวดให้กับคนที่ป่วยด้วยสรรพโรคต่างๆ ใช้คู่กับพระกริ่ง หรือประคำก็ได้ เป็นมหามงคล และปลอดภัยจากสรรพโรคทั้งหลายดีนักแล


    ส่วนคาถาอาราธนาพระมหาอุปคุต(ตำหรับหลวงปู่พิศดู)

    อุปคุตโต จะมหาเถโร ปิยังมะมะฯ

    คาถาบทนี้ใช้สวดอาราธนาอัญเชิญพระบารมีท่านพระมหาอุปคุต 3 , 7 , 9 , 108 จบ ตามแต่จะอธิษฐานเอา เป็นมหาอุดมโภคทรัพย์ ปราบมารทั้งปวง



    .
     
  7. The Outsider

    The Outsider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2010
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +311
    ยอดเยี่ยมมากครับพี่ ยังรอติดตามอยู่นะครับ ขอบคุณมากครับ
     
  8. Suppasit_S

    Suppasit_S เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,147
    ค่าพลัง:
    +3,869
    ติดตามอยู่นะครับ แต่ผมไม่มีพระของท่านเลย

    คุณทุเรียนทอด ตอนนี้ทราบข่าวหลวงพ่อพิศดู บ้างไหมครับ 2 อาทิตย์ก่อนตั้งใจจะไปกราบท่านแต่ทราบข่าวทีหลังว่าท่านเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ผมไปถึงที่จันทฯแล้ว เลยไม่ได้ไปรบกวนท่านเลย

    ผมแค่ต้องการไปกราบท่านเท่านั้นครับ
     
  9. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981
  10. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981
    ต่อหลวงปู่เชยนะครับ..
    นอกจากหลวงปู่จะมีความเชี่ยวชาญในการทำสมถะกรรมฐาน และวิปัสนากรรมฐานแล้ว ท่านยังศึกษาวิชาต่างๆเอาไว้เยอะมาก โดยเฉพาะวิชาแปลกๆ เคยถามท่านว่า..หลวงปู่ไปศึกษาวิชาที่ไหนบ้าง และเอาเวลาที่ไหนไป ท่านกล่าวว่า....ก็มีบ้างที่เดินทางไปขอศึกษา แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยได้ไปที่ไหนหรอก ก็อาศรัยแลกเปลี่ยนวิชากันพระสหธรรมมิกบางท่าน และก็ศึกษาจากตำหรับตำราเก่าแก่ ที่ท่านครูบาอาจารย์เก่าๆ เก่งๆได้ทิ้งไว้ให้ศิษย์รุ่นหลังสืบทอดต่อ วิชาเก่าแก่ล้วนแต่มีอยู่มากมายหลากหลาย ศึกษาอย่างไรก็ไม่มีวันหมดหรอก วิชานั้นก็มีทั้งดี(ประโยชน์) และไม่ดี(โทษ) สงสัยอันไหนก็ลองทำดูเลย ได้ผลอย่างไรก็รู้ไว้เฉพาะตน ไม่ต้องไปโอ้อวดใคร หากว่าดีก็เอามาสงเคราะห์ญาติโยม ส่วนอันไหนไม่ดีก็ทิ้งไปเลย แต่สิ่งที่เป็นหลักสำคัญของวิชาก็คือพื้นฐานของจิต ก่อนจะเริ่มศึกษาวิชาอะไรก็ควรจะเริ่มฝึกจิตเราก่อน ให้จิตมีสมาธิ ถ้ามีจิตมีสมาธิจะทำอะไรก็ย่อมประสิทธิผลให้เกิดขึ้น แต่พอเราคิดไปคิดมาแล้วเรื่องวิชาดังกล่าวนั้น ศึกษาเท่าไรมันก็ไม่จบ สู้วิชาทางธรรมของพระพุทธเจ้าไม่ได้เลย วิชาทางธรรมคือสุดยอดวิชา หากเราทำได้ถึงที่สุดแล้ว ไม่ว่าวิชาอะไรๆมันก็รวมอยู่ในนี้ทั้งหมด จะทำอะไรมันก็ทำได้ดังใจปราถนา ผลที่ได้รับ ที่สุดแล้วก็คือการไม่ต้องกลับมาเกิดกันอีก( นิพพาน )

    นี่แหละครับสิ่งที่ผมได้เห็นจากหลวงปู่เชยท่านก็คือ ไม่ว่าหลวงปู่จะพูด จะสอนอะไรใคร ท่านมักจะสอดแทรกบทธรรมเอาไว้ด้วยเสมอ เสมือนหนึ่งว่า ท่านคือ องค์อริยะคณาจารย์ผู้มีธรรมทุกลมหายใจเข้าออก

    แลเท่าที่ทราบมาหลวงปู่เชยท่านมีพระสหธรรมมิกหลายท่าน และบางท่านเป็นถึงพระอริยะสงฆ์เนื้อนาบุญ อาทิ หลวงปู่สมชาย ฐิตะวิริโย วัดเขาสุกิม หลวงปู่พิศดู ธัมมะจารี วัดเทพธารทอง หลวงปู่ฟัก สันติธัมโม วัดเขาน้อย(สามผาน) หลวงปู่เปี๊ยก วัดวังเวียน หลวงปู่แช่ม วัดบ่อพุ หลวงปู่ทองหล่อ วัดศรีเมือง...ฯลฯ และหลวงปู่เชย ยังเป็นหลานแท้ๆของ หลวงปู่อินทร์(เทวดา) วัดลาด เจ้าตำหรับลิงอุ้มทรัพย์ และปลัดขลิกเหิน หลวงปู่อินทร์ท่านนี้เป็นพระที่มีกิตติศัพท์เรื่องอิทธิปาฏิหาริย์มากมาย เช่น เดินเท้าจมดินลงไปจนถึงเอวได้ ปลุกเสกลิงอุ้มทัพย์ และปลัดขลิกจนสามารถกระโดดเคลื่อนไหวไปมาได้ราวกับมีชีวิตจริงๆ และหลวงปู่อินทร์ท่านยัง มีพระสหธรรมมิกที่เป็นถึงระดับพระบูรพาจารย์หลายท่าน อาทิ หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดระหารไร่ หลวงปู่กี๋ วัดหูช้าง หลวงปู่อี๋ วัดสัตหีบ เป็นต้น ถ้าหากให้คะเนดู ผมว่าหลวงปู่เชยก็ต้องเคยมาศึกษาวิชาต่างๆและการลงปลัดขลิกจากหลวงปู่อินทร์แน่นอนที่สุด เนื่องจากผมเคยสอบถามจากลุงคนที่เคยเป็นเด็กวัด ชื่อลุงวิทยา และเคยอยู่รับใช้หลวงปู่อินทร์เมื่อสมัยยังดำรงค์ขันธ์อยู่เล่าให้ฟังว่า หลวงปู่เชยเดินทางมาเยี่ยมหลวงปู่อินทร์ที่วัดลาดบ่อย มาแต่ละครั้งก็มานั่งคุยกันที่กุฏินานๆหลายชั่วโมง บางครั้งก็ถึงเย็นก็มี และเคยเอาตำราต่างๆออกมาให้หลวงปู่เชยดูด้วย หลวงปู่อินทร์เคยบอกลุงวิทยาว่า พระองค์ที่มาชื่อเชย เจ้าอาวาสวัดหนองหงษ์ เป็นหลานของท่านเอง ก็แน่นอนที่สุดถึงการสืบสายวิชาของหลวงปู่เชยที่นอกจากจะได้เป็นผู้สืบทอดวิชาการสร้างวัตถุมงคลสายวัดวังเวียนแล้ว ท่านยังเป็นผู้สืบทอดวิชาของสำนักวัดลาด และของหลวงปู่อี๋ วัดสัตหีบอีกด้วย เราะการลงปลัดขลิกนี้ หลวงปู่อินทร์ได้แลกเปลี่ยนวิชากันกับ หลวงปู่อี๋ บางท่านก็บอกว่า หลวงปู่อี๋เคยบอกไว้ว่า หากเรื่องปลัดขลิกนั้นของหลวงปู่อินทร์ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าท่านเลย

    การลงปลัดขลิกของหลวงปู่เชยนั้น บางทีเวลาท่านว่าง หลวงปู่จะเหลาปลัดเอง ฝีมือทำได้ปรานีต เหลาไปภาวนาไป ส่วนใหญ่ทำจากไม้รักแดง ไม้กาฝากมะรุม..ฯลฯ การจารอักขระต้องทำในวันดี เช่นวัน อธิบดี และวันธงชัย(วัตถุมงคลต่างๆก็เช่นกัน) และการปลุกเสกก็ต้องทำตามวันมงคลดังกล่าวด้วย เพื่อให้ของที่ทำเป็นของที่เป็นมงคลสูงสุด และผู้บูชาจะได้เป็นศิริมงคลกับชีวิต และท่านจะปลุกเสกโดยใส่ในบาตร ที่สำคัญต้องปลุกเสกจนกว่าปลัดขลิกเคลื่อนไหวเองได้จึงจะสำเร็จ พอมาระยะหลังมีคนที่ศรัทธาเหลามาถวาย และฝากให้ลง มีทั้งไม้ไผ่ตัน ไม้มะขาม ไม้รักขาว และไม้เบญจพรรณต่างๆ อาจจะทำให้เล่นหายากสักหน่อยเพราะรูปลักษณ์จะแตกต่างกัน แต่ลักษณะการดู ต้องอาศรัยการจดจำอักขระ ลายมือของหลวงปู่เป็นหลัก มีทั้งจารด้วยเหล็กจาร(ในยุคแรก) จารด้วยหมึก และจารด้วยเครื่อง(ยุคหลัง) แต่มีอยู่หนึ่งรุ่นที่เป็นที่นิยมกันอย่างมากของลูกศิษย์ก็คือ ปลัดขลิกไม้รักขาว ที่คณะศิษย์และหลานของหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ เหลามาถวาย สร้างมาประมาณ ร้อยกว่าตัว ศิลปะคล้ายๆกับของหลวงปู่ทิม มีโค๊ดตอกกำกับ



    .
     
  11. wiraj

    wiraj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +1,620
    ผมมีแม่ศรีเป็นเนื้อสีขาวครับ ท่านพอจะให้รายละเอียดได้ไหมครับ

    พระปิดตาของผมเป็นรุ่นแรก ทาทอง แต่เนื้อออกปริๆไปทั่ว มีเนื้อแบบนี้ไหมครับ
     
  12. wiraj

    wiraj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +1,620
    ผมเองคุ้นเคยกับหลวงปู่อินเป็นอย่างดี ในสมัยผมเรียนชั้นประถมที่ท่าใหม่ ป้าผมเป็นเจ้าของร้านทำผมชื่อดังในอำเภอ ทุกครั้งที่ทำบุญจะให้น้าขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านหนองโหยงไปวัดท่านพ่ออินทุกที ทุกเข้าพรรษาจะนำผ้าไตรจีวรไปถวาย ท่านก็บอกว่า เออ..เดี๋ยวลงโบสถ์แล้วจะห่มให้ ได้รับการเป่าหัวจากท่านพ่ออินน่าจะเกือบร้อยครั้งตั้งแต่เล็กจนก่อนเข้าวัยรุ่น ผมมีเหรียญ มีปลัดขิก(เห็นเองเลยว่ากระโดดได้) มีพระปิดตา ล็อคเก็ต ผ้ายันต์ พระปิดตานี่ว่ากันว่ามีหลวงปู่ทิมมาช่วยปลุกเสกด้วย เคารพท่านมากเลยครับ
     
  13. tatty

    tatty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    8,976
    ค่าพลัง:
    +8,226
    หลวงพ่ออิน เทวดาถ้าจำไม่ผิดเคยไปปลุกเสกกริ่งพุทธวิชิตมาร วัดท่าเกวียน ฉะเชิงเทราพร้อมกับหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
    ผมมีเหรียญแบบนี้ที่เขาไม่ค่อยนิยมอยู่เหรียญ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. wiraj

    wiraj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +1,620
    เรียนคุณ tatty เหรียญจะเป็นที่นิยมหรือไม่ ผมว่าไม่สำคัญครับ เหรียญพิมพ์นี้ท่านพ่ออินแจกเองแน่นอน ผมมีอยู่หลายสิบเหรียญเลยครับ ทุกเหรียญรับจากมือท่านทั้งนั้น เรียกว่าไปกราบทีไร ท่านก็แจกเหรียญนี้เป็นหลัก ผมว่าบูชาได้สบายใจเลยนะครับ
     
  15. wiraj

    wiraj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +1,620
    คุณทุเรียนทอดครับ ผมสงสัยนิดหนึ่ง ท่านพ่อจิ่มที่เป็นน้องสุดท้องของหลวงปู่เปี๊ยกนั้น ท่านเกิดเมื่อพ.ศ. 2425 โดยพี่น้องท่านมี 4 คนคือ
    1. หลวงปู่เปี๊ยก เป็นพี่คนโต เป็นเจ้าอาวาสวัดวังเวีน
    2. หลวงปู่ย้อย เป็นพี่คนรอง เป็นเจ้าอาวาสวัดคลองขุด
    3. หลวงปู่เชิด เป็นพี่คนที่3 เป็นเจ้าอาวาสวัดคลองขุด
    4. ท่านพ่อจิ่ม เป็นเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เป็นคนสุดท้อง

    หลวงปู่อินท่านเกิดพ.ศ.2440 หลวงปู่เชยเกิด พ.ศ.2466 ดังนั้น หลวงปู่เชยอ่อนกว่าท่านพ่อจิ่ม 41 ปี และอ่อนกว่าหลวงปู่อิน 26 ปี ท่านเป็นหลานหลวงปู่อิน ดังนั้นท่านก็น่าจะอ่อนกว่าหลวงปู่เปี๊ยกมากกว่า 41 ปีขึ้นไป ผมขออนุญาตถามด้วยความเคารพนะครับว่าท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่เปี๊ยกหรือเปล่า เพราะดูจากอายุแล้วน่าจะเป็นความสัมพันธ์แบบลูกศิษย์อาจารย์นะครับ อันนี้ผมไม่มีข้อมูล เรียนถามด้วยความเคารพจริงๆ หากเป็นเช่นนั้น ก็แสดงว่าหลวงปู่เชยนี่แหละ เป็นสายตรงหนึ่งเดียวของหลวงปู่ผุด วัดวังเวียนในจันทบุรี
     
  16. wiraj

    wiraj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +1,620
    หลวงปู่ผุดวัดวังเวียนแห่งจันทบุรีของเรานั้น ลักษณะพระปิดตาและอายุใกล้เคียงกับหลวงปู่จีน วัดท่าลาดแห่งฉะเชิงเทรา อานุภาพแห่งวิทยาคมของท่านเป็นที่ประจักษ์แม้เวลาผ่านมากว่า 100 ปี ผมเคยสงสัยเหมือนกันว่า แล้วลูกศิษย์ของท่านสืบสายกันไปทางไหน

    มีพระที่ผมนับถือและคุ้นเคยท่านหนึ่งบวชอยู่ที่วัดเขาน้อยสามผาน บ้านท่านไม่ห่างจากวัดวังเวียนมาก วัดเขาน้อยสามผานและวัดวังเวียนนี่อยู่ใกล้กันนะครับ(สำหรับผู้อ่านที่ไม่ได้อยู่ท่าใหม่) ท่านมีตะกรุดของหลวงปู่ผุดอยู่ 2 ดอก ดอกหนึ่งพอกผงยา อีกดอกไม่พอกผงยา
    และมีสีผึ้งสีดำอีกหนึ่งตลับ ตกทอดมาจากปู่ของท่าน สีผึ้งนั้นหมดไปแล้ว ท่านเล่าว่าในสมัยปู่ของท่าน หลวงปู่ผุดจะปิดโบสถ์หรือกุฎิของท่านเวลาท่านเสกวัตถุมงคล เคยมีคนพยายามไปแอบดูก็มองไม่เห็นท่าน แต่ตอนท่านออกมาแล้ว เข้าไปดูในกุฏิหรือโบสถ์ที่ท่านปลุกเสก จะเห็นรอยเลือดหยดอยู่เป็นทาง ต่อมาจึงรู้กันว่าท่านห้อยหัวลงจากเพดานปลุกเสกของ จนเลือดกำเดาไหล แต่เลือดนั้นหยดเป็นทาง แสดงว่าท่านเคลื่อนตัวไปด้วยขณะห้อยหัวลงมาก ก็ไม่รู้ว่าท่านขยับตัวอย่างไรขณะห้อยหัว ยังคงเป็นปริศนาอยู่ถึงทุกวันนี้
     
  17. wiraj

    wiraj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +1,620
    ตระกรุดดอกที่ไม่พอกยาท่านเรียกของท่านว่า หนุมานคลุกฝุ่น เคยมีลูกศิษย์ท่านเป็นวัยรุ่นที่สามผานยืมท่านไปใช้ ข้อบังคับคืออย่าลองของขณะดื่มเหล้า แต่เด็กคนนี้อยากลอง สะพายตระกรุดเสร็จกินเหล้าเลยครับ ขี่มอเตอร์ไซค์ออกมาจากสามผาน ปรากฏมีหมาตัวหนึ่งวิ่งไล่ไม่ยอมเลิก กระโดดงับแขนเลย ทั้งมอเตอร์ไซค์ คน หมา ลากถูลู่ถูกังกันไปจากสามผานเกือบถึงท่าใหม่ เด็กนั่นเพราะฤทธิ์เหล้าก็ไม่ยอมลงจากมอเตอร์ไซค์เหมือนกัน ได้โอกาสลองของเลย กำลังอยากอยู่แล้ว ผลปรากฏว่าเสื้อขาดยับครับ แต่ไม่เข้า ไม่ระคายผิวหนัง

    เด็กนั่นได้ใจ ทีนี้ไปยืมของท่านมาอีก สะพายเสร็จกินเหล้าแล้วเข้าไปอำเภอเมือง ไปมีเรื่องกับวัยรุ่นด้วยกัน โดยเขารุมตีครับ พอล้มลงหลังกระทบพื้นตัวก็เด้งขึ้นมาสู้กับเขาใหม่ เขาตีเขาแทงอย่างไรไม่แตกไม่เข้า เลือดไม่มีออก ล้มลงเด้งขึ้นอยู่อย่างนี้จนเลิกสู้กัน ปรากฏว่าไม่มีเลือด เหนียว แต่กระดูกแตกหมด หามกันกลับมาวัดเขาน้อยสามผาน พระก็ถอดตะกรุดออก ถวายหลวงปู่ฟักวัดเขาน้อยสามผานไว้ เพราะกลัวเด็กนี่เอาไปอีก (เด็กนี่ก็เป็นหลานหลวงปู่ครับ) เมื่อคราวหลวงปู่สร้างวิหารบนเขา ท่านก็เลยเอาตะกรุดบรรจุใส่เจดีย์บนยอดวิหารไปพร้อมกับวัตถุมงคลอื่นๆ ท่านบอกว่าแรงมาก เดี๋ยวคนเอาไปใช้ผิดทาง พระเจ้าของตะกรุดก็เลยเหลือแค่ดอกเดียว ท่านก็คงเสียดายเหมือนกันครับ

    เล่ามาเสียยาว ถือว่าเป็นการแบ่งปันประสบการณ์ของครูบาอาจารย์บ้านเรากันนะครับ ผมดีใจมากที่ทราบว่าหลวงปู่เชยเป็นผู้สืบตำราไว้ เพราะสายหลวงปู่จีน วัดท่าลาด หลวงปู่แก้ว วัดเครือวัลย์นั้น สายตรงที่มีหลักฐานการสืบทอดวิชานั้นหมดไปแล้วนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ตุลาคม 2010
  18. tatty

    tatty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    8,976
    ค่าพลัง:
    +8,226
    ผมว่าคุณทุเีรียนทอด น่าจะเปลี่ยนชื่อกระทู้ เป็น
    "หลวงพ่อเชย วัดจ้าวหลาว และเกจิจันทบุรี" จะได้คุยกันได้กว้างขึ้นนะครับ
    เพราะผมยังอยากรู้จักเกจิจันทบุรีองค์อื่นๆ ด้วยข้อมูลจากคนในพื้นที่อยู่
    อย่างเช่น หลวงพ่อสุ่น วัดปากน้ำแหลมสิงห์ หรือหลวงพ่อใย วัดมะขาม เมื่อก่อนได้ข่าวว่าคนขึ้นมาก ผมไปที่วัดเมื่อ 10 ปีที่แล้ว วัดท่านเงียบมากเลย ทั้งที่อยู่กลางเมือง(กลางอำเภอมะขาม)
     
  19. wiraj

    wiraj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +1,620
    เห็นด้วยนะครับคุณ tatty เดี๋ยวรอท่านเจ้าของกระทู้ก่อน แล้วใครมีข้อมูลอะไรมารวบรวมกันเขียนไว้ จะได้แบ่งปันความรู้กัน ไม่งั้นกระจัดกระจายสูญหายหมด

    คุณ tatty อยู่ชลบุรีได้ไปกราบหลวงปู่เกลี้ยงวัดเนินสุธาวาสบ้างหรือเปล่า ท่านเป็นพระดีน่ากราบไหว้สรรญเสริญนะครับ

    คุณทุเรียนทอด ผมคนท่าใหม่มาอยู่กรุงเทพ กลับบ้านแทบทุกอาทิตย์(ยิ่งช่วงนี้กลับทุกอาทิตย์เพราะไปงานหลวงปู่ฟัก วัดเขาน้อยสามผาน) ผมยังไม่รู้เลยว่าวัดเขาจ้าวหลาวนี่ขึ้นไปทางไหนครับ จากท่าใหม่ ผ่านม.บูรพา ถึงวงเวียนที่มีรูปปลาพยูน แล้วก็ถึงหาด แล้ววัดขึ้นไปทางไหนครับ
     
  20. tatty

    tatty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    8,976
    ค่าพลัง:
    +8,226
    เหมือนบุญไม่ถึงท่านครับ ไปวัดหลายครั้ง เจอคนกีดกันบ้าง(พอดีวันนั้นไปถึง แค่จะเข้าไปกราบหน่อย มีคนมากันบอกว่าท่านจะไปทำบุญบ้านเขา ตอนนี้เลทมากแล้ว ถ้าให้ผมกราบก็จะทำให้ท่านช้าไปอีก ทั้งที่ผมขอแค่กราบถวายเงินท่านแค่นั้น ยังโดนกีดกันจากเจ้าภาพคนนั้นเลย) ท่านไม่ว่างบ้าง หลายๆอย่าง ได้กราบท่านไกลๆ ไม่เคยได้คุยกับท่านเลยครับ
    ฝากท่านๆ สายเมืองจันท์ อย่าลืมประวัติหลวงพ่อเจิม วัดวันยาวล่างอีกองค์ด้วยครับ อยากได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...